ยินดีต้อนรับคุณ,
บุคคลทั่วไป
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
20-04-2024, 23:03
378,182
กระทู้ ใน
21,926
หัวข้อ โดย
9,412
สมาชิก
สมาชิกล่าสุด:
MAN4U
หน้าแรก
ช่วยเหลือ
ปฏิทิน
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)
|
ทั่วไป
|
สภากาแฟ
|
۞ แนวทางการออกกฎหมาย (อาจรวมถึงรัฐธรรมนูญ?) ของประธาน สนช. มีชัย ฤชุพันธุ์
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า:
[
1
]
ส่งหัวข้อนี้
พิมพ์
۞ แนวทางการออกกฎหมาย (อาจรวมถึงรัฐธรรมนูญ?) ของประธาน สนช. มีชัย ฤชุพันธุ์ (อ่าน 962 ครั้ง)
พระพาย
ขาประจำขั้น 2
ออฟไลน์
กระทู้: 679
۞ แนวทางการออกกฎหมาย (อาจรวมถึงรัฐธรรมนูญ?) ของประธาน สนช. มีชัย ฤชุพันธุ์
«
เมื่อ:
06-11-2006, 18:31 »
ผมขอเริ่มต้นด้วยการตำหนิแหล่งที่มาของข่าวคือหนังสือพิมพ์มติชน ที่มีสกู๊ปดีๆ อย่าง "ทบทวนแนวคิดการออกกฎหมาย อดีต-ปัจจุบัน-อนาคต" ของมีชัย ฤชุพันธุ์ ตั้งแต่วันที่ 28 ตุลาคม 2549 ซึ่งอาจมองไปได้ไกลถึงแนวทางที่ท่านมีชัยจะนำมาใช้กับการร่างรัฐธรรมนูญคราวนี้... แต่มติชนมิได้นำส่วนที่เป็นสกู๊ปพิเศษนี้ลงออนไลน์ในเวบไซต์... ทำให้ผมเพิ่งมาเจอและต้องมาเหนื่อยนั่งพิมพ์ส่วนสำคัญมาให้พวกเราได้อ่าน... ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าสกู๊ปพิเศษของมติชนทุกฉบับทำไมถึงไม่ออนไลน์?
ลอกมาเฉพาะส่วนสำคัญดังนี้นะครับ
---------------------
จากการทบทวนแนวคิดการออกกฎหมายไทย ปัจจุบันแนวคิดดังกล่าวไม่น่าจะเป็นพื้นฐานการออกกฎหมายอีกต่อไป ซึ่งมี 9 ประการได้แก่
1. ในอดีตผู้ร่างมองว่ารัฐเป็นองค์กรที่มีความพร้อมทำกิจกรรมทุกอย่างเพราะมีเงิน คน อำนาจ การออกกฎหมายจึงเอา
รัฐเป็นตัวตั้ง
ทำเป็นตัวอย่างให้ภาคอื่นทำตาม เช่น กฎหมายองค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ (ร.ส.พ.) สมัยก่อนเป็นกิจการที่ใหญ่ แต่ปัจจุบันเป็นตัวอย่างที่เลว
2. ในอดีต
คนมีความรู้ส่วนใหญ่อยู่ในวงราชการ
วันนี้ไม่ใช่ มีคนจบปริญญาเอกมากมายอยู่ในวงเอกชน
3. อดีต
เอกชนเล็ก
ทำกิจการเป็นครอบครัว การออกกฎหมายจึงไปกำกับให้เอกชนเดินตาม เพราะกลัวตกเป็นเหยื่อ
4.
ธุรกิจไทยเป็นวงแคบ
ใหญ่ที่สุดคือระดับทั่วราชอาณาจักร แต่ปัจจุบัน การค้าขายรอบประเทศเป็นเรื่องธรรมดา
5. กิจการใหญ่ๆ ไม่มีทางที่เอกชนจะมาทำได้เพราะไม่มีทุน ทรัพยากรบุคคล เช่น ไฟฟ้า ประปา โทรศัพท์
6. การออกกฎหมายเพื่อคุ้มครองผลประโยชน์ของคนไทยในอดีตทำได้ง่าย แต่ปัจจุบัน
กฎหมายไม่ศักดิ์สิทธิ์
7. ในอดีตองค์กรสูงสุด้านการเมืองคือ
รัฐบาลหรือคณะรัฐมนตรี ซึ่งคนเชื่อว่าอย่างไรก็ซื่อสัตย์
ผู้ร่างกฎหมายจึงให้อำนาจสูงสุดไปที่นายกรัฐมนตรี
8. ในอดีตกิจการสาธารณูปโภค คิดกันว่าให้รัฐดำเนินการเพื่อลดต้นทุน ช่วยเหลือประชาชน แต่ปัจจุบันวันดีคืนดี เมื่อกิจการเหล่านี้ไม่อยู่ในมือรัฐ กฎหมายที่เคยมีก็เริ่มรวน
9. ในอดีตการบริหารของรัฐเป็นรูปแบบการบริหารที่ดีที่สุด มีกลไกตรวจสอบ แต่ถามว่าปัจจุบันกลไกเหล่านี้ไม่เหลือแล้ว ถ้าใช้รูปแบบนี้ต่อไปจะกลายเป็นตัวถ่วง
---------------------
ถ้ามองพื้นฐานการออกฎหมายในอดีตดังกล่าวเทียบกับปัจจุบันที่สภาพสังคมเปลี่ยนไป 9 ประการคือ
1. ปัจจุบันการแข่งขันรุนแรงและไม่จำกัดแค่ในประเทศ กฎหมายจึงตามไม่ทัน
2. คนเอกชนมีความรู้ดีกว่าราชการ เมื่อคนมีความรู้น้อยกว่า ออกกติกาให้คนมีความรู้มากกว่าปฏิบัติ คนมีความรู้ก็หาช่องโหว่ เพื่อเอาเปรียบ กฎหมายจึงเป็นตัวถ่วงมากกว่าดูแลสังคมให้เกิดความเป็นธรรม
3. ปัจจุบัน
การมีส่วนร่วมของประชาชนถูกกระตุ้นมากขึ้น
การออกกฎหมายจึงถูกจับตามากขึ้น อย่างไรก็ดี ถ้าหน่วยงานที่ออกกฎหมายไม่ปรับตัว การออกกฎหมายก็เหมือนเดิม
4. แนวคิด
การทำงานของราชการที่เป็นมาตรฐานเดียวกันเริ่มถูกทดสอบ
เช่น การจัดซื้อจัดจ้างใช้ระเบียบพัสดุเหมือนกัน ทำให้คนคิดทุจริตมีช่องได้มากขึ้น เพราะคนเหล่านี้ซิกแซกได้ตลอด ดังนั้นจึงมีแนวคิดว่าทำไมไม่ให้กระทรวงที่มีเนื้องานจัดซื้อต่างกัน ออกระเบียบจัดซื้อจัดจ้างของตนเอง
5. ปัจจุบันราชการไม่ได้เป็นแบบอย่างให้เอกชน ตรงกันข้ามเอกชนกลายเป็นแบบอย่างให้ราชการ ดูอย่างรัฐบาลที่แล้วที่กลไกออกแบบมาจา่กบริษัทยักษ์ใหญ่ จึงมีปัญหา เนื่องจากเป้าหมายของเอกชนคือ การทำกำไรโดยไม่คำนึงถึงวิธีการ เช่น หากทำให้คู่ต่อสู้ล้มจากเวทีถือเป็นผลงาน แต่ราชการไม่สามารถที่จะทำแบบนั้นได้ เพราะต้องคำนึงถึงความผาสุกและจริยธรรม ดังนั้นราชการกับเอกชนจึงมีเป้าหมายที่ต่างกัน
6. ปัจจุบันการเมืองมีอำนาจมากขึ้น แต่ราชการอ่อนแอลง ซึ่งเราต้องมีการศึกษาวัฒนธรรม วิถีชีวิตของคนไทยให้ดี ระบบราชการไทยแม้จะไม่ดี 100% แต่ยังเป็นระบบที่มีคุณธรรมบ้าง ไม่ใช่ popularity (คะแนนนิยม) เพียงอย่างเดียว
7. แนวคิดในอดีตที่ว่า
คณะรัฐมนตรีหรือรัฐบาลไว้ใจได้ ปัจจุบันการตรวจสอบที่เข้มข้นขึ้นทำให้การมองเปลี่ยนไปเป็นต้องจับตา
8. การปกครองส่วนท้องถิ่นเจริญขึ้น ทำให้ท้องถิ่นก้าวหน้าขึ้น และท้องถิ่นก็มีงบฯ มากขึ้น
9. รัฐเริ่มถูกจับตามองในแง่วัตถุประสงค์เพราะ
แต่เดิมรัฐมักจะคิดว่ารฐจะทำอะไรก็ได้ แต่ปัจจุบันมีแนวคิดว่ารัฐต้องทำให้น้อยที่สุด
และนั่งเป็นกรรมการกระดิกเท้าชักค่าต๋ง ตรงนี้ทำให้ต้องกำหนดเป้าหมายเพื่อไปวางกลยุทธ์
-------------------------
ผลจากสภาพสังคมดังกล่าว ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในหลายประเด็น ได้แก่
1. คนเริ่มมีแนวคิดว่า การมีกฎหมายมากๆ ดีจริงหรือ แนวคิดนี้ต่างประเทศคิดกันนานแล้ว แต่ประเทศไทยเพิ่งมาสำเหนี่ยก ทั้งนี้การออกกฎหมายแต่ละอย่างเป็นเหรียญ 2 ด้าน ระหว่างการสร้างอำนาจ และการสร้างหน้าที่สำหรับคนทั้งประเทศ ต่างประเทศจึงไม่ให้มีกฎหมายมาก ถ้ามีก็ระดับต่ำที่สุด และดูด้วยว่าจะคุ้มค่าที่ที่ประชาชนจะสละสิทธิเสรีภาพเพื่อกฎหมายฉบับนั้นๆ หรือไม่
2. คนเริ่มคิดว่า
รัฐควรถูกจำกัดบทบาทได้หรือยัง
โดยเฉพาะขอบเขตของการดูแลกิจกรรม
3.
ระดับระหว่างการควบคุม การกำกับดูแลให้เป็นไปตามกติกา
หรือการส่งเสริมสนับสนุน ทั้งนี้ คิดว่าการจำกัดบทบาทของรัฐควรมาพูดกันจริงจังเสียที เช่น กิจการที่รัฐทำ หรือกิจการที่รัฐขาย ปัจจุบันของที่จำเป็น เช่น สาธารณูปโภคที่รัฐหมายมั่นปั้นมือว่าจะขายต้องย้อนดูว่ากิจการนั้น รัฐตั้งขึ้นเพื่อหวังผลกำไร หรือรัฐตั้งเพื่อต้นทุนต่ำ เพื่อช่วยเหลือจุนเจือประชาชน ถ้าตอบตรงนี้ได้ก็จะรู้ว่าควรจะขายกิจการนั้นหรือจะเก็บไว้
-------------------
นอกจากนี้ควร
สำรวจกฎหมายที่ใช้บังคับอยู่ในปัจจุบันว่า ยังคุ้มค่าที่จะใช้บังคับประชาชนหรือไม่.
... (ละ).... ซึ่งกฎหมายเหล่านี้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถปฏิบัติตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายได้ จึงสร้างวัฒนธรรมการมีกฎหมายแต่ไม่บังคับใช้ และกลายเป็นนิสัยคนไทยที่ชอบเลี่ยงกฎหมาย ขณะที่ต่างประเทศบอกว่าจะปฏิบัติตามกฎหมายอย่างไรให้เจ็บตัวน้อยที่สุด ระยะหลังจึงมีนักภาษีอากรเข้าเค้ากรณีนี้มากขึ้น
จากประสบการณ์การร่างกฎหมายของผมมา 30-40 ปี เห็นว่าระยะ 5-10 ปีที่ผ่านมา ผมไม่ไว้ใจอะไรเลย
กฎหมายที่ร่างขึ้นมาต้องเขียนให้สกัดทุกช่อง
จนบางคนบอกว่าผมบ้าคิดไปได้อย่างไร แต่ผมหาทางสกัดไว้ดีกว่า เพราะจะรู้ได้อย่างไรว่า วันหนึ่งคนที่มาใช้กฎหมายจะคิดไปถึงขนาดนั้น อย่างที่ผ่านมา จะมีการออกกฎหมายเพื่อให้เกิดความคล่องตัวในระบบราชการ สามารถโยกย้ายข้าราชการระดับสูง อย่างระดับอธิบดีคนไหนที่ไม่ถนัดงานนั้น รัฐมนตรีก็สามารถย้ายข้ามกระทรวงได้ แล้วพอเสร็จเรื่องก็ย้ายกลับ ตรงนี้ผมก็ติงว่าถ้าเกิดกรณีการจัดประมูลงาน หากอธิบดีคนนั้นไม่เห็นด้วยเรื่องการดึงเปอร์เซ็นต์แล้วย้ายอธิบดีคนที่เห็นด้วยเข้ามาแทน.. (ละ)...
จะไว้ใจรัฐมนตรีได้หรือไม่ สมัยนี้จึงต้องคิดล่วงหน้าเสียก่อน
------------------
บันทึกการเข้า
คลิป นปก บุกทำเนียบชนพันธมิตร
http://pirun.ku.ac.th/~g4685035/01mob.asf
กระทู้ขบวนการเสรีไทยในเวบบอร์ดร่วมคัดคัดกรณีปราสาทพระวิหาร นำโดยคุณ *bonny
http://forum.serithai.net/index.php?topic=28065.0
และเอกสารยื่นคัดค้านกระทรวงต่างประเทศไทยและกัมพูชา
http://www.savefile.com/files/1629973
กระทู้สรุปประเด็นปราสาทพระวิหาร โดยคุณ Jerasak
http://forum.serithai.net/index.php?topic=28392.0
ใบปลิวขนาด 2 หน้าสรุปประเด็นปราสาทพระวิหาร โดยคุณ Jerasak
http://www.savefile.com/files/1626944
แม่น้ำร้อยสายล้วนต้นกำเนิดเดียวกัน... จากสายฝน จากภูเขา ที่ซึ่งคล้ายเจตนารมณ์แห่งฟ้า
เสรีไทยเวบบอร์ด
http://forum.serithai.net/
We Open Mind
http://www.weopenmind.com/board/index.php
อรุณสวัสดิ์
http://www.arunsawat.com/board/index.php
ที่ทำการเสี่ยวอีสาน
[
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
ออฟไลน์
กระทู้: 13,486
Re: ۞ แนวทางการออกกฎหมาย (อาจรวมถึงรัฐธรรมนูญ?) ของประธาน สนช. มีชัย ฤชุพันธุ์
«
ตอบ #1 เมื่อ:
06-11-2006, 18:37 »
กระทู้นี้อ่านแล้วมึน อิ อิ
จะมีคนกล้าตอบกี่คนละเนี่ย..
บันทึกการเข้า
http://canthai.hi5.com
พระพาย
ขาประจำขั้น 2
ออฟไลน์
กระทู้: 679
Re: ۞ แนวทางการออกกฎหมาย (อาจรวมถึงรัฐธรรมนูญ?) ของประธาน สนช. มีชัย ฤชุพันธุ์
«
ตอบ #2 เมื่อ:
06-11-2006, 18:43 »
สวัสดีท่านลุงแคน... กระทู้นี้โพสต์ไว้เป็นข้อมูลพื้นฐาน เตรียมรับมือแนวทางการร่างรัฐธรรมนูญจากประธานมีชัยครับ
เผอิญว่ามติชนต้นฉบับดันไม่มีออนไลน์บนเน็ทหน่ะครับ... ก็เลยต้องลอกมาแปะไว้ก่อนเผื่อไว้ครับ
แนวทางที่ว่าป้องกันโดยพยายามสกัดทุกช่องทาง และตั้งสมมติฐานว่านักการเมืองไว้ใจไม่ได้เอาไว้ก่อนนั้น... น่าจะมีผลสำคัญต่อการร่างรัฐธรรมนูญครั้งนี้ครับ
แต่ถ้าหากใครเห็นแย้งแนวคิดนี้ก็เชิญเลยนะครับ... คิดว่าช่วงตั้งไข่รัฐธรรมนูญต้องได้ใช้แน่ครับ
บันทึกการเข้า
คลิป นปก บุกทำเนียบชนพันธมิตร
http://pirun.ku.ac.th/~g4685035/01mob.asf
กระทู้ขบวนการเสรีไทยในเวบบอร์ดร่วมคัดคัดกรณีปราสาทพระวิหาร นำโดยคุณ *bonny
http://forum.serithai.net/index.php?topic=28065.0
และเอกสารยื่นคัดค้านกระทรวงต่างประเทศไทยและกัมพูชา
http://www.savefile.com/files/1629973
กระทู้สรุปประเด็นปราสาทพระวิหาร โดยคุณ Jerasak
http://forum.serithai.net/index.php?topic=28392.0
ใบปลิวขนาด 2 หน้าสรุปประเด็นปราสาทพระวิหาร โดยคุณ Jerasak
http://www.savefile.com/files/1626944
แม่น้ำร้อยสายล้วนต้นกำเนิดเดียวกัน... จากสายฝน จากภูเขา ที่ซึ่งคล้ายเจตนารมณ์แห่งฟ้า
เสรีไทยเวบบอร์ด
http://forum.serithai.net/
We Open Mind
http://www.weopenmind.com/board/index.php
อรุณสวัสดิ์
http://www.arunsawat.com/board/index.php
ที่ทำการเสี่ยวอีสาน
[
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
ออฟไลน์
กระทู้: 13,486
Re: ۞ แนวทางการออกกฎหมาย (อาจรวมถึงรัฐธรรมนูญ?) ของประธาน สนช. มีชัย ฤชุพันธุ์
«
ตอบ #3 เมื่อ:
06-11-2006, 18:52 »
เท่าที่ฟัง ประธาน สนช. ไม่ยุ่งเรื่อง ร่างรัฐธรรมนูญนี่ครับ แค่ไปเป็นประธานสมัชชาให้
เสร็จแล้วก็ไปเลือก ให้เหลือ 200 คน แล้ว คมช. เลือกเหลือ 100 คน
เข้าใจว่าจะมีประธานสภาร่างฯ อีกคนหนึ่ง
ตอนนี้ยังไม่วิจารณ์ครับ...มันยังอึมครึม...อิ อิ
ตาม ๆ ฟังกรอบของรัฐธรรมนูญ ที่ องค์กรต่าง ๆ จัดขึ้น ผมยังตามประเด็นไม่เจอ มันสะเปะสะปะกันอยู่
เอาไว้เก็บประเด็นได้ชัด ๆ ค่อยละเลงกันใหม่
แต่ผมก็ไม่ไว้ใจนักการเมืองจริง ๆ นั่นแหละ เราอย่าคิดว่าคนมาร่างเป็นแค่ "ข้าราชการนะครับ"
ผมมองว่า พวกอาจารย์ หรือนักกฎหมายทั้งหลาย มีอาชีพที่มีอิสระพอตัว
ห่วงแต่จะเป็น "รัฐธรรมนูญ ฉบับลืมศาล" เหมือนบทความหนึ่งในมติชน
หลาย ๆ คนบอกว่า ฉบับ 2540 ดีที่สุด แต่ทางศาลบอกว่า ไม่เคยถามคนในศาลว่า คิดยังไง
ส่วนนายชวน แห่ง ปชป. ให้ไปเก็บเอาฉบับ 2517 มาดูด้วย นั่นก็ถือว่าเป็นรัฐธรรมนูญที่เกิดขึ้นในยุค ประชาธิปไตยเต็มใบแท้ ๆ น่าคิดครับ
บันทึกการเข้า
http://canthai.hi5.com
หน้า:
[
1
]
ส่งหัวข้อนี้
พิมพ์
กระโดดไป:
เลือกหัวข้อ:
-----------------------------
ทั่วไป
-----------------------------
=> ตะกร้าข่าว
=> ห้องสาธารณะ
=> สภากาแฟ
=> ชายคาพักใจ
=> ร้อยรักษ์กวีวรรณ
=> สโมสรริมน้ำ
-----------------------------
ด้านเทคนิค
-----------------------------
=> ปัญหาการใช้งาน
=> ห้องทดสอบ
===> ทดสอบบอร์ดย่อย
Powered by SMF 1.1.20
|
SMF © 2005, Simple Machines
|
Thai language by ThaiSMF
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.031 วินาที กับ 21 คำสั่ง