ใบไม้ทะเล
|
|
« เมื่อ: 18-11-2006, 18:53 » |
|
เมื่ออาทิตย์ก่อนที่เวบรุ่น มีกระทู้เชียนถามเกี่ยวกับเพื่อนๆที่แต่งงานไปแล้ว ว่าชีวิตหลังการแต่งงานกับก่อนการแต่งงานนั้นแตกต่างกันมากไหม แต่ที่อนาสังเกตจากคำบอกเล่าของเพื่อนที่แต่งไปแล้ว คนที่เพิ่งแต่งไปก็โอเคนะ แต่คนที่แต่งไปมากกว่าสามปี รวมถึงรุ่นพี่ที่มาแจมในกระทู้ คำบอกเล่าถึงจะมีทั้งข้อดีข้อเสีย แต่อ่านละเอียดๆๆดูแล้วเหมือนจะ unhappy > มากกว่า happy ซะอีก ไม่ว่าการที่เราต้องยอมรับอะไรหลายๆๆอย่าง ความรับผิดชอบที่ตามมา สถานะการเป็นผู้หญิงหลังแต่งงาน ที่อ่านเท่าไรก็ตามจะไม่มีข้อดีเอาเสียเลย วันนี้จึงไปค้นชีวิตเรื่องการแต่งงาน มาฝากสำหรับสาวโสด และไม่โสดทั้งหลายว่า มันมีข้อเท็จจริงประการได ชี้แนะด้วยนะค่ะ > มีโอกาสที่จะแยกทางกันสูง"คุณมีอะไรหลายอย่างเปลี่ยนแปลงในช่วงวัย 20 ปีขึ้นไป" ดร.เจนน์ เบอร์แมน จิตแพทย์บำบัดในเบเวอร์รี่ฮิลล์ อธิบาย "ดังนั้นหากว่าคุณรอจนถึงช่วง 20 ปลายๆ คุณได้ผ่านพ้นหลายๆ อย่างที่ไม่ดีมาแล้ว ดังนั้นมันก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับชีวิตคู่ของคุณ > คุณไม่รู้ว่าคุณต้องการอะไรจากการมีชีวิตคู่"จากการที่ได้ออกเดตบ่อยๆ ในชีวิตคุณได้เรียนรู้ว่าคนชนิดไหนที่จะสามารถดึงสิ่งที่ดีที่สุดจากตัวคุณออกมาได้" เบอร์แมนบอก เพราะฉะนั้น พอมาถึงช่วงอายุ 20 ปลายๆ เราจะสามารถรู้ได้ว่าอะไรที่คุณพอรับได้ในคู่ชีวิต และอะไรที่คุณไม่อยากรับ" > คุณจะทุ่มเทตัวเองให้เรื่องงานไม่ได้โดยทั่วไปแล้วเพื่อนๆ ที่ทำงานของคุณจะมุ่งมั่นอยู่กับงาน แต่คู่แต่งงานที่ยังอยู่ในวัยหนุ่มสาวนั้น จำต้องตระหนักถึงความต้องการของอีกฝ่ายหนึ่งด้วย "ทั้งสองจำต้องมีการเสียสละในเรื่องของงาน ในขณะที่เขาควรจะต้องแข็งขันกับมัน" เบอร์แมนบอก > คุณข้ามขั้นตอนของความสนุกสนานสุดเหวี่ยงเหตุผลหนึ่งที่ผู้ชำนาญการเชื่อว่าคุณจะพร้อมที่จะแต่งงานในช่วง 20 ปลายๆ เพราะว่าคุณผ่านชีวิตรักสนุกมามากแล้ว "คุณจะเห็นว่าชีวิตโสดนั้นไม่สนุกอีกต่อไปแล้ว ดังนั้นคุณจะก้าวต่อไปข้างหน้า ในการมีชีวิตคู่แบบไม่ต้องหันกลับมาเสียดาย" เบอร์แมนสรุป ใครที่จะแลกชีวิตโสดด้วยการแต่งงาน และคิดว่ามันเป็นชีวิตที่ท้าทาย ลองคิดใหม่ให้ดีๆ นะคะ มิเช่นนั้นคุณอาจจะกลายเป็นม่ายก่อนวัยอันควรก็ได้ ขอขอบคุณข้อมูล จาก ไทยโพสต์ แต่ในมุมมองของอนา คือว่า การแต่งงานไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุดของชีวิตคู่
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
立てばしゃくやく、座ればぼたん、歩く姿はゆりの花
|
|
|
รวงข้าวล้อลม
|
|
« ตอบ #1 เมื่อ: 18-11-2006, 19:08 » |
|
น้องใบไม้คะ พี่มองอย่างงี้นะ----
---อย่าไขว่คว้าถามหาหรือดั้นด้นค้นหาการแต่งงานไปเลย
---จังหวะ โอกาส ความเหมาะสม ความลงตัว ความพอดี
มันจะเป็นสรุปให้มีการแต่งงานเองล่ะน้อง-----
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
THE THIRD WAY
|
|
« ตอบ #2 เมื่อ: 18-11-2006, 19:28 » |
|
=====แต่งงานเร็ว..ใช่ว่าจะดี=====
แล้วจะให้รอ ไปถึงไหนฤา
[/glow][/color]
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ความรักนั้นหวาน ไม่ว่าจะรับหรือให้ ************************ การขับไล่ทรราช เป็นภารกิจของเจ้าของประเทศ
|
|
|
ใบไม้ทะเล
|
|
« ตอบ #3 เมื่อ: 18-11-2006, 19:32 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
立てばしゃくやく、座ればぼたん、歩く姿はゆりの花
|
|
|
ไทมุง
|
|
« ตอบ #4 เมื่อ: 18-11-2006, 20:31 » |
|
ตอนนี้ชอบทำงานมากกว่า หนุกดี
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
********Q********
|
|
« ตอบ #5 เมื่อ: 18-11-2006, 20:44 » |
|
ถ้าไม่อยากแต่งงาน ก็ต้องคุมกำเนิดให้ดี แนะนำท่านชายด้วยครับ
อย่ามีลูกนอกสมรส เพราะเด็กจะลำบาก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ใบไม้ทะเล
|
|
« ตอบ #6 เมื่อ: 19-11-2006, 11:46 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
立てばしゃくやく、座ればぼたん、歩く姿はゆりの花
|
|
|
ไทมุง
|
|
« ตอบ #7 เมื่อ: 19-11-2006, 11:48 » |
|
ถ้าไม่อยากแต่งงาน ก็ต้องคุมกำเนิดให้ดี แนะนำท่านชายด้วยครับ
อย่ามีลูกนอกสมรส เพราะเด็กจะลำบาก
รับทราบ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ใบไม้ทะเล
|
|
« ตอบ #8 เมื่อ: 19-11-2006, 11:55 » |
|
หนูว่า ถ้าเรามีลูกนอกสมรสอ่ะ ดีนะค่ะ ถ้าเราสามารถ เลี้ยงเขาได้ โดยไม่ต้องเดือดร้อนใคร
ลูกเป็นของเราคนเดียวอีกตะหาก ฮี่ๆๆๆ
สังคมทุกวันนี้แทบจะไม่แคร์หรอก ขอแค่เขาเกิดมาเป็นคนดีของสังคมก็พอแล้ว ลูกคนเดียวอ่ะเลี้ยงได้ ดีกว่าเลี้ยงพ่อของลูกเป็นไหนๆๆๆ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
立てばしゃくやく、座ればぼたん、歩く姿はゆりの花
|
|
|
|
Sky
|
|
« ตอบ #10 เมื่อ: 19-11-2006, 12:41 » |
|
หนูว่า ถ้าเรามีลูกนอกสมรสอ่ะ ดีนะค่ะ ถ้าเราสามารถ เลี้ยงเขาได้ โดยไม่ต้องเดือดร้อนใคร
ลูกเป็นของเราคนเดียวอีกตะหาก ฮี่ๆๆๆ
สังคมทุกวันนี้แทบจะไม่แคร์หรอก ขอแค่เขาเกิดมาเป็นคนดีของสังคมก็พอแล้ว ลูกคนเดียวอ่ะเลี้ยงได้ ดีกว่าเลี้ยงพ่อของลูกเป็นไหนๆๆๆ คิดแปลกดีนะ ....
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ใบไม้ทะเล
|
|
« ตอบ #11 เมื่อ: 19-11-2006, 12:53 » |
|
ขอโทษนะค่ะ ก็ผู้ชายปัจจุบันนี้ ทำให้อนาคิดแบบนี้จริงๆๆค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
立てばしゃくやく、座ればぼたん、歩く姿はゆりの花
|
|
|
|
ใบไม้ทะเล
|
|
« ตอบ #13 เมื่อ: 19-11-2006, 13:06 » |
|
รักแท้ไม่มีในโลก
มีแค่ความผูกพันธ์ ที่ทำให้คนสองคนแยกจากกันยากเท่านั้น
กับความรู้สึกผิดชอบชั่วดี เท่านั้นค่ะ
อย่าลืมว่า Nothing forever :
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
立てばしゃくやく、座ればぼたん、歩く姿はゆりの花
|
|
|
Sky
|
|
« ตอบ #14 เมื่อ: 19-11-2006, 13:08 » |
|
ขอโทษนะค่ะ ก็ผู้ชายปัจจุบันนี้ ทำให้อนาคิดแบบนี้จริงๆๆค่ะ แปลก...ทำไมถึงคิดไม่เหมือนชาวบ้านชาวช่อง... การมีชีวิตคู่ มันเป็นสิ่งที่ดี ทำให้คนเราเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น มีความรับผิดชอบมากขึ้น รู้จักการให้ การเสียสละชีวิตส่วนตัว ไปแชร์กับคนอื่น ก็แล้วแต่ ... คนเราก็มีสิทธิ์คิดและทำได้ หากไม่ทำความเดือนร้อนให้กับใคร แปลกประหลาดดีวุ๊ย...
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Can ไทเมือง
|
|
« ตอบ #15 เมื่อ: 19-11-2006, 13:10 » |
|
อืมม...ผมกะว่า ครบ 64 ปี เมื่อไหร่คงเป็นฝั่งเป็นฝากับเค้าซักที
แต่สงสัยเป็นฝาโลงหรือเปล่าไม่รู้ อีก ไม่กี่ปีเอง...
When I'm Sixty Four (64)
~ The Beatles
When I get older losing my hair, Many years from now. Will you still be sending me a valentine Birthday greetings bottle of wine.
If I'd been out till quarter to three Would you lock the door, Will you still need me, will you still feed me, When I'm sixty-four.
You'll be older too, And if you say the word, I could stay with you.
I could be handy, mending a fuse When your lights have gone. You can knit a sweater by the fireside Sunday mornings go for a ride,
Doing the garden, digging the weeds, Who could ask for more. Will you still need me, will you still feed me, When I'm sixty-four.
Every summer we can rent a cottage, In the Isle of Wight, if it's not too dear We shall scrimp and save Grandchildren on your knee Vera ,Chuck & Dave
Send me a postcard, drop me a line, Stating point of view Indicate precisely what you mean to say Yours sincerely, wasting away
Give me your answer, fill in a form Mine for evermore Will you still need me, will you still feed me, When I'm sixty-four.
http://www.links2love.com/love_lyrics_125.htm
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ใบไม้ทะเล
|
|
« ตอบ #16 เมื่อ: 19-11-2006, 13:14 » |
|
โอ การโตเป็นผู้ใหญ่นี้ มันต้องโตด้วยการแต่งงานเหรอค่ะ แปลกประหลายดดีแท้ การแบ่งปันความรัก เราก็ทำได้ โดยที่เราไม่จำเป็นจ้องแบ่งปันตอนเราแต่งงานแล้วนี้ค่ะ หรือว่า........ คนบางคนอาจจะมีความรัก แต่ปราศจากการแต่งงาน การแต่งงานไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่างของชีวิตค่ะ ในชีวิตของเรายังมีอะไรที่สำคัญมากกว่าการแต่งงาน เลือกทางเดินที่เหมาะกับเราน่าจะดีกว่าเลือกทางเดินที่คนส่วนใหญ่เขาคิดกันนะค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
立てばしゃくやく、座ればぼたん、歩く姿はゆりの花
|
|
|
Can ไทเมือง
|
|
« ตอบ #17 เมื่อ: 19-11-2006, 13:23 » |
|
อนาเชื่อมั๊ย แฟนเก่าลุง ขอมีลูกอย่างเดียว ไม่แต่ง
แต่ไม่ใช่กับลุงนะ ( ฮ่า ฉ่า ) เค้ามาเล่าให้ฟังซัก 25 ปีที่แล้ว
เธอเปรี้ยวมาก ทำงานมีรายได้ดี เคยแต่งงาน 1 ครั้งแล้วเลิกกัน
เธอไปคบนักเรียนนายร้อยสามพราน เพื่อมีลูก แล้วตีจากอย่างเดียว อิ อิ
ตอนนี้ลูกสาวน่ารักคง อยู่ระหว่าง 23-24 ปี...น่าจะทำงานแล้ว ไม่ได้ติดต่อกันหลายปี
ครอบครัวนี้ เค้ามี แม่ 1 ลูกสาว 1
สรุปว่าทั้งบ้าน ผู้หญิงหมดเลย....
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
ใบไม้ทะเล
|
|
« ตอบ #19 เมื่อ: 19-11-2006, 13:31 » |
|
หนูเชื่อค่ะลุงแคน ว่ามีผู้หญิงคิดอย่างงั้นจริงๆๆ
ไม่ใช่อนาคิดประหลาดอยุ่คนเดียว แต่บางครั้ง หนูว่าความรักของคนเราไม่ยืนยาว เท่าความรักจากสายสะดือ ที่มันมั่นคงถาวร...........
ไม่แปลกค่ะ ถ้าเธอจะคิดเช่นนั้น คืออนาคิดเล่นๆๆตอนนี้นะค่ะ อนาคตอาจจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงก็ได้ หนุว่าเลี้ยงดูลูกมันง่ายกว่าเราไปดูแลสามี ที่ไม่รุ้ว่า เมื่อไรจะเลิกรักเรา หรือทิ้งเรา..............
ไม่ใช่มองโลกในแง่ร้ายนะค่ะ แต่เห็นความรักของคนรอบข้าง แบบ แกล้งรักกันหวานหยดย้อยต่อหน้า สาธารณชน แต่เบื้องหลังอีกอย่าง นี้เป็นเคสหนึ่ง
แต่บางคนที่มีความรักมั่นคงถาวร อนาก็ดีใจและยินดีด้วยค่ะ ถ้าเป้นรุ่นคุณพ่อคุณแม่ อนาเชื่อนะค่ะ ว่าพวกท่านมีความรากความผูกพันะกันถึงตอนนี้ แต่ถ้าเป็นสังคมปัจจุบันที่ต้องแข่งขัน กระเสือกกระสนตามเทคโลโลยีที่ก้าวอย่างไม่หยุดยั้ง ทำให้คนสมัยนี้หาความอ่อนโยนแทบไมได้เลย
นับประสาอะไรกับการเข้าใจในความรักที่ละเอียดอ่อนอ่อน มันจะหามีได้สักคน...........
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
立てばしゃくやく、座ればぼたん、歩く姿はゆりの花
|
|
|
Sky
|
|
« ตอบ #20 เมื่อ: 19-11-2006, 13:32 » |
|
โอ การโตเป็นผู้ใหญ่นี้ มันต้องโตด้วยการแต่งงานเหรอค่ะ แปลกประหลายดดีแท้ การแบ่งปันความรัก เราก็ทำได้ โดยที่เราไม่จำเป็นจ้องแบ่งปันตอนเราแต่งงานแล้วนี้ค่ะ หรือว่า........ คนบางคนอาจจะมีความรัก แต่ปราศจากการแต่งงาน การแต่งงานไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่างของชีวิตค่ะ ในชีวิตของเรายังมีอะไรที่สำคัญมากกว่าการแต่งงาน เลือกทางเดินที่เหมาะกับเราน่าจะดีกว่าเลือกทางเดินที่คนส่วนใหญ่เขาคิดกันนะค่ะ อืมม์ ... มีคำพูดโบราณอยู่คำหนึ่ง คำว่า " แม้แต่หมาก็ยังไม่ได้เลียใบตอง" คำนี้ เคยมีคนพูด แล้วผมยังจำได้ดี คนมีลูกสาว แต่ลูกสาว มีท้อง หาพ่อให้เด็กไม่ได้ และคลอดลูกออกมา ไม่มีการจัดงานแต่งงาน แต่ลูกสาวท้อง และหาพ่อให้เด็กไม่ได้ เขาเรียกว่า แม้แต่หมาก็ยังไม่ได้เลียใบตอง เลียใบตอง หมายถึง พวกขนมที่เอามาเข้าพิธีแต่งงานอ่ะครับ เขาจะใช้ใบตองห่อ ในอดีต หมาก็จะได้มากินขนมที่ติดกับใบตอง คนที่ถูกแซว เขาก็คงเสียใจมาก ที่ลูกสาวไม่รักษาหน้าของพ่อแม่ เพื่อนผู้หญิงของผม ส่วนมาก มักจะมีคำพูดหนึ่งที่ติดปาก เขามักจะบอกเพื่อน ๆ ผู้ชายว่า เขาไม่ต้องการให้แม่เสียใจ หากจะทำอะไรก็ตาม เขาต้องรักษาหน้าตาของพ่อแม่ หากจะทำอะไรที่ผิดจารีตและประเพณี คุณใบไม้ทะเล เป็นคนที่แปลกดีครับ ที่คิดแบบนี้ ไม่ได้ผิดอะไร คุณสามารถคิดได้และสามารถทำได้ครับ
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-11-2006, 13:48 โดย Sky »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ใบไม้ทะเล
|
|
« ตอบ #21 เมื่อ: 19-11-2006, 13:38 » |
|
ถ้าเป็นกรณี ที่ต้องนึกถึงหน้าตาพ่อกับแม่มันอีกเคสหนึ่งนะค่ะ พี่สกาย แน่นอน เรามีคนที่เรารักและอยากเห็นเราประสบความสำเร็จมากมาย............ แต่บางครั้งเราก็ให้ท่านไม่ได้หมดหรอกค่ะ หนุอาจจะไม่ตอบแทนท่านด้วยการแต่งงาน แต่อาจจะตอบแทนด้วยหน้าที่การงาน แต่งไปแล้วหย่านี้ ดิฉันมั่นใจว่าท่านคงให้ดิฉันเลือกเป็นโสดมากกว่าค่ะ หรือไม่ ท่านคงไม่บีบบังคับลูกสาวให้แบบคลุมถุงชนมั่ง อย่าลืมคำว่า หย่า คือ future tense ของคำว่าแต่งงาน นะค่ะ
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-11-2006, 13:40 โดย ใบไม้ทะเล »
|
บันทึกการเข้า
|
立てばしゃくやく、座ればぼたん、歩く姿はゆりの花
|
|
|
Sky
|
|
« ตอบ #22 เมื่อ: 19-11-2006, 13:40 » |
|
หนูเชื่อค่ะลุงแคน ว่ามีผู้หญิงคิดอย่างงั้นจริงๆๆ
ไม่ใช่อนาคิดประหลาดอยุ่คนเดียว แต่บางครั้ง หนูว่าความรักของคนเราไม่ยืนยาว เท่าความรักจากสายสะดือ ที่มันมั่นคงถาวร...........
ไม่แปลกค่ะ ถ้าเธอจะคิดเช่นนั้น คืออนาคิดเล่นๆๆตอนนี้นะค่ะ อนาคตอาจจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงก็ได้ หนุว่าเลี้ยงดูลูกมันง่ายกว่าเราไปดูแลสามี ที่ไม่รุ้ว่า เมื่อไรจะเลิกรักเรา หรือทิ้งเรา..............
ไม่ใช่มองโลกในแง่ร้ายนะค่ะ แต่เห็นความรักของคนรอบข้าง แบบ แกล้งรักกันหวานหยดย้อยต่อหน้า สาธารณชน แต่เบื้องหลังอีกอย่าง นี้เป็นเคสหนึ่ง
แต่บางคนที่มีความรักมั่นคงถาวร อนาก็ดีใจและยินดีด้วยค่ะ ถ้าเป้นรุ่นคุณพ่อคุณแม่ อนาเชื่อนะค่ะ ว่าพวกท่านมีความรากความผูกพันะกันถึงตอนนี้ แต่ถ้าเป็นสังคมปัจจุบันที่ต้องแข่งขัน กระเสือกกระสนตามเทคโลโลยีที่ก้าวอย่างไม่หยุดยั้ง ทำให้คนสมัยนี้หาความอ่อนโยนแทบไมได้เลย
นับประสาอะไรกับการเข้าใจในความรักที่ละเอียดอ่อนอ่อน มันจะหามีได้สักคน...........
ลูกบางคนก็เลี้ยงได้แต่ตัว แต่จะไปบังคับ หรือจะให้เป็นเหมือนอย่างใจที่เราต้องการมันก็ยาก อาจารย์บางท่านเป็นวิศวะ มีต้องการให้ลูกเรียนจบวิศวะ แต่ลูกดันอยากจะเป็นนักโภชนาการก็มี ดูแต่ เวลาที่เราบังคับตัวเอง เราต้องอ่านหนังสือ เราเองก็ยังขี้เกียจ แกล้งไม่อ่านก็มี หรือเราสัญญาตัวเองว่า ก่อนนอนต้องอาบน้ำทุกวัน บางวันกลับมา ก็ไม่ยอมอาบ หลอกตัวเองว่าน้ำมันเย็นมาก อาบแล้วไม่ดีต่อสุขภาพ ขนาดตัวเราเองยังบังคับตัวเราไม่ได้ แล้วคิดเหรอลูกจะเป็นเหมือนที่เราคาดหวัง เวลาที่ลูกเติบโตเป็นวัยรุ่น ลูกมีแฟน ก็เปลี่ยนไปรักแฟนแทนพ่อแม่แล้วมั่ง คิดอะไร ก็จะห่วงแต่แฟน .. ประมาณนั้น
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ใบไม้ทะเล
|
|
« ตอบ #23 เมื่อ: 19-11-2006, 13:43 » |
|
หนูหมายความว่า ความรักที่แม่ให้ลูกนั้น ไม่ต้องการอะไรตอบแทนหรอก ทุกวันนี้ทุกคนที่เลี้ยงลูกได้ ต้องนึกอยู่แล้ว ว่าเลี้ยงได้แต่ตัว แต่ใจเลี้ยงไม่ได้ เข้าใจไหมค่ะ นี้คือความรักที่บริสุทธ แท้จริง ไม่ใช่ความรักทีหลอกตัวเอง...........แบบที่มนุษย์หลอกกันเองในปัจจุบัน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
立てばしゃくやく、座ればぼたん、歩く姿はゆりの花
|
|
|
Sky
|
|
« ตอบ #24 เมื่อ: 19-11-2006, 13:46 » |
|
ถ้าเป็นกรณี ที่ต้องนึกถึงหน้าตาพ่อกับแม่มันอีกเคสหนึ่งนะค่ะ พี่สกาย แน่นอน เรามีคนที่เรารักและอยากเห็นเราประสบความสำเร็จมากมาย............ แต่บางครั้งเราก็ให้ท่านไม่ได้หมดหรอกค่ะ หนุอาจจะไม่ตอบแทนท่านด้วยการแต่งงาน แต่อาจจะตอบแทนด้วยหน้าที่การงาน แต่งไปแล้วหย่านี้ ดิฉันมั่นใจว่าท่านคงให้ดิฉันเลือกเป็นโสดมากกว่าค่ะ หรือไม่ ท่านคงไม่บีบบังคับลูกสาวให้แบบคลุมถุงชนมั่ง อย่าลืมคำว่า หย่า คือ future tense ของคำว่าแต่งงาน นะค่ะ อืมม์.." มีลูกผู้หญิง เหมือนมีส้วม ตั้งอยู่หน้าบ้านจริง ๆ" ผมทราบดี หากผมโพสคำนี้ออกไป ผมเละแน่...แต่ก็จะโพส... การมีลูกผู้หญิง เหมื่อนมีส้วมตั้งไว้หน้าบ้าน คนผ่านไปมาก็จะมาถ่ายในส้วม ส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยรักษาความสะอาด กลิ่นก็จะเหม็น อยู่หน้าบ้าน" ดังนั้น เจ้าของบ้านมักจะต้องเหน็ดเหนื่อยมาขัดล้างทำความสะอาด แม้จะไม่ได้ใช้ส้วม เพราะส้วนมันตั้งอยู่หน้าบ้าน" เอ่อ เละแน่ตู เว๊บนี้มีพวกเฟมินิส อยู่เยอะด้วย .. ตาย ๆ แน่..นาย Sky
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-11-2006, 14:03 โดย Sky »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Sky
|
|
« ตอบ #25 เมื่อ: 19-11-2006, 13:52 » |
|
หนูหมายความว่า ความรักที่แม่ให้ลูกนั้น ไม่ต้องการอะไรตอบแทนหรอก ทุกวันนี้ทุกคนที่เลี้ยงลูกได้ ต้องนึกอยู่แล้ว ว่าเลี้ยงได้แต่ตัว แต่ใจเลี้ยงไม่ได้ เข้าใจไหมค่ะ นี้คือความรักที่บริสุทธ แท้จริง ไม่ใช่ความรักทีหลอกตัวเอง...........แบบที่มนุษย์หลอกกันเองในปัจจุบัน แน่ใจนะ ว่าเป็นความรักที่บริสุทธิ์ ทำไม ผมเห็นข่าว "แม่ฆ่าลูก" กลุ้มใจ ไม่มีเงินเลี้ยงลูก พ่อทุบตีลูก 1 ขวบเสียชีวิต แม่พาลูกเร่ขายตัว แกล้งหยอกนะ ล้อเล่นจ๊ะ ... เอ่อ คุณใบไม้ทะเล จะตั้งหมู่บ้านคานทองนิเวศน์ แล้วเหรอครับ อายุยังน้อย ๆ อยู่เลย ...
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-11-2006, 13:58 โดย Sky »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ใบไม้ทะเล
|
|
« ตอบ #26 เมื่อ: 19-11-2006, 13:52 » |
|
มันขึ้นกับการวางตัวของลูกสาวด้วยค่ะ ส้วมบางส้วมใช่ว่าจะแวะกันได้ง่ายๆๆๆ พี่สกายน่าจะรุดี แล้วเจ้าของบ้าน ก็ไม่จำเป็นต้องไปขัด ไปถูให้มันสะอาดหรอกค่ะ เพราะส้วมใบนั้น นานวันเข้าอาจจะโดนย้ายไปตั้งบนหอคอย เพราะมันสูงเกินไป จนขึ้นปีนเข้าไปใช้ไมได้ เข้าใจนะค่ะ ขอความเท่าเทียมในกระทู้ด้วยนะค่ะ หากจะคุยกันนานๆๆ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
立てばしゃくやく、座ればぼたん、歩く姿はゆりの花
|
|
|
Sky
|
|
« ตอบ #27 เมื่อ: 19-11-2006, 13:54 » |
|
อืมม์... ก็ตามใจ คิดได้ทำได้ทุกอย่างล่ะครับ
หากไม่ทำให้ใครเดือนร้อน และก็ไม่ได้หนักส่วนไหนของผมด้วย
ขอชี้แจงว่า ทำได้ครับ....
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-11-2006, 14:01 โดย Sky »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ไทมุง
|
|
« ตอบ #28 เมื่อ: 19-11-2006, 14:05 » |
|
เข้ามาอ่าน เด็กอายุ 17 หยั่งเราจะได้จำไว้ใช้ในอนาคต เป็นผู้ใหญ่นี่วุ่นวายจิงหนอ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Sky
|
|
« ตอบ #29 เมื่อ: 19-11-2006, 14:08 » |
|
เข้ามาอ่าน เด็กอายุ 17 หยั่งเราจะได้จำไว้ใช้ในอนาคต เป็นผู้ใหญ่นี่วุ่นวายจิงหนอ มาแล้ว พวกนักต่อสู้เพื่อสิทธิสตรี ขอลบข้อความตัวเอง จะทันไหมเนี๋ยะ กลัวถูกพวกผู้หญิงในเว๊บเสรีไทยรุมจริง ๆ งานนี้สงสัยจะเละ ศพไม่สวยแน่เลยตรู...
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ใบไม้ทะเล
|
|
« ตอบ #30 เมื่อ: 19-11-2006, 14:09 » |
|
คือ หนูพยายามชี้ให้เห็นในสังคมปัจจุบันไงค่ะ หนูอยากให้ทุกคนยอมรับสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปในปัจจุบัน โอเคถึงแม้พี่อาจจะพูดว่า สังคมเปลี่ยนแต่เราไม่เปลี่ยน ไม่เกี่ยวกัน ใช่ค่ะคนไม่เปลี่ยน แต่สิ่งแวดล้อมมันเปลี่ยนไปแล้ว มันเป็นไปได้ยากมากที่ คนจะไม่เปลี่ยนไปตาม ถามเถอะนะค่ะ ความรุ้สึกผิดชอบชั่วดีของคนสมัยโบราณ กับคนสมัยนี้มันต่างกันมากไหม หนูตอบว่ามากนะค่ะ ดูจากอัตรากรอย่าร้างที่เพิ่งสูงขึ้นในปจจุบัน สาเหตุของการหย่าร้างนั้น เริ่มจากการที่สามีภรรยาปรับตัวให้เข้ากันไม่ได้ ทำให้เกิดความเครียดขึ้น เมื่อความรักของทั้งคู่เริ่มจืดจางลงแล้ว ทั้งคู่ก็จะเริ่มคิดถึงการหย่าร้าง โดยปัจจัยที่ทำให้เกิดความขัดแย้งในชีวิตรักนั้นมักจะมีมากกว่าหนึ่งสาเหตุ โดยสาเหตุอันดับต้นๆ ได้แก่ สาเหตุด้านสังคม ด้านอารมณ์และจิตใจ ด้านเศรษฐกิจ และด้านความประพฤติค่ะ แล้วหนทางการแก้ปัญหามีไหม มีซิก็ไปแก้ที่ตัวคน แล้วแก้ยังไง มันก็คงจะย้อนกลับมา ก็ให้คนอ่อนโยนขึ้น เข้าใจกันมากขึ้นเหมือนกับที่ พี่คนเจียงใหม่พูด .........แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แล้วค่ะ เพราะ เศรษกิจ สังคม ที่คนเรานั้นเปลี่ยนไป...... คุณไม่เครียดกับภาวะสังคมในปัจจุบันเหรอค่ะ .... ไม่ใช่ว่าหนูจะไปตั้งคานทอง หรืออยากจะเป็นโสด แอนตี้การแต่งงาน ความรักหนูก็มี ชีวิตหนูสมบูรณ์ แต่ที่พยายามอธิบายให้ทุกคนฟัง มันเป้นเหตุผลที่หนูคิดรวมๆๆกับสภาพสังคมที่ย่ำแย่ในปัจจุบัน แต่เข้าใจที่หนูพยายามอธิบายไหมค่ะ ปัญหาสังคมที่ย่ำแย่ คนที่เปลี่ยนไป........
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
立てばしゃくやく、座ればぼたん、歩く姿はゆりの花
|
|
|
|
Sky
|
|
« ตอบ #32 เมื่อ: 19-11-2006, 14:25 » |
|
คือ หนูพยายามชี้ให้เห็นในสังคมปัจจุบันไงค่ะ หนูอยากให้ทุกคนยอมรับสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปในปัจจุบัน โอเคถึงแม้พี่อาจจะพูดว่า สังคมเปลี่ยนแต่เราไม่เปลี่ยน ไม่เกี่ยวกัน ใช่ค่ะคนไม่เปลี่ยน แต่สิ่งแวดล้อมมันเปลี่ยนไปแล้ว มันเป็นไปได้ยากมากที่ คนจะไม่เปลี่ยนไปตาม ถามเถอะนะค่ะ ความรุ้สึกผิดชอบชั่วดีของคนสมัยโบราณ กับคนสมัยนี้มันต่างกันมากไหม หนูตอบว่ามากนะค่ะ ดูจากอัตรากรอย่าร้างที่เพิ่งสูงขึ้นในปจจุบัน สาเหตุของการหย่าร้างนั้น เริ่มจากการที่สามีภรรยาปรับตัวให้เข้ากันไม่ได้ ทำให้เกิดความเครียดขึ้น เมื่อความรักของทั้งคู่เริ่มจืดจางลงแล้ว ทั้งคู่ก็จะเริ่มคิดถึงการหย่าร้าง โดยปัจจัยที่ทำให้เกิดความขัดแย้งในชีวิตรักนั้นมักจะมีมากกว่าหนึ่งสาเหตุ โดยสาเหตุอันดับต้นๆ ได้แก่ สาเหตุด้านสังคม ด้านอารมณ์และจิตใจ ด้านเศรษฐกิจ และด้านความประพฤติค่ะ แล้วหนทางการแก้ปัญหามีไหม มีซิก็ไปแก้ที่ตัวคน แล้วแก้ยังไง มันก็คงจะย้อนกลับมา ก็ให้คนอ่อนโยนขึ้น เข้าใจกันมากขึ้นเหมือนกับที่ พี่คนเจียงใหม่พูด .........แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แล้วค่ะ เพราะ เศรษกิจ สังคม ที่คนเรานั้นเปลี่ยนไป...... คุณไม่เครียดกับภาวะสังคมในปัจจุบันเหรอค่ะ .... ไม่ใช่ว่าหนูจะไปตั้งคานทอง หรืออยากจะเป็นโสด แอนตี้การแต่งงาน ความรักหนูก็มี ชีวิตหนูสมบูรณ์ แต่ที่พยายามอธิบายให้ทุกคนฟัง มันเป้นเหตุผลที่หนูคิดรวมๆๆกับสภาพสังคมที่ย่ำแย่ในปัจจุบัน แต่เข้าใจที่หนูพยายามอธิบายไหมค่ะ ปัญหาสังคมที่ย่ำแย่ คนที่เปลี่ยนไป........ อืมม์ ผู้ชายคิดจะแต่งงาน มักจะมองที่ปัจจุบันของผู้หญิง ส่วนผู้หญิงคิดจะแต่งงานมักจะมองที่อนาคตของผู้ชาย ก็คิดได้ครับ ไม่มีอะไรผิดหรือถูก หากเห็นว่าดีและเหมาะสมก็ทำได้ครับ ผมไม่ใช้พวกเผด๊จการ และยอมรับความคิดเห็นของคนอื่น ๆ เสมอ เวลาที่ประชุมกัน ในเรื่องงาน ผมก็ให้ทุกคนแสดงความคิดเห็นได้เต็มที่ หากเห็นว่าอะไรดีที่สุด ก็นำมาปฏิบัติ ผมมักจะรอมชอมในทุก ๆ เรื่อง ไม่เคยคิดว่า ใคร ๆ จะทำอะไรผิดไปซะทุกอย่าง ทุกคนที่ทำและคิด ก็คงคาดคะเนแล้ว ว่าสิ่งที่ตัวเองทำ คงจะถูกต้อง เขาจึงลงมือทำ แต่การตัดสินใจ ที่ทำลงไป อาจใช้สัญชาติญาณมากว่า ข้อมูลที่แท้จริงก็ตาม คนเราหากทำอะไรผิด ก็แก้ไขได้ครับ ไม่มีใครที่ทำผิด แล้วกลับตัวไม่ได้หรือแก้ไขไม่ได้ คุณอนาคิดได้ และทำได้ครับ เหมาะสมหรือไม่ถูกต้องหรือไม่ สังคมก็จะตัดสินเองครับ การแต่งงาน มีโอกาสที่จะหย่าร้างไหม มีครับ แต่ทำไม จะลดปัญหานั้นได้ เราก็ต้องเอาใจเขามาใส่ใจเราบ้าง อะไรที่เราไม่ชอบ เขาก็คงไม่ชอบ การมีลุก ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยลดปัญหาการหย่าร้างได้ มีข้อเขียนที่เคยอ่าน บอกว่า คู่สามีภรรยาที่ไม่มีลูก มักจะหย่าร้างใน 7 ปี เริ่มเบื่อหน่ายกันและกัน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Sky
|
|
« ตอบ #33 เมื่อ: 19-11-2006, 14:31 » |
|
* นั่นสิ ! ทำไมถึงต้องมาเปรียบว่า... มีลูกผู้หญิง เหมือนมีส้วม ตั้งอยู่หน้าบ้านจริง ๆ ด้วย !!
จริง ๆ แล้วมันก็พอๆ กันนะแหละ .............
ถ้าจะว่า ผู้หญิง ... เป็นส้วม ผู้ชาย ก้เป็น .... ชักโครก ได้เหมือนกันแหละถ้าทำอะไรไม่ดี
แถมถ้าผู้ชายถ้ายังทำตัว ... เรี่ยราด ....... ไม่เป็นที่เป็นทาง
ยังจะพ่วงความน่ารังเกียจด้วยซ้ำ
เพราะไม่รู้ว่าจะเอา .................... เชื้อโรค ... มาแพร่กระจายหรือป่าว !!!
ปล. คุณ ไทยมุง 17 เองเหรอ ....... งั้น เอ้ 18 ละกันเนาะ ไม่ขอตอบแทนผู้ชายทั้งหมดทั้งโลกครับ ขอตอบส่วนตัว สั้น ๆ ว่า ผมไม่ทราบ... เพราะไม่เคยทำ บางเรื่องก็ไม่ทราบ เพราะ ผมยังเป็น "เยาวชน" ครับ
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-11-2006, 14:36 โดย Sky »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
|
Sky
|
|
« ตอบ #36 เมื่อ: 19-11-2006, 15:29 » |
|
* อ่ะ ... ก็ไม่ได้ไปว่า ... คุณ ตะกาย ท้องฟ้า ... เป็นแบบนั้นซักหน่อย
ก็เมื่อกี้เห็นยกคำเปรียบเปรยว่า ... ผู้หญิง .. เหมือนส้วม
เอ้ ... ก้เลยเปรียบเปรยบกลับไปว่า ... มันก็ไม่ต่างกันหรอกถ้าคนเราทำอะไรไม่ดี
ซึ่งจริง ๆ แล้วเรื่องแบบนี้ .. จะแบ่งเพศเปรียบเทียบหรือโทษอีกฝ่ายทั้งหมดไม่ได้
ตบมือข้างเดียวไม่ดัง ... ค่ะ
ส่วนในเนื้อหา กระทู้ ............ เขาเขียนถึงมุมมองเรื่องชีวิตคู่
ในเมื่อมีการลากมาแบบนี้ .... เอ้ ... ก็เลยลากต่อเพิ่มอีกนิดนึง .... ก็แค่นั้น !!!
ผมก็ไม่มีอะไรครับ ผมเชื่อในจารีตและประเพณีวัฒนธรรมที่ดีงาม แต่หากใครจะคิดต่างออกไป ก็ไม่ได้ว่าอะไร สังคมพัฒนามากขึ้น แต่อย่างไรผมก็ยังชอบ วัฒนธรรมเก่า ๆ และประเพณีเก่า ๆ ซึ่งแสดงย้อนถึงอดีตและแหล่งที่มาของคน คนบางคนอาจหัวสมัยใหม่ ก็แล้วแต่ครับ เราไม่สามารถบังคับให้คนอื่น ๆ คิดเหมือนเรา และเราก็ไม่ไปขวางคนอื่น ๆ ดีหรือเลวถูกต้องหรือเหมาะสม คนอื่น ๆ ที่อยู่รอบตัวเราจะตัดสินและบอกเราเองครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ใบไม้ทะเล
|
|
« ตอบ #37 เมื่อ: 19-11-2006, 15:57 » |
|
ไม่ใช่หัวสมัยใหม่นะค่ะ สังคมไทยก็คือสังคมไทย จะไปเป็นสังคมยุโรป ญี่ปุ่น มันก็ไม่ได้
สิ่งดีงามในสังคมไทยมีเยอะแยะ แต่ถามว่าวัยรุ่นในปัจจุบันมองเห็นสิ่งดีงามในสังคมมันระเอียดลึกซึ่งมากแค่ไหน เพราะทำไมพวกวัยรุ่นถึงได้เปลี่ยนไปเอยะจากยุคคุณสกายจัง ตัวคุณสกายเองก็เถอะ บอกว่ารักในวัฒนธรรมเก่าๆๆ จารีตประเพณี แต่อนาถามหน่อยเถอะ ว่าคุณเข้าใจมันมากแค่ไหน ก่อนที่คุณบอกว่าคุณรักมัน มีวัฒนธรรมอันไหนของคนไทย ที่ยังคงอนุรักษ์ไว้ไม่เปลี่ยนแปลงไปกับกาลเวลาหรือเปลี่ยนให้เข้ากับสภาพสังคมในปัจจุบัน ในยุคในสมัยนี้ค่ะ
ถ้าคุณสกายบอกว่าผมรักวัฒนธรรมเก่าๆๆมากกว่า ตอนนี้คุณสกายคงนุ่งโจงกระเบน นั่งอยู่บนแคร่ มีนางกำนัล หรือภรรยาปรนนิบัติ หรือกราบเท้าก่อนนอนมั่งค่ะ
คนฉลาดเขาไม่ยึดติดอะไรกับมันมากหรอกค่ะ ประเพณีวัฒนธรรมของเรา เราอนุรักษไว้ให้ลูกให้หลานแต่ก็มีเปลี่ยนแปลงไปบ้างให้เข้ากับยุคกับสมัยของมัน........
การที่ดิฉันมองว่า การแต่งงานไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุด ก็เพราะปัจจุบันสังคมเปลี่ยนไป ผู้หญิงสามารถทำงานได้เท่าเทียมกับผู้ชาย ฉะนั้นก็ไม่จำเป็นที่เธอจะต้องแต่งงานเพื่อที่จะเพิ่งพาใครสักคน หากเธอคนนั้นสามารถอยุ่คนเดียวได้ อย่างงี้ก็เป็นความคิดที่เปลี่ยนไปกับสังคมที่เปลี่ยนแปลง
พี่สกายคิดให้ดีค่ะ ก่อนจะบอกว่า ความคิดของคนสมัยใหม่ แสดงถึงกำพืดแหล่งที่มา น่าจะบอกว่าแสดงว่า บ่งบอกว่าความคิดของคนนั้นกว้างมากแค่ไหนมากกว่านะค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
立てばしゃくやく、座ればぼたん、歩く姿はゆりの花
|
|
|
Sky
|
|
« ตอบ #38 เมื่อ: 19-11-2006, 16:02 » |
|
การที่ดิฉันมองว่า การแต่งงานไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุด ก็เพราะปัจจุบันสังคมเปลี่ยนไป ผู้หญิงสามารถทำงานได้เท่าเทียมกับผู้ชาย ฉะนั้นก็ไม่จำเป็นที่เธอจะต้องแต่งงานเพื่อที่จะเพิ่งพาใครสักคน หากเธอคนนั้นสามารถอยุ่คนเดียวได้ อย่างงี้ก็เป็นความคิดที่เปลี่ยนไปกับสังคมที่เปลี่ยนแปลง
เห็นด้วย ... ว่าผู้หญิงปัจจุบันเก่ง ไม่จำเป็นที่เธอจะต้องแต่งงานเพื่อที่จะเพิ่งพาใครสักคน
ครับเห็นด้วยครับ....
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
No_Tuky
|
|
« ตอบ #40 เมื่อ: 19-11-2006, 16:06 » |
|
เท่าที่ดู ผู้หญิงส่วนมากช่วงอายุ 27 - 29 จะรีบหาคู่แต่งกัน เพราะอายุมากกว่าีนี้มักจะขายไม่ออก แต่การแต่งงานไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุดของชีวิตหรอก เป็นการรักษาเผ่าพันธ์ุให้ดำรงอยู่ เราเพียงแค่ถูกกรอบตีมาเท่านั้น กรอบนี้ไม่จำเป็นต้องทำตามก็ได้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Sky
|
|
« ตอบ #41 เมื่อ: 19-11-2006, 16:10 » |
|
หาเมีย: ต้นทุนระหว่างจีบ = 100,000 up ต้นทุนดาวน์ = 300,000 บาท up ค่าที่อยู่อาศัยให้ = 1,500,000 up ค่าพาหนะ = 600,000 up ค่าบำรุงรายเดือน = 50% ของเงินเดือน up
ไม่รวมค่าเสียเวลาและประสาทเสีย จากการแทรกแซง และการไร้คุณภาพเป็นพักๆของผลิตภัณฑ์
ซื้อแล้วห้ามเปลี่ยน ห้ามใช้ผลิตภัณฑ์อื่นร่วม
ผลิตภัณฑ์มีอายุยืนยาว แต่คุณภาพเสื่อมทันทีที่ซื้อ
ผลิตภัณฑ์อาจเป็นสินค้ามือสอง แต่จำหน่ายในราคาเต็ม
คุณไม่มีสิทธิ์ครอบครองผลิตภัณฑ์ แต่ผลิตภัณฑ์มีสิทธิ์ครอบครองคุณ และทุกสิ่งที่คุณเป็นเจ้าของ
ผลิตภัณฑ์เกิดแตกหน่อ รายได้ข้างต้นที่ว่ามาทั้งหมด ต้องหักออกอีก30% ของรายได้...
"ภรยตามา ปรมา ทุกขา" การมีภรรยา มีทุกข์อย่างยิ่ง
มีเมีย เหมือนมือถือ .เป็นเหมือนสื่อคอยติดตาม มีเมีย เหมือนมียาม .คอยสอบถามยุ่มย่ามใจ มีเมีย เหมือนมีบ้าน .อยู่นานนานย่อมเบื่อได้ มีเมีย เหมือนมอ'ไซค์ .ซิ่งเร็วไปอาจเสี่ยงตาย มีเมีย เหมือนมีรถ .ราคาหดเวลาขาย มีเมีย เหมือนผีพราย .หากร่างกายไม่แต่งเติม มีเมีย เหมือนม้าห้อ .ควบไม่รอยามฮึกเหิม มีเมีย เหมือนบัตรเสริม .ต้องคอยเติมเงินเรื่อยไป มีเมีย เหมือนปีศาจ .ยามอาละวาดน่าตกใจ มีเมีย เหมือนมีไห .ปลาร้า....ใส่หลายร้อยปี มีเมีย เหมือนมีคอมพ์ .ต้องคอยซ่อมบ่อยเหลือที่ มีเมีย เหมือนปลากระดี่ .ได้น้ำดีก็จากไป มีเมีย เหมือนดั่งเสือ .ขย้ำเหยื่อจะเหลือไร มีเมีย เหมือนกรรไกร........ ตัดทีไรขาดทุกที มีเมีย ชอบจ่ายดะ .ซื้อไม่ละ..นะคุณพี่ มีเมีย ชอบเซ้าซี้ .บ่นทุกทีที่เจอกัน มีเมีย ละเหี่ยใจ.................. แล้วทำไมชอบมีกัน
มีเมีย ไม่สร้างสรรค์ .จำให้มั่น อย่ามีเมีย
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-11-2006, 16:29 โดย Sky »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
55555
|
|
« ตอบ #42 เมื่อ: 19-11-2006, 16:11 » |
|
จะแต่งงานเร็ว หรือ แต่งงานช้า หรือไม่แต่งงานเลย ล้วนมีข้อดีและข้อเสียทั้งสิ้น ผมคิดว่า ไม่ว่าเราจะอยู่ในสถานะใดก็ตาม เราจะสุขหรือจะทุกข์ ก็ล้วนอยู่ที่ตัวเรา ผมเห็นเพื่อนผมบางคนตอนนี้ลูกอายุ 20 กว่า เพิ่งจบปริญญาโท ก็ดูเค้ามีความสุขดี ขณะที่บางคนแต่งแล้วเลิก ก็มีความสุขได้.......
เห็นด้วยกับ SKY บางส่วน ที่ว่า "มีลูกสาวเหมือนมีส้วมอยู่หน้าบ้าน" แต่คิดว่า มันคงเป็น ความรู้สึก ของคนเป็นพ่อแม่ ที่มักจะเป็นห่วงลูกสาวมากกว่าลูกชาย แล้วในปัจจุบัน ลูกสาวบางคน ก็สร้างความปวดเศียร เวียนเกล้าให้กับ พ่อแม่ ........แต่ในทางกลับ กันผมว่าการมีลูกสาว แล้วเป็นเด็กดี ถือเป็นบุญ วาสนา ของพ่อแม่จริง เพราะ ลูกสาว ที่ดีมักจะอยู่กับพ่อ แม่ตลอดไป แต่งงานมีครอบครัวไปแล้ว ใจก็ยังมีพ่อแม่อยู่ตลอด......ทุกวันนี้ยังฝันอยากจะมี ลูกสาวเลยครับ...... ส่วนลูกชาย ผมว่าเราเป็นเจ้าของเค้าได้แค่ 10 กว่าปี หลังจากนั้น เค้าก็ จะเป็นของเพื่อน หรือ ไม่ก็ของแฟน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
Sky
|
|
« ตอบ #44 เมื่อ: 19-11-2006, 16:53 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ใบไม้ทะเล
|
|
« ตอบ #45 เมื่อ: 19-11-2006, 16:59 » |
|
ผู้ชายก็เหมือนคอมพิวเตอร์ ยากที่จะเข้าใจ แล้วก้อ ไม่เคยมีหน่วยความจำเพียงพอ ผู้ชายก็เหมือนตู้เย็น ถ้าไม่ได้ใส่อะไรไป ก็มีแต่เพียงความว่างเปล่า และความเย็น ผู้ชายก็เหมือนน้ำอัดลม ทำให้เราสดชื่น ซาบซ่าได้ ในเวลากระหาย แต่ดื่มมาก ๆ ก็ทำให้อ้วน ผู้ชายก็เหมือนกล้วย ยิ่งมันแก่เท่าไหร่ มันยิ่งนุ่มนิ่มเท่านั้น ผู้ชายก็เหมือนกาแฟ กาแฟที่ดีที่สุดจะแพง(รวย) นุ่มลิ้น(อบอุ่น) เม็ดสวย(แข็งแรง) และทำคุณตาสว่างไปตลอดคืน ผู้ชายก็เหมือนรองเท้า ถ้าเลือกให้ดี ก็ใส่สบาย แต่ถ้าเลือกไม่ดี มันก็จะกัดเราได้ ผู้ชายก็เหมือนโฆษณา เพราะแต่ละคำพูดที่พูดออกมาน่ะ เชื่อไม่ได้หรอก ผู้ชายก็เหมือนช๊อกโกแลต หวานนุ่มลิ้น แล้วก็พุ่งมาที่เอวของคุณอย่างเดียว ผู้ชายก็เหมือนบะหมี่สำเร็จรูป เพราะอยู่แต่ในน้ำร้อน ๆ รสชาดไม่ได้เรื่อง ถ้าจะกินต้องใส่เครื่องปรุงให้ถึงที่สุด ผู้ชายก็เหมือนมินิสเกิร์ต ถ้าคุณไม่ระวัง มันจะค่อย ๆ เลื่อนขึ้นไปบนขาอ่อน ผู้ชายก็เหมือนพายุ เราไม่มีทางรู้ได้เลยว่า จะมาเมื่อไหร่ จะอยู่นานแค่ไหน พัดมา แล้วก็พัดไป ผู้ชายก็เหมือนสภาพดินฟ้าอากาศ ไม่มีอะไรสามารถเปลี่ยนแปลงมันได้เลย ผู้ชายก็เหมือนรายการทีวี บางทีก็น่าดู น่าติดตาม บางทีก็น่าเบื่อ น่ารำคาญ ผู้ชายก็เหมือนโทรศัพท์มือถือ เวลาต้องการใช้ แบตมักจะหมด ผู้ชายก็เหมือนรถมือสอง คือ สะดวกซื้อ ราคาถูก แต่ก็ เชื่อถือไม่ได้ ผู้ชายก็เหมือนที่จอดรถ ไอ้ที่ดี ดี ก็มีคนจอดไปแล้ว ส่วนที่ที่เหลืออยู่ ก็เล็กมากไม่ดีพอที่จะจอดเอาเสียเลย เอามาฝากค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
立てばしゃくやく、座ればぼたん、歩く姿はゆりの花
|
|
|
|
Sky
|
|
« ตอบ #47 เมื่อ: 19-11-2006, 17:18 » |
|
ผู้หญิง อายุ 18 - 19 ฝันว่าจะมีผู้ชาย หล่อ รวย มีการศึกษาสูง ๆ มาแต่งงานด้วย แต่ก็ไม่มี พออายุ 24-25 ฝันว่า จะมีผู้ชาย หล่อ มีการศึกษา ไม่ต้องรวย ก็ยอมแต่ง แต่ก็ไม่มี พออายุ 28 -29 ฝันว่าจะมี ผู้ชาย มีการศึกษา ไม่ต้องหล่อ ไม่ต้องรวย ก็ยอมแต่งแล้ว แต่ก็ไม่มี พออายุ 38-39 ขอแค่เป็นผู้ชาย ก็ยอมแต่งล่ะ เพราะไม่มีใครยอมแต่งด้วยแล้ว...55555555
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-11-2006, 17:20 โดย Sky »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ลูกหินฮะ๛
|
|
« ตอบ #48 เมื่อ: 19-11-2006, 17:22 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ชอบแถ
|
|
« ตอบ #49 เมื่อ: 19-11-2006, 17:29 » |
|
sky อยู่กระทู้นี้บ่ายถึงเย็นเลยหรือเนี่ย อืม serious ใช้ได้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|