ยุติธรรมเฉียบ! “มานิตย์” มีโทษเตรียมไล่ออกสถานเดียว

ลองพูดให้จริง ทำให้จริง แล้วอย่าโกรธกัน บ้านเมืองจะสงบขึ้นเยอะ

------------------------------------------------------------------------------------------------------

ปลัดยุติธรรม “จรัญ ภักดีธนากุล” ชี้ชัด “มานิตย์ สุธาพร” มีโทษต้องออกจากราชการสถานเดียว หลัง ป.ป.ช.วินิจฉัยทุจริตต่อหน้าที่ราชการ ผิดวินัยร้ายแรง เตรียมเสนอเข้าที่ประชุม อ.ก.พ.กระทรวงยุติธรรม พิจารณาโทษไล่ออกหรือให้ออกโดยให้บำเหน็จบำนาญ

วันนี้ (17 พ.ย.) ที่กระทรวงยุติธรรม นายจรัญ ภักดีธนากุล ปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลว่านายมานิตย์ สุธาพร รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ขณะดำรงตำแหน่งรองอธิบดีกรมบังคับคดี ทุจริตและปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบว่า เมื่อ ป.ป.ช.ชี้มูลว่านายมานิตย์กระทำผิดวินัยร้ายแรง จากการตรวจสอบข้อกฎหมายกระทรวงยุติธรรมซึ่งเป็นต้นสังกัด ไม่อาจตั้งคณะกรรมการขึ้นมาทบทวนซ้ำว่ามีความผิดจริงหรือไม่ แต่จะต้องดำเนินการลงโทษทางวินัยตามคำวินิจฉัยของ ป.ป.ช.สถานเดียว โดยเมื่อได้รับหนังสือชี้มูลความผิดอย่างเป็นทางการจาก ป.ป.ช.แล้ว ตนจะนำเข้าที่ประชุมคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อ.ก.พ.) กระทรวงยุติธรรม ให้พิจารณาโทษนายมานิตย์ตามระเบียบ โดยกระทรวงจะไม่ทำให้เร่งรีบจนเกินไป เพราะจะถูกกล่าวหาได้ว่าตั้งเรื่องเตรียมลงโทษเอาไว้แล้ว ขณะเดียวกันก็จะไม่ทำให้ล่าช้าเพราะจะถูกตำหนิได้ว่าเป็นการเตะถ่วงเพื่อช่วยเหลือกัน

“โทษทางวินัยร้ายแรงที่นายมานิตย์ต้องรับ โดย อ.ก.พ.กระทรวงจะพิจารณามี 2 ระดับ แต่ท้ายที่สุด คือ ต้องให้ออกจากราชการ หากรุนแรงสุดคือ ไล่ออก แต่ถ้าพิจารณาความดีในการรับราชการมาก็อาจเหลือระดับให้ออกจากราชการแล้วให้บำเหน็จบำนาญ ซึ่ง อ.ก.พ.กระทรวงจะเป็นผู้พิจารณาว่านายมานิตย์สมควรได้รับโทษระดับใด” นายจรัญ กล่าว และว่าหากนายมานิตย์จะชิงลาออกจากราชการก็ไม่มีผล เพราะความผิดเกิดขึ้นแล้ว โทษทางวินัยจะต้องติดตัวไปด้วย

นายจรัญ กล่าวอีกว่า คำวินิจฉัยของ ป.ป.ช.ให้ส่งเรื่องไปยังสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดี นายมานิตย์มีสิทธิต่อสู้ตามกฎหมาย ส่วนการติดตามเงินที่ได้ไปจากการทุจริตเป็นส่วนของคดีแพ่ง ที่ต้องแยกส่วนต่างหากจากคดีอาญา อย่างไรก็ตาม กรณีดังกล่าวไม่เชื่อมโยงกับการรับเงินบริจาคของมูลนิธิประมาณ ชันซื่อ จึงไม่อาจโยงเข้าไปเกี่ยวกัน เพื่อตรวจสอบธุรกรรมการเงินได้

ปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวด้วยว่า ส่วนการสอบสวนเรื่องการเบิกจ่ายงบประมาณซ้ำซ้อน และการนำงบลับของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ไปสำรองใช้ในการเดินทางดูงานต่างประเทศด้านนิติวิทยาศาสตร์นั้นยังคงต้องสอบสวนต่อไป แต่ความสำคัญจะลดลง เพราะนายมานิตย์ถูกลงโทษทางวินัยร้ายแรงอยู่แล้ว ซึ่งคณะกรรมการสอบสวนความผิดทางวินัย ที่นายชัยเกษม นิติสิริ รองอัยการสูงสุด เป็นประธานคณะกรรมการ ต้องเร่งสอบสวนให้ได้ข้อสรุปโดยเร็ว โดยตนได้กำชับให้แยกผู้บริสุทธิ์ที่ถูกกล่าวหาออกมาให้ความเป็นธรรม ในส่วนของ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ รักษาการผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งถูกสอบสวนเรื่องการเดินทางไปดูงานต่างประเทศกับนายมานิตย์นั้น ตนจะรอฟังผลการสอบสวนความผิดทางวินัยร้ายแรงก่อน ในระหว่างนี้จะยังไม่พิจารณาปรับย้าย พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ รักษาการผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ไปตำแหน่งอื่น