ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
20-04-2024, 04:26
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  เพียง9เดือนก็เห็นผล! สรรพากร'เปลี่ยนสี' แฉใบเสร็จมัดตัวเอง สั่งล้างคุกรอได้เลย 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
เพียง9เดือนก็เห็นผล! สรรพากร'เปลี่ยนสี' แฉใบเสร็จมัดตัวเอง สั่งล้างคุกรอได้เลย  (อ่าน 2479 ครั้ง)
นทร์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,441



เว็บไซต์
« เมื่อ: 08-11-2006, 15:58 »

เผย “ใบเสร็จ” มัดกรมสรรพกร 9 เดือนที่แล้ว การันตีเป็นมั่น-เป็นเหมาะว่า ตีความตามกม.แล้ว ไม่อยากเก็บภาษี “โอ๊ค-เอม”

แต่พอฟ้าเปลี่ยนสี “ศิโรตม์” กลับลำ พลิกลิ้นเฉย เดินหน้าทวงคืนภาษีหน้าตาเฉย


.....

(ปัจจุบัน)

"ผมไม่เคยบอกว่า ไม่ต้องเสียภาษี เป็นการกล่าวอ้างในแต่ละเหตุการณ์เป็นการตั้งสมมติฐาน เมื่อสมมติฐานแตกต่างข้อเท็จจริง ก็เป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่ต้องดำเนินการได้ ส่วนเรื่องรายละเอียดไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะผิดกฎหมาย เมื่อมีข้อบ่งชี้ที่ชัดเจนทำให้เรามั่นใจที่จะดำเนินการได้ และพร้อมเปิดให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเข้ามาชี้แจงภายใน 30 วัน"อธิบดีกรมสรรพากรกล่าว

....

2 ก.พ.2549 เปิดแถลงข่าวใหญ่โต “ปลัดคลัง” นำทีม

นายศิโรตม์ สวัสดิพาณิชย์ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวยืนยันว่า “การขายหุ้นชินเข้าข่ายกรณีบุคคลธรรมดาซื้อหุ้นในราคาต่ำกว่าราคาตลาด เป็นการซื้อทรัพย์สินในราคาถูก ส่วนต่างจากราคาซื้อกับราคาตลาด จึงไม่เข้าลักษณะเป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 39 แห่งประมวลรัษฎากร และกรณีบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศมิได้ประกอบกิจการในไทย ขายหุ้นให้แก่บุคคลธรรมดาที่อยู่ในประเทศไทย หากไม่มีเงินได้เกินกว่าที่ลงทุน ผู้จ่ายเงินไม่ต้องหักภาษีและนำส่งตามมาตรา 70 แห่งประมวลรัษฎากร"

.....

ด้านนายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า พวกนี้ควรโดนมาตรา 157 ฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เข้าคุกทั้งนั้น ถือเป็นใบเสร็จมัดตัวเอง เพราะตอนนั้นคุณมีความเห็นอย่างหนึ่ง แต่ต้องไม่ลืมว่า เค้าได้ประโยชน์ไปแล้ว จากการใช้ดุลยพินิจของสรรพากร แต่ตอนนี้ เมื่ออำนาจทักษิณหมดไป ก็ชัดเจน หากเอาจริงนะ

“ถ้าผมเป็นประธานคตส.นะ ล้างคุกรอได้เลย ทั้งนักการเมือง ข้าราชการ เอกชน ทุจริตมันเหมือนกับมะเร็ง ลามไปทั่ว”นายอลงกรณ์กล่าว

http://thaicia.com/thaiinsider/content/view/411/12/

เจอ thaiinsider แฉหลักฐาน ซะแล้ว 

อาจถึงคุก? 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-11-2006, 16:04 โดย นทร์ » บันทึกการเข้า

"ประชาชน อย่าทิ้งประเทศชาติ"
ชอบแถ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,138



« ตอบ #1 เมื่อ: 08-11-2006, 16:05 »

ลองไล่เรียงดูมันก็คือหุ้นพ่อมอบให้ลูกนอกตลาด แต่ไปผ่านบริษัทบนเกาะบริติชซึ่งก็ไม่มีคนนอกถือหุ้นเลย พ่อๆ ลูกๆ ทั้งนั้น
ไม่รู้จะไปอยากได้ภาษีอะไรจากเค้านักหนา ตอนขายให้เทมาเส็กที่ได้เงินกันจริงๆ ก็ขายในตลาด ถ้ามองด้วยใจเป็นธรรมแบบ
นี้จะเข้าข่ายไปเก็บภาษีมรดกซะด้วยซ้ำ ถ้าตอนนั้นซื้อมาในราคาที่ขายเทมาเส็กก็คงจะเอาผิดไม่ได้ เพราะบริษัทอยู่บนเกาะ
และบริษัทก็ไม่ต้องเสียภาษี เข้าข่ายอิจฉาความรวยหรือเปล่าครับคิดดู
บันทึกการเข้า
นทร์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,441



เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: 08-11-2006, 16:21 »

อธิบดีสรรพากรปัดกลับลำ เรียก"โอ๊ค-เอม"เสียภาษีซื้อขายหุ้นชินฯ ระบุมีหลักฐานใหม่และพบข้อเท็จจริงแตกต่างจากที่เคยหารือว่าไม่ต้องเสียภาษี บอกตัวเองเลือกยืนอยู่นอกคุก ยันเก็บในอัตราก้าวหน้าสูงสุด 37% ไม่รวมค่าปรับ
http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01p0108081149&day=2006/11/08

คุณแถ สรรพากรเรียกเก็บภาษี มีค่าปรับด้วย อิจฉาอะไรกัน 
บันทึกการเข้า

"ประชาชน อย่าทิ้งประเทศชาติ"
Suraphan07
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,128



« ตอบ #3 เมื่อ: 08-11-2006, 16:31 »

อธิบดีสรรพากรปัดกลับลำ เรียก"โอ๊ค-เอม"เสียภาษีซื้อขายหุ้นชินฯ ระบุมีหลักฐานใหม่และพบข้อเท็จจริงแตกต่างจากที่เคยหารือว่าไม่ต้องเสียภาษี บอกตัวเองเลือกยืนอยู่นอกคุก ยันเก็บในอัตราก้าวหน้าสูงสุด 37% ไม่รวมค่าปรับ
http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01p0108081149&day=2006/11/08

คุณแถ สรรพากรเรียกเก็บภาษี มีค่าปรับด้วย อิจฉาอะไรกัน 



แสดงว่า เมื่อตอนนู้นถ้าเก็บภาษี มีโอกาสอยู่ในคุก 
บันทึกการเข้า
นทร์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,441



เว็บไซต์
« ตอบ #4 เมื่อ: 08-11-2006, 16:34 »

อธิบดีสรรพากรปัดกลับลำ เรียก"โอ๊ค-เอม"เสียภาษีซื้อขายหุ้นชินฯ ระบุมีหลักฐานใหม่และพบข้อเท็จจริงแตกต่างจากที่เคยหารือว่าไม่ต้องเสียภาษี บอกตัวเองเลือกยืนอยู่นอกคุก ยันเก็บในอัตราก้าวหน้าสูงสุด 37% ไม่รวมค่าปรับ
http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01p0108081149&day=2006/11/08

คุณแถ สรรพากรเรียกเก็บภาษี มีค่าปรับด้วย อิจฉาอะไรกัน 



แสดงว่า เมื่อตอนนู้นถ้าเก็บภาษี มีโอกาสอยู่ในคุก 

ผมว่าอาจเหมือนชิปปิ้งหมูมากกว่า 
บันทึกการเข้า

"ประชาชน อย่าทิ้งประเทศชาติ"
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #5 เมื่อ: 08-11-2006, 17:05 »

กล้าๆน่อยดิ๊...เรื่องเสียภาษีเรื่องเล็ก เอาเรื่องใหญ่ๆเช่น กุหลาบแก้วมาตัดสินใน1-2เดือนข้างหน้านี้เลยดีมั้ยเพราะสภาหอการค้านานาชาติเค้าต้องการความชัดเจนว่าจะเทขายธุรกิจในไทยและโยกไปประเทศอื่นดีมั้ย

ส่วนอะไรที่มันเป็น grey area แล้วไปตัดสินให้ผิด...ระวังระบบมันจะพังเร็วกว่าที่คาดไว้ก็แล้วกัน


ขี้เกียจเตือนซ้ำซาก!! Rolling Eyes
บันทึกการเข้า
นทร์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,441



เว็บไซต์
« ตอบ #6 เมื่อ: 08-11-2006, 17:16 »

ใจเย็นๆ คุณอารายจ๊ะ อย่าใจร้อน เรื่องแบนี้ต้องให้เนี๊ยบ...
(ทั้งที่ผมอยากให้เร็วๆเหมือนกันนั้นแหละ) 



'แก้วสรร' ยันภาษีหุ้นชินคอร์ปต้องสอบถึงโอนหุ้น-ซุกหุ้น-นอมินิ
8 พฤศจิกายน 2549 16:28 น.
"แก้วสรร" ยันแม้ "พานทองแท้ -พิณทองทา ชินวัตร " จะคืนภาษีหุ้นชินคอร์ป แต่เรื่องยังไม่จบ เผย คตส.ต้องสอบถึงย้อนหลังทั้ง "โอนหุ้น-ซุกหุ้น-นอมินี " ด้วย
http://www.bangkokbiznews.com/level3/news_119304.jsp
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-11-2006, 17:26 โดย นทร์ » บันทึกการเข้า

"ประชาชน อย่าทิ้งประเทศชาติ"
คนเดินดิน
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 388


« ตอบ #7 เมื่อ: 08-11-2006, 17:29 »

แถ ระบบภาษีเมืองไทย ใช้ระบบรับรู้ภาษีทั่วโลกนะ

อธิบดีกรมสรรพพากร ----> จิ้งจกเปลี่ยนสี
บันทึกการเข้า
type
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 525


« ตอบ #8 เมื่อ: 08-11-2006, 17:57 »

CTXกับ ชินคอร์ปเทมาเส็ก ไปถึงไหนแล้วครับเรื่องใหญ่ๆทั้งนั้นเลย
บันทึกการเข้า
เบื่อไอ้เหลี่ยม
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 389


« ตอบ #9 เมื่อ: 08-11-2006, 18:26 »

ไอ้แถกับอะไรจ๊ะนี่อยู่ในข่ายติดคุกด้วยนะครับ โทษฐานเป็นผู้สนับสนุนให้เกิดการกระทำผิดครับ  ตำรวจลากตัวมันไปเร็วๆด้วยครับ เอาให้เข็ด
บันทึกการเข้า
Cherub Rock
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,183


น้องๆ ช่วยไปบอกผู้หญิงคนนั้นที ว่าเลิกมองผมได้แล้ว


« ตอบ #10 เมื่อ: 09-11-2006, 00:34 »

คู่มือเลี่ยงภาษี ฉบับ ‘บิ๊ก’ สรรพากร
- ประสงค์ เลิศรัตนวิสุทธิ์ -
http://www.onopen.com/2006/editor-spaces/948

มีการกล่าวหาว่า ในกระบวนการซื้อขายบริษัทชินคอร์ปอเรชั่นมูลค่า
73,300 ล้านบาท ระหว่างครอบครัวชินวัตรกับบริษัทเทมาเส็ก โฮลดิ้ง
จำกัดของสิงคโปร์ ผู้บริหารระดับสูงกรมสรรพากรละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
ไม่เก็บภาษีเงินได้ บุคคลธรรมดาจากนายพานทองแท้ และ น.ส.พิณ
ทองทา ชินวัตร ที่ซื้อหุ้นชินคอร์ป เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2549 จำนวน
329.2 ล้านหุ้น จากบริษัท Ample Rich Investment Limited ในราคา
หุ้นละ 1 บาท ในขณะที่ราคาตลาดหุ้นละ 49 บาท ทำให้บุคคลทั้งสอง
ได้รับผลประโยชน์จาก “ส่วนต่าง” ราคาหุ้น 15,802 ล้านบาท โดยไม่
ต้องเสียภาษีแม้แต่บาทเดียว


หลังจากมีข้อกล่าวหาดังกล่าวเกิดขึ้น สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.)
ได้เข้าไปตรวจสอบกรณีดังกล่าว คาดว่าคงมีผลสรุปในเร็วๆนี้

ถ้า มีข้อสรุปว่าทั้งนายพานทองแท้และน.ส.พิณทองทา ต้องเสียภาษีเงิน
ได้บุคคลธรรมดาตามกฎหมาย(ในอัตราร้อยละ 37)จะเป็นเงินกว่า 5,846
ล้านบาท

อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ (2 กุมภาพันธ์ 2549)นายศิโรตม์ สวัสดิพาณิชย์
อธิบดีกรมสรรพากร เคยแถลงยืนยัน ว่า การซื้อหุ้นในลักษณะดังกล่าว
นายพานทองแท้และ น.ส.พิณทองทาไม่ต้องเสียภาษีด้วยเหตุผล 2 ข้อ
คือ


1. การที่นายพานทองแท้ และ น.ส.พิณทองทาซื้อหุ้นชินคอร์ป ในราคา
ต่ำกว่าราคาตลาด เป็นการซื้อทรัพย์สินในราคาถูกซึ่งเป็นเรื่องของการตก
ลงระหว่างผู้ซื้อและ ผู้ขาย อันเป็นเรื่องปกติทั่วๆ ไป จากการซื้อขายตาม
มาตรา 453
แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ส่วนต่างของราคา
ซื้อกับราคาตลาด จึงไม่เข้าลักษณะเป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 39
แห่งประมวลรัษฎากร


(ประเด็น นี้นักวิชาการโต้แย้งว่า ถ้าทุกบริษัททำในลักษณะเดียวกัน คือ
ขายสินค้าของบริษัทให้แก่ลูกจ้าง พนักงานและกรรมการในราคาถูกโดย
ไม่ต้องเสียภาษีเกิดการหลีกเลี่ยงภาษีกัน ขนาดใหญ่ จนทำให้ระบบการ
จัดเก็บภาษีหายนะ)

2. กรณีที่บริษัท Ample Rich ขายหุ้นบริษัทชินคอร์ปที่บริษัทได้ถือไว้
ให้กับนายพานทองแท้ และ น.ส.พิณทองทา ซึ่งเป็นกรรมการของบริษัท
Ample Rich
ตามข้อเท็จจริงดังกล่าว หุ้นชินคอร์ปที่บริษัทได้ซื้อไว้เป็น
ทรัพย์สินหรือสินค้าของบริษัท Ample Rich มิใช่เป็นหุ้นของบริษัท
Ample Rich เป็นผู้ออกเอง
กรณีนี้จึงไม่เข้าลักษณะตามคำวินิจฉัยของ
คณะกรรมการวินิจฉัยภาษีอากรที่ 28/2538 เรื่องภาษีเงินได้บุคคล
ธรรมดา กรณีการเสียภาษีในกรณีได้รับแจกหุ้น หรือได้ซื้อหุ้นในราคาที่
ต่ำกว่าราคาตลาดตามข้อตกลงพิเศษ
ลงวันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2538

(หนังสือของกรมสรรพากร ที่ กค.0706/7896 ลงวันที่ 21 กันยายน
2548 ลงนามโดยนางเบญจา หลุยเจริญ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาฐานภาษี
ตอบข้อหารือของ น.ส.ปราณี เวชพฤกษ์พิทักษ์ คนสนิทของคุณหญิง
พจมาน)


เหอๆๆๆ จับยัดคุกให้หมด รักเกียรติ์กำลังเหงา

ใครอยากแถลองเข้าไปอ่านกระทู้เก่าดู
http://forum.serithai.net/index.php?topic=7256.0
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-11-2006, 02:24 โดย Cherub Rock » บันทึกการเข้า

"นายกรัฐมนตรีกำลังใช้รัฐสภาประกอบพิธีกรรมสถาปนาอำนาจของตนเองโดยเห็นรัฐสภาเป็นเพียงแค่ตรายาง และปล่อยให้มีการทำร้ายประชาชนถือว่าหมดความชอบธรรมแล้ว" รสนา โตสิตระกูล
RiDKuN
Administrator
ขาประจำขั้นที่ 3
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,015



เว็บไซต์
« ตอบ #11 เมื่อ: 09-11-2006, 01:25 »

คุณศิโรตม์ คุณทำดีแล้ว
แบบนี้เอาไปใช้อ้างเพื่อลดหย่อนโทษกับศาลได้แน่นอน
แต่ถ้ากล้าบอกว่าใครเป็นคนบงการอยู่เบื้องหลัง เขาอาจจะกันตัวไว้เป็นพยานเลยนะ
ลองคิดดูดีๆ 
บันทึกการเข้า

คนไม่มี "อุดมคติ" ไม่ใช่ "นักการเมือง"
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #12 เมื่อ: 09-11-2006, 03:14 »

พวกโกงชาตินี่ต้องจับใส่คุกให้เข็ด
บันทึกการเข้า

type
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 525


« ตอบ #13 เมื่อ: 09-11-2006, 03:21 »

อ้างถึง
เท่าที่ทราบมา ถ้าจะให้เสีย จะห้าพันหรือหมื่นล้าน ครอบครัวทักษิณ ไม่มีปัญหาถ้ามันต้องเสีย

แต่ที่เป็นปัญหาก็คือ เสียแล้วจบหรือเปล่า...หรือเสียทั้งๆที่ไม่ต้องเสีย เดี๋ยวปัญหาก็ตามมาอีก

เพื่อความเข้าใจของพวกเรา ผมขอยกกฎหมายมาให้พวกเราพิจารณาสัก 3 มาตรา

มาตรา 40 เงินได้พึงประเมินนั้น คือเงินได้ประเภทต่อไปนี้ รวมตลอดถึงเงินค่าภาษีอากรที่ผู้จ่ายเงินหรือผู้อื่นออกแทนให้สำหรับเงินได้ ประเภทต่าง ๆ ดังกล่าว ไม่ว่าในทอดใด
  (1) เงินได้เนื่องจากการจ้างแรงงานไม่ว่าจะเป็นเงินเดือน ค่าจ้าง เบี้ยเลี้ยง โบนัส เบี้ยหวัด บำเหน็จ บำนาญ เงินค่าเช่าบ้าน เงินที่คำนวณได้จากมูลค่าของการได้อยู่บ้านที่นายจ้างให้อยู่โดยไม่เสียค่า เช่า เงินที่นายจ้างชำระหนี้ใดๆ ซึ่งลูกจ้างมีหน้าที่ต้องชำระ และเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์ใดๆ บรรดาที่ได้เนื่องจากการจ้างแรงงาน

( ดูคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป.7/2528 )
( ดูคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป.23/2533 )
( ดูคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป.56/2538 )
( ดูคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป.115/2545 )
( ดูคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป.120/2545 )
  (2) เงินได้เนื่องจากหน้าที่หรือตำแหน่งงานที่ทำ หรือจากการรับทำงานให้ ไม่ว่าจะเป็นค่าธรรมเนียม ค่านายหน้า ค่าส่วนลด เงินอุดหนุนในงานที่ทำ เบี้ยประชุม บำเหน็จ โบนัส เงินค่าเช่าบ้าน เงินที่คำนวณได้จากมูลค่าของการได้อยู่บ้านที่ผู้จ่ายเงินได้ให้อยู่โดยไม่ เสียค่าเช่า เงินที่ผู้จ่ายเงินได้จ่ายชำระหนี้ใดๆ ซึ่งผู้มีเงินได้มีหน้าที่ต้องชำระ และเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์ใดๆ บรรดาที่ได้เนื่องจากหน้าที่หรือตำแหน่งงานที่ทำ หรือจากการรับทำงานให้นั้นไม่ว่าหน้าที่ หรือตำแหน่งงาน หรืองานที่รับทำให้นั้นจะเป็นการประจำหรือชั่วคราว

( พระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 13) พ.ศ. 2527 ใช้บังคับ 1 ม.ค. 2528 เป็นต้นไป )
( ดูคำวินิจฉัยของคณะกรรมการวินิจฉัยภาษีอากร ที่ 29/2538 )
( ดูคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป.115/2545 )
( ดูคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป.120/2545 )
( ดูคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป.124/2546 )
  (3) ค่าแห่งกู๊ดวิลล์ ค่าแห่งลิขสิทธิ์หรือสิทธิอย่างอื่น เงินปี หรือเงินได้มีลักษณะเป็นเงินรายปีอันได้มาจากพินัยกรรม นิติกรรมอย่างอื่น หรือคำพิพากษาของศาล
( พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 16) พ.ศ. 2502 ใช้บังคับปีภาษี 2502 เป็นต้นไป )
  (4) เงินได้ที่เป็น

    (ก) ดอกเบี้ยพันธบัตร ดอกเบี้ยเงินฝาก ดอกเบี้ยหุ้นกู้ ดอกเบี้ยตั๋วเงิน ดอกเบี้ยเงินกู้ยืมไม่ว่าจะมีหลักประกันหรือไม่ ดอกเบี้ยเงินกู้ยืมที่อยู่ในบังคับต้องถูกหักภาษีไว้ ณ ที่จ่ายตามกฎหมายว่าด้วยภาษีเงินได้ปิโตรเลียมเฉพาะส่วนที่เหลือจากถูกหัก ภาษีไว้ ณ ที่จ่ายตามกฎหมายดังกล่าว หรือผลต่างระหว่างราคาไถ่ถอนกับราคาจำหน่ายตั๋วเงินหรือตราสารแสดงสิทธิใน หนี้ที่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล หรือนิติบุคคลอื่นเป็นผู้ออกและจำหน่ายครั้งแรกในราคาต่ำกว่าราคาไถ่ถอน รวมทั้งเงินได้ที่มีลักษณะทำนองเดียวกันกับดอกเบี้ย ผลประโยชน์หรือค่าตอบแทนอื่นๆ ที่ได้จากการให้กู้ยืม หรือจากสิทธิเรียกร้องในหนี้ทุกชนิด ไม่ว่าจะมีหลักประกันหรือไม่ก็ตาม
( พระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 29) พ.ศ. 2534 ใช้บังคับ 7 พ.ย. 2534 เป็นต้นไป )
( ดูกฎกระทรวง ฉบับที่ 126 (พ.ศ. 2509) ข้อ 2 (30))
( ดูคำวินิจฉัยของคณะกรรมการวินิจฉัยภาษีอากร ที่ 30/2538 ) 
    (ข) เงินปันผล เงินส่วนแบ่งของกำไรหรือ ประโยชน์อื่นใดที่ได้จากบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล กองทุนรวม หรือสถาบันการเงินที่มีกฎหมายโดยเฉพาะของประเทศไทย จัดตั้งขึ้นสำหรับให้กู้ยืมเงินเพื่อส่งเสริมเกษตรกรรม พาณิชยกรรมหรืออุตสาหกรรม เงินปันผล หรือเงินส่วนแบ่งของกำไรที่อยู่ในบังคับต้องถูกหักภาษีไว้ ณ ที่จ่ายตามกฎหมายว่าด้วยภาษีเงินได้ปิโตรเลียมเฉพาะส่วนที่เหลือจากถูกหัก ภาษีไว้ ณ ที่จ่ายตามกฎหมายดังกล่าว
( พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2525 ใช้บังคับปีภาษี 2525 เป็นต้นไป )
( ดูคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป.119/2545 )
( ดูคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป.122/2545 )
    เพื่อประโยชน์ในการคำนวณเงินได้ตามวรรคหนึ่ง ในกรณีที่บุตรชอบด้วยกฎหมายที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะเป็นผู้มีเงินได้ และความเป็นสามีภริยาของบิดาและมารดาได้มีอยู่ตลอดปีภาษี ให้ถือว่าเงินได้ของบุตรดังกล่าวเป็นเงินได้ของบิดา แต่ถ้าความเป็นสามีภริยาของบิดาและมารดามิได้มีอยู่ตลอดปีภาษี ให้ถือว่าเงินได้ของบุตรดังกล่าวเป็นเงินได้ของบิดาหรือมารดาผู้ใช้อำนาจ ปกครอง หรือของบิดาในกรณีบิดามารดาใช้อำนาจปกครองร่วมกัน
  ความในวรรคสองให้ใช้บังคับกับบุตรบุญธรรมที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะซึ่งเป็นผู้มีเงินได้ด้วยโดยอนุโลม
( พระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2523 ใช้บังคับปีภาษี 2523 เป็นต้นไป )
    (ค) เงินโบนัสที่จ่ายแก่ผู้ถือหุ้น หรือผู้เป็นหุ้นส่วนในบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล
  (ง) เงินลดทุนของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลเฉพาะส่วนที่จ่ายไม่เกินกว่ากำไรและเงินที่กันไว้รวมกัน
  (จ) เงินเพิ่มทุนของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลซึ่งตั้งจากกำไรที่ได้มาหรือเงินที่กันไว้รวมกัน
  (ฉ) ผลประโยชน์ที่ได้จากการที่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลควบเข้ากัน หรือรับช่วงกัน หรือเลิกกัน ซึ่งตีราคาเป็นเงินได้เกินกว่าเงินทุน
  (ช) ผลประโยชน์ที่ได้จากการโอนการเป็นหุ้นส่วน โอนหุ้น หุ้นกู้ พันธบัตร หรือตั๋วเงิน หรือตราสารแสดงสิทธิในหนี้ที่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลหรือนิติบุคคล อื่นเป็นผู้ออก ทั้งนี้ เฉพาะซึ่งตีราคาเป็นเงินได้เกินกว่าที่ลงทุน
( พระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 29) พ.ศ. 2534 ใช้บังคับ 7 พ.ย. 2534 เป็นต้นไป )
( ดูกฎกระทรวง ฉบับที่ 126 (พ.ศ.2509) ข้อ 2 (30) )
  (5) เงินหรือประโยชน์อย่างอื่นที่ได้เนื่องจาก
    (ก) การให้เช่าทรัพย์สิน
( ดูประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ผู้มีเงินได้จากการให้เช่าทรัพย์สินไม่ยื่นรายการเงินได้ให้ครบถ้วน )
( ดูคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ป.1/2526 )
  (ข) การผิดสัญญาเช่าซื้อทรัพย์สิน
  (ค) การผิดสัญญาซื้อขายเงินผ่อนซึ่งผู้ขายได้รับคืนทรัพย์สินที่ซื้อขายนั้น โดยไม่ต้องคืนเงินหรือประโยชน์ที่ได้รับไว้แล้ว
  ในกรณี (ก) ถ้าเจ้าพนักงานประเมินมีเหตุอันควรเชื่อว่า ผู้มีเงินได้แสดงเงินได้ต่ำไป ไม่ถูกต้องตามความเป็นจริง เจ้าพนักงานประเมินมีอำนาจประเมินเงินได้นั้นตามจำนวนเงินที่ทรัพย์สินนั้น สมควรให้เช่าได้ตามปกติ และให้ถือว่าจำนวนเงินที่ประเมินนี้เป็นเงินได้พึงประเมินของผู้มีเงินได้ ในกรณีนี้จะอุทธรณ์การประเมินก็ได้ ทั้งนี้ให้นำบทบัญญัติว่าด้วยการอุทธรณ์ตามส่วน 2 หมวด 2 ลักษณะ 2 มาใช้บังคับโดยอนุโลม
  ในกรณี (ข) และ (ค) ให้ถือว่าเงินหรือประโยชน์ที่ได้รับไว้แล้วแต่วันทำสัญญาจนถึงวันผิดสัญญา ทั้งสิ้น เป็นเงินได้พึงประเมินของปีที่มีการผิดสัญญานั้น
( พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 16) พ.ศ. 2502 ใช้บังคับปีภาษี 2502 เป็นต้นไป )

  (6) เงินได้จากวิชาชีพอิสระ คือ วิชากฎหมาย การประกอบโรคศิลป วิศวกรรม สถาปัตยกรรม การบัญชี ประณีตศิลปกรรม หรือวิชาชีพอิสระอื่น ซึ่งจะได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดชนิดไว้
  (7) เงินได้จากการรับเหมาที่ผู้รับเหมาต้องลงทุนด้วยการจัดหาสัมภาระในส่วนสำคัญนอกจากเครื่องมือ
  (Cool เงินได้จากการธุรกิจ การพาณิชย์ การเกษตร การอุตสาหกรรม การขนส่ง หรือการอื่นนอกจากที่ระบุไว้ใน (1) ถึง (7) แล้ว
( พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 10) พ.ศ. 2496 ใช้บังคับปีภาษี 2596 เป็นต้นไป )
( ดูคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ป.102/2544)
( ดูคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป.115/2545 )
( ดูคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป.119/2545 )
( ดูคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป.120/2545 )
( ดูคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป.122/2545 )
  เงินค่าภาษีอากรตามวรรคหนึ่ง ถ้าผู้จ่ายเงินหรือผู้อื่นออกแทนให้สำหรับเงินได้ประเภทใด ไม่ว่าทอดใดหรือในปีภาษีใดก็ตาม ให้ถือเป็นเงินได้ประเภทและของ ปีภาษีเดียวกันกับเงินได้ที่ออกแทนให้นั้น
( พระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 13) พ.ศ. 2527 ใช้บังคับ 1 ม.ค. 2528 เป็นต้นไป )
 
....ที่ต้องยกมาทั้งหมด เพราะมันเกี่ยวโยงกันหมด...แต่วงเล็บอื่นอย่าไปสนใจ ให้ดูที่ (4)(ช) กับ (Cool

.....ตรง (4)(ช) จะมีคำว่า ( ดูกฎกระทรวง ฉบับที่ 126 (พ.ศ.2509) ข้อ 2 (30) )
.....กฎกระทรวงฉบับนี้ เขียนยกเว้นว่า รายได้ตามข้อนี้ ถ้าเป็นการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ไม่ต้องเสียภาษี

เดิมสรรพากร ตีความตรงๆ ชัดๆ ตามนี้ นายโอ๊คก็ไม่ต้องเสียภาษี

แต่ หลังจากอธิบดีกรมสรรพากร นอนหลับมาแล้วหลายคืนฝันว่า คมช.จะให้อยู่ในตำแหน่งต่อ ก็เกิดนิมิตขึ้นมาว่า แบบนี้มันต้อง ยัดเข้า มาตรา 40(Cool ทั้งๆที่ข้อ 8 บอกชัดว่าเงินได้อื่นนอกจาก (1)-(7) หมายความว่าถ้าเงินได้ใดไม่เข้าตาม (1)-(7) ให้จับยัดเข้าในข้อ (Cool

ทั้งๆที่ การโอนหุ้นจากแอมเพิ้ลริชมาให้นายโอ๊ค อยู่ใน(4)(ช) ซึ่งไม่ต้องเสียภาษี เพราะเหตุผลสองอย่างคือ

1 กฎหมายเขียนว่า ถ้าบริษัทไหนมีผู้ถือหุ้นคนใดถือหุ้นเกินห้าสิบให้ถือว่าเป็นหน่วยภาษีเดียว กัน หมายความว่าเป็นคนๆเดียวกันกับผู้ถือหุ้น

2 กรณีนี้เป็นการโอนขายหุ้นให้แก่กัน เหมือนกับซื้อสินค้าทั่วไป ที่คู่สัญญาจะซื้อขายเท่าใดก็ได้ ไม่ต้องนำส่วนต่างหรือส่วนลดมาเสียภาษี เหมือนกับ กรณีนายจ้างให้เงินหรือประโยชน์อื่นใดแก่ลูกจ้าง ที่ต้องนำส่วนลดหรือส่วนต่างมาเสียภาษี

แต่ถ้าสรรพากรจับยัดเข้าอยู่ใน (Cool ก็ต้องเสียห้าพันล้านอย่างที่เขาว่านั่นแหละ แต่ไม่ใช่หมื่นล้านอย่างที่มติชนอยากให้เป็น เพราะ

1 ถามแล้วบอกว่าไม่ต้องเสีย
2 เบี้ยปรับ ลดได้
บันทึกการเข้า
type
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 525


« ตอบ #14 เมื่อ: 09-11-2006, 03:28 »

อ้างถึง
ที่ปรึกษากฎหมายฯ เผยขอพึ่งอำนาจศาลพิสูจน์ข้อเท็จจริงภาษีหุ้น SHIN
Source - IQ Biz
Wednesday, 08 November 2006 10:39

ที่ ปรึกษากฎหมายของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุว่าจะยึดแนวทางกระบวนการยุติธรรมในการพิสูจน์ข้อเท็จจริงให้ถึงที่สุด หากกรมสรรพากรมีหนังสือเรียกไปชี้แจงเรื่องภาษีจากการขายหุ้น บมจ.ชินคอร์ปอเรชั่น(SHIN) แต่มีหลักฐานยืนยันว่าปฏิบัติตามกฎหมายอย่างถูกต้อง
        "ครอบครัว(ชินวัตร) พร้อมปฏิบัติตามกฎหมายโดยการพิสูจน์ข้อเท็จจริงในศาล ศาลสั่งอย่างไรก็ต้องปฏิบัติตาม...ถ้าเคยประเมินว่าไม่ต้องเสียภาษี อยู่ๆมาบอกว่าการเมืองเปลี่ยนต้องเสียภาษีแล้วนะ ก็ต้องพิสูจน์จนถึงที่สุด" นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายของครอบครัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวทางรายการวิทยุเช้านี้
        นายนพดล กล่าวว่า การโอนหุ้นดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 23 ม.ค.49 ซึ่งเป็นการดำเนินการตามคำวินิจฉัยของกรมสรรพากรที่ระบุว่าไม่ต้องเสียภาษี โดยได้มีการหารือเรื่องดังกล่าวก่อนที่จะมีการโอหุ้นหลายเดือน
        วานนี้(7 พ.ย.) นายศิโรตม์ สวัสดิ์พานิชย์ อธิบดีกรมสรรพากร ระบุว่าออกหนังสือเรียกให้นายพานทองแท้ และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร มาจ่ายภาษีที่เกิดจากการซื้อหุ้น SHIN จากแอมเพิลริชในราคาหุ้นละ 1 บาท แล้วขายต่อให้กองทุนเทมาเส็กในราคาหุ้นละ 49.25 บาท โดยคาดเบื้องต้นต้องเสียภาษีกว่า 5 พันล้านบาท
        "ท่านอธิบดีกรมสรรพากรที่พูดเมื่อวานนี้ก็เป็นคนเดียวกันกับก่อนที่จะมีการ เปลี่ยนแปลงทางการเมือง ท่านบอกว่าไม่ต้องชำระภาษี ทั้งๆ ที่ข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงเดิม"นายนพดล กล่าว

--อินโฟเควสท์ โดย ธนวัฏ เสือแย้ม/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--

ส่วนเรื่องติดคุกไม่ติดคุกนี่คงต้องรอดูคำตัดสินว่าผิดมั้ยถ้าผิดแล้วโทษมีจำคุกด้วยรึเปล่า
บันทึกการเข้า
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #15 เมื่อ: 09-11-2006, 04:06 »

"แก้วสรร" ชักกม.รอฟันคดีจ่ายคืนภาษี "โอ๊ค-เอม"

มติชน วันที่ 08 พ.ย. 2549


"แก้วสรร" ระบุคดีจ่าย-ไม่จ่ายภาษี "โอ๊ค-เอม" หนังยาวไม่จบง่ายๆ ชักกม.หลายฉบับฟัน ชี้โอนหุ้นแอมเพิลริชอาจเข้าข่ายซุกหุ้นภาค 2 ส่วนโครงการบ้านเอื้ออาทร เล็งลงพื้นที่ 10 พ.ย.นี้

วันนี้ (8 พ.ย.) นายแก้วสรร อติโพธิ กรรมการและเลขานุการ คตส. กล่าวถึงเรื่องการเรียกเก็บภาษีของกรมสรรพากรครั้งนี้ ว่า เท่าที่ทราบเรื่องนี้ นายศิโรฒม์ ระบุอย่างชัดเจนว่า ท่านได้ข้อมูลใหม่ถ้าไม่เก็บก็จะโดนละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ดังนั้น ท่านก็อยู่ในภาวะที่จำเป็น ต้องทำตามหน้าที่คือคิดให้มันถูกต้อง ซึ่งถ้าเรื่องเป็นอย่างนี้ก็ถือว่าท่านยังไม่ได้ทำความผิดอะไร ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นในช่วงแรกท่านบอกว่า ท่านไม่เกี่ยวข้อง อันนี้จริงหรือเปล่าก็ไม่รู้ต้องไปดูกันก่อน
   
"ส่วนที่มีคำถามว่า ถ้ามีการจ่ายคืนภาษีมาให้เรื่องนี้ จะจบหรือเปล่า ขอบอกว่าเรื่องหุ้นมีหลายกฎหมาย มีทั้งภาษี มีเรื่องบริษัทกุหลาบแก้ว ที่เข้าข่ายพ.ร.บ.ประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542  มีมติเรื่องการซุกหุ้น ที่เข้าข่ายในกฎหมาย ป.ป.ช. ซึ่งถ้าราคาที่ได้มาจากการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตรงนี้ก็อาจจะโดนกฎหมายอีกบทหนึ่ง เพราะสำหรับเรื่องนี้ เวลาที่เราจะมองปัญหาต้องมองให้หลายกฎหมาย เช่น ต้องเสียภาษีหรือเปล่า เป็นนอมินีหรือเปล่า ซุกหุ้นหรือไม่" นายแก้วสรร กล่าว
   
นายแก้วสรร กล่าวต่อไปว่า ซึ่งในส่วนประเด็นเรื่องการซุกหุ้น ที่มีการระบุว่ามีโอนให้แอมเพิลริช และแอมเพิลริชมีการโอนต่อให้ลูก ว่าจริงหรือไหม ถ้าไม่จริงก็เข้าข่ายการซุกหุ้นภาคสอง อย่างไรก็ตาม ในเรื่องการตรวจสอบการซุกหุ้นนี้ คงเป็นหน้าที่ของ ป.ป.ช. ที่ต้องรับผิดชอบไป เนื่องจากมีกำลังคนที่พร้อมกว่า ส่วน คตส. คงจะรับเพียงแค่เรื่องของภาษีเท่านั้น ส่วนเรื่องนอมินี ก็คงต้องไปถามกระทรวงพาณิชย์ว่าทำไปถึงขั้นตอนไหน ถ้าเจ้าหน้าที่ทำอยู่เราก็จะไม่เข้าไปยุ่ง แต่ถ้ายังก็คงต้องมาว่ากันอีกที
   
นายแก้วสรร ยังกล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบโครงการบ้านเอื้ออาทร ว่า ในวันที่ 10 พ.ย.นี้ จะเริ่มมีการลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูลในแต่ละโครงการ ที่เข้าข่ายว่าจะมีปัญหาเกิดขึ้น ส่วนจะเป็นที่ไหนไม่สามารถระบุได้ เนื่องจากเกรงว่าฝ่ายตรงข้ามที่ล่วงรู้ข้อมูล และในทางตรงกันข้ามหากเราดำเนินการด้วยความเงียบเชียบก็จะได้รับความร่วมมือจากคนวงใน ที่ขณะนี้เริ่มมีการทยอยส่งข้อมูลเข้ามาให้ ซึ่งเป็นประโยชน์มากและขณะนี้ก็เริ่มที่จะเข้าใกล้ถึงตัวผู้อยู่เบื้องหลังบ้างแล้ว 
บันทึกการเข้า

นายเกตุ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,289



« ตอบ #16 เมื่อ: 09-11-2006, 07:27 »

เออ..ดีเหมือนกันเปลี่ยนอำนาจแล้วเปลี่ยนสีได้

มีอีกเยอะไหมครับข้าราชการแบบนี้

เป็นเจ้าพนักงานแล้วละเว้นการปฎิบัติหน้าที่นี่น่าจะโทษหนักนะครับ
บันทึกการเข้า
p
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,264


« ตอบ #17 เมื่อ: 09-11-2006, 08:19 »

ไอ้แถกับอะไรจ๊ะนี่อยู่ในข่ายติดคุกด้วยนะครับ โทษฐานเป็นผู้สนับสนุนให้เกิดการกระทำผิดครับ  ตำรวจลากตัวมันไปเร็วๆด้วยครับ เอาให้เข็ด

พวกเราคงจะเหงามากเลยนะ ถ้าสหายเหล่านี้จากไป

 
บันทึกการเข้า

ถ้ามัวคิดแต่จะโกงและเอาเปรียบคนอื่น จะสอนลูกหลานให้เป็นคนดีได้อย่างไร
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #18 เมื่อ: 09-11-2006, 10:39 »


ลองไล่เรียงดูมันก็คือหุ้นพ่อมอบให้ลูกนอกตลาด แต่ไปผ่านบริษัทบนเกาะบริติชซึ่งก็ไม่มีคนนอกถือหุ้นเลย พ่อๆ ลูกๆ ทั้งนั้น

ไม่รู้จะไปอยากได้ภาษีอะไรจากเค้านักหนา ตอนขายให้เทมาเส็กที่ได้เงินกันจริงๆ ก็ขายในตลาด ถ้ามองด้วยใจเป็นธรรมแบบ
นี้จะเข้าข่ายไปเก็บภาษีมรดกซะด้วยซ้ำ ถ้าตอนนั้นซื้อมาในราคาที่ขายเทมาเส็กก็คงจะเอาผิดไม่ได้ เพราะบริษัทอยู่บนเกาะ
และบริษัทก็ไม่ต้องเสียภาษี เข้าข่ายอิจฉาความรวยหรือเปล่าครับคิดดู


1. ลองไล่เรียงดูมันก็คือหุ้นพ่อมอบให้ลูกนอกตลาด แต่ไปผ่านบริษัทบนเกาะบริติชซึ่งก็ไม่มีคนนอกถือหุ้นเลย พ่อๆ ลูกๆ ทั้งนั้น
ถ้าไม่โกหก พูดตรงไปตรงมา เรียกว่า"ซุกหุ้น" ภาคพิศดาร.....ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

2. ไม่รู้จะไปอยากได้ภาษีอะไรจากเค้านักหนา
ภาษีต้องเสียประมาณ 5000 ล้านเป็น" อะไรจากเค้านักหนา"ของคนรักทักษิณ สาวกฯ หวอรูม ที่มี"นายผู้ชาย"ติดอันดับเศรษฐีโลก แต่ชอบหนี/เลี่ยงภาษี.....ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
นทร์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,441



เว็บไซต์
« ตอบ #19 เมื่อ: 09-11-2006, 11:34 »

'นพดล'แจงปมภาษีโอ๊ค-เอม 'อธิบดีท่านนี้เคยบอกไม่ต้องเสีย...'

9 พฤศจิกายน 2549 08:00 น.
นายนพดลปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายของครอบครัวชินวัตร ให้สัมภาษณ์พิเศษ "กรุงเทพธุรกิจ" กรณีกรมสรรพากรเรียกเก็บภาษี นายพานทองแท้ และ น.ส.พิณทองทา ชินวัตร จากการซื้อขายหุ้นบริษัทชิน คอร์ปอเรชั่น รวมทั้งกรณีการประมูลซื้อที่ดินย่านพระราม 9 ของคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยาของอดีตนายกรัฐมนตรี
 
 http://www.bangkokbiznews.com/level3/news_119442.jsp

อธิบดีสรรพากร รอดยากแล้วครับ
บันทึกการเข้า

"ประชาชน อย่าทิ้งประเทศชาติ"
soco
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,842



« ตอบ #20 เมื่อ: 09-11-2006, 11:41 »

 
 
 
 


 
บันทึกการเข้า
buntoshi
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,348



« ตอบ #21 เมื่อ: 09-11-2006, 11:43 »

กรรมใดใครก่อครับ

เปลี่ยนสีไปเถอะ

ถ้าอยู่ในสีของความดีความถูกต้องแต่แรก ก็ไม่ต้องเปลี่ยนเป็นสีอื่น
บันทึกการเข้า


เราต้องสร้างคนดีมากกว่าคนเก่ง เพราะคนเก่งจะเห็นคนอื่นเก่งกว่าไม่ได้ จะพยายามเก่งกว่าคนอื่น แต่คนดีจะมีความสุขที่ได้ทำให้คนอื่นเก่ง รวมทั้งคนดีทุกคน ล้วนเก่งทั้งนั้น....  ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา
---------------------------
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #22 เมื่อ: 09-11-2006, 21:50 »

'นพดล'แจงปมภาษีโอ๊ค-เอม 'อธิบดีท่านนี้เคยบอกไม่ต้องเสีย...'

9 พฤศจิกายน 2549 08:00 น.
นายนพดลปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายของครอบครัวชินวัตร ให้สัมภาษณ์พิเศษ "กรุงเทพธุรกิจ" กรณีกรมสรรพากรเรียกเก็บภาษี นายพานทองแท้ และ น.ส.พิณทองทา ชินวัตร จากการซื้อขายหุ้นบริษัทชิน คอร์ปอเรชั่น รวมทั้งกรณีการประมูลซื้อที่ดินย่านพระราม 9 ของคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยาของอดีตนายกรัฐมนตรี
 
 http://www.bangkokbiznews.com/level3/news_119442.jsp

อธิบดีสรรพากร รอดยากแล้วครับ



ที่ปรึกษากฎหมายของทักษิณและครอบครัว จะเป็นอย่างไร จะอ้างอธิบดีกรมสรรพากรก็ตาม
คอยดู คณะกรรมการ คตส.ดีกว่า...

คณะกรรมการ คตส.รับข้อมูลจาก สตง.ของคุณหญิงจารุวรรณไปแล้ว
เมื่อคณะกรรมการ คตส. มีความเห็นแตกต่างกับ อธิบดีกรมสรรพากรได้
เมื่อรวบรวมหลักฐาน วินิจฉัยผิด จะนำเข้าขบวนการศาลฯ และ คณะกรรมการ ปปช.เพื่อลงโทษต่อไป...



บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #23 เมื่อ: 09-11-2006, 22:05 »

นอกจากกรมสรรพากรแล้ว
ควรจะพิจารณาถึงคณะกรรมการกำกับตลาดหลักทรัพย์ด้วย
เพราะได้ร่วมกับกรมสรรพากรช่วยเหลือทักษิณและครอบครัว เลี่ยงภาษีหุ้นด้วย...

บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
easy
น้องใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 10


« ตอบ #24 เมื่อ: 10-11-2006, 05:23 »

เชือดแพะเว้นภาษีชินฯ

โพสต์ทูเดย์ — “หม่อมอุ๋ย” การันตีสรรพากรทำถูก เตรียมเอาผิดคนตอบหนังสือว่าไม่เก็บ คตส. สาวลึกรีดภาษี “พิณทองทา” กับชินวัตรถึงปี 2540

ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า เรื่องการเก็บภาษีหุ้นชินคอร์ปนั้น นายศิโรตม์ สวัสดิ์พาณิชย์ อธิบดีกรมสรรพากร ได้รายงาน ให้ทราบแล้ว และได้มีหนังสือเรียกให้นาย พานทองแท้ ชินวัตร และ น.ส.พิณทองทา ชินวัตร มาเสียภาษีแล้ว หลังจากที่รอมา 6-7 เดือน ความจริงเรื่องนี้ได้มีการรายงานมาตั้งแต่แรกแล้ว แต่ต้องรอให้ผ่านวันที่ 30 กันยายน ไปก่อน เมื่อเลยวันที่ 30 กันยายนแล้วก็ต้องตั้งเรื่องตรวจสอบ

ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าวว่า สำหรับการที่กรมสรรพากรเคยตอบไปว่า ไม่ต้องเสียภาษีนั้น เมื่อไปตรวจสอบแล้วพบว่าผู้ตอบไม่ใช่ตัวอธิบดี รวมทั้งเมื่อถามไปว่าอธิบดีหรือปลัดกระทรวงการคลังรู้เรื่องหรือไม่ ก็ปรากฏว่าไม่ได้มีการปรึกษาอธิบดีหรือปลัดกระทรวง

ดังนั้น หลังจากนี้ไปกำลังเตรียมเอาผิด เจ้าหน้าที่กรมสรรพากรที่ทำหนังสือระบุว่า ไม่จำเป็นต้องเสียภาษีการขายหุ้น โดยไม่ผ่านความเห็นชอบอธิบดีกรมสรรพากร พร้อมจะดูช่องว่างเรื่องที่อาจต้องดำเนินการในส่วนอื่นๆ ด้วย

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่า ผู้ที่ตอบหนังสือหารือของนางปรานี เวชพฤกษ์พิทักษ์ เลขานุการ คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ลงเลขที่ กค.0706/7896 ว่าการซื้อขายหุ้นต่ำกว่าตลาดไม่ต้องเสียภาษี คือ นางเบญจา หลุยเจริญ ผู้ตรวจราชการกระทรวง อดีตรองอธิบดีกรมสรรพากร ที่ขณะนี้ยังไม่พร้อมที่จะให้ข้อมูลใดๆ ในเรื่องนี้

แหล่งข่าวจากกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) กล่าวว่า จะเชิญอธิบดีกรมสรรพากรมาหารือในเรื่องการเก็บภาษีอีกครั้งในวันที่ 10 พฤศจิกายนนี้

การตรวจสอบการเสียภาษีการขายหุ้นชินคอร์ป คตส.จะไม่เน้นเฉพาะกรณีนายพานทองแท้ และ น.ส.พิณทองทา เท่านั้น แต่จะมีการตรวจสอบย้อนไปถึงการซื้อขายหุ้นว่ามีราคาที่สมควรจำเป็นหรือไม่ โดยจะพิจารณาทุกกรณี ทุกคนที่เกี่ยวข้อง โดยจะย้อนไปถึงปี 2540 เพราะใกล้จะหมดอายุความ เนื่องจากมีกำหนดเวลา 10 ปี

ทั้งนี้ คตส.จะพิจารณาว่า น.ส.พิณทองทา ได้พำนักในประเทศไทยครบ 180 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้ซื้อขายหุ้นหรือไม่ ถ้าอยู่ในไทยก็ต้องเสียภาษี
http://www.posttoday.com/newsdet.php?sec=news&id=130577
บันทึกการเข้า
Cherub Rock
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,183


น้องๆ ช่วยไปบอกผู้หญิงคนนั้นที ว่าเลิกมองผมได้แล้ว


« ตอบ #25 เมื่อ: 13-11-2006, 11:29 »

ป.ป.ช.ตั้งข้อหาศิโรตม์ละเว้นหน้าที่ แฉปมลึกกลับลำบี้ภาษีโอ๊ค-เอม

เบื้องหลัง "สรรพากร" กลับลำเก็บภาษี "โอ๊ค-เอม" ที่แท้ถูก ป.ป.ช.แจ้งข้อหาละเว้นเก็บภาษีกรณีคุณหญิงพจมานโอนหุ้นให้บรรณพจน์ หวั่นโดนอีกคดี ป.ป.ช.นัดประชุมสรุปสำนวนสัปดาห์นี้ก่อนส่งชุดใหญ่เชือด ขณะที่ "หม่อมอุ๋ย" ตั้ง "อรัญ ธรรมโน"สอบอีกชุดนักกฎหมายหวั่นเก็บภาษีผิดมาตรา

แหล่ง ข่าวจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ถึงความคืบหน้าการไต่สวนข้อเท็จจริงคดีเจ้าหน้าที่กรมสรรพากรละเว้นการ เรียกเก็บภาษีกรณีคุณหญิงพจมาน ชินวัตร โอนหุ้นบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ที่อยู่ในชื่อของนางดวงตา วงศ์ภักดี แม่บ้าน จำนวน 4.5 ล้านหุ้น มูลค่า 738 ล้านบาท ให้นาย บรรณพจน์ ดามาพงศ์ พี่ชายของคุณหญิงพจมานว่า อนุกรรมการจะนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมคณะอนุกรรมการชุดที่มี น.ส.สมลักษณ์ จัดกระบวนพล กรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะประธานอนุกรรมการ เพื่อสรุปสำนวนในสัปดาห์นี้ หลังจากเรียกผู้ถูกกล่าวหามารับทราบข้อกล่าวหาเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา และล่าสุดผู้ต้องหาทั้งหมดได้ส่งคำชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษรมาให้ อนุกรรมการแล้ว

แหล่งข่าวเปิดเผยว่า คดีนี้มีผู้เรียกมารับทราบข้อกล่าวหา มีจำนวน 10 คน ประกอบด้วย นายศิโรตม์ สวัสดิ์พาณิชย์ อธิบดีกรมสรรพากร นางเบญจา หลุยเจริญ ผู้ตรวจราชการกระทรวง การคลัง นางสาวจำรัส แหยมสร้อยทอง ผู้อำนวยการสำนักกฎหมาย นางสาวโมรีรัตน์ บุญญศิริ ผู้อำนวยการสำนักกฎหมาย นางสาวกุลฤดี แสงสายัณห์ นิติกร 7 นางสาวปราณี สุกลพจน์ วรชัย นักวิชาการสรรพากร 7 และผู้เกี่ยวข้องอีกประมาณ 4 คน ในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยทุจริต

แหล่งข่าวเปิดเผยว่า เป็นไปได้ว่าการที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกรมสรรพากรตกเป็นผู้ต้องหาในคดี นี้เป็นผลทำให้กรมสรรพากรวินิจฉัยกรณีบริษัทแอมเพิลริช ขายหุ้นชินคอร์ป 329.2 ล้านหุ้นให้แก่นายพานทองแท้ ชินวัตร เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2549 ในราคาหุ้นละ 1 บาท ในขณะที่ราคาตลาดอยู่ที่หุ้นละ 47 บาท ถือว่ามีรายได้พึงประเมินและออกหมายเรียกนายพานทองแท้มาชำระภาษี ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ได้วินิจฉัยว่าไม่ต้องเสียภาษี ซึ่งคดีนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบของคณะกรรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้ เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) เพราะไม่อยากเป็นผู้ต้องหาอีกหนึ่งคดีนั่นเอง เห็นได้จากนายศิโรตม์ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงสาเหตุที่ต้องเรียกเก็บภาษีนาย พานทองแท้ว่า "ไม่อยากนอนในคุก" และแม้ว่ากรมสรรพากรจะกลับลำ แต่ไม่มีผลต่อคดีการโอนหุ้น 738 ล้านบาท เพราะต่างกรรมต่างวาระกัน


http://www.matichon.co.th/prachachat/prachachat_detail.php?s_tag=02p0101131149&day=2006/11/13

โดนกันทั้งยวงเลยเหอๆๆ
บันทึกการเข้า

"นายกรัฐมนตรีกำลังใช้รัฐสภาประกอบพิธีกรรมสถาปนาอำนาจของตนเองโดยเห็นรัฐสภาเป็นเพียงแค่ตรายาง และปล่อยให้มีการทำร้ายประชาชนถือว่าหมดความชอบธรรมแล้ว" รสนา โตสิตระกูล
aiwen^mei
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,732



« ตอบ #26 เมื่อ: 13-11-2006, 11:43 »

อานิสงส์จากการตรวจสอบครั้งนี้ อาจจะช่วยให้พวกนักวิชาการหัวสี่เหลี่ยมบางคนกับบางคนที่ยังหลับหูหลับตาเชลียร์จอมมารหน้าเหลี่ยม หูตาสว่างขึ้นมาบ้างหลังจากมืดบอดมานาน และยังจะเยาะเย้ยถากถางอีก 
บันทึกการเข้า

有缘千里来相会,无缘对面不相逢。
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #27 เมื่อ: 13-11-2006, 11:56 »

เบื้องหลังกลับลำ มาเก็บภาษี เพราะโดน ปปช. ตั้งข้อหานั่นแหละครับ

เลยต้องออกมาเรียกคนที่ควรเสียภาษีไปประเมินหรือสอบสวน

ถ้าไม่เล่นไม้แข็ง ให้ ปปช. ยัดข้อหา ป่านนี้ก็ยังคง เรื่อย ๆ มาเรียง ๆ ให้มันหมดอายุความไปนั่นแหละ

แค่นี้ก็แหย่ขาเข้าคุกไปครึ่งตัวแล้วครับ
บันทึกการเข้า

นทร์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,441



เว็บไซต์
« ตอบ #28 เมื่อ: 13-11-2006, 11:58 »

คดีนี้มีผู้เรียกมารับทราบข้อกล่าวหา มีจำนวน 10 คน ประกอบด้วย นายศิโรตม์ สวัสดิ์พาณิชย์ อธิบดีกรมสรรพากร นางเบญจา หลุยเจริญ ผู้ตรวจราชการกระทรวง การคลัง นางสาวจำรัส แหยมสร้อยทอง ผู้อำนวยการสำนักกฎหมาย นางสาวโมรีรัตน์ บุญญศิริ ผู้อำนวยการสำนักกฎหมาย นางสาวกุลฤดี แสงสายัณห์ นิติกร 7 นางสาวปราณี สุกลพจน์ วรชัย นักวิชาการสรรพากร 7 และผู้เกี่ยวข้องอีกประมาณ 4 คน ในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยทุจริต

คุณชวน เตือนการทำงาน การวางตัวของข้าราชการมานานแล้ว...

แต่ยุคทักษิณแทบไม่มีข้าราชการคนไหนทานความแข็งแกร่งของระบอบทักษิณได้

ศิโรราบ ยอมทุกอย่าง...

พอการเมืองเปลี่ยนขั้ว ก็เสร็จกัน...  
บันทึกการเข้า

"ประชาชน อย่าทิ้งประเทศชาติ"
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #29 เมื่อ: 13-11-2006, 12:12 »

ที่สำคัญ โทษเรื่องละเว้นเรื่องภาษี เข้าใจว่า โทษหนักถึงจำคุกตลอดชีวิต

ไม่กลัวก็ให้รู้ไป
บันทึกการเข้า

หน้า: [1]
    กระโดดไป: