ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
28-04-2024, 19:37
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  อยากยุให้ชาวบ้านที่ถูก(ปล่อย)น้ำท่วม ฟ้องศาลปกครอง 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
อยากยุให้ชาวบ้านที่ถูก(ปล่อย)น้ำท่วม ฟ้องศาลปกครอง  (อ่าน 1740 ครั้ง)
cameronDZ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,827


my memory


« เมื่อ: 15-11-2006, 20:16 »

ดูรายการ คนค้นคน เมื่อวาน เรื่องน้ำท่วม

ผมว่าประเทศเราชักจะ "เพี้ยน" ในด้านความคิด/ความรู้สึกกันไปใหญ่แล้ว
ในเรื่องของการ จัดการปัญหาน้ำท่วม แบบ "สละอวัยวะ รักษาชีวิต" ที่เอามาพูดอ้างกันนักหนา
โดยการผลักดันให้น้ำเข้าไปท่วมพื้นที่รอบนอก ต่างจังหวัด ต่างอำเภอ
เพื่อป้องกันพื้นที่เขตตัวเมือง พื้นที่เศรษฐกิจ ที่สำคัญคือพื้นที่ กรุงเทพฯ ของคนเสียงดัง

คือ คุณมีสิทธิป้องกันหรือแก้ปัญหาน้ำท่วมได้ แต่คุณไม่มีสิทธิจะไปตัดสินว่า ควรให้น้ำไปท่วมแถวบ้านตาสีตาสา ดีกว่าท่วมบ้านคนกรุงเทพฯ

ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ในรัฐธรรมนูญไม่มีความหมายใช่ไหม
คนที่ถูกมองว่าเป็นคนชั้นรากหญ้า ไม่มีปากเสียง ไม่มีความหมายในเชิงเศรษฐกิจ
จึงมีค่าเป็นแค่ "อวัยวะ" ที่ควรเสียสละ

เราเห็นประโยชน์ส่วนตัวกันจนลืมความคิดเชิงมโนธรรม/จริยธรรม กันแล้วใช่ไหม
จึงคิดได้แค่ว่า เราควรจะ "สงสาร" พวกเขาเหล่านั้น
ที่ "ต้อง" ยอมเสียสละ แทนพวกเรา
แทนที่จะคิดว่า เขาไม่ควรจะได้รับการจัดการแบบ "ไม่เป็นธรรม" อย่างนี้แต่ต้น

ผมบอกตามตรงว่าดูรายการ คนค้นคน แล้วสะอิดสะเอียนมาก
อันดับแรก ก็สะอิดสะเอียน ความ "กระแดะ" อ้างมโนสำนึกของทางรายการนั่นแหละ
ที่ใช้ความคิดแบบ "ชนชั้นกลาง" ตัดสินว่า เราควรจะขอบคุณและสำนึกในบุญคุณของพวกเขาเหล่านั้น

พวกเขาไม่ได้เกิดมา เพื่อสร้างบุญคุณ ยอมทุกข์ยากเพื่อ "ชนชั้นกลาง" แบบเรา ๆ สักหน่อย
ผมจะไม่ยอมบริจาค หรือ ทำการใด ๆ อันเป็นเหมือนการลบล้าง "ความรู้สึกผิด" ร่วมกันของคนเมือง-ชนชั้นกลาง

รู้สึกรับไม่ได้ ที่จะบริจาคเงิน ข้าวของเครื่องใช้ เพื่อให้ตัวเองเกิดความรู้สึกว่า "ขอบคุณครับ ที่น้ำไม่ท่วมบ้านผม"

อยากให้ พวกเขาที่ได้รับผลกระทบจาก น้ำท่วม อย่างไม่เป็นธรรมชาติ
รวมตัวกันฟ้องศาลปกครองจังเลย
จะแพ้หรือชนะ ก็จะได้รู้กันไปว่า "รัฐ" ไม่มีสิทธิจัดการปัญหาของประเทศ แบบแบ่งแยกชนชั้น สถานะ
บันทึกการเข้า

ข้าพเจ้าอยู่ที่นี่มาหลายปี ยังไม่เคยได้รับคำขอโทษ ขอขมา
จากใครแม้แต่สักคนเดียวเลย
...เช่นกัน คำขอบคุณ ก็ยังไม่เคยมีสักคำ...
แต่ข้าพเจ้าคิดว่า ในใจพวกเขาคงคิดคำเหล่านี้อยู่บ้างหรอก
...แค่คิด ไม่ต้องบอกออกมา ข้าพเจ้าก็พอใจแล้ว...
พรรณชมพู
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,073


« ตอบ #1 เมื่อ: 15-11-2006, 20:29 »

ถ้าจะพูดถึงธรรมชาติ  เมืองไทยเป็นอู่ข้าวอู่น้ำ  หมายถึงปลูกข้าวได้เยอะ และมีน้ำมาก

ครั้งสมัยกรุงศรีอยุธยา พม่ายกทัพเข้ามาตีกรุงศรี กลยุทธในการศึกอย่างหนึ่ง คือการรบถ่วงเวลาจนกระทั่งถึงหน้าน้ำ น้ำจะท่วมบ่าจากทางภาคเหนือ จนท่วมทุ่งนารอบกรุงจนหมด คงเหลือแต่พื้นที่ในวัดบางแห่ง ที่เป็นเนิสูง จากการขนทรายเข้าวัด ตามประเพณีโบราณของไทยเท่านั้น พม่าทนน้ำท่วมไม่ไหว เป็นโรคพม่าฟุต เพื่อนของฮ่องกงฟุต ต้องยกทัพกลับหงสา หน้าแล้งค่อยว่ากันใหม่

ที่เล่ามาให้ฟัง เพราะอึดอัดกับปัญหาน้ำท่วม ที่มันไม่ใช่ปัญหา  น้ำมันต้องท่วมอยู่แล้ว เพราะพื้นที่ที่เป็นปัญหานั้น เขาเรียกว่า ที่ราบลุ่มเจ้าพระยา น้ำจะท่วมทุกปี ไม่ว่าจะมากหรือน้อย

ไปเที่ยวดำเนินสะดวก เขาเล่าประวัติน้ำให้ฟังว่า บ้านหรือร้านค้าแถบนั้น เขาปลูกสองชั้น สมัยก่อนหน้าน้ำ เขาย้ายไปอยู่ชั้นสอง เรือเทียบได้ที่ชานบนชั้นสอง ขายของได้ พอน้ำลดหน้าแล้งเขาย้ายกันลงมาขายชั้นล่าง  ไม่ต้องร้อคราครวญว่าน้ำท่วม

เพราะน้ำท่วมเป็นเรื่องธรรมชาติค่ะ

อยู่กับธรรมชาติ ยอมรับเสียทีว่าหน้าน้ำ น้าต้องท่วม เดือนสิบเอ็ดน้ำนอง เดือนสิบสองน้ำทรง พิเดือนอ้ายเดือนยี่ น้ำก็รี่ไหลลง คนไทยโบราณท่านรู้มานานนักหนาแล้ว คนอยุธยา อ่างทอง สุพรรณบุรี สุโขทัย พิจิตร ฯลฯ เขาอยู่กับน้ำมาได้เป็นร้อยๆปีแล้ว ทำไมคนเดี๋ยวนี้อยู่ไม่เป็น

ปัญญาไปไหนกันหมดคะ ไม่เข้าใจจริงๆ รู้ทั้งรู้ว่าน้ำมันต้องท่วมในหน้าน้ำ ก็ดันปลูกบ้านทรงสเปน ปลูกตึกกล่องขนมปังติดดิน น้ำมาก็จะขับรถ พยายามกั้นเขื่อนสูบน้ำกันเหยงๆ  ถ้าน้ำมันแพงหรือไฟฟ้าแพง จะทำอย่างไรกันคะ

จะสร้างเขื่อน ก็อนุรักษ์กัน น้ำท่วมก็ด่ากัน จะแก้ปัญหาอย่างไรดี

หนูมองๆแล้ว หากยังแก้ปัญหากันที่ปลายเหตุอย่างนี้ ก็วิบัติกันอย่างนี้ตลอดไปค่ะ 
บันทึกการเข้า
Cherub Rock
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,183


น้องๆ ช่วยไปบอกผู้หญิงคนนั้นที ว่าเลิกมองผมได้แล้ว


« ตอบ #2 เมื่อ: 15-11-2006, 20:29 »

เคยได้ยินเรื่องเก็บภาษีน้ำท่วมคน กทม
ไม่รู้ กม ไปถึงไหนแล้ว
บันทึกการเข้า

"นายกรัฐมนตรีกำลังใช้รัฐสภาประกอบพิธีกรรมสถาปนาอำนาจของตนเองโดยเห็นรัฐสภาเป็นเพียงแค่ตรายาง และปล่อยให้มีการทำร้ายประชาชนถือว่าหมดความชอบธรรมแล้ว" รสนา โตสิตระกูล
Solidus
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,381



« ตอบ #3 เมื่อ: 15-11-2006, 20:43 »

ก็ดีครับ ปล่อยให้กรุงเทพท่วม พอไม่มีการช่วยเหลือจังหวัดอื่นที่ถูกน้ำท่วมไม่ต้องมาบ่นนะครับเพราะศูนย์ช่วยเหลือส่วนใหญ่ก็อยู่ที่กรุงเทพ ต้องช่วยตัวเองก่อน น้ำลดแล้วค่อยว่ากัน ส่วนผลผลิตก็ขายกันเองนะครับ เพราะศูนย์กลางด้านซื้อขายโดนน้ำท่วมอยู่ จะรับซื้อขายได้ไง ดดยเฉพาะพวกที่ต้องส่งออกด้วย
บันทึกการเข้า
cameronDZ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,827


my memory


« ตอบ #4 เมื่อ: 15-11-2006, 20:48 »

มองแบบหนูพรรณpink ก็ได้ทั้งเห็นด้วย และเห็นแย้ง

เห็นด้วยเพราะ พูดถูกทุกอย่าง ไม่รู้จะเถียงยังไง

ที่เห็นแย้ง ก็เพราะ "เรื่องมันผ่านไปนานแย้ว" พูดไปก็เท่านั้น

เพราะพลเมืองไทยปัจจุบัน ไม่ว่าจะบ้านนอก บ้านเมือง อยู่กับน้ำ กันไม่เป็นแล้ว
Actualy Happenned ที่เราเห็นก็คือ ถนนขวางทางน้ำ บ้านทรงตึกขนมปัง ทรงสเปน อย่างที่หนูว่า

ไม่เหลือใคร "พร้อม" จะมองน้ำท่วมด้วยสายตาปกติอีกต่อไป

เมื่อมันไม่มีใคร "พร้อม" ก็ไม่ควรไปยัดเยียด น้ำ ให้กับเขา

ก็คงทำได้แค่ ปล่อยให้แม่มท่วมไปอย่างเท่าเทียม เสมอภาค กันไปเลย
ไม่ว่าจะคนกรุง คนบ้านนอก

น่าจะดีกว่า เนาะ
บันทึกการเข้า

ข้าพเจ้าอยู่ที่นี่มาหลายปี ยังไม่เคยได้รับคำขอโทษ ขอขมา
จากใครแม้แต่สักคนเดียวเลย
...เช่นกัน คำขอบคุณ ก็ยังไม่เคยมีสักคำ...
แต่ข้าพเจ้าคิดว่า ในใจพวกเขาคงคิดคำเหล่านี้อยู่บ้างหรอก
...แค่คิด ไม่ต้องบอกออกมา ข้าพเจ้าก็พอใจแล้ว...
พรรณชมพู
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,073


« ตอบ #5 เมื่อ: 15-11-2006, 20:54 »

พลังงานกำลังเข้าสู่ภาวะวิกฤติค่ะ  น้ำนอาจจแพงจนซื้อมาใช้ไม่ไหวในเร็ววันนี้ ไฟฟ้าจะแพงจนไม่สามารถเอามาสูบน้ำได้อย่างฟุ่มเฟือยขนาดนี้  หากไม่แก้ที่ต้นเหตุในวันนี้ วันข้างหน้าลำบากแน่นอนค่ะ

กรุงเทพเองนั้นก็พังแน่นอนค่ะ หากน้ำบ่ามาแล้วไม่มีพลังงานไว้สูบน้ำออกจากเขตเมือง

ไม่นานเกินรอนะคะ 10 ปี 20 ปี หนูยังไม่ตายค่ะ ได้ลอยคอเล่นน้ำแหงๆ ถ้ายังคิดแก้ปัญหากันแบบนี้ กะว่าจะสร้างเรือนแพอยู่ค่ะ แล้วเปิดเพลงคุณตาชรินทร์  คุณตาของหนูแหวนฟังเล่นแก้กลุ้ม เวลาน้ำมา

เรือนแพ สุขจริงอิงกระแสธารา
หริ่งระงม ลมพริ้วมา กล่อมพฤกษา เพียงว่าดนตรี
หลับอยู่ในความรัก รับความชื่น ชั่ววัน และคืนเช่นนี้
กลิ่นดอกไม้รัญจวน ยังอบอวลยวนยี สุดที่จะพรรณนา
เรือนแพ ล่องลอย คอยความรักนานมา
คอยน้ำค้างกรุณา หยาดมา จากดาราแหล่งสวรรค์
วิมานน้อย ลอยริมฝั่ง ถึงอ้างว้าง เหลือใจรำพัน
หิวหรืออิ่ม ก็ยิ้มพอกัน ชีวิตกลางน้ำสุขสันต์
โอ้ สวรรค์ ในเรือนแพ

 
บันทึกการเข้า
AsianNeocon
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,277


中華萬歲﹗ LONG LIVE CHINA!


เว็บไซต์
« ตอบ #6 เมื่อ: 15-11-2006, 21:17 »

อ่านความเห็นคุณพี่คาเมฯ ก็เห็นด้วย พอมาอ่านคุณพี่พรรณฯ เออ ก็จริง

พล.อ.สุรยุทธ์ เคยพูดคล้ายๆกันว่า ความจริงบ้านทรงไทย หรือการสร้างบ้านแบบมีใต้ถุน เหมาะกับภูมิอากาศเมืองไทยอยู่แล้ว การใช้งานต่างๆก็เหมาะกับอาชีพและัวัฒนธรรมดั้งเดิม
บันทึกการเข้า

An.mkII
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,984


Out of kontrol....!!!!!


เว็บไซต์
« ตอบ #7 เมื่อ: 15-11-2006, 21:30 »

บอกไว้ก่อน...ไม่ใช้คนกรุงนะจ๊ะ..

แต่ผมก็คิดถ้า..

ในกรณีนี้..เขาคงจัดคิดว่า..ยอมให้เสียแค่เพียงบางส่วน..ดีกว่าต้องให้มันเสียหมดทุกส่วน..


และก็คงจักไม่ใช้ประเด็นที่ว่าคนกรุงเทพมันเสียงดังรึอะไร..

แต่ประเด็นอยู่ที่ว่ากรุงเทพนั้นมันเป็นศูนย์รวมของการค้าการขายการทำกิจกรรม..ใช้รึไม่...

และถ้ามันต้องเสียไปอะไรมันจักเกิดขึ้น...

ซึ้งผมอยากจะให้คิดถึงตรงจุดนี้ด้วย...



ซึ้งเปรียบได้ง่ายๆว่า..คุณจักยอมเสียแค่เเขน..รึคุณจักยอมตายทั้งชีวิตล่ะครับ...

เพราะถ้าคุณยอมเสียเเค่เเขนและแบบนั้นมันจักเป็นการมิยุติธรรมแก่้เเขนรึไม่..

เลยต้องตายทั้งชีวิตถึงจักยุติธรรมใช้รึไม่...ถ้าว่ากันในประเด็นความยุติธรรม...


ปล.ถ้าปลูกบ้านมีใต้ถุน...  สมัยนี้ต้องเทปูนด้วยครับเพราะเวลาน้ำท่วมจักได้ทำความสะอาดง่าย..

เพราะที่บ้านผมไม่ได้เทปูนหน้าน้ำหลาก..โอยท่วมได้ท่วมดีจนดินเเฉะไปหมดแล้ว....แต่ยังดีี่ที่มันขึ้นไวลงไว้เพราะอยู่ใกล้คลอง...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-11-2006, 21:32 โดย An.mkII » บันทึกการเข้า
Solidus
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,381



« ตอบ #8 เมื่อ: 15-11-2006, 21:38 »

คนต่างจังหวัดเข้ามาทำงานในกรุงเทพ ถ้ากรุงเทพน้ำท่วมพวกนี้ไม่ตกงานรึ
บันทึกการเข้า
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #9 เมื่อ: 17-11-2006, 16:01 »

ประเทศไทยมีพื้นที่ประมาณ 517,000 ตารางกิโลเมตร

เป็นพื้นที่กรุงเทพฯ เพียงประมาณ 560 ตารางกิโลเมตร
หรือคิดเป็น 0.1% ของพื้นที่ประเทศไทย

ต่อให้เอาน้ำเข้ามาท่วมกรุงเทพฯ ทั้งหมดด้วย น้ำก็ลดลง
แค่ 0.1% หรือจากท่วม 1 เมตรก็ลดไปแค่ 1 มิลลิเมตร
ท่วม 3 เมตรก็ลดไป 3 มิลลิเมตรเท่านั้นเองครับ

ไม่ได้เกิดผลดีกับใครที่ไหนเลย

...


ในขณะที่มีประชาชนอาศัยอยู่ และทำกินในกรุงเทพฯ
ถึง 10 ล้านคน หรือประมาณ 1 ใน 6 ของประชากรไทย
และคนเหล่านี้ก็ทำงานหาเงินส่งกลับไปยังจังหวัดบ้านเกิด
ถ้ากรุงเทพฯ เสียหายก็ตายกันทั้งประเทศ

เพราะกรุงเทพฯ เป็นเมืองหลวงของคนไทยทุกคนครับ
ไม่ใช่เป็นของคนกรุงเทพฯ เพียงจังหวัดเดียว


..ผมคิดว่าในเรื่องนี้รัฐบาลทำถูกต้องแล้วครับอย่าตำหนิเลย..
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
ชอบแถ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,138



« ตอบ #10 เมื่อ: 17-11-2006, 16:55 »

เทียบบัญญัติไตรยางค์เลยเว้ยเฮ้ย น้ำท่วมแต่ละที่มันสูงเท่ากันซะที่ไหน ตัวอย่างของพวกชอบประมาณมั่ว
คนเสียสละมันควรสมัครใจ ไม่ใช่ข่มขืนเค้าแบบนี้มันไม่ถูก เสร็จแล้วก็ให้ถุงยังชีพไปถุงนึงทุเรศมั้ยล่ะ ไอ้คน
ไม่โดนบ้างก็พูดได้ว่าสงสาร แต่ไปชดเชยอะไรให้เค้ามั้ยล่ะ พวกนี้เค้าถึงกับหมดตัวเลยนะครับ
บันทึกการเข้า
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #11 เมื่อ: 17-11-2006, 18:11 »

เทียบบัญญัติไตรยางค์เลยเว้ยเฮ้ย น้ำท่วมแต่ละที่มันสูงเท่ากันซะที่ไหน ตัวอย่างของพวกชอบประมาณมั่ว
คนเสียสละมันควรสมัครใจ ไม่ใช่ข่มขืนเค้าแบบนี้มันไม่ถูก เสร็จแล้วก็ให้ถุงยังชีพไปถุงนึงทุเรศมั้ยล่ะ ไอ้คน
ไม่โดนบ้างก็พูดได้ว่าสงสาร แต่ไปชดเชยอะไรให้เค้ามั้ยล่ะ พวกนี้เค้าถึงกับหมดตัวเลยนะครับ

คุณชอบแถ บอกว่าน้ำแต่ละที่สูงไม่เท่ากันก็จริงครับ..

ความจริงน้ำน่ะมันท่วมไล่กันลงมาตอนแรกภาคเหนือตอนบนก่อน แล้วลงมาภาคเหนือตอนล่าง
ภาคกลางตอนบน จากนั้นจึงมาถึงพื้นที่ภาคกลางตอนล่างที่ท่วมหนักที่สุดเพราะเป็นที่ราบลุ่ม
มีความลาดชันน้อยกว่าภาคเหนือ

งั้นเอางี้คิดเฉพาะที่ราบภาคกลางตอนล่าง ซึ่งมีความสูงจากระดับน้ำทะเลเฉลี่ยใกล้เคียงกรุงเทพฯ
ก็จะมีพื้นที่ประมาณ 5 หมื่นตารางกิโลเมตร เมื่อเทียบกันแล้วกรุงเทพฯ ก็ยังมีพื้นที่แค่ 1 % ของ
ที่ราบภาคกลางตอนล่างเท่านั้น

ถ้าน้ำท่วมอ่างทอง สิงห์บุรี อยุธยา สูง 1 เมตร ปล่อยน้ำเข้ากรุงเทพฯ ก็ลดได้แค่ 1 เซ็นติเมตร
ถ้าท่วมสูง 3 เมตร ปล่อยน้ำเข้ากรุงเทพฯ ก็ลดได้แค่ 3 เซ็นติเมตร ไม่ได้เกิดผลดีอะไรเลย
เป็นการทำลายแหล่งการทำมาหากิน ศูนย์กลางเศรษฐกิจของทั้งประเทศไปเปล่าๆ

ตอนนี้เงินที่ส่งไปซ่อมแซมบ้านที่ต่างจังหวัด ก็มาจากลูกหลานที่ทำงานอยู่ในกรุงเทพฯ
ถ้าไม่มีกรุงเทพฯ เหลืออยู่ ป่านนี้ตายกันทั้งประเทศ หมดตัวกันจริงๆ ครับ
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
snowflake
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,207



« ตอบ #12 เมื่อ: 17-11-2006, 18:51 »

เห็นด้วยกับ จขกท. ในแง่ไม่ควรแบ่งชนชั้น
ความทุกข์จากภัยธรรมชาติควรได้รับโดยเสมอภาคกัน
ที่กทม. ก็ไม่ต้องมีเขตชั้นนอกชั้นในอะไรหรอก
เผื่อว่าความเดือดร้อนที่ถึงตัวท่าน “ผู้มีอำนาจ” ทั้งหลาย
จะช่วยให้เข้าใจและเห็นใจหัวอกชาวบ้านมากขึ้น
ความช่วยเหลือจะได้ไปไวๆ หน่อย

แต่ไม่เห็นด้วยเรื่องเหตุผลที่งดบริจาคค่ะ

ได้บริจาคไปแล้ว
มิใช่เพื่อชดเชยความรู้สึกผิด
แต่เพราะไม่มีฤทธิ์เดชอันใด
ที่จะทำอย่างอื่น
ที่เป็นรูปธรรมกว่านั้นได้
เพราะมิใช่ผู้มีอำนาจตัดสินใจ
และคิดว่าชาวบ้านที่ได้รับ
ก็คงไม่เกี่ยงหรอกว่า
เราช่วยเขาด้วยเหตุผลอันใด

Help, however it comes,
Whatever its size, big or small,
For people in need,
Is better than nothing,
That’s what I think.
บันทึกการเข้า

Even the smallest person can change the course of the future.
ชอบแถ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,138



« ตอบ #13 เมื่อ: 17-11-2006, 19:07 »

กทม มีพื้นที่ 1568.7 ตรกม ไม่ใช่เหรอ แล้วเวลาน้ำท่วมบริเวณใกล้ลำน้ำคือแม่น้ำหรือคลองจะท่วมสูงกว่า
บริเวณอื่น ยกเว้นในบริเวณที่เป็นก้นกระทะไม่ใช่หรือครับ ส่วนกรุงเทพเดี๋ยวนี้ก็รวมปริมณฑลไปถึงสมุทร
ปราการ ฉะเชิงเทรา อีก ประมาณกันแบบนี้เถียงกันไม่จบนะครับ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-11-2006, 19:09 โดย ชอบแถ » บันทึกการเข้า
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #14 เมื่อ: 17-11-2006, 20:26 »

กทม มีพื้นที่ 1568.7 ตรกม ไม่ใช่เหรอ แล้วเวลาน้ำท่วมบริเวณใกล้ลำน้ำคือแม่น้ำหรือคลองจะท่วมสูงกว่า
บริเวณอื่น ยกเว้นในบริเวณที่เป็นก้นกระทะไม่ใช่หรือครับ ส่วนกรุงเทพเดี๋ยวนี้ก็รวมปริมณฑลไปถึงสมุทร
ปราการ ฉะเชิงเทรา อีก ประมาณกันแบบนี้เถียงกันไม่จบนะครับ

ผมแวะไปที่เว็บ กทม. เขาว่า พื้นที่ทั้งหมดคือ 1,562.2 ตารางกิโลเมตร
ก็ใกล้เคียงกับที่ คุณชอบแถ บอก  และมากกว่าที่ผมคิดไว้แต่แรก 3 เท่า

แต่ถ้าปล่อยให้น้ำเข้ามาท่วมกรุงเทพฯ รวมทั้งปริมณฑลจริงๆ มันจะแก้
ปัญหาน้ำท่วมที่ราบภาคกลางตอนล่างได้หรือครับ  ดูจากพื้นที่สีแดง
ในแผนที่ เทียบกับพื้นที่ภาคกลางตอนล่างก็เล็กนิดเดียว คงช่วยให้น้ำลด
ได้สัก 10 เซ็นติเมตรกระมัง

แต่พื้นที่แค่นี้คนจากทั่วประเทศมาอาศัยทำมาหากินอยู่ถึง 10 ล้านคน
เมื่อสามารถป้องกันไม่ให้น้ำเข้ามาท่วมได้ ฝ่ายรัฐบาลเขาก็ต้องป้องกัน
แต่ถ้าจะป้องกันพื้นที่ของที่ราบภาคกลางตอนล่างทั้งหมดมันเป็นไปไม่ได้
ผมเห็นว่ารัฐบาลทำถูกแล้ว ต่อให้เป็นรัฐบาล [*_*] ก็ทำดีกว่านี้ไม่ได้

..หรือตกลง คุณชอบแถ เห็นว่าควรยอมให้น้ำท่วมกรุงเทพฯ ล่ะครับ..
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-11-2006, 20:38 โดย jerasak » บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
ชอบแถ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,138



« ตอบ #15 เมื่อ: 17-11-2006, 20:38 »

คือ ท่วมกรุงเทพฯ บ้างก็ได้ มันคงไม่สาหัสเหมือนปี 26 หรอกครับ
อย่างน้อยก็ช่วยให้พื้นที่อื่นๆ ที่น้ำขังอยู่จะได้ไม่ขังนานเหมือนตอนนี้
เพราะตอนนี้เหลือไม่กี่จังหวัดตอนล่างๆ ที่ยังขังไม่เลิก คือ คุณตก
factor เรื่องเวลาน้ำขังอีกอย่าง เพราะจังหวัดตอนล่างๆ จะซวยกว่า
บันทึกการเข้า
Solidus
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,381



« ตอบ #16 เมื่อ: 17-11-2006, 20:44 »

น้ำลดลง 10 cm แต่ความเสียหายเพิ่มขึ้นสักหมื่นล้าน บางคนคงชอบอย่างนี้มากกว่า
บันทึกการเข้า
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #17 เมื่อ: 17-11-2006, 20:48 »

คือ ท่วมกรุงเทพฯ บ้างก็ได้ มันคงไม่สาหัสเหมือนปี 26 หรอกครับ
อย่างน้อยก็ช่วยให้พื้นที่อื่นๆ ที่น้ำขังอยู่จะได้ไม่ขังนานเหมือนตอนนี้
เพราะตอนนี้เหลือไม่กี่จังหวัดตอนล่างๆ ที่ยังขังไม่เลิก คือ คุณตก
factor เรื่องเวลาน้ำขังอีกอย่าง เพราะจังหวัดตอนล่างๆ จะซวยกว่า

ถ้ากรุงเทพฯโดนน้ำท่วมแค่ 30 เซ็นติเมตร ก็จบกันแล้วครับเพราะ
การจราจรจะใช้ไม่ได้ทั้งหมด เผลอๆ ไฟฟ้าจะดับทั้งเมืองอีกด้วย
แค่ค่าซ่อมรถยนต์ที่ถูกแช่น้ำ ซึ่งก็คือรถยนต์ส่วนใหญ่ของประเทศ
ก็เป็นความเสียหายที่ยอมรับไม่ได้แล้วครับ

ความจริงพื้นที่กรุงเทพฯ หลายส่วนก็โดนน้ำท่วมขังเป็นแรมเดือน
อย่างเช่น 2 ฝั่งถนนร่มเกล้าที่ลาดกระบัง น้องสาวผมก็ไปทำงาน
ไม่ได้เกือบเดือน เพราะเอารถออกจากหมู่บ้านไม่ได้ พอน้ำลดยัง
ต้องเสียค่าซ่อมรถไปอีกร่วมหมื่นบาท ดีที่ทำงานอิสระไม่ใช่งาน-
ประจำที่ต้องเข้า office ทุกวัน  คนอื่นในพื้นที่เดือดร้อนมากกว่านี้

เรื่องที่รัฐบาลเขาตัดสินใจทำดีที่สุดแล้วก็อย่าไปตำหนิเขาเลยครับ
หาประเด็นอื่น ที่ผิดพลาดชัดเจนมาตำหนิดีกว่า
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
ชอบแถ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,138



« ตอบ #18 เมื่อ: 17-11-2006, 20:52 »

กรุงเทพไม่ได้ราบเรียบแบนแต๋เหมือนหน้าท้องนางเอกหนังนะครับ จำปี 26 ได้หรือเปล่าครับ
ปีหลังๆ ก่อนทำเขื่อนก็ท่วมรอบนอกกับพื้นที่ริมแม่น้ำ ขนาดถนนเจริญนครยังท่วมไม่หมดเลย
บันทึกการเข้า
cameronDZ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,827


my memory


« ตอบ #19 เมื่อ: 17-11-2006, 21:26 »

เท่าที่อ่าน ๆ มา ผมว่า แต่ละท่าน เถียงกัน คนละประเด็นกับหัวข้อกระทู้ผมเลยนะครับ

อาจจะอ่านไม่จับประเด็น หรือเป็นการแตกยอดความคิดไปตามธรรมชาติของกระทู้ ก็ไม่ทราบได้

ผมติดใจอยู่แต่ว่า ใครบังอาจ-อุตริ ไปกำหนดให้น้ำไปท่วมตรงนั้นตรงนี้ โดยไม่เป็นธรรมชาติต่างหาก
ถ้าท่วมโดยธรรมชาติ ใครจะไปว่าอะไรเล่า

แต่เท่าที่ติดตามข่าวมาระดับหนึ่ง บางพื้นที่ เช่น นครปฐม บริเวณนั้นน้ำจะไม่มีทางท่วมเลย ถ้าไม่ผันน้ำเข้าไป
การบังคับน้ำให้ไหลเข้าไปท่วม (และขัง) ในพื้นที่ที่ไม่ควรจะถูกน้ำท่วมนี่ ใช้สมองส่วนไหนคิดครับ (จะด้วยเหตุผลว่าเพื่อป้องกันพื้นที่ชั้นใน หรืออะไร ก็ไม่น่าจะใช่ความคิดของวิญญูชนนะ)

คือ อย่าใช้ตรรกะเปรียบเทียบเลยว่า กรุงเทพฯเป็นหัวใจ บ้านนอกเป็นแขน เป็นขา มันตลกน่ะครับ ใครเป็นคนกำหนด

จะป้องกันไม่ให้น้ำท่วมพื้นที่เศรษฐกิจ พื้นที่เมือง ก็ทำไปสิ ใครจะว่าอะไร แต่วิธีการ "ทำ" คืออย่างไรล่ะ อันนี้ต้องตอบกันหน่อย
น้ำไม่ท่วมกรุงเทพฯ ในความเป็นมนุษย์ ผมก็ดีใจตายชัก เพราะบ้านผมอยู่นี่ ไปท่วมที่อื่นก็ท่วมไปสิ เพราะผมไม่มีญาติโกโหติกาอยู่แถวนั้นเลย

เพียงแต่ ในใจส่วนลึก ๆ ของผมที่เรียกว่า "สามัญสำนึก" ผมรู้สึกละอายตัวเองครับ ถ้าต้องให้คิดอย่างนี้ทุกเรื่องไป
บางเรื่องก็ต้อง "ฝืนคิด" ขัดแย้งกับความต้องการของตัวเองบ้าง

บันทึกการเข้า

ข้าพเจ้าอยู่ที่นี่มาหลายปี ยังไม่เคยได้รับคำขอโทษ ขอขมา
จากใครแม้แต่สักคนเดียวเลย
...เช่นกัน คำขอบคุณ ก็ยังไม่เคยมีสักคำ...
แต่ข้าพเจ้าคิดว่า ในใจพวกเขาคงคิดคำเหล่านี้อยู่บ้างหรอก
...แค่คิด ไม่ต้องบอกออกมา ข้าพเจ้าก็พอใจแล้ว...
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #20 เมื่อ: 18-11-2006, 01:28 »

เท่าที่อ่าน ๆ มา ผมว่า แต่ละท่าน เถียงกัน คนละประเด็นกับหัวข้อกระทู้ผมเลยนะครับ

อาจจะอ่านไม่จับประเด็น หรือเป็นการแตกยอดความคิดไปตามธรรมชาติของกระทู้ ก็ไม่ทราบได้

ผมติดใจอยู่แต่ว่า ใครบังอาจ-อุตริ ไปกำหนดให้น้ำไปท่วมตรงนั้นตรงนี้ โดยไม่เป็นธรรมชาติต่างหาก
ถ้าท่วมโดยธรรมชาติ ใครจะไปว่าอะไรเล่า

แต่เท่าที่ติดตามข่าวมาระดับหนึ่ง บางพื้นที่ เช่น นครปฐม บริเวณนั้นน้ำจะไม่มีทางท่วมเลย ถ้าไม่ผันน้ำเข้าไป
การบังคับน้ำให้ไหลเข้าไปท่วม (และขัง) ในพื้นที่ที่ไม่ควรจะถูกน้ำท่วมนี่ ใช้สมองส่วนไหนคิดครับ
(จะด้วยเหตุผลว่าเพื่อป้องกันพื้นที่ชั้นใน หรืออะไร ก็ไม่น่าจะใช่ความคิดของวิญญูชนนะ)

คือ อย่าใช้ตรรกะเปรียบเทียบเลยว่า กรุงเทพฯเป็นหัวใจ บ้านนอกเป็นแขน เป็นขา มันตลกน่ะครับ ใครเป็นคนกำหนด

จะป้องกันไม่ให้น้ำท่วมพื้นที่เศรษฐกิจ พื้นที่เมือง ก็ทำไปสิ ใครจะว่าอะไร แต่วิธีการ "ทำ" คืออย่างไรล่ะ อันนี้ต้องตอบกันหน่อย
น้ำไม่ท่วมกรุงเทพฯ ในความเป็นมนุษย์ ผมก็ดีใจตายชัก เพราะบ้านผมอยู่นี่ ไปท่วมที่อื่นก็ท่วมไปสิ เพราะผมไม่มีญาติโกโหติกาอยู่แถวนั้นเลย

เพียงแต่ ในใจส่วนลึก ๆ ของผมที่เรียกว่า "สามัญสำนึก" ผมรู้สึกละอายตัวเองครับ ถ้าต้องให้คิดอย่างนี้ทุกเรื่องไป
บางเรื่องก็ต้อง "ฝืนคิด" ขัดแย้งกับความต้องการของตัวเองบ้าง

เรื่องการผันน้ำเข้าพื้นที่ทางเหนือของกรุงเทพฯ เท่าที่ผมจำได้เริ่มต้นจากในหลวงมีพระบรมราชานุญาต
ให้ผันน้ำเข้าท่วมในพื้นที่ส่วนพระองค์หลายจุด ที่จำได้ก็คือ ทุ่งมะขามหย่อง เพราะชื่อแปลกดี

จากนั้นก็มีข่าวว่าชาวบ้านในพื้นที่ทางเหนือของกรุงเทพฯ เมื่อทราบเรื่องก็เลยยินยอมให้ผันน้ำเข้าที่ดิน
ของชาวบ้านบ้างตามแนวพระราชดำริ ซึ่งก็เหมือนกับเป็นการยอมให้ใช้ที่เพื่อประโยชน์สาธารณะโดย
ถวายแด่ในหลวงนั่นเอง และในการนี้ทางราชการก็มีการคิดค่าใช้พื้นที่ให้กับชาวบ้านรวมถึงคิดค่าเสียหาย
ของพืชผลเกษตรที่ถูกน้ำท่วมเสียหายให้ด้วย  ที่แน่ๆ ทางราชการไม่ได้ปั๊มน้ำใส่เข้าไปในเขตตัวเมือง
ของแต่ละจังหวัดแน่นอน มีแต่ส่วนที่เป็นพื้นที่เกษตรซึ่งส่วนใหญ่ก็คือนาข้าว

การที่รายการคนค้นคนมีเนื้อหาขอบคุณชาวบ้าน ก็คงเพราะการที่ชาวบ้านยินยอมให้ผันน้ำเข้า
ที่ดินของแต่ละคนดังกล่าวมานั่นเอง

ส่วนประเด็นที่ คุณคาเมฯ บอกว่าใครมีสิทธิตัดสินว่าควรให้น้ำไปท่วมตรงไหน หรือไม่ท่วมตรงไหนนั้น
ผมว่ามันก็เหมือนกับประเด็นการตัดถนน หรือสร้างเขื่อนเพื่อประโยชน์สาธารณะ ซึ่งต้องมีการเวนคืนที่ดิน
และเห็นชัดว่าไม่มีการไปต่อรองฟ้องร้องอะไรได้ ต้องย้ายที่อยู่ที่ทำกินหนักกว่าการถูกน้ำท่วมด้วยซ้ำ

...

และการผันน้ำเป็นส่วนหนึ่งของการป้องกันน้ำท่วมกรุงเทพฯ ถ้าไม่ผันน้ำระบบทั้งหมดที่ใช้ป้องกัน
อาจรับมือปริมาณน้ำไม่ไหว ถ้าน้ำทะลักเข้าท่วมตัวเมืองชั้นในคือเกินระดับเขื่อนริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา
ที่มีความสูง 3 เมตร จะเกิดวิกฤติหนักจนรับมือไม่ได้

ดังนั้นทั้งหมดที่รัฐบาลทำในครั้งนี้ผมเห็นด้วยครับ ถ้าจะมีคนผิดผมคิดว่าเป็นรัฐบาลก่อนที่เตรียมการ
รับมือน้ำท่วมไว้ไม่พอ เช่นไม่ได้เคลียร์น้ำในแหล่งกักเก็บน้ำต่างๆ ไว้ให้สามารถรองรับปริมาณน้ำได้

ไม่นับเรื่องหนองงูเห่าที่เอาไปทำสนามบิน ถ้าเอาไปทำแก้มลิงฝั่งตะวันออกแทน
ไม่แน่ว่าเราอาจไม่ต้องผันน้ำเข้าที่ชาวบ้านมากมายเหมือนที่ต้องทำกันคราวนี้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-11-2006, 01:32 โดย jerasak » บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #21 เมื่อ: 18-11-2006, 04:10 »

ผมตาม ๆ ข่าวอยู่นิด ๆ หน่อย ๆ แต่มันเป็นช่วงทีการประชาสัมพันธ์ติดขัด

รัฐบาลก็ไม่ได้แสดงภาพการแก้ปัญหาแบบใช้เทคนิคการระบายน้ำเข้าช่วย

การจัดการเรื่องน้ำ บางทีเอามาทำเป็น "วอร์รูม" ใหญ่ ๆ มีข้อมูลทางอุทกศาสตร์  มาประกอบ

เรื่องของการระบายน้ำ เห็นบอกว่า น้ำทะเลก็หนุนขึ้นสูง การระบายออกทะเลก็คงได้ไม่มาก

พูดตรง ๆ ไม่มีข้อมูล เลยไม่ทราบว่า ชาวบ้านที่เดือดร้อนวันนี้ เป็นไปธรรมชาติ หรือ การจัดการ

ได้ยินว่าผันน้ำบางส่วนเข้าแม่น้ำท่าจีน ว่างั้นนะครับ

ที่สำคัญ โครงการคลองระบายน้ำ "เจ้าพระยา 2" ทางด้านเหนือกรุงเทพ "บางปะอิน-บางปะกง" ตามแนวพระราชดำริ
น่าจะหยิบมาทำตอนนี้ได้แล้ว มันจะแก้ไขได้ในระยะยาวด้วย
บันทึกการเข้า

ชอบแถ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,138



« ตอบ #22 เมื่อ: 18-11-2006, 17:37 »

ที่นาอยุธยาวันนี้ยังมีคนพายเรือหาปลาอยู่เลย แม้น้ำจะลดลงจากอาทิตย์ก่อนเป็นเมตร แต่ก็ยังท่วมอยู่
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
    กระโดดไป: