ปรีชา เถาทอง : Bangkok เมืองแฟชั่น เราจิกหัวให้เกิดในวันสองวัน...มันจัดฉาก..

[Cherub Rock]

....
สมมติว่าผู้นำประเทศเราจะสร้างสินค้า OTOP มาตัวหนึ่งแล้วจะให้มีรูปแบบสวยๆ เราสั่งวันนี้ให้เป็นมันวันนี้มันเป็นไปได้ไหม...มันเป็นไปไม่ได้เลย อย่าง อิตาลี เขามี เฟอร์รารี่ (Ferrari) มี กุดชี่ (Gucchi) มีผลิตภัณฑ์ดีไซน์ดี เขามี ไมเคิล แองเจอโล (Michel Angelo) มีดาวินชี่ (daVinci) มาก่อน มันถึงมี เฟอร์รารี่ (Ferrari) มาได้

วันนี้เราสั่งให้ OTOP สวยๆ มี Bangkok เมืองแฟชั่น เราจิกหัวให้เกิดในวันสองวัน...มันจัดฉาก...ถ้าฐานราก องค์ความรู้ทางศิลปวัฒนธรรมเราไม่ดูแล ไม่มีระบบ ไม่มีการสืบสานต่อ ไม่ถ่ายต่อสู่คนรุ่นใหม่ คนรุ่นใหม่ไม่สามารถศึกษาคนรุ่นเก่าได้ เราจะสร้างศิลปะที่มันร่วมสมัย หรือเป็นตัวเราได้อย่างไร...
....

http://www.thaingo.org/story/artvote.htm

[Cherub Rock]

ภาพหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร
ถ้าเป็นป๋าหมาก.. สงสัยไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด 

[Can ไทเมือง]

คนมีสามัญสำนึก เค้าย่อมรู้มาตั้งนานว่า ประเทศไทย ไม่ใช่เพิ่งมาเกิดตอนมีรัฐบาลไทยรักไทย

มันไม่รู้ด้วยซ้ำว่า "Fly Now" เค้าออกไปเดินสายขายของมาตั้งนาน

มีแต่พวกเห่อของใหม่ ไม่รู้เรื่องรู้ราวบ้าโฆษณาของไทยรักไทยนั่นแหละ เชื่อตามที่เค้าใส่ข้อมูลมา

[see - u]

* อือ .... แล้วเมื่อไหร่หอศิลป์จะสร้างเสร็จเสียทีเนี่ย !!

   8 ปีแล้วก็ยังไม่ไปถึงไหนเท่าไหร่เลย

   เพราะมีตัวซวย .... จมูกชมพู่...คอยทำตัวเป็นจรเข้ขวางคลองอยู่เมื่อก่อนหน้านี้

   กรุงเทพเมืองแฟชั่น ..... เหอ ๆ ... กรุงเทพเมืองน่าเบื่อ ( ใคตร ๆ )

   หันไปทางไหนก็มีแต่ศูนย์การค้า ...

   จะหาอะไรที่มันจรรโลงใจในด้านอื่น .. แทบจะไม่มีเลย

   ส่วนเรื่องจะให้มี OTOP สวยๆ หรือมี Bangkok เมืองแฟชั่น แล้วจะจิกหัวให้เกิดในวันสองวัน...มันจัดฉาก

   เห็นด้วยกะ จารย์ ปรีชา เต็ม ๆ ค่ะ...

   สงสัยไอ้พวกหน้าเงินเนี่ย ! มันคิดว่าอะไรๆ ก็สั่งได้ดั่งใจหมดเลยมั้ง

 

[Killer]

หลักการน่ะมันดี แต่คนทำงานน่ะ "มือไม่ถึง" ก็แค่นั้นแหละ...

อีกอย่าง..นาย ปรีชา คงไม่เข้าใจเรื่อง การตลาด....

สินค้าบางอย่างกระจอกสุดๆ แต่ทำไมมัน UP ราคาได้สูงขนาดนั้น

StarBuck หรือแม้แต่ บ้านไร่กาแฟ นี่ไม่ได้เกิดมาตั้งแต่สมัยก่อนคริสต์กาล นะครับ

ทำไมมันโผล่ขึ้นมาในวงการได้

ถ้าไร้สติปัญญาก็อยู่เฉยๆ ปล่อยให้เด็กรุ่นใหม่ๆเค้าบรรเลงไปเถอะ

[Cherub Rock]

ทำแต่การตลาดแต่เนื้อในเน่าๆ มันก็เกิดเหมือนพลุนั่นแหละ ซักพักก็ดับ
ดูอย่างไทยรักไทยเป็นต้น มีดีแค่การตลาด


ว่าแต่อีลิทการ์ดขายได้กี่ใบแล้วล่ะ เห็นบอกตั้งเป้าไว้ล้านใบ

[Cherub Rock]

http://www.komchadluek.net/news/2006/01-04/soc--15220.html

แม้กรุงเทพมหานครจะ มีสถานที่สำหรับจัดแสดงผล งานศิลปะทั้งในส่วนภาครัฐ และเอกชนอยู่บ้าง แต่จำนวนพื้นที่และคุณภาพยังถือว่าไม่ทัดเทียมกับมาตรฐานสากล เพราะบางแห่งเปิดตัวและดำเนินการอย่างยากลำบากจนกระทั่งปิดตัวเองไปในที่สุด ในขณะที่ศิลปินยังคงสร้างสรรค์ผลงานศิลปะคุณภาพอย่างต่อเนื่อง แต่กลับไม่มีพื้นที่จัดแสดงที่เหมาะสมและเพียงพอ

ทว่าภายในปี 2549 นี้ คนกรุงเทพฯ กำลังจะได้มีหอศิลป์ (เป็นของตัวเอง) ซึ่งนับเป็นของขวัญชิ้นโบแดงที่รอคอยกันมาถึงแปดปี!!

อาคาร สูง 11 ชั้น ใจกลางเมืองบริเวณสี่แยกปทุมวัน รูปแบบสถาปัตยกรรมร่วมสมัยสะท้อนศิลปวัฒนธรรมไทย อันเป็นที่ตั้งของ "หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร" ซึ่งจะก่อรูปก่อร่างให้คนเมืองหลวงได้ยลโฉมในเดือนพฤษภาคมนี้ แล้วจะเสร็จอย่างสมบูรณ์ในปลายปี 2549

ทันทีที่เริ่มตอกเสาเข็มขึ้น ในบริเวณสี่แยกที่คลาคล่ำไปด้วยห้างสรรพสินค้า นั้น สำหรับหลายคนแล้วเสียงดังกล่าวเป็นเสมือนของขวัญต้อนรับปีใหม่ เพราะการได้มาซึ่งหอศิลป์ในครั้งนี้นับเป็นประวัติศาสตร์หน้าสำคัญของสังคม ไทย เนื่องด้วยเกิดขึ้นมาจากการต่อสู้ของเครือข่ายประชาชนที่ยืดเยื้อยาวนานถึง แปดปีเต็ม

เริ่มจากวันที่ 11 กรกฎาคม 2538 ในยุคผู้ว่าฯ พิจิตต รัตตกุล ที่ริเริ่มจะให้มีการสร้างหอศิลป์ กทม. ซึ่งมติที่ประชุมสรุปให้กรุงเทพมหานครจัดสร้าง "หอศิลปะร่วมสมัยแห่งกรุงเทพมหานคร" เพื่อเป็นโครงการเฉลิมพระเกียรติแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งเป็นองค์อุปถัมภ์ศิลปะทุกสาขา

จากนั้นในปี 2541 คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร (สมัยผู้ว่าฯ พิจิตต รัตตกุล) ก็ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาข้อกำหนดการประกวดแบบหอศิลปะ ซึ่งได้ผู้ชนะการประกวดแบบอาคารหอศิลปะร่วมสมัยฯ คือ บริษัทโรเบิร์ต จีบุย แอนด์ แอสโซซิเอทส์ จำกัด โดยมีการประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์การก่อสร้างหอศิลปะเมื่อวันอาทิตย์ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2543

ทว่าเมื่อ สมัคร สุนทรเวช ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครคนต่อมาเข้ารับตำแหน่ง กลับได้ล้มเลิกโครงการหอศิลปะร่วมสมัย และปรับเปลี่ยนโครงการเสียใหม่ในลักษณะเป็นอาคารพาณิชย์ ประกอบด้วยส่วนหอศิลปะร่วมสมัยฯ ศูนย์การค้าและลานจอดรถ โดยให้เอกชนมาลงทุน และให้สัมปทานเช่าพื้นที่ในส่วนประกอบกิจการพาณิชย์นาน 30 ปี ด้วยเหตุนี้เองจึงเป็นจุดพลิกผันครั้งสำคัญที่ทำให้โครงการหอศิลปะร่วมสมัย ต้องหยุดชะงักลง!!

เดือนมีนาคม 2544 มีการจัดตั้ง "เครือข่ายศิลปินรณรงค์เพื่อหอศิลปร่วมสมัยเฉลิมพระเกียรติแห่งกรุงเทพมหา นคร" และการจัดกิจกรรมเคลื่อนไหวเรียกร้องหอศิลปะเป็นระยะๆ อาทิ การจัดอภิปรายและกิจกรรมต่างๆ เช่นการวาดภาพเขียนยาว 4 กิโลเมตร ในหัวข้อ "ฉันเรียกร้องหอศิลป์ ไม่เอาศูนย์การค้า" โดยมีประชาชนและศิลปินร่วมกันวาดภาพ

และจากกระบวนการมีส่วนร่วมของ ภาคประชาชนนี้ จึงนำไปสู่การดำเนินการทางกฎหมายต่อผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการระงับโครงการ หอศิลปะร่วมสมัย โดยมีศิลปินและนักวิชาการระดับชาติ อาทิ ปรีชา เถาทอง จอน อึ๊งภากรณ์ สุรชัย จันทิมาธร จุมพล อภิสุข วรินทร์ กับพวกรวม 9 คน เป็นผู้ยื่นคำฟ้องต่อศาลปกครอง และศาลก็ได้ประทับรับฟ้อง เป็นคดีหมายเลขดำที่ 636/45 ลงวันที่ 9 เมษายน 2545 และผลจากการที่ศาลรับคดีดังกล่าวไว้พิจารณา จึงทำให้โครงการที่ผู้ว่าสมัคร จะผลักดันหอศิลป์เป็นศูนย์การค้าต้องหยุดลง

"ช่วงที่ต่อสู้กัน 'หนัก' ที่สุด ก็คือสมัยผู้ว่าฯ สมัคร แต่ถ้าจะบอกว่าการต่อสู้เรียกร้องหอศิลป์เริ่มขึ้นยุคสมัยผู้ว่าฯ ท่านนี้ก็คงไม่ถูกต้องนัก เพราะตั้งแต่สมัย ดร.พิจิตต ตอนนั้นก็เป็นช่วงของการทำความเข้าใจกับส่วนราชการ และวิธีการบริหารหอศิลป์ ซึ่งต้องมีรูปแบบสากลเช่นเดียวกับหอศิลป์ชั้นนำทั่วโลก เวลาการเรียนรู้ การจัดการเรื่องเหล่านี้ ได้รับความร่วมมือจากสถานทูตฝรั่งเศส หรือองค์กรที่ทำงานในแวดวงศิลปะนานานาชาติ เช่น สถาบันเกอเธ่ ได้มาแลกเปลี่ยนความรู้ก็ใช้เวลานานข้ามปีเหมือนกัน" ยุทธพันธุ์ มีชัย เลขาธิการ มูลนิธิศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร กล่าว

กระทั่ง มาถึงสมัยของ อภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร คนล่าสุด ซึ่งมีกลยุทธ์ตั้งแต่ตอนเลือกตั้งผู้ว่าฯ คือเป็นฝ่ายที่ให้ความร่วมมือกับมูลนิธิศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพมหานครในการ 'ผลักดัน' เพื่อให้เกิดหอศิลป์แห่งนี้เกิดเป็นรูปร่างเป็นร่างขึ้นมา

ผู้ ว่าฯ อภิรักษ์ ได้กล่าวถึงเรื่องนี้กับ "คม ชัด ลึก" ว่า "หอศิลปวัฒนธรรม แห่งกรุงเทพมหานคร" แห่งนี้ เกิดจากเครือข่ายพันธมิตรที่เกิดจากหลายๆ ฝ่าย ทั้งตัวแทนชุมชน เครือข่ายศิลปิน นักวิชาการจากสถาบันศึกษา รวมทั้งนักเรียนนักศึกษาเป็นคนรุ่นใหม่ที่อยากเห็น 'งานศิลปวัฒนธรรมแบบร่วมสมัย'

"รูปแบบการจัดสร้างคราวนี้ ไม่ได้เป็นแค่หอศิลป์เท่านั้น แต่มีการ 'ลงนามปฏิญญา' ร่วมกันของแต่ละเครือข่ายด้วย เราอยากจะผลักดันให้ทุกฝ่ายในสังคม อาทิ เครือข่ายงานศิลปะของผู้พิการ ซึ่งเป็นคนส่วนน้อยมีเวทีแสดงออก แล้วเขาก็มีสิทธิที่จะเข้ามาใช้หอศิลป์แห่งนี้ด้วย" ผู้ว่าฯ กทม. กล่าว

แม้ ว่าหอศิลป์จะเสร็จสมบูรณ์ในปลายปี 2549 แต่ก็จะมีการจัดกิจกรรมกับเครือข่ายศิลปินตลอดทั้งปี เช่น มหกรรมหนังสือทางเลือกสื่ออิสระผลิตหนังสือทำมือ หนังสั้น หนังทดลอง ฯลฯ ซึ่งโดยปกติแล้วมักจะจัดนิทรรศการกันเองในกลุ่มเล็กๆ ไม่มีเวทีใหญ่แสดงออก กทม.จะส่งเสริมกิจกรรมแบบนี้ให้กรุงเทพมหานคร 'เป็นเมืองแห่งวัฒนธรรม' ที่เด็กและเยาวชนรุ่นใหม่ได้เรียนรู้ถึงรากเหง้าความเป็นมา หรือแม้แต่ได้เสพวัฒนธรรมร่วมสมัยได้อย่างง่ายดายด้วยทำเลที่ตั้งใจกลาง เมือง

"ผมเชื่อมั่นว่า 'หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร' จะมีโอกาสทำให้คนกรุงเทพฯ และพี่น้องชาวไทยได้มีโอกาสเสพงานศิลปะชั้นนำระดับโลก เพราะหอศิลป์แห่งนี้จะมีการแลกเปลี่ยนศิลปวัฒนธรรมกับนานาประเทศอีกด้วย" อภิรักษ์ กล่าวทิ้งท้าย

[see - u]

*  สินค้าบางตัวที่มัน UP ราคาได้สูงนะ

    บางครั้งมันไม่ใช่เพราะตัวสินค้ามีคุณภาพดี .. หรือ มีรูปแบบอะไรที่สวยงามนักหรอก

    แต่มันผ่านกระบวนการ ... โฆษณา หลอกใจ..  ให้คนตาลายและเคลิ้มตามด้วย

    เหมือนที่ แม้ว... ชอบทำนะแหละ

    คิล ... จะมามองแค่การตลาดอย่างเดียวได้อย่างไรหล่ะ

    ถ้าฐานในเรื่องคุณภาพสินค้ามันห่วย ... หรือ  ดีไซน์ .. อะไรก็ก๊อปเขามาแทบทั้งหมด

    ของบางอย่าง ... มันต้องมีกระบวนการพัฒนาตามขั้นตอนของมัน ... ทุกอย่างมีที่มาที่ไปทั้งนั้นแหละ

    จะมาชี้นิ้วสั่ง ... หรือมาให้มันผ่านๆ ไปแบบฉาบฉวยได้ยังไง

    ง่ายๆ นะ .. อะไรที่เราเห็นแค่หลอกตาหลอกใจ .. เราหลงไปเอามันมาใช้ครั้งแรก

    มันก็คงไม่มีครั้งที่สองเกิดขึ้นหรอก ...

    อีกอย่าง ... จารย์ ปรีชาแกพูดเปรียบเทียบถึงเรื่องฐานรากทางศิลป ด้วยนะ

    ไม่ได้พูดแค่เรื่อง ..... จิกหัว จัดฉาก ...เพียงอย่างเดียว

[Killer]

เพิ่งฟังวิทยุพล่ามมาวันนี้เอง หยก ๆ  เรื่อง Sara จาก Spain

เริ่มจากการก๊อป Brand ดังๆมาทั้งนั้น

แล้วเอาชนะคู่ต่อสู้ด้วยกลยุทธด้าน Logistic และ Marketing ล้วนๆ

เห็นหรือเปล่า ว่ามันคืออะไร ????


มันอยู่ที่ "มือทำงาน" มือถึงหรือเปล่า มีปัญญาพลิกแพลงหรือเปล่า

รัฐฯพร้อมที่จะให้การสนับสนุน


ทุกวันนี้ก็มีการจัดตั้งสถาบันหลายๆแห่ง

ขึ้นมาเพื่อพัฒนาศักยภาพด้านการออกแบบอยู่แล้ว...อันนั้นต้องใช้เวลา

[Cherub Rock]

ฟังวิทยุพล่ามมานิดๆหน่อยๆ ก็แสดงตัวเป็นกูรูซะแล้ว

็ลองผลิตขี้ออกมาแล้วให้นักการตลาดทำแบรนด์ขาย
จะขายได้ไหม





ปล.อิลิทการ์ดดูแล้วรัฐบาลเหลี่ยมก็สนับสนุนดีนี่
ไหงแห้วได้.. สงสัยมือไม่ถึง (หรือของมันห่วยหว่า)

[see - u]

*  รัฐฯพร้อมที่จะให้การสนับสนุน ... *

    ด้านไหนหล่ะ ... ยกตัวอย่างมาหน่อยดิ๊

    ถ้าจะพูดเรื่องเมืองแฟชั่นเพียว ๆ .

    คนที่ทำงานด้าน  ดีไซน์ .... อยู่ในวงการแฟชั่นสินค้าชื่อดังบ้านเราบางคน

    เขายังไม่ค่อยอยากจะ .. เปลืองตัวเลยงานนี้  เพราะ  มันทำแค่เอาหน้า

    เรื่องการตลาดที่ทำให้ชนะคู่แข่ง ... มันก็ถูกอยู่แหละ

    แต่ ... กว่าที่สินค้าจะเป็นที่นิยม ...... มันไม่ได้อยู่แค่ขั้นตอนนั้นนี่

    ยังไงเราก็ว่า ... เรื่องมาตราฐานที่ดีก็ยังมีผลอยู่

    จะให้หยวนๆ ก็พูดว่ามันต้องควบคู่กันไปนะแหละ ... เอาอะไรมาเด่นกว่ากันมากไม่ได้หรอก

    ขอวกกลับเข้าเรื่อง... หอศิลป์....หน่อย

    ที่บอกว่าให้การหนับหนุนนะ ... แล้วดองมันไว้ทำไมตั้ง 8 ปี

[Cherub Rock]

(14 ก.ค. 49) นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย รศ.ดร.บรรณโศภิษฐ์ เมฆวิชัย และ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ตรวจความคืบหน้าโครงการก่อสร้างหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ตั้งอยู่บริเวณสี่แยกปทุมวัน ซึ่งตามโครงการทั้งหมดกำหนดแล้วเสร็จประมาณเดือนพฤษภาคม 2550 ปัจจุบันดำเนินงานในส่วนของการก่อสร้างกำแพงกันดิน เสาเข็ม ฐานราก งานพื้นชั้นใต้ดิน 2 และเสารับพื้นชั้นใต้ดิน 1 และเสารับพื้นชั้นห้องสมุด รวมคิดเป็นร้อยละ 15.7 จากแผนงานที่กำหนดไว้ร้อยละ 16
ทั้งนี้ ผู้ว่าฯ อภิรักษ์ ได้มอบนโยบายให้สำนักการโยธา บริษัทผู้รับเหมา และบริษัทโรเบิร์ต จีบุย แอนด์ แอสโซซิเอล จำกัด ผู้ออกแบบ ร่วมกันหารือถึงความคืบหน้าและความสมบูรณ์ของพื้นที่โครงการ โดยตั้งเป้าหมายว่าในเดือนธันวาคม 2549 จะมีการจัดกิจกรรมเพื่อเปิดตัวหอศิลป์อย่างไม่เป็นทางการ จากนั้นเมื่อโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จทั้งหมดจะมีการจัดกิจกรรมและพิธีเปิด อย่างเป็นทางการต่อไป



คนนี้ก็นักการตลาด มือถึงหรือเปล่าไม่รู้
แต่แอคติ้งใช้ได้ รู้มุมกล้อง


ปล. ดูภาพงานก่อสร้างแล้วตื่นเต้นมากๆๆ http://www.skyscrapercity.com/showthread.php?t=149869&page=9 

[Cherub Rock]

กรกฎาฯนี้เปิดหอศิลป์กทม. [26 เม.ย. 51 - 04:08]

นาย อภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม. เปิดเผยภายหลังตรวจความคืบหน้าการก่อสร้างหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร บริเวณสี่แยกปทุมวัน ว่า โครงการนี้ กทม.ร่วมกับเครือข่ายศิลปิน นักวิชาการ และสถาบันการศึกษา ผลักดันมากว่า 10 ปี โดยเริ่มมาตั้งแต่ปลายปี 2547 ในการของบประมาณผ่านสภากรุงเทพมหานคร ใช้งบประมาณในการก่อสร้างประมาณ 500 กว่าล้านบาท โดยขณะนี้การก่อสร้างในส่วนของโครงสร้างแล้วเสร็จ 99.98% คงเหลือเฉพาะในส่วนของการตกแต่งภายใน ซึ่งจะใช้เวลาอีกประมาณ 1 เดือนในการตกแต่งและเก็บรายละเอียดต่างๆ โดยในเดือน มิ.ย.นี้ จะจัดกิจกรรมตลาดนัดศิลปะ (Art Market) เป็นการประชาสัมพันธ์หอศิลป์ โดยเปิดให้เครือข่ายนักเรียน นักศึกษา และเครือข่ายศิลปิน นำศิลปะมาแสดงบริเวณลานกิจกรรมด้านหน้าหอศิลป์ จากนั้นจะเปิดให้ประชาชนเข้าชมนิทรรศการในเดือนกรกฎาคม 51 โดยนิทรรศการชุดแรกที่จะนำจัดแสดงจะเป็นนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ และในอนาคตจะมีการจัดแสดงงานศิลปะของศิลปินหลากหลาย รวมถึงจะมีความร่วมมือจากเครือข่ายหอศิลป์ของประเทศต่างๆ อาทิ ญี่ปุ่น อังกฤษ จีน สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส และประเทศในภูมิภาคเอเชีย นำงานศิลปะมาร่วมแสดงด้วย

สำหรับหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร กทม.ได้มีการจัดตั้งเป็นมูลนิธิ มีกรรมการบริหารมาจากหลายส่วน ทั้งผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับ มีทั้งศิลปินแห่งชาติ เครือข่ายศิลปิน มาบริหารจัดการหอศิลป์ต่อไป โดยตั้งอยู่บริเวณสี่แยกปทุมวัน ถนนพระรามที่ 1 เขตปทุมวัน บนเนื้อที่ 3 ไร่ 2 งาน 80 ตารางวา ตัวอาคารออกแบบในลักษณะอาคารประหยัดพลังงาน มีแสงจากธรรมชาติส่องถึงพื้นที่ใช้สอยภายในเป็นการผสมผสานระหว่าง สถาปัตยกรรมไทยและสมัยใหม่ แสดงออกถึงความเป็นไทยและสากล ตัวอาคารสูง 9 ชั้น พร้อมชั้นลอยและชั้นใต้ดิน 3 ชั้น รวม 12 ชั้น มีพื้นที่ใช้สอยรวมประมาณ 25,000 ตารางเมตร ภายในออกแบบให้มีความทันสมัยด้วยเทคโนโลยีต่างๆ สามารถจอดรถได้ประมาณ 110 คัน ในชั้นใต้ดิน.

http://www.thairath.co.th/news.php?section=bangkok&content=87487

ขุดกระทู้ 

[Şiłąncē Mőbiuş]

เสร็จแล้วต้องไปเยี่ยมเยียนสักหน่อย 

[Cherub Rock]

http://www.komchadluek.net/news/2006/01-04/soc--15220.html

ทว่าเมื่อ สมัคร สุนทรเวช ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครคนต่อมาเข้ารับตำแหน่ง กลับได้ล้มเลิกโครงการหอศิลปะร่วมสมัย และปรับเปลี่ยนโครงการเสียใหม่ในลักษณะเป็นอาคารพาณิชย์ ประกอบด้วยส่วนหอศิลปะร่วมสมัยฯ ศูนย์การค้าและลานจอดรถ โดยให้เอกชนมาลงทุน และให้สัมปทานเช่าพื้นที่ในส่วนประกอบกิจการพาณิชย์นาน 30 ปี ด้วยเหตุนี้เองจึงเป็นจุดพลิกผันครั้งสำคัญที่ทำให้โครงการหอศิลปะร่วมสมัย ต้องหยุดชะงักลง!!

เดือนมีนาคม 2544 มีการจัดตั้ง "เครือข่ายศิลปินรณรงค์เพื่อหอศิลปร่วมสมัยเฉลิมพระเกียรติแห่งกรุงเทพมหา นคร" และการจัดกิจกรรมเคลื่อนไหวเรียกร้องหอศิลปะเป็นระยะๆ อาทิ การจัดอภิปรายและกิจกรรมต่างๆ เช่นการวาดภาพเขียนยาว 4 กิโลเมตร ในหัวข้อ "ฉันเรียกร้องหอศิลป์ ไม่เอาศูนย์การค้า" โดยมีประชาชนและศิลปินร่วมกันวาดภาพ

และจากกระบวนการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนนี้ จึงนำไปสู่การดำเนินการทางกฎหมายต่อผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการระงับโครงการ หอศิลปะร่วมสมัย โดยมีศิลปินและนักวิชาการระดับชาติ อาทิ ปรีชา เถาทอง จอน อึ๊งภากรณ์ สุรชัย จันทิมาธร จุมพล อภิสุข วรินทร์ กับพวกรวม 9 คน เป็นผู้ยื่นคำฟ้องต่อศาลปกครอง และศาลก็ได้ประทับรับฟ้อง เป็นคดีหมายเลขดำที่ 636/45 ลงวันที่ 9 เมษายน 2545 และผลจากการที่ศาลรับคดีดังกล่าวไว้พิจารณา จึงทำให้โครงการที่ผู้ว่าสมัคร จะผลักดันหอศิลป์เป็นศูนย์การค้าต้องหยุดลง

"ช่วงที่ต่อสู้กัน 'หนัก' ที่สุด ก็คือสมัยผู้ว่าฯ สมัคร แต่ถ้าจะบอกว่าการต่อสู้เรียกร้องหอศิลป์เริ่มขึ้นยุคสมัยผู้ว่าฯ ท่านนี้ก็คงไม่ถูกต้องนัก เพราะตั้งแต่สมัย ดร.พิจิตต ตอนนั้นก็เป็นช่วงของการทำความเข้าใจกับส่วนราชการ และวิธีการบริหารหอศิลป์ ซึ่งต้องมีรูปแบบสากลเช่นเดียวกับหอศิลป์ชั้นนำทั่วโลก เวลาการเรียนรู้ การจัดการเรื่องเหล่านี้ ได้รับความร่วมมือจากสถานทูตฝรั่งเศส หรือองค์กรที่ทำงานในแวดวงศิลปะนานานาชาติ เช่น สถาบันเกอเธ่ ได้มาแลกเปลี่ยนความรู้ก็ใช้เวลานานข้ามปีเหมือนกัน" ยุทธพันธุ์ มีชัย เลขาธิการ มูลนิธิศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร กล่าว

เน้นให้ดูความเฮงซวย ของผู้ว่าในอดีต
นายกในปัจจุบัน


มนุษย์โครมันยอง
ย่อมไม่ต้องการวัฒนธรรม

[วิหค อัสนี]

เพราะแฟชั่นสุดยอดของเมืองไทย คือ...

ผักชีโรยหน้า

นะคร้าบ...

[see - u]

*  นี่.... เห็นป่ะ  ผู้ว่าคนอื่น ( อภิรักษ์ ) เขายังสานต่อจนเป็นรูปเป็นร่าง

    ไม่รู้ไอ้ตัวที่เป็นผู้ว่าในอดีต  และ  ปัจจุบันมาเป็น  นายก  เนี่ยยยย

     มันจะนึกออกมั๊ย ..... ว่ามันเคยดองโปรเจคนี้ไว้ตั้งหลายปี

     สมควรแล้วถ้าจะมีใครเค๊าว่า ........  เป็น มนุษย์โครมันยอง  อ่ะ

[AsianNeocon]

เน้นให้ดูความเฮงซวย ของผู้ว่าในอดีต
นายกในปัจจุบัน


มนุษย์โครมันยอง
ย่อมไม่ต้องการวัฒนธรรม

น่าจะมีใครปร๊นต์รูปนี้ออกมา 20 ชุด
1. ส่งไปที่นายกฯรูปนึง
2. ส่งไปให้เลขาหน้าห้องรูปนึง
3. ฝากไว้ที่ป้อมยามรูปนึง
4. ที่เหลือกส่งไปให้ข้าราชการ ลูกจ้างที่ทำเนียบ

ใส่ซองดูดีๆเนียนๆหน่อย

อยากดูหน้า ตอนจมูกบานยัวะจัด ตลกดี

[Şiłąncē Mőbiuş]

^
^
^
หน้าตาคงเหมือนตอนจ้องผู้สื่อข่าว 

[moon]

ตื้นตันใจอย่างบอกไม่ถูกครับ

ไอ้เรื่องบางกอก เมืองแฟชั่น น่ะ เคยได้ฟังคุณไข่ ให้สัมภาษณ์รายการนึง แกต่อว่ารัฐบาลซะเละเลย

ส่วนภาพพวกนี้ ไม่สามารถเอาเข้าไปไว้ในหอศิลป์นะครับ

[phutorn connection]

อธิบายด้วยความรู้ด้านการตลาดแบบงูๆปลาๆนะคะ

ถ้าสินค้านั้นไม่มีจุดเด่นเลย ก็คงทำการตลาดไม่ได้หรอกค่ะ มันจะแป้ก ไม่คุ้มกับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้น เพราะยี่ห้ออื่นเลียนแบบได้อยู่แล้ว

ยกตัวอย่างสินค้าโอทอปที่ทั่นอดีตนายกภูมิใจนักหนา สินค้ากี่ตัวๆก็เหมือนกันเป็นร้อยๆ ใส่ฉลากต่างตำบลแค่นั้น มันจะเอาอะไรมาขายคะ แต่หากจะทำจริงๆ เช่น ชามเบญจรงค์ ควรให้ความสำคัญตั้งแต่วัตถุดิบเพื่อเน้นคุณค่า รับประกันสินค้าเพื่อรักษาราคา จำสก๊อตวิสกี้ได้มั้ยเอ่ย นั่นก็ให้ความสำคัญตั้งแต่น้ำที่จะใช้ทำเหล้าเลย

ที่ผ่านมาทำสินค้าโอทอปออกมาขายได้แค่ตัดราคากัน มันเพื่ออะไร แข่งกันเจ๊งหรือ ทำให้เสียทรัพยากรอย่างไร้ค่าจริงๆ

เพิ่มเติม คนที่สร้างโปรเจคอย่างอดีตนายก ทั่นยังไปช๊อปปิ้งสิงคโปร์กะฮ่องกงเป็นว่าเล่นในสมัยอยู่ในตำแหน่งเลย ทั่นไม่เคยเห็นคุณค่าในตัวสินค้าไทย ไม่เคยใช้ เห็นตามสื่อทีไร ส่วนใหญ่ก็เบอเบอร์รี่ แอร์เมส จะใส่ม่อฮ่อมก็ต่อเมื่อจัดฉาก หรือวันสงกรานต์ แล้วใครมันจะเห็นคุณค่า

[ชัย คุรุ เทวา โอม]

หอศิลป์ ผมจำได้มันเริ่มมาตั้งแต่ ดร.โจ แล้ว

แล้วไมมันยังไม่เสร็จซักทีวะ

[morning star]

นั่นหอศิลปฯของไทยเหรอครับ

[Cherub Rock]

เปิดแสดงแว้วว มี 2 นิทรรศการ พื้นที่แสดงงานล้วนๆ ไม่มีห้างสรรพสินค้าแบบไอเดียผู้ว่าสมัคร

[Cherub Rock]

นิทรรศการภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ของสมเด็จพระเทพฯ ถ่ายสวยมากๆ

[login not found]

งึม...โครงสร้างภายในน่ากลัวพิลึก
อยากรู้ว่าถ้าคนมาเยอะๆจะจัดการอย่างไร
 

[see - u]

*   เปิดแล้วเหรอ ... ดีจัง
     ต้องหาเวลาไปเยี่ยมเยือนซะหน่อยแล้ววววววว   

[almondflavor]

แนะนำอีกที่นะคะ ไม่รู้ว่าเพื่อนๆเคยไปยัง

...พิพิธภัณฑ์ สยาม...

ดีมากเลยคะ ไปมา 2 ครั้งแล้ว ไปมาแล้วภูมิใจในความเป็นคนไทยมาก

ดีมาก น้องๆชอบมาก ไม่น่าเชื่อว่ามีที่แบบนี้ในกรุงเทพด้วย

....