ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
25-04-2024, 05:29
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  พระพยอม งดรับกิจนิมนต์ของภาครัฐ จนกว่าศาลจะตัดสินคดี 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
พระพยอม งดรับกิจนิมนต์ของภาครัฐ จนกว่าศาลจะตัดสินคดี  (อ่าน 904 ครั้ง)
นทร์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,441



เว็บไซต์
« เมื่อ: 03-11-2006, 15:51 »

พระพยอมไม่รับงานของรัฐทั้งหมด

    จากกรณีวัดสวนแก้วซื้อที่ดินตรงข้ามวัด แต่ปรากฏว่าเป็นโฉนดทับซ้อน จนมีปัญหากันอยู่ในขณะนี้นั้น เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 2 พ.ย. นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย อุปนายกฝ่ายปฏิบัติการ สภาทนายความ พร้อมด้วยทนายความอีก 6 คน เดินทางไปที่วัดสวนแก้ว ต.บางเลน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เข้าพบพระราชธรรมนิเทศ หรือพระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว เพื่อยื่นมือเข้าช่วยเหลือด้านกฎหมาย โดยนายสุรชัยเปิดเผยว่า วันนี้จะมาขอเอกสาร และสอบถามปัญหาที่เกิดขึ้น จากนั้นจะนำข้อมูล ไปศึกษาให้การช่วยเหลือต่อไป
 
ขณะที่พระพยอมเปิดเผยว่า อาตมาดีใจที่ทางสภาทนายความเป็นห่วง เข้ามาให้ความช่วยเหลือด้านกฎหมาย ทำให้อาตมาสบายใจไปได้อีกเปลาะหนึ่ง เพราะที่ผ่านมาทางวัดไม่เคยมีทนายความประจำวัด ส่วนเรื่องนางวันทนา สุขสำเริง ที่นำที่ดินมาขายให้วัดนั้น อาตมาไม่ติดใจเอาความ เพราะเข้าใจว่าเขามีเจตนาบริสุทธิ์ เป็นคนที่ซื่อเกินไปจนเกิดเรื่อง หลังมีข่าวเรื่องนี้ออกไป มีโทรศัพท์มาหาอาตมาว่า เขาเป็นคนอิสลาม ยินดีจะยกที่ดิน 7 ไร่ ที่ จ.มุกดาหาร ให้วัดไว้ใช้ประโยชน์ ลองคิดดูขนาดคนนับถือศาสนาอิสลามยังช่วยเหลือวัด แล้วคนไทยพุทธแท้ ๆ กลับมาเอาเปรียบวัด อาตมาอยากให้รัฐบาลพิจารณาแก้กฎหมายเสียใหม่ ต่อไปพวกนายทุน หรือคนมีเงินที่ล่ามโซ่เแผ่นดินไว้นาน โดยไม่ได้นำที่ดินมาใช้ให้เกิดประโยชน์เกิน 5 ปี ควรยึดเป็นของรัฐเสียเลย
 
พระชื่อดังยังกล่าวอีกว่า นับจากนี้เป็นต้นไป อาตมาจะงดรับกิจนิมนต์ของหน่วยงานภาครัฐทั้งหมด จนกว่าศาลจะตัดสินคดี หากวัดแพ้จะปิดวัด 3 ปี เพื่อรักษาความบอบช้ำที่เกิดขึ้น

 ต่อไปทางวัดจะร่วมมือกับสภาทนายความจัดตั้งศูนย์คลินิกสภาทนายความพบประชาชนที่วัดสวนแก้ว เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนในด้านกฎหมาย ก่อนที่พระคนดังจะขอตัว ยังได้กล่าวทิ้งท้ายแบบติดตลกว่า หากวัดแพ้คดี หรือแพ้ในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง อาตมาอาจจะเอาระเบิดใส่บาตร แล้วเดินไปบิณฑบาตที่สำนักงานทนายความแห่งหนึ่ง เพื่อพลีชีพเหมือนโชเฟอร์แท็กซี่. 

เดลินิวส์

 
บันทึกการเข้า

"ประชาชน อย่าทิ้งประเทศชาติ"
ooo
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 670


« ตอบ #1 เมื่อ: 04-11-2006, 00:02 »


พระชื่อดังยังกล่าวอีกว่า นับจากนี้เป็นต้นไป อาตมาจะงดรับกิจนิมนต์ของหน่วยงานภาครัฐทั้งหมด จนกว่าศาลจะตัดสินคดี หากวัดแพ้จะปิดวัด 3 ปี เพื่อรักษาความบอบช้ำที่เกิดขึ้น


            
บันทึกการเข้า
คนเดินดิน
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 388


« ตอบ #2 เมื่อ: 04-11-2006, 10:15 »

"โกรธคือโง่ โมโหคือบ้า"

หลวงพ่อจะงดรับกิจนิมนต์ของรัฐทั้งหมด ก็ย่อมทำได้เพราะเป็นสิทธิส่วนบุคคลของหลวงพ่อ

แต่อยากให้หลวงพ่อได้ลองปรึกษาสภาทนายความก่อน ความผิดพลาดครั้งนี้ มันไม่ได้เกิดเพราะความผิดของรัฐ(กรมที่ดิน)

นางวันทนา สุขสำเริง คนที่นำเอาที่ดินของคนอื่นมาหลอกขายวัด ที่หลวงพ่อเชื่อและรับรองว่าเขาเป็น "คนซื่อ" ต่างหากที่ผิด หลอกลวงวัดสวนแก้ว

นางวันทนา ฟ้องครอบครองปรปักษ์ จนศาลสั่งให้ชนะคดี เมื่อนำคำสั่งศาลมาแสดง ณ.สำนักงานที่ดินจังหวัดนนทบุรี สาขาบางใหญ่ เจ้าพนักงานที่ดิน ย่อมต้องจดทะเบียนครอบครองปรปักษ์ตามคำสั่งศาล(ถ้าลองไม่จดทะเบียนให้ 1.โดนข้อหาขัดคำสั่งศาล 2.เป็นเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่)

กรณีที่ไม่สามารถนำโฉนดเดิมมาแสดงได้(ก็แน่นอนโกงเขามาใครเขาจะให้โฉนดหล่ะ) เจ้าหน้าที่ต้องออก"ใบแทน" เพื่อใช้แทนโฉนดฉบับเดิม ไม่ใช่การออกโฉนดซ้อนขึ้นมาใหม่ เป็นเพียงออกเอกสารแทนของเก่าที่หายไป(เหมือนทำบัตรประชาชนหาย ก็ไปแจ้งหายแล้วทำใหม่)

ถ้านางวันทนา เป็นคนซื่อจริง แล้วไปฟ้องครอบครองปรปักษ์ เอาที่ดินของคนอื่นมาเป็นของตนทำไม ฟ้องเสร็จแบ่งที่ดินขายเลย เฉพาะแปลงที่ขายให้วัดก็ได้เงินมา 10 ล้าน(แล้วแปลงอื่นที่ไปหลอกขายชาวบ้านธรรมดาไม่มีชื่อเสียงในสังคม ไม่รู้ได้มาอีกกี่สิบล้าน)

ซื่อจริง ขาย หมดแล้ว ได้เงินมานอนกอด พอทายาทเจ้าของที่ดินที่แท้จริง ฟ้องร้องเรียกที่ดินคืน ดันไปยอมความเขา(แต่เงินไม่ยอมคืน) มันซื่อยังไงนะ

ทางที่ถูกหลวงพ่อควรร้องขัดทรัพย์ต่อศาล แล้วต่อสู้จนคดีถึงที่สุด ถ้าไม่ได้ที่ดินคืน อย่างน้อย10ล้านได้คืนแน่(พร้อมดอกเบี้ย)

การที่หลวงพ่อจะออกมาเรียกร้องต่อกรมที่ดิน จะไปปักกลดประท้วงที่หน้าสำนักงานที่ดิน ต่อให้หลวงพ่อไปปักกลดอีก100ปี ก็ทำอะไรไม่ได้หรอก(กรณีนี้ข้อกฎหมาย และข้อเท็จจริง แตกต่างจากกรณีบ้านสีดำ ของนางรัตนา) เพราะสำนักงานที่ดินไม่สามารถขัดคำสั่งศาลได้ ศาลสั่งยังไงกรมที่ดินต้องทำตามนั้น หลวงพ่อไปสู้คดีในชั้นศาลเถอะ ยังมีทางเรียกร้องสิทธิคืนได้บ้าง

ด้วยความเคารพ โดยส่วนตัวก็ชื่นชอบสิ่งที่หลวงพ่อทำให้สังคมนะ แต่การที่หลวงพ่อออกมาประชด จะปิดวัด3ปี จะยกเลิกโครงการช่วยเหลือสังคมต่างๆ มันฟังดูเหมือนจับ "30บาท รักษาทุกโรค" เป็นตัวประกันยยังไง ยังงั้น (เอาสิ่งหนึ่งมาต่อรองเพื่อให้ได้อีกสิ่งหนึ่ง)

หวังว่าสภาทนายความเมื่อได้ยื่นมือเข้าช่วยเหลือวัดสวนแก้ว แล้ว คงได้บอกแนวทาง ข้อกฎหมายต่างๆ เพื่อให้หลวงพ่อได้พิจารณาต่อสู้ในทางที่ถูกต้อง และมีโอกาศชนะคดีต่อไป

สุดท้าย "โกรธคือโง่ โมโหคือบ้า"
หลวงพ่อไปใช้สิทธิทางศาล สู้กับ นางวันทนา สุขสำเริง(คนซื่อของหลวงพ่อ) จะเป็นทางเดินที่ถูกต้องกว่าครับ
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
    กระโดดไป: