ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
23-04-2024, 22:51
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  คุณคิดบ้างมั๊ยคะว่า-----คมช-และรัฐบาลชุดนี้เดินหลงทาง 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
คุณคิดบ้างมั๊ยคะว่า-----คมช-และรัฐบาลชุดนี้เดินหลงทาง  (อ่าน 1362 ครั้ง)
รวงข้าวล้อลม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,103



เว็บไซต์
« เมื่อ: 17-11-2006, 17:33 »

-----ทั้ง  คมช และ รัฐบาลชุดนี้  ค่อนข้างจะมั่นใจนะคะว่าเป็นคนดีแน่นอน
แต่ในความเป็นคนดี  อาจจะจับประเด็นในการแก้วกฤตผิดก็ได้เช่นกัน
ไม่แปลกหรอก   แค่คิดในใจนะว่า--------
ทั้ง  คมช- และรัฐบาลนี้ น่าจะเดินหลงทางนะคะ-----



----คมช  ยึดอำนาจเพราะเหตุผลสี่ข้อ----แต่หลังจากยึดอำนาจแล้ว
ท่านทำอะไรที่เกี่ยวเนื่องกับสี่ข้อที่เป็นเหตุผลของการยึดบ้างหรือยัง
และพยายามประชาสัมพันธ์สี่ข้อที่ให้เหตุผลในการยึดว่าทำอะไรไปแค่ไหน
แล้วหรือยัง
  นั่นแประเด็นหนึ่งล่ะ---


---อีกประเด็นหนึ่งพอมาถึงการตั้งรัฐบาล  เป็นรัฐบาลเฉพาะกิจ  เพื่อมาช่วยบริหารชั่วคราว
ช่วย คมช ในการทำ สี่ข้อให้กระจ่าง  และทำให้เกิดการบริหารแบบมีประชา
ธิปไตย  โดยการเคลียร์ความไม่โปร่งใสในการเลือกตั้งให้มันโปร่งใสขึ้น
พร้อมทั้งจัดการเลือกตั้งให้เกิดขึ้นโดยเร็ว 
เพื่อให้เกิดรัฐบาลที่มาจากการ
เลือกโดยประชาชนที่แท้จริง   แต่รัฐบาลนี้กลับมาคิดบริหารซะเอง  มาคิดนโยบายซะเอง
ท่านได้ช่วยแก้ปัญหาวิกฤตบ้างแล้วหรือยัง----


  ปีเดียวเท่านั้นเอง  ท่านจะคิดนโยบายอะไรได้  จะบริหาร
ให้เกิดประสิทธิภาพได้อย่างไร  ท่านไม่สามารถทำได้หรอก  จึงคิดว่า  รัฐบาลชุดนี้
เดินหลงทางหรือเปล่า



http://forum.serithai.net/index.php?topic=9937.msg139958;topicseen#msg139958
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-11-2006, 19:57 โดย รวงข้าวล้อลม » บันทึกการเข้า

&..หลายๆทำไม ..คุณตอบได้ไหม ?
http://www.oknation.net/blog/roungkaw/2008/05/27/entry-4
รวงข้าวล้อลม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,103



เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 17-11-2006, 17:55 »

สถานการณ์ "คมช.-สุรยุทธ์"

11 พฤศจิกายน 2549 21:08 น.
อ่อนไหวสู่การเปลี่ยนแปลง?
 

       ผ่านมาเกือบ2 เดือน หลังคณะปฎิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข(คปค.) หรือ คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ทำการยึดอำนาจ สถานการณ์ที่ดูเหมือนจะควบคุมได้ก็ยังไม่ "นิ่ง" โดยเฉพาะ "คลื่นใต้น้ำ" ที่มักผลุบโผล่ลองของออกมาตลอดเวลา จนบัดนี้ก็ยังต้องเฝ้าระวังแบบใกล้ชิด

       ขณะเดียวกันสถานการณ์ "ภายใน"เองของ คมช.กลับมีอาการไหวกระเพื่อม เป็นระลอกใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ และถูกจับตาว่าจะเกิด "เงื่อนไข" ใดขึ้นมาได้หรือไม่ อันนำไปสู่การ "เปลี่ยนแปลง" !

       บริบทที่พล.อ.ชวลิตยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรีและเป็นอดีตนายทหารผู้กว้างขวางในกองทัพ ออกมาเตือน คมช.ถึงการกระทำที่ส่งผลให้ภาพลักษณ์ติดลบ ทั้งเรื่องการแต่งตั้งนายทหารเข้าไปนั่งในบอร์ดรัฐวิสาหกิจ ตลอดจนการโยกย้ายทหาร ตำรวจ ข้าราชการ ที่อุ้มแต่พวกพ้องขึ้นสู่ตำแหน่ง กำลังเป็นเรื่องที่ไม่เพียงแต่สังคมตั้งคำถามในเรื่องความเหมาะสมเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการส่งสัญญาณให้เห็นถึง "ความไม่พอใจ" ของบางกลุ่มในกองกำลัง

       "หลักสำคัญในการทำเรื่องนี้จะต้องยึดกติกาและความถูกต้องเป็นหลัก เช่น อย่าให้มีความรู้สึกว่า รัฐบาลรุ่น 10 มาก็เอาแต่รุ่น10 ขึ้นมานี่เป็นตัวอย่างให้ฟัง รุ่นอื่นกูไม่รู้มึงไปก่อนเอารุ่น 10 ก่อนพอรัฐบาลรุ่น 6 มาก็เอาแต่รุ่น 6 ก็เอารุ่นอื่นไปเอารุ่น6 มาเรื่องอย่างนี้มันไม่ถูกต้องด้วยเหตุและผล และความชอบธรรม" พล.อ.ชวลิต ได้กล่าวทักท้วงไว้

       ในภาพรวมได้เกิดเงื่อนไขในเชิงลบกับ คมช.ขึ้นมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องส่งคนของตัวเองไปนั่งบอร์ดรัฐวิสาหกิจ ที่มีการ "ต่อรอง-ทับเส้น"แบบเข้าหน้ากันไม่ติด ไม่นับรวมกับความกังขาของสังคมว่าเข้าไปเพื่อการใด โดยเฉพาะการมองอย่างเคลือบแคลงในเรื่องแสวงผลประโยชน์

       แม้พล.อ.สนธิบุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบกและประธาน คมช.จะยืนยันว่าเป็นการคุมการทำงานและป้องกันการคอร์รัปชั่น ขณะเดียวกัน พล.อ.สุรยุทธ์จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีก็สำทับว่าให้ดูการทำงานไปก่อนอย่าเพิ่งเริ่มติฉินนินทา

       อีกทั้งยังมีเรื่องการตั้งเงินเดือนให้คมช.ที่เป็นประเด็นพ่วงเข้ามา ยิ่งทำให้สถานการณ์ คมช.ไหลรูดลงไปอีก

       เมื่อบวกรวมกับความเป็น"เอกภาพ" ของคมช.ที่มีความ "ปริแยก" ยิ่งมองได้ถึงสถานการณ์ของคมช.ว่าไม่อยู่ในจุดที่มี "เสถียรภาพ" ออกอาการ "โงนเงน"

       สิ่งที่สะท้อนให้เห็นชัดคือ กรณีที่ พล.อ.สนธิ ออกมารื้อให้จัดการเรื่องคดีความของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ซึ่งเป็นเหตุผลหนึ่งในสี่ประการของการเข้าทำรัฐประหาร

       นั่นแสดงถึงอาการกลืนไม่เป็นเนื้อเดียว....ต่อตัวของพล.อ.โกวิท วัฒนะ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) ซึ่งเป็นสมาชิก คมช. และมีกระแสข่าวหนาหูมาตลอดว่าอาจจะถูกปลดจากตำแหน่ง

       ไม่เพียงเท่านั้นพฤติกรรมของ ผบ.ตร.กลับถูกมองว่า "ไม่สุดตัว" กับการเข้าร่วมยึดอำนาจมาแต่ต้น รวมถึงการยังโอบอุ้มนายตำรวจสายระบอบทักษิณเอาไว้ จนเกิดคำถามมากมาย และยังมีคำถามพุ่งไปถึง พล.อ.สนธิ ด้วยว่าทำไมไม่จัดการต่อปัญหาเหล่านี้

       ขณะเดียวกันความเป็นเอกภาพของคมช.ก็ดูประหนึ่งรวมตัวแบบ"หลวมๆ"การทำงานถูกวิพากษ์ถึงความ "เด็ดขาด" ในหลายๆเรื่อง โดยเฉพาะการเลือกไม่ยึดทรัพย์อดีตนายกฯ และนักการเมืองคอร์รัปชั่น จนบัดนี้กระแสท้วงติงความคืบหน้ายึดทรัพย์ได้รุกกระหน่ำจนแทบเสียศูนย์ และเริ่มมีคำปรามาสว่าจะกลายเป็น"มวยล้มต้มคนดู"ทำอะไรไม่ได้หรือเปล่า

       ไม่เพียงเท่านั้นในการตัดสินใจบางเรื่องบางประการก็เป็นไปในลักษณะคนละทิศละทางอย่างเรื่องสำคัญการยกเลิกกฎอัยการศึก ที่พล.อ. บุญรอดสมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ออกมาระบุว่ามีความชัดเจนวันที่ 14 พฤศจิกายนก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะไปประชุมเอเปคที่เวียดนาม แต่ก็กลับถูกสมาชิก คมช.ออกมาปฎิเสธ ยิ่งย้ำให้เห็น "ช่องว่าง"

       การขึ้น"หลังเสือ"แล้ว ย่อมเป็นเรื่องยากที่จะบังคับเสือ ถ้าไม่ "เด็ดขาด" เพียงพอที่จะสยบทุกปัจจัยรอบด้านให้ "นิ่งสนิท"ได้จริง

       จากแรงสั่นไหวในคมช.และการออกมาตอกย้ำของพล.อ.ชวลิต ทำให้สถานการณ์ต่อคมช.กำลังถูกจับตาอย่างมีนัยยะและอาจมีผลอันนำไปสู่ "เงื่อนไข"การเปลี่ยนแปลงบางอย่าง

       

แต่พล.อ.สนธิ มั่นใจว่า "ไม่มีปฎิวัติซ้อน" และสามารถควบคุมสถานการณ์ได้

       "ไม่เคยกังวลอะไร ไม่รู้จะไปกังวลเรื่องอะไร ซึ่งถ้าจำไม่ผิด เมื่อก่อนเคยมีการประชุมศิษย์เก่า 315 เมื่อประมาณ 2-3 เดือนที่ผ่านมา สมัยรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี คงต้องไปถามศิษย์เก่า 315 ดูว่าพล.อ.ชวลิต พูดไว้ว่าอย่างไรบ้างในที่ประชุมศูนย์อำนวยการพิเศษกองทัพบก 315 ซึ่งมีการพูดถึงเรื่องการปฏิวัติ เป็นการพูดเพื่อให้คนอื่นปฏิวัติ ซึ่งขณะนั้นพ.ต.ท.ทักษิณยังเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ แล้วยิ่งถ้ามาพูดตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าจะไปปฏิวัติใคร ปฏิวัติคมช.มั้ง งงไปหมดแล้ว การเมืองก็อย่างนี้คนที่เคยเป็นนายกรัฐมนตรีเก่าก็อย่างนี้"

       

แต่อย่าลืมว่าตัวเองก็เคยพูดย้ำมาตลอดว่า "ทหารไม่ปฎิวัติ" แต่ก็กลับลำเข้ายึดอำนาจ

       อย่าประมาทในประวัติศาสตร์การเมืองไทย....ใช่ว่าจะไม่เคยเกิด "ปฎิวัติซ้อน"ขึ้นมา !

     

http://www.bangkokbiznews.com/level3/news_120478.jsp
บันทึกการเข้า

&..หลายๆทำไม ..คุณตอบได้ไหม ?
http://www.oknation.net/blog/roungkaw/2008/05/27/entry-4
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: 17-11-2006, 18:01 »

ไม่น่าหลงนะครับ จาก บก.ทบ. มาทำเนียบใกล้นิดเดียวเอง

หลงทางเสียเวลา หลงติดป๋าเสียอนาคต
 
บันทึกการเข้า

อมพระมาพูด
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 918


สนิมเกิดแต่เนื้อในตน


« ตอบ #3 เมื่อ: 17-11-2006, 18:12 »

 

ขำลุงแคนอ้ะคับ !!
บันทึกการเข้า

พึงทำความเพียรในวันนี้ ใครเล่าจะรู้วันตายในวันพรุ่ง
รวงข้าวล้อลม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,103



เว็บไซต์
« ตอบ #4 เมื่อ: 17-11-2006, 19:46 »

ไม่น่าหลงนะครับ จาก บก.ทบ. มาทำเนียบใกล้นิดเดียวเอง

หลงทางเสียเวลา หลงติดป๋าเสียอนาคต
 


----

 แหมลุงแคนหยอกเล่นซะอีก   ลุงแคนคิดไงคะประเด็นกระทู้นี้
อยากฟังอะ
บันทึกการเข้า

&..หลายๆทำไม ..คุณตอบได้ไหม ?
http://www.oknation.net/blog/roungkaw/2008/05/27/entry-4
รวงข้าวล้อลม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,103



เว็บไซต์
« ตอบ #5 เมื่อ: 17-11-2006, 20:06 »

พอดีอยากฟังความคิดเห็นของคนที่เวบประชาไทย
ในกระทู้เดียวกัน  เหมือนกันกับที่เสรีไทย  คนที่ประชาไทย
คิดอย่างนี้  ลองอ่านดูนะคะ----


http://www.prachatai.com/05web/th/board/showboard.php?QID=41641&TID=5
บันทึกการเข้า

&..หลายๆทำไม ..คุณตอบได้ไหม ?
http://www.oknation.net/blog/roungkaw/2008/05/27/entry-4
รวงข้าวล้อลม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,103



เว็บไซต์
« ตอบ #6 เมื่อ: 17-11-2006, 20:52 »

----เหตุผลสี่ข้อของการทำรัฐประหาร  ยังไม่กระจ่าง  ณ
วินาทีนี้เลย  มันเหมือนมีอะไรซ้อนเร้น  หมกเม็ดบอกไม่ถูก

คนเก่ง  คนกล้า    การจะทำอะไรสักอย่างที่โกงย่อม
แยบยล ซ่อนเงื่อนจนผลสุดท้ายคือไม่โกง  คมช และรัฐบาลอาจจะดีเกินไป
สำหรับจะปราบคนโกงหรือเปล่า   -----
----


-------------------------------------------------------------------------------------------




'นพ.ประเวศ'แนะรัฐตั้งกรรมการกลางสอบ'ทักษิณ'

17 พฤศจิกายน 2549 13:33 น.

"หมอประเวศ"แนะรัฐบาลตั้งกรรมกลางสอบ"ทักษิณ"เหตุผลในการยึดอำนาจเพื่อพิสูจน์ความจริง และสร้างความสมานฉันท์ ให้เกิดแก่สังคม  


      นายแพทย์ประเวศน์วะสี ราษฎรอาวุโส กล่าวถึงบรรยากาศความสมานฉันท์ในขณะนี้ว่า เดิมที่มีความแตกแยกกันมากในรัฐบาลชุดที่แล้ว โดยพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐ มนตรี ถูกกล่าวหาในข้อหาฉกาจ ฉกรรจ์ ที่ไม่มีการพิสูจน์ โดยที่มีทั้งพวกที่เชื่อและไม่เชื่อ พวกที่เชื่อก็ยังเหมือนเดิมและมากขึ้น โดยไปบวกเพิ่มกับการทำรัฐประหาร แต่พอหลังการทำรัฐประหาร ก็มีการแบ่งออกเป็น 2 พวกอีก ซึ่งจุดของความสมานฉันท์นั้นจะเรียกร้องอย่างเดียวก็คงไม่เกิดขึ้นได้ แต่ต้องทำความจริงให้ปรากฎออกมาเคยบอกตั้งแต่รัฐบาลทักษิณแล้วว่า เรามัวแต่พูดไม่ได้ หากถูกกล่าวหาก็ต้องชี้แจงให้ประชาชนทราบข้อเท็จจริง ถ้าไม่ชัดเจนคนก็จะแตกแยก


       นพ.ประเวศกล่าวว่า เมื่อ คปค.เข้ามายึดอำนาจ แล้วบอกว่ารัฐบาลทักษิณ ไม่ดี  สี่  ประการ แต่พอยึดอำนาจมาแล้วไม่ได้พิสูจน์ว่ามันจริงหรือไม่ ซึ่งต้องตั้งคณะกรรมการที่เป็นกลาง โดยมาจากบุคคลที่มีความน่าเชื่อถือขึ้นมาตรวจสอบทุกอย่างว่าจริงหรือไม่ โดยทำไปตามขั้นตอน ถ้ารัฐบาลมาพูดเองคนก็ไม่เชื่อ ก็จะหาว่าเข้ามายึดอำนาจแล้วไปอ้างอย่างโน้นอย่างนี้ ซึ่งในเรื่องของการตรวจสอบจะใช้กลไกปกติไม่ได้ เพราะว่ากลไกปกติอยู่ในอำนาจเดิม จะมีการป้องกันว่า เดี๋ยวจะกระทบตัวเอง ก็ควรที่จะใช้กลไกที่เป็นกลางเข้ามาตรวจสอบ เช่นในสหรัฐฯ ที่มีการกล่าวหากันเขาก็ไม่ใช่โครงสร้างเดิม   

    ราษฎรอาวุโส กล่าวอีกว่า การตรวจสอบของ ป.ป.ช.และ คตส. ที่มีอยู่ก็ทำต่อไป เพราะการตรวจสอบข้อกล่าวหาเหล่านั้นคนทำผิดมันมาก แต่ประเด็นทั้ง 4 ข้อ ควรต้องตั้งคณะกรรมการกลางขึ้นมาสอบ ซึ่งมีรายชื่อแล้ว แต่ไม่ขอบอกว่าเป็นใครบ้าง ส่วนตนไม่เป็นแน่นอน เพียงแต่แนะนำให้เท่านั้น อย่างไรก็ตามจะไม่รับเป็นกรรมการทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นสมัชชาแห่งชาติ หรือที่ปรึกษารัฐมนตรี แต่ขอช่วยงานต่อไป เพราะแก่แล้วต้องมีอิสระต้องไม่ยอมให้ใครมาแต่งตั้ง มีฐานะโดยธรรมชาติอยู่แล้วไม่ควรมาแต่งตั้ง


http://www.bangkokbiznews.com/level3/news_124272.jsp

บันทึกการเข้า

&..หลายๆทำไม ..คุณตอบได้ไหม ?
http://www.oknation.net/blog/roungkaw/2008/05/27/entry-4
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #7 เมื่อ: 17-11-2006, 20:56 »

ไม่มีไร คนไทยใจร้อน อยากให้ไล่เช็คบิลทักษิณและลิ่วล้อเร็ว ๆ

แต่ก็นั่นแหละ ทำแบบนั้น มันกระเทือนไปหมด ตีหางพญานาค ก็กระเทือนถึงหัว

ตีหัวพญานาค หางก็กระเทือน แล้วมันจะสมานฉันท์ได้ไง

อันใหนชัดเจนก็ลุยไปให้ศาลสั่ง คนรุ่นขิงแก่ ไม่ทำอะไรให้เด็ก ๆ ถอนหงอกหรอกครับ

จริง ๆ ก็คือ การที่ท่านนายกลงไปขอโทษเหยื่อของผู้ถูกการใช้ความรุนแรงจากเจ้าหน้าที่รัฐ

ท่านก็ยังยอมรับผิดส่วนหนึ่ง ที่ไม่สามารถทัดทานนโยบายพวกนั้นได้

คนที่ติติงตรงนี้ วันที่ทำ ปฏิรูป ก็เห็นไชโยโห่ร้องรับกันเกรียวกราวมิใช่หรือ

เหตุผล 4 ข้อที่กล่าวอ้าง มันก็ตรงใจกับประชาชนอยู่ไม่ใช่หรือ ไม่เช่นนั้นจะไชโยกันไปทำไม

เมื่อสงสัยก็ต้องสอบกันไป สอบตามใจไม่ได้ต้องอาศัยหลักฐานและกฎหมาย ผิดก็ผิด ถูกก็คือถูก

จริง ๆ แล้ว ที่ถือเป็นคุณูปการสิ่งเดียวก็คือ ไม่ยอมให้คนไทยห้ำหั้่นกันเอง นั่นถือว่าสุดยอดแล้ว

จะว่าไปคือตอนนี้ ล้างบ้านจัดระเบียบกันใหม่ ใครเคยผิด หากไม่หนักหนาก็อภัยกันไป

ใครจี๋จ๋าออกหน้า ก็เช็คบิลไป ตามกบิลเมือง

ปกครองบ้านเมืองจะเอาแต่สะใจไม่ได้หรอกครับ ไว้รอรัฐบาลหน้าเค้ามาปรับปรุงกันเอง

ที่บอกว่าไปตั้งบอร์ดเยอะแยะ ถ้าไม่พอใจ รัฐบาลใหม่เข้ามาก็ปลดได้ครับ

บอร์ดรัฐวิสาหกิจมันคือคนของภาคการเมือง เท่านั้นแหละ


พูดแบบไม่เกรงใจ ก็ต้องถามกลับตรง ๆ เราจะยอมอยู่ใต้ประกาศภาวะฉุกเฉินของหน้าเหลี่ยม หรือ ใต้กฎอัยการศึกของ คมช.

ตรงนี้ต้องเลือกเอาครับ


เราจะปฏิรูปการเมืองภายใต้นักการเมือง หรือ ภายใต้ สนช. หรือ สมัชชาประชาชน ภายใต้รัฐธรรมนูญ 2549 ก็ต้องเลือกเอา

คนเราเมื่อก้าวแล้วก็ต้องเดิน ยุ่งยากแค่ใหน ก็ต้องฟันฝ่าไปให้ได้ หากมุ่งมั่นด้วยใจเที่ยงธรรมและมุ่งผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนแล้วอย่าไปกลัวครับ

พูดง่าย ๆ คือ จะให้ได้อย่างใจของทุกคนเห็นจะไม่ได้ แบ่ง ๆ กันไป เค้าบ้างเราบ้าง

แบ่ง ๆ ที่กันยืนบ้างแค่นั้นเอง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-11-2006, 21:04 โดย CanCan » บันทึกการเข้า

ชอบแถ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,138



« ตอบ #8 เมื่อ: 17-11-2006, 20:59 »

ไม่หลงหรอก เพียงแต่ไอ้ทางที่อยากไปใจจะขาดมันไปไม่ได้ ก็ไอ้ยึดทรัพย์คนอื่นมาเป็นของตน
เอาตำแหน่งดีแจ๋วเยี่ยมทั้งหลายประเคนให้เป็นของพรรคพวก คือ มันไม่ใช่สมัยหลังสงครามโลก
อ่ะ ตอนนี้ประเทศไทยอยู่ได้ด้วยต่างชาติทั้งนั้น ถ้าไม่มีนักท่องเที่ยว และ สินค้าส่งออก เนี่ย ถึง
ขั้นเจ๊งเป็นแถบ เดินขบวนวุ่นวายยิ่งกว่าปี 16 อีก ตอนนี้มันคิดไม่ออกว่าจะทำยังไงก็ทะลึ่งยึด
อำนาจมาแล้ว ก็วนไปวนมาไม่ได้เดินไปไหนซะที ถ้าจะเริ่มเดินต้องโน่นยกเลิกกฎอัยการศึก รีบๆ
เลือกตั้ง(ใช้รัฐธรรมนูญเก่าก็ได้) แล้วให้รัฐบาลที่ถูกต้องเค้าแก้ปัญหา
บันทึกการเข้า
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #9 เมื่อ: 17-11-2006, 21:05 »

ไม่หลงหรอก เพียงแต่ไอ้ทางที่อยากไปใจจะขาดมันไปไม่ได้ ก็ไอ้ยึดทรัพย์คนอื่นมาเป็นของตน
เอาตำแหน่งดีแจ๋วเยี่ยมทั้งหลายประเคนให้เป็นของพรรคพวก คือ มันไม่ใช่สมัยหลังสงครามโลก
อ่ะ ตอนนี้ประเทศไทยอยู่ได้ด้วยต่างชาติทั้งนั้น ถ้าไม่มีนักท่องเที่ยว และ สินค้าส่งออก เนี่ย ถึง
ขั้นเจ๊งเป็นแถบ เดินขบวนวุ่นวายยิ่งกว่าปี 16 อีก ตอนนี้มันคิดไม่ออกว่าจะทำยังไงก็ทะลึ่งยึด
อำนาจมาแล้ว ก็วนไปวนมาไม่ได้เดินไปไหนซะที ถ้าจะเริ่มเดินต้องโน่นยกเลิกกฎอัยการศึก รีบๆ
เลือกตั้ง(ใช้รัฐธรรมนูญเก่าก็ได้) แล้วให้รัฐบาลที่ถูกต้องเค้าแก้ปัญหา

มีใครยึดทรัพย์ใครมาเป็นของตนเหรอครับ
บันทึกการเข้า

ชอบแถ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,138



« ตอบ #10 เมื่อ: 17-11-2006, 21:16 »

ไม่หลงหรอก เพียงแต่ไอ้ทางที่อยากไปใจจะขาดมันไปไม่ได้ ก็ไอ้ยึดทรัพย์คนอื่นมาเป็นของตน
เอาตำแหน่งดีแจ๋วเยี่ยมทั้งหลายประเคนให้เป็นของพรรคพวก คือ มันไม่ใช่สมัยหลังสงครามโลก
อ่ะ ตอนนี้ประเทศไทยอยู่ได้ด้วยต่างชาติทั้งนั้น ถ้าไม่มีนักท่องเที่ยว และ สินค้าส่งออก เนี่ย ถึง
ขั้นเจ๊งเป็นแถบ เดินขบวนวุ่นวายยิ่งกว่าปี 16 อีก ตอนนี้มันคิดไม่ออกว่าจะทำยังไงก็ทะลึ่งยึด
อำนาจมาแล้ว ก็วนไปวนมาไม่ได้เดินไปไหนซะที ถ้าจะเริ่มเดินต้องโน่นยกเลิกกฎอัยการศึก รีบๆ
เลือกตั้ง(ใช้รัฐธรรมนูญเก่าก็ได้) แล้วให้รัฐบาลที่ถูกต้องเค้าแก้ปัญหา

มีใครยึดทรัพย์ใครมาเป็นของตนเหรอครับ
ก็มันอยากยึดทรัพย์สิน(ประเภทกิจการที่ได้สัมปทาน)มาเป็นของตน(คนไหนไม่รู้) แต่ก็ทำไม่ได้อ่ะ
บันทึกการเข้า
รวงข้าวล้อลม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,103



เว็บไซต์
« ตอบ #11 เมื่อ: 17-11-2006, 21:19 »

ไม่หลงหรอก เพียงแต่ไอ้ทางที่อยากไปใจจะขาดมันไปไม่ได้ ก็ไอ้ยึดทรัพย์คนอื่นมาเป็นของตน
เอาตำแหน่งดีแจ๋วเยี่ยมทั้งหลายประเคนให้เป็นของพรรคพวก คือ มันไม่ใช่สมัยหลังสงครามโลก
อ่ะ ตอนนี้ประเทศไทยอยู่ได้ด้วยต่างชาติทั้งนั้น ถ้าไม่มีนักท่องเที่ยว และ สินค้าส่งออก เนี่ย ถึง
ขั้นเจ๊งเป็นแถบ เดินขบวนวุ่นวายยิ่งกว่าปี 16 อีก ตอนนี้มันคิดไม่ออกว่าจะทำยังไงก็ทะลึ่งยึด
อำนาจมาแล้ว ก็วนไปวนมาไม่ได้เดินไปไหนซะที ถ้าจะเริ่มเดินต้องโน่นยกเลิกกฎอัยการศึก รีบๆ
เลือกตั้ง(ใช้รัฐธรรมนูญเก่าก็ได้) แล้วให้รัฐบาลที่ถูกต้องเค้าแก้ปัญหา

มีใครยึดทรัพย์ใครมาเป็นของตนเหรอครับ
ก็มันอยากยึดทรัพย์สิน(ประเภทกิจการที่ได้สัมปทาน)มาเป็นของตน(คนไหนไม่รู้) แต่ก็ทำไม่ได้อ่ะ



----

---แถไปได้เรื่อยๆ  หล่ะนะ  ใครเค้าอยากยึดนักล่ะ
เค้ามิใช่ประเภทอยากรวย  อยากโกง  อยากได้
ของคนอื่นซะเมื่อไหร่----

ไหงอยู่ได้มาตั้งนานกี่ยุคกี่สมัย  จะมาอยากได้
ตอนสมัยท่านนายกทักษิณ  นี่หล่ะนะ  แถให้มัน
สมเหตุสมผลหน่อยสิจ๊ะ  น้องหนู----
บันทึกการเข้า

&..หลายๆทำไม ..คุณตอบได้ไหม ?
http://www.oknation.net/blog/roungkaw/2008/05/27/entry-4
รวงข้าวล้อลม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,103



เว็บไซต์
« ตอบ #12 เมื่อ: 17-11-2006, 21:28 »

พูดแบบไม่เกรงใจ ก็ต้องถามกลับตรง ๆ เราจะยอมอยู่ใต้ประกาศภาวะฉุกเฉินของหน้าเหลี่ยม หรือ ใต้กฎอัยการศึกของ คมช.

ตรงนี้ต้องเลือกเอาครับ

เราจะปฏิรูปการเมืองภายใต้นักการเมือง หรือ ภายใต้ สนช. หรือ สมัชชาประชาชน ภายใต้รัฐธรรมนูญ 2549 ก็ต้องเลือกเอา




---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


---ลุงแคนคะ   บอกตรงๆนะคะ  ตอนนี้ดีใจในระดับหนึ่งล่ะ  คือสามารถเปลี่ยนรัฐบาล
เป็นมิใช่รัฐบาลที่ใช้ระบอบเงินเผด็จการ(ทักษิณ) ได้ก็โล่งไปเยอะมาก


---เพียงแต่ว่า  เมื่อทำได้แล้ว  ก็ต้องให้คุ้มกับที่ทำรัฐประหารหน่อย
คือพิสูจน์ ความจริงให้ได้-----


---ตอนนี้มีคนหลายคนทีเดียว  เค้าท้าเหย็งๆๆว่า  คอยดูนะ
เมื่ออะไรเบ็ดเสร็จตอนจบ  ก็คือ  ทักษิณไม่ผิดเพราะหลักฐานไม่พอ----
บันทึกการเข้า

&..หลายๆทำไม ..คุณตอบได้ไหม ?
http://www.oknation.net/blog/roungkaw/2008/05/27/entry-4
ชอบแถ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,138



« ตอบ #13 เมื่อ: 17-11-2006, 21:35 »

---แถไปได้เรื่อยๆ  หล่ะนะ  ใครเค้าอยากยึดนักล่ะ
เค้ามิใช่ประเภทอยากรวย  อยากโกง  อยากได้
ของคนอื่นซะเมื่อไหร่----

ไหงอยู่ได้มาตั้งนานกี่ยุคกี่สมัย  จะมาอยากได้
ตอนสมัยท่านนายกทักษิณ  นี่หล่ะนะ  แถให้มัน
สมเหตุสมผลหน่อยสิจ๊ะ  น้องหนู----
อันนี้ไม่ได้แถนะ ลองตามเรื่องนอมินี่สิครับ ว่าใครอยากได้อะไร
บันทึกการเข้า
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #14 เมื่อ: 17-11-2006, 21:42 »

นั่นมันต้องรอ "คำตอบสุดท้าย" หลากหลายคดี ต้องไปจบลงที่ศาล เมื่อศาลท่านว่าไงก็ต้องตามนั้น

ในทางการเมือง มันดูกันที่พฤติกรรม เหมือนอภิปรายไม่ไว้วางใจ ส่วนจะผิดถูกยังไง ตามกฎหมายก็ต้องไปที่ศาลครับ

หากศาลท่านว่าผิด ก็คือผิด หากศาลท่านว่าถูกก็ต้องถูก จะเอาอะไรนักหนา "ซุกหุ้น" ผิดแท้ ๆ ยังกลับเป็นถูกได้...

แต่เราก็ต้องยอมรับคำตัดสินนั้น ไม่มีใครเสียหน้าอะไร ประเทศชาติก้ยังอยู่ ประชาชนก็ไม่เป็นเครื่องมือของใครมาห้ำหั่นกันเอง

แก้ปัญหาอย่างสันติวิธี บางทีมันต้องมี "นักเลง" เข้ามายืนคุมเหมือนกันนะ


ขนาดตั้ง คตส. ปปช. ขึ้นมาดูแลเป็นพิเศษ ผ่าทางตันให้องค์กรอิสระได้ทำงาน ก็ต้องว่ากันไปตามกระบวนการ

จะเอาตามใจใครก็ไม่ได้ นี่คุณหมอประเวศ เสนอตั้ง "กรรมการกลาง" ขึ้นมาสอบสวนอีกชุด เลยไม่รู้จะเป็นยังไง

เราฐานะประชาชนก็ต้องรอดูการทำงานของเค้า จะให้ได้อย่างใจคงยากครับ
บันทึกการเข้า

รวงข้าวล้อลม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,103



เว็บไซต์
« ตอบ #15 เมื่อ: 17-11-2006, 21:45 »

---แถไปได้เรื่อยๆ  หล่ะนะ  ใครเค้าอยากยึดนักล่ะ
เค้ามิใช่ประเภทอยากรวย  อยากโกง  อยากได้
ของคนอื่นซะเมื่อไหร่----

ไหงอยู่ได้มาตั้งนานกี่ยุคกี่สมัย  จะมาอยากได้
ตอนสมัยท่านนายกทักษิณ  นี่หล่ะนะ  แถให้มัน
สมเหตุสมผลหน่อยสิจ๊ะ  น้องหนู----
อันนี้ไม่ได้แถนะ ลองตามเรื่องนอมินี่สิครับ ว่าใครอยากได้อะไร


    น้องแถหามาให้ดู  ให้อ่านชัดๆ
หน่อยสิน้อง  ถ้าได้เห็นอาจเปลี่ยนใจมารักทักษิณ
ก็ได้เนอะ----
บันทึกการเข้า

&..หลายๆทำไม ..คุณตอบได้ไหม ?
http://www.oknation.net/blog/roungkaw/2008/05/27/entry-4
รวงข้าวล้อลม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,103



เว็บไซต์
« ตอบ #16 เมื่อ: 17-11-2006, 21:56 »

น้องแถลองอ่าน  อันนี้หน่อยนะคะน้อง---

เผื่อหูตาจะได้สว่างขึ้น



----------------------------------------------------------------------


แล้วที่อธิบดีศิโรตม์บอกว่า เป็นการได้หุ้นมาในราคาต่ำ เมื่อขายในราคาตลาดก็ต้องเสียภาษี เพราะเป็นเงินได้ ตรงนี้จะชี้แจงอย่างไร

       จริงๆแล้วข้อเท็จจริงมันเหมือนเดิม วันที่ 23 มกราคม เป็นอย่างไรก็เหมือนเดิม ก็คือว่าได้มีการหารือว่าการโอนหุ้น ณ ราคาพาร์ จากแอมเพิลริช มาให้ทั้ง 2 คน ผู้โอนต้องเสียภาษีหรือไม่ เขาก็ตอบมาว่า การโอนหุ้น ณ ราคาพาร์ไม่มีภาระภาษี จากนั้นพานทองแท้ กับพิณทองทา มาขายต่อให้กลุ่มเทมาเส็กผ่านตลาดหลักทรัพย์ มันก็มีข้อยกเว้นอยู่ว่า การขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ไม่เสียภาษี

       O ยังมีประเด็นอยู่ว่า แอมเพิล ริช ก็เป็นของท่านนายกฯ แล้วท่านนายกฯ ก็มาโอนให้ลูก...

       แอมเพิลริช เป็นบริษัทที่จดทะเบียนในหมู่เกาะบริติช เวอร์จิน (บีวีไอ) จริงๆ แล้วหุ้นก็เป็นหุ้นของท่านนายกฯอยู่แล้วตั้งแต่ต้นเลย ก่อนจะไปแอมเพิล ริช ด้วยซ้ำ คือเขามีหุ้นอยู่ แล้วก็จะเอาหุ้นไปขายในตลาดแนสแด็ก ก็เหมือนคุณมีรถยนต์อยู่คันหนึ่ง อยู่ๆ จะเอาไปขายเต็นท์รถ แล้วเต็นท์รถมันซบเซา คุณก็เลยเอารถที่เป็นของคุณตั้งแต่ต้นโอนกลับคืนมา โดยหลักที่ของมันเป็นของคุณอยู่แล้ว แล้วก็โอนกลับมาคืนให้ตัวคุณเอง มันก็ไม่ควรจะเสียภาษี เพราะมันเป็นของคุณอยู่แล้ว

       แต่ปัญหาคือว่าเขาโอนกลับมาเพราะเขาต้องการขาย จริงๆ ตอนแรกที่จะขายให้เทมาเส็ก เขาลืมไปด้วยซ้ำว่ามีหุ้นนี้อยู่ พอจะขายก็เฮ้ย..ยังมีหุ้นอยู่ในแอมเพิล ริช ก็เลยเอามาโอน และการโอนเราก็เช็คว่าโอน ณ ราคาพาร์ให้น้องโอ๊คกับน้องเอมเสียภาษีหรือไม่ คำวินิจฉัยของกรมสรรพากรบอกว่าไม่เสีย เราก็ทำตามนั้น เพราะฉะนั้นก็ไปสู้กันว่าเขามีเหตุผลอะไร แล้วสุดท้ายก็ต้องไปจบกันที่ศาลภาษี

       ท่านศิโรตม์เองก็คือคนๆเดียวกันที่เคยพูดว่าไม่ต้องชำระภาษี เมื่อลมการเมืองเปลี่ยนแปลงไป แล้วท่านบอกว่าต้องเสียภาษี เราก็ต้องไปชี้แจง ไม่มีปัญหาอะไร

       O แล้วเรื่องที่ดินของคุณหญิงพจมาน...

       ตอนนี้เป็นข้อครหาที่คตส. (คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อรัฐ) กำลังตรวจสอบอยู่ แต่ก็น่าดีใจนะ เพราะแม้ว่าข่าวจะออกมาอย่างไรก็ตาม แต่ท่านนาม (นายนาม ยิ้มแย้ม ประธาน คตส.) และท่านอุดม เฟื่องฟุ้ง (กรรมการ คตส.) ซึ่งทั้งสองท่านเป็นอดีตผู้พิพากษาศาลฎีกา ท่านก็บอกว่ายังไม่เรียกคุณหญิงพจมานไปให้การ ท่านบอกว่าต้องตรวจสอบการขาย ความเป็นมาเป็นอย่างไร เราชี้แจงได้ครับ มันมี 2 ประเด็นใหญ่ คือเรื่องราคา กับเรื่องมาตรา 100

       ในเรื่องราคานั้นก็ประมูลกันอย่างโปร่งใส มีผู้เข้าร่วมประมูล 4 ราย ไม่ใช่รายเดียวอย่างที่กล่าวหา ขณะที่ราคาที่ประมูลไปก็สูงกว่าราคาประเมินของกรมที่ดิน โดยราคาประเมินของกรมที่ดินอยู่ที่ 695 ล้านบาท แต่ราคาที่คุณหญิงประมูลคือ 772 ล้านบาท สูงกว่าราคาประเมินถึง 77 ล้าน ส่วนคนที่เสนอราคาสูงเป็นอันดับ 2 คือ 750 ล้านบาท ต่ำกว่าคุณหญิงประมาณ 22 ล้าน ถ้าหากเห็นว่าคุณหญิงประมูลไม่ได้ แล้วจะเอาผู้ที่เสนอราคาอันดับ 2 รัฐก็ต้องขาดรายได้ไป 22 ล้าน

       แล้วที่ดินผืนนี้ราคามันอาจจะไม่ได้สูงมาก เหตุผลก็คือสร้างตึกสูงได้ไม่เกิน 23 เมตร เพราะมันอยู่ข้างศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ฉะนั้นการใช้ประโยชน์จากที่ดิน หรือ Land use จะต่ำ ไปสร้างคอนโดมิเนียมไม่ได้แน่ๆ และคุณหญิงท่านก็มีวัตถุประสงค์คือซื้อมาปลูกบ้าน และท่านก็ประมูลสูงสุด

       ในเมื่อกองทุนฟื้นฟูฯ(กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน) สามารถไม่รับราคาสูงสุดก็ได้ ตามเงื่อนไขข้อ 19 แต่เขาก็ตัดสินใจรับ เราก็ไม่รู้ เราก็นึกว่าประมูลได้ แล้วการประมูลก็มีการสู้ราคากันเต็มที่ เปิดซองกันเจ๋งๆ ต่อหน้าเลย เราก็ประมูลตามนั้น ไม่มีอะไร

       O แต่ในแง่เทคนิคมันมีคำถามเกิดขึ้น คือครั้งแรกเป็นการประมูลแบบอี-ออคชั่น แล้วล้มไป

       เรียนชี้แจงอย่างนี้ครับประมูลครั้งแรกเมื่อเดือนกรกฎาคม 2546 ครั้งที่ 2 เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2546 ห่างกัน 5 เดือน ครั้งแรกทางกองทุนฟื้นฟูฯไปตั้งราคากลางที่ 870 ล้านบาท มีคนไปซื้อซอง 7-8 ราย แต่ไม่มีใครไปประมูลเลย เพราะว่ามีข้อจำกัดเรื่องตึกสูง ต้นทุนมันสูงเกินไป ชาวบ้านเขาก็ไม่ซื้อ ก็เลยมาเปิดประมูลใหม่ในเดือนพฤศจิกายน

       O ถ้าที่ดินดังกล่าวสร้างตึกสูงไม่ได้ ทำไมการเปิดประมูลครั้งที่ 2 บริษัทพัฒนาที่ดินยักษ์ใหญ่ถึงเข้าร่วมประมูลด้วยหลายราย

       ก็ตอนแรกตั้งราคาไว้ที่870 ล้านบาทไง ราคาขั้นต่ำเปิดที่นั่น เวลาเปิดประมูลแบบอี-อ๊อคชั่น มันจะมีราคาเปิด สมมติผมจะประมูลรถเก๋ง ราคาโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ดันไปเปิดที่ 1.2 ล้านบาท คนก็ไม่อยากซื้อแล้ว แต่การประมูลแบบเปิดซอง มันไม่มีราคาเปิด มันไม่ได้กำหนดไว้ คนก็สามารถประมูลได้

       ทีนี้ถ้าทางกองทุนฟื้นฟูฯเห็นว่า 772 ล้านบาทมันต่ำไป ก็ยกเลิกประมูลได้ ไม่มีปัญหา แต่เขาก็ตัดสินใจที่จะขาย เพราะคิดว่าราคามันไปได้ และเราไม่ได้ไปใช้อิทธิพลไปบังคับให้ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือกองทุนฟื้นฟูฯ ให้มาเอาของเรา ถ้าเขายกเลิก เราก็ยกเลิก เราก็ไม่ซื้อ

       O แล้วประเด็นข้อกฎหมายมาตรา 100 (พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต)

       มาตรา100 บอกว่า ห้ามเจ้าหน้าที่ของรัฐไปทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐที่ตนมีหน้าที่ 1.กำกับ 2.ดูแล 3.ควบคุม 4.ตรวจสอบ หรือ 5.ดำเนินคดี แต่ฝ่ายที่กล่าวหาคือ คตส. อ้างว่านายกฯเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ จึงทำสัญญาไม่ได้ เพราะนายกฯมีอำนาจกำกับตรวจสอบ แต่เราบอกว่า นายกฯไม่มีอำนาจ 1-5 ในกองทุนฟื้นฟูฯ

       ต่อมาเขาก็ไปอ้างพ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 มาตรา 11(1) ซึ่งมาตราดังกล่าว เป็นอำนาจการกำกับควบคุมโดยทั่วไป และไม่มีมาตราไหนใน พ.ร.บ.ฉบับนี้ ที่บอกให้นายกฯมีอำนาจควบคุมแบงก์ชาติ หรือกองทุนฟื้นฟูฯ เพราะกองทุนฟื้นฟูฯเป็นนิติบุคคล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังยังไปสั่งแบงก์ชาติไม่ได้ และยิ่งไปสั่งกองทุนฟื้นฟูฯไม่ได้เลย เนื่องจากกฎหมายกำหนดให้เป็นนิติบุคคล มีกรรมการกองทุน ดังนั้นยิ่งนายกฯจะไปสั่งกระทรวงการคลัง เพื่อให้ไปสั่งแบงก์ชาติ เพื่อให้แบงก์ชาติไปสั่งกองทุนฟื้นฟูฯ ยิ่งไกลไปใหญ่

       ที่สำคัญกฎหมายนี้ถือเป็นกฎหมายจำกัดสิทธิ การตีความกฎหมายจำกัดสิทธิ ต้องตีความแบบเคร่งครัด ไม่ใช่ตีความแบบครอบจักรวาล ผมว่าต้องขอชื่นชมคุณนาม เพราะท่านบอกว่าเรื่องนี้ต้องให้ศาลตัดสิน ถือว่าเป็นกลาง เราก็อยากจะให้ทาง คตส.มีความเป็นกลาง เราขอแค่ความเป็นกลางและความเป็นธรรมเท่านั้นเอง เราพร้อมปฏิบัติตามกฎหมาย

       O แต่เรื่องนี้ยังไม่เคยมีการตีความชัดๆ เลยใช่หรือไม่

       ไม่เคยเลยครับยังไม่เคยลึกถึงขนาดนั้น แล้วก็ต้องยินดีที่คุณสว่างจิตต์ (นางสว่างจิตต์ จัยวัฒน์) ซึ่งปัจจุบันเป็นรองผู้ว่าการแบงก์ชาติ และในขณะนั้นเป็นผู้จัดการกองทุนฟื้นฟูฯ ท่านบอกว่าได้หารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว ยืนยันว่าทำได้ เขาเป็นฝ่ายขาย เขาก็ต้องดูว่าทำได้หรือไม่ ก็อาจจะต้องหารือกับคณะกรรมการกฤษฎีกา อัยการ และ ป.ป.ช. แต่เราก็ไม่เคยเห็นหนังสือหารือนะ

       อย่างนี้แสดงว่าหนังสือยินยอมที่พ.ต.ท.ทักษิณ เซ็นให้คุณหญิงไปซื้อที่ดิน ก็ไม่เกี่ยวข้องกัน

       การเซ็นยินยอมให้ไปโอนสิทธิและนิติกรรมเป็นความจำเป็นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เพราะถือว่าสามีภรรยาเป็นคนๆ เดียวกัน แต่ถ้ามันไม่ผิดตามมาตรา 100 ก็ไม่มีประเด็นที่จะต้องไปพิจารณาเรื่องนี้

       เพราะฉะนั้นประเด็นข้อกฎหมายในเรื่องนี้อยู่ที่ว่าเขาบอกว่านายกฯควบคุม เราบอกนายกฯไม่ควบคุม ยกตัวอย่างง่ายๆ ถ้านายกฯไปซื้อตั๋วเครื่องบินการบินไทย เท่ากับนายกฯทำสัญญากับการบินไทยซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจแล้ว ถ้าอ้างว่านายกฯควบคุมรัฐมนตรีคมนาคม หรือรัฐมนตรีคลัง และรัฐมนตรีทั้งสองควบคุมการบินไทย นายกฯก็ถือว่ากำกับการบินไทยด้วย อย่างนี้นายกฯอยู่กลางอากาศก็ต้องเชิญลง เพราะสัญญาซื้อตั๋วเป็นโมฆะ

       นายกฯมีบ้านจะไปขอใช้ไฟฟ้ากับการไฟฟ้านครหลวง สัญญาการใช้ไฟกับการไฟฟ้านครหลวงก็ต้องเป็นโมฆะด้วย เพราะไปอ้างว่า นายกฯไปควบคุมกระทรวงมหาดไทย แล้วมหาดไทยไปควบคุมบอร์ดการไฟฟ้านครหลวงอีกที...จริงมั้ยครับ

       มีบางคนบอกว่าไม่โมฆะเพราะเป็นสัญญาบริโภคแต่มาตรา 100 ไม่ได้เขียนไว้เลยว่าเป็นสัญญาบริโภคหรือไม่ เขียนเอาไว้แต่ว่าห้ามเจ้าพนักงานของรัฐทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐที่ตนเองมีอำนาจควบคุมกำกับ ประเด็นเหล่านี้ก็คงต้องให้ศาลท่านวินิจฉัยว่ามีอำนาจควบคุม กำกับ ดูแลหรือไม่

       แล้วอีกอย่างหนึ่งเจตนารมณ์ของกฎหมาย ถ้าดูดีๆ เขาป้องกันไม่ให้เจ้าหน้าที่ของรัฐไปใช้อิทธิพลของตนในการที่จะให้สัญญากับใคร แต่เรื่องที่ดินมันเป็นการประมูล คุณไม่มีโอกาสที่จะไปบีบบังคับให้กองทุนฟื้นฟูฯให้หรือไม่ให้คุณหญิงได้ เพราะมันเป็นการสู้ราคาสูงสุด กับอีกประเด็นหนึ่งคือมันไกลมากที่จะไปควบคุมแบงก์ชาติ แล้วแบงก์ชาติจะไปควบคุมกองทุนฟื้นฟูฯ เพื่อให้กองทุนฟื้นฟูฯอำนวยประโยชน์ให้กับคุณหญิง

       เจตนารมณ์ของกฎหมายเป็นอีกแบบหนึ่งฉะนั้นเราอย่าตีความเกินกว่าที่บทบัญญัติของกฎหมายมันเปิดช่องให้ทำได้ คือถ้าตีความแบบตะแบง หรือตีความประเภทต้องให้มันผิดอะไรสักอย่าง มันไม่ใช่วิธีการตีความกฎหมาย และเมื่อเกิดปัญหา มันอาจจะทำให้เกิดความไม่สมานฉันท์ในชาติได้...อันนี้พูดตรงๆ เพราะมันต้องตีความไปตามหลักของกฎหมาย

       O แล้วในประเด็นจริยธรรมทางการเมือง หรือจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่มีการพูดกันมากในขณะนี้ ซึ่งเกี่ยวข้องกับหลายๆ กรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ และคนใกล้ชิดทำในช่วงที่ยังมีอำนาจ คุณนพดลมองอย่างไร

       ผมคิดว่าถ้าทำถูกต้องตามกฎหมายอย่างเรื่องภาษี คือในเรื่องกฎหมายบอกว่าไม่ต้องเสีย เราก็ไม่เสีย คือเขาปฏิบัติตามกฎหมายในขณะนั้นๆ ก็ไม่มีปัญหาเรื่องจริยธรรม ในเมื่อเราหารือไปแล้วว่า ไม่ต้องชำระ แล้วท่านนายกฯก็บอกว่าไม่ต้องไปตะแบงนะ ในเมื่อเขามีคำวินิจฉัยว่าไม่ต้องชำระ เราก็ไม่ชำระตามนั้น ผมคิดว่าในเมื่อไม่ผิดกฎหมาย มันก็ไม่ผิดจริยธรรม

       O มาเป็นทนายให้ครอบครัวชินวัตร ท่ามกลางกระแสต่อต้านระบอบทักษิณแบบนี้ มีความกดดันบ้างหรือเปล่า

       ก็มีคนเห็นด้วยกับไม่เห็นด้วยในการทำหน้าที่ของผมคนโทร.มาให้กำลังใจก็มี คนไม่เห็นด้วยก็มี ในชีวิตคนเรามันก็มีขึ้นมีลง มีสูงมีต่ำเป็นธรรมดา ผมคิดว่าผมก็ได้ทำงานตามวิชาชีพของผม ผมก็ต้องทำหน้าที่ของผม และผมก็เคารพท่านนายกฯทักษิณ ผมก็ยินดีทำให้...ไม่มีปัญหา เวลาผ่านไป เมื่อสถานการณ์ทางการเมืองมันพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น บรรยากาศของเสรีภาพทางความคิดเห็นมันดีขึ้นกว่านี้ ผมคิดว่าคนก็คงจะเข้าใจ

       แต่ไม่เป็นไรเราร้องเพลงมาย์ เวย์ (My Way : เพลงยอดนิยมของ แฟรงค์ สิเนตร้า) กำหนดชะตากรรมของตัวเอง อาจจะไม่ได้ร้องเพลงผู้ชนะสิบทิศเหมือนป๋าเหนาะ (นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช) แต่เอาเพลงมาย์เวย์ เราต้องเชื่อมั่นในสิ่งที่เราทำ เราต้องพร้อมรับคำวิจารณ์

http://www.bangkokbiznews.com/level3/news_120433.jsp
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-11-2006, 21:58 โดย รวงข้าวล้อลม » บันทึกการเข้า

&..หลายๆทำไม ..คุณตอบได้ไหม ?
http://www.oknation.net/blog/roungkaw/2008/05/27/entry-4
ชอบแถ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,138



« ตอบ #17 เมื่อ: 17-11-2006, 22:00 »

ไฟเหลือง ใครจะกล้าตีความเป็นไฟแดง หรือไฟเขียวหละครับ มันเป็นบรรทัดฐานนะครับ
แต่อันนี้มันคนละกรณีกับเรื่องหุ้นที่มีบางกลุ่มอยากได้ แต่จะใช้วิธีทางกฎหมายกดราคา
ให้ต่ำแล้วมาซื้อ ข่าวมีตั้งเยอะ ผมให้ความเห็นเดี๋ยวจะโดนลบอีก กระทู้เก่าก็มีครับ
บันทึกการเข้า
ooo
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 670


« ตอบ #18 เมื่อ: 17-11-2006, 22:21 »



---อีกประเด็นหนึ่งพอมาถึงการตั้งรัฐบาล  เป็นรัฐบาลเฉพาะกิจ  เพื่อมาช่วยบริหารชั่วคราว
ช่วย คมช ในการทำ สี่ข้อให้กระจ่าง  และทำให้เกิดการบริหารแบบมีประชา
ธิปไตย  โดยการเคลียร์ความไม่โปร่งใสในการเลือกตั้งให้มันโปร่งใสขึ้น
พร้อมทั้งจัดการเลือกตั้งให้เกิดขึ้นโดยเร็ว 
เพื่อให้เกิดรัฐบาลที่มาจากการ
เลือกโดยประชาชนที่แท้จริง   แต่รัฐบาลนี้กลับมาคิดบริหารซะเอง  มาคิดนโยบายซะเอง
ท่านได้ช่วยแก้ปัญหาวิกฤตบ้างแล้วหรือยัง----


ประเด็นนี้เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ
บันทึกการเข้า
รวงข้าวล้อลม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,103



เว็บไซต์
« ตอบ #19 เมื่อ: 18-11-2006, 11:04 »



---อีกประเด็นหนึ่งพอมาถึงการตั้งรัฐบาล  เป็นรัฐบาลเฉพาะกิจ  เพื่อมาช่วยบริหารชั่วคราว
ช่วย คมช ในการทำ สี่ข้อให้กระจ่าง  และทำให้เกิดการบริหารแบบมีประชา
ธิปไตย  โดยการเคลียร์ความไม่โปร่งใสในการเลือกตั้งให้มันโปร่งใสขึ้น
พร้อมทั้งจัดการเลือกตั้งให้เกิดขึ้นโดยเร็ว 
เพื่อให้เกิดรัฐบาลที่มาจากการ
เลือกโดยประชาชนที่แท้จริง   แต่รัฐบาลนี้กลับมาคิดบริหารซะเอง  มาคิดนโยบายซะเอง
ท่านได้ช่วยแก้ปัญหาวิกฤตบ้างแล้วหรือยัง----




ประเด็นนี้เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ



---คุณลุงม้วนคะ----ขอบคุณนะคะที่เข้ามาแสดงความคิดเห็น
รบกวนสักนิดนะคะ  ช่วยขยายความหน่อยว่า  เห็นด้วยอย่างไร
ทำไมจึงเห็นด้วย


---เวลาดูข่าวเกี่ยวกับรัฐบาล  อดที่จะตั้งคำถามประเด็นนี้ไม่ได้
ว่า  หนึ่งปีเท่านั้นเอง  ทำไมเค้ามัวคิดแต่เรื่องนโยบายมากนักล่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-11-2006, 11:25 โดย รวงข้าวล้อลม » บันทึกการเข้า

&..หลายๆทำไม ..คุณตอบได้ไหม ?
http://www.oknation.net/blog/roungkaw/2008/05/27/entry-4
ooo
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 670


« ตอบ #20 เมื่อ: 18-11-2006, 22:48 »



---อีกประเด็นหนึ่งพอมาถึงการตั้งรัฐบาล  เป็นรัฐบาลเฉพาะกิจ  เพื่อมาช่วยบริหารชั่วคราว
ช่วย คมช ในการทำ สี่ข้อให้กระจ่าง  และทำให้เกิดการบริหารแบบมีประชา
ธิปไตย  โดยการเคลียร์ความไม่โปร่งใสในการเลือกตั้งให้มันโปร่งใสขึ้น
พร้อมทั้งจัดการเลือกตั้งให้เกิดขึ้นโดยเร็ว 
เพื่อให้เกิดรัฐบาลที่มาจากการ
เลือกโดยประชาชนที่แท้จริง   แต่รัฐบาลนี้กลับมาคิดบริหารซะเอง  มาคิดนโยบายซะเอง
ท่านได้ช่วยแก้ปัญหาวิกฤตบ้างแล้วหรือยัง----




ประเด็นนี้เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ



---คุณลุงม้วนคะ----ขอบคุณนะคะที่เข้ามาแสดงความคิดเห็น
รบกวนสักนิดนะคะ  ช่วยขยายความหน่อยว่า  เห็นด้วยอย่างไร
ทำไมจึงเห็นด้วย


---เวลาดูข่าวเกี่ยวกับรัฐบาล  อดที่จะตั้งคำถามประเด็นนี้ไม่ได้
ว่า  หนึ่งปีเท่านั้นเอง  ทำไมเค้ามัวคิดแต่เรื่องนโยบายมากนักล่ะ


แทบไม่ต้องขยายความอะไรหรอกครับ เพราะที่คุณรวงข้าวฯว่าไว้ค่อนข้าง

ชัดเจนและตรงกับสถานการณ์ปัจจุบันอยู่แล้ว

ก็อย่างที่ว่า ระยะเวลาปีเดียว (ถ้าไม่โกหกกัน) มันจะไปทำอะไรได้ ทำไปแล้ว

ก็ไม่รู้ว่ารัฐบาลชุดใหม่จะเห็นชอบด้วยหรือไม่ ไม่รู้จะถูกรื้อหรือไม่

จริงๆแล้วผมว่ารัฐบาลชุดนี้ควรจะเร่งดำเนินการตามเหตุ 4 ข้อของการปฎิวัติของ

คมช.แล้วรีบคืนอำนาจให้กับประชาชนโดยเร็วที่สุด แต่ขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณใดๆ

ที่ทำให้ผมมั่นใจว่าจะมีการคืนอำนาจให้ภายในระยะเวลาที่สัญญาไว้ ตรงกันข้าม

มันกลับทำให้ผมขาดความเชื่อมั่นลงไปเรื่อยๆ  ทั้งรัฐบาลและคมช.กลับไม่เร่งดำเนินการ

ในเรื่องนี้ เพื่อให้ประชาชนเชื่อมั่นว่า จะมีการเลือกตั้งภายในเวลาตามสัญญา กลับมัวแต่

คิดบริหารบ้านเมืองในเรื่องที่ไม่ใช่สิ่งจำเป็นที่จะต้องกระทำ อย่างเช่นเรื่องเล็กๆ อย่างกม.

ห้ามโฆษณาเหล้า เบียร์ ผมไม่เห็นว่ามันจะเป็นเรื่องเร่งด่วนที่จะต้องรีบทำตรงไหน แถมกม.

ฉบับนี้ยังลิดรอนสิทธิของคนบางคนด้วย แม้เสียงส่วนใหญ่ในสังคมจะเห็นด้วย แต่ก็ยังมีเสียง

ส่วนน้อยที่ไม่เห็นด้วยอยู่ ( ผมละเซ็งทุกทีเมื่อดูข่าวกีฬาฟุตบอล) ส่วนเรื่องใหญ่เกี่ยงกับโครงสร้าง

ตำรวจ ก็ไม่ควรทำ ควรปล่อยให้เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง

อะไรก็ตามที่กระทบสิทธิคนในชาติแม้จะเป็นเพียงเสียงส่วนน้อย รัฐบาลนี้ก็ไม่ควรกระทำ...

จะได้ไม่มีใครรู้สึกว่าถูกเผด็จการรังแก!
บันทึกการเข้า
รวงข้าวล้อลม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,103



เว็บไซต์
« ตอบ #21 เมื่อ: 18-11-2006, 22:54 »



---อีกประเด็นหนึ่งพอมาถึงการตั้งรัฐบาล  เป็นรัฐบาลเฉพาะกิจ  เพื่อมาช่วยบริหารชั่วคราว
ช่วย คมช ในการทำ สี่ข้อให้กระจ่าง  และทำให้เกิดการบริหารแบบมีประชา
ธิปไตย  โดยการเคลียร์ความไม่โปร่งใสในการเลือกตั้งให้มันโปร่งใสขึ้น
พร้อมทั้งจัดการเลือกตั้งให้เกิดขึ้นโดยเร็ว 
เพื่อให้เกิดรัฐบาลที่มาจากการ
เลือกโดยประชาชนที่แท้จริง   แต่รัฐบาลนี้กลับมาคิดบริหารซะเอง  มาคิดนโยบายซะเอง
ท่านได้ช่วยแก้ปัญหาวิกฤตบ้างแล้วหรือยัง----




ประเด็นนี้เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ



---คุณลุงม้วนคะ----ขอบคุณนะคะที่เข้ามาแสดงความคิดเห็น
รบกวนสักนิดนะคะ  ช่วยขยายความหน่อยว่า  เห็นด้วยอย่างไร
ทำไมจึงเห็นด้วย


---เวลาดูข่าวเกี่ยวกับรัฐบาล  อดที่จะตั้งคำถามประเด็นนี้ไม่ได้
ว่า  หนึ่งปีเท่านั้นเอง  ทำไมเค้ามัวคิดแต่เรื่องนโยบายมากนักล่ะ


แทบไม่ต้องขยายความอะไรหรอกครับ เพราะที่คุณรวงข้าวฯว่าไว้ค่อนข้าง

ชัดเจนและตรงกับสถานการณ์ปัจจุบันอยู่แล้ว

ก็อย่างที่ว่า ระยะเวลาปีเดียว (ถ้าไม่โกหกกัน) มันจะไปทำอะไรได้ ทำไปแล้ว

ก็ไม่รู้ว่ารัฐบาลชุดใหม่จะเห็นชอบด้วยหรือไม่ ไม่รู้จะถูกรื้อหรือไม่

จริงๆแล้วผมว่ารัฐบาลชุดนี้ควรจะเร่งดำเนินการตามเหตุ 4 ข้อของการปฎิวัติของ

คมช.แล้วรีบคืนอำนาจให้กับประชาชนโดยเร็วที่สุด แต่ขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณใดๆ

ที่ทำให้ผมมั่นใจว่าจะมีการคืนอำนาจให้ภายในระยะเวลาที่สัญญาไว้ ตรงกันข้าม

มันกลับทำให้ผมขาดความเชื่อมั่นลงไปเรื่อยๆ  ทั้งรัฐบาลและคมช.กลับไม่เร่งดำเนินการ

ในเรื่องนี้ เพื่อให้ประชาชนเชื่อมั่นว่า จะมีการเลือกตั้งภายในเวลาตามสัญญา กลับมัวแต่

คิดบริหารบ้านเมืองในเรื่องที่ไม่ใช่สิ่งจำเป็นที่จะต้องกระทำ อย่างเช่นเรื่องเล็กๆ อย่างกม.

ห้ามโฆษณาเหล้า เบียร์ ผมไม่เห็นว่ามันจะเป็นเรื่องเร่งด่วนที่จะต้องรีบทำตรงไหน แถมกม.

ฉบับนี้ยังลิดรอนสิทธิของคนบางคนด้วย แม้เสียงส่วนใหญ่ในสังคมจะเห็นด้วย แต่ก็ยังมีเสียง

ส่วนน้อยที่ไม่เห็นด้วยอยู่ ( ผมละเซ็งทุกทีเมื่อดูข่าวกีฬาฟุตบอล) ส่วนเรื่องใหญ่เกี่ยงกับโครงสร้าง

ตำรวจ ก็ไม่ควรทำ ควรปล่อยให้เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง

อะไรก็ตามที่กระทบสิทธิคนในชาติแม้จะเป็นเพียงเสียงส่วนน้อย รัฐบาลนี้ก็ไม่ควรกระทำ...

จะได้ไม่มีใครรู้สึกว่าถูกเผด็จการรังแก!


ขอบคุณมากค่ะ  ลุงม้วน  นึกว่ากระทู้ตกไปซะแล้ว
ขอบคุณมากนะคะที่เข้ามาตอบ
บันทึกการเข้า

&..หลายๆทำไม ..คุณตอบได้ไหม ?
http://www.oknation.net/blog/roungkaw/2008/05/27/entry-4
หน้า: [1]
    กระโดดไป: