ข่าวหน้า 1
งัดใบเสร็จเลี้ยงกาแฟ 4อดีต ส.ส.ฮึ่ม! 'จาตุรนต์'พูดพล่อยๆ แม่ทัพ3 ตบปากทรท.
19 พฤศจิกายน 2549 กองบรรณาธิการ
"สนธิ" ไม่ยอมให้จบไปดื้อๆ จี้ "จาตุรนต์" แจงกรณีทหารรีดไถ-ข่มขู่ ทหารผิดจริงต้องลงโทษ ด้านแม่ทัพภาคที่ 3 ควันออกหู ฮึ่ม! อย่าพูดกันพล่อยๆ ย้อนกลับใครจะไปกินเงินมัน งัดใบเสร็จค่ากาแฟเลี้ยง 4
อดีต ส.ส.ไทยรักไทยที่มาเคลียร์เรื่องใบปลิวโชว์ ให้รู้มั่งใครเลี้ยงใคร ลั่นเรื่องไม่จบแค่นี้ ตีหัวแล้วหนีเข้าบ้านไม่ได้ เผยไปถามอดีต ส.ส.เชียงราย-เชียงใหม่แล้ว ได้แต่โยนกันไปมา ขณะที่เด็ก ทรท.โต้ ทหารดาวไถมีจริง เบ่งเลยเถิด พรรคพวกมาเล่าให้ฟังอยู่เรื่อย ไล่ไปแก้ปัญหาภาคใต้ดีกว่า อย่ามายุ่งกับอดีต ส.ส.
การออกมาเรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) เข้าไปตรวจสอบทหารที่ไปรีดไถอดีต ส.ส.ไทยรักไทยในภาคเหนือและอีสาน ยังคงเป็นประเด็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง แม้นายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ผู้เปิดประเด็น จะออกมาบอกว่าไม่ต้องการให้ลงโทษใคร และไม่ยอมบอกชื่ออดีต ส.ส.ที่ถูกรีดไถเพียงแต่ขอให้มีการแก้ไขปัญหาก็ตาม
ล่าสุด เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2549 พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะประธาน คมช. กล่าวว่า ได้โทรศัพท์ไปสอบถาม พล.ท.สุเจตน์ วัฒนสุข แม่ทัพภาคที่ 2 และ พล.ท.จิรเดช คชรัตน์ แม่ทัพภาคที่ 3 ถึงกรณีที่นายจาตุรนต์ออกมาระบุ ซึ่งแม่ทัพภาคทั้ง 2 คนยืนยันว่าไม่มีทหารเข้าไปกระทำลักษณะดังกล่าว ดังนั้นอยากให้นายจาตุรนต์ออกมาชี้แจงทำความเข้าใจกับเรื่องดังกล่าวนี้ด้วย ถ้าพบว่ามีทหารคนใดเข้าไปเกี่ยวพันจริงๆ ก็จะถูกลงโทษ
ด้าน พล.ท.จิรเดช ให้สัมภาษณ์ว่า นายจาตุรนต์ก็ไม่กล้าบอกว่าเป็นใคร ซึ่งอดีต ส.ส.เชียงใหม่และเชียงรายก็ร้อนตัวกัน เมื่อตนถามใครก็ต่างบอกว่าเปล่า ก็ไม่มีใครกล้ายืนยันได้สักคน เรื่องนี้เท่าที่รู้มีอดีต ส.ส.เชียงรายมาขอพบนายทหารของกองทัพภาคที่ 3 เพราะอยากมาเคลียร์เรื่องใบปลิว ซึ่งนัดมาหลายครั้ง จึงได้ชวนเพื่อน ส.ส.มาด้วยอีก 2 คน ก็มานั่งกินกาแฟที่เชียงใหม่ฮิลล์ ซึ่งค่ากาแฟทางฝ่ายทหารก็เป็นผู้จ่ายให้ เรามีใบเสร็จยืนยัน"มีอดีต ส.ส.เชียงใหม่ที่เขาว่าเป็นคนให้ข่าวนี้ แต่เมื่อสอบถามไปก็โยนกันไปโยนกันมา จึงต้องหาหลักฐานข้อมูลให้ชัดๆ เพราะทำให้กองทัพเสียหาย มันทำกันลับๆ ล่อๆ แล้วก็ไม่ยอมบอก
พอมีหลักฐานจริงๆ ก็ไม่ยอมบอก อ้างนู่นอ้างนี่ ก็พูดกันพล่อยๆ อย่างนี้ และเรื่องนี้คงไม่จบแค่นี้ ผมจะเอาให้เคลียร์ เพราะมิเช่นนั้นกองทัพเสียหายและคาใจ ดังนั้นต้องดำเนินการกับทุกคน"เมื่อถามว่าได้จับตาอดีต ส.ส.คนไหนเป็นพิเศษหรือไม่ แม่ทัพภาคที่ 3 ตอบว่า มีทั้งอดีต ส.ส.เชียงใหม่และเชียงรายที่โยนกันไปโยนกันมา โดยจะต้องนำมาพบกันให้หมดทั้ง 4 คน แต่ขณะนี้ไปต่างประเทศหนึ่งคน
"เรื่องนี้ต้องเอาให้ชัด จะโยนกันไปโยนกันมาเหมือนกับแกล้งกันไม่ได้ อย่ามาตีหัวแล้วหนีเข้าบ้านไม่ได้" ถามว่ามีการระบุถึงการจ่ายเงินเลี้ยงอาหารด้วย พล.ท.จิรเดชกล่าวว่า ใครจะไปกินของมัน เราก็เลี้ยงมันได้ทั้งหมดเหมือนกัน ถ้ารักกันใครก็เลี้ยงได้ ถ้ามาพูดเรื่องเลี้ยงแบบนี้ชักเลอะกันใหญ่แล้ว เมื่อหาคนไม่ได้ออกมาพูดอ่อย เรื่องแบบนี้ถ้าเป็นจริงก็ต้องระบุออกมาเลยว่าทหารคนนั้นชื่ออะไร ยศอะไร อยู่ที่ไหน เอาหลักฐานมาว่ากันเลย
"พูดกันพล่อยๆ เมื่อหาหลักฐานไม่ได้ก็พูดกัน ฟังจากปาก ส.ส.ในพื้นที่ก็คิดว่าคงจะอย่างนั้น แล้วก็นึกว่าจริง พอดี ส.ส.มันกะล่อนก็นึกว่าจริง แต่พอเราเอาจริงเข้าก็เงียบ เพราะจริงๆ แล้วเราไม่เสียหายอะไร ถ้าหากมีตัวจริงเราก็ต้องจัดการ เพราะทำให้เสียศักดิ์ศรีเมื่อพูดไม่จริง หากเป็นจริงเราก็เสียศักดิ์ศรี เพราะไปเบ่งกินฟรีเราก็ต้องจัดการ พูดออกมาได้อย่างไรเลอะเทอะ"
ซักว่า พล.อ.สนธิสั่งการอย่างไร แม่ทัพภาคที่ 3 ตอบว่า ท่านได้สั่งให้ไปดูว่ามีจริงไหม เป็นอย่างไร ตนก็ดูแล้วดูอีกก็ไม่เห็นมีอะไร จะมีก็แค่อดีต ส.ส.ขอพบและกินกาแฟกันแค่ 4 คน พอดีนายจาตุรนต์เดินทางไปเชียงใหม่ ก็ไปกินต้มเลือดหมูกับอดีต ส.ส. คงจะมีการเล่าให้ฟัง ซึ่งถ้าหากเขาบริสุทธิ์จริงก็สามารถบอกกับประธาน คมช.ได้ หรือถ้าต้องการจะตีกัน ก็เปิดเผยต่อสาธารณชนไปเลยว่าเป็นใคร
เมื่อถามว่านายจาตุรนต์ฟ้องว่าทางทหารไปติดตามอดีต ส.ส.ทำให้เสียอิสระ เป็นเรื่องจริงหรือไม่ พล.ท.จิรเดชชี้แจงว่า เห็นอดีต ส.ส.ก็ออกมาบอกแล้วว่าไม่มีแล้วตอนนี้ จะมีก็ในช่วงแรกๆ ที่ทำปฏิวัติ เพราะเราเป็นห่วงว่ามีการเคลื่อนไหวทำอะไรกันบ้าง ซึ่งก็ไม่ได้ตามประกบแจอะไร แค่ไปดูๆ ว่าทำอะไรกันบ้าง เพราะมีข่าวแจ้งมาว่าทำอะไรเราก็ส่งทหารไปดู คนที่ไม่มีแนวโน้วว่าจะเคลื่อนไหวหรือทำอะไรเราก็ไม่ไปดู คนที่มีแนวโน้มเคลื่อนไหวก็คงอึดอัดเอาเรื่องมาเล่าให้หัวหน้าพรรคฟัง
ถามย้ำว่า จริงหรือไม่ที่จับตาเฉพาะอดีต ส.ส.พรรคไทยรักไทย แม่ทัพภาคที่ 3 ตอบว่า ทุกพรรคถ้าทำอะไรเราก็ไปจับตาดู แต่ก็ไม่เห็นมีอะไร โดยเฉพาะพรรคอื่น
วันเดียวกัน นายสุรชัย เบ้าจรรยา คณะทำงานฝ่ายกฎหมายและการเมือง พรรคไทยรักไทย กล่าวว่า ได้ยินข่าวมาอย่างต่อเนื่อง และอดีต ส.ส.ก็โทรศัพท์มาบ่นให้ฟังบ่อยๆ ว่ามีทหารมาด้อมๆ มองๆ มาขอให้เลี้ยงกาแฟบ้าง เลี้ยงข้าวบ้าง ตามติดตัวตลอด ทำให้รู้สึกอึดอัด ซึ่งก็บอกให้ใจเย็นๆ อย่าไปโวยวายอะไร เดี๋ยวจะเป็นผลเสีย เขาอาจจะมาดีก็ได้ มีอะไรขอให้มาปรึกษากับทางพรรคก่อน
เราเข้าใจว่าอาจจะเป็นหน้าที่ของนายทหารที่ต้องติดตามประกบตัวอดีต ส.ส.ของพรรค ก็ไม่เป็นไร เพียงแต่อย่าไปเบ่งเลยเถิด ต้องเห็นใจอดีต ส.ส.บ้าง เพราะวันนี้ไม่ได้เป็น ส.ส. บางคนก็ไม่มีรายได้อะไร โดยอดีต ส.ส.ที่เจอเรื่องเหล่านี้ก็ระบุว่าพร้อมไปชี้แจงข้อเท็จจริงหากได้รับการติดต่อประสานมาจากฝ่ายทหาร"อยากฝากบอกรัฐมนตรีกลาโหมว่า อย่าระแวงเรื่องคลื่นใต้น้ำ ไม่ต้องมาจับตาอดีต ส.ส.หรือหัวคะแนนเครือข่ายอะไรหรอก เอาเวลาไปดูแลปัญหาภาคใต้ที่วันนี้มันรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ดีกว่า ประชาชนเขากำลังจับตาดูการทำงานของรัฐบาลและ คมช.อยู่ เอาแต่พูดเรื่องคลื่นใต้น้ำ มันไม่มีหรอก ถ้าพูดกันจริงๆ แล้วคนธรรมดาสู้ทหารไม่ได้อยู่แล้ว หนังสติ๊กจะไปสู้ปืนได้อย่างไร จะไม่ทำงานทำการกันเลยหรือ เอาแต่มาเฝ้าดูเรื่องพวกนี้ วันนี้เราก็ไม่รู้จะทำอย่างไรเหมือนกัน" นายสุรชัยกล่าว
ด้านนายจตุพร พรหมพันธุ์ รองโฆษกพรรคไทยรักไทย กล่าวถึงกรณีที่นายไทกร พลสุวรรณ ผู้ประสานงานกลุ่มอีสานกู้ชาติระบุว่ามีขบวนการคลื่นใต้น้ำจากพรรคไทยรักไทย มีการจ่ายเงิน 28 ล้านบาทให้กับอดีต ส.ส.ของพรรคหลายพื้นที่ในภาคเหนือและอีสานเพื่อให้เตรียมเคลื่อนไหวว่า การออกมาพูดของนายไทกรเป็นพฤติกรรมของเด็กเลี้ยงแกะ ต้องการสอพลอผู้มีอำนาจในบ้านเมืองขณะนี้ ยืนยันว่าพรรคไม่เคยคิดมีพฤติกรรมดังกล่าว ไม่มีการจ่ายเงินรวมทั้งการจัดตั้งคลื่นใต้น้ำอย่างแน่นอน
เขาบอกว่าหากมีข้อมูลจริงขอเรียกร้องให้เปิดชื่อจริงมาเลย ไม่ต้องใช้อักษรย่อ พร้อมทั้งระบุวันเวลาการรับเงินว่าเป็นที่ไหน อย่างไรมาด้วย เพื่อให้ประชาชนตัดสิน โดยขณะนี้คณะทำงานฝ่ายกฎหมายของพรรคกำลังเตรียมฟ้องร้องดำเนินคดีกับนายไทกรในประเด็นนี้ เพราะสร้างความเสียหายกับพรรคอย่างมาก
ส่วนกรณีที่ นพ.วิชัย ชัยจิตวณิชกุล อดีต ส.ส.อุดรธานี พรรคไทยรักไทย ออกมาพูดว่าไม่มีเหตุการณ์ข่มขู่อดีต ส.ส.จากฝ่ายทหารในจังหวัดอุดรธานีนั้น รองโฆษกพรรคไทยรักไทยแย้งว่า นายจาตุรนต์ไม่เคยระบุว่า จ.อุดรธานีมีการคุกคามอดีต ส.ส. แต่ระบุภาพรวมว่าเกิดขึ้นในพื้นที่ภาคเหนือและอีสานบางพื้นที่ นพ.วิชัยคงฟังไม่ได้ศัพท์จับไปกระเดียด ยืนยันว่าทางพรรคมีพยานหลักฐานเรื่องนี้จริง หากทางรัฐบาลและ คมช.ต้องการทราบก็พร้อมจะไปให้ข้อมูลเสมอสำหรับอดีต ส.ส.เชียงรายของพรรคไทยรักไทยมีทั้งสิ้น 8 คน ประกอบด้วย 1.นายสามารถ แก้วมีชัย 2.นายสฤษฏ์ อึ้งอภินันท์ 3.นายสุรสิทธิ์ เจียมวิจักษณ์ 4.นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ 5.นายสมบูรณ์ วันไชยธนวงศ์ 6.นางละออง ติยะไพรัช 7.นายอิทธิเดช แก้วหลวง และ 8.นายบัวสอน ประชามอญ ส่วนอดีต ส.ส.เชียงใหม่มีทั้งสิ้น 10 คน มี 1.นายปกรณ์ บูรณุปกรณ์ 2.นายพายัพ ชินวัตร 3.นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ 4.นายวิทยา ทรงคำ 5.นายพรชัย อรรถปรียางกูร 6.นพคุณ รัฐผไท 7.นายสุรพล เกียรติไชยากร 8.นางผณินทรา ภัคเกษม 9.นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ และ 10.นายสันติ ตันสุหัช
ด้านความเคลื่อนไหวของนักการเมือง โดยเฉพาะกลุ่มก๊วนที่แยกตัวออกมาจากพรรคไทยรักไทย ภายหลังจากที่มีการผ่อนคลายกฎการห้ามชุมนุมเกิน 5 คนของ คปค. ทำให้นักการเมืองเริ่มขยับตัวเคลื่อนไหวกันได้มากขึ้นนั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเย็นวันจันทร์ที่ 20 พฤศจิกายนนี้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำกลุ่มวังน้ำยม ได้นัดเลี้ยงอาหารเย็นสมาชิกในกลุ่มที่บ้านพักย่านสนามบินน้ำ โดยจะพูดคุยถึงประเด็นทางการเมือง โดยเฉพาะเรื่องแนวทางการตั้งพรรคการเมืองใหม่
การหารือครั้งนี้จะมีนายสุชาติ ตันเจริญ นายสรอรรถ กลิ่นประทุม รวมทั้งนายสมชาย สุนทรวัฒน์ แกนนำกลุ่มต่างๆ ที่เป็นอดีตสมาชิกพรรคไทยรักไทย พร้อมทั้งสมาชิกในสังกัดเดินทางมาหารือ ที่สำคัญได้มีการเชิญนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกฯ ที่ทางกลุ่มวังน้ำยมพยายามทาบทามให้มาเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองใหม่เข้าร่วมพูดคุยด้วย.
เรื่องนี้ จะเงียบไปหรือไม่.....
อดีต สส.ทรท.ใหญ่คับฟ้า จะเงียบเฉยเป็นพลเมืองชั้น 2 หรือไม่