อ้อ+ป๋า=แห้วคอลัมน์ เดินหน้าชน โดย ภาคภูมิ ป้องภัยมติคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) เสนอ
ให้กระทรวงการคลังเรียกเก็บภาษีซื้อ-ขายหุ้นชินคอร์ปจากครอบครัว พ.ต.ท. ทักษิณ
ชินวัตร เอาผิดคดีละเว้นปฏิบัติหน้าที่กับ 5 ข้าราชการระดับสูงของกรมสรรพากร เป็น
"ประเดิม" เท่านั้น
จะเป็น
คำตอบที่เป็นรูปธรรมให้กับเหตุผลแรกของการทำปฏิวัติ ตามที่นายชวน หลีกภัย
อดีตนายกรัฐมนตรี ตั้งคำถามคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) เอาไว้
ถ้า คตส. หรือกระทรวงการคลังทำไม่ได้ บอกได้คำเดียวว่า รัฐบาล และ คมช. เสีย
รังวัดในสายตาสังคมแน่
อย่างไรก็ดี การรีดภาษีไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาท ไม่รวมดอกเบี้ย วงเงินมหาศาล
ขนาดนี้ แน่นอนว่าจะต้องมีปฏิกิริยาโต้กลับตามมา รวมถึงคลื่นใต้น้ำอาจกระเพื่อม
รุนแรงขึ้น
สิ่งที่รัฐบาล คตส. และ คมช. จะควบคุมแรงกระเพื่อมให้อยู่ในปริมณฑลแคบๆ
นอกจากอำนาจพิเศษในรัฐธรรมนูญชั่วคราวแล้ว ยังมาจากกฎอัยการศึกในเขต กทม.
และปริมณฑลอีกด้วย
ฉะนั้น ตราบใด คตส. และ คมช. ยังเช็คบิลเปลาะแรกไม่สำเร็จ หรือตอบคำถามแรก
ไม่ได้ ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะปล่อยให้ พ.ต.ท. ทักษิณ กลับมาในห้วงนี้
ลองย้อนกลับไปเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 หลังชัยชนะของประชาชน จอมพลถนอม
กิตติขจร และพวก ลี้ภัยไปต่างประเทศนานเกือบ 3 ปีจึงได้กลับ
รสช. ยึดอำนาจ พล.อ. ชาติชาย ชุณหะวัณ 23 กุมภาพันธ์ 2534 และบีบให้ไปอยู่
กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษนานเกือบ 6 เดือน ถึงได้กลับมาไทยในเดือนตุลาคม
2534 พร้อมประกาศวางมือทางการเมือง แต่พอ คตส. โดย พล.อ. สิทธิ จิรโรจน์
ประกาศยึดทรัพย์ 266 ล้านบาท เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2534 พล.อ. ชาติชาย
แถลงข่าววันรุ่งขึ้นทันที โดยประกาศสู้ไม่ถอย
จากนั้น "น้าชาติ" ก็เดินสายเคลื่อนไหวทางการเมืองตลอด ก่อนจะกลับมาเล่นการเมือง
อีกครั้ง แม้ทำได้ดีที่สุดแค่เกือบเป็นนายกรัฐมนตรีสมัยที่สองก็ตาม
พ.ต.ท. ทักษิณ อยู่กรุงลอนดอนแค่เดือนเดียว เป็นไปได้หรือที่จะกลับมาเร็วกว่า
จอมพลถนอม และน้าชาติ
ผมเชื่อว่า อดีตมันสะท้อนปัจจุบัน ถึงคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา พ.ต.ท. ทักษิณ
เข้าไปอาศัยใบบุญ พล.อ. เปรม ติณสูลานนท์ เป็นการชิงรุกเพื่อ "หยั่งเชิง" ปูทาง
สามีกลับเมืองไทย ตามด้วยข่าว "แม้ว" ป่วยหนัก
แต่มันคงไม่ช่วยอะไรนัก เพราะคนยึดอำนาจเขายังตอบคำถามแรกไม่ได้ ในทางกลับกัน
ขืนไม่ตอบ ความชอบธรรมมันก็เสื่อม
ปัญหาที่ คตส. วิตกอยู่ในขณะนี้คือยังไม่พบหลักฐานชัดๆ เล่นงานคดีอาญาหรือใช้เป็น
เหตุยึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณได้ แนวโน้มดูเหมือนทำได้แค่เรียกเก็บภาษีย้อนหลังเท่านั้น
เว้นแต่จะกล้าใช้อำนาจพิเศษยึดทรัพย์ พ.ต.ท. ทักษิณ เช่นเดียวกับน้าชาติ ด้วยเหตุผล
"เชื่อได้ว่า" ทุจริตประพฤติมิชอบโดยไม่มี "ใบเสร็จ"
ตรงนี้น่าคิดครับ แค่เรียกเก็บภาษี ปฏิกิริยาสะท้อนกลับคงไม่แรง ถ้าถึงขั้นเล่นงาน
อาญาและยึดทรัพย์ ปฏิกิริยาสะท้อนกลับรุนแรงแน่
แม้วิธีหลังดูจะเป็นการตัดรากถอนโคน พ.ต.ท. ทักษิณที่ได้ผลชะงัด แต่ถ้าเกิด พ.ต.ท.
ทักษิณฮึดสู้เหมือนน้าชาติ ทั้งรัฐบาล คมช. จะรับมืออย่างไร
อย่าลืมว่าศักยภาพด้านต่างๆ ของ พ.ต.ท. ทักษิณ มีมากกว่าน้าชาติมหาศาล
ตอนนี้ยังประเมินไม่ออกว่า คมช. คตส. จะเลือกใช้วิธีใดมาควบคุม และป้องกันมิให้
พ.ต.ท. ทักษิณ กลับมามีอำนาจทางการเมืองในอีก 1 ปีข้างหน้า เพราะถึงวันนั้น
รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ก็มีแล้ว จะห้ามใครเล่นการเมืองคงไม่ได้ ครั้น
จะออกแบบ
รัฐธรรมนูญให้สุดยอดอย่างไรก็ใช่ว่าจะปิดช่องทางฟื้นตัวของกลุ่มอำนาจเก่าที่มี
อำนาจเงินมหาศาลได้
หากยังตอบคำถามแรกไม่ได้ หรือคิดหาวิธี "ทำหมัน" พ.ต.ท. ทักษิณในทางการเมือง
ไม่ได้ ก็
ยังต้องอาศัยอำนาจเต็มในมือปิดทางกลับเมืองไทยไปเรื่อยๆ ก่อน
คุณหญิงพจมานคงต้องพึ่ง "ปาฏิหาริย์" แล้ว หากจะให้สามีสุดเลิฟกลับมาเมืองไทย
เร็วกว่าสองอดีตนายกรัฐมนตรี
ที่มา มติชน วันที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2549 ปีที่ 29 ฉบับที่ 10459http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01act01291049&day=2006/10/29อ่านเอาสนุกก็พอนะคะ
อย่าทุกข์มาก หากไม่ได้ดังใจ
ติดตามดูกันต่อไป
ว่ากฏแห่งกรรมจะทำงานอย่างไร