ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
24-04-2024, 18:49
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  ประชาชาติธุรกิจ : ปฐมบทแห่งการซุกหุ้น 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
ประชาชาติธุรกิจ : ปฐมบทแห่งการซุกหุ้น  (อ่าน 840 ครั้ง)
Cherub Rock
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,183


น้องๆ ช่วยไปบอกผู้หญิงคนนั้นที ว่าเลิกมองผมได้แล้ว


« เมื่อ: 02-11-2006, 17:28 »

ปฐมบทแห่งการซุกหุ้น

คอลัมน์ โปร่งใสไร้เหลี่ยม

อย่าง ที่เคยบอกแล้วว่า พฤติกรรมในการทำธุรกรรมเกี่ยวกับหุ้นของครอบครัวชินวัตร แล้ว ผู้คนทั่วไปอาจรู้แต่ว่ามีการ "ซุกหุ้น" อย่างพิสดารและซับซ้อน แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่ากระบวนการในการทำ ธุรกรรมดังกล่าวตลอดระยะเวลาเกือบ 15 ปี โดยเฉพาะในช่วง 8 ปีแรกถูกปิดเป็นความลับสุดยอดนั้น ทำกันอย่างไร ทำไปเพื่ออะไร มีอะไรเป็นแรงจูงใจ

"ซุกหุ้นฉบับไตรภาค" ที่จะนำเสนอต่อไปนี้เป็นการเรียบเรียงข้อมูลกระบวนการทำธุรกรรมเกี่ยวกับ หุ้นของครอบครัวชินวัตร ซึ่งแบ่งตามลักษณะพฤติกรรมในแต่ละช่วงเวลาซึ่งมีวัตถุประสงค์และผลประโยชน์ ที่ได้รับแตกต่างกัน เริ่มจากภาคแรกที่เรียกว่า "ภาคคนรับใช้" ซึ่งอยู่ระหว่างปี พ.ศ.2535-กันยายน 2543

เหตุที่นับปี 2535 เป็นจุดเริ่มต้นหรือปฐมบทแห่งการซุกหุ้นนั้น เพราะเป็นช่วงที่มีการตรา พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และมีการจัดตั้งสำนักคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) จึงมีการบันทึกข้อมูลผู้ถือหุ้นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่ง ประเทศไทยอย่างเป็นระบบ ทั้งๆ ที่การเอาหุ้นไปใส่ไว้ในชื่อคนรับใช้ และพนักงานบริษัทในเครือนั้นทำมาตั้งแต่ปี 2529 ในการจัดตั้งบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส และใช้ในการเสนอโครงการ "ซิตี้คอลล์" มูลค่า 3,000 ล้านบาทต่อการสื่อสารแห่งประเทศไทย (กสท.) เมื่อ พ.ศ.2531

ข้อเท็จ จริงในเรื่องนี้ คือ ในช่วง พ.ศ.2535-2541 ครอบครัวชินวัตร มีการนำหุ้นหลายบริษัท เช่น บริษัทชินวัตรคอมพิวเตอร์ แอนด์ คอมมิวนิเคชั่นส์ บริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) บริษัท ชินแซทเทลไลท์ และบริษัท ยูไนเต็ดคอมมูนิเกชั่น อินดัสตรี (ยูคอม) ที่ครอบครัวชินวัตร เป็นเจ้าของไปซุกไว้ในชื่อคนรับใช้อย่างน้อย 3 คน คือ นายชัยรัตน์ เชียงพฤกษ์ นางดวงตา วงศ์ภักดี และ น.ส.บุญชู เหรียญประดับ มูลค่านับหมื่นล้านบาท

ในบางช่วงมีการขายหุ้นออกทั้งหมดและมีการ ซื้อกลับเข้ามาใหม่โดยเฉพาะหุ้นบริษัทชินวัตรฯที่อยู่ในชื่อคนรับใช้ 3 คน ได้ขายออกไปทั้งหมดเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2536 กว่า 8 ล้านหุ้น หรือร้อยละ 11 ของทุนจดทะเบียน

จากนั้นใช้ชื่อคนรับใช้แต่ละคนทยอยซื้อหุ้น ชินวัตรฯ จนปิดสมุดทะเบียนหุ้นเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2536 ได้ซื้อหุ้นรวมกันกว่า 4.5 ล้านหุ้น เพื่อจะได้มีสิทธิในการซื้อหุ้นเพิ่มทุนในอัตรา 1 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ในราคาหุ้นละ 10 บาท ขณะที่ราคาตลาดกว่า 1,500 บาทต่อหุ้น

ช่วงที่ ครอบครัวชินวัตร นำหุ้นไปซุกไว้ในชื่อคนรับใช้สูงสุด คือ พ.ศ.2537 ซึ่งเป็นห้วงเวลาที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศในรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ โดยคนรับใช้ถือหุ้นเป็นมูลค่ารวมกันกว่า 11,000 ล้านบาท หรือร้อยละ 20 ของมูลค่าหุ้นของครอบครัวชินวัตร ที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ

คนรับ ใช้ที่ถือหุ้นมูลค่าสูง คือ นายชัยรัตน์ เชียงพฤกษ์ ถือหุ้นบริษัทชินวัตรฯ, บริษัทเอไอเอส และบริษัทยูคอม รวมกันถึง 5,042 ล้านบาท

นางดวงตา วงศ์ภักดี คนรับใช้ ถือหุ้นบริษัทชินวัตรฯบริษัทเดียว 6 ล้านหุ้น มูลค่า 3,348 ล้านบาท

น.ส.บุญชู เหรียญประดับ ถือหุ้นชินวัตรฯและชินแซทเทลไลท์ มูลค่า 2,904 ล้านบาท

ถ้า ถามว่าอะไรเป็นมูลเหตุจูงใจให้ครอบครัว ชินวัตร ซุกหุ้นไว้ในชื่อคนรับใช้ คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยาอดีตนายกรัฐมนตรี และนาง กาญจนาภา หงษ์เหิน เลขานุการส่วนตัวของคุณหญิงพจมาน อ้างต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่า เพื่อต้องการให้สามีของนางกาญจนาภาคือนายวันชัย หงษ์เหิน ซึ่งทำงานเป็นเทรเดอร์อยู่ บงล.ภัทรธนกิจ มีผลงานจึงขอร้องคุณหญิงให้นำหุ้นไปซื้อขายผ่าน บงล.ภัทรธนกิจ แต่ต้องการปกปิดไม่ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รับรู้ จึงใช้ชื่อคนรับใช้แทน

ฟัง เหตุผลแล้วน่าเชื่อถือหรือไม่ ผู้คนทั่วไปสามารถใช้สติปัญญาไตร่ตรองได้ แต่ถ้าไม่น่า เชื่อ อะไรคือแรงจูงใจที่แท้จริง โปรดติดตาม ตอนต่อไป



http://www.matichon.co.th/prachachat/prachachat_detail.php?s_tag=02pol06021149&day=2006/11/02
ประชาชาติธุรกิจ ..มีกั๊กด้วย รอตอนต่อไปพรุ่งนี้ 
บันทึกการเข้า

"นายกรัฐมนตรีกำลังใช้รัฐสภาประกอบพิธีกรรมสถาปนาอำนาจของตนเองโดยเห็นรัฐสภาเป็นเพียงแค่ตรายาง และปล่อยให้มีการทำร้ายประชาชนถือว่าหมดความชอบธรรมแล้ว" รสนา โตสิตระกูล
Killer
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,576


ช๊อบบ ชอบบ...ปฏิวัติ ปลื้ม ค่ะ


« ตอบ #1 เมื่อ: 02-11-2006, 19:35 »

หุ้นก็หุ้นของเขา ไปเสือกอะไรด้วยละน่ะ 

ดูๆไปแล้วเหมือนพวกชอบซุบซิบนินทาเรื่องของชาวบ้านเค้า เป็นสันดานที่ไม่ดีนะเนี่ย
บันทึกการเข้า
Cherub Rock
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,183


น้องๆ ช่วยไปบอกผู้หญิงคนนั้นที ว่าเลิกมองผมได้แล้ว


« ตอบ #2 เมื่อ: 02-11-2006, 19:42 »

หุ้นก็หุ้นของเขา ไปเสือกอะไรด้วยละน่ะ 

ดูๆไปแล้วเหมือนพวกชอบซุบซิบนินทาเรื่องของชาวบ้านเค้า เป็นสันดานที่ไม่ดีนะเนี่ย

เสือกก็เสือกด้วยกันล่ะคุณคิลเลอร์
ยกเว้นแต่คุณมีญาติเป็นคนใช้ไอ้เหลี่ยม

ถือเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย 
 



ปล.ความเห็นขยะๆ ลดๆลงบ้างก็ได้ รกบอร์ด
บันทึกการเข้า

"นายกรัฐมนตรีกำลังใช้รัฐสภาประกอบพิธีกรรมสถาปนาอำนาจของตนเองโดยเห็นรัฐสภาเป็นเพียงแค่ตรายาง และปล่อยให้มีการทำร้ายประชาชนถือว่าหมดความชอบธรรมแล้ว" รสนา โตสิตระกูล
Killer
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,576


ช๊อบบ ชอบบ...ปฏิวัติ ปลื้ม ค่ะ


« ตอบ #3 เมื่อ: 02-11-2006, 20:13 »

เตือนด้วยความหวังดี กลับมาด่าอีกแน่ะ....

นั่นมันทรัพย์สินส่วนตัวของเขา ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับการบริหารชาติบ้านเมืองเลยซักนิด

ไปวุ่นวายอะไรกับเรื่องส่วนตัวของเขาด้วยล่ะ...หือ


ถ้าผิดอะไรก็ให้ กลต.เขาดำเนินการเลย ผ่านมาตั้งหลายปีดีดักแล้วก็ไม่เห็นจะมีอะไรนี่หว่า

หรือว่าถ้าเห็นว่ามันชั่วช้าสามานย์เสียเหลือเกิน ก็ไปบอกให้รัฐบาลเผด็จการบังเกิดเกล้าทูนหัว

 รีบออกกฏหมายอุดช่องโหว่สิ
บันทึกการเข้า
นทร์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,441



เว็บไซต์
« ตอบ #4 เมื่อ: 02-11-2006, 21:06 »

เป็นห่วงเศษเงินของทักษิณเหลือเกิน

คนอะไร... มีผลประโยชน์อะไรกับเงินของทักษิณรึเปล่า killer
บันทึกการเข้า

"ประชาชน อย่าทิ้งประเทศชาติ"
ชอบแถ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,138



« ตอบ #5 เมื่อ: 02-11-2006, 21:10 »

เพราะลูกๆ ตอนนั้นยังไม่โตครับ
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
    กระโดดไป: