ผมพึ่งสมัครใหม่ครับ ซิงๆเลย ดีใจที่เข้ามาในนี้ ปกติจะอ่านอยู่แต่ราชดำเนิน
เริ่มเซ็งครับ เหลืออยู่ฝ่ายเดียว ชงเองตบเอง ไม่มีฝ่ายค้านเลย ไม่เหมือนที่นี่
ฝ่ายค้านทั้งนั้น มีข้อมูลที่น่าสนใจเพียบ ที่ไม่เคยรับรู้ แต่ผมมีข้อไม่เข้าใจอยู่บ้าง
เช่น
1. ...
2. ...
3. ...
4. ...
5. ...
ยินดีครับที่เจอเวปนี้ ที่คนส่วนใหญ่มีหลักการและเหตุผล ซึ่งไม่ค่อยเห็นได้ในเวปคนไม่ชอบทักษิณต่าง
ทำให้ผมได้รับข้อมูลดีๆ อีกหลายอย่างที่ไม่เคยรู้ หรือรู้แต่เพียงข้างเดียว
อีกอย่าง พวกคุณต้องขอบคุณ คุณอยากประหยัด ด้วย เพราะเค้าอุตส่าห์หาข้อมูลมายืนยันกัน ไม่เช่นนั้น
เราก็จะ
ได้รับข้อมูลฝ่ายเดียวอีก ( สู้ ๆ )

สวัสดีครับคุณ mebeam
ผมก็ดีใจนะครับที่คุณ mebeam เข้ามาที่เสรีไทย และมาให้ความเห็นและคำถามในกระทู้นี้
1. การใช้หนี้คืนนี้ มันเป็นวัฐจักรทางเศรษฐกิจเท่านั้นเองหรอครับ นโยบาย
การบริหารการเงินการคลังของแต่ละรัฐบาลไม่สามารถเปลี่ยนแปลง หรือยับยั้ง
สถานการณ์ ทั้งในทางดีขึ้น หรือแย่ลง เลยหรอครับ ถ้ามันมีผลบ้าง เราไม่ถือว่า
มันเป็นผลงานเหรอครับ ไม่ว่าจะเป็นผลงานที่แย่ หรือผลงานการบริหารการเงินที่ดีปัญหาเรื่องนี้อยู่ที่การขี้โม้ยกตัวเองเกินความจริงจนกลายเป็นเทวดาของรัฐบาลทักษิณครับ
ถึงขนาดตีกระแสว่าถ้าไม่ใช่ทักษิณ IMF กลับมาแน่ คือมีแต่ตัวเองเท่านั้นคือทางเลือกเดียว
ลุกลามไปกลายเป็นประโยคที่ว่า "ไม่เอาทักษิณแล้วจะเอาใคร" , "โกงแต่มีผลงาน" ฯลฯ
ประกอบกับการเอาดีเข้าตัว เอาชั่วใส่คนอื่น(แบบเลือกเป้าหมายอีกต่างหาก) ทั้งที่ตัวเอง
และพวกพ้องคืออดีตพรรคความหวังใหม่ก็มีส่วนในช่วง 1 ปีก่อนวิกฤติชัดๆ ถ้าเปรียบเทียบ
ก็ืคือบริหารเรือที่รั่วจนกลายเป็นเรือล่ม พอรัฐบาลชวน2 เข้ามากู้เรือล่มจนสามารถแล่นได้
ก็กลับมาขับเรือเข้าฝั่งแล้วประโคมตัวเองเป็น Hero ที่กอบกู้วิกฤติ ส่วนกัปตันคนก่อนนั้น
ก็ตีข่าวสารพัดว่าฝีมือห่วยพาให้เรือล่ม แล้วแอบอ้างว่าตัวเองเป็นคนกู้เรือที่ล่มขึ้นมากับมือ
(สี่ปีซ่อม สี่ปีสร้าง ไงครับ .. อ้างว่าซ่อมมากับมือ)
บรรดาผู้โดยสารเพิ่งฟื้นจากเมาเรือไม่รู้เรื่อง พอได้ฟังคำโฆษณาตอนเรือเข้าเทียบท่าก็เลย
ชื่นชมหลงไหลเป็นการใหญ่ พาลเกลียดชังกัปตันคนก่อนเกินจริงเข้าไปอีก เรื่องราวมันก็
ประมาณนี้แหละครับคุณ mebeam
2. การที่รัฐบาลคุณทักษิณ มีเงินพอ ใช้หนี้นั้น คือประเด็นหลักที่คุยกันว่าเป็นเพราะ
ฝีมือการบริหารหรือเพราะวัฏจักรทางเศรษฐกิจขาขึ้น และภาวะเงินบาท อย่างที่ข้อมูล
แสดงมา ก็คงจะเถียงกันไม่จบ ดังนั้นขอเป็นฝีมือคุณทักษิณสัก 20 เปอร์เซ็นได้ไหม
ที่ทำให้มีเงินเหลือพอ และไม่ทำให้เศรษฐกิจแย่กว่าเดิมถ้าไม่นับเรื่องค่าเงินบาทที่อ่อน ทักษิณก็แทบโฆษณาอะไรไม่ได้ครับ ถ้าย้อนพิจารณาดู
ตัวเลขทุกตัวล้วนนำเสนอในรูป "เงินบาท" ทั้งนั้น เพราะเอาอัตราแลกเปลี่ยนคูณกับเงิน
ดอลลาร์แล้วมันเติบโตเยอะดี ผมยอมรับทักษิณอย่างเดียวคือทำโฆษณาเก่งจริงๆ ครับ
จับจุดมาใช้นำเสนอได้อย่างยอดเยี่ยม
ถ้าคุณ mebeam มีเวลาผมขอเชิญให้ไปอ่านกระทู้ "ความจริงครึ่งเดียว" แบบรัฐบาลทักษิณฯ
ที่ลิงค์นี้ดู เพื่อประกอบการพิจารณา
http://forum.serithai.net/index.php?topic=10000.0 3. ปลดหนี้ (กฏ ) ก. การที่เจ้าหนี้ยกหนี้ให้แก่ลูกหนี้
อันเป็นเหตุให้หนี้ นั้นเป็นอันระงับสิ้นไป ( ในกรณีนี้คือเอาเงินไปปิดยอดหนี้ )
คุณว่าคุณทักษิณ เขาได้คิด ได้ตรองดูมั๊ยว่า จะทำไงดี เมื่อมีเงินจะทะยอยใช้หนี้ไปเรื่อยๆ
ซึ่งก็จะไม่มีคำว่าปลดหนี้ มีแต่คำว่าใช้หนี้หมดแล้ว หรือจะ เอาเงินในคลัง ที่คุณว่าอาจไปทำประโยชน์ได้
ไปโปะหนี้ดี
แล้วคุณทักษิณก็ตัดสินใจ เอาไปชำระทั้งหมด การเลือกทางนี้หรือทางนั้น การตัดสินใจที่จะเลือกวิธีนี้
ต้องยอมรับผลที่จะตามมา เช่น เงินในคลังอาจไม่พอใช้ ถ้าเกิดเหตุการฉุกเฉิน คนที่ซวยก็คือคุณทักษิณ
ถ้ามีการผิดพลาด
คุณว่าเป็นผลงานของทักษิณมั๊ยเรื่องปลดหนี้ ( ผมว่าถือเป็นผลงานนะ แต่ยังไม่รู้เลยว่ามันเป็นผล
งานที่แย่หรือดี )สำหรับเรื่องนี้คนที่เสนอความคิดขึ้นมาน่าจะมาจากทางฝั่งรัฐบาล แต่คนที่คิดพิจารณาว่าทำได้หรือไม่
คือธนาคารแห่งประเทศไทยครับ เป็นที่มาของการทยอยคืนไม่ได้จ่ายเป็นงวดเดียวตามความคิดแรก
และเหตุผลที่จ่ายหนี้ IMF ก่อนกำหนดก็มีการวิพากษ์วิจารณ์กันพอสมควร โดยที่จริงๆ แล้วก็ประเมินได้ว่า
เป็นการหวังผลทางการโฆษณาอีกเช่นเดียวกัน และผมคิดว่าได้ผลดีมากกับคะแนนเสียงของไทยรักไทย
แต่เหตุผลตามที่รัฐบาลอ้าง เช่น ประกาศอิสรภาพไม่ต้องถูกควบคุม ประหยัดดอกเบี้ย อะไรต่างๆ นั้น
ไม่ใช่จุดประสงค์หลักในการเร่งชำระหนี้ครับ
4. ข้อนี้อ่านดูเห็นว่ามีบางความเห็น เห็นว่าเป็นเรื่องโง่ที่ปลดหนี้ ควรเอาเงินไปทำประโยชน์ที่ดีกว่า
ในทางกลับกัน ถ้าวันนั้นคุณทักษิณไม่ปลดหนี้ แต่เลือกเจรจาขยายเวลาชำระหนี้ ไปชำระหมด ปี 51
จะถือเป็นผลงานที่ดีหรือไม่ เพราะจะได้มีเงินไว้ทำประโยชน์และยังเซพเงินเนื่องจากอัตราค่าเงินอีกต่อหนี้ง
ท่านจะมีความรู้สึกอย่างไรกับการที่ประเทศยังเป็นหนี้ไอเอ็มเอฟอยู่ ( บางคนอาจเฉยๆก็ได้ เพราะถือว่าเป็น
เรื่องไม่ควรมาใส่ใจ หนี้ไอเอ็มเอฟก็คล้ายหนี้เจบิคแหละ )คือผมคิดว่าเรื่องนี้เป็นการหาประเด็นมาใช้เพิ่มคะแนนเสียงเป็นสำคัญครับ เอามาทำโฆษณาอะไรต่างๆ
แต่ในความเป็นจริงเราไม่เป็นหนี้ IMF เราก็ไปเป็นหนี้ที่อื่นต่ออีกอยู่ดี แต่ปัญหาของผมอยู่ที่เดิมครับ
ก็คือมันไม่ใช่ผลงานอะไรที่จะเอามาโฆษณาให้ตัวเองกลายเป็นยอดมนุษย์ได้อย่างที่แฟนๆ ทักษิณ
เขาหลงชื่นชม อ้างถึงมาตลอดเวลาหลายปีถึงขนาดว่าเป็นคน
"กู้ชาติ" 5. ถ้าพ่อผมทำบริษัทเจ๊ง พี่ชายต้องกู้แบงค์เยอะแยะ และเข้ามาบริหารและวางนโยบาย
จนบริษัทเริ่มดีขึ้นมีเงินเหลือพอจ่ายคืน งวด2งวด แล้วมีเหตุให้ผมต้องมาบริหารงานแทนต่อ
และสามารถใช้หนี้จนหมดก่อนกำหนดอีก ผมจะคุยว่าผมเป็นคนบริหารหนี้จนหมดไม่ได้ จะมีคนบอกผม
ว่าการใช้หนี้หมด ไม่เกี่ยวกับผม เป็นวัฏจักร เศรษฐกิจขาขึ้นและ พีชายคุณวางระบบไว้ดี ยังไงหนี้ต้องหมดอยู่แล้ว
ไม่ควรมีใครให้เครดิตผมเรื่องใช้หนี้บริษัทหมดเลยเหรอครับ 
ก็ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ แต่ถ้าหากคุณ mebeam พยายามโฆษณายกย่องตัวเองเป็นยอดมนุษย์
เป็นสุดยอดผู้บริหาร ที่หากไม่มีคุณ mebeam แล้วบริษัทก็จะไม่มีทางใช้หนี้ได้ และยังสร้างข่าวว่า
พี่ชายของคุณ mebeam ฝีมือห่วยไม่เคยมีผลงานอะไรเลย แต่ทำให้บริษัทล่มจมจนคุณ mebeam
ต้องเข้ามากอบกู้ อะไรแบบนี้ก็เกินไปครับ
.. อาจมีคนออกมาตอบโต้ได้ว่าคุณ mebeam ขี้โม้ครับ 