แค่ให้คุณหญิงอ้อเข้าพบก็..แพ้แล้ว!
--------------------------------------------------------------------------------
คุณหญิงพจมาน หรือที่เรียกกันว่า "คุณหญิงอ้อ" ผู้เป็นภริยา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นั้น เธอเป็นคนมีความสามารถสูง ด้วยบุคลิกของเธอ
ผู้ชำนาญด้านโหงวเฮ้งลงความเห็นว่า เป็นบุคลิกของ "อภิชาตภรรยา" ชายใดได้ไว้ครอบครองจะเป็นคุณ อย่างที่เรียกว่า "บารมีเมียเสริม"
นั่นเป็นเมื่อในรอบทศวรรษ คือในรอบ ๑๐ ปีที่ผ่านไปแล้วนะครับ อันเป็นยุคเฟื่องกระเดื่องเกียรติของ "ตระกูลชิน" อันมี พ.ต.ท.ทักษิณเป็นตัวนำ
โหราจารย์ด้านโหงวเฮ้ง "ฟันธง" ตรงกันทุกสำนักว่า ทักษิณนั้นเก่ง-ไม่เฮง
แต่ได้เมียเฮง บารมีภรรยาคือคุณหญิงอ้อส่งเสริม ทักษิณจึง "เก่ง+เฮง"
ก็เลยไปโลด!
โหราจารย์ท่านมีอรรถาธิบายว่า ใบหน้าคนนั้นคือ "แผนที่แต่ละช่วงชีวิต" ของแต่ละคน ในช่วงสิบกว่าปีที่ผ่านมานั้น วัยของหญิงอ้อตกอยู่ในช่วงโหนกแก้ม
คงเห็นกันแล้วนะครับ โหนกแก้มคุณหญิงอ้อสูง อวบ-อิ่ม-อูม นักทำนายลักษณะจากโหงวเฮ้งจึงบอกว่า เมื่อชันษาเสวยอายุที่แก้ม ความเป็นผู้มีอำนาจวาสนาบารมีสูงส่ง ข้าทาสบริวารพร้อมใจคลานกราบจึงบังเกิด
นั่นเพราะอิทธิพลของโหงวเฮ้งส่งผล จึงเพียบพร้อมเต็มที่!
จริงไม่จริงก็ดูได้จากสามีคือ พ.ต.ท.ทักษิณที่ใหญ่คับเมือง แต่ยังต้องประกาศต่อหน้าสาธารณชนว่า ไม่เคยกลัวใคร ไม่เคยฟังใคร
นอกจาก..เมีย!
และต้อง "ขอเมียกิน" อยู่ทุกวันนี้!
ก็เพราะเมียคือ "คุณหญิงอ้อ" วัยตกช่วง "ตัวเฮง" ไงล่ะ!?
สังคมคุณหญิง-คุณนาย และสังคมไฮโซจึงอินเทรนด์ ทำศัลยกรรม "เสริมโหนกแก้ม" กันยกใหญ่ จนสังคมไทยกลายเป็นสังคม "หญิงโหนกสูง"
ใครไม่ "ไว้โหนก" ถือว่าไม่อินเทรนด์!
วานนี้ คุณหญิงพจมานเข้าพบท่านประธานองคมนตรี "พลเอกเปรม ติณสูลานนท์" ที่บ้านสี่เสาเทเวศร์ พร้อมด้วยนายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ ที่มีศักดิ์เป็นพี่ชาย
ข่าวว่า สนทนากันในที่รโหฐานอยู่ประมาณ ๑๕ นาที ก็จบการสนทนา และคุณหญิงอ้อกับนายบรรณพจน์ก็ลากลับ
พลเอกอู้ด เบื้องบน นายทหารคนสนิท ซึ่งเรียกกันว่า "ลูกป๋า" ให้ความเข้าใจกับนักข่าวว่า คุณหญิงอ้อติดต่อผ่านตนขอเข้าพบพลเอกเปรมมานานแล้ว ป๋าเพิ่งจะมีเวลาว่างวันนี้แหละ จึงได้เข้าพบ
ก็เป็นการมาเยี่ยมคารวะในฐานะลูกหลาน ไม่ได้คุยเรื่องการเมือง เรื่องทรัพย์สิน รวมทั้งเรื่องที่ พ.ต.ท.ทักษิณขอกลับไทย
พลเอกอู้ดท่านบอกอย่างนั้นนะครับ ส่วนใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็โปรดใช้วิจารณญาณในการฟ ัง
คุณหญิงอ้อนี้ถือว่าเป็นคนมีสัมมาคารวะ นอบน้อมถ่อมตนต่อผู้ใหญ่ ฉะนั้นที่พลเอกอู้ดบอกว่า มาเยี่ยมคารวะพลเอกเปรมในฐานะลูกหลาน นั้น ก็เป็นเหตุผลที่มีน้ำหนัก
ถึงแม้ว่าในรอบ ๕ ปีที่โหนกแก้มเสริมราศีสูงสุด ลูกหลานคนนี้จะลืมการมาเยี่ยมคารวะผู้ใหญ่อย่างพลเอก เปรมไปบ้างก็ตามทีเถอะ
ผู้ใหญ่คนไหน ลองได้สนทนาวิสาสะกับลูกหลานคนนี้ และลองได้รับการดูแลจากลูกหลานคนนี้ที่ช่างรู้ใจ และเอาอก-เอาใจผู้ใหญ่ด้วยแล้วละก็
รับรอง..อ่อนปวกเปียกเป็นขี้ผึ้งปากกระถางน้ำมนต์!
ดูอย่าง "บิ๊กจ๊อด" พลเอกสุนทร คงสมพงษ์ อดีตผู้นำ รสช.นั่นไง ก็เป็นลูกป๋าที่โด่งดัง และได้ดิบได้ดีจากการปฏิวัติอีกคนหนึ่ง ลำพังตำรวจแลกเช็ค เริ่มต้นเตาะแตะธุรกิจอย่าง พ.ต.ท.ทักษิณนั่นน่ะ
อย่าว่าแต่จะมีดาวเทียม รวยติดอันมหาเศรษฐีโลกในวันนี้เลย แค่ธุรกิจบั้งไฟก็คงมีได้ยาก
ถ้าไม่ได้เมียที่เข้าผู้หลักผู้ใหญ่ได้เก่ง และคล่องในการพูดจา คะคะ..ขาขา..กับผู้ใหญ่อย่างคุณหญิงอ้อ!
ก็เพราะบิ๊กจ๊อดท่านประทับในกิริยามารยาท และการดูแลเอาใจใส่ของลูกหลานอย่างคุณหญิงอ้อหรอก ถึงได้พบความสำเร็จทางธุรกิจดาวเทียม
จากความเอ็นดูของผู้ใหญ่ที่บารมีคับบ้าน-คับเมืองในเวลานั้น เป็นพิเศษ!
แต่มีบางคนบอกผมว่า ถ้าพูดถึงเรื่อง "บารมีบัญชาการ" ในยุคทักษิณแล้วละก็ สำหรับคน ๒ คนคือ คุณหญิงอ้อ กับนายบรรณพจน์
คุณหญิงอ้อเป็นแค่ ๑ ใน ๑๐๐ ของนายบรรณพจน์
นี่ตะหากที่..ตัวจริง-เสียงจริง ในทุกเรื่อง!?
ผมลืมบอกไปว่า "นาทีทอง" ของคุณหญิงอ้อ อันมีอานิสงส์มาจาก "โหนกแก้ม" นั้น ช่วงชันษาเดินผ่านโหนกแก้มไปปีกว่าแล้ว
เซียนโหงวเฮ้งท่านว่านะครับ ไม่ใช่ผมว่า!
ฉะนั้น ที่ว่า "บารมีเสริมสามี" นั้น คงจะเสริมได้ยาก เพราะโหงวเฮ้งขณะนี้เลื่อนต่ำจากโหนกแก้มลงมาอยู่ในจ ุดที่เรียกว่า "กินสามี" ไม่ส่งผลดี แถมเป็นโทษ
แต่ถึงอย่างไรผมก็ว่า "หญิงอ้อ" เป็นการเมืองคนเดียวที่อยู่เหนือ "นักการเมือง" ของประเทศในยุคนี้
ถ้าทักษิณฮึดกลับมาเล่นการเมืองเพื่อกอบกู้ในสิ่งที่ คิดว่าตัวเองสูญเสียไป ผมอยากจะบอกในฐานะท่านเคยเลี้ยงข้าวผมว่า
อย่าริให้เจ็บมากไปกว่านี้!
ถ้าต้องการกลับมาอย่างผู้ชนะนั้น ผมขอแนะนำว่าต้องให้ "หญิงอ้อ" ประกาศลงเล่นการเมืองเต็มตัว ไม่ต้องพิรี้พิไรให้เปลืองความ ขึ้นนั่งเก้าอี้หัวหน้าพรรคไทยรักไทยไปเลย
มีแต่ "คุณหญิงอ้อ" คนเดียวเท่านั้น จึงจะรักษาพรรคไทยรักไทยให้อยู่ได้อย่างมีความหมาย ชนิดมุ้งเล็ก-มุ้งใหญ่ ไม่กล้าผายลม
ด้วยบารมี ด้วยกำลังภายใน และด้วยอำนาจซ่อนเร้นอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ลองประกาศไปว่า "คุณหญิงพจมาน" สืบต่อหัวหน้าพรรคแทน พ.ต.ท.ทักษิณ
ตลาดแตก..ไม่เชื่อลอง!
ไร้กระบวนท่า คือกระบวนท่า แค่ติดต่อขอเข้าคารวะป๋าเปรมในฐานะลูกหลานผ่านพลเอกอ ู้ดเมื่อวานนี้
คุณหญิงอ้อทำให้โลกเหนือประเทศไทย (เกือบ) หยุดหมุน!!!
เป็นปรากฏการณ์ที่ดูเหมือนง่าย แต่ภาพสะท้อนทำให้ท่านประธานองคมนตรี "เกือบตาย" ในทัศนะเทิดทูนของสังคม
กระแสสังคมตีกลับครับ วานนี้....!!
มีหลายท่านโทรศัพท์ถึงผม ถามบ้าง วิจารณ์บ้าง ต่างๆ นานา คำถามหลักที่ตอบไม่ได้นอกจากเจ้าตัวเอง คือ
"คุณหญิงอ้อเข้าพบป๋าด้วยเรื่องอะไร?"
แต่คำถามทั่วไปนี่ซี ผมอยากจะตอบ แต่ก็ตอบไม่ได้ เพราะไม่กล้า นั่นคือลีลาประโยคคำถามว่า
การปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษั ตริย์ทรงเป็นประมุข เมื่อ ๑๙ กันยา.นั้น หัวหน้าคณะปฏิรูปฯ ชื่อ พลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน มิใช่หรือ?
นั่นคือ ผู้กุมอำนาจบริหารสูงสุด ผู้กุมความเป็น-ความตายคนไทยเวลา วันนี้คือ พลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน
พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ท่านเป็นประธานคงมนตรี อยู่นอกการเมือง และทั้งไม่มี "อำนาจเหนืออำนาจ" หัวหน้าคณะปฏิรูปฯ ด้วยประการทั้งปวง
ทำไม คุณหญิงอ้อจึงไม่ไปขอพบ "หัวหน้าคณะปฏิรูปฯ" ผู้มีอำนาจชี้เป็น-ชี้ตาย, ชี้ให้กลับ-ชี้ไม่ให้กลับ, ชี้ให้ยึดทรัพย์-ไม่ให้ยึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ?
แต่หญิงอ้อกลับเลือกที่จะขอเข้าคารวะคนที่ "ให้คุณ-ให้โทษ" กับ พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้ คือท่านประธานองคมนตรี "พลเอกเปรม ติณสูลานนท์"!
คำถามของสังคมตอนนี้คือ คุณหญิงอ้อขอเข้าคารวะด้วยสถานภาพลูกหลานด้วยจริงใจ
หรือว่า คุณหญิงอ้อขอเข้าคารวะ ด้วยต้องการให้สังคมเกิดความรู้สึกว่า "ป๋านี่แหละคือ..ผู้มีอำนาจเหนือคณะปฏิรูปฯ?"
ซ้ำร้ายไปกว่านั้น คุณหญิงอ้อต้องการจะประกาศให้โลกรู้ทางอ้อมว่า.. นี่ไง..ผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญตัวจริง!
๑๕ นาทีของหญิงอ้อที่เข้าพบป๋าวานนี้ ผมจึงว่าเป็น ๑๕ นาทีที่ซื้อ "ทัศนคติตีกลับ" ได้ลึกซึ้ง เกินค่า ต่อให้อีก ๑๐๐ จาตุรนต์ ที่รักษาการหัวหน้าไทยรักไทยก็คิดได้ไม่ติดชายกระโปร งหญิงอ้อ
ถ้าเป็นการประลองกำลังภายในวานนี้ ระหว่างท่านประธานองคมนตรี กับภริยาอดีตนายกฯ ผู้ถูกเผด็จการทหารยึดอำนาจการปกครอง
แค่ให้หญิงอ้อเข้าพบก็..แพ้แล้ว!
คุณหญิงอ้อประกาศรับตำแหน่งหัวหน้าพรรคไทยรักไทยเมื่ อไหร่ บอกด้วย ผมจะไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคซักคน.
(ไทยโพสต์ 27 ต.ค.49)
http://www.thaipost.net/index.asp?bk...312&cat_id=200