สุรยุทธ์"ด่าเจ็บ!!..ไล่พวกอ้างเสรีบังหน้าไปดูตัวเองก่อนกระพือขอเลิก"อัยการศึก""
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 10 พฤศจิกายน 2549 23:38 น.
พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี
นายกรัฐมนตรีย้ำบางพื้นที่ต้องคงกฎอัยการศึกเปิดให้ทหารทำงานได้ เรียกสติพวกอ้างเสรีภาพบังหน้าขอเลิกกฎอัยการศึก ย้อนดูตัวเองทำหน้าที่ดีคนไทยดีหรือยัง เตือนม็อบชุมนุมต้องเคารพกฎหมาย อย่าใช้สิทธิจนลืมแก้ปัญหาบ้านเมือง พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ผู้บัญชาการทหารบกระบุว่าจะมีการพิจารณายกเลิกกฎอัยการศึกในสัปดาห์หน้า ว่า คงต้องรอรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม เพราะตนเดินทางไปต่างประเทศและวันนี้ได้เดินทางมาเยี่ยมชาวบ้าน จึงยังไม่ได้มีโอกาสพบกัน แต่ก็ทราบว่ามีประชุมเพื่อหารือกันในเรื่องนี้ เมื่อถามต่อว่า ได้ขอไปผบ.ทบ.หรือไม่ว่าจะคงกฎอัยการศึกต่อเนื่องไปจนถึงการประชุมเอเปคหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ตนไม่ได้ขออะไร เพียงแต่บอกไปว่าเราจะสามารถที่จะยกเลิกได้เมื่อไร และมีพื้นที่ไหนไหมที่จะยังใช้กฎอัยการศึกอยู่
พวกเราคงไม่ทราบนะครับ ผมทำงานอยู่ที่ชายแดนมาสมัยเป็นทหาร มีหลายจังหวัดที่ประกาศกฎอัยการศึกยาวต่อเนื่องกันมาโดยตลอด โดยที่ไม่ได้ยกเลิกเลย ตลอดเวลาที่ผมเกษียณอายุราชการ มาจนกระทั่งปัจจุบันก็ยังประกาศอยู่ เราอาจจะไม่ทราบ ว่าอยู่ภายใต้สิ่งเหล่านั้น สิ่งนี้ที่มีปัญหาเพราะว่า เดิมทหารนั้นได้อาศัยอำนาจของพ.ร.บ.การป้องกันการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์ จึงมีอำนาจในการปฏิบัติหน้าที่ แต่ในปัจจุบันได้ยกเลิกพ.ร.บ.ฉบับนั้นไปแล้ว ทหารไม่มีอำนาจที่จะทำหน้าที่ ขณะนี้มีพ.ร.บ.ในเรื่องกฎอัยการศึก และพระราชการกำหนดสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่ทหารจะสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ มี2 ฉบับเท่านั้น นั้นเป็นเรื่องที่เราได้พิจารณากันว่า ถ้าจะให้ทหารออกมาทำหน้าที่ก็ต้องมีกฎหมายรองรับ ไม่ใช่อยู่ดีๆ ก็ถือปืนออกมาเฉยๆ เพราะฉะนั้นเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาด้วยเหตุผลที่บอกว่า จะยกเลิกเมื่อไร และแค่ไหน เป็นเรื่องที่ฝ่ายความมั่นคง โดยทางคมช.จะรับไปพิจารณา โดยรมว.กลาโหมจะเป็นผู้ประสานรายละเอียด นายกฯกล่าว
เมื่อถามว่า การยกเลิกหรือไม่ แสดงว่าปัจจัยอยู่ที่เกรงว่าทหารจะไม่มีอำนาจในการเข้ามาระงับเหตุ เวลาเกิดเหตุ พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า มันต้องมีอำนาจตามกฎหมาย ถ้าไม่มีอำนาจทางกฎหมายก็ทำอะไรไม่ได้ เหมือนกับคนธรรมดาที่เดินไปเดินมา ส่วนตำรวจก็มีอำนาจทางตำรวจ คือมีอำนาจทำตามกฎหมายอาญา มันคนละฉบับ อันนี้ถ้าจะให้ทหารออกมาทำงานก็ต้องมีกฎหมายรองรับ ไม่อย่างนั้นก็ให้เขากลับไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในพื้นที่ที่จะมีการยกเลิกกฎอัยการศึกคงไว้ จะมีการชี้แจงเหตุผล หรือหลักฐานอะไรที่มันชัดเจนหรือไม่ เพื่อให้ประชาชนเข้าใจว่าตัวเองมีสิทธิเสรีภาพไม่ใช่เลือกให้เสรีภาพเฉพาะบางพื้นที่ พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า ในเรื่องเสรีภาพผมคิดว่า คนไทยเรามีเสรีอยู่แล้ว
แม้กระทั่งยังไม่ได้ยกเลิกประกาศคณะปฎิรูปการปกครองฉบับที่ 7 ท่านก็ออกมาเคลื่อนไหวกันอยู่แล้ว อย่างที่ตนบอกว่า ขอให้ทำกันอยู่ในพื้นที่ที่ไม่ได้เป็นพื้นที่สาธารณะก็มีการออกมาเคลื่อนไหวในพื้นที่สาธารณะกันอยู่ ท่านก็เห็นว่าเรามีเสรีกันขนาดไหน นั้นเป็นส่วนที่ตนอยากเรียนว่า เราร้องกันถึงเรื่องสิทธิเสรีภาพ แต่ในเรื่องหน้าที่ของคนไทย เราก็ต้องดูด้วย ว่าเรามีหน้าที่อะไร มีหน้าที่ที่จะทำให้ชาติบ้านเมืองของเรามีความสงบ อันนี้เป็นหน้าที่ที่คนไทยทุกคนจะต้องมีส่วนร่วม ผู้ชายไทยทุกคนจะต้องมีหน้าที่เป็นทหาร ก็ต้องถามในส่วนนี้ว่า แต่ละคนอยากจะสิทธิ แต่ว่าหน้าที่ของคุณนั้น คุณได้ทำครบถ้วนหรือยัง ก็ต้องปรับกันด้วย เมื่อถามว่า การชุมนุมใหญ่ในวันเสาร์ ได้มีการสั่งการให้ฝ่ายความมั่นคงดูแลอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า ตนคงไม่ต้องไปสั่งการอะไร เพราะเป็นเรื่องของฝ่ายความมั่นคงที่จะดูแลกันอยู่แล้ว ทุกคนรู้หน้าที่ของตัวเอง เมื่อถามต่อว่า ขณะนี้ถือว่า กลุ่มที่จะออกมาชุมนุมผิดหรือไม่ เพราะพ.ร.บ.ที่ผ่านความเห็นชอบของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ยังไม่ได้ประกาศในพระราชกิจจานุเบกษา พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า คงเป็นเรื่องที่ทางเจ้าหน้าที่เขาดูแล ตนไม่ได้เป็นนักกฎหมาย ตนเป็นฝ่ายบริหาร ฉะนั้นตนคงไม่สามารถไปชี้ได้ว่า กฎหมายฉบับไหนนำมาใช้เมื่อไร อย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า เกรงหรือไม่ว่าจะเกิดปัญหาการกระทบกระทั่งกัน นายกฯ กล่าวว่า อย่างที่เรียนมันก็ต้องดูกันว่า เรื่องสิทธิกับเรื่องของหน้าที่ ของแต่ละบุคคล ถ้าเราใช้สิทธิโดยไม่คำนึงถึงเรื่องหน้าที่ มันก็คงมีการกระทบกระทั่งกันบ้าง หรืออย่างเหตุการณ์ที่ทางภาคใต้ ถ้าเราไม่เคารพกฎหมาย มันก็มีปัญหากัน ถ้าเราเคารพในกฎหมาย จะมีสิ่งใดที่สามารถแก้ปัญหากันได้ อย่างที่เรียนว่า มีปัญหาพูดกันได้ไหม เพราะนั้นก็คือการแก้ไขปัญหาทางการเมือง หรือที่เรียกว่า การแก้ไขปัญหาทางสันติวิธี ถ้าเราพูดกันตรงนี้และเข้าใจชัดเจนว่า เราจะร่วมมือกันได้อย่างไร มันก็จะเป็นการแก้ไขปัญหา ไม่ใช่ต่างคนต่างก็ใช้สิทธิของตัวเอง และไม่ได้คำนึงว่า เราจะแก้ปัญหากันอย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า เห็นด้วยหรือไม่ที่จะให้มีการยกเลิกกฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร นายกฯ กล่าวว่า อย่างที่เรียนแล้วบางพื้นที่ยังมีความจำเป็นที่ต้องใช้ทหารทำงาน ยกตัวเองง่ายๆ พื้นที่ทางภาคเหนือ อันนี้ยกตัวอย่าง เพราะเคยทำงานการป้องกันการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาในประเทศจากประเทศเพื่อนบ้านของเอรา ก็จำเป็นต้องใช้กฎอัยการศึก ไม่อย่างนั้นทหารจะไปทำงานที่ชายแดนไม่ได้ ถ้าให้ตำรวจทำอย่างเดียวก็ไม่พอ นั้นคือความจำเป็นที่ทำไมเราต้องใช้กฎหมายเข้ามารองรับ ในอดีตที่ผ่านมาเราได้เคยขอบ้าง อยากให้มีการออกพ.ร.บ.อะไรซักอย่าง ที่ให้ทหารมีอำนาจ ให้น้อยกว่ากฎอัยการศึกหน่อย เพราะกฎอัยการศึกฟังแล้ว เหมือนกับว่าจะประกาศศึกสงครามกัน มันมีกฎหมายอะไรไหมที่จะให้ทหารทำในส่วนนี้ นั้นเป็นเรื่องที่ได้พูดกัน และได้มีการออกเป็นพ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉินออกมา แต่ไม่ได้ระบุชัดเจนว่า จะต้องเป็นเรื่องที่ทางทหารออกมาทำงาน พูดตรงๆ เป็นเรื่องของการให้อำนาจ เรื่องของการจับกุม การควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยไว้มากกว่าการที่จะให้อำนาจทหารออกมาทำงาน
เมื่อถามว่า เห็นด้วยหรือไม่ว่า จะต้องยกเลิกประกาศ คปค. ฉบับที่ 15 และ 27 เพื่อให้สอดรับกับฉบับที่ 7 ที่ยกเลิก นายกฯ กล่าวว่า ในฉบับที่ 7 ก็บอกแล้ว ตนคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหา เพราะการชุมนุมเกิน 5 คน ไม่เรายกเลิกก็คงทำได้อยู่แล้ว คิดว่าไม่น่าจะมีอะไรที่มากมายไปกว่านั้น
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9490000139510 อ่านเอาเอง คิดเอาเอง ก็แล้วกัน คนที่อยากจะรีบร้อนเคลื่อนไหว เสรีภาพที่อดกลั้นไว้ตั้งแต่รัฐบาลที่แล้ว ระบายออกมาบ้าง จะได้หายอืด.......