ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
20-04-2024, 10:16
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สโมสรริมน้ำ  |  คิดอย่างไร-----กับคำว่า โคโยตี้ 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
คิดอย่างไร-----กับคำว่า โคโยตี้  (อ่าน 2707 ครั้ง)
คำตัดพ้อของใบไม้
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,032


ทุกคนคือเพื่อน ...แม้โจรก็เป็นเพื่อนเราได้


« เมื่อ: 31-10-2006, 20:53 »

----ค่อนข้าง  อนาจารทั้งการแต่งกายและท่าทาง

คิดไงกันบ้าง-----
บันทึกการเข้า

....พูดดี  ทำดี  คิดดี ...ทุกวินาที
คิดได้อย่างนี้ก็เพียงพอแล้ว
(ก้อนหิน) ละเมอ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,041



เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 31-10-2006, 20:55 »

ไม่ต่างจากจ้ำบ๊ะ...
แต่ละนาง ถ้าสวยจะไม่ว่าเลย
แต่นี่... เอากิ้งก่าย่างไฟมาเต้น.... 
บันทึกการเข้า

ใบไม้ทะเล
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,321


In politics stupidity is not a handicap


« ตอบ #2 เมื่อ: 31-10-2006, 21:03 »

อ่านข่าวแล้ว รู้แต่ว่า...............

จากหมอลำซิ่ง เปลี่ยนไปเป็น โคโยตี้แล้วเหรอค่ะ
 
บันทึกการเข้า

立てばしゃくやく、座ればぼたん、歩く姿はゆりの花
คำตัดพ้อของใบไม้
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,032


ทุกคนคือเพื่อน ...แม้โจรก็เป็นเพื่อนเราได้


« ตอบ #3 เมื่อ: 31-10-2006, 21:19 »

อ่านข่าวแล้ว รู้แต่ว่า...............

จากหมอลำซิ่ง เปลี่ยนไปเป็น โคโยตี้แล้วเหรอค่ะ
 



   ค่ะน้องใบไม้  นี่คือตัวอย่างโคโยตี้ค่ะน้อง

http://www.siam2.com/funnyvdo/view.php?id=110

http://webboard.mthai.com/viewtopic.php?cate_id=35&post_id=174970
บันทึกการเข้า

....พูดดี  ทำดี  คิดดี ...ทุกวินาที
คิดได้อย่างนี้ก็เพียงพอแล้ว
คำตัดพ้อของใบไม้
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,032


ทุกคนคือเพื่อน ...แม้โจรก็เป็นเพื่อนเราได้


« ตอบ #4 เมื่อ: 31-10-2006, 21:36 »

 ใครจะมองอย่างไรก็ว่ากันไป...แต่สำหรับผมถือว่าเป็นพระมหากรุณาธิคุณยิ่งที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงแสดงความห่วงใยเรื่องสาวนักเต้นที่เรียกกันว่า “โคโยตี้” นุ่งน้อยห่มน้อยไปเต้นโชว์กันกลางวัด ในงานบุญบั้งไฟ ที่จ.หนองคาย...
       
       และสำนักงานราชเลขาธิการของพระองค์ท่านได้ทำหนังสือความเป็นห่วงดังกล่าวไปยังกระทรวงวัฒนธรรม...
       
        ตอนนี้เลยออกมาเต้นกันหลายหน่วยงาน หลายกระทรวง ทราบว่า..วันที่ 3 พ.ย.นี้ กระทรวงที่เกี่ยวข้องกับสังคมจะล้อมวงสัมมนากันให้เป็นเรื่องเป็นราว ยกระดับเรื่องนี้ให้เป็นวาระแห่งชาติกันเลยทีเดียว...
       
        ก็ดีครับ คนละไม้คนละมือ ร่วมด้วยช่วยกันอย่างสอดคล้องสัมพันธ์ และเป็นไปในทิศทางเดียวกัน..
       
        แต่ระวังไว้หน่อยว่า ล้อมวงกันทั้งทีอย่าเสียเวลาถกกันแต่เรื่อง “โคโยตี้” เรื่องเดียว ควรที่จะหารือกันถึงปัญหาอื่นๆ ทางสังคมที่เกี่ยวโยงไปด้วยเลย...
       
        เรื่องของสาวเชียร์เบียร์, การห้ามขายเหล้าให้กับผู้มีอายุไม่ถึง 20 ปี, เรื่องของพริตตี้,เรื่องของสถานบันเทิงรอบรั้วสถานศึกษา, เรื่องของการตั้งตู้ขายถุงยางอนามัยในสถานศึกษา ฯลฯ...
       
        โอ๊ย สารพัดปัญหา สงสัยว่าสัมมนากันวันเดียวไม่พอหรอก ต้องนัดกันอีกครั้งว่ากันให้เป็นเรื่องเป็นราว กำหนดประเด็น กำหนดวาระให้ชัดเจน..
       
        ถ้าทำได้จะดีมาก ดีกว่าต่างคนต่างทำ หันหน้าไปคนละทาง สร้างดาวกันคนละดวง อย่างที่ผ่านมาบางกระทรวงทำเท่เร็วจนเกินไปก็ตกม้าขาแพลงไปแล้วแบบเห็นๆ กรณีการห้ามโฆษณาเหล้า...
       
        จำเพาะวันที่ 3 พ.ย.คุยกันให้สะเด็ดน้ำเรื่อง “โคโยตี้” เรื่องเดียวก็พอ ถือเป็นปัญหาเฉพาะหน้า...
       
        อันที่จริงเรื่อง “โคโยตี้” บุกวัด สกัดได้ไม่ยากเลย หากว่า มหาเถรสมาคมหรือ มส.กำชับไปยังวัดทุกวัดว่าห้ามเด็ดขาด เจ้าอาวาสวัดไหนปล่อยให้มีการแสดงในลักษณะวาบหวิวแบบโคโยตี้ โป๊ลามก หรืออนาจาร แบบจ้ำบ๊ะ ฯลฯ ถือเป็นการละเมิดจริยาสังฆาธิการ ต้องถูกลงโทษ ตั้งแต่ภาคทัณฑ์ยันถอดถอน..
       
        ทุกวันนี้ วัดได้ถูกรุกรานด้วยลัทธิพุทธพาณิชย์ ลัทธิบริโภค ความเห็นแก่ตัวของพ่อค้าแม่ขาย ตลอดจนมัคนายกที่มีวาระแฝงเร้น...
       
        วัดไหนที่มีเจ้าอาวาสหรือพระเณรที่แข็งแรงในหลักธรรม ก็พอจะห้ามปรามหรือหยุดกลุ่มคนดังกล่าวได้ วัดไหนที่เจ้าอาวาสหรือกรรมการวัดพลอยหลงใหลได้ปลื้มกับผลประโยชน์เข้าวัดเล็กๆ น้อยๆ ก็ปล่อยให้อบายมุขคุกคามถึงขอบเขตขันธสีมา
       
        พูดก็พูดเถอะ...โคโยตี้บุกวัดนั้นเป็นภาพกว้างที่ดูแล้วพุทธบริษัทย่อมรู้สึกร้าวรานจิตใจอย่างไม่ต้องสงสัย
       
        ในขณะที่อีกด้านหนึ่งโคโยตี้ก็กำลังเบ่งบานเป็นดอกเห็ดกลางฤดูฝนในกรุงเทพฯ เมืองหลวง และเมืองใหญ่เมืองเล็กทั่วไทย...
       
        ผมกวาดสายตามองไปแล้วก็รู้สึกใจหายใจคว่ำในความเป็นไป...อยู่ครามครัน
       
        จาก “โคโยตี้” ที่หมายถึงหญิงสาวนักเต้น ชุดวาบหวิวที่เลียนแบบมาจากหนังเรื่อง โคโยตี้ อักลี บาร์ห้าวสาวฮอต (Coyote Ugly)จากชื่อสถานบันเทิง โคโยตี้อักลี ซาลูน บาร์แห่งหนึ่งในมหานครนิวยอร์ก ซึ่งให้พนักงานหญิงโชว์เต้นบนเคาน์เตอร์เพื่อความบันเทิงแก่แขก จนมาถึงปรากฏการณ์ครั้งแรกของสาวโคโยตี้เมืองไทยที่ฟอร์เต้ บาร์ชื่อดังในซอยสุขุมวิท 24 เมื่อปี 2545..
       
        วันนี้โคโยตี้ไทย...เดินทางมาไกลเกินกว่าที่คิด ไกลเกินกว่าความบันเทิงธรรมดา...
       
        ยอมรับว่า ผมเองผ่านการชม พูดคุยกับบรรดาโคโยตี้มา 3- 4 ครั้ง
       
        มีทั้งน้องๆ ที่กำลังจะต่อปริญญาโท, กำลังเรียนปริญญาตรี -ปวส.-ปวช.,จบม.6 - ปวช.-ปวส. แต่ยังไม่มีงานทำ...
       
        ในจำนวนเหล่านั้น มีบางคนที่ชอบความสนุกร่าเริง ทำงานหาเงินเรียนหนังสือ, บางคนหาประสบการณ์ให้ชีวิตและอาจจะแอบวาดหวังว่าจะพานพบคู่ชีวิตฐานะดี, บางส่วนไม่ปฏิเสธการขายบริการทางเพศหากการพูดคุยและค่าตอบแทนถูกใจ..
       
        แต่ในภาพรวมชีวิตของพวกเธออยู่ในความเสี่ยงภัย...ถูกแวดล้อมด้วยสังคมที่มีค่านิยมฟุ้งเฟ้อเสียเป็นส่วนใหญ่...
       
        มีบ้างเหมือนกันที่หลุดรอดจากลัทธิบริโภค ค่านิยมฟุ้งเฟ้อมาได้ แต่น้อย...
       
        จะอย่างไรก็ตาม วันนี้สาวโคโยตี้ไทย ซึ่งแม้จะยังบานเป็นดอกเห็ด แต่ก็ยังมีจำนวนไม่มากนักเมื่อเทียบกับจำนวนวัยรุ่นหนุ่มสาวทั้งประเทศ แต่ประเด็นสำคัญที่น่าคิดเป็นอย่างยิ่งก็คือ ขณะนี้นักเรียน นักศึกษาหญิงจำนวนมากไม่เคอะเขิน หากแต่มาดมั่นในการเดินไปสู่วิถีโคโยตี้...สาวนักเต้นในชุดวาบหวิวและเซ็กซี่สุดๆ
       
        ประทานโท ษ บางครั้งผมดูการแต่งกายของเชียร์ลีดเดอร์บางสถาบัน มันก็น้องๆ หรือแทบไม่ต่างจากสาวโคโยตี้...ผมกำลังบอกว่า สถาบันการศึกษา มหาวิทยาลัย ควรจะได้เหลือบแลใส่ใจการแต่งกายของนักศึกษาของตนเองบ้าง...พร้อม ๆ กับการปลูกฝังเรื่องจริยธรรม..เรื่องวิธีคิดและค่านิยม..
       
        กระทรวงวัฒนธรรมไม่ต้องไปกำหนดอายุสาวพริตตี้ สาวโคโยตี้ ว่าต้องอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปีหรอก เพราะนั่นไม่สำคัญ สิ่งสำคัญอยู่ตรงที่ว่าจะอายุ 18 หรือ 28 หรือ 38 หรือกี่ปีก็ตาม หากกระทำอนาจาร เต้นโป๊เปลือยในสถานที่สาธารณะ หรือในวัดย่อมไม่เหมาะสมทั้งสิ้น..
       
        การที่เราปล่อยให้โคโยตี้บุกเข้าไปในวัด หรือแม้กระทั่งไปจัดสวนเบียร์กันในวัด มันแสดงถึงความอ่อนแอ ปวกเปียกของสังคมไทยโดยรวม โดยเฉพาะผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบ...
       
        ครับ สำหรับผมนอกจากตัวเองจะรู้สึกว่าเป็นพระมหากรุณาธิคุณยิ่งที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชีนีนาถ ทรงเป็นห่วงกรณีโคโยตี้แสดงกลางวัดแล้ว ยังทำให้ผมนึกถึงพระบรมราโชวาท ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ตรัสแก่ ครม.รัฐบาลพล.อ.สุรยุทธ์วันถวายสัตย์ปฏิญาณ...
       
        พระองค์ทรงรับสั่งถึงปัญหาน้ำท่วมตอนหนึ่งว่า ที่จริงปริมาณฝนก็ไม่ได้มากไปกว่าเมื่อก่อน แต่ปัญหาน้ำท่วมมันรุนแรงหนักหนาสาหัสมาก เพราะว่าเรา “ไม่ได้รักษาบ้านเมืองมานาน”
       
        โคโยตี้บุกวัดก็เหมือนกันล่ะครับ...เราหละหลวม ปล่อยปละละเลยมานาน!
       
        อ่อนแอ และเละตุ้มเป๊ะกันไปหมดแล้ว!!

http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9490000134882
บันทึกการเข้า

....พูดดี  ทำดี  คิดดี ...ทุกวินาที
คิดได้อย่างนี้ก็เพียงพอแล้ว
Killer
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,576


ช๊อบบ ชอบบ...ปฏิวัติ ปลื้ม ค่ะ


« ตอบ #5 เมื่อ: 31-10-2006, 21:42 »

มันน่าจะมีพัฒนาการมาจาก สาวรำวง ------> จ้ำบ๊ะ-หางเครื่อง-------> อโกโก้ ----------->โคโยตี้

ควรจำกัดอายุไปเลยดีกว่า ว่าต้อง 40 UP ถึงจะเต้นได้

20 มันยังน้อยเกินไป คนไทยวุฒิภาวะต่ำ ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรหรอก

เลือกตั้งก็ยังโง่โดนหลอก โดนซื้อได้เลย มันต้อง 40UP ครับ....


บันทึกการเข้า
คำตัดพ้อของใบไม้
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,032


ทุกคนคือเพื่อน ...แม้โจรก็เป็นเพื่อนเราได้


« ตอบ #6 เมื่อ: 31-10-2006, 21:44 »

มันน่าจะมีพัฒนาการมาจาก สาวรำวง ------> จ้ำบ๊ะ-หางเครื่อง-------> อโกโก้ ----------->โคโยตี้

ควรจำกัดอายุไปเลยดีกว่า ว่าต้อง 40 UP ถึงจะเต้นได้

20 มันยังน้อยเกินไป คนไทยวุฒิภาวะต่ำ ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรหรอก

เลือกตั้งก็ยังโง่โดนหลอก โดนซื้อได้เลย มันต้อง 40UP ครับ....





 

  คุณคิลเลอร์เข้าใจถูกเลยล่ะ  เพราะผู้หญิงสมัยนี้
อายุสี่สิบนี้ยังพริ้ง  สวยไม่สร่างเลยนะจ๊ะ  อย่า
เข้าใจว่าจะแก่นะ  ----
บันทึกการเข้า

....พูดดี  ทำดี  คิดดี ...ทุกวินาที
คิดได้อย่างนี้ก็เพียงพอแล้ว
คำตัดพ้อของใบไม้
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,032


ทุกคนคือเพื่อน ...แม้โจรก็เป็นเพื่อนเราได้


« ตอบ #7 เมื่อ: 31-10-2006, 21:49 »

31ตค.) นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ อดีตประธานคณะกรรมาธิการกิจการสตรี เยาวชน และผู้สูงอายุ วุฒิสภา ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระราชปรารภเรื่องความไม่เหมาะสมเกี่ยวกับการเต้นโคโยตี้ ว่า ก่อนหน้านี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า พระบรมราชินีนาถ เคยตรัสเรื่องทางสังคม คือ เรื่องสถานบริการที่ทำให้เสียงในหูเสีย พอท่านตรัสหน่วยงานต่างๆก็วิ่งวุ่นกันทั้งประเทศ โดยกระทรวงสาธารณสุขก็ไปตรวจแต่ทำเพียง 15 วัน แล้วแต่ทุกอย่างก็เหมือนเดิม ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ส่วนราชการและองค์กรที่มีหน้าที่ดูแลเรื่องสังคมไม่ทำงานเลย จะมาอ้างว่าไม่มีกฎหมายไม่ได้ มาถึงวันนี้ สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถท่านก็ตรัสในเรื่องโคโยตี้ ซึ่งสะท้อนในเรื่องความไม่พอดีในสังคมไทยทำอะไรประเจิดประเจ้อ เลอะเทอะไปทั้งเมือง ซึ่งเจ้าหน้าที่รัฐมีกฎหมายในมือก็ไม่ดำเนินการอะไร

นายวัลลภ กล่าวว่า แต่ในขณะนี้ไม่ว่าตำรวจ ผู้ว่าราชการจังหวัดก็ขันน็อตกันใหญ่ โดยขันน็อตเฉพาะสิ่งที่พระราชินีตรัสเท่านั้น แต่พระองค์ท่านมองไกลกว่านั้นว่า ต้องพยายามมองสังคมให้สะอาด ให้งดงาม เพราะฉะนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดจะต้องคิดมากกว่านั้นเพราะเป็นประธานคณะกรรมการคุ้มครองเด็กจังหวัด แต่จังหวัดทำน้อยมาก หรือแทบจะไม่ทำเลย ไม่ดูแลเรื่องสังคมเลย เพราะฉะนั้นอยากให้ทุกคนที่เกี่ยวข้องพึงสำเหนียกไว้และต้องบังคับใช้กฎหมายที่มีอย่างตรงไปตรงมา ตั้งแต่การดูสื่อลามก เวปไซด์ลามก รวมไปถึงการที่วัดจัดให้มีการเต้นจ้ำบ๊ะภายในวัด ซึ่งเรื่องนี้กรรมาธิการกิจการสตรี เยาวชน และผู้สูงอายุ วุฒิสภา เคยทำหนังสือไปยังสำนักพุทธศาสนา ให้ดูแลในเรื่องนี้ซึ่งกฎหมายสามารถลงโทษได้ทุกเรื่อง ครั้งนี้ก็พูดเหมือนกันอีกว่าจะส่งจดหมายเวียนไป ยกตัวอย่างเช่น ไปเต้นโคโยตี้ที่หน้ารถถัง ทหารสั่งครั้งเดียวหายเงียบ ถ้าเป็นเด็กไปเต้นกระทรวงศึกษาต้องรับผิดชอบ มีหน่วยงานปฏิบัติที่รับผิดชอบอยู่แล้ว แต่ท่านไม่ทำงาน ขอประณามว่า ไม่ทำงานจริงๆ

ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีไม่อนุญาตให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี หาอาชีพพิเศษจากการแสดงเต้นโคโยตี้ พริตตี้ ถือเป็นการละเมิดสิทธิหรือไม่ นายวัลลภ กล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องการละเมิด เพราะพ.ร.บ.สถานบริการห้ามรับเด็กต่ำกว่า 20 ปีเข้าทำงานอยู่แล้วซึ่งการมีกฎหมายไม่ใช่การละเมิดสิทธิ แต่เป็นเรื่องที่ทำได้หรือทำไม่ได้ ที่ทุกคนต้องปฏิบัติตาม ดังนั้นอยากให้กระทรวงศึกษาธิการทบทวนให้ดี และเรื่องนี้สัมพันธ์โดยตรงกับนโยบายของรัฐบาล ที่มีระยะเวลาเพียง 1 ปี แม้ว่ารัฐบาลจะทำงานยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงแต่เรื่องสังคมก็ละเลยไม่ได้ ต้องมีแนวทางทำงานไปทิศทางเดียวกัน

“ทุกหน่วยงานน่าจะฉวยโอกาสที่พระราชินีทรงมีพระราชปรารถเรื่องนี้ ทำเป็นนโยบายเร่งด่วนปราบอบายมุขให้กับสังคมไทย หากเน้นเรื่องการดูแลเรื่องอบายมุขเป็นหลักของกระทรวงทางสังคมประชาชนก็จะสรรเสริญรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเหล้า โคโยตี้ สถานบริการ สื่อลามก รวมทั้งยาเสพติด ประกาศเป็นวาระว่า 1ปีรัฐบาลจะดูแลเรื่องอบายมุขให้มีน้อยลงในสังคมไทย ถ้าทำได้อย่างนี้ถือว่าเป็นผลงานชิ้นโบแดงของรัฐบาลชุดนี้” นายวัลลภ กล่าว

http://news.sanook.com/social/social_43246.php
บันทึกการเข้า

....พูดดี  ทำดี  คิดดี ...ทุกวินาที
คิดได้อย่างนี้ก็เพียงพอแล้ว
login not found
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,523



« ตอบ #8 เมื่อ: 31-10-2006, 22:42 »

ก็แค่กระแสบ้าตัณหาของผู้ชายและผู้หญิงที่อยากได้เงิน
ผมไม่ได้มองเป็นอาชีพ หรือเป็นความสนุกความสวยงาม
เพราะสำหรับคนไทย กระแสโคโยตี้ไม่เคยผ่านจุดนั้นเลยด้วยซ้ำ
บันทึกการเข้า
55555
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,263



« ตอบ #9 เมื่อ: 05-11-2006, 10:00 »

มันน่าจะมีพัฒนาการมาจาก สาวรำวง ------> จ้ำบ๊ะ-หางเครื่อง-------> อโกโก้ ----------->โคโยตี้

ควรจำกัดอายุไปเลยดีกว่า ว่าต้อง 40 UP ถึงจะเต้นได้

20 มันยังน้อยเกินไป คนไทยวุฒิภาวะต่ำ ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรหรอก

เลือกตั้งก็ยังโง่โดนหลอก โดนซื้อได้เลย มันต้อง 40UP ครับ....




โห........พี่คิล.....40 up เลยหรือ
บันทึกการเข้า
สี่หามสามแห่
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,460



« ตอบ #10 เมื่อ: 05-11-2006, 18:57 »

ไม่ชอบเที่ยวแบบ นั้นอะครับ ...


เสียเวลา
บันทึกการเข้า
คนในวงการ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,393


FLY WITH NO FEAR !!


เว็บไซต์
« ตอบ #11 เมื่อ: 06-11-2006, 20:33 »

ผมชอบดูที่กล่าวมาทั้งหมด โดยเฉพาะถ้าดูฟรี
บันทึกการเข้า

"Be without fear in the face of your enemies. Be brave and upright that God may love thee.
Speak the truth, always, even if it leads to your death. Safeguard the helpless, and do no wrong. That is your oath."
- Balian of Ibelin -
คำตัดพ้อของใบไม้
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,032


ทุกคนคือเพื่อน ...แม้โจรก็เป็นเพื่อนเราได้


« ตอบ #12 เมื่อ: 06-11-2006, 20:45 »

กระทรวงวัฒนธรรมควรออกระเบียบกระทรวงศึกษาธิการออกกติกา โดยร่วมกันออกอย่างบูรณาการ ไม่ให้เด็กสตรีวัยเรียน วัยรุ่นใช้เวลา Part-time กับสิ่งเหล่านี้

วิถีเรียนกับวิถีอนาจารต้องเป็นเส้นขนาน

ขอเสนอแนวทางแก้ปัญหาในฐานะผู้ชอบสะท้อนปัญหาเพื่อแก้ปัญหา

1.รณรงค์ในสังคม สถานเริงรมย์ หรือหน่วยงานต่างๆ อย่าจัดจ้างไคโยตี้ไปออกงานในที่ที่ไม่เหมาะไม่ควร ทั้งราชการ งานเลี้ยง หรือพื้นที่สาธารณะที่มีทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ไม่ใช่ Win-Win แต่เป็น Lost-Lost


2.ปลูกฝังเด็กสาวไทย ให้รู้จักรักนวลสงวนตัว เชื่อมั่นในตัวเองในทางที่ถูกที่ควร โดยไม่ต้องแลกกับความเซ็กซี่ ชื่นชมเด็กขายไก่ทอด น้ำเต้าหู้ ขายหนังสือ ทำงานห้องสมุด ร้านอาหาร Fast Food อื่นๆ อีกมากมาย แม้ได้เงินไม่มากแต่ก็คือเงินที่บริสุทธิ์ ไม่ต้องแลกกับความภูมิใจในศักดิ์ศรีของเพศแม่

3.กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ต้องจัดเสวนาโดยด่วน เพื่อหาทางออกกฎระเบียบหรือมีแนวทางจัดระเบียบการเต้นหรือการแสดงที่ไม่เหมาะสมในพื้นที่ราชการ พื้นที่สาธารณะ หรือสถานที่ทางศาสนาและวัฒนธรรม ต้องปรับค่านิยมใหม่ของการศึกษา ให้สังคมไม่ยอมรับ เช่นเรื่องเด็กสาวแต่งกายนุ่งน้อยห่มน้อยขึ้นมาเต้นด้วยท่าทางยั่วกิเลส อาจเป็นเปรตสาวที่รับไม่ได้

4.สื่อมวลชน ควรตระหนัก รายการ "หลุมดำ" ทำดีมากควรสร้างจิตสำนึกกับเด็กไคโยตี้ เปลี่ยนวิถีใหม่ อาชีพใหม่ พอเพียงต่อตนเอง ศักดิ์ศรีสตรีไทย การเต้นยั่วกิเลสต่อหน้าหนุ่มเล็ก หนุ่มใหญ่ ควบคุมไม่ได้ก็กลายเป็นมนุษย์กระหายกิเลสไปข่มขืน ฝืนภาวะครอบครัวเป็นสุข สื่อควรร่วมออกรณรงค์ ไม่ยอมรับปรับค่านิยมอีกทางหนึ่ง

5.สถาบันการศึกษาร่วมกับสถาบันครอบครัว ช่วยกันสอดส่องดูแล ลูกศิษย์บุตรหลานไม่ให้มีทัศนคติชอบโชว์ เน้นอนาจารทั้งวาจาและการแต่งกาย ปลูกฝังให้ตระหนักถึงคุณค่าและรักศักดิ์ศรีของตนเอง ครูอาจารย์ต้องให้กรอบแนวคิด ถึงวันที่เป็นป้านั่งทำบุญเข้าวัด ครอบครัว ดูแลให้เวลาลูกหลานอย่างใกล้ชิด

http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01act01061149&day=2006/11/06

http://forum.serithai.net/index.php?topic=9647.0
บันทึกการเข้า

....พูดดี  ทำดี  คิดดี ...ทุกวินาที
คิดได้อย่างนี้ก็เพียงพอแล้ว
หน้า: [1]
    กระโดดไป: