กรณีที่คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อรัฐ (คตส.) พยายามที่จะเอาผิดกับคุณหญิงพจมาน ชินวัตรที่ได้ซื้อที่ดินย่านรัชดาภิเษก โดยได้ยกกรณีเรื่องเกี่ยวกับการกำกับดูแลหน่วยงานราชการของอดีตนายกฯ มาเป็นประเด็น หลังจากที่พยายามคุ้ยเขี่ยความผิดต่างๆ มาเกือบสองเดือนแล้วแต่ยังหาความผิดอะไรไม่ได้
ล่าสุดได้มีท่านที่มีความรู้สูงทางกฏหมายของกระทรวงที่เคยดูแลเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ได้กรุณาส่งข้อมูลมาให้ได้ทราบว่า ตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดินนั้น เป็นกฏหมายซึ่งใช้บังคับเฉพาะงาน "ราชการ" เท่านั้น ซึ่งตรงตามชื่อของพระราชบัญัญัติดังกล่าว โดยไม่รวมถึงหน่วยงานประเภทอื่น มาตรา 11(1)ของพ.ร.บ.ดังกล่าว ได้ให้อำนาจนายกรัฐมนตรีไว้เพียงการกำกับดูแล หน่วยงานราชการส่วนกลาง ราชการส่วนภูมิภาค และราชการส่วนท้องถิ่น สามประเภทนี้เท่านั้น ไม่ได้ให้อำนาจรวมถึงหน่วยงานซึ่งมีกฏหมายที่ได้จัดตั้งขึ้นเป็นนิติบุคคลโดยเฉพาะซึ่งไม่ใช่หน่วยงานราชการ เช่นธนาคารแห่งประเทศไทย หรือกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ซึ่งได้มีการจัดตั้งขึ้นให้เป็นธุรกิจแยกต่างหาก โดยที่กฏหมายที่ได้จัดตั้งขึ้นของหน่วยงานนี้ ได้ระบุผู้มีอำนาจกำกับดูแลชัดเจน แยกออกมาต่างหากจากฐานะผู้ใต้บังคับบัญชาของนายกรัฐมนตรี กฏหมายกำหนดให้กองทุนฟื้นฟูฯ มีหน้าที่ความรับผิดชอบต่อธนาคารแห่งประเทศไทย และคณะกรรมการจัดการกองทุนเท่านั้น นายกฯหรือภริยาจึงไม่ต้องห้ามที่จะทำสัญญาซื้อขายที่ดินกับกองทุนฟื้นฟูฯ เพราะนายกรัฐมนตรีไม่มีอำนาจในการกำกับดูแลหน่วยงานดังกล่าว
นอกจากนั้น แม้ตามข่าวจะระบุว่า นายกรัฐมนตรีเคยใช้อำนาจตามมาตรา 11(
ของ พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน ก็เป็นการวางระเบียบโดยทั่วไป ไม่ใช่การกำกับดูแลตามที่มีระบุไว้ในมาตรา 11(1) โดยสรุปก็คือ การใช้อำนาจในการกำกับดูแลจะมีเฉพาะมาตรา 11(1) เท่านั้น
posted by thai e news
จะเห็นได้ว่าที่ผ่านมา คตส.ยังพายเรือวนอยู่ในอ่าง เพราะเหตุรู้ว่าไม่สามารถเอาผิดอะไรได้ แต่เพื่อแสดงให้เห็นว่าพวกตนทำงานในการจะเอาผิดกับอดีตนายกฯ จึงมีการนำเสนอข่าวลวงต่อสื่อมวลชนเพื่อสร้างภาพเท่านั้น หากนำขึ้นสู่กระบวนการศาลเมื่อไหร่ คตส.จะตกม้าตายทันที ทีนี้ก็จะเป็นการควานหาเหตุอย่างอื่นจนมั่วไปหมด
นาม ไม่ค่อยยิ้มแย้ม แก้วหน้าม้า แหนมป้าย่น เลขาสัก ว่าไงล่ะ ไบ้รับประทานเลยสิงานนี้
(ทำส่งเดช เจอเขาฟ้องกลับ จะกะเป๋าแหก 55)