ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
20-04-2024, 16:30
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  เอาเงินคนไทยไปให้พม่ากู้...ให้ครอบครัวตัวเองขายของ 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
เอาเงินคนไทยไปให้พม่ากู้...ให้ครอบครัวตัวเองขายของ  (อ่าน 692 ครั้ง)
นทร์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,441



เว็บไซต์
« เมื่อ: 11-11-2006, 13:58 »

เอาเงินคนไทยไปให้พม่ากู้...ให้ครอบครัวตัวเองขายของ

11 พฤศจิกายน 2549 00:00 น.

นี่คือ"ผู้มีส่วนได้เสีย" ชัดๆ

      คำว่า"ผู้มีส่วนได้เสีย" ในกฎหมายว่าด้วยการปราบคอร์รัปชันของไทยนั้นจะเป็นบรรทัดฐานในการจับนักการเมืองและข้าราชการที่เข้าข่าย "ผลประโยชน์ทับซ้อน" หรือConflict of Interest

       และหากอีกด้านหนึ่งจับข้อหาเรื่อง "สร้างความเสียหายต่อรัฐ" ด้วยแล้วก็จะยิ่งชัดเจนว่าการกระทำใดๆ ที่ "ไม่มีใบเสร็จ" ชัดๆว่าฉ้อฉล แต่สร้างความเสียหายให้กับผลประโยชน์ต่อรัฐและประชาชน ก็ย่อมเข้าข่ายที่จะต้องถูกลงโทษอย่างเหมาะเจาะกับสิ่งที่กระทำลงไป

       เมื่อเรื่องผัวเป็นนายกฯและเมียไปแย่งซื้อที่ดินจากประชาชนแล้ว ก็ย่อมเข้าข่ายมาตรา 100 ของพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 (กฎหมาย ป.ป.ช.) ที่ห้ามเจ้าหน้าที่ของรัฐเป็นคู่สัญญา "มีส่วนได้เสีย" ในสัญญาที่ทำกับหน่วยงานรัฐที่เจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหน้าที่ในฐานะที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งมีอำนาจกำกับ ดูแล ควบคุม ตรวจสอบ หรือดำเนินคดี

       เพราะตามกฎหมายแล้วผัวกับเมียเป็นคนคนเดียวกัน การกระทำใดๆ ของเมียก็คือการกระทำของผัว และหากเมียไปทำอะไรที่เกี่ยวกับรัฐ ก็ย่อมเป็นเรื่องของการ "มีส่วนได้เสีย" ซึ่งก็คือการทับซ้อนของผลประโยชน์ที่ชัดเจน

       จะพูดอย่าง"ศรีธนญชัย" ว่าเรื่องอย่างนี้ "ผิดจริยธรรมแต่ไม่ผิดกฎหมาย" ไม่ได้อีกต่อไป

       ทำนองเดียวกับการที่ทักษิณ สมัยเป็นนายกฯ ตัดสินใจให้รัฐบาลพม่ากู้เงิน 4 พันล้านบาท ผ่านธนาคารเพื่อการส่งออกและการนำเข้าแห่งประเทศไทย หรือ Ex-Im Bank ดอกเบี้ยต่ำพิเศษ และปรากฏว่าโครงการที่เงินกู้ก้อนนี้ช่วยสนับสนุนนั้น ได้มีกลุ่มบริษัทเอกชนไทยที่เป็นคู่สัญญากับทางการพม่า 14 บริษัท ทั้งหมด 19 สัญญา

       และในเหล่าบรรดาบริษัทเอกชนไทยที่ได้ประโยชน์อย่างยิ่งจากสัญญาเหล่านี้มีชื่อ บริษัทชิน แซทเทลไลท์ ในเครือชินคอร์ปของครอบครัวชินวัตร2 สัญญา มูลค่า 600 ล้านบาท

       นี่คือตัวอย่างของการ"ทับซ้อนผลประโยชน์" หรือภาษีของกฎหมายป.ป.ช. คือ "ผู้มีส่วนได้เสีย" ของครอบครัวของคนของรัฐ...และในกรณีนี้ขณะที่เกิดเรื่อง เมียนายกฯและลูกนายกฯ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของชินคอร์ปอยู่

       เมียกับผัวเป็นคนคนเดียวกันตามกฎหมายจึงชัดเจนว่านี่คือการมี "ส่วนได้เสีย" ของคนที่เป็นผู้นำของประเทศไม่เพียงแค่ผิดจริยธรรมเท่านั้น แต่ยังผิดกฎหมายว่าด้วยการปราบปรามคอร์รัปชันอย่างชัดเจนอีกด้วย

       และยังมีบริษัทกรุงไทยแทรคเตอร์ 3 สัญญา มูลค่าประมาณ 1 พันล้านบาท...ตามข่าวที่รู้กันบอกว่า บริษัทนี้เป็นของครอบครัว นายปรีชา เลาหพงศ์ชนะ ที่เคยเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลทักษิณมาก่อนด้วย

       นี่ก็เป็นตัวอย่างของConflict of Interest ที่จะแจ้ง รัฐมนตรีคนไหนที่ต้องการจะแสดงความบริสุทธิ์ของตัวเองว่าไม่มี "ส่วนได้เสีย" เมื่อตนมีตำแหน่งทางการเมืองแล้ว ก็จะต้อง "รักษาระยะห่าง" อันเหมาะควรกับธุรกิจที่อาจจะทำให้เกิดความสงสัยว่าญาติพี่น้องของตนได้ใช้อิทธิพลของตนในการเข้าแข่งขันกับเอกชนรายอื่นๆ

       อย่างนี้คือประเด็นเรื่อง"สนามแข่งขันที่ไม่เรียบเสมอกัน" หรือไม่ใช่Level-Playing Field ที่คนไทยต้องการเห็นเพื่อความเสมอภาคในประเทศ และเพื่อปราบปรามการฉ้อราษฎร์บังหลวงที่เป็นมะเร็งร้ายที่เกาะกินประเทศชาติอย่างร้ายแรงยิ่ง

      คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ และรัฐบาลคุณสุรยุทธ์ ต้องพิสูจน์ด้วยการกระทำอย่างเป็นรูปธรรมว่า ที่ปฏิวัติเพื่อขับไล่ทักษิณออกไปนั้น จะตามไล่ล่าเอาสมบัติของประชาชาติคืนมาและลงโทษคนโกงในรูปแบบต่างๆอย่างขะมักเขม้นและเข้มข้นสมกับความคาดหวังของประชาชน

http://www.bangkokbiznews.com/level3/news_120407.jsp

กาแฟดำ ยิงตรงอีกแล้ว
บันทึกการเข้า

"ประชาชน อย่าทิ้งประเทศชาติ"
พรรณชมพู
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,073


« ตอบ #1 เมื่อ: 11-11-2006, 18:52 »

ตอบแบบลิ่วล้อไทยรักไทยดีไหมคะ

ไม่รู้ ไม่ชี้ ไม่มีหลักฐาน ไปหาหลักฐานมา ไม่ผิด เป็นธรรมดา มีหลักฐานก็ไปฟ้องศาลสิ แจ้งตำรวจเลย   

ไถลเถลือกไปอย่างนี้แหละค่ะ
บันทึกการเข้า
MacBookPro
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 765



« ตอบ #2 เมื่อ: 11-11-2006, 19:04 »

มารอหลอกด่าลิ่้วล้อหัดเกรียน

มายัง
บันทึกการเข้า

ไอ้เหลี่ยม - ทักษิณ ชินวัตร ชาตะ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2492 มรณะ 19 กันยายน พ.ศ. 2549
หน้า: [1]
    กระโดดไป: