Can ไทเมือง
|
 |
« เมื่อ: 07-11-2006, 16:47 » |
|
เมื่อการเมืองพลิกกลับ รองปราโมช รัฐวินิจก็กลับเป็นอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์
สมัยหน้าเหลี่ยม รองปราโมช รัฐวินิจ เป็นรองอธิบดีอาวุโสอันดับ 1 ของกรมประชาัสัมพันธ์ และเป็น"ลูกหม้อ" ทำข่าววิ่งต๊อก ๆ
เมื่อถึงเวลาควรได้ขึ้นเป็นใหญ่ ก็กลับมี "การเมือง" เข้ามาเบียด ไปเป็นผู้ตรวจราชการภาคเหนือ ซะหลายปี
ด้วยเหตุผล...อายุยังน้อย...
เพิ่งจะมีวันนี้ วันที่ฟ้าเปลี่ยนสี คืนความเป็นธรรมให้ "ลูกหม้อ" กรมประชาสัมพันธ์
ครม. อนุมัติแล้ว...
นับเป็นศิษย์เก่านิเทศศาสตร์ จุฬาฯ (รุ่น 4 )์ คนแรก ที่ขึ้นถึงตำแหน่งสูงสุดในวิชาชีพ...
ยินดีด้วยเพื่อนเอย...นึกถึง "ปราโมช" อีกคน ที่เป็นหัวหน้าข่าวการเมืองไทยรัฐในปัจจุบัน ( มาจากวารสารศาสตร์ มธ. )
สอง"โมช" นี้ "หนึ่งดำ" "หนึ่งขาว" เป็นสาย "ลูกป๋า" มาแต่้อนแต่ออก...เมื่อ 30 ปีที่แล้ว...
ยินดีด้วยจริงใจ...
เห็น "เซี่ยงเส้าหลง" เขียนเชียร์เมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว เราก็เสียววูบ ๆ กลัวเพื่อนจะ "ปิ๋ว"...
คราวนี้คงวิ่งฉิว...เข้าป้ายซะที...
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Me.
|
 |
« ตอบ #1 เมื่อ: 07-11-2006, 16:51 » |
|
....... อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ มีวาระในตำแหน่งนี้นานเท่าไหร่ครับ ? เท่ากับ ครม ชุดนี้เลยใช่ไหม ครับ หรือ ยาวกว่านั้นครับ ?
ขอบคุณครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Can ไทเมือง
|
 |
« ตอบ #2 เมื่อ: 07-11-2006, 16:54 » |
|
ปกติในราชการการครองตำแหน่ง ก็มีโอกาสอยู่ 4 ปี ครับ แต่ก็อย่างที่บอกนั่นแหละ มันขึ้นกับการเมืองด้วย ....................................................................................................... •• ส่วนตำแหน่ง อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ นั้น “เซี่ยงเส้าหลง” ไม่รู้ว่า ดุษฎี สินเจิมสิริ จะยังคง เหนียวกว่าที่คิด หรือเปล่าเพราะแว่บเห็น เดินเข้า บก.คณะปฏิรูปฯ (หรือ บก.ฝ่ายใต้) ตั้งแต่ เวลา 02.00 น.คืนวันที่ 19 กันยายน 2549 แม้ว่าอาจจะโดย บังเอิญ และ ไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันนัก แต่อาศัยที่เป็น เพื่อน กับ พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร ก็อาจจะเป็น ปัจจัยหนุน ได้บ้างในบางระดับ

ปราโมช รัฐวินิจ •• ว่าไปแล้ว คู่แข่ง ของ ดุษฎี สินเจิมสิริ ในกรมที่เคยได้ชื่อว่า กรมกร๊วก แห่งนี้ก็ไม่ได้เหนือกว่าหรือด้อยกว่ากันสักเท่าไรนักเพราะล้วนแต่ประเภท “...ได้ครับพี่ ดีครับนาย สบายครับท่าน.” และ เปลี่ยนสีแปรธาตุได้เร็ว แต่ถ้าจะมีคนมาแทนที่สักคนก็คงไม่พ้น ปราโมช รัฐวินิจ คนที่ได้ชื่อว่า เพื่อนเยอะ, ผู้ใหญ่แยะ แต่ถ้าเป็นคนคนนี้จริงๆ แม้ “เซี่ยงเส้าหลง” จะไม่ติดใจในเรื่อง ความรู้ความสามารถ แต่ก็ขอฝาก ธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ ให้ช่วย กำชับ, กำกับ ว่าที่อธิบดีคนใหม่ให้ดีว่าสมควร แยกเพื่อนออกจากงาน – แยกงานออกจากเพื่อน และ อย่าประเคนงานประเคนสถานีให้เพื่อน เพราะเพื่อนสนิทของว่าที่อธิบดีคนนี้ไม่ใช่ ตาสี-ตาสา หากแต่เป็น อากู๋ และไม่ใช่อากู๋ธรรมดา ๆ หากเป็นอากู๋ที่ชื่อ ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม นายใหญ่แห่งค่าย แกรมมี่ คงไม่ต้องบอกละกระมังว่าอากู๋คนนี้ รักใคร่ชอบพอ และมีลักษณะเป็น นอมินี่ ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แค่ไหนอย่างไร ปราโมช รัฐวินิจ จะหลีกเลี่ยงสภาวะ Conflict of Interest ได้อย่างไรในเมื่อมีคนรู้มาว่าพี่ทั่นเป็น ที่ปรึกษาแกรมมี่ – ประเภทกินเงินเดือน และอยู่ร่วมมายาวนานใน ก๊วนอากู๋ คำถามนี้ไม่ต้องตอบ “เซี่ยงเส้าหลง” แต่ต้องเตรียมไว้ตอบ ธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ และ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ส่วนพี่น้องประชาชนก็คอยจับตาดูให้ดี ๆ ก็แล้วกันว่าในอนาคตข้างหน้า สถานีวิทยุในสังกัดกรมประชาสัมพันธ์ จะตกเป็น อาณานิคม ของ แกรมมี่ ผู้ผลิตเพลงประเภท ผลักดันให้คนดีสามัคคีกับคนชั่ว, หลอกลวงให้คนรักชาติสมานฉันท์กับโจรปล้นชาติปล้นแผ่นดิน กันอีกกี่สถานี เซี่ยงเส้าหลง ตีลูกกัน "แกรมมี่" เอาไว้..."เพื่อนโมช"...คงตอบปัญหากับสังคมได้นะ...
ส่วนเรื่อง "ก๊วนอากู๋" มันหนีไม่ออกอยู่แล้ว เพราะเรียนด้วยกันมา ทำงานตั้งแต่เป็นลูกระจ๊อกกันมาตั้งแต่เพิ่งจบ
อากู๋เอง ก็ไปเริ่มงานที่ ท่านเจ้าสัวเทียม โชควัฒนามาก่อน...ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนมันตัดกันได้ที่ใหนล่ะ
เงินเดือนเดือนแรก ของข้าราชการ เมื่อ 2516 ปริญญาตรี 1,150 บาท ขณะที่เพื่อน ๆ ไปทำงานเอกชน ก็กว่า 5,000 บาทขึ้นไป บางคนทำ 2-3 ที่ เพราะเป็นสาขาขาดเแคลน
ก็คว้าเดือนนับหมื่น...กล้ำกลืนดูเพื่อนใช้เงินกันเพลิน...กว่าจะโตขึ้นมาได้ ก็ใช้เวลากว่า 10 ปี ข้าราชการถึงจะพอยืนขึ้นมาได้
หรือมีเงินเดือนพอเพียงที่จะ "เลี้ยง" เพื่อนได้บ้าง
จะว่าไป อาชีพ "ข้าราชการ" ก็แบบนี้ทุกคน เมื่อเค้าเติบโตขึ้นมาตามระบบ ก็ควรคืนความเป็นธรรมให้เค้า...
ส่วนเรื่องอากู๋ กับคลื่นวิทยุ ผมว่า ลางเนื้อชอบลางยา เมื่อมีการประมูล ก็ต้องสู้กันไป หากสู้ได้ด้วยเงินสูงสุด ใครก็ว่ากันไม่ได้หรอก
จะว่าไป "อากู๋" ก็เจ็บตัวกับ 94.0 คลื่น "Open Radio" กว่า 50 ล้าน( แค่ 6 เดือน ) ดันมาเจอ "หน้าเหลี่ยม" บุกถึงตึกแกรมมี่ขอให้เลิกทำรายการ"ข่าว"
"สหายขวาน" และ น้อง ๆ หลายร้อยชีวิต ต้องแตกกระสานซ่านเซ็น
ไม่เห็นใจกันบ้างก็แล้วไป...เวลาอยากทำดี แต่ก็มี "มารผจญ" แล้วแบบนี้ จะให้คนอยากทำดีเพื่อบ้านเพื่อเมืองได้ยังไงล่ะ...หาเงินหลอกเด็กสบาย ๆ ไม่ดีกว่าเหรอ
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-11-2006, 17:21 โดย CanCan »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Cherub Rock
|
 |
« ตอบ #3 เมื่อ: 07-11-2006, 17:13 » |
|
...หาเงินหลอกเด็กสบาย ๆ ไม่ดีกว่าเหรอ
เด็กเดี๋ยวนี้หลอกยากครับ เพราะมันรู้จัก DVD writer 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"นายกรัฐมนตรีกำลังใช้รัฐสภาประกอบพิธีกรรมสถาปนาอำนาจของตนเองโดยเห็นรัฐสภาเป็นเพียงแค่ตรายาง และปล่อยให้มีการทำร้ายประชาชนถือว่าหมดความชอบธรรมแล้ว" รสนา โตสิตระกูล
|
|
|
Can ไทเมือง
|
 |
« ตอบ #4 เมื่อ: 07-11-2006, 20:45 » |
|
แถมให้อีกข่าวหนึ่ง ล้างระบอบทักษิณ
ย้าย อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ที่มีข่าวว่าจะขึ้นปลัดกระทรวง ไปเป็นแค่รองปลัดกระทรวง ลอยแพซะยังงั้น
เค้าคือ...แถ่น แทน แท้น...ปิยะพันธ์ จำปาสุต ผู้ออกมาชน อาจารย์รัฐศาสตร์จุฬาฯไง จำกันได้มั๊ย
ที่ประชุม ครม. วันนี้ ย้ายล้างบางกันเยอะครับ...บิ๊ก ๆ ทั้งนั้น
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ปุถุชน
|
 |
« ตอบ #5 เมื่อ: 07-11-2006, 20:53 » |
|
แถมให้อีกข่าวหนึ่ง ล้างระบอบทักษิณ
ย้าย อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ที่มีข่าวว่าจะขึ้นปลัดกระทรวง ไปเป็นแค่รองปลัดกระทรวง ลอยแพซะยังงั้น
เค้าคือ...แถ่น แทน แท้น...ปิยะพันธ์ จำปาสุต ผู้ออกมาชน อาจารย์รัฐศาสตร์จุฬาฯไง จำกันได้มั๊ย
ที่ประชุม ครม. วันนี้ ย้ายล้างบางกันเยอะครับ...บิ๊ก ๆ ทั้งนั้น
ข่าวดีครับ..................ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด
อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
|
|
|
ชอบแถ
|
 |
« ตอบ #6 เมื่อ: 07-11-2006, 21:25 » |
|
เด็กใครเด็กมันนั่นเอง ไม่ได้มาทำอะไรให้มันแตกต่างเล้ย ทุเรศจริงจริง อนาถใจไทยแลนด์
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
type
|
 |
« ตอบ #7 เมื่อ: 07-11-2006, 21:28 » |
|
เด็กใครเด็กมันนั่นเอง ไม่ได้มาทำอะไรให้มันแตกต่างเล้ย ทุเรศจริงจริง อนาถใจไทยแลนด์
เขามัวแต่ไปจ้องจับผิดแม้วอยู่ครับ จุดนี้ไม่รู้มองเห็นรึเปล่า มาตรฐานสังคมไทย 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ชอบแถ
|
 |
« ตอบ #8 เมื่อ: 07-11-2006, 21:32 » |
|
ถ้ายอมรับว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาก็จบ นี่ดัดจริตกันทำตัวเป็นผู้มีจริยธรรมสูงส่งโคตร เที่ยวด่าเค้าว่า กลั่นแกล้ง พอถึงเวลาตัวเองเป็นใหญ่ ก็กลับไปทำอย่างที่ด่าเขาไว้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
so what?
|
 |
« ตอบ #9 เมื่อ: 07-11-2006, 22:39 » |
|
ตอนไอ้เหลี่ยมดันทุรังตั้งชัยสิทธิ์เป็นผบ.ทบ. พวกลูกกะเป๋งก็บอกว่าเหมาะสมแล้วครับท่าน ตอนต่ออายุปลัดยุติธรรมให้นายสมชายน้องเขย ลิ่วล้อก็ออกมาบอกว่าถูกต้องตามระเบียบ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Can ไทเมือง
|
 |
« ตอบ #10 เมื่อ: 07-11-2006, 22:54 » |
|
เดี๋ยวสิ ข้อมูลเดิม ดุษฎี สินเจิมสิริ อาวุโสในราชการ สู้รองปราโมช ไม่ได้ครับ
ช่วงหน้าเหลี่ยมมานั้น ดุษฎี อาวุโสน้อยกว่ารองปราโมช
ถ้าว่ากันถึงฝีมือ รองปราโมชไม่เคยเสียหาย นี่เรื่องจริง
ที่บอกว่า "ต้องคืนความเป็นธรรมให้เค้า" ก็ถูกแล้ว
ถ้าแต่งตั้งตามหลัก อาวุโส หรือ ความรู้ความสามารถ รองปราโมช ไม่ได้เป็นรองใครเลยในกรมประชาสัมพันธ์
แม้แต่เรื่อง "วิทยุชุมชน" เค้าก็ทำมากับมือ หาทางออกให้เปิดได้ โดยไม่ผิดกฎหมาย
อาจมีบ้างที่เค้าสนิทกับ คุณหญิงแอ๋ว แต่นั่นมันผิดอะไรก็เรียนห่างกันปีเดียว เห็นหน้ากันมาตั้งแต่เริ่มนุ่งกางเกงขายาว
ส่วนเรื่องอากู๋ ก็ต้องไปดูว่าเค้า "เอื้อ" กันจริงมั๊ย คนเรายิ่งเติบโตขึ้นไป มันก็มีเส้นสายเพื่อนพ้องทั้งนั้น
เพียงแต่ว่า จุดยืน ที่อยู่ต่างหากที่จะพิสูจน์ตัวเอง....ถ้ามองว่าเป็นเพื่อนอากู๋ผู้ยิ่งใหญ่ ซึ่งใครต่อใครบอกว่าสนิทกับหน้าเหลี่ยม
บารมีอากู๋ ทำไมทำแค่นั้นให้เพื่อนไม่ได้ล่ะ...
เวลามองอะไรต้องมองให้ชัด ๆ...มองด้วยกระจกหลาย ๆ ด้าน
ผมเคยได้ยินมาว่า ผู้ใหญ่ท่านหนึ่งบอกว่า ที่รองปราโมช ไม่ได้ขึ้นเมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว ไม่ใช่อะไร...ดีทุกอย่าง ความรู้ ความสามารถ อาวุโส
เสียอย่างเดียว สนิทสนมกับประชาธิปัตย์...อ้าว...เป็นงั้นไป
เป็นข้าราชการ ลองไม่สนองนโยบายสิ เด้งไปถึงใหน ๆ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
tiger
|
 |
« ตอบ #11 เมื่อ: 08-11-2006, 00:54 » |
|
ก็ดีใจกับเพื่อนคุณแคนด้วยก็แล้วกัน ถ้ายอมรับว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาก็จบ นี่ดัดจริตกันทำตัวเป็นผู้มีจริยธรรมสูงส่งโคตร เที่ยวด่าเค้าว่า กลั่นแกล้ง พอถึงเวลาตัวเองเป็นใหญ่ ก็กลับไปทำอย่างที่ด่าเขาไว้
ก็เรื่องธรรมดา ไม่รู้เรียกร้องจริยธรรมอะไรนักหนา พวกใครพวกมันทั้งนั้น คนดีๆทั้งนั้น
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Can ไทเมือง
|
 |
« ตอบ #12 เมื่อ: 08-11-2006, 02:38 » |
|
อ้อ...ที่ผมจำเป็นที่ต้องนำมาบอกกล่าว ก็เพราะว่า นี่คือ "การเมือง"
ถ้าหากไม่มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ก็เชื่อขนมกินได้ว่า "รองปราโมช" ก็คงเป็นผู้ตรวจราชการอยู่สำนักนายกต่อไปจนกว่าเกษียณนั่นแหละ
อีกประการหนึ่ง รองปราโมช เค้าทำงานมาจนถึงจุดสูงสุดในวิชาชีพ
ของคนเรียนนิเทศศาสตร์ โดยเฉพาะในสายประชาสัมพันธ์ ( แม้ รองปราโมชจะเรียน สื่อสารมวลชนก็เถอะ )
เพราะสมัยโน้นเค้าก็เรียนกันแค่ 2 สาย คือ สื่อสารมวลชน และประชาสัมพันธ์
กว่าจะมีวันนี้ได้ เค้าเริ่มจากนักข่าวทั่ว ๆ ไป จนได้เป็นผอ.กองการข่าว...แล้วเจริญเติบโตในสายงานมาตลอด
กว่าจะมาถึงวันนี้ก็ 35 ปี นับเป็นคนแรกของคณะนิเทศศาสตร์ ที่มาถึงจุดนี้ได้
ที่คุณคำนูน เขียนน่ะ ก็เพราะเค้าเริ่มจากการเป็นนักข่าวนี่แหละครับ เค้าถึงมีเพื่อนในวงการเยอะ ไม่เฉพาะที่จบที่เดียวกัน
มาเป็นนักข่าวก็เดินชนกันทุกสถาบันนั่นแหละ
ไม่นับพวกนักธุรกิจ หรือ กลุ่มนักจัดรายการ หรือคนเบื้องหลังรายการต่าง ๆ นะครับ
แต่ละกลุ่มที่ทำงานต่างก็มีจุดยืน มีทางเดินของตัวเองไป
หัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์ขององค์กรใหญ่ ๆ ก็พวกที่เรียนด้านนี้เยอะ แต่เราไม่นับ ( แม้จะเป็นเรื่องน่าภูมิใจ )
บางทีคนที่เรียนในสายวิชาชีพ ก็ไปไม่ถึงดวงดาวกันหรอกครับ อาจโดนคนสายอื่น วิชาชีพอื่นมาแซงคิวเสมอ
มาถึงตรงนี้ก็อดที่จะบอกเพื่อนว่า...นายแน่มาก...ครับ "ท่านอธิบดี"...เท่านั้นเองครับ
อ้อ...เคล็ดลับของข้าราชการคนนี้คือ...เชื่อแม่...รับราชการตามคำของแม่...อดทนตามคำแม่สอน...
ยิ่งข้าราชการในกรมนี้ หากไม่รู้จักลู่ลม...ลำบากมากครับ...เจอหน้าเพื่อนก็โดนล้อเป็นประจำ...
ไว้รอดูฝีมือกันครับ จะมีงานประชาสัมพันธ์เชิงรุกออกมามากน้อยขนาดใหน
จะแก้คำดูถูกว่าเป็น "กรมกร๊วก" ได้มากน้อยแค่ใหน...ฝากให้จับตาดูกันไปครับ
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-11-2006, 02:43 โดย CanCan »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ชอบแถ
|
 |
« ตอบ #13 เมื่อ: 08-11-2006, 07:22 » |
|
ยังกับพอแก่แล้วมีอาวุโสสูงจะเก่งกว่าคนอื่นตามธรรมชาติอย่างงั้น เห้อ มุมมองแบบตะแบงอยากจะให้มันชอบธรรมโดยแท้ อยากดูตัวอย่างแก่แล้วโง่มั้ย ก็รัฐบาลนี้ไง วันหลังไม่ต้องประเมิน ความสามารถกันหรอก เสียเวลา ดูวันเกิดเอาก็พอ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
คนเดินดิน
|
 |
« ตอบ #14 เมื่อ: 08-11-2006, 17:07 » |
|
ระบบราชการค่าของคนไม่ใช่อยู่ที่ฝีมือ
แต่..........อยู่ที่........................
คนของคน
ขอแสดงความยินดีกับ ปราโมช รัฐวินิจ ที่ก้าวขึ้นสู่จุดสุดยอดของชีวิตราชการในกรมประชาสัมพันธ์ หวังว่าคงล้างภาพ "กรมกร๊วก" ออกได้นะครับ
สะใจกับ ปิยะพันธ์ จำปาสุต แต่ก่อนซ่านัก เอาโต๊ะไปหนึ่งตัว กับลูกน้องซัก 3 คน แล้วนั่งตบยุงให้เพลินนะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Can ไทเมือง
|
 |
« ตอบ #15 เมื่อ: 08-11-2006, 17:18 » |
|
การแต่งตั้งโยกย้ายตามหลัก "คุณธรรม" ของระบบราชการจะมีตัวคิดอยู่ 3 หลักคือ
1. อาวุโส 2. ความรู้ความสามารถ 3. ความเหมาะสม
ทั้งกองทัพ หรือที่ใหน ๆ ในระบบราชการก็ใช้ระบบนี้
เค้าก็บอกตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่งรัฐบาลแล้วนี่ครับว่า จะใช้หลัก"คุณธรรม" ในเรื่องการแต่งตั้งโยกย้าย
ส่วนกรณี ข้าราชการที่ออกหน้าออกตา สนองนโยบายนอกหน้า ทั้ง ๆ ที่ไม่อยู่ในอำนาจหน้าที่ แบบ "ปิยะพันธ์ จำปาสุต" นั่นก็สมควรแล้ว
เป็นข้าราชการ กรมการขนส่งทางบก กลับไปยุ่งเรื่องม้อบเรื่องประท้วง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|