พลเอกสุรยุทธ์ ต้องรีบหยุดมหันตภัยคนกรุง!
โดย หมายเหตุผู้จัดการ 13 พฤศจิกายน 2549 16:39 น.
นับแต่ได้มีการแปรรูป ปตท. ให้นักการเมืองและทุนการเมืองเข้ามาถือหุ้นจนมีขีดความสามารถในการควบคุม ครอบงำ ปตท. อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดในยุครัฐบาลที่แล้ว ผลประโยชน์ของชาติจากรัฐวิสาหกิจแห่งนี้ก็ถูกเบียดบังไปเป็นจำนวนมหาศาล
และยังมีการใช้หน่วยงานแห่งนี้ในการข่มเหงรังแกยึดกิจการของเอกชนเข้ามาสังกัดเครือข่ายทุนการเมืองอย่างหน้าด้าน ๆ อีกกระบวนหนึ่ง ดังเช่นการยึดทีพีไอจากภาคเอกชนอันไม่ชอบธรรมอย่างยิ่ง เป็นต้น
ในสถานการณ์ที่ประเทศเผชิญวิกฤตพลังงาน ปตท. กลับมีกำไรร่วม 200,000 ล้านบาท ในขณะที่คนไทยทั้งประเทศพากันฉิบหายวายวอด
นั่นเพราะ ปตท. ได้สูญเสียจิตวิญญาณที่เป็นรัฐวิสาหกิจ ที่มีหน้าที่ต้องพิทักษ์รักษาผลประโยชน์แห่งชาติ และบรรเทาความทุกข์ร้อนของประชาชนไปแล้ว เพราะเหตุที่นักการเมืองและทุนการเมืองครองผลประโยชน์และครอบงำการดำเนินงานของ ปตท. อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ดังนั้นจึงทำราวกับว่า ปตท. เป็นกิจการส่วนตัวของนักการเมืองและทุนการเมืองเหล่านั้น
ถึงวันนี้อำนาจรัฐเปลี่ยนแปลงไปแล้ว แต่การควบคุมครอบงำและการดำเนินการของ ปตท. ตลอดจนหน่วยงานในเครือข่ายก็ยังคงยึดครองโดยเครือข่ายของอำนาจรัฐเก่าอยู่เหมือนเดิมทุกประการ
เมื่ออำนาจรัฐเก่าถือว่า ปตท. เป็นทรัพย์สมบัติส่วนตัว ก็ได้ให้สิทธิ์และประโยชน์แก่ ปตท. เป็นพิเศษ ซึ่งเป็นประโยชน์จากการเบียดเบียนทรัพย์สมบัติของชาติและส่วนราชการ
เราขอประกาศต่อพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี และต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมว่าหน่วยงานของกองทัพไทยได้ถูกเบียดเบียนทรัพย์สมบัติและผลประโยชน์มากที่สุด
เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนรัฐบาลนี้ แต่เป็นความเสียหายที่เกิดขึ้นและจะเกิดขึ้นต่อราชการและกองทัพไทยต่อไปในอนาคต ดังนั้นรัฐบาลของพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ จึงควรต้องทราบเรื่องนี้และควรต้องแก้ไขเรื่องนี้เป็นการด่วนด้วย
เพราะไม่เพียงแค่เป็นการเบียดเบียนทรัพย์สมบัติของกระทรวงกลาโหมและกองทัพไทยเท่านั้น หากยังมีลักษณะก่อภัยอันตรายอันน่าสะพรึงกลัวแก่กำลังพลของกองทัพ ตลอดจนประชาชนในพื้นที่ข้างเคียงอีกด้วย
เราขอให้พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และกำลังพลทุกคนของกองทัพไทย ตลอดจนใครก็ได้ที่อยู่ใกล้พื้นที่ที่เราจะกล่าวต่อไปให้รำลึกถึงเหตุการณ์รถแก๊สระเบิดที่ถนนเพชรบุรีเมื่อไม่กี่ปีก่อนหน้านี้ว่าเป็นเหตุการณ์ที่น่าสยดสยองเพียงใด
การเบียดเบียนที่จะก่อให้เกิดความเสียหายดังกล่าวนี้คือโครงการพิเศษสุด เอาเปรียบและฉ้อฉลสุด ๆ ก่อมหันตภัยสุด ๆ นั่นคือโครงการใช้ที่ดินของทหาร ของกองทัพ มาทำเป็นคลังก๊าซให้กับ ปตท. แลกกับการสร้างที่พักอาศัยให้กับกำลังพลของกองทัพ
เราจะตรวจสอบเรื่องนี้ต่อไป แต่เฉพาะหน้านี้ปรากฏชัดเจนแล้วว่าขณะนี้มีการดำเนินการเรื่องนี้ในสองพื้นที่ คือ
พื้นที่แรก เป็นพื้นที่ใกล้โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ใจกลางพระนครนี่เอง!
พื้นที่ที่สอง เป็นพื้นที่ใกล้กับวัดสร้อยทอง อยู่ติดกับชุมชนเชิงสะพานพระราม 6 ซึ่งเป็นที่พักอาศัยและร้านค้าของประชาชนอย่างหนาแน่น
ทั้งสองพื้นที่นี้จะมีการใช้พื้นที่ของทหารทำคลังก๊าซที่ใช้เติมรถยนต์เพื่อส่งต่อให้กับปั๊มก๊าซต่างๆ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
มันคือการสร้างขุมระเบิดเพลิงขนาดใหญ่ไว้ในพื้นที่ทั้งสองแห่งนี้นั่นเอง!
ใครจะประกันได้ว่ามันจะไม่ระเบิดขึ้นสักวันหนึ่ง หรือไม่เกิดอุบัติเหตุขึ้นในสักวันหนึ่ง แล้วถ้าเกิดขึ้นก็จะมีอานุภาพทำลายล้างย่างสดชีวิตผู้คนยิ่งกว่าเหตุการณ์รถก๊าซระเบิดที่ถนนเพชรบุรีหลายสิบหลายร้อยเท่านัก!
ฉิบหายยิ่งกว่านั้นก็คือเมื่อขอใช้พื้นที่ดังกล่าวแล้ว ก็จะมีการสร้างแฟลตและที่พักให้กับกำลังพลของกองทัพในพื้นที่ที่เหลือเพื่อเป็นการทดแทน
เป็นการเอากำลังพลและครอบครัวของกำลังพลของกองทัพไปอยู่แวดล้อมคลังระเบิดก๊าซไม่ใช่หรือ?
ทำไมไม่นึกถึงบ้างว่าถ้าหากเกิดอุบัติเหตุหรือเหตุร้ายใด ๆ ขึ้นแล้ว ก๊าซจำนวนมหาศาลจากคลังเก็บก๊าซทั้งสองพื้นที่นี้จะเผาผลาญย่างสดชีวิตของกำลังพลอันมีค่ายิ่งของกองทัพ ตลอดจนครอบครัวของกำลังพล รวมไปถึงประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ข้างเคียงที่อเนจอนาถสักเพียงไหน!
ตอนนี้ก็คงจะรับรองกันว่าได้มีมาตรการเรื่องความปลอดภัยอย่างแน่นหนา แล้วจะเชื่อถือได้อย่างไรว่าแน่นหนาจริง? ไม่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นในอนาคต และจะมีมาตรการดูแลความปลอดภัยตลอดไปในอนาคต
ยังไม่พูดถึงการเกิดเหตุร้ายหรือการก่อวินาศกรรมที่อาจเกิดขึ้นได้ และจะเป็นอันตรายใหญ่หลวงนัก!
เราได้ทราบมาว่าโครงการแบบนี้ไม่ใช่มีแค่สองแห่งนี้เท่านั้น ยังจะมีอีกหลายพื้นที่ โดยที่กำลังพลและครอบครัวของกองทัพอาจไม่ทราบหรือคาดคิดไม่ถึง และโดยที่ประชาชนในพื้นที่ไม่มีส่วนรู้เห็นใด ๆ
โครงการแบบนี้เป็นโครงการที่ผิดและเห็นแก่ตัวอย่างร้ายแรงที่สุด เป็นแนวคิดของทุนสามานย์ที่คิดถึงแต่ผลประโยชน์ โดยไม่คำนึงถึงชีวิต ทรัพย์สิน ความปลอดภัยของกำลังพลและครอบครัวของกองทัพ ตลอดจนชีวิตของประชาชนแม้แต่น้อย
หากจะตั้งคลังก๊าซจริงก็ต้องตั้งไว้ในที่ห่างไกลชุมชน มีกำแพงกั้นเพื่อความปลอดภัยอย่างหนาแน่น แล้วเดินท่อออกไปตามจุดต่าง ๆ ซึ่งต้องลงทุนมากสักหน่อย แต่มีความปลอดภัยและสบายใจต่อทุกผู้คน
โครงการนี้ทำกันเงียบกริบ แต่เดชะบุญที่กำลังพลของกองทัพบางส่วนเริ่มรู้ระแคะระคายจึงส่งข้อมูลให้เราเป็นปากเป็นเสียงบอกกล่าวให้รัฐบาลใหม่ได้รับรู้
ด้วยความห่วงใยในชีวิตของกำลังพลและครอบครัวของกองทัพ ตลอดจนห่วงใยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ข้างเคียง เราจำเป็นต้องประณามว่าโครงการชนิดนี้เป็นโครงการที่เห็นแก่ตัวและเป็นอันตรายร้ายแรง
จึงจำเป็นต้องบอกกล่าวให้พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้ารัฐบาลได้คิดอ่านป้องกันแก้ไขหรือยับยั้งโครงการนี้เสียในทันที!
http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9490000140155 รมว.ธีรภัทร์ ส่งคุณพงษ์ศักดิ์ พยัควิเชียร เข้าไป"ร้กษาการกรรมการอำนวยการ" บริษัท อสมท.จำกัด(มหาชน) เพื่อทำให้สถานีโทรทัศน์"โมเดิร์นไนน์" เป็นสถานีโทรทัศน์ อสมท. เสนอข่าวรอบด้านให้ประชาชนรับรู้ และเสริมสติปัญญา ไม่ให้ถูกมอมเมา เป็น "โมเดิร์นไนน์ ที่เป็น ธุรกิจและบันเทิง เสนอข่าวด้านเดียวให้ทักษิณ เผด็จการจากการเลือกตั้ง ทำให้ราคาหุ้น อสมท.ตกรูด กลุ่มพนง.ที่สูญเสียผลประโยชน์ ประท้วงขับไล่.....
ถ้าเลือกบุคคลคล้ายคลึงคุณพงษ์ศักดิ์ พยัควิเชียร เข้าไป"รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่" บริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) ให้ ปตท. เป็นบริษัทค้ามันของคนไทย ที่ไม่ขูดรีด ตั้งราคาเอารัดเอาเปรียบ จนสร้างผลกำไร"ก้าวกระโดด" 200,000 ล้านบาท สร้างกำไรให้ผู้ถือหุ้นใหญ่กระทรวงการคลังและผู้ถือหุ้นใหญ่ที่เป็นนักธุรกิจการเมือง อดีตแกนนำพรรคเทียมรักเทียม จะทำให้ราคาหุ้น ปตท.ตกกราวรูด กระทรวงการคลังยุคใหม่ จะได้ซื้อหุ้นจากนักธุรกิจการเมือง ราคาถูก....