ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
19-04-2024, 07:47
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  คนชั่ว เลว คนโกง ขาดจริยธรรม มีผลประโยชน์ทับซ้อน ทำไมพูดดีมีวิสัยทัศน์แบบนี้นะ 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
คนชั่ว เลว คนโกง ขาดจริยธรรม มีผลประโยชน์ทับซ้อน ทำไมพูดดีมีวิสัยทัศน์แบบนี้นะ  (อ่าน 2567 ครั้ง)
Tam-mic-ra
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 603


« เมื่อ: 31-10-2006, 01:38 »

พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
แสดงปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “ICT for the Future”
ในการสัมมนาเชิงวิชาการ "Vision Thai ICT 2004"
ณ อาคารหอประชุมกองทัพเรือ
วันพุธที่ 17 ธันวาคม 2546 เวลา 19.00 น.

ท่านรัฐมนตรี ท่านผู้ช่วยรัฐมนตรี ท่านปลัด ท่านผู้บริหารกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ท่านประธานและคณะกรรมการองค์กรโทรศัพท์ ท่านประธานและคณะกรรมการการสื่อสารแห่งประเทศไทย ท่านผู้บริหารจากแวดวง ICT ท่านผู้มีเกียรติที่เคารพรักทุกท่าน วันนี้ผมรู้สึกว่ามาอยู่ในคนที่คุ้นเคย หน้าตาก็คุ้นๆ กันมาหลายสิบปี เพียงแต่ผิดกันว่า วันนี้ผมอาจจะล้าสมัยกว่าพวกท่านไปเยอะ ก็ต้องมาพูดให้ท่านฟังนี่ก็ค่อนข้างจะหนักใจหน่อย เพราะว่าผม ถ้าถามเรื่องคนจนอาจจะรู้มากกว่าเรื่อง ICT ถ้าถามเรื่องเศรษฐกิจก็น่าจะรู้มากกว่า ICT แต่วันนี้จะต้องพูดเรื่อง ICT ก็จะพยายาม นึกอะไรได้ก็จะพูด แต่ว่าจะเน้นเรื่องว่า ปีหน้ารัฐบาลจะมีกิจกรรมอะไรที่เกี่ยวข้องกับ ICT เพื่อท่านจะได้ปรับตัวทำตัวถูก ว่าจะเป็นอย่างไร แต่ก่อนจะไปเรื่องของประเทศไทย ผมอยากจะมองภาพทั่วๆ ไป ที่นี่เป็นห้องประชุมที่เราใช้จัดเลี้ยงผู้นำเอเปก เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม ที่ผ่านมา สวยงามมาก ผมก็เลยอนุญาตให้ แล้วก็ขอให้ กองทัพเรือใช้บริการส่วนราชการ บริการประชาชนได้ เพราะว่าของสวยๆ จะเก็บเอาไว้เฉยๆ ก็ไม่มีประโยชน์ ก็เลยอยากจะให้เอามาใช้ประโยชน์ให้มาก ถ้าใครนึกถึงเอเปกก็ไปดูนิทรรศการภาพถ่ายของเอเปก ผมไปดูมาแล้ว สวยมาก ที่ศูนย์สิริกิติ์ มีตั้งแต่วันที่ 16 ถึงวันที่ 21 เมื่อวานผมไปดู สวย ดูแล้วจะภูมิใจในประเทศไทยขึ้นเยอะ

เพิ่มศักยภาพการแข่งขัน ทันต่อเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงของโลก
 เมี่อกี้นี้ เราได้ดูวีดิทัศน์ พูดถึงเรื่องการเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน การต้องทันต่อเหตุการณ์ทั้งหมด ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วของโลก ผมว่าถ้าท่านทั้งหลายที่อยู่วงการนี้ โดยเฉพาะนักบริหารทั้งหลาย ลองไปหาหนังสือสัก 2 เล่มมาอ่านดู ท่านจะตื่นตัวขึ้นเยอะ ท่านจะรู้ว่า เออ…มันต้องปรับเปลี่ยนจริงๆ นะ เรื่องแรกคือ “It’s alive” ซึ่งผมเคยพูดมานานแล้ว ที่แต่งโดย คริสโตเฟอร์ ไมเยอร์ กับ สแตนด์ เดวิส หนังสือออกปีนี้ ปี 2003 อีกเรื่องนึงเป็นเรื่อง “Reimagine” เขียนโดย ทอม ปีเตอร์ สองเรื่องนี้จะทำให้ท่านตื่นตัวขึ้นเยอะ เรื่อง “It’s alive” พูดถึงเรื่องของทุกองค์กรจะต้องปรับตัว ต้อง Adaptive หรือ Change แล้วก็พูดถึงเรื่อง Molecular Science แล้วพูดถึงการพัฒนาการ จาก Science ออกจากห้อง Lab มาเป็นเทคโนโลยีที่ Apply ใช้ แล้วก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทาง Economy ซึ่งทั้งหมดมันเกิดจากการ Convergence ของ ICT ของ Biology แล้วก็ Business ซึ่งจะประกอบด้วยวิชาที่น่าสนใจ 4 เรื่อง เรื่องแรกก็เรื่อง ICT นี่แหละ เรื่องที่ 2 คือเรื่อง Biotech เรื่องที่ 3 คือ Material Science เรื่องที่ 4 ก็คือเรื่อง Nano-technology นี่คือคลื่นลูกใหม่ที่จะเปลี่ยนหลายๆ เรื่อง รวมทั้งเรื่อง ICT ด้วย ส่วน “Reimagine” นั้น ชื่อเรื่องมันก็บอกชัดเจนว่า Reimagine คือต้อง Imagine ใหม่ แล้วเค้าก็บอกว่าให้ Think Weird คือคิดให้ประหลาดๆ สุดกู่ไปเลย เพราะสิ่งที่ท่านคิดว่า Weird แล้วเนี่ย โลกมัน Weird ไปมากกว่าที่ท่านคิดได้ด้วยซ้ำ นั่นคือสิ่งที่มันกำลังเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว

ประเทศไทยเราจะ Ignore ต่อเรื่องของ ICT อีกไม่ได้
 ตัว Drive มีหลายตัว แต่แน่นอน ICT เราพูดกันตลอดเวลาว่า ICT เป็นเทคโนโลยี By Yourself แล้วก็เป็น Embeded Technology ซึ่งไปรวมกับวิชาอื่นๆ แล้วทำให้เกิดความรู้ใหม่ๆ เกิดประสิทธิภาพใหม่ๆ เกิดการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ เพราะฉะนั้น วันนี้ ประเทศไทยเราจะ Ignore ต่อเรื่องของ ICT อีกไม่ได้ นอกจากไม่ Ignore แล้ว ยังต้อง Deep Down จากระดับเศรษฐกิจฐานบนลงสู่ชนบทเลย วันนี้รัฐบาลลงไปลึกแล้ว สิ่งนี้เราจะต้องมีและต้องไปกันต่อไป โลกข้างหน้ามันเปลี่ยนน่ากลัวมาก ไอ้สิ่งที่เราจะทำเนี่ย บางทีมันก็ล้าสมัย เราคิดว่าเร็วแล้วเนี่ย ระบบราชการก็ดี กฎหมายก็ดี ทำให้เราช้าขึ้นเยอะ ซึ่งไม่ทันกินหรอก ICT เนี่ย วันนี้ สิ่งที่เราคิดว่าช่วง 1 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลผลักดันเปลี่ยนแปลงมากมายแล้ว ผมยังคิดว่า เรายังช้าไป ไม่ต้องคิดไรมาก กทช. นี่ตั้งไม่ได้ซักที ร้องกันไม่เลิก กสช. ก็เหมือนกัน ร้องไม่เลิก ไอ้พวกร้องเนี่ย อยากทั้งนั้นน่ะ ไม่ได้คิดว่าจะเสียสละให้บ้านเมืองหรอก ร้องไปร้องมา แต่วันนี้เราต้องคิดว่า เราต้องช่วยกันทำให้บ้านเมือง อย่างเรากำลังพูดกันถึงเรื่อง Frequency วันนี้เค้าพูดกันเรื่อง Pulse Modulation ซึ่งมันไม่เกี่ยวกับ Frequency เลย ไม่ใช้ Frequency เลย ส่งสัญญาณได้โดยไม่ใช้ Frequency เลย ไปนู่นแล้ว เราจะตั้งกรรมการมาดูความถี่ มาอนุมัติความถี่ แล้วตกลง Pulse Modulation ใครดูล่ะ ไปนู่นแล้ว ตอนนี้ Switching เราพูดถึงเรื่องของ LAN Line ตอนนี้มาแล้ว IP Switch, IP Phone แล้วตกลงเราจะ regulate กันอย่างไร ตกลงเราจะจัด Field อย่างไร นี่คือสิ่งที่มันมาเร็วกว่ากฎหมายและกติกาและความเข้าใจของคนในสังคมจะทัน แล้วบางครั้งผมจะผลักดันอะไรมาก ก็พวกชอบพูดมันก็มี แต่ผมเป็นคนไม่แคร์ เพราะผมไม่ได้ทำอะไรให้ตัวเองอยู่แล้ว ง่าย เพราะฉะนั้นต้องเรียนว่า ถึงเวลาที่เราต้องนึกถึงคำไม่กี่คำ เค้าพูดคำว่า Economy of Speed เค้าพูดกันอย่างนี้ เพราะฉะนั้นเราจะทำยังไง เราจะทำให้เร็วได้ยังไง ก็ต้องมานั่งดูกัน

จะต้องสร้าง Knowledge Worker
 บิลล์ เกตส์ บอกว่า ถ้าจะไปเร็วเนี่ย จะต้องมี Digital Nervous System อย่างดี จะต้องสร้าง Knowledge Worker เค้าบอกอย่างนั้น พอมาถึงระบบราชการ เสนอเพื่อพิจารณาตั้งแต่หัวหน้าแผนกยันรัฐมนตรี มันไม่มี Knowledge Worker เพราะว่ามันไม่มีข้อมูล ระบบข้อมูลไม่มี ระบบเส้นประสาทดิจิตอลไม่มี ไม่ได้วางไว้ เพราะฉะนั้นปีหน้าจะเป็นปีที่สิ่งเหล่านี้จะถูกผลักดันหมด เรากำลัง... คือเค้ากำลังพูดกันถึง Quantum Teleportation เคยได้ยินมั้ย ทุกวันนี้เราส่งแฟกซ์ใช่มั้ยครับ เราส่งแฟกซ์นี่เราสแกนถึงชั้นบิตถูกมั้ยฮะ ตอนนี้เค้าบอกว่าเค้าจะสแกนถึงชั้นอะตอม เป็น mass ส่ง mass จากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง ตอนนี้เค้าบอกว่าเป็นไปได้แล้ว เพียงแต่ว่ามี 2 ทฤษฎีที่เถียงกันอยู่ แบบว่าส่งจากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่งเนี่ย ส่งไปโดยที่ส่ง Replica หรือส่งไปแล้วทำลาย Original อะไรทำนองนี้ อย่างสมมุติว่าเราส่งแฟกซ์ ต้นฉบับยังอยู่ใช่มั้ย ที่นี้ถ้าจะส่งมนุษย์ล่ะ ส่งมนุษย์จากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง เดี๋ยวโผล่ไปมีมนุษย์หลายคน หรือส่งไปแล้ว มนุษย์นี้ถูกทำลาย อีกตัวนึงไปโผล่ที่โน่น นี่คือเรื่องของเทคโนโลยี ซึ่งเราดูเหมือนว่าเป็นเรื่องเพ้อฝัน เป็นเรื่อง Science Fiction เราเคยได้ยิน Science Fiction สมัยก่อนมั้ยครับ ที่มีระบบ Submarine เข้าไปในลำไส้มนุษย์ ลงไปในเส้นเลือด ที่เค้าเรียกว่า Nano nurse อีกไม่เกิน 3 ปีออกแล้วครับ นี่ผมพูดช้าไปหรือเปล่าไม่รู้นะ 3 ปีเนี่ย ด้วย Nano technology ด้วย Material Science สามารถทำวัสดุเล็กๆ ที่สามารถส่งผ่าน ส่งไฟเบอร์เข้าไปในลำไส้ ในเส้นเลือด แล้วไปถึงตรงจุดไหนที่มีเชื้อโรค ก็พ่นยาลงไป ก็รักษาที่นั่น ไม่ต้องผ่าตัด มันกำลังจะเกิด สิ่งที่เราไม่เชื่อว่าจะเกิด มันเกิดขึ้นได้ เค้าบอกว่า ข้างหน้า ซอฟต์แวร์ทั้งหลาย จะต้องเป็น Autonomous Software คือมันขึ้นไปจากซอฟต์แวร์ปกติอีกชั้นหนึ่ง ระบบ Coding จะเปลี่ยนเองเหมือนสิ่งมีชีวิต มากกว่าสิ่งที่เรา Engineer เข้าไป พอมาเห็นตรงนี้แล้วมาถามว่า ประเทศไทยเราจะอยู่แค่นี้พอมั้ย ของเรายังไม่ทันไรต้องมาถามก่อน Internet มีมาแล้ว Last Mile High Speed ยังมีปัญหาอยู่ ซึ่งเราคิดว่าปีหน้าปัญหาเหล่านี้น่าจะจบ จากที่ ดร.สุรพงษ์ ทำไป ปีนี้น่าจะจบ เดี๋ยวเราค่อยกลับมาคุยกัน เราจะต้องเตรียมตัวเราเองมาก ในการที่เข้าไปสู่สังคมฐานความรู้ ก่อนจะไปตรงนี้ผมขอเล่าให้ฟังก่อนว่า ครม.ได้อนุมัติจัดตั้งองค์การมหาชน เป็นองค์การเพื่อการพัฒนาและเผยแพร่ความรู้ให้แก่ประชาชน ซึ่งจะรวมทั้งการส่งเสริมการอ่าน การทำห้องสมุด Living Library การทำ Museum การทำ Design Center ทั้งหลาย ผมจะเสนองบประมาณกลางปี ที่เสนอตอนกลางปีเพราะว่า เราเก็บภาษีได้เกินเป้าประมาณแสนห้าหมื่นล้าน แล้วเราคิดว่าอยากจะให้เศรษฐกิจมันต่อไปอีกนิดนึง เพื่อให้ Investment ภาคเอกชนมัน Firm แล้วรัฐก็จะปล่อยมือได้ละ ก็เลยจะอัดเข้าไปอีกสักแสนกว่าล้าน หมื่นล้านจะไปลงที่นี่ เพื่อที่จะสร้างระบบ สร้างความรู้ให้กับประชาชน อันนี้ ICT ก็จะเกี่ยวข้อง Library ก็จะเป็น จะมีทั้ง E-Library E-Book ทั้งจากไทยและต่างประเทศมากมาย นี่เล่าให้ฟังว่ารัฐบาลได้เตรียมการไว้ ถามว่าข้างหน้าต้องเตรียมอะไรบ้างเนี่ย เตรียมเยอะเลย ถ้าไม่เตรียมก็คงจะสู้เค้าไม่ไหว เรื่องแรกก็เล่าให้ฟัง ท่านก็คงจะรู้มาบ้างแล้ว แต่ผมจะเล่าวิธีคิด ว่าทำไมถึงคิดทำอย่างนี้ เพราะว่าส่วนใหญ่แล้วผมจะผลักดัน แต่ผมก็จะเล่าให้ฟัง เพื่อท่านจะได้คิดต่อ จะได้สร้าง Application ต่อ Application เป็นเรื่องสำคัญ ตอนช่วงเอเปก เบอร์ 2 หรือเบอร์เท่าไหร่ไม่รู้นะ ของไมโครซอฟท์ เครก ก็มาพบผม เค้าบอกว่า เค้ายังเชื่อว่าข้างหน้า เรื่องของ Software Engineer เพราะว่า Software Programming เนี่ย เป็นเรื่องสำคัญ แล้วเป็นเรื่องที่ต้องใช้มาก Programmer ก็จะหายากขึ้น แต่ Programmer ชั้นดีต้องรีบสร้าง ต้องสร้าง เพราะฉะนั้นเราต้องสร้าง ต้องสร้างคน เยอะ เรื่องสร้างคนเดี๋ยวค่อยกลับมา

E-Government : ทุกอย่างมันจะ Transparent ในตัว
 รัฐบาลทำหลายส่วน ส่วนแรกคือ e-Government เรื่องนี้ผมถือเป็น Front Office ซึ่งทุกบริษัทวันนี้มีระบบ Internet ภายในที่ทำเป็น Front Office ทำเป็น E-Service ได้ ทำเป็น E-Payment ได้ เพราะฉะนั้น รัฐบาลก็จำเป็นที่จะต้องให้กระทรวงทุกกรมมีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง เป็น Portal ของส่วนราชการทั้งหมด อันนี้จะเร่งทำ ให้สิ้นปีหน้ามีความสมบูรณ์ อีกไม่กี่วันนี้เค้าจะมา Present ให้ผมฟังแล้ว เค้ามีหมดแล้ว แต่ผมเชื่อว่ายังไม่สมบูรณ์ ยังเชื่อว่า Content ที่อยู่ข้างในยังไม่ค่อย Live สำคัญคือ Content ต้อง Live ใครมีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง แต่เวลาคนเข้ามาแล้วไม่มีอะไรเลย ไม่ Update เลย ระหว่าง Positive กับ Negative มันจะเจ๊ากัน สิ่งที่เป็น Image กับสิ่งที่จะเสีย Image มันจะไปด้วยกัน เพราะฉะนั้น ถ้ามีแล้วต้อง take care ต้อง Update ต้องให้ Content มันเข้าท่า ตรงนี้ต้องทำ อันนี้เป็น Front Office จะมีหมด แล้วก็จะมีต่อไปจนถึงจังหวัด เป็น E-Province สรุปว่าระบบการบริหารส่วนกลางกับส่วนภูมิภาค จะมี Internet เชื่อมถึงกันหมด แล้วก็จะให้ทุกหน่วยไป Stream line การบริการประชาชน ให้การบริการประชาชนนั้นกระชับ เร็วขึ้น เมื่อทางปกติเรียบร้อยแล้วก็เอาขึ้นเว็บ เพื่อให้เป็นบริการผ่านเว็บ เช่น เวลานี้กระทรวงอุตสาหกรรมก็สามารถต่อใบอนุญาตผ่านระบบ Internet ได้ กระทรวงอุตสาหกรรมได้แล้ว ทีนี้ผมบอกว่า ต่อไปนี้เราจะต้องใช้ระบบ Honor System อย่างการต่อใบอนุญาตเนี่ย ทำ Check List ให้เจ้าของโรงงาน Confirm มาเลยว่า สิ่งแวดล้อมถูกต้อง ความสะอาดถูกต้อง ความปลอดภัย สายไฟฟ้า ให้เค้าตรวจเอง แล้วให้เค้า Certify มา แล้วถ้าเราไปสุ่มเช็คแล้วไม่จริงตามนั้นเนี่ย เค้าจะโดนหลายเรื่อง โดนปิดโรงงานได้ โดนแจ้งเท็จได้ คือใช้ระบบ Honor System ถ้าเค้ามีเกียรติยศพอ เค้าก็จะใช้บริการนี้ได้ แล้วก็ชำระเงินผ่าน Payment Gateway ทั้งหลาย ซึ่งสิ้นปีหน้าน่าจะสมบูรณ์ แล้วขณะเดียวกัน Back Office เราใช้ระบบ Back Office ก็คือ GFMIS (Government Financial Management Information System) เข้าใจว่า Software เค้าจะใช้ของ SAP หรือไงเนี่ย ไม่แน่ใจ ก็จะทำให้ระบบการจ่ายเงิน คนที่ทำมาหากินกับรัฐบาลไม่ต้องไปรอ Cheque ใช้ Fund Transfer ได้ หรือว่าจะใช้บาทเน็ตได้ ได้ทั้งหมด มันเชื่อมกันหมด เชื่อมทั้งระบบ ไม่ต้องเสียเวลาหยอดน้ำมัน ไม่ต้องแล้ว ใช้คลิกเอา ระบบมันจะ Transparent ขึ้น ทุกอย่างมันจะ Transparent ในตัว เพราะระบบมันบังคับให้ทุกฝ่ายต้อง Transparent ระบบ E-Government ที่เป็น Front Office รัฐบาลจะต้องสร้างราชการที่เป็น Knowledge Worker ตามที่ บิลล์ เกตส์ บอก ตัดสินใจได้เพราะมีข้อมูลอยู่เฉพาะหน้าตัวเอง ตัดสินใจทำอะไรได้เลย แล้วข้อมูลทั้งหมดมันเข้า Server แล้วสามารถดึงออกมา เพื่อให้รัฐบาลรู้ปัญหาของประเทศได้ทั้งหมด สามารถตัดสินใจแก้ปัญหาได้แต่เนิ่นๆ ตัวเลขที่ผิดแผกไปก็สามารถ Detect แล้วแก้ได้เรื่อยๆ ได้ล่วงหน้า GFMIS เช่นกัน ตัวเลขจะเห็นชัด สามารถเปรียบเทียบได้ ว่าทำไมกรมหนึ่งซื้อของอย่างเดียวกันแพงกว่าอีกกรมหนึ่งซื้อ จะถูกเปรียบเทียบหมดครับ ระบบพวกนี้จะถูกเปรียบเทียบหมด ต่อไปข้างหน้าเมื่อระบบนี้เสร็จ ระบบงบประมาณก็จะเปลี่ยนไป ก็จะมีระบบที่สามารถเอาตัวเลขต่างๆ มาเปรียบเทียบวัด ตั้งงบประมาณใช้ระบบ Benchmark ทำให้ระบบงบประมาณก็คล่องขึ้น นี่คือสิ่งที่ทำในส่วนนี้

บันทึกการเข้า
Tam-mic-ra
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 603


« ตอบ #1 เมื่อ: 31-10-2006, 01:50 »

ยังมีต่ออีกเยอะ ไปอ่านเองละกัน

http://www.thaisnews.com/prdnews/ict/

สงสัยว่า
คนชั่ว เลว คนโกง ขาดจริยธรรม มีผลประโยชน์ทับซ้อน  ทำไมพูดดีมีวิสัยทัศน์แบบนี้นะ

เห็นบ่อยๆๆ จากการยืนพูดสดออกจากหัวสมอง  ต่างอย่างสิ้นเชิงกับผู้นำบางคนที่ใส่แว่นตายืนอ่านใบบอก แบบก้มอ่านไปพูดไป

โจรชั่วโกงชาติมันมีความรู้-มีวิสัยทัศน์ในหัวแบบนี้  มันจะปล้นชาติเขากินอีก ทำไมร่ะ

แต่กับอีกฝ่ายยืนหัวหงอกพูดสดเหมือนกัน  แต่บนเวทีพันทมิตร  ที่จูงใจคนฟังยังไง
จัดเวทีด่าแบบเลรีมาตั้งนานหลายเดือน  ก็ได้คะแนนเสียงไม่พอ   

เลือกตั้ง 2 เมษา ที่ผ่านมาเป็นคำตอบได้ดี   
บันทึกการเข้า
Tam-mic-ra
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 603


« ตอบ #2 เมื่อ: 31-10-2006, 02:02 »

อันนี้ชอบมากสุด  รู้ปัญหาที่แท้จริง   กล้าพูดถึงสิ่งที่มีปัญหาของไทยออกมา  ไม่ปกปิด


เทคโนโลยีสูง จิตใจต้องสูงด้วย
ปีหน้าทั้งปี รัฐบาลจะสนับสนุน การใช้ Internet ในทุกๆ ภาค รัฐบาลใช้ทั้ง Front Office, Back Office และใช้ Service ลงไปถึงระดับจังหวัด, ส่งเสริมการใช้ Software, ส่งเสริมอุตสาหกรรม Animation, ส่งเสริมให้เกิดการใช้ Internet ในราคาถูกลง แล้วจะควบคุม Internet ที่ไม่สร้างสรรค์ อันนี้ขอเตือนย้ำอีกครั้งว่า อันไหนคนไหนที่ทำลายเยาวชน ทำร้ายเยาวชน เจ็บตัวแน่ เพราะรัฐบาลนี้ต้องปกป้องเด็กเยาวชน ประเภทไปทำ ไปมอมเมา ไปอะไรพวกนี้ จะโดนหลายมาตรการ เพราะฉะนั้นการมอมเมาเยาวชนวันนี้ ต้องขอให้คนที่อยู่ในวง ICT ที่มีความรู้สูง ต้องจิตใจสูงด้วย ถ้าความรู้สูงจิตใจต่ำไม่ดี ไปขายเซ็กซ์เกม ขายอะไรพวกนี้ สงสัยจะเหนื่อยหน่อย เพราะต่อไปนี้เราเอาจริงละ ที่หาเงินมาได้ทั้งหมดอาจจะหมดตัวได้ ถ้าหาเงินโดยมิชอบ อันนี้ต้องขอว่า เทคโนโลยีสูง จิตใจต้องสูงด้วย อยากจะฝากคนในแวดวงนี้ว่า ขอให้ช่วยกันคนละไม้ละมือ ผลักดันปีหน้าให้เป็นปีแห่ง ICT เป็นปีที่ ICT จะถูกนำไปกระจาย ใช้ให้เกิดประโยชน์ เกิดความเข้มแข็งของสังคมไทยในทุกภาคส่วน แล้วผมจะส่งเสริมที่สำคัญอีกอันหนึ่งก็คือ ส่งเสริมการผลิตคอมพิวเตอร์ในประเทศไทยให้เต็มที่ แต่ต้องยอมรับว่าเราช้าไปนิดนึงสำหรับตรงนี้ Software จะเป็นสิ่งที่ส่งเสริมง่ายกว่า

บันทึกการเข้า
สี่หามสามแห่
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,460



« ตอบ #3 เมื่อ: 31-10-2006, 02:22 »

โจรท่องศีลห้า แต่ก็ยังฆ่าคนเวลาปล้น ..
บันทึกการเข้า
qazwsx
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,359


นักธุรกิจและตำรวจ ต้องออกไปจากการเมือง


« ตอบ #4 เมื่อ: 31-10-2006, 03:03 »

เพราะ "ชั่ว - เลว - โกง" นั่นล่ะ จึงต้อง "โกหก" ให้แนบเนียน 

เพื่อให้ความชั่วของตนถูกมองข้าม
เพื่อให้ความเลวของตนถูกบิดเบือน
เพื่อให้สันดานโกงของตนถูกประยุกต์จนสำเร็จกิจ

เฉกเช่นเดียวกับ "นักตกทอง"
หรือ "แมงดาจิ๊กกาโล่ ( แมงดาประเภท่ใช้ฝีปากหลอกล่อหญิงสาวออกมาจากครอบครัว  เืพื่อให้ "แมงดามาแฟีย" ขู่เข็ญบังคับเอาอีกต่อหนึ่ง )"
หรือ "นักต้มตุ๋น ( ตัวอย่างเช่น  แฟรงค์  อบาเกล )"

คนชั่ว - เลว - โกง
ประเภทเอาเข้าจริงก็สู้ใครไม่เป็น  พฤติกรรมแหยเฝ่น - ขี้ขลาดตาขาว
...นำได้แต่พวกโง่เง่า
...นำได้แต่พวกเห็นแก่เงินสินบน
 
คน "ชั่ว - เลว - โกง" ประเภท "แมงดาจิ๊กกาโล่"
จำเป็นต้องใช้ลีลา
จำเป็นต้องศึกษาหาความรู้
เช่น  หาคำพูดหรือกิริยาท่าทางตา่ง ๆ มาเพื่อ "เป็นอาภรณ์ส่งเสริมตน ( บุคลิกภาพ )"  ให้ดูดีมีความน่าเชื่อถือ
เพราะ "ภาพลักษณ์เป็นสิ่งมีค่าเพียงอย่างเดียวของคนชั่ว - เลว - โกง" 


นอกนั้น
"กลวงโบ๋เหมือนลมตด"
ไม่มีแม้แต่กากเยี่ยงขี้
ไม่มีแม้แต่กลิ่นเยี่ยงเยี่ยว


บทความที่คุณ Tam-mic-ra พยายาม "ขุดขึ้นมา" อ้างเพื่อสรรหาความชื่นชมในกระทู้นี้
หากไปถามนายทักษิณ
...ตัวของนายทักษิณก็คงจะลืมไปแล้ว
...หรือหากมีการ "ตัดต่อ" ใส่วรรคตอนหรือวลี "อันไม่สอดคล้องกัยสารัตถะ" เข้าไป
...ตัวของนายทักษิณก็คงไม่รู้หรอก


อีกทั้งตรรกของคุณ Tam-mic-ra ดูแปลก ๆ แปร่ง ๆ
พยายาม "เชื่อมโยง" เรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกันแบบแถกไถ

เช่น คำปราศรัยของนายทักษิณเกี่ยวข้องกับเรื่อง IT
แต่คุณ Tam-mic-ra ยกไปถึงเรื่องผลการเลือกตั้ง "พรรคเดียว" ( ทำไมคุณไม่ยกพระราชดำรัส ฯ อันเกี่ยวเนื่องกับคำสั่งศาลให้การเลือกตั้งครั้งนั้นเป็นโมฆะ มาไว้ซะด้วยกันล่ะ...เผื่อคุณ Tam-mic-ra จะได้ชื่อว่า "ตอกพระพักตร์หงายไปเลย" ซะด้วย ) ซึ่ง "คนเมืองไม่เอา"
...คนเมืองคงไม่รู้จัก IT มากไปกว่า 16 ล้านเสียง ( หายไป 3 ล้านเสียง ) ที่เลือกไทยรักไทย สินะ ???




โดน "ตกทอง" ไปแล้วยังไม่รู้ตัว
ยังจะแอ่นให้มัน "จกไข่" ซ้ำ
ก็สมควรแล้ว  ที่เป็นลิ่วล้อของคนอย่างมัน
เป็นอย่างที่ผมระบุไว้ด้วยตัวอักษรสีเขียวนั่นไง

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-10-2006, 03:44 โดย qazwsx » บันทึกการเข้า

Tam-mic-ra
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 603


« ตอบ #5 เมื่อ: 31-10-2006, 03:54 »

"พระราชดำรัส ฯ อันเกี่ยวเนื่องกับคำสั่งศาลให้การเลือกตั้งครั้งนั้นเป็นโมฆะ"

 

ผมงงมาก เพราะเท่าที่ดูทีวีและฟังพระราชดำรัสในขณะนั้น  ไม่มีให้การเลือกตั้งครั้งนั้นเป็นโมฆะนี่นา

เท่าที่ผมฟังดู  คือทรงรับสั่งให้ ศาลตัดสินคดีต่างๆของทั้งสองฝ่าย ให้กระจ่างมากกว่า  ประชาชนจะได้รับรู้ จะได้ลดความขัดแย้งลง


คุณอย่าไปอ้างเบื้องสูงสิ่  เอะอะๆ  ก็อ้าง   แป๊ปๆ  เดี๋ยวก็อ้างอีก
เดี๋ยวก็ต้องประกันตัว 2 แสนบาทคดีจาบจ้วง  เหมือนนายกะทิ  ที่ออกมาน้อยใจงอแง คมช.  แบบเวลานี้ไง

ถ้าจะเอาประเด็นนี้ ผมขอว่า คุณตั้งกะทู้ใหม่เรื่องนี้ดีกว่า  ผมจะเอาพระราชดำรัสเรื่อง ม7  ที่ชัดเจนไปให้อ่าน

ปล.  ลิ๊งที่ผมให้ไว้เป็นของ สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์
ปล่อยไก่ตัวเบ้อเร่อ     ถ้ามีการตัดต่อคำพูดของทักษิณ  คุณไปแจ้งความสำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์
ได้เลย 
บันทึกการเข้า
qazwsx
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,359


นักธุรกิจและตำรวจ ต้องออกไปจากการเมือง


« ตอบ #6 เมื่อ: 31-10-2006, 04:08 »


แล้วใน คคห.ของผม "ตรงไหน" ล่ะ ที่ระบุว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ มีพระราชดำรัสให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ ??

คุณพยายาม "ลาก" เข้าไปเองอีกแล้วนะคุณ Tam-mic-ra
จะลากผมเข้าคุกน่ะ
คิดดี ๆ
หรืออยากจะลองดูกันจริง ๆ สักตั้งก็ดีเหมือนกัน
ผมก็อยากรู้ว่าคุณและพรรคพวกที่ช่วยกันอยู่ในขณะนี้แม่นยำเรื่องการใช้สำนวนทวนความสักแต่ไหน


และผมคงไม่อธิบายว่าทำไมผมจึงยกเอา "พระราชดำรัส" ขึ้นมา "ขจัดความเขลา" ของคุณในกระทู้นี้
แต่ด้วยเหตุที่ "คุณเชื่อว่าการเลือกตั้งคือบทพิสูจน์ความดีของคน"
ผมจึงจำเป็นต้อง "ทำให้ตระหนักว่าการเลือกตั้งไม่ใช่สิ่งที่จะนำมาอ้างอะไรได้ ( มันจึงกลายเป็นโมฆะ - ไม่ถือว่ามี )"


ก็อยากเจอกันจริง ๆ - เจอตัวเป็น ๆ ของคุณ Tam-mic-ra ที่โรงพักหรือศาล
คุณจะใช้ทนายความค่าตัวแพงลิบลิ่วอย่างไรก็ตามใจ
...ส่วนผม  ขอใช้เท่าค่าตัวผมนั่นล่ะ
...ไม่ถูก - ไม่แพงไปกว่าพี่ทองใบ
เตรียมเงินไว้ก็แล้วกัน
ตั้งแต่ไอ้แม้วจากไปลอนดอน  บริษัทผมก็ไม่ค่อยมีงาน 
อาจต้องหาเงินแต๊ะเอียให้ตัวเองเอาจากคุณนี่ล่ะ
บันทึกการเข้า

ดอกฟ้ากับหมาวัด
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,042



« ตอบ #7 เมื่อ: 31-10-2006, 04:11 »

อิ อิ จายเย็นๆ ค่ะ ปู่เย็น ทะเลาะกับพวกเห็นขี้เป็นทองเนี่ยเหนื่อยป่าว
บันทึกการเข้า

***ผู้ยิ่งใหญ่ในแผ่นดินเปรียบเสมือนเรือ ประชาชนเปรียบเสมือนน้ำ

      น้ำพยุงเรือให้แล่นไปได้ และน้ำก็จมเรือได้เช่นกัน***
ดอกฟ้ากับหมาวัด
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,042



« ตอบ #8 เมื่อ: 31-10-2006, 04:29 »

โอ๊ยย.....กลัวผีหลอกไปดีก่า ชแว๊ปป....
บันทึกการเข้า

***ผู้ยิ่งใหญ่ในแผ่นดินเปรียบเสมือนเรือ ประชาชนเปรียบเสมือนน้ำ

      น้ำพยุงเรือให้แล่นไปได้ และน้ำก็จมเรือได้เช่นกัน***
stromman
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 526



« ตอบ #9 เมื่อ: 31-10-2006, 07:45 »

ไอ้คนไม่มีศาสนาพันธุ์เหลี่ยม ชอบยกธรรมะ แต่คำที่ว่าเลวที่สุดยังดีเกินไปสำหรับมัน จาไปยกยอมันให้แสดงความง่าวของตัวเองทามไม ตลกอีกแล้ว
บันทึกการเข้า
นู๋เจ๋ง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,877



« ตอบ #10 เมื่อ: 31-10-2006, 08:15 »

พูดตั้งแต่ปี 2546 เวลาพูดก็มีผู้เชี่ยวชาญร่างให้ มันมีหน้าที่อ่านตามบทอย่างเดียว

ตอนนั้นมันก็ยังเนียนอยู่ การหลงระเริงในอำนาจยังต่ำ

ปี 2549 มันฝึกวรยุทธ ชั่ว สำเร็จขั้นสุดยอด

กำลังภานใน + สรรดารภายในแตกซ่าน

เลยต้องโดนกำจัด ออกไปนอกยุทธจักร

เดินไปไหนคนก็ยังขว้างปา ตะโกนด่าทั่วสารทิศ

ภาคสอง โปรดติดตาม เมียพญามาร จะออกฉาย ให้ชม เร็วๆนี้
บันทึกการเข้า

~จะแน่วแน่...แก้ไข...ในสิ่งผิด~
p
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,264


« ตอบ #11 เมื่อ: 31-10-2006, 08:46 »

สงสัยว่า
คนชั่ว เลว คนโกง ขาดจริยธรรม มีผลประโยชน์ทับซ้อน  ทำไมพูดดีมีวิสัยทัศน์แบบนี้นะ ...
... โจรชั่วโกงชาติมันมีความรู้-มีวิสัยทัศน์ในหัวแบบนี้  มันจะปล้นชาติเขากินอีก ทำไมร่ะ

"ระยะทางพิสูจน์ม้า
เวลาพิสูจน์คน
"
เป็นสัจธรรมที่ควรคำนึงถึงครับ
เราเห็นเขาหน้าตาดี
เราเห็นเขาพูดดี มีวิสัยทัศน์
ก็หลงเขาแล้ว
คิดผิดครับ
จะให้ดีคงต้องดูกันไปนานๆครับ


 
บันทึกการเข้า

ถ้ามัวคิดแต่จะโกงและเอาเปรียบคนอื่น จะสอนลูกหลานให้เป็นคนดีได้อย่างไร
login not found
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,523



« ตอบ #12 เมื่อ: 31-10-2006, 08:59 »

สงสัยว่า
คนชั่ว เลว คนโกง ขาดจริยธรรม มีผลประโยชน์ทับซ้อน  ทำไมพูดดีมีวิสัยทัศน์แบบนี้นะ ...
... โจรชั่วโกงชาติมันมีความรู้-มีวิสัยทัศน์ในหัวแบบนี้  มันจะปล้นชาติเขากินอีก ทำไมร่ะ

"ระยะทางพิสูจน์ม้า
เวลาพิสูจน์คน
"
เป็นสัจธรรมที่ควรคำนึงถึงครับ
เราเห็นเขาหน้าตาดี
เราเห็นเขาพูดดี มีวิสัยทัศน์
ก็หลงเขาแล้ว
คิดผิดครับ
จะให้ดีคงต้องดูกันไปนานๆครับ


 

ก็เพราะมันเป็นโจรชั่วที่มีวิสัยทัศน์(ต่ำๆ)น่ะสิ
ถึงต้องจับให้มั่นคั้นให้ตาย
ขืนเก็บเอาไว้ประเทศชาติฉิบหายหมด
บันทึกการเข้า
irq5
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,149



« ตอบ #13 เมื่อ: 31-10-2006, 10:32 »

 


ใกล้แล้วหละคิดได้แค่นี้นะ

 
บันทึกการเข้า

.:MMMMMMMMMMMMMMMMMMMMMddMMMs..
.:MMMMMMMMMMMMMMMMMMMMMssMMMMs..
.:Mddddddddddddddddddddddddddo+ddddNs..
.:M................................................hs..
.:M.............//:................//:.............hs..
.:M...........:MMs.............NMd............hs..
.:M................................................hs..
.:M................................................hs..
.:M.............yNNNNNNNNNN................hs..
.:M.................................................hs..
.:dyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyho..

....W..W::W:...AAA...NN...N...TTTTT..EEEEE...DDD..........
.....Ww.wW...AAAA..N..N..N......T.....EEE......D....D.......
.....-W...W...A......A N....NN......T.....EEEEE...DDD..........
. . . . . . . . . . . . thaksin shinawatra
RiDKuN
Administrator
ขาประจำขั้นที่ 3
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,015



เว็บไซต์
« ตอบ #14 เมื่อ: 31-10-2006, 11:58 »

หลงใหลกับสุนทรพจน์มากไป จนไม่ดูความเป็นจริงหรือเปล่า 
บันทึกการเข้า

คนไม่มี "อุดมคติ" ไม่ใช่ "นักการเมือง"
Tam-mic-ra
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 603


« ตอบ #15 เมื่อ: 31-10-2006, 12:30 »

ตั้งแต่ไอ้แม้วจากไปลอนดอน  บริษัทผมก็ไม่ค่อยมีงาน 
อันนี้เสียใจด้วยละกัน

เอาล่ะ   คุณจะยกว่า การเลือกตั้งพรรคเดียว วันที่ 2เมษา ไม่เป็นประชาธิปไตย  ผมก็ไม่เถียงปะเด็นนี้
ถ้ามองไนแง่กลางๆ  มันก็เป็นเพราะ  พรรคใหญ่หลายพรรคที่รวมตัวกันบอยคอต  เพราะรู้ว่าแพ้แน่ๆ
แต่ถ้าคุณจะแถไปอีกว่า เป็นเพราะ ทักษิณยุบสภาหนี-ยุบสภาไม่ชอบธรรม   มันก็ยืดยาวอีกเพราะคำตอบมันมีทั้งหมด อยากรู้ไหมล่ะ??

แต่จำนวนคะแนนที่ออกมา  ทรท ก็ชนะอยู่ดี   ไม่ว่าจะโมฆะหรือไม่


นอกจากลูกพรรค ทรท บางคนที่อาจจะใช้วิธีซื้อเสียงแบบเดิมๆ

ผู้นำที่พูดจาคล่องแคล่วแบบนี้  ไม่ต้องใช้เงินซื้อเสียงหรอก  แค่โชว์วิสัยทัศน์ ก็ดึงดูดใจประชาชนไปได้ค่อนประเทศแล้ว
บันทึกการเข้า
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #16 เมื่อ: 31-10-2006, 12:31 »

มันกะล่อนตั้งแต่ประโยคทักทาย แค่ขอสัมปทานดาวเทียม กับ เคเบิ้ลทีวี มันบอก ไม่รู้จัก IT

มันง่าวขนาดใหน

มันน่าเอาอะไรจุกปากตั้งแต่ประโยคแรก ๆ ถ้าพูดเรื่องโกง...อาจรู้ดีที่สุด
บันทึกการเข้า

Tam-mic-ra
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 603


« ตอบ #17 เมื่อ: 31-10-2006, 13:09 »

มันกะล่อนตั้งแต่ประโยคทักทาย แค่ขอสัมปทานดาวเทียม กับ เคเบิ้ลทีวี มันบอก ไม่รู้จัก IT

มันง่าวขนาดใหน

มันน่าเอาอะไรจุกปากตั้งแต่ประโยคแรก ๆ ถ้าพูดเรื่องโกง...อาจรู้ดีที่สุด


ตรงไหนอ่ะ ลุง
บันทึกการเข้า
55555
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,263



« ตอบ #18 เมื่อ: 31-10-2006, 14:46 »

ตั้งแต่ไอ้แม้วจากไปลอนดอน  บริษัทผมก็ไม่ค่อยมีงาน 
อันนี้เสียใจด้วยละกัน

เอาล่ะ   คุณจะยกว่า การเลือกตั้งพรรคเดียว วันที่ 2เมษา ไม่เป็นประชาธิปไตย  ผมก็ไม่เถียงปะเด็นนี้
ถ้ามองไนแง่กลางๆ  มันก็เป็นเพราะ  พรรคใหญ่หลายพรรคที่รวมตัวกันบอยคอต  เพราะรู้ว่าแพ้แน่ๆ
แต่ถ้าคุณจะแถไปอีกว่า เป็นเพราะ ทักษิณยุบสภาหนี-ยุบสภาไม่ชอบธรรม   มันก็ยืดยาวอีกเพราะคำตอบมันมีทั้งหมด อยากรู้ไหมล่ะ??

แต่จำนวนคะแนนที่ออกมา  ทรท ก็ชนะอยู่ดี   ไม่ว่าจะโมฆะหรือไม่


นอกจากลูกพรรค ทรท บางคนที่อาจจะใช้วิธีซื้อเสียงแบบเดิมๆ

ผู้นำที่พูดจาคล่องแคล่วแบบนี้  ไม่ต้องใช้เงินซื้อเสียงหรอก  แค่โชว์วิสัยทัศน์ ก็ดึงดูดใจประชาชนไปได้ค่อนประเทศแล้ว

เอาสั้น ๆ ก็แล้วกัน ตอนทียุบสภาใหม่ ๆ พรรคฝ่ายค้าน เค้าขอให้มาลงสัตยาบรรณเพื่อให้เป็นข้อสัญญาในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แล้วเค้าจะลงเลือกตั้ง ตอนนั้นทำไมไม่ไปลงสัตยาบรรณล่ะ ไม่งั้นเรื่องการเลือกตั้งก็จบแล้ว แต่เหลี่ยมดันเลือกบิดไปเป็นสัญญาประชาคมหลังจากที่เค้าประกาศไม่ลงเลือกตั้ง แล้วดันไปเรียกพรรคไม่ประดับมาเข้ามาให้มันดูสวยงามอีก........เค้าก็เลยปล่อยให้แข่งกับไม้ประดับไปดิ
บันทึกการเข้า
Tam-mic-ra
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 603


« ตอบ #19 เมื่อ: 31-10-2006, 15:20 »

ลงสัตยาบรรณ  แล้วจะลงเลือกตั้ง
ขอข้อมูลหน่อย  ช่วงนั้นผมไม่ค่อยอ่านข่าว 

รออยู่นะครับ  ถ้าหาไม่เจอไม่เป็นไร  ขอบคุณล่วงหน้าครับ
บันทึกการเข้า
55555
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,263



« ตอบ #20 เมื่อ: 31-10-2006, 15:33 »

ข่าวมันเก่ามาก หลังยุบสภา 1-2 วันครับ ออกทีวีเกือบทุกช่อง.........ลองไปค้นดูครับ
บันทึกการเข้า
55555
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,263



« ตอบ #21 เมื่อ: 31-10-2006, 15:42 »

แถลงการณ์ร่วม

พรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทย พรรคมหาชน


กราบเรียน พี่น้องประชาชนชาวไทย ที่เคารพรักยิ่ง

หลังการประกาศยุบสภาผู้แทนราษฎร ของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หัวหน้าพรรคไทยรักไทย เมื่อวันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๙ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทย และพรรคมหาชน ได้ติดตามสถานการณ์ทางการเมืองอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา และร่วมกันปรึกษาหารือด้วยความเป็นห่วงต่ออนาคตของประเทศชาติ เรามีความเห็นตรงกันว่า การยุบสภา ไม่ใช่เป็นคำตอบของการแก้ปัญหาของประเทศ เพราะปัญหามาจากตัวนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรเอง และการเลือกตั้งก็ไม่ใช่ทางออกในการแก้ปัญหา พรรคการเมืองทั้งสามจึงพยายามหาแนวทางที่ถูกต้อง ตามระบอบประชาธิปไตยในการแก้ไขวิกฤติของประเทศที่ดำรงอยู่

พรรคการเมืองทั้งสามเห็นว่า การปฏิรูปการเมืองที่ เป็นทางออกที่เหมาะสมที่สุดคือการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ให้มีคนกลางที่มีความน่าเชื่อถือ เป็นผู้ดำเนินการยกร่าง ขณะเดียวกันให้ฝ่ายการเมืองซึ่งประกอบด้วยพรรคการเมือง ๔ พรรคที่เคยมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่เพิ่งพ้นวาระไป มาปรึกษาหารือร่วมกัน ในการปฏิรูปการเมืองตามแนวทางนี้ และพรรคการเมืองทั้งสี่จะต้องแสดงเจตนารมณ์ในการผลักดันการปฏิรูปการเมืองดังกล่าวภายในวันนี้ ด้วยการลงสัตยาบันร่วมกัน ก่อนที่จะเข้าสู่การเลือกตั้ง เพื่อเป็นหลักประกันที่จะให้เจตนารมณ์ดังกล่าวเป็นจริงบัดนี้ ข้อเสนอของพรรคการเมืองทั้งสาม กลับไม่ได้รับการสนองตอบจากพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร หัวหน้าพรรคไทยรักไทย โดยได้ออกแถลงต่อสาธารณชนปฏิเสธการลงสัตยาบัน โดยอ้างว่าเพียงให้สัญญาประชาคมก็เพียงพอแล้ว ทั้งยังเบี่ยงเบนประเด็น และสร้างกระบวนการอื่นเพื่อรองรับวิธีการของตนเอง ที่ไม่ต้องการผูกมัด ทำให้ไม่มีความแน่นอนว่า การปฏิรูปการเมืองจะเกิดขึ้นได้ และวิกฤติของประเทศที่มีดำรงอยู่ ก็ไม่มีหลักประกันว่าจะคลี่คลายลงได้ในที่สุด

เมื่อเป็นเช่นนี้ การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นจึงไม่มีคำตอบในการแก้ไขปัญหาของประเทศ แต่จะเป็นเพียงเครื่องมือสนองตอบต่อแนวทางที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ขีดเส้นไว้ ซึ่งรังแต่จะทำให้สถานการณ์ก่อนการเลือกตั้งลุกลามบานปลาย จนก่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศอย่างใหญ่หลวงได้

หัวหน้าพรรคการเมืองทั้งสาม ประกอบด้วย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย และพล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ หัวหน้าพรรคมหาชน ได้ประชุมหารือกันอย่างรอบคอบ โดยยึดถือผลประโยชน์ของประเทศชาติและระบอบประชาธิปไตยเป็นสำคัญ แล้วมีมติร่วมกันดังนี้

๑.พรรคการเมืองทั้งสามไม่อาจเข้าร่วมประชุมกับพรรคไทยรักไทย ตามคำนัดหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในเวลา ๑๘.๐๐ น. วันเดียวกันนี้ได้ เนื่องจากการประชุมที่จัดขึ้นดังกล่าว เป็นคนละเจตนารมณ์โดยสิ้นเชิง

๒.พรรคการเมืองทั้งสาม เห็นว่าภาวะการณ์เช่นนี้ยังจะทำให้การเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น ส่อแนวโน้มว่าไม่อาจจะเป็นไปโดยบริสุทธิ์ ยุติธรรม ตามวิถีทางประชาธิปไตยได้ ตรงกันข้ามยิ่งจะดำเนินไปตามแนวทางที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กำหนดโดยสิ้นเชิง ทั้งสามพรรคจึงตัดสินใจไม่ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งในการเลือกตั้งที่จะถึงนี้ และจะดำเนินกิจกรรมทางการเมืองภายใต้กรอบกติกาประชาธิปไตยต่อไป

จึงกราบเรียนมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน


นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์

นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย

พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ หัวหน้าพรรคมหาชน


27-2-49

http://www.democrat.or.th/viewnews.asp?id_head=6357&id_main=63.130&p=0&ca=62&mt=236.2.174.249.199.255.33.218.213.83.105.149.238.156.229.206.121.62.115.209.166.255.119&st=172.102.168.190.167.250.47.206
บันทึกการเข้า
Cherub Rock
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,183


น้องๆ ช่วยไปบอกผู้หญิงคนนั้นที ว่าเลิกมองผมได้แล้ว


« ตอบ #22 เมื่อ: 31-10-2006, 15:51 »


บิลเกตต์คิดมาตั้ง 10 ปีแล้วว
สงสัยเหลี่ยมเพิ่งอ่าน 
บันทึกการเข้า

"นายกรัฐมนตรีกำลังใช้รัฐสภาประกอบพิธีกรรมสถาปนาอำนาจของตนเองโดยเห็นรัฐสภาเป็นเพียงแค่ตรายาง และปล่อยให้มีการทำร้ายประชาชนถือว่าหมดความชอบธรรมแล้ว" รสนา โตสิตระกูล
ผมเองครับ
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 101



« ตอบ #23 เมื่อ: 31-10-2006, 16:25 »




ผมว่าที่ ทรท ได้คะแนนเสียง ใน วันที่ 2 เมษายน  ก้เพราะว่าไป โกงคะแนน ใส่ บัตรผีลงไปมั่ง อ้อ แล้วก็หันตูดออกให้ประชาชีให้เห็นมั่งล่ะ เอาเงินไปให้ชาวบ้านที่ยังไม่มีข้อมูลไม่พอ มั่งล่ะ       หรือว่าจะเถียง
บันทึกการเข้า
อมพระมาพูด
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 918


สนิมเกิดแต่เนื้อในตน


« ตอบ #24 เมื่อ: 31-10-2006, 16:32 »


พวกนี้ก้อชอบอ้างหยั่งงี้แร่ะ ไม่มองคะแนนโนโหวต ไม่มองว่าในหลวงท่านติงว่าไม่เป็นประชาธิปไตย เถียงอย่างเดียวคะแนนกรูมาก กรูชนะเลือกตั้ง แล้วที่ไอ้สามหนาถูกจับติดคุกไม่เห็นเอ่ยถึง
บันทึกการเข้า

พึงทำความเพียรในวันนี้ ใครเล่าจะรู้วันตายในวันพรุ่ง
Tam-mic-ra
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 603


« ตอบ #25 เมื่อ: 31-10-2006, 16:36 »

ฟังดูก็แค่ข้อใส่ร้ายทั้งนั้น  ซ้ำๆ เดิมๆ

เอาเรื่องกะทู้ผมดีกว่า

ทักษิณวิสัยทัศน์กว้างไกล เลื่องระบือ  ต่างประเทศ สนใจ หันมาจับตามอง




ท่านประธานรัฐสภาที่เคารพ
              ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้กระผมดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ตามประกาศพระบรมราชโองการ ลงวันที่ ๙ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๔๘ และแต่งตั้งคณะรัฐมนตรี ตามประกาศ พระบรมราชโองการ ลงวันที่ ๑๑ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๔๘ นั้น
              บัดนี้คณะรัฐมนตรีได้กำหนดนโยบายการบริหารราชการแผ่นดินเรียบร้อยแล้วโดยยึดมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตยในระบบรัฐสภาอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งเป็นระบอบการ ปกครองและสถาบันที่พึงปรารถนา และเหมาะสมสอดคล้องกับวิถีชีวิตของชนชาวไทยอย่างแท้จริง และครอบคลุมถึงแนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐ ตามบทบัญญัติในหมวด ๕ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย คณะรัฐมนตรีจึงขอแถลงนโยบายดังกล่าวต่อที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา เพื่อให้ทราบถึงเจตนารมณ์ ยุทธศาสตร์ และนโยบายของรัฐบาล ในการสร้างเสถียรภาพและความมั่นคงก้าวหน้าในการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองการปกครอง เพื่อประโยชน์สุขของประเทศชาติและประชาชนชาวไทยทุกคน

ท่านประธานรัฐสภาที่เคารพ
              โดยที่รัฐบาลคณะนี้บริหารราชการแผ่นดินต่อเนื่องจากรัฐบาลคณะที่แล้วและได้ประกาศนโยบายในระหว่างการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรว่าสี่ปีที่ผ่านมาเป็นช่วงเวลาแห่งการซ่อมความหายนะจากวิกฤตของประเทศ แต่สี่ปีต่อจากนี้ไปเป็นช่วงเวลาแห่งการสร้างชาติให้แข็งแกร่งยั่งยืน ดังนั้น รัฐบาลจึงจำเป็นที่จะต้องขอรายงานให้เห็นภาพในอดีตเพื่อความต่อเนื่องเชื่อมโยงไปยังอนาคต กล่าวคือ เมื่อรัฐบาลเข้าบริหารราชการแผ่นดิน เมื่อวันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๔ ประเทศไทยในขณะนั้น กำลังเผชิญภาวะเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มชะลอตัวลงอันเนื่องจากระบบเศรษฐกิจไทยยังพึ่งพาต่างประเทศสูง โดยเฉพาะใน ไตรมาสแรกของปี ๒๕๔๔ เศรษฐกิจขยายตัวได้เพียงร้อยละ ๑.๗ เท่านั้น มูลค่าการส่งออกสินค้าลดลง ร้อยละ ๑.๓ ค่าเงินบาทอ่อนตัวลงอย่างมากอยู่ที่ประมาณ ๔๓.๒ บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ หนี้สาธารณะสูงถึงร้อยละ ๕๕.๙ ของผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติหรือ GDP จำนวนคนว่างงานยังคงสูงถึง ๑.๒ ล้านคน และจำนวนคนจนมีมากถึง ๘.๙ ล้านคน จึงมีความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องเอาใจใส่และทุ่มเทเป็นพิเศษในการบริหารให้ประเทศรอดพ้นจากวิกฤตเศรษฐกิจ                ในช่วงที่เป็นรัฐบาลในสมัยแรกได้ปรับแนวคิดในการแก้ไขปัญหาของประเทศ โดยดำเนินนโยบายและยุทธศาสตร์คู่ขนาน กล่าวคือ ให้ความสำคัญแก่การกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับรากหญ้าและสังคม ผู้ประกอบการรายย่อย ซึ่งเกี่ยวข้องกับคนส่วนใหญ่ โดยการลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ และขยายโอกาส ควบคู่ไปกับการสร้างความเข้มแข็งให้แก่ภาคการผลิตและบริการให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก โดยคำนึงถึงการสร้างเสถียรภาพในระบบเศรษฐกิจ และมุ่งเน้นการบริหารการเงินการคลังอย่างมีประสิทธิภาพ
               ผลการดำเนินนโยบายของรัฐบาลตลอดสี่ปีที่ผ่านมา ได้ทำให้เศรษฐกิจขยายตัวสูงถึงร้อยละ ๖.๙ และร้อยละ ๖.๑ ในปี ๒๕๔๖ และ ๒๕๔๗ ตามลำดับ ค่าเงินบาทมีเสถียรภาพมากขึ้นที่ระดับประมาณ ๔๐ บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ มูลค่าการส่งออกขยายตัวสูงถึงร้อยละ ๒๓ ในปี ๒๕๔๗ อันเนื่องมาจากการเจรจาเปิดการค้าเสรีกับหลายประเทศ และการพัฒนาศักยภาพใหม่ให้แก่ภาคบริการที่มีความได้เปรียบจากภูมิปัญญาและวัฒนธรรมไทย การลงทุนของเอกชนเพิ่มขึ้นร้อยละ ๑๕.๓ ในปี ๒๕๔๗ หนี้สาธารณะลดลงเหลือประมาณร้อยละ ๔๗.๘ ของผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ และทุนสำรองระหว่างประเทศเพิ่มสูงขึ้นมากเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ ๔๙,๘๐๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือมากกว่าสี่เท่าของหนี้ต่างประเทศระยะสั้น ซึ่งเป็นผลจากการที่รัฐบาลได้สร้างโอกาสให้ประชาชนสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น ก่อให้เกิดการกระจายเม็ดเงินลงทุน ตลอดจนการสร้างงานและสร้างรายได้ในระดับรากหญ้า
               ในขณะที่ทางด้านสังคม ประชาชนได้รับหลักประกันสุขภาพสูงถึงร้อยละ ๙๕.๔ เพิ่มขึ้นจากร้อยละ ๗๘.๒ ในปี ๒๕๔๓ ทั้งนี้เนื่องมาจากนโยบายหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ๓๐ บาทรักษาทุกโรค และประชาชนมีงานทำเพิ่มขึ้น ๓.๖ ล้านคนในช่วง ๔ ปี จำนวนคนยากจนลดลงเหลือ ๖ ล้านคน อันเนื่องมาจากการสร้างโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินและแหล่งความรู้เพื่อสร้างงานและสร้างอาชีพ จำนวนปีการศึกษาเฉลี่ยของประชากรเพิ่มขึ้นจาก ๗.๒ ในปี ๒๕๔๓ เป็น ๘.๑ ในปี ๒๕๔๗ เพราะการขยายโอกาสทางการศึกษาและผ่อนคลายกฎระเบียบของกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา จำนวนคดียาเสพติดลดลงจาก ๔๒๐.๗ ในปี ๒๕๔๓ เหลือ ๑๑๖.๕ ต่อประชากรแสนคนในปี ๒๕๔๗ เนื่องจากรัฐบาลได้เอาจริงเอาจังกับการ ปราบปรามผู้มีอิทธิพลและผู้ค้ายาเสพติด

บันทึกการเข้า
buntoshi
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,348



« ตอบ #26 เมื่อ: 31-10-2006, 17:41 »

ตรรกะเพี้ยนๆ อะไรของคุณ ครับ

ประเทศไทย มีตรรกะแบบนี้ ก็แย่

ขอแค่พูดดี แค่นี้ ก็ไม่ทำชั่วแล้วเหรอ

มันดูที่กรรมครับ ซึ่งกรรมก็คือการกระทำ รวมทั้งเจตนาด้วย

อย่าเอาคำพูดมาสร้างความดีความชอบ ไม่ใช่ทอร์คโชว์

ดร ที่พูดเก่งๆ ก็คงไม่มีใครชั่วแล้ว หล่ะ ถ้างั้น 
บันทึกการเข้า


เราต้องสร้างคนดีมากกว่าคนเก่ง เพราะคนเก่งจะเห็นคนอื่นเก่งกว่าไม่ได้ จะพยายามเก่งกว่าคนอื่น แต่คนดีจะมีความสุขที่ได้ทำให้คนอื่นเก่ง รวมทั้งคนดีทุกคน ล้วนเก่งทั้งนั้น....  ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา
---------------------------
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #27 เมื่อ: 31-10-2006, 17:46 »

คุณ 5555555

เค้าบอกว่า สัญญาประชาคม ใหญ่กว่า สัตยาบัน ฮ่า ฮ่า
บันทึกการเข้า

qazwsx
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,359


นักธุรกิจและตำรวจ ต้องออกไปจากการเมือง


« ตอบ #28 เมื่อ: 31-10-2006, 18:07 »

พฤติกรรมเหมือนคนบ้า
ไม่รู้จักรับฟังความคิดเห็นคนอื่น

"ยืนกรานอย่างด้านหนาอยู่กับข้อวินิจฉัยสตึ ๆ ของตัวเอง"

คนแบบนี้  หากใครยังเสวนาต่อไปด้วย
คงหนีไม่พ้นข้อหา "บ้า"
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-10-2006, 18:41 โดย qazwsx » บันทึกการเข้า

(ก้อนหิน) ละเมอ
Moderator
ขาประจำขั้นที่ 3
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,041



เว็บไซต์
« ตอบ #29 เมื่อ: 31-10-2006, 18:50 »

ไม่เห็นต้องงงเลยเจ้าของกระทู้
ไม่งั้นจะมีคำพังเพยหรือ
"มือถือสาก ปากถือศีล"
บันทึกการเข้า

55555
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,263



« ตอบ #30 เมื่อ: 31-10-2006, 19:31 »

แถลงการณ์ อย่างนี้ก็นำมาชื่นชมหรือครับ.....หลาย ๆ เริ่องมันได้รับการพิสูจน์มาแล้วว่าเป็นเรื่องโกหก ตอนเข้ามารับงานในปี 44 แนวโน้มเศรษฐกิจ ก็ออกมาจากก้นบึ้งมาเรียบร้อยแล้ว กำลังจะเป็นขาขึ้น ทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศ ก็มีเกือบ สี่หมื่นล้านเหรียญ.........เรื่องหนี้สาธารณะ ก็มีตัวเลขออกมาแล้วว่ามันเพิ่มจากเดิมมาก นี่ยังไม่นับรวมพวก เอ็นพีแอล จากแบ็งค์ต่างอย่างกรุงไทย ธอส. หรือ ธกส..
บันทึกการเข้า
Tam-mic-ra
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 603


« ตอบ #31 เมื่อ: 01-11-2006, 03:10 »

โจรชั่วโกงชาติมันมีความรู้-มีวิสัยทัศน์ในหัวแบบนี้  มันจะปล้นชาติ ปล้นของเขากินอีก ทำไมร่ะ

ทักษิณโกงหรือเปล่าไม่รู้   แต่ถ้าพวกข้าราชการ  ผมเชื่อแน่นอน
นี่ก็นั่งรอ นอนรอ คตส  ปปช   มาจนเบื่อแล้วนะครับ   โชว์หลักฐานเสียทีสิ่

ไหนๆก็มีคนว่าบ้า  ผมก็บ้าต่อละกัน

ผมขอเป็นผู้นำในการเปลี่ยนแปลง
ถ้าท่านจำได้ว่าวันที่ผมรับพระราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้เป็นนายกฯ ผมได้พูดว่า ผมจะไม่ยอมเป็นเพียงผู้นำตามกฎหมาย แต่ผมขอเป็นผู้นำในการเปลี่ยนแปลง เพราะผมรู้ว่าประเทศไทยนั้น จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงมานานแล้ว แต่เราเปลี่ยนไม่ค่อยได้เพราะการเมืองอ่อนแอ หรือเพราะว่าเราไม่สามารถแสวงหาแนวทางที่เหมาะสมกับประเทศไทยได้ แต่ในโลกยุคใหม่เขาบอกว่าไม่ต้องรอความสมบูรณ์หรอกนะครับ และไม่ใช่แค่วางแผนเท่านั้นต้อง Experiment ต้องเดินทันทีครับ ผมไม่ได้เป็นนักสมบูรณ์แบบ ที่จะนอนรอทุกอย่างให้สมบูรณ์แล้วค่อยเดิน แต่วันนี้ที่ผมกำลังจะเชิญท่านทั้งหลายมาปรับวิธีการทำงานนั้น เพราะเราได้เริ่มต้นแล้วจากการปฏิรูประบบราชการ แต่การปฏิรูประบบราชการนั้นเป็นการปฏิรูปเพียงโครงสร้าง ซึ่งยังไม่ดี นั่นเป็นเบื้องต้นครับ แต่ถ้าไม่เริ่มเดินก้าวที่หนึ่ง เราไม่มีก้าว 2-3-4 เราได้ปรับโครงสร้างโดยการดึงเอาส่วนราชการที่มีกิจกรรมอย่างเดียวกัน ใกล้เคียงกัน มารวมกัน อยู่ในองค์กรเดียวกัน เราเรียกกันว่า การจัดองค์กรแบบ agenda-based หลังจากนั้นเรากำลังใส่โปรแกรมเข้าไป คือสร้างวัฒนธรรมในการทำงานใหม่ โดยการให้เข้าใจคำว่า matrix reporting system คือมีการรายงานหลายทาง ไม่ใช่รายงานนายเดียว องค์กรมีความเชื่อมโยงกัน เป็นลักษณะขององค์กรเครือข่าย หรือ networking เป็นลักษณะ networking มากขึ้น นี่คือสิ่งที่เราได้ทำไปแล้ว แต่ต่อไปนี้เรากำลังจะทำต่ออีก ก็คือปรับวัฒนธรรมลงไปลึกอีก แม้กระทั่งเรื่องของการให้คุณให้โทษ แต่ทีนี้ สิ่งที่เรากำลังจะทำกันในวันนี้ คือ การทำเรื่องของผู้ว่า CEO หลายคนไม่เข้าใจครับ ไปคิดว่านี่คือการ distort หรือ การบิดเบือนการกระจายอำนาจ อันนี้เป็นธรรมชาติของคนชอบวิจารณ์ครับ ฟังไม่ได้ศัพท์ จับไปกระเดียด ขอวิจารณ์ไว้ก่อน ยังไม่รู้เลยว่าจริงๆ คืออะไร ไอ้นี่คือการอะไรรู้ไหมครับ คือการลดขนาดและอำนาจจากส่วนกลางลงไปสู่ภูมิภาค นี่เขาเรียกว่ากระจายอำนาจที่แท้จริง

เมื่อก่อนนี้ ถ้าท่านนึกถึงสี่เหลี่ยมคางหมูได้ไหมครับ ถ้าแบ่งสี่เหลี่ยมคางหมูออกเป็น 3 ส่วน ส่วนบนคือส่วนกลาง ส่วนกลางคือส่วนภูมิภาค ส่วนล่างคือส่วนท้องถิ่น แต่วันนี้เรากำลังจะยืดสี่เหลี่ยมคางหมูให้เป็นสามเหลี่ยมปิรามิด โดยที่ทำส่วนกลางให้เล็กลง เป็นสามเหลี่ยมตรงยอดนิดหน่อย แล้วส่วนภูมิภาคให้ใหญ่ขึ้น ส่วนท้องถิ่นเรายังไม่แตะ ยังเท่าเดิมแต่ต่อไปจะมากขึ้น นี่คือการกระจายอำนาจจากส่วนกลางสู่ส่วนภูมิภาค ทำไมต้องทำอย่างนั้น ก็เพราะว่าภาคบริการประชาชนอยู่ที่พื้นที่คือภูมิภาค การตอบสนองต่อปัญหาประชาชนอยู่ที่พื้นที่ คนที่จะ detect ความเดือดร้อนของประชาชนได้เร็วที่สุด แก้ได้เร็วที่สุด ตอบสนองได้เร็วที่สุด คือพื้นที่ พื้นที่ไม่มีหัวหน้า เราเรียกผู้ว่าราชการจังหวัดซะเท่ แต่ว่าไม่ได้ให้อำนาจ ไม่ได้มอบภารกิจที่ชัดเจน ผลสุดท้ายผู้ว่าราชการจังหวัดทำงาน ceremonial เปิดแพรคลุมป้าย ไปเป็นเจ้าภาพงานศพ งานแต่งงาน ว่างๆ ก็จัดงานเลี้ยง แถมมีเจ้าพ่อผู้มีอิทธิพลมาเต็มบ้านอีก ต่อไปนี้ไม่ใช่ครับ เราจะให้ผู้ว่าเป็นประธานคณะผู้บริหารจังหวัด Chief Executive Officer แปลว่า ประธานคณะผู้บริหาร แสดงว่าเราจะบริหารแล้วละ เราไม่ได้รอรับคำสั่ง เมื่อก่อนผู้ว่าราชการจังหวัดคือผู้รอรับคำสั่ง แล้วนอกจากนั้นถ้าไม่รับคำสั่งก็ทำงาน routine วันนี้นะ เรามีข้าราชการมาก ใครบอกข้าราชการน้อย ผมว่ามีมาก บางหน่วยมีมาก อย่างตำรวจเนี่ยมีเยอะ สองแสนสี่หมื่นคน หนึ่งต่อสามร้อยกว่า ประเทศที่รวยกว่าเรายังหนึ่งต่อห้าร้อย แล้วมีมากแล้วเป็นไงครับปัญหามาก Dr.Lawrence Peter เขาบอกว่า Incompetent manager tends to hire more ผู้จัดการที่ไม่มีประสิทธิภาพมักจะจ้างคนเพิ่มตลอดเวลา แทนที่จะจัดการกับคนที่มีอยู่ให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ กลับไปคิดว่าเพิ่มคนลูกเดียว นั่นคือระบบราชการ อันนี้ไม่ได้ว่าตำรวจนะ นี่คือระบบราชการทั้งระบบ ระบบราชการทั้งระบบคือว่า นี่เวลาใช้งานทีไรนะ ผู้บังคับบัญชาจะยืนขึ้นมาบอกว่า ขาดงบประมาณครับ ขาดคนครับ ขาดเครื่องมือเครื่องใช้ครับ 4 M โบราณน่ะ คือ Management, Men, Material และก็ Money ปรากฏว่า Management นี่ไม่ต้องพูดถึงเลย เลิกใช้เลย ใช้ Men คน ขอคน Money ขอเงิน Material คือขอวัสดุอุปกรณ์ แต่ Management ไม่พูด เพราะ Management นี่ถูกตังค์ที่สุด คือไม่ต้องใช้ตังค์ แต่ใช้ความสามารถ ใช้กึ๋น พอไม่มีกึ๋น ไม่มีความสามารถ ไม่มีความกล้า ก็เลยจะไปเอาไอ้ 3 M นั้นน่ะ ซึ่งเปลือง และผลสุดท้ายมันก็หมักหมมพอกพูนมาทุกวันนี้ ระบบราชการมันเลยใหญ่ ใหญ่ แต่อ่อนแอที่สุด

บันทึกการเข้า
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #32 เมื่อ: 01-11-2006, 03:53 »

โถ ไปหลงปาฐกถาแบบนี้

ถ้าไปอ่านที่หน้าเหลี่ยมพูดเรื่องท่านพุทธทาส ที่กรมประชาสัมพันธ์ตอนตั้งพรรคใหม่ ๆ

สงสัยคนชื่นชมคิดว่า นี่แหละ "นักบุญองค์ใหม่" สำเร็จมรรคผล นิพพานมาแล้วแน่ ๆ

แต่ที่สุดเป็นไง พาลูกชายไปบวชที่ใหน ตามไปปฏิบัติธรรมที่ใหน

พระองค์นั้นตอนหลังถูกจับสึกเพราะมีเรื่องกับสีกา...

แค่หา "พระอาจารย์ให้ลูก" ยังพลาดขนาดนั้น...อิสระมุนี...ฮ่า ฮ่า


ไม่รู้ใครหลงบ้าตามซื้อเทป อิสระมุนี บ้างก็ไม่รู้...เวรกรรม
บันทึกการเข้า

นู๋เจ๋ง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,877



« ตอบ #33 เมื่อ: 01-11-2006, 06:51 »

มีปากก็สักแต่พูดไป คนร่างก็ร่างให้ไป ..
ตาดู แผ่นใสๆ สองด้าน ตั้งใจอ่าน ยังผิดๆถูกๆ
พูดๆไป จำได้บ้างรึเปล่าก็ไม่รู้
ไม่ได้เข้าสมอง สักกะผีก ...
บันทึกการเข้า

~จะแน่วแน่...แก้ไข...ในสิ่งผิด~
Tam-mic-ra
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 603


« ตอบ #34 เมื่อ: 01-11-2006, 15:49 »

มีปากก็สักแต่พูดไป คนร่างก็ร่างให้ไป ..
ตาดู แผ่นใสๆ สองด้าน ตั้งใจอ่าน ยังผิดๆถูกๆ
พูดๆไป จำได้บ้างรึเปล่าก็ไม่รู้
ไม่ได้เข้าสมอง สักกะผีก ...

อย่าไปว่านายกผมเขาอ่านไปพูดไปนะตะเอง
รับไม่ได้เหรอ???  ที่ความจริงแล้ว  ส่วนใหญ่ทักษิณ จะพูดสดออกมาจากสมอง
มีอ่านบ้างก็อาจเป็นหัวข้อหรือลำดับเรื่องที่จะพูด

ไม่มีเขียนแล้วก้มหน้าอ่านทุกถ้อยคำเหมือนหลายพรรคในอดีตหรอกน่ะ
บันทึกการเข้า
55555
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,263



« ตอบ #35 เมื่อ: 01-11-2006, 19:33 »

วันที่พูดกับข้าราชการระดับ 10 เรื่อง ผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ เห็น ใส่แว่น ถือกระดาษก้มหน้าเกือบตลอด....สงสัยลืมท่องบท  ฮ่า  ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
บันทึกการเข้า
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #36 เมื่อ: 01-11-2006, 20:37 »

พูดสดทีไร ก็เจ๊งทุกที จำวันที่พูดกับแท็กซี่ได้มั๊ย ฝีมือการร่างของ ยี้ห้อย...
บันทึกการเข้า

THE THIRD WAY
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,821


Love looks not with eyes, but with the mind.


« ตอบ #37 เมื่อ: 01-11-2006, 21:00 »

คนชั่ว เลว คนโกง ขาดจริยธรรม มีผลประโยชน์ทับซ้อน  ทำไมพูดดีมีวิสัยทัศน์แบบนี้นะ


----
วิสัยทัศน์เพื่อสร้างความเชื่อถือ
ให้เห็นว่าเก่ง ฉลาด รอบรู้

สุดท้ายใช้พลังความเชื่อถือทีมี
กวาดเรียบ
โดยผู้เชื่อถือเหล่านั้นตื้นเกินไปที่จะมองเห็น

ผู้เชื่อถือเหล่านั้น
เดี๋ยวนี้ก็ยังมีให้เห็นครับ
แถวๆนี้ก็มี
บันทึกการเข้า

ความรักนั้นหวาน ไม่ว่าจะรับหรือให้
************************
การขับไล่ทรราช เป็นภารกิจของเจ้าของประเทศ
หน้า: [1]
    กระโดดไป: