ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
28-03-2024, 22:41
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  หมิ่นศาลติดคุก-หมิ่นฟ้า ถอนฟ้อง "อ้างสมานฉันท์" 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
หมิ่นศาลติดคุก-หมิ่นฟ้า ถอนฟ้อง "อ้างสมานฉันท์"  (อ่าน 1512 ครั้ง)
พลีชีพ
สมาชิกสามัญขั้นที่ 1
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 33



« เมื่อ: 04-11-2006, 20:42 »

 สั่งไม่ฟ้อง..ถอนฟ้อง..กลุ่มพันธมิตร..เพื่อความสมานฉันท์..ป.วิ อาญา มาตราไหนครับ อ่านไม่เจอ
แต่คนไหนที่เป็นพวกรัฐบาลเก่า กลับรีบเร่งลนลานหาพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับมาดำเนินคดีโดยไว
มันเป็นดับเบิ้ลแสตนดาร์ต..หรือเปล่าครับ หรือเพื่อความสมานฉันท์ของพวก ข้าฯ เองหรือ ขอรับ ผู้มีอำนาจวาสนา

บ้าดีเมืองไทย+-+
บันทึกการเข้า
room5
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 573



« ตอบ #1 เมื่อ: 05-11-2006, 07:23 »

คดีที่สนธิลิ้มฟ้องนายกหมิ่นเค้าก็ถอนให้ด้วยนิ
บันทึกการเข้า
snowflake
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,207



« ตอบ #2 เมื่อ: 05-11-2006, 09:06 »

ไม่เห็นด้วยกับการถอนฟ้องคดีหมิ่นฯ นะคะ
ใครมันบังอาจก็ควรเอาโทษให้ถึงที่สุด
จะได้เลิกแอบอ้างจาบจ้วงหลอกลวงประชาชน

ไม่เห็นเกี่ยวกับสมานฉันท์อะไร
หรือจะให้เข้าใจว่ามีบางคนใหญ่โตจนแตะต้องไม่ได้?
หรือกลัวว่าถ้าเขาไม่ได้ดังใจ จะปลุกม็อบมาล้มรัฐบาล?
บันทึกการเข้า

Even the smallest person can change the course of the future.
พรรณชมพู
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,073


« ตอบ #3 เมื่อ: 05-11-2006, 10:10 »

สั่งไม่ฟ้อง..ถอนฟ้อง..กลุ่มพันธมิตร..เพื่อความสมานฉันท์..ป.วิ อาญา มาตราไหนครับ อ่านไม่เจอ
แต่คนไหนที่เป็นพวกรัฐบาลเก่า กลับรีบเร่งลนลานหาพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับมาดำเนินคดีโดยไว
มันเป็นดับเบิ้ลแสตนดาร์ต..หรือเปล่าครับ หรือเพื่อความสมานฉันท์ของพวก ข้าฯ เองหรือ ขอรับ ผู้มีอำนาจวาสนา

บ้าดีเมืองไทย+-+

มาตราที่ว่าด้วยการสั่งถอนฟ้องค่ะ อ่านใหม่ก็แล้วกัน

แล้วที่โกวิทย์สั่งไม่ฟ้องนายทักษิณ คดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ป.วิ อาญา มาตราไหนคะ อ่านไม่เจอเหมือนกัน

http://webboard.mthai.com/7/2006-09-03/264351.html
ถอนฟ้อง "ธัมมชโย" กับค่านิยมหันหลังให้ความจริง

โดย สุรพศ ทวีศักดิ์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ศูนย์หัวหิน


ความเหมือนโดยบังเอิญระหว่างการปฏิเสธ "ทักษิณ" กับการปฏิเสธ "พระธัมมชโย" (พระราชภาวนาวิสุทธิ์) อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย คือ มีการปฏิเสธทักษิณแต่ไม่ได้ปฏิเสธพรรคไทยรักไทย มีการปฏิเสธพระธัมมชโยแต่ไม่ได้ปฏิเสธวัดพระธรรมกาย

สังคมต้องการให้ทักษิณเคลียร์ตัวเองในข้อกล่าวหาเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน การเลี่ยงภาษีเป็นต้นตามกระบวนการยุติธรรมฉันใด ก็ต้องการให้พระธัมมชโยได้เคลียร์ตัวเองในข้อหาเรื่องเงินวัด เรื่องความซื่อตรงต่อพระไตรปิฎกเป็นต้นตามกระบวนการยุติธรรมและกระบวนการทางพระธรรมวินัยฉันนั้น

แต่น่าเสียดายที่สังคมไม่มีโอกาสได้เห็นคุณทักษิณพิสูจน์ตนเองด้วยกระบวนการยุติธรรม และการถอนฟ้องคดีพระธัมมชโยกับลูกศิษย์เมื่อ 22 สิงหาคม 2549 ที่ผ่านมา ก็ตัดโอกาสที่ท่านจะได้พิสูจน์ ความบริสุทธิ์ของตนเองหลังจากที่ถูกกล่าวหามานานกว่า 7 ปี

การถอนฟ้องจึงแทนที่จะทำให้สังคมได้กระจ่างในความจริง กลับทำให้สังคมอยู่กับความคลุมเครืออีกต่อไป

โปรดพิจารณาเหตุผลของการถอนฟ้องคดีพระธัมมชโย ซึ่งสาระสำคัญมี 3 ประการ ดังนี้

1.เพราะพระธัมมชโย คืนเงินและที่ดินมูลค่า 959,300,000 บาท ให้แก่วัดพระธรรมกายแล้วจึงไม่ดำเนินคดีฐานยักยอกทรัพย์

2.เพราะได้เผยแผ่พระพุทธศาสนาตรงตามพระไตรปิฎกและนโยบายของคณะสงฆ์ด้วยการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ ทำให้เป็นที่ยอมรับทั่วไปทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งได้ให้ความร่วมมือ ช่วยเหลือกิจการของศาสนาทั้งของคณะสงฆ์ ภาครัฐ และเอกชนจำนวนมาก

3.เพราะบ้านเมืองต้องร่วมกันสร้างความสามัคคีของคนในชาติทุกหมู่เหล่า เห็นว่าหากดำเนินคดีกับจำเลยทั้งสองต่อไป อาจก่อให้เกิดความแตกแยกในศาสนจักร โดยเฉพาะพระภิกษุสามเณรและประชาชนทั้งในและต่างประเทศที่นับถือศาสนาพุทธ

และไม่เป็นประโยชน์แก่สาธารณะ

จากเหตุผลดังกล่าว ทำให้เกิดคำถามต่างๆ ตามมา เช่น

1.เป็นการทำลายบรรทัดฐานความยุติธรรมตามกฎหมายหรือไม่? ถ้ามีการจับใครก็ตาม และฟ้องดำเนินคดียักยอกทรัพย์แล้วเขายอมคืนเงินให้ก็ถือว่าไม่มีความผิด ต่อไปถ้านักการเมืองหรือใครๆ ถูกจับได้ว่าโกงเงิน แล้วยอมคืนเงินก็ต้องถือว่าไม่มีความผิดเช่นกันใช่หรือไม่

ที่สำคัญตามพุทธบัญญัติอาบัติปาราชิกที่พระภิกษุละเมิดแล้วขาดจากความเป็นพระที่ว่า "ภิกษุมีเจตนาถือเอาทรัพย์ของผู้อื่น ได้ราคา 5 มาสก (1 บาท) ขึ้นไป ต้องขาดจากความเป็นภิกษุ" องค์กรปกครองสงฆ์ที่มีหน้าที่วินิจฉัยจะยึดการจำหน่ายคดีนี้เป็นเหตุผลว่าพระธัมมชโยไม่ได้ต้องอาบัติปาราชิกได้หรือไม่

ผู้เขียนไม่เก่งภาษากฎหมาย แต่ข้อความว่า "...จำเลยที่ 1 กับพวก ได้มอบทรัพย์สินทั้งหมดซึ่งมีทั้งที่ดินและเงิน จำนวน 959,300,000 บาท คืนให้แก่วัดพระธรรมกาย..." (มติชน,23/8/2549) ตามภาษาสามัญทั่วไป "คืนให้" หมายความว่า "ยืมหรือเอาของคนอื่นไปเป็นของตนเองแล้วจึงคืนแก่เจ้าของเดิม" (แต่กรณีนี้ไม่ปรากฏว่าพระธัมมชโยได้ยืมเงินของวัดไปซื้อที่ดินในนามของตนเอง)

ถ้าในกรณีเช่นนี้ไม่ดำเนินคดีตามกฎหมายได้ จะถือว่าไม่ต้องอาบัติปาราชิกได้ด้วยหรือไม่ องค์กรสงฆ์ที่รับผิดชอบน่าจะอธิบายกับสังคม

2.จากเหตุผลข้อที่ 2 องค์กรสงฆ์ที่รับผิดชอบเรื่องนี้ควรอธิบายให้สังคมเข้าใจด้วยว่า ตามพุทธบัญญัติและประเพณีปฏิบัติของพระสงฆ์ เคยมีตัวอย่างปรากฏหรือไม่ว่า ถ้าพระภิกษุถูกกล่าวหาว่าต้องอาบัติถึงขั้นขาดจากความเป็นภิกษุแล้วสามารถอ้างคุณความดีของพระรูปนั้นมาลบล้างความผิด หรือเป็นเหตุผลให้ยุติการไต่สวนหาข้อเท็จจริงได้

3.เหตุผลข้อที่ 3 ดูเหมือนจะเป็นเหตุผลอย่างที่เรียกกันว่า "เหตุผลทางรัฐศาสตร์" แต่เป็นเหตุผลที่น่าจะอยู่ในขั้นตอนการนำคดีขึ้นสู่การพิจารณาของศาลและเป็นดุลยพินิจของศาลมากกว่าที่จะเป็นข้อเสนอของอัยการมิใช่หรือ

ในสังคมที่ดีควรจะถือเป็นบรรทัดฐานได้หรือไม่ว่า ถ้าใครก็ตามซึ่งมีคนศรัทธามาก (หรือมีคะแนนเสียงสนับสนุนมาก) ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิด เราไม่ควรดำเนินคดีกับเขาเพราะเกรงว่าสังคมจะแตกแยก

อันที่จริงฝ่ายที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์พระธัมมชโย ไม่ได้รังเกียจนโยบายหรือเป้าหมายของวัดพระธรรมกาย (เช่นเดียวกับคนที่ต่อต้าน "ทักษิณ" ก็ไม่ได้รังเกียจนโยบายของไทยรักไทย) ที่มุ่งส่งเสริมให้คนเข้าวัดให้มากที่สุด ที่มุ่งเผยแผ่พระพุทธศาสนาไปทั่วโลก ที่ต้องการทำประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางพระพุทธศาสนาของโลก และที่ก่อสร้างอาคารสถานที่ตลอดถึงมีรูปแบบการบริหารจัดการที่สามารถรองรับและอำนวยความสะดวกแก่ผู้ปฏิบัติธรรมจำนวนเรือนแสน

แต่ที่ชาวพุทธจำนวนมากข้องใจคือ "วิธีการ" ของพระธัมมชโยต่างหาก (เช่นเดียวกับข้องใจวิธีการจัดการแบบทักษิณ อ.นิธิ เอียวศรีวงศ์ อธิบายแล้วในมติชน,28/8/2549) ที่ไม่โปร่งใส เช่น นำเงินของวัดไปซื้อที่ดินในชื่อตนเองและลูกศิษย์ใกล้ชิด (ทักษิณถูกตั้งคำถามเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน)

ไม่ตรงไปตรงมาหรือไม่ซื่อตรงต่อหลักคำสอนในพระไตรปิฎก (ทักษิณอ้างว่า "ประชาธิปไตยเป็นเพียงวิถี" "ประชาธิปไตยคือการเลือกตั้ง" "ต้องดูแลจังหวัดที่เลือกพรรครัฐบาลก่อน" ฯลฯ จึงถูกตั้งคำถามว่าใช้ประชาธิปไตยอย่างไม่ซื่อตรงต่อประชาธิปไตย) เช่นสอนว่านิพพานเป็น "อัตตา" ทั้งที่ปรากฏชัดในพระไตรปิฎกว่า นิพพานเป็น "อนัตตา"

การถอนฟ้องคดี (ทั้งที่มีการสืบพยานมาแล้วเกือบ 100 ครั้ง เหลือสืบพยานอีกเพียง 2 ครั้ง ก็จะขึ้นสู่การพิจารณาของศาล) จึงเป็นการตัดโอกาสที่พระธัมมชโยจะได้พิสูจน์ความบริสุทธิ์ตนเองอย่างกระจ่างแจ้ง

เป็นการตัดโอกาสที่สังคมควรได้รับรู้ความจริง และเป็นการสร้างค่านิยมหันหลังให้กับความจริงแก่สังคม ทำให้น่าห่วงว่าสังคมที่ไม่สามารถใช้กระบวนการพิสูจน์ความจริงอย่างโปร่งใสตรงไปตรงมาได้ จะเป็นสังคมที่คลุมเครือในเรื่องความถูกต้องชอบธรรม ใช้อารมณ์ความรู้สึกมากกว่าเหตุผล เกิดความขัดแย้งง่าย และขาดภูมิคุ้มกันความรุนแรง

ถ้าวัดพระธรรมกายหันมาเผยแผ่พระพุทธศาสนาให้ตรงตามพระไตรปิฎกก็เป็นเรื่องที่น่ายินดี แต่การถอนคดีเพื่อจบปัญหา และไม่ดำเนินการทำความถูกต้องตามพระธรรมวินัยให้กระจ่าง จะกลายเป็นบรรทัดฐานที่ทำให้สังคมมีค่านิยมหันหลังให้ความจริงซึ่งอันตรายอย่างยิ่ง


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-11-2006, 10:15 โดย พรรณชมพู » บันทึกการเข้า
O_envi
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 495



« ตอบ #4 เมื่อ: 05-11-2006, 14:50 »

ผมไม่กลัวหรอกครับถ้าจะสั่งฟ้องสนธิ หรือพันธมิตร เพราะฟังมาแล้วไม่เห็นจะหมิ่นตรงไหนเลย
ถ้าใครคิดว่าหมิ่นก็ให้ศาลตัดสินสิ เหตุอ้างถอนฟ้องมันพิลึกยังไงไม่รู้ เมื่อไหร่ นายพชร จะออกซะทีล่ะครับ
บันทึกการเข้า

The change musts come one by one.It has to start with you
ooo
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 670


« ตอบ #5 เมื่อ: 05-11-2006, 15:15 »

  กระบวนการยุติธรรมของไทย อะไรคือจุดยืน...

หรือว่าเป็นเพียงสนลู่ลม...
บันทึกการเข้า
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #6 เมื่อ: 05-11-2006, 15:37 »

สั่งไม่ฟ้อง..ถอนฟ้อง..กลุ่มพันธมิตร..เพื่อความสมานฉันท์..ป.วิ อาญา มาตราไหนครับ อ่านไม่เจอ
แต่คนไหนที่เป็นพวกรัฐบาลเก่า กลับรีบเร่งลนลานหาพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับมาดำเนินคดีโดยไว
มันเป็นดับเบิ้ลแสตนดาร์ต
..หรือเปล่าครับ หรือเพื่อความสมานฉันท์ของพวก ข้าฯ เองหรือ ขอรับ ผู้มีอำนาจวาสนา

บ้าดีเมืองไทย+-+


1. คนความจำเสื่อม อย่าเอาวิธีการของรัฐบาลเก่ามาคิด
2. สอบสวนไป รัฐบาลเก่าอาจจะเจอข้อหากลั่นแกล้งก็ได้.....................ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า



บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
snowflake
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,207



« ตอบ #7 เมื่อ: 05-11-2006, 16:46 »

ขอบคุณ คุณ พรรณชมพู สำหรับบทความที่นำมาให้อ่านค่ะ
หวังว่าจะมีผู้เข้าใจและแยกแยะได้มากขึ้นระหว่าง
พฤติกรรมไม่เหมาะสมหรือต้องสงสัยว่าจะผิดกฏหมายของ “บุคคล”
กับ “นโยบาย” ที่ไม่ได้เลวร้ายหากมีการปฏิบัติที่ดี

หรือเอาง่ายๆ แค่ “คน” ไม่ดี ไม่ได้หมายความว่า “ระบอบ” ไม่ดี
ทุกวันนี้หลายคนสับสนปนเปกันจนวุ่นวาย
กลายเป็นว่า ระบอบประชาธิปไตยไม่ดี ไม่เอา
เพราะระบอบประชาธิปไตยคือ ระบอบที่มีคนชื่อทักษิณเป็นเจ้าของไปแล้ว

 
บันทึกการเข้า

Even the smallest person can change the course of the future.
ชอบแถ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,138



« ตอบ #8 เมื่อ: 05-11-2006, 16:53 »

คันมือฉิบ อยากถอดเทปถ้อยคำที่หมิ่นมา post จัง กลัวถึงตาเราดันไม่ยกฟ้อง
บันทึกการเข้า
No_Tuky
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 296


« ตอบ #9 เมื่อ: 05-11-2006, 17:10 »

^
^
^
ถอดมาเลย เด๋วตูตัดสินใจว่าหมิ่นไม่หมิ่น หุ ๆ 
บันทึกการเข้า
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #10 เมื่อ: 05-11-2006, 17:23 »

ไม่ได้เกี่ยวเล้ย...ถ้ามันเข้าข่ายความผิด มันก็ผิด ถ้าไม่เข้าองค์ประกอบก็ไม่ผิด

ผิดแล้วมีรออาญาก็เยอะไป ไม่ใช่โทษติดคุกอย่างเดียว
บันทึกการเข้า

p
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,264


« ตอบ #11 เมื่อ: 05-11-2006, 23:05 »

... กลัวถึงตาเราดันไม่ยกฟ้อง

อยู่เรือนจำไหนอย่าลืมบอกด้วยนะครับ

 
บันทึกการเข้า

ถ้ามัวคิดแต่จะโกงและเอาเปรียบคนอื่น จะสอนลูกหลานให้เป็นคนดีได้อย่างไร
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #12 เมื่อ: 06-11-2006, 01:03 »

กระบวนการยุติธรรม มันมีการใช้วิจารณญาณกันมากครับ

มีคนแจ้งความจับทักษิณมากมาย แต่ตำรวจพิจารณาแล้วคิดว่าไม่ผิดก็ไม่ทำสำนวน

มีคนแจ้งความจับสนธิกับพวก หลายคดี ก็เลือกเอาบางคดี สอบสวนไปทำสำนวนไป เสร็จแล้วก็หมดหน้าที่ ต้องไปผ่านอัยการสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้อง

บ่อยไปครับ ที่ตำรวจทำสำนวนคดีแล้วอัยการสั่งไม่ฟ้อง เพราะรู้ ๆ กันอยู่ ฟ้องไปก็ไม่ผิด

องค์ประกอบความผิดเรื่องแบบนี้ มันขึ้นกับวิจารณญาณ อย่างเรื่อง "กบฎในราชอาณาจักร์" มองยังไงมันก็ไม่ใช่

ส่วนเรื่อง "หมิ่นฯ เบื้องสูง" ต้องกลับไปฟังพระราชดำรัส ฯ และนำมาประกอบซึ่งการใช้วิจารณญาณของเจ้าหน้าที่ ว่า "หมิ่นฯ หรือไม่"

แต่ที่สำคัญคือ เหตุผลของ คปค. นั่นสิ จำเป็นต้องทำให้เหตุผลของการรัฐประหารชัดเจนขึ้น...

เพราะมีการอ้างเป็นเหตุผล 1 ใน 4 ข้อหาของ คปค. ต่อรัฐบาลทักษิณ

ผมมาห่วงทักษิณ ตรงประเด็นนี้มากกว่า เพราะยังไม่มีการดำเนินคดีกับทักษิณ แม้คดีเดียว
บันทึกการเข้า

Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #13 เมื่อ: 06-11-2006, 18:01 »

ตัวอย่างใบปลิว ถ้า Mod เห็นท่าไม่ดี ลบก็ได้ ไม่มีปัญหา

เห็นว่าเนื้อหาเดียวกับกระทู้ เลยนำมาให้ดู ( เมล์นี้เพิ่งได้รับ จาก "ผู้หวังดี" ส่งมาให้อ่าน เห็นว่าเนื้อหาตรงกับกระทู้นี้พอดี )
...................................................................
ขอความร่วมมือ dCode ทุกท่าน ฟอร์เวริด และวางใบปลิวข้อความนี้ต่อๆ ออกไป สงครามข่าวสาร ฉบับที่ ๘

รบในสงครามข่าวสาร / แบ่งกลุ่มหน้าที่ของ dCode ทุกท่าน

ผมคัดลอกมาจากกระทู้ของสมาชิกเราในนี้และพี่ๆหลายๆท่านที่ส่งหลังไมค์ให้ผม และโดยอาศัยรวบรวมเอาจากกระทู้ดีๆ ถือว่าเราชาว wnc ร่วมกันเขียนขึ้นมา ซึ่งผมจะไม่มีการอ้างอิงแต่อย่างใด

นี่คือ ผลตอบรับที่ได้

อย่าเพิ่งหมดกำลังใจไปเสียก่อน ทีมต่อต้านเผด็จการทั่วประเทศกำลังรอ ผลิตผลของสงครามข่าวจากเรา
เพื่อไปทำสงครามข่าวต่อ..เช่นกัน


๑. โดยแนะนำให้ส่งต่อกับเพื่อนๆ ของท่านที่คิดว่าไว้ใจได้ว่าจะไม่นำภัยมาสู่ท่าน สามคน หรือห้าคน

๒. โดยใช้อีเมล์ที่คิดว่าปลอดภัย และไม่ควรเป็นอีเมล์ของที่ทำงาน

๓. เราต้องเปิดแนวรบทางด้าน"การข่าว" งานนี้ไม่ได้เอาชนะหักได้ในด้ามวันหรือเดือน เพราะต้องสู้กันอีก"เป็นปี" เรามีหน้าที่ต้อง"สู้" ด้วย "การข่าว" เหมือน

ที่เขาใช้อย่างแยบยล นี่คือวิธีการ "ยืมหอกสนองคืนผู้ใช้" หรือ "หอกทมิฬแทงทมิฬ"

๔. ผู้ใด หากกลัวอันตรายหรือไม่เห็นด้วยกับบทความ กรุณาปล่อยผ่าน ไม่ถือว่าเป็นการบังคับแต่อย่างใดครับ

๕. แนะนำให้เติมตัวอักษร Fw: จากผู้ยืนดูอยู่ในเหตุการณ์ ๑๙ กันยายน ๒๕๔๙ เพื่อเป็นการอำพรางได้ส่วนหนึ่ง หรีอแล้วแต่เทคนิคแต่ละท่าน

๖. หากมีบทความแนวทางนี้อีก ส่งหลังไมค์ให้ผม เพื่อพิจารณามาประกาศเช่นนี้ต่อไป

๗. ขอบคุณพี่น้องทุกท่านจากใจจริงๆครับ ที่เรามารวมกันที่นี่ พึงระลึกว่า "ระบบผู้มีอิทธิพลเหนือชาติ ประชาชนต้องหมดไป ประชาธิปไตยและรัฐธรรมนูญ

ต้องกลับมา"

๘. ให้แบ่งสมาชิกออกเป็นสามกลุ่ม เพื่อทำ"สงครามข่าวสาร"

กลุ่ม A ปล่อยข่าวทางอีเมล์ สมาชิกทุกคนต้องทำ

กลุ่ม B โพสกระจายข่าว ปูพรมตามเว็บบอร์ดทุกชนิด ไม่ว่าจะบอร์ดประเภทใด เราต้องโพสตะลุยอย่างเดียว อย่างน้อยๆ คนเขาต้องอ่าน รับขอเป็นผู้ที่มาความ

สามารถทางด้านซ่อนไอพีแอดเดรสและกล้าอีกระดับหนึ่ง

กลุ่ม C วางใบปลิวกระดาษ ผู้ที่มีประสบการณ์ กล้าหาญ หลบหลีกเก่ง ใช้การวางแบบโฆษณาสินค้า ไม่ตะหนกและตื่นกลัว

กลุ่ม D คือ กลุ่มสมาชิกที่ส่ง จม. หรือ ไปรษณีย์บัตร สงครามข่าวสาร หรือ ไปรษณีย์บัตร "เรียกร้องรัฐธรรมนูญ" ออกไปในวงกว้างยังที่ๆอินเตอร์เน็ตเข้าไม่ถึง

แล้วเป็นพื้นที่มีความเสี่ยงสูงและเข้าถึงได้ยาก


โดยให้สมาชิก เพิ่มลายเซ็นต์ของการโพส เช่น ใต้การโพสของตนเอง คือ

=====================

ชื่อเดิมที่ใช่ในราชดำเนินหรือชื่อใหม่ของท่าน A <------------------- แบบนี้หมายถึงสมาชิกที่มีภาระกิจในกลุ่ม A มีหน้าที่ กระจายข่าวทางอีเมล์

=====================
ชื่อเดิมที่ใช่ในราชดำเนินหรือชื่อใหม่ของท่าน AB <------------------- แบบนี้หมายถึงสมาชิกที่มีภาระกิจในกลุ่ม A และ B มีหน้าที่ กระจายข่าวทางอี

เมล์ และโพสกระจายข่าว ปูพรมตามเว็บบอร์ดทุกชนิด

=====================
ชื่อเดิมที่ใช่ในราชดำเนินหรือชื่อใหม่ของท่าน AC <------------------- แบบนี้หมายถึงสมาชิกที่มีภาระกิจในกลุ่ม A และ C มีหน้าที่ กระจายข่าวทางอี

เมล์ และวางวางใบปลิวกระดาษ


ตัวอย่าง
=====================
ปัญญา..แห่งตน ABCD <------------------- แบบนี้หมายถึงสมาชิกที่มีภาระกิจครอบคลุมในทุกกลุ่ม มีหน้าที่ กระจายข่าวทางอีเมล์ และวางวางใบปลิว

กระดาษ และโพสกระจายข่าว ปูพรมตามเว็บบอร์ดทุกชนิด และทางจดหมาย

ขอให้พวกเราสู้ อย่าท้อ อย่าถอย เราต้องได้ประชาธิปไตยที่แท้จริงกลับคืนมา นายกฯต้องมาจากการเลือกตั้ง มาจากตัวแทนของชาวบ้านอย่างแท้จริง

สงครามข่าว ฉบับที่หก

=====================================================================



"หมิ่นศาลติดคุก หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ถอนฟ้อง"




ศาล อาญา ถนนรัชดาภิเษก เมื่อวันที่ 27 ก.ค. อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา ได้แจ้งความดำเนินคดีฐานละเมิดอำนาจศาล กับผู้ชุมนุมที่สนับสนุน กกต.ที่ได้ใช้ถ้อยคำไม่สุภาพ กล่าววิพากษ์วิจารณ์ผลการตัดสินคดีของศาลที่พิพากษาจำคุกอดีต กกต. ทั้ง 3 คน เมื่อวันที่ 25 ก.ค. โดยอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา อ้างว่า ผู้ชุมนุมสนับสนุน กกต. กล่าววิพากษ์วิจารณ์ศาลด้วยถ้อยคำไม่สุภาพ

โดยต่อมารองอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา ได้ไต่สวนในคดีที่ผู้ถูกกล่าวหา 16 คนละเมิดศาล ด้วยการใช้ถ้อยคำไม่สุภาพ บริเวณศาลอาญา โดยทนายความของผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมด ได้ถามแก้ต่างให้แต่ละคนว่า "ที่กระทำลงไปเป็นความผิด และหากศาลให้ความปรานีจะไม่กระทำความผิดอีก" แต่ต่อมา ในวันที่ 3 ก.ค. ศาลได้มีคำสั่งว่าพฤติการณ์เช่นนี้ ถือว่าเป็นภัยร้ายแรงต่อกระบวนการยุติธรรม จึงไม่มีเหตุที่จะรอการลงโทษ ให้จำคุกผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 3 ศาลมีคำสั่งให้จำคุกคนละ 1 เดือน ทันทีโดยไม่รอลงอาญา โดยเฉพาะเลขาธิการองค์กรภาคประชาชนพิทักษ์ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซึ่งเป็นตัวแทนองค์กรภาคประชาชน ศาลสั่งไม่รอลงอาญา สั่งจำคุก 3 เดือน โดยไม่รอลงอาญา

จากเหตุการณ์ที่ผ่านมาทำให้เราใจได้ว่า สถาบันตุลาการเป็นสถาบันอันสูงส่ง ที่ผู้ใดจะละเมิดมิได้ หากละเมิดแล้วก็จักไม่มีการลดหย่อนผ่อนโทษใดๆ เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่าง แต่แล้วที่ผ่านมา นายสนธิ ลิ้มทองกุล ได้กล่าววาจา"หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ" ต่อหน้าประชาชน ผู้สื่อข่าวโทรทัศน์ และหนังสือพิมพ์จำนวนมาก โดยเป็นการกระทำความผิดอย่าง "ชัดแจ้ง"และ"จงใจ" เพราะนายสนธิ พูดซ้ำประโยคหมิ่นพระบรมเดชานุภาพซ้ำถึง "สองครั้ง" ซ้ำแล้วยังไม่พอ หนังสือพิมพ์ "คมชัดลึก" ได้ลงถ้อยคำพูดของนายสนธิไว้อย่างชัดเจน ในการกล่าวหมิ่นพระบรมเดชานุภาพครั้งนี้เอาไว้อย่างครบถ้วน ราวกับจงใจเนื่องจากเรื่องราวเหล่านี้ ใครที่ทำหน้าที่สื่อย่อรู้ขอบเขตของตนเองดี โดยไม่มีสื่อฉบับไหนจาบจ้วงลงข้อความของนายสนธิเลย ซึ่งการกระทำของทั้งสอง ผิดตาม มาตรา ๘ ที่บัญญัติไว้ว่า "องค์พระมหากษัตริย์ทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้ ผู้ใดจะกล่าวหาหรือฟ้องร้องพระมหากษัตริย์ในทางใด ๆ มิได้" หลังจากนั้นจึงพนักงานสอบสวน จึงดำเนินฟ้อง นายสนธิ ลิ้มทองกุล และ หนังสือพิมพ์ คมชัดลึกในข้อหา "หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ" หลังจากนั้น สำนวนการฟ้องส่งถึงขั้นตอนของอัยกาาร

แต่แล้วด้วยเคราะห์กรรมของประชาชนไทย ได้เกิดเหตุกบฏครองเมือง ในวันที่ 19 กันยายน 2549 และประกาศทำลาย รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๔๐ ซึ่งบัญญัติ หมวด ๒ แห่งพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ไปเสียสิ้น ซึ่งกำหนด "มาตรา ๘ องค์พระมหากษัตริย์ทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้ ผู้ใดจะกล่าวหาหรือฟ้องร้องพระมหากษัตริย์ในทางใด ๆ มิได้" เอาไว้อย่างครบถ้วน พลเอก สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าคณะปฏิวัติ นี่แหละคือโจรปล้นเอาพระราชอำนาจที่แท้จริง

หลังจากที่ฉีกรัฐธรรมนูญ ยึดอำนาจสำเร็จ จึงมีการ "ทวงบุญคุณ" จากนายสนธิลิ้ม ทองกุล เนื่องจากกลัวโดนอาญาแผ่นดิน "หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ" หลังจากคืนวันที่นายสนธิออกมาพูดผ่านทาง ASTVและสื่อผู้จัดการ โดยนายสนธิทวงหนี้บุญคุณต่อ คมช. ที่ผ่านมาว่า"ที่ผ่านมาหน้าที่ทำงานมาให้อย่างหนักโปรดเห็นใจ"

หลังจากนั้นได้เพียงสองวัน จึงได้มีคำสั่งจากประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติไปยัง "อัยการสูงสุด" ให้"ถอนฟ้อง" "นายสนธิ ลิ้มทองกุล" โดยทันทีในคดี "หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ" และทางอัยการสูงสุดได้"แย้ง"กลับไปว่า นายสนธิและหนังสือพิมพ์ "มีความผิดจริงตามฟ้อง" เห็นควรให้ศาลพิจารณา แต่ด้วยพลเอก สนธิ บุญยรัตกลิน ที่เป็นหัวหน้าคณะปฏิวัติ อ้างอำนาจ"เหนือ"รัฐธรรมนูญทุกมาตรารวมทั้ง "หมวด ๒ แห่งพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์" จึงทำให้สำนักงานอัยการสูงสุด กล้ำกลืนทั้งน้ำตา แฉลง"ถอนฟ้อง" นายสนธิ ลิ้มทองกุล ทั้งที่ นายสนธิหมิ่นพระบรมเดชานุภาพอย่างไม่มีข้อให้อภัยใดๆ ถึง"สองครั้ง" โดยข้ออ้างที่ พลเอก สนธิ บุญยรัตกลิน สั่งการให้สำนักงานอัยการสูงสุดอ้างคือ "นโยบายของคมช." โดยให้ยึดนโยบายนี้แทนกฎหมายใดๆ โดย นายอรรถพล ใหญ่สว่าง ผู้ตรวจราชการอัยการ ในฐานะโฆษกสำนักงานอัยการ ยอมรับว่า "อัยการได้ยื่นฟ้องนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และนายเฉลียว คงตุก บรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณา หนังสือพิมพ์คม ชัด ลึก ในความผิดฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ โดยได้ยื่นฟ้องจำเลยทั้งสองไปแล้ว ซึ่งการยื่นฟ้องดังกล่าวอัยการได้พิจารณาตามข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย" หลังจากนั้นนายอรรถพล ใหญ่สว่าง จึงได้รับโทรศัพท์จากผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ ให้สงบปากสงบคำ จนนายอรรถพล ใหญ่สว่าง ต้องออกมาประกาศ เนื่องด้วยความละอายต่อคำปฏิญาณตนต่อหน้าพระพักตร์ว่า "ทองแท้ ย่อมไม่กลัวแพ้ไฟ"

จากสองตัวอย่างนี้ คงจะพอให้เราเห็นได้ว่า "หมิ่นศาลติดคุก หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ถอนฟ้อง" บัดนี้ บ้านเมืองไร้ขื่อแป แม้แต่อำนาจตุลาการยังทวงความยุติธรรมถวายแด่พระเกียรติที่ถูกคนทำลายไม่ได้ แล้วไหนว่าประกาศตนเองเป็นทหารของพระมหากษัตริย์ แต่กลับไม่ปกป้องพระเกียรติของพระองค์ กลับสมรู้ร่วมคิด เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนเป็นใหญ่ อ้างว่าตนนั้นภักดีแต่กลับใช้สถาบันมาเป็นข้ออ้างเพื่อให้ประโยชน์ใส่ตัวและสมประโยช
น์ของตนเองและพวกพ้อง บัดนี้ จะหาใครเล่าที่จะภักดี จะปกป้องพระเกียรติขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยเผด็จการเหล่านี้แท้จริงแล้วมิเคยภักดีแต่กลับใช้เป็นข้ออ้างก้าวขึ้นสู่อำนาจ

ถามตัวคุณเองดูว่า วันนี้คุณกำลังพายเรือให้โจรนั่ง อยู่หรือเปล่า ซ้ำร้ายที่สุดโจรที่คุณกำลังพายให้อยู่นั้น เป็นโจรเป็นภัยต่อราชบัลลังก์ยิ่ง หากคุณไม่ได้พายเรือโจรนี้... กรุณาส่งต่อให้สังคมไทยได้รับรู้ และหยุดพายเรือโจรลำนี้เสียที

ire353wisdom
 วันนี้, 11:26:58
http://www.dcodethai.com/wnc/index.php?act=ST&f=2&t=5696


หมายเหตุลุงแคน : คดี "หมิ่นศาล" ศาลท่านเรียกไปให้การเอง.....ส่วนคดี"กบฎ" หรือ "หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ" เป็นการทำสำนวนจากตำรวจสู่อัยการ

ก่อนนำขึ้นสู่การฟ้องร้องในศาล บางครั้ง บางคดี อัยการสูงสุดดูแล้ว ไม่ครบองค์ประกอบ หรือคิดว่าไม่สามารถเอาผิดได้ อัยการก็จะสั่งไม่ฟ้อง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-11-2006, 18:27 โดย CanCan » บันทึกการเข้า

(ก้อนหิน) ละเมอ
Moderator
ขาประจำขั้นที่ 3
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,041



เว็บไซต์
« ตอบ #14 เมื่อ: 06-11-2006, 18:11 »

ขาเดินเข้าคุกไปทุกทีๆ...
การสแปมเมล์ หรือสแปมข้อความไปในทางเว็บบอร์ด ...
ทาง usa ถือว่าผิดกฎหมายและเสียมารยาทอย่างแรงครับ
บันทึกการเข้า

MacBookPro
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 765



« ตอบ #15 เมื่อ: 06-11-2006, 19:18 »

... กลัวถึงตาเราดันไม่ยกฟ้อง

อยู่เรือนจำไหนอย่าลืมบอกด้วยนะครับ

 


ผมฝาก วาสลีนไปด้วย คาดว่า ฝีปากสุนัขเยี่ยงนี้ คงจะถูกใจ โฮโมในคุก

ฝากมะเขือยาวให้เด็กแถด้วย
บันทึกการเข้า

ไอ้เหลี่ยม - ทักษิณ ชินวัตร ชาตะ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2492 มรณะ 19 กันยายน พ.ศ. 2549
55555
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,263



« ตอบ #16 เมื่อ: 07-11-2006, 09:27 »

ผมว่าเค้าอาจจะตั้งใจไม่ให้คดีประเภทนี้ต้องยือเยื้อออกไป เพราะ มันไปเกี่ยวกับสถาบัน .......หากคดีหมิ่นของ สนธิ ขึ้นสู่ศาล.....ก็จะมีการรื้อคดี ที่มีประชาชนไปแจ้งความทักษิณ หมิ่นเช่นกัน .....มันไม่เป็นผลดี่ต่อสถาบันหรอก
บันทึกการเข้า
buntoshi
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,348



« ตอบ #17 เมื่อ: 07-11-2006, 09:44 »

ผิดก็ว่าไปตามผิดครับ ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว

ถ้าสนธิ ผิด แต่ถ้าทักษิณไม่ผิด นี่ คงจะไม่ใช่แล้ว

ถ้าคิดจะเอาเรื่องก็ควรใช้มาตรฐานเดียวกัน แล้วกัน

แต่ผิดหรือเปล่าก็ไม่รู้ ปรักปรำกันหรือเปล่าครับ 
บันทึกการเข้า


เราต้องสร้างคนดีมากกว่าคนเก่ง เพราะคนเก่งจะเห็นคนอื่นเก่งกว่าไม่ได้ จะพยายามเก่งกว่าคนอื่น แต่คนดีจะมีความสุขที่ได้ทำให้คนอื่นเก่ง รวมทั้งคนดีทุกคน ล้วนเก่งทั้งนั้น....  ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา
---------------------------
หน้า: [1]
    กระโดดไป: