ป.ป.ช. ตีปี๊บผลงานรอบ 1 เดือน ฟุ้งเห็นผลเป็นรูปธรรมวันนี้ (2 พ.ย.) ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานคณะกรรมการป.ป.ช. พร้อมด้วยคณะกรรมการ
ได้แถลงผลงานในรอบ 1 เดือนของการทำงานแก่สื่อมวลชน ว่า ก่อนเข้ารับตำแหน่ง
นั้นมีงานค้างอยู่มาก อาทิ เรื่องกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำ
ผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ จำนวน 11,459 เรื่อง รวมทั้งเมื่อคณะกรรมการป.ป.ช.
ชุดนี้เข้ามารับตำแหน่งแล้วมีร้องเรียนเข้ามาอีก 380 เรื่อง บัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน
และหนี้สินอยู่ระหว่างดำเนินการ 38,833 บัญชี
นายปานเทพ กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่เข้ารับตำแหน่งคณะกรรมการป.ป.ช. ได้ประชุมเพื่อ
พิจารณาเรื่องต่างๆ ทั้งหมด 9 ครั้ง เพื่อตรวจสอบบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและ
หนี้สิน จำนวน 617 บัญชี และมีมติให้เปิดเผยบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน
รวม 3 ครั้ง ได้แก่
- บัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีในรัฐบาลพ.ต.ท.
ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จำนวน 217 บัญชี ระหว่างวันที่ 20 ต.ค.-3 พ.ย.
2549
- เปิดเผยบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม
แห่งชาติ (กทช.) จำนวน 7 บัญชี ระหว่างวันที่ 1-15 พ.ย. 2549 และ
- เปิดเผยบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีใน
รัฐบาลพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี (ชุดที่ 2) จำนวน 36 บัญชี
ระหว่างวันที่ 14-28 พ.ย. 2549
นายปานเทพ กล่าวว่า นอกจากนี้ คณะกรรมการป.ป.ช. ได้มีมติแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ
ไต่สวนเรื่องกล่าวหาต่างๆ รวม 15 คณะ โดยคณะอนุกรรมการจะต้องรายงานความคืบหน้า
การไต่สวนให้ที่ประชุมคณะกรรมการป.ป.ช. ทราบทุก 1 เดือน
นายปานเทพ กล่าวว่า คณะกรรมการป.ป.ช. ได้มีมติชี้มูลความผิดทางวินัย ทางอาญา
ร่ำรวยผิดปกติ จำนวน 11 เรื่อง โดยเรื่องที่ผิดวินัยและอาญา มีจำนวน 10 เรื่อง และ
ยังได้พิจารณาเรื่องกล่าวหาต่างๆ โดยมีมติไม่รับพิจารณา จำนวน 88 เรื่อง ส่งสำนวน
คืนพนักงานสอบสวน จำนวน 17 เรื่อง และตกไปอีก จำนวน 42 เรื่อง
"คณะกรรมการป.ป.ช. ทำงานกันอย่างเต็มที่ โดยประชุมกันตลอดสัปดาห์ ทั้งคณะ
กรรมการและอนุกรรมการไต่สวนฯ ประชุมกันวันละประมาณ 7-8 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่
ของป.ป.ช. เราก็ทำงานเต็มที่ร่วมใจการทำงาน โดยยึดหลักถูกต้อง เที่ยงธรรม แต่
ในแง่ของสังคมจะมองอย่างไรก็แล้วแต่ ซึ่งผลงานที่ออกมาก็เป็นไปตามหลักของ
กฎหมาย ความยุติธรรม เป็นไปตามเหตุผล การที่สังคมคาดหวังมากๆ เราก็ไม่ได้รู้สึก
กดดัน ในเมื่อเราทำงานเต็มที่สังคมก็มองดูอย่างมีเหตุมีผล เหมือนกับการเล่นฟุตบอล
คนที่เป็นกองเชียร์ก็อยากให้เรายิงลูกให้เข้า เราก็อยากยิง แต่เราต้องอยู่ในกติกา
เพราะไม่เช่นนั้นเราก็จะโดนใบเหลือง ใบแดง นี่ก็เช่นเดียวกัน" นายปานเทพ กล่าว
มติชน Hot News วันที่ 02 พ.ย. 2549 เอ๋ เขียนพาดหัวแบบนี้ หมายความว่าไงนี่ มติชน