ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
20-04-2024, 10:50
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  อ้อ+ป๋า=แห้ว 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
อ้อ+ป๋า=แห้ว  (อ่าน 683 ครั้ง)
snowflake
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,207



« เมื่อ: 29-10-2006, 07:46 »

อ้อ+ป๋า=แห้ว

คอลัมน์ เดินหน้าชน โดย ภาคภูมิ ป้องภัย

มติคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) เสนอ
ให้กระทรวงการคลังเรียกเก็บภาษีซื้อ-ขายหุ้นชินคอร์ปจากครอบครัว พ.ต.ท. ทักษิณ
ชินวัตร เอาผิดคดีละเว้นปฏิบัติหน้าที่กับ 5 ข้าราชการระดับสูงของกรมสรรพากร เป็น
"ประเดิม" เท่านั้น

จะเป็นคำตอบที่เป็นรูปธรรมให้กับเหตุผลแรกของการทำปฏิวัติ ตามที่นายชวน หลีกภัย
อดีตนายกรัฐมนตรี ตั้งคำถามคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) เอาไว้

ถ้า คตส. หรือกระทรวงการคลังทำไม่ได้ บอกได้คำเดียวว่า รัฐบาล และ คมช. เสีย
รังวัดในสายตาสังคมแน่

อย่างไรก็ดี การรีดภาษีไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาท ไม่รวมดอกเบี้ย วงเงินมหาศาล
ขนาดนี้ แน่นอนว่าจะต้องมีปฏิกิริยาโต้กลับตามมา รวมถึงคลื่นใต้น้ำอาจกระเพื่อม
รุนแรงขึ้น

สิ่งที่รัฐบาล คตส. และ คมช. จะควบคุมแรงกระเพื่อมให้อยู่ในปริมณฑลแคบๆ
นอกจากอำนาจพิเศษในรัฐธรรมนูญชั่วคราวแล้ว ยังมาจากกฎอัยการศึกในเขต กทม.
และปริมณฑลอีกด้วย

ฉะนั้น ตราบใด คตส. และ คมช. ยังเช็คบิลเปลาะแรกไม่สำเร็จ หรือตอบคำถามแรก
ไม่ได้ ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะปล่อยให้ พ.ต.ท. ทักษิณ กลับมาในห้วงนี้

ลองย้อนกลับไปเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 หลังชัยชนะของประชาชน จอมพลถนอม
กิตติขจร และพวก ลี้ภัยไปต่างประเทศนานเกือบ 3 ปีจึงได้กลับ

รสช. ยึดอำนาจ พล.อ. ชาติชาย ชุณหะวัณ 23 กุมภาพันธ์ 2534 และบีบให้ไปอยู่
กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษนานเกือบ 6 เดือน ถึงได้กลับมาไทยในเดือนตุลาคม
2534 พร้อมประกาศวางมือทางการเมือง แต่พอ คตส. โดย พล.อ. สิทธิ จิรโรจน์
ประกาศยึดทรัพย์ 266 ล้านบาท เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2534 พล.อ. ชาติชาย
แถลงข่าววันรุ่งขึ้นทันที โดยประกาศสู้ไม่ถอย

จากนั้น "น้าชาติ" ก็เดินสายเคลื่อนไหวทางการเมืองตลอด ก่อนจะกลับมาเล่นการเมือง
อีกครั้ง แม้ทำได้ดีที่สุดแค่เกือบเป็นนายกรัฐมนตรีสมัยที่สองก็ตาม

พ.ต.ท. ทักษิณ อยู่กรุงลอนดอนแค่เดือนเดียว เป็นไปได้หรือที่จะกลับมาเร็วกว่า
จอมพลถนอม และน้าชาติ

ผมเชื่อว่า อดีตมันสะท้อนปัจจุบัน ถึงคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา พ.ต.ท. ทักษิณ
เข้าไปอาศัยใบบุญ พล.อ. เปรม ติณสูลานนท์ เป็นการชิงรุกเพื่อ "หยั่งเชิง" ปูทาง
สามีกลับเมืองไทย ตามด้วยข่าว "แม้ว" ป่วยหนัก

แต่มันคงไม่ช่วยอะไรนัก เพราะคนยึดอำนาจเขายังตอบคำถามแรกไม่ได้ ในทางกลับกัน
ขืนไม่ตอบ ความชอบธรรมมันก็เสื่อม

ปัญหาที่ คตส. วิตกอยู่ในขณะนี้คือยังไม่พบหลักฐานชัดๆ เล่นงานคดีอาญาหรือใช้เป็น
เหตุยึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณได้ แนวโน้มดูเหมือนทำได้แค่เรียกเก็บภาษีย้อนหลังเท่านั้น
เว้นแต่จะกล้าใช้อำนาจพิเศษยึดทรัพย์ พ.ต.ท. ทักษิณ เช่นเดียวกับน้าชาติ ด้วยเหตุผล
"เชื่อได้ว่า" ทุจริตประพฤติมิชอบโดยไม่มี "ใบเสร็จ"

ตรงนี้น่าคิดครับ แค่เรียกเก็บภาษี ปฏิกิริยาสะท้อนกลับคงไม่แรง ถ้าถึงขั้นเล่นงาน
อาญาและยึดทรัพย์ ปฏิกิริยาสะท้อนกลับรุนแรงแน่

แม้วิธีหลังดูจะเป็นการตัดรากถอนโคน พ.ต.ท. ทักษิณที่ได้ผลชะงัด แต่ถ้าเกิด พ.ต.ท.
ทักษิณฮึดสู้เหมือนน้าชาติ ทั้งรัฐบาล คมช. จะรับมืออย่างไร

อย่าลืมว่าศักยภาพด้านต่างๆ ของ พ.ต.ท. ทักษิณ มีมากกว่าน้าชาติมหาศาล

ตอนนี้ยังประเมินไม่ออกว่า คมช. คตส. จะเลือกใช้วิธีใดมาควบคุม และป้องกันมิให้
พ.ต.ท. ทักษิณ กลับมามีอำนาจทางการเมืองในอีก 1 ปีข้างหน้า เพราะถึงวันนั้น
รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ก็มีแล้ว จะห้ามใครเล่นการเมืองคงไม่ได้ ครั้นจะออกแบบ
รัฐธรรมนูญให้สุดยอดอย่างไร
ก็ใช่ว่าจะปิดช่องทางฟื้นตัวของกลุ่มอำนาจเก่าที่มี
อำนาจเงินมหาศาลได้

หากยังตอบคำถามแรกไม่ได้ หรือคิดหาวิธี "ทำหมัน" พ.ต.ท. ทักษิณในทางการเมือง
ไม่ได้ ก็ยังต้องอาศัยอำนาจเต็มในมือปิดทางกลับเมืองไทยไปเรื่อยๆ ก่อน

คุณหญิงพจมานคงต้องพึ่ง "ปาฏิหาริย์" แล้ว หากจะให้สามีสุดเลิฟกลับมาเมืองไทย
เร็วกว่าสองอดีตนายกรัฐมนตรี

ที่มา มติชน วันที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2549 ปีที่ 29 ฉบับที่ 10459

http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01act01291049&day=2006/10/29

อ่านเอาสนุกก็พอนะคะ
อย่าทุกข์มาก หากไม่ได้ดังใจ

ติดตามดูกันต่อไป
ว่ากฏแห่งกรรมจะทำงานอย่างไร


 
บันทึกการเข้า

Even the smallest person can change the course of the future.
aiwen^mei
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,732



« ตอบ #1 เมื่อ: 29-10-2006, 10:45 »

แทนที่จะไปบ้านสี่เสาฯ เธอควรไปกรมสรรพากร และที่ทำการ คตส.

27 ตุลาคม 2549 17:15 น.

ภาพจะสวยกว่านี้มากเลยถ้าหากคุณหญิงพจมาน ชินวัตร แทนที่จะขับรถเข้าไปบ้านสี่เสาเทเวศร์ของประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ อย่างลี้ลับ

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ :


     หากเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เธอไปปรากฏตัวอย่างสง่าผ่าเผยที่กรมสรรพากร เพื่อตอบคำถามเรื่องภาษีที่ไม่ได้เสียของครอบครัวตัวเอง และไปแสดงตัวที่ทำการของคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) เพื่อตอบคำถามเรื่องน่าสงสัยคลางแคลงว่าด้วยการซื้อที่ดิน และพฤติกรรมที่สังคมตั้งประเด็นไว้มากมาย

บอกตรงๆ ว่าเห็นภาพของเมียทักษิณ ไปโผล่ที่บ้าน 'ป๋าเปรม' เมื่อเช้าวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาแล้วก็รันทดใจ สมเพชประเทศชาติของตัวเอง และอยู่ดีๆ ผมก็ถอนหายใจดังๆ ออกมาด้วยความเศร้าสลดอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว

เธอถูกสังคมตั้งข้อสงสัยมากมายหลายเรื่อง สามีที่เคยเป็นนายกฯ ก็ถูกคณะปฎิรูปฯ กล่าวหารุนแรงเรื่องคอร์รัปชัน สร้างความแตกแยกในชาติ จาบจ้วงสถาบัน ถูกขับไล่ไสส่งจากคนจำนวนมากในแผ่นดิน

แทนที่เธอจะออกมาตอบโต้ข้อกล่าวหาหรืออธิบายว่าเธอ สามี และครอบครัวไม่ได้ทำอะไรอย่างที่ถูกกล่าวหา เธอกลับเข้าหา 'ผู้ใหญ่' และก่อนหน้าจะไปหาก็ปล่อยข่าวอย่างกว้างขวางผ่านสื่อต่างๆ เสียด้วยว่าจะไปบ้านสี่เสาฯ

เหมือนถามอย่างท้าทายว่า 'ใครจะทำไมถ้าฉันจะไม่สนใจว่าใครจะว่าอะไรฉัน ฉันวิ่งเต้นให้รอดพ้นก็แล้วกัน?'

เหมือนจะบอกว่าความเห็นของคนไทยคนอื่นต่อเธอ และตระกูลของเธอไม่สำคัญ ถ้า 'ป๋า' ให้พบและข่าวออกมาทำนองว่ามีความเมตตาเป็นการส่วนตัว เธอก็จะหลุดจากข้อสงสัยคลางแคลงของสังคมอย่างนั้นหรือ?

เจ้าตัวไม่ต้องตอบคำถามนักข่าวด้วยซ้ำ มีคนอื่นที่ประสานให้พบกับ 'ป๋า' ออกมาตอบคำถามแทนเสร็จสรรพ

ตอบเหมือนคนไทยโง่ทั้งประเทศ...เพราะให้ออกข่าวว่าที่ไปพบ 'ป๋า' นั้น ไม่เกี่ยวกับการเมืองหรือเรื่องทรัพย์สินใดๆ ทั้งสิ้น...เป็นเพียงเด็กเข้าแสดงความเคารพผู้ใหญ่ของบ้านเมืองเท่านั้น เรื่องทักษิณจะขอกลับประเทศไทยก็ไม่ได้พูดเหมือนกัน

แล้วคนไทยทั้งประเทศก็เชื่อตามนั้นหรือ? ถ้าเชื่อก็เกิดลูกเป็นลิงอย่างที่คนโบราณว่าไว้นั่นแหละ

ที่ผมว่าน่าสมเพชนั้น ก็เพราะค่านิยมแห่ง 'ระบบอุปถัมภ์' ยังเป็นมาตรฐานของสังคมไทยอยู่ทุกวันไม่ว่าใครจะพูดถึงเรื่อง 'ปฏิรูปการเมือง' หรือ 'ปรับค่านิยมสังคมไทยให้ทันสมัย' ให้ฟังดูน่าประทับใจคนข้างนอกเพียงใดก็ตาม

เราสั่งเราสอนลูกหลานไปอย่างหนึ่ง แต่ในทางปฏิบัติเรากลับทำไปอีกอย่างหนึ่ง

เราบอกให้เด็กรุ่นใหม่กล้าคิดกล้าทำในสิ่งที่ถูกต้อง ให้เคารพในกติกาสังคม ให้มีจริยธรรม ให้กล้าหาญทางศีลธรรม อย่ายอมก้มหัวให้กับความไม่ถูกต้อง

แต่ในทางปฏิบัติ เราทำผิดแล้วไม่ยอมรับผิด เราทำสิ่งที่ผิดจริยธรรมแล้วแทนที่จะแก้ไข ขอโทษและยอมให้ลงโทษต่อสังคม เรากลับเห็นคนคนนั้นวิ่งเข้าหา 'ผู้ใหญ่' ด้วยลีลาท่าทีของความเคารพนบนอบทั้งๆ ที่การแสดงเช่นนั้นเท่ากับเป็นการตบหน้าคนทั้งประเทศที่ต้องการ 'ความจริง' ที่มีผลต่อสังคมโดยส่วนรวมเพราะการกระทำของเขาหรือเธอ

การวิ่งเข้าหาผู้ใหญ่มิได้เป็นการชำระให้ความสกปรกกลายเป็นความสะอาดได้...กลายเป็นว่า 'ผู้ใหญ่' ของบ้านเมืองนี้ ถูกมองว่าเป็นเครื่องซักฟอกให้กับคนสร้างปัญหาให้กับบ้านเมือง

ไม่ว่าผู้ใหญ่ท่านจะตระหนักในความรู้สึกของชาวบ้านเช่นนั้นหรือไม่ก็ตาม

แต่ด้วย 'ระบบอุปถัมภ์' ที่ยังฝังรากแน่นอยู่ในสังคมไทยนี่เอง ที่ทำให้เรื่องอย่างนี้ยังเกิดขึ้นได้...แม้ว่าความผิดนั้นจะเป็นเรื่องโกงแชร์ของเพื่อนหรือฉ้อฉลเงินภาษีประชาชน หรือแม้กระทั่งเป็นอาชญากรรมระดับชาติ

ผู้ใหญ่บ้านเมืองนี้อาจจะไม่รู้ว่าคนที่วิ่งเต้นเข้าหาในยามที่ตกที่นั่งลำบากเช่นนี้ ยามมีอำนาจและบารมีทางการเมืองล้นฟ้านั้น เคยพูดลับหลังเกี่ยวกับท่านเหล่านี้ว่าอย่างไรบ้าง...ล้วนแล้วแต่เป็นการคุยเหยียบทับถม 'ผู้ใหญ่' ในทางเสียๆ หายๆ ที่สร้างภาพเสื่อมเสียต่อผู้ใหญ่เหล่านี้มาแล้วทั้งนั้น

แต่นักวิ่งเต้นก็คือนักวิ่งเต้น...คือวิ่งให้ตัวเองเป็นใหญ่ก็ได้ วิ่งให้ตัวเองรอดจากการถูกลงโทษก็ได้ และเก่งกาจสามารถถึงขั้นวิ่งเต้นกับผู้ใหญ่ที่ตัวเองเคยด่าสาดเสียเทเสียในอีกจังหวะหนึ่งของชีวิตการเมือง ก็ได้เช่นกัน

บ้านเมืองเราไม่เคยเข็ดหลาบ ไม่เคยจำบทเรียนกันเลยจริงๆ หรือ?

คุณพจมานไม่จำเป็นต้องวิ่งเต้นหาใครเลย หากจะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง สามีและครอบครัว เพียงแค่ออกมาตอบคำถามที่สังคมมีข้อสงสัยและตอบข้อกล่าวหาที่คณะกรรมการหลายๆ ชุด มีต่อเธอและสามีอย่างตรงไปตรงมา

เธอควรจะต้องเดือดร้อนมากๆ ที่ครอบครัวเธอถูกมองว่าเอาเปรียบสังคมเหลือเกินที่ขายหุ้นชินคอร์ปให้เทมาเส็กได้เงินมา 73,300 ล้านบาท โดยหาทางหลบเลี่ยงการเสียภาษีอย่างน่าเกลียด

เธอควรจะต้องวุ่นวายใจมากๆ ว่ามีการมองว่าเธอซื้อที่ดินผืนใหญ่กลางกรุงท่ามกลางความสงสัยว่าในฐานะเป็นเมียนายกฯ ตอนนั้น เธอใช้ความได้เปรียบทางการเมืองเอาชนะคู่แข่งหรือเปล่า

เธอควรจะต้องนอนไม่หลับตอนกลางคืนที่มีคนนินทาว่าลูกๆ ของเธอซื้อขายหุ้นแล้วไม่เสียภาษีเงินได้ให้กับกรมสรรพากร

เป็นอภิมหาเศรษฐีแล้วถูกเขามองว่าเอารัดเอาเปรียบคนทั้งประเทศนั้น ควรจะมีความรู้สึกเดือดร้อนและต้องอธิบายให้คนทั้งหลายได้ฟังจากปากตัวเอง

เธอควรจะแคร์ว่าสังคมคิดอย่างไรมากกว่าที่จะแค่ไปคารวะ 'ป๋าเปรม' ให้เป็นข่าว เพื่อทำให้สังคมต้องเกรงกลัวไม่กล้าตั้งคำถามกับเธอ

เพราะเท่าที่ทราบ แถวนั้นไม่มีเครื่องฟอกขาวให้เช่าหรือซื้อ

http://bangkokbiznews.com/2006/10/29/u001_148800.php?news_id=148800
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-10-2006, 10:50 โดย aiwen^mei » บันทึกการเข้า

有缘千里来相会,无缘对面不相逢。
สี่หามสามแห่
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,460



« ตอบ #2 เมื่อ: 29-10-2006, 11:10 »

เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย
บันทึกการเข้า
type
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 525


« ตอบ #3 เมื่อ: 29-10-2006, 11:22 »

สมัยนี้ เด็กไม่รู้จักกาละเทสะเยอะเลยแฮะ
จะไปหาผู้หลักผู้ใหญ่ต้องให้คนของผู้หลักผู้ใหญ่มารับ
รถตัวเองก็มี ขับไปเองก็ได้ ทำไมนะ ไม่เอารถไปเอง

 

ตกลงใครอยากพบใครกันแน่  งง  ๆ  งง
บันทึกการเข้า
tiger
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 104


« ตอบ #4 เมื่อ: 29-10-2006, 12:18 »

ไม่รู้เหมือนกันใครอยากพบใคร 

ดูไปดูมา   ไม่น่าเชื่อ   คุณหญิงอ้อไปบ้านสี่เสาไม่ถูก

ต้องให้ลูกป๋ามารับ

มาหัวเราะด้วยคนครับ
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
    กระโดดไป: