โชว์ไอพี : สาดไฟใส่ (ไม่เลือก) หน้าเมื่อคนให้ความสำคัญกับ "ชื่อ" ที่สามารถแสดงตัวตนได้บ้างไม่มากก็น้อย ดังกล่าวมา
แล้ว การเรียกร้องให้แสดงชื่อ หรือเปิดเผยตัวตน หรือให้ใช้ชื่อใดชื่อหนึ่งไปเลยชื่อเดียว
เพื่อเจาะจงได้ไม่สับสน จึงมักเกิดขึ้นอยู่เสมอ
อย่างไรก็ตามบนอินเทอร์เน็ต
ไม่มีใครบังคับใครได้จริง ครับ ! การไม่ใส่ชื่อ ใช้ชื่อแฝง
หรือ ใช้หลายชื่อ ฯลฯ จึงยังคงมีอยู่ต่อไป วิธีการแบบใหม่ ที่จะทำหรือไม่ ไม่ได้อยู่ที่
การตัดสินใจของผู้เล่น ผู้ใช้แต่ละคน แต่ขึ้นอยู่กับ "ผู้ดูแลทั้งระบบ" เพื่อชดเชยการบังคับ
ไม่ได้ในเรื่อง "ชื่อ" อย่างการขอให้แสดงเลขไอพีกำกับความคิดเห็น ก็เลยเกิดขึ้น เพื่อ
ต่อไปเราจะได้ไม่ต้องไปสนใจชื่อ แล้วหันไปดู (หรือจับผิด) กันที่เลขไอพีแทน (บางที่
นอกจากไม่สนใจชื่อแล้ว ก็พาลไม่สนใจเนื้อหาที่คนๆ นั้นพยายามสื่อไปด้วยเลย...ฮา)
เพื่อป้องกันความวุ่นวาย ทำตามข้อเรียกร้อง ขี้เกียจปวดหัว รวมทั้งยัดเยียดความ
คาดหวังของผู้ที่ยังติดกับตัวตนในโลกจริง ให้กับทุกๆ คน ไม้เว้นแม้แต่คนที่อยาก
หลุดออกจากกรอบของโลกจริง จริงๆ ... ผู้ดูแลบอร์ดแสดงความคิดเห็นหลายๆ แห่ง
เลยต้องวางมาตรการใหม่ และเข้มงวดขึ้น ทั้งนี้เพราะหวังกรองผู้ใช้ สาดไฟใส่มุมมืด
และเพิ่มความน่าเชื่อถือให้เกิดขึ้นได้ในพื้นที่ของตัว
เว็บไซท์จำนวนไม่น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ที่มีคนเข้ามาสนทนากันมากๆ มักใช้วิธีโชว์
เลขไอพีของผู้ใช้ไว้ข้างๆ โดยไม่ได้ขอข้อมูลเพื่อการตรวจสอบอะไรเพิ่มเติมเลย แล้วให้
เหตุผลว่า ...ผู้ใช้จะได้รับผิดชอบในความคิดเห็นของตัว สร้างความโปร่งใส เปิดหน้า
เปิดตา และจะได้ไม่มีใครกล้าด่าใครได้จากที่มืด (ประชาไทเอง ก็ใช้เหตุผลนี้)
อย่างไรก็ตาม ผมอยากให้ลองสังเกตดูให้ดีๆ นะครับว่า ที่เมืองไทยนั้น เหตุผลของการ
เรียกร้องให้เว็บไซท์แสดงเลขหมายไอพี มักไม่ใช่ประเด็น ความน่าเชื่อถือ ความมีตัวตน
หรือจับต้องได้ เพื่อประเมินว่า น่าคุยด้วยหรือไม่ แล้วนะครับ
เหตุผลของการขอให้ผู้ดูแลโชว์ไอพี กลับกลายเป็นเรื่องใน เชิงจับผิด ข่มขู่ หรือตีกัน
เอาไว้ก่อน เพื่อให้คนที่คิดจะใช้หลายชื่อภายใต้หมายเลขไอพีเดียวกัน เกิดความกลัว
ละอาย หรือไม่กล้าทำ เพราะคนอื่นจะจับได้ว่า ....ฮั่นแน่...เอ็งมันเป็นคนลวงโลก
(เสมือนจริง) เล่นพรรคเล่นพวก ก่อกวน ปั่นปวน ที่เข้าๆ มานี่ มันก็พวกเดียวกันทั้งนั้น
แม้เหตุผลแบบนี้ จะสื่อว่า คนไทยไม่ชอบ การปลุก การปั่น การทะเลาะเบาะแว้ง รุมตี
หมาหมู่ ซึ่งน่าจะดี... แต่กับเรื่องคุยกันแบบออนไลน์นี้ ผมขอมองมุมต่าง...
ด้วยเหตุผลนั้น ผมแอบคิดว่า ทำไม เราช่างไร้เดียงสาซะเหลือเกินกับเทคโนโลยีชนิดนี้
เหมือนเด็กที่จำแนก แยกแยะโลกจริง กับโลกเสมือนจริงไม่ออก ชั่งน้ำหนักเองไม่ได้
ไม่รู้จักการปฏิเสธ หรือเพิกเฉย ต่อความคิดเห็นที่ไร้สาระ ถึงแม้มันจะมีจำนวนมากก็ตาม
หรือ ทำไมความอดทนเราน้อยเหลือเกินกับการแสดงความคิดเห็นเชิงก่อกวน หรือปั่นปวน
ในขณะที่กลับมีความอดทนมากเหลือเกินกับการลิดรอนสิทธิเสรีภาพในการแสดงความ
คิดเห็นไม่ว่าทางตรง หรือทางอ้อม....
และนี่คงเป็นอีกครั้งกระมังที่เราใช้
"จำนวน กับ หน้าตา" มาชี้วัดอะไรแบบ "ตื้นเขิน"
ประเภท ใครพวกมากกว่า คนนั้นชนะ ใครแสดงหน้าตา คนนั้นโปร่งใสกว่า ดีกว่า ทั้งๆ
ที่ บางทีไอ้พวกที่มากๆ กับไอ้พวกที่โชว์หน้าตานี่ ความเห็นสุดแสนจะเลอะเทอะ !!
เหตุใด บ้านเราจึงต้องให้ความสำคัญกับ
"จำนวน และหน้าตาของผู้แสดงความคิดเห็น"มากกว่า
"เนื้อหา และ คุณภาพ" ของความคิดนั้น?
ปัจจุบัน กระดานสนทนาท้ายข่าวฉบับไหน มีจำนวนคนเล่นมาก ไม่ว่าความคิดเห็น
เหล่านั้นจะมีคุณภาพหรือไม่ มักมีอิทธิพลกับข่าวๆ นั้นเสมอ คนที่ตกเป็นข่าวจะหนาวๆ
ร้อนๆ (ในขณะที่คนอ่านข่าวหลายคนเลิกอ่าน ความเห็นท้ายข่าวไปนานแล้ว เพราะมอง
ว่า ความคิดเห็นส่วนใหญ่ ไร้สาระ เชียร์กันไป ด่ากันมาลอยๆ ขาดเหตุผลสนับสนุน)
จำนวนคนเล่น จำนวนคนเห็นด้วย และจำนวนคนไม่เห็นด้วย ในกระทู้ หรือในข่าวหนึ่งๆ
จึงดูเป็นสิ่งสำคัญ ที่ผู้คนหันไปยึดถือ หลายๆ ครั้ง ถึงขั้นชี้นำแนวคิด และความเป็นไป
ในสังคมได้ .... ปรากฎการณ์เข้ามาหลายที ใช้หลายชื่อ เลยเพิ่มมากขึ้น เพราะคนพวกนี้
รู้็นิสัยคนไทยดี
ผิดกับเว็บไซท์ดังๆ ในต่างประเทศ หรือเว็บที่มีอิทธิพลต่อวงการใดวงการหนึ่ง มักดูกันที่
"เนื้อหา" และ "แนวคิด" ของคนเขียน ดูคุณภาพในการแสดงความคิดเห็น บล็อกเกอร์ต่าง
ประเทศหลายคนแจ้งเกิด และมีอิทธิพลได้ เพราะเขียนดี มีเนื้อหา น่าอ่าน ไม่ใช่วัดกันที่
"จำนวนความคิดเห็น ที่เห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วย"
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
สรุปประเด็นนี้ก็คือ เนื่องจากผมเอง ไม่เคยให้ความสำคัญกับจำนวนความคิดเห็น และ
ไม่เคยสนใจความคิดเห็นที่ไม่มีประเด็น หรือพูดจาเลอะเทอะ ก่อกวน อีกทั้ง ผมไม่เคย
อยากรู้ หรือไม่นึกอยากสืบค้นตัวตน หรือหน้าตาของใครในโลกอินเทอร์เน็ตเลย โดยเฉพาะ
อย่างยิ่งตัวตนของคนเลื่อนเปื้อนเหล่านั้น (คนความเห็นดีๆ น่ารู้จักมากกว่า) ผมจึงมักสงสัย
เสมอๆ ว่า
... เราจะกลัวอะไรกันนักกันหนา กับการปั่นกระทู้ กับการก่อกวน กลัวอะไรหนักหนากับ
ความเห็นไม่มีคุณภาพ ที่แม้มันจะเข้ามาบ่อย เข้ามาเยอะแยะไปหมด แต่อ่านยังไงก็ซ้ำๆ
ซากๆ วนไปเวียนมา แถมออกจะเลื่อนลอย ไร้เหตุผลสนับสนุน หรือถึงขั้นไร้สาระ ! หรือ
เราจะสนใจอะไรกันนักหนากับ "หน้าตา" ของผู้แสดงความคิดเห็น จนต้องพากันมาเสนอ
ว่า โชว์ไอพีสักทีเถอะ จะได้คอยช่วยกันจับผิด (ไอพี) ว่า ใครมันมาซ้ำ ใครมันมาป่วน...
สำหรับผม ถ้าไม่ชอบ รำคาญ ก็ข้ามไปไม่ต้องอ่าน เถียงแล้วไม่ได้อะไรขึ้นมา ก็ไม่ต้อง
เสวนาด้วยเท่านั้นเอง... อะไรที่ไม่ได้รับความสนใจ ย่อมเท่ากับว่า มันไม่สำคัญ ตรงกัน
ข้าม เพราะคุณให้ความสำคัญ คุณจึงไปสนใจ ไม่ว่าการสนใจนั้นจะแง่ดี หรือแง่ร้ายก็ตาม
อย่าปล่อยให้จำนวนที่ไร้คุณภาพ กับ หน้าตาที่ไร้แก่นสาร เหล่านั้น กลายเป็นมายาคติ
ตามหลอกหลอนผู้คนในโลกจริงได้เลยครับ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------
การแสดงเลขไอพีตามเว็บบอร์ดที่บ้านเราเพื่อหวังขู่ให้ คนคิดจะเข้ามาป่วน หรือกระทำ
ความผิดเกรงกลัวนี้ นอกจากเป็นการจำกัดเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นทางอ้อม
ขัดกับเป้าหมายและธรรมชาติของสื่ออินเทอร์เน็ตแล้ว ยังอาจกลายเป็นช่องโหว่ให
"ผู้ใช้ที่มีความรู้ด้านคอมพิวเตอร์" ในระดับดีกว่าผู้ใช้ธรรมดาๆ ได้เปรียบ เกิดเป็นชนชั้น
ทางอินเทอร์เน็ตได้อีก เพราะคนเหล่านี้ไม่กลัวไอพี แถมยังปลอมไอพีให้เป็นของคนอื่น
ได้อีกต่างหาก
ไอ้วิธีการขู่ง่ายๆ ด้วยแค่โชว์เลขไอพี โดยไม่จัดเก็บข้อมูลใดๆ เพิ่มเติมเลยแบบนี้ มันจะ
มีผลก็แต่กับ
"คนไม่ประสาความในเรื่องคอมพิวเตอร์" ที่เขาอาจไม่ได้เตรียมตัวเป็น
คนร้าย หรือจอมป่วน เท่านั้นครับ เพราะเข้าใจไปว่า เมื่อมีการโชว์เลขไอพีแล้ว ใครๆ ก็
จะสาวไปถึงตัวเขาหรือเธอได้ การแสดงความคิดเห็นของคนกลุ่มนี้้ เลยออกมาแบบกล้าๆ
กลัวๆ คิดอะไรได้ไม่เต็มที่
---------------------------------------------------------------------------------------------------------
ผู้ใช้ทั้งหลาย ควรต้องทำความเข้าใจด้วยนะครับว่า ลำพังแต่หมายเลขไอพีเพียงอย่างเดียว
มันมักไม่เพียงพอหรอก ที่จะระบุได้ว่าข้อความที่เขียนนั้น มาจากที่ใด หรือ ใครเป็นคนเขียน
เพราะปัจจุบัน การปลอมหมายเลขไอพีเครื่องเป็นของคนอื่น มันทำไม่ยาก, ส่วนการใช้
หมายเลขร่วมกันหลายๆ เครื่อง ก็เป็นเรื่องปกติธรรมดา
การสืบค้นตัวตนจะเกิดขึ้นได้จริง จำเป็นต้องใช้ข้อมูลอื่นๆ ประกอบอีกหลายอย่างครับ เช่น
ข้อมูลเกี่ยวกับวัน เวลา ที่ใช้, สถิติการใช้เครื่อง (เหล่านี้ เขาเรียกกันว่า "ข้อมูลจราจร")
รวมทั้งข้อมูลที่เกี่ยวกับการจัดสรรหมายเลขไอพีให้กับเครื่องภายในองค์กร หรือภายในบริษัท
ให้บริการอินเทอร์เน็ต หรือ อย่างกรณีเก็บหมายเลขบัตรประชาชนของบอร์ดพันทิป อันนั้น
น่ากลัวมาก เพราะจะสามารถระบุตัวผู้ส่งข้อความได้แน่นอน
ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ (ตาม
มาตรา ๓ ร่างพรบ. ว่าด้วยการกระทำ
ความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์) หมายความว่า ข้อมูลเกี่ยวกับการติดต่อสื่อสาร ของระบบ
คอมพิวเตอร์ ซึ่งแสดงถึงแหล่งกำเนิด ต้นทาง ปลายทาง เส้นทาง เวลา วันที่ ปริมาณ
ระยะเวลา ชนิดของบริการ หรืออื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการติดต่อสื่อสารของระบบคอมพิวเตอร์นั้น
ความยากลำบากในการระบุตัวตน เพิ่มมากขึ้นไปอีกครับ เมื่อปัจจุบัน มีเว็บที่ให้บริการ
ปิดบังตัวตน ระหว่างท่องอินเทอร์เน็ตให้บริการ เช่น
www.anonymouse.org ระบบ
การทำงานของมัน ก็คือ ผู้ใช้สามารถป้อนชื่อของเว็บ ที่ต้องการดูไปในเว็บไซท์ นี้
จากนั้นระบบเว็บจะค้นหา และไปนำข้อมูล มาส่งต่อกลับมาให้เราอีกทีหนึ่ง ด้วยวิธีนี้
จะเหมือนเป็นการตบตา เครื่อง Server ของเว็บไซท์ที่เราป้อนไป ให้เห็นว่าผู้อ่านก็คือ
เครื่องของผู้ให้บริการเพื่อปิดบังตัวตน ไม่ใช่เครื่องคอมฯ ของเราเอง ซึ่งย่อมทำให้
หลุดลอดจากการตามล่าโดยเจ้าหน้าที่รัฐได้
นอกจากนี้ ปัจจุบันยังมีระบบช่วยปิดบังตัวตนที่ซับซ้อนขึ้นไปอีก ที่รู้จักกันในนาม Tor
(
http://tor.eff.org/) เครือข่้าย TOR เป็นเครือข่ายที่สร้างขึ้นมาเพื่อลบร่องรอยการ
ส่งข้อมูล โดยเครื่องเซิร์ฟเวอร์แต่ละตัวจะรับคำร้องขอจากผู้ใช้ แล้วเลือกว่าจะส่งต่อไป
ให้เครื่องต่อไปเครื่องใดในเครือข่าย จนกว่าจะถึงเครื่องที่ยอมเชื่อมต่อกับปลายทาง
วิธีนี้ทำให้เครื่องเซิร์ฟเวอร์ไม่สามารถบอกได้ว่า ผู้ที่เปิดช่องทางเชื่อมต่อนั้นเป็นใคร
ในเยอรมัน เครือข่าย Tor ก็เพิ่งถูกตรวจค้น ไปเมื่อไม่นานมานี้
อย่างไรก็ตามอาจ ต้องยอมรับว่า การโชว์ไอพีให้ผลทางด้านจิตวิทยาบางอย่างต่อ
ผู้ใช้ธรรมดาๆ เพราะเกรงว่าความคิดเห็นของตัวจะไปกระทบใครเข้า หรือ แม้แต่ประเด็น
ว่ามีผู้มีบารมี (นอกรัฐธรรมนูญ...ฮา) ใช้อำนาจบางอย่างบีบให้เกิดการตรวจสอบผ่าน
หน่วยงานผู้เชี่ยวชาญ หรือ หน่วยงานของรัฐได้ ซึ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่ส่งผลกระทบต่อ
ความคิด และเสรีภาพทั้งสิ้น
นอกจากนี้ การแสดงหมายเลขไอพี ในกระดานสนทนาที่ใช้กันในเฉพาะกลุ่มแคบๆ เป็น
เรื่องไม่สมควรอย่างยิ่ง เพราะแม้จะรู้แบบกว้างๆ เจาะจงตัวไม่ได้ชัดๆ แต่ การเจาะกลุ่ม
ได้กว้างๆ เลาๆ แบบนั้นล่ะครับ ที่จะยิ่งสร้างปัญหา เพราะพวกคอยจับผิดไอพี จะคาดเดา
ตามความรู้สึกไปเองว่า มันต้องเป็นคนนั้น คนนี้ ในกลุ่มไอพีนี้แน่ๆ เกิดความบาดหมางใน
โลกจริงๆ แบบลวงๆ กลายเป็นการป้ายสีกันด้วยกระดาษเปล่า
ในต่างประเทศ ความเป็นนิรนาม หรือการปกปิดตัวตนผู้แสดงความคิดเห็น ถือเป็นส่วน
สำคัญของเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นนะครับ การจะออกกฏหมาย หรือกฎเกณฑ์
ใดๆ ที่อาจส่งผลให้เกิดการล่วงละเมิดความเป็นส่วนตัวดังกล่าว การเปิดโปง หรือแม้แต่
การสืบค้นตัวตนของพลเมือง ทำได้อย่างจำกัด แม้แต่การโชว์หมายเลขไอพี ก็เป็นเรื่อง
ที่ต้องคัดง้างกันทางความคิด เพราะแม้ผู้เล่นธรรมดาๆ ทั่วไปจะทำอะไรไม่ได้กับไอพีนั่น
แต่สำหรับผู้เล่นที่มีความรู้คอมพิวเตอร์ และเรื่องพวกนี้อยู่บ้าง เพียงแค่โชว์เลขไอพีก็อาจ
ให้ผลทำลายความเป็นส่วนตัวบางประการได้แล้ว แม้ไม่ถึงขั้นเจาะจงตัวได้ก็ตามที
ในขณะที่เมืองไทย เป็นเรื่องน่าสนใจอย่างยิ่ง เพราะแม้ว่าเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น
เป็นสิทธิพื้นฐานและเคยกำหนดรับรองไว้ในรัฐธรรมนูญ 2540 (ที่โดนฉีกไปละ) แต่ประเด็น
การปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้แสดงความคิดเห็น กลับไม่ค่อยมีใครเรียกร้อง ตรงกันข้าม
กลับพยายามให้มีการแสดงชื่อ ไอพี เพื่อการสืบหาตัวตนกันมากขึ้นทุกที
----------------------------------------------------------------------------------------------------------
บางคนคิดเลยไปด้วยครับว่า การแสดงหมายเลขไอพีนี้ จะช่วยเพิ่มความสะดวกให้กับ
ผู้ดูแลเว็บ ในอันที่ต้องรีบจัดการลบ หรือขจัดข้อความไม่พึงประสงค์ออกไปให้ได้ทัน
ท่วงที ทั้งๆ ที่เอาเข้าจริง ไม่ว่าจะโชว์ไอพีให้ผู้เล่นคนอื่นๆ เห็นด้วยหรือไม่ ถ้าผู้ดูแล
ระบบเขียนโปรแกรมเก็บไอพีไว้ ไอ้เลขไอพีนี่ก็ถูกล่วงรู้ และเก็บไว้ได้อยู่ดี โดยผู้ดูแล
ระบบนั่นแหละครับ...(หรือไม่เช่นนั้นก็เข้าไปขอดูใน log file ในเครื่องคอมพิวเตอร์
เซิฟเวอร์ได้)
เพียงแต่โดยปกติ ถ้าไม่มีเรื่องราวอะไรเกิดขึ้น ข้อมูลดังกล่าวจะถูกเก็บไว้เป็นความลับ
(เพราะมักได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล..ที่บ้านเรากำลัง
ร่างกันอยู่ แต่ต่างประเทศมีไปตั้งโกษปีแล้ว) แต่ก็มักมีข้อยกเว้นว่า เจ้าพนักงานสามารถ
ขอดูได้ถ้ามีส่วนเกี่ยวข้อง กับการดำเนินคดี ดังนั้น จึง
อย่าไปเข้าใจผิดว่า ไม่โชว์ ก็คือ
ไม่เก็บ หรือไม่มีใครรู้ เป็นอันขาด ...ประเด็นโชว์แล้ว จะสะดวกต่อผู้ดูแลระบบ จึงไม่
สมเหตุสมผลพอ
ดังกล่าวถึงไปบ้างแล้วว่า ในต่างประเทศ การเก็บข้อมูล หรือการแสดงโพรไฟล์ รายการ
ไอเดนติตี้ทั้งหลายของผู้ใช้เป็นเรื่องสำคัญนะครับ เขาจะทำไม่ได้เลย ถ้าไม่ได้เกิดจาก
ความยินยอมของผู้ใช้บริการนั้นๆ เอง
แล้วก็มักไม่ได้ทำกันในบอร์ดแลกเปลี่ยนความคิดเห็นทั่วๆ ไป อย่างบ้านเราด้วย
แต่มักจะทำกับเว็บที่เกี่ยวข้องสัมพันธ์กับความน่าเชื่อถือของตัวผู้ใช้ เช่น เว็บไซท์
ขายของ ช็อปปิ้งออนไลน์ หรือ เว็บไซท์ประมูลสินค้าอย่าง Ebay ปกติ เว็บพวกนี้
จะมีข้อมูลเกี่ยวกับ ชื่อเสียง ของผู้ใช้แต่ละคน ทั้งนี้เพื่อเป็นข้อมูลให้ผู้ใช้บริการคน
อื่นๆ มีข้อมูลตัดสินใจได้เองว่า ควรจะทำธุรกรรมใด ๆ กับ นายคนนั้นหรือไม่
ดังนั้น เป้าหมายในการเก็บ หรือแสดงข้อมูลจึงเป็นเรื่องของการ
"ป้องกันการกระทำ
ความผิด ทำให้การฉ้อโกง หรือหลอกลวงกันทำได้ยากขึ้น" มากกว่า เพื่อป้องกันแค่
เพียง การทะเลาะเบาะแว้ง แสดงความคิดเห็นทำคะแนน หรือการอาศัยจำนวนมาก
เพื่อชี้นำความคิดของคนในสังคม อย่างบ้านเรา
นอกจากเป้าหมายเก็บข้อมูล หรือแสดงข้อมูล เพื่อแสดงตัวตน และความน่าเชื่อถือใน
ขอบเขตเรื่องธุรกิจ และพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์แล้ว ปัจจุบันการขอเก็บข้อมูล เพื่อยืนยัน
ตัวตนของผู้ใช้อินเทอร์เน็ต ยังมีสาเหตุมาจาก การเพิ่มขึ้นของการกระทำความผิดบน
เครือข่าย ประกอบกับความยากลำบากในการติดตามร่องรอย และไอเดนติไฟล์ผู้กระทำ
ความผิดที่แท้จริง ทำได้ยาก อีกด้วย
หลายประเทศ นอกจากกำหนดให้การกระทำอันมิชอบทั้งหลายบนอินเทอร์เน็ต เป็น
ความผิดไม่ต่างจากกระทำในโลกจริงแล้ว ยังพยายามแก้ไขเพิ่มเติม
กฎหมายวิธีสบัญญัติเพิ่มอำนาจ การสืบสวนสอบสวน เพื่อแสวงหาพยานหลักฐานให้กับเจ้าพนักงานของรัฐ
รวมทั้งกำหนดให้ผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตที่เกี่ยวพันกับข้อมูลการใช้อินเทอร์เน็ตทั้งหลาย
มีหน้าที่ตามกฎหมายต้องจัดเก็บ ส่งมอบ หรือให้ความร่วมมือกับเจ้าพนักงานเพื่อช่วยกัน
นำตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษ