ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
26-04-2024, 00:18
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  ร้อยรักษ์กวีวรรณ  |  เพื่อนๆประทับใจบทกวีเพื่อชีวิตบทใดบ้าง 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
เพื่อนๆประทับใจบทกวีเพื่อชีวิตบทใดบ้าง  (อ่าน 13492 ครั้ง)
เสลา
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 514



« เมื่อ: 25-04-2006, 22:08 »


บทกวีเพื่อชีวิตในอดีตที่ประทับใจมีมากมาย
ที่นึกถึงขึ้นมาบทแรกคือ .....อิศาน...ของนายผีหรืออัศนี พลจันทร



อิศาน

ในฟ้าบ่มีน้ำ..................ในดินซ้ำมีแต่ทราย
น้ำตาที่ตกราย...............ก็รีบซาบบ่รอซึม

แดดเปรี้ยงปานหัวแตก.....แผ่นดินแยกอยู่ทึบทึม
แผ่นอกที่ครางครึม..........ขยับแยกอยู่ตาปี

มหาห้วยคือหนองหาน......ลำมูลผ่านเหมือนลำผี
ย้อมชีพคือลำชี...............อันชำแรกอยู่รีรอ

แลไปสดุ้งปราณ..............โอ! อิศาน, ฉะนี้หนอ...
คิดไปในใจคอ.................บ่คอยดีนี้ดังฤา?

พี่น้องผู้น่ารัก,..................น้ำใจจักไฉนหือ?
ยืนนิ่งบ่ติงคือ...................จะใครได้อันใดมา?

เขาหาว่าโง่เง่า..................แต่เพื่อนเฮานี่แหละหนา
รักเจ้าบ่จาง ฮา!................แลเหตุใดมาดูแคลน...

เขาซื่อสิว่าเซ่อ.................ผู้ใดเน้อจะดีแสน
ฉลาดทานเทียมผู้แทน........ก็เห็นท่าที่กล้าโกง

กดขี่บีฑาเฮา....................ใครนะเจ้า? จงเปิดโปง
เที่ยววิ่งอยู่โทงโทง.............เที่ยวมาแทะให้ทรมาน

รื้อคิดยิ่งรื้อแค้น.................ละม้ายแม้นห่าสังหาร
เสียตนสิทนทาน................ก็บ่ได้สะดวกดาย

ในฟ้าบ่มีน้ำ...................... ในดินซ้ำมีแต่ทราย
น้ำตาที่ตกราย...................คือเลือดหลั่ง! ลงโลมดิน

สองมือเฮามีแฮง...............เสียงเฮาแย้งมีคนยิน
สงสารอิศานสิ้น................อย่าซุด, สู้ด้วยสองแขน!

พายุยิ่งพัดอื้อ....................ราวป่าหรือราบทั้งแดน
อิศานนับแสนแสน..............สิจะพ่ายผู้ใดเหนอ?

นายผี (อัศนี พลจันทร)





ชีวิตเราถ้าเหมือนเรือ

๏ ชีวิตเราเหมือนเรือเมื่อออกท่า
ไม่รู้ว่าค่ำนี้นอนที่ไหน
จะลอยล่มจมน้ำคว่ำลำไป
หรือสมใจจอดฝั่ง...ก็ยังแคลง

ได้ดื่มแต่น้ำตาเมื่อฟ้าร่ำ
ยิ่งยามย่ำสายัณห์ยิ่งกันแสง
ถูกลมหวนหอบข่มระดมแรง
จึงรู้แล้งหมดแล้วน้ำแก้วตา

เพราะหากมัวมาร่ำกำสรวลอยู่
ไหนจะรู้ทรงเรือบ่ายเมื่อหน้า
ต้องตกพายหมายฝืนขืนลมฟ้า
ไร้เวลาอาดูรพอกพูนใจ

สติตรงตาแน่วดูแนวน้ำ
ไม่ลอยลำขวางเรือเมื่อน้ำไหล
ถ้าไม่ล่องก็ท่องทวนสวนทันใด
เรือจึ่งได้แนวดิ่งไม่ทิ้งทาง

ในโลกนี้มีสิ่งต้องวิ่งแข่ง
ถ้าหย่อนแรงราข้อต่อเข้าบ้าง
ก็จะแพ้แย่ยับถึงอับปาง
อย่าหมายร่างเราจะอยู่สู้หน้าใคร

ชีวิตเราเหมือนเรือเมื่อออกท่า
ต้องรู้ว่าค่ำนี้นอนที่ไหน
ต่อรุ่งเช้าก้าวอีกขั้นมรรคาลัย
กว่าวันชัยสมประสงค์ถือธงชู ๚

ประยอม ซองทอง ,2502




เพลงชาติ

๏ ธงชาติไทยไกวกวัดสะบัดพลิ้ว
แลริ้วริ้วสลับงามเป็นสามสี
ผ้าผืนน้อยบางเบาเพียงเท่านี้
แต่เป็นที่รวมชีวิตและจิตใจ

ชนรุ่นเยาว์ยืนเรียบระเบียบแถว
ดวงตาแน่วนิ่งตรงธงไสว
"ประเทศไทยรวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย"
ฟังคราวใดเลือดซ่านพล่านทั้งทรวง

ผืนแผ่นดินถิ่นนี้ที่พำนัก
เราแสนรักและแสนจะแหนหวง
แผ่นดินไทยไทยต้องครองทั้งปวง
ชีพไม่ล่วงใครอย่าล้ำมาย่ำยี

เธอร้องเพลงชาติไทยมั่นใจเหลือ
พลีชีพเพื่อชาติที่รักทรงศักดิ์ศรี
เพลงกระหึ่มก้องฟ้าก้องธาตรี
แม้ไพรีได้ฟังยังถอนใจ

แต่สิ่งหนึ่งซึ่งไทยร้าวใจเหลือ
คือเลือดเนื้อเป็นหนอนคอยบ่อนไส้
บ้างหากินบนน้ำตาประชาไทย
บ้างฝักใฝ่ลัทธิชั่วน่ากลัวเกรง

ทุกวันนี้ศึกไกลยังไม่ห่วง
แต่หวั่นทรวงศึกใกล้ไล่ข่มเหง
ถ้าคนไทยหันมาฆ่ากันเอง
จะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง! ๚

นภาลัย (ฤกษ์ชนะ)สุวรรณธาดา , ๒๕๑๐


บันทึกการเข้า

เลิศภพจบพสุธา
Moderator
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 171



« ตอบ #1 เมื่อ: 27-04-2006, 15:27 »

ขอบคุณป้าเสลาครับ ที่นำมาให้อ่านกัน
ชอบหมดเลยครับ  วันหลังจะนำมาลงบ้าง
หลายบทกวีถูกนำไปใส่เมโลดี้ดนตรี
เพราะไปอีกแบบครับ
บันทึกการเข้า
ลับ ลวง พราง
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 945



« ตอบ #2 เมื่อ: 27-04-2006, 15:40 »

ของผม

ไม่เมาเหล้า แล้วเรา ยังเมารัก

สุดจะหัก ห้ามจิต คิดไฉน

ถึงเมาเหล้า เช้าสาย ก็หายไป

แต่เมาใจ นี้ประจำ ทุกค่ำคืน
บันทึกการเข้า

"คนฟุ่มเฟือย แม้จะรวยก็มักขัดสน คนประหยัด แม้จะจนก็มักมีเหลือเก็บ"
นู๋เจ๋ง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,877



« ตอบ #3 เมื่อ: 29-04-2006, 00:13 »

ชอบ กวี ของคนภูเก็ต
ที่ว่า
อยู่อย่างเสือ อดอย่างราชสีห์ ดีกว่าอ้วนพลีแบบสุนัข ค่ะ Very Happy
บันทึกการเข้า

~จะแน่วแน่...แก้ไข...ในสิ่งผิด~
อธิฏฐาน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,912


รักษาประเทศชาติ เป็นหน้าที่ของชาวไทยทุกคน


« ตอบ #4 เมื่อ: 30-04-2006, 21:21 »

ชอบ.....รักกันชังกัน

รักกันอยู่ขอบฟ้า..............เขาเขียว
เสมือนอยู่หอแห่งเดียว......ร่วมห้อง
ชังกันบ่แลเหลียว............ตาต่อ  กันนา
เหมือนขอบฟ้ามาป้อง.......ป่าไม้มาบัง


โคลงโลกนิติ (กรมพระยาเดชาดิศร)

สวัสดีค่ะคุณป้าเสลา และทุกท่าน

บันทึกการเข้า

หยุด...สัมปทานอุทยานแห่งชาติ
http://www.oknation.net/blog/sandstone
เลิศภพจบพสุธา
Moderator
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 171



« ตอบ #5 เมื่อ: 01-05-2006, 11:45 »

เพลง ของขวัญจากก้อนดิน


เราทุกคนก็เหมือนก้อนดินแค่ก้อนหนึ่ง
เปราะบาง ไร้ค่า ไร้ความหมาย
อ่อนแอเหมือนโคลน ไหลไปตามทางเรื่อยไป
เมื่อน้ำแห้งไป ก็แตกระแหง

มีพลังเพียงแค่แรงเดียวที่ยึดเรา
เหนี่ยวรั้งเราไว้ให้กล้าแข็ง
รวมผู้คนมากมาย ให้ทรงพลังแข็งแรง
รวมเม็ดดินทุกเม็ด ให้เป็นแผ่นดิน

เราก็รู้ พ่อต้องเหนื่อยสักเพียงใหน
ต้องลำบากใจกายไม่เคยสิ้น
เพราะพ่อรู้ พ่อคือพลังแห่งแผ่นดิน
ให้เราพออยู่พอกินกันต่อไป

หากจะหาของขวัญให้พ่อสักกล่อง
เราทั้งผอง จะพร้อมกันได้ไหม
บวกกันเป็นดินเดียว ให้พ่อได้สุขใจ
ไม่ต้องเหนื่อยเกินไป อย่างที่เป็นมา

ช่วยกันทำความดีให้พ่อได้สุขใจ
ไม่ต้องเหนื่อยเกินไป อย่างที่แล้วมา






อาจจะไม่ใช่บทกวีที่ไพเราะและลงตัวนัก 
แต่งดงามในความหมาย ณ เวลานี้ยิ่งครับ
บันทึกการเข้า
อังศนา
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,860


Can't fight the moonlight!


เว็บไซต์
« ตอบ #6 เมื่อ: 13-05-2006, 22:21 »


~*~ ..ใบไม้ป่า.. ~*~

  ใบไม้ร่วงหนึ่งใบในราวป่า
ยังดีกว่าใบไม้เหลืองในเมืองหลวง
ที่รอปลิดหล่นเปล่าประโยชน์ปวง
เป็นด่างดวงดำเปื้อนในป่าคน

  ใบไม้ป่าร่วงแล้วได้เลี้ยงป่า
ทิ้งลงมาเลี้ยงรากเลี้ยงลำต้น
เหมือนแม่ให้นมลูกปลูกฝังจน
ลูกเติบตนโตแทนเต็มแผ่นดิน
 
  เมื่อเมืองคนคับคั่งด้วยคนป่า
คนดีก็ด้อยค่าเหมือนกรวดหิน
เมื่อสัตว์ป่าสร้างป่าไว้หากิน
สัตว์เมืองก็ต้องสิ้นวิสัยเมือง
 
  ใบไม้ป่าชื่อจิตร ภูมิศักดิ์
ได้ร่วงแล้วลงเป็นหลักให้โลกเลื่อง
ดั่งเทียนป่าปลุกแสงขึ้นแรงเรือง
ไม่เปล่าเปลืองลมปราณที่ต้านลม
 
  ลมประสานเสียงแคนว่าแค่นแค้น
เปิบข้าวทุกคราวแค่นความขื่นขม
เหงื่อกูรินตากูแล้งน้ำแห้งตรม
ร่างกูซมซานไข้จนเขียวคาว
 
  เสียงปืนดังเปรี้ยงกว่าเสียงปาก
ก็ปิดฉากชีวิตมืดมิดหนาว
แด่วิญญาณคือ ทิพย์ ที่ยืนยาว
ดั่งดวงดาวยิ่งดึกยื่งดื่นตา
 
  กาลเวลาฆ่าจิตร ภูมิศักดิ์
กาลเวลาก็ตระหนักประจักษ์ค่า
กาลเวลาฆ่าคนดีทุกทีมา
แต่เวลาก็ทูนเทิดเชิดคนดี
 
  ใบไม้ร่วงหนึ่งใบในราวป่า
เพื่อแตกมาเป็นใบใหม่ในทุกที่
จิตรหนึ่งดวงดับไปในวันนี้
เพื่อจะมีจิตรใหม่มากมายดวง
 
  ถ้าสัตว์เมืองสร้างเมืองเป็นป่าได้
เราก็เหมือนใบไม้ในเมืองหลวง
ที่โหยหาป่าเขาเปลี่ยวเปล่าปวง
จิตรจะร่วงลงทั้งป่าเข้ามาเมือง
 
~ เนาวรัตน์  พงษ์ไพบูลย์ ~

..ชอบบทกวีบทนี้ด้วย ๒ เหตุผลค่ะ คือ เป็นเรื่องของ จิตร ภูมิศักดิ์ และ แต่งโดย ท่านเนาว์ฯ
บันทึกการเข้า

แม้ผืนฟ้า มืดดับ เดือนลับละลาย 
ดาวยังพราย ศรัทธา เย้ยฟ้าดิน (จิตร ภูมิศักดิ์)
River no return
สมาชิกสามัญขั้นที่ 1
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 34



« ตอบ #7 เมื่อ: 13-05-2006, 23:49 »


เพลงเถื่อนแห่งสถาบัน

"ดอกหางนกยูงสีแดงฉาน
บานอยู่เต็มฟากสวรรค์
คนเดินผ่านไปมากัน
เขาดั้นด้นหาสิ่งใด"

ปัญญามีขายที่นี่หรือ
จะแย่งซื้อได้ที่ไหน
อย่างที่โก้หรูหราราคาเท่าใด
จะให้พ่อขายนามาแลกเอา

ฉันมาฉันเห็นฉันแพ้
ยินแต่เสียงด่าว่าโง่เขลา
เพลงที่นี่ไม่หวานเหมือนบ้านเรา
ใครไม่เข้าถึงพอเขาเยาะเย้ย

นี่จะให้อะไรกันบ้างไหม
มหาวิทยาลัยใหญ่โตเหวย
แม้นท่านมิอาจให้อะไรเลย
วานนิ่งเฉยอย่าบ่นอย่าโวยวาย

ฉันเยาว์ฉันเขลาฉันทึ่ง
ฉันจึงมาหาความหมาย
ฉันหวังเก็บอะไรไปมากมาย
สุดท้ายให้กระดาษฉันแผ่นเดียว

มืดจริงหนอสถาบันอันกว้างขวาง
ปล่อยฉันอ้างว้างขับเคี่ยว
เดินหาซื้อปัญญาจนหน้าเซียว
เทียวมาเทียวไปไม่รู้วัน

"ดอกหางนกยูงสีแดงฉาน
บานอยู่เต็มฟากสวรรค์
เกินพอให้เจ้าแบ่งปัน
จงเก็บกันอย่าเดินผ่านเลยไป!"

วิทยากร เชียงกูล
บันทึกการเข้า

น้ำนั้นเหลว อ่อนและยอม แต่น้ำจะกัดเซาะหินซึ่งแข็ง และไม่ยอม…
ดอกฟ้ากับหมาวัด
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,042



« ตอบ #8 เมื่อ: 14-05-2006, 00:41 »

ดอกฟ้าฯ ประทับใจในบทกวีอันนี้มากค่ะ.

''โซ่ที่ยังไม่ได้ปลด''


'' ว่าโอ้พิมนิ่มนวลของเณรแก้ว

เจ้าไปแล้วจะรำลึกถึงพี่บ้าง

ฤางามปลื้มแม่จะลืมน้ำใจจาง

แต่ครุ่นครางครวญคิดจนค่อนคืนฯ''


จนคืนค่อนนอนอ่านทั้งหวานฉ่ำ

ทั้งโศกซ้ำ กำสรด ทั้งสดชื่น

ว่าวันทองสองใจไม่ยั่งยืน

ใครเล่าขืนกดขี่ชีวิตพิม


ใช่คาถาอาคมพรหมลิขิต

มิใช่จิตจำนนจนหงอยหงิม

หญิงคือเครื่องสังเวยเครื่องเชยชิม

นี่แหละคือดาบทิ่มจิ้มจ่อคอ


บุรุษคือผู้ถูกในทุกสิ่ง

แม้เณรทิ้งจีวรมานอนหอ

ว่าทระนงองอาจชาติสีดอ

สมเป็นหน่อเนื้อพลายชายชาตรี


ครั้นขุนช้างบังอาจด้วยบาตรใหญ่

แม่ก็เห็นเป็นใจไปทุกที่

อำนาจเงินครอบงำเข้าย่ำยี

ชั่วว่าดีผิดว่าถูกไปทุกคราว


ความเป็นคนของพิมจึงนิ่มนุ่ม

ถูกเขากุมเขากดกำหนดก้าว

ตัดสินใจไม่ถูกทุกเรื่องราว

จนชื่อฉาวชั่วช้าว่าสองใจ


เพราะโอกาสตัดสินใจไม่เคยมี

จะยืนยันทันทีได้ที่ไหน

ถูกริดรอนสิทธิ์เสรีทุกทีไป

สงสารพิมพิลาไล ตายทั้งเป็น


สังคมคดกดขี่สตรีเพศ

กั้นขอบเขตครอบครองเป็นของเล่น

จนแกร่งกรากกระชากโซ่ทุกเส้นเอ็น

ให้มันขาดกระเด็น............ด้วยมือเรา


บทกวีจากท่าน เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์

สุภาพบุรุษ ยอดกวี ที่เข้าใจความรู้สึกถึงแก่นแท้

ของความเป็นผู้หญิง .... Smile
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-05-2006, 00:44 โดย ดอกฟ้ากับหมาวัด » บันทึกการเข้า

***ผู้ยิ่งใหญ่ในแผ่นดินเปรียบเสมือนเรือ ประชาชนเปรียบเสมือนน้ำ

      น้ำพยุงเรือให้แล่นไปได้ และน้ำก็จมเรือได้เช่นกัน***
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #9 เมื่อ: 14-05-2006, 04:56 »

ผมอ่านได้เรื่อย ๆ ไม่ได้ดื่มด่ำกับมันมากนัก

อาจเพราะวัยที่เพิ่มมากขึ้น คงต้องหาแนวปรัชญามาอ่าน
บันทึกการเข้า

สเลเต
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 211



เว็บไซต์
« ตอบ #10 เมื่อ: 20-05-2006, 22:00 »

ชอบบทนี้ค่ะ
เป็นงานประพันธ์ของหลูซิ่น
กวีจีนค่ะ

"แม้คนพันบัญชาชี้หน้าเย้ย
จงขวางคิ้วเย็นชาเฉยเถิดสหาย
ต่อผองเหล่านรชนกล่นเกิดราย
จงน้อมกายค้อมหัวเป็นงัวงาน "

ถอดความโดยจิตร ภูมิศักดิ์
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-05-2006, 20:21 โดย สเลเต » บันทึกการเข้า

เหมือนจะพร้อมให้หอมดอก...สเลเต
แวะไปชมบ้านหลังน้อยกันได้นะคะ

http://mahahong.bloggang.com

และแอบประชาสัมพันธ์งานรวมเล่มชิ้นแรกด้วยค่ะ

http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=mahahong&month=03-2006&date=28&group=1&blog=1
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #11 เมื่อ: 22-05-2006, 18:46 »

มีมากมายหลายบท แต่ชอบบทนี้มากที่สุดครับ

"เพื่อลบรอยคราบน้ำตาประชาราษฏร์
สักพันชาติจักสู้ม้วยด้วยหฤหรรษ์
แม้นชีพใหม่มีเหมือนหวังอีกครั้งครัน
จักน้อมพลีชีพนั้นเพื่อมวลชน"


บทกวีของ อาเวตีก อีสากยัน กวีประชาชนแห่งอารเมเนีย
ถอดความโดย จิตร ภูมิศักดิ์

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-05-2006, 18:48 โดย jerasak » บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
THE THIRD WAY
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,821


Love looks not with eyes, but with the mind.


« ตอบ #12 เมื่อ: 29-05-2006, 13:02 »

ของท่านเนาวรัตน์ ข้างบน สวยงามมากครับ
ผมชอบบทนี้ครับ
บทดอกสร้อยชื่อ รำพึงในป่าช้า
จากโคลงโลกนิติคำกลอน
------------------------------------------------------
วังเอ๋ย วังเวง
หง่างเหง่งย่ำค่ำระฆังขาน
ฝูงวัวควายผ้ายลาทิวากาล
ค่อยค่อยผ่านท้องทุ่งมุ่งถิ่นตน
ชาวนาเหนื่อยอ่อนต่างจรกลับ
ตะวันลับอับแสงทุกแห่งหน
ทิ้งทุ่งให้มืดมัวทั่วมณฑล
และทิ้งตนตูเปลี่ยวอยู่เดียวเอย
บันทึกการเข้า

ความรักนั้นหวาน ไม่ว่าจะรับหรือให้
************************
การขับไล่ทรราช เป็นภารกิจของเจ้าของประเทศ
หน้า: [1]
    กระโดดไป: