ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
19-04-2024, 07:32
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  ญี่ปุ่นตะลึง!!! ทักษิน คือ สุดยอดปรมาจารณ์ด้าน กลยุทธ์ 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
ญี่ปุ่นตะลึง!!! ทักษิน คือ สุดยอดปรมาจารณ์ด้าน กลยุทธ์  (อ่าน 3614 ครั้ง)
แสนปีของมีเธอคนเดียว
สมาชิกสามัญขั้นที่ 1
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 46



« เมื่อ: 26-10-2006, 20:08 »

ฝันของข้า.."จะพาชาติไทยสู่..ความยิ่งใหญ่ ใต้หล้าโลก", แกะรอยวิสัยทัศน์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
ประวัติศาสตร์อนาคต ยุคนาโนเทคโนโลยี

ระหว่างปี พ.ศ.๒๕๔๘-๒๕๔๙ ขณะที่สังคมโลกกำลังเกิดความเปลี่ยนแปลงทางคุณภาพอย่างปฏิวัติ การเปลี่ยนผ่านอย่างรวดเร็ว

การพัฒนาเทคโลยียุคอุตสาหกรรม สูงสุดของการพัฒนาหน่วยที่เล็กที่สุดในระดับ “ไมโครเมตร” และครอบคลุมตลาดไว้ได้ทั้งหมดอย่างชราภาพ

พร้อมๆกับเทคโนโลยี 3 G กำลังขับเคลื่อนขบวนการยุคแห่งการสื่อสารข้อมูลโลกให้สมบูรณ์
ชาติมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ ต่างเร่งแข่งขันพัฒนาสูงสุดของหน่วยที่เล็กที่สุดในระดับ”นาโนเมตร”
อันจะนำไปสู่การเป็นชาติผู้นำ ของพลังขับเคลื่อนสังคมโลก ๓ ด้านที่จะเข้ามาแทนที่ยุคอุตสาหกรรม ตามความเชื่อของทรอฟเล่อร์ ใน“คลื่นลูกที่สาม” เทคโนยีการสื่อสาร เทคโนโลยีชีวะภาพ และนาโนเทคโนโลยี เพื่อสนองตอบต่อ “การเพิ่มขึ้นของประชากรโลกอย่างมหึมา และการขาดแคลนทรัพยากรฯลฯ

ระหว่างปี พ.ศ.๒๕๔๔-๒๕๔๙ ประเทศไทย รัฐบาลไทยรักไทย ภายใต้การนำของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เขาพยายามที่จะช่วงชิงสถานการณ์ ผลักดันประเทศไทยที่ล้าหลังให้ก้าวไปสู่..การเป็นชาติผู้นำในเวทีเศรษฐกิจ-การเมืองโลก

ปี พ.ศ.๒๕๔๔ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้นำชาติแรก ที่ออกมาแสดงวิสัยทัศน์ ประกาศปฏิเสธทฤษฎี EAEM และเสนอทฤษฎี ว่าด้วย”ความร่วมมือระหว่างชาติในเอเชีย (ACD และ Asian Bond) ฯลฯ

ในระยะเวลาสั้นๆทางประวัติศาสตร์ เขาได้สร้างชื่อเสียงแก่ประเทศไทยในฐานะ “ผู้นำชาตินิยมแห่งเอเชีย”

กลุ่มชาติมหาอำนาจกลุ่ม G8 ถึงกับตื่นตะลึง เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ประกาศผ่าทางตัน WTO อันเป็นองค์กรพหุภาคี ที่สหรัฐอเมริกาพยามประดิษฐ์ขึ้นมาระหว่างปีพ.ศ.๒๕๓๘ เพื่อทำการจัดสรรผลประโยชน์ตามสิ่งที่พวกเขาเรียกว่า “การจัดระเบียบโลกใหม่” ด้วยการประกาศความร่วมมือระหว่างประเทศ FTAแบบทวิภาคี ทำให้ WTO กลายเป็นสิ่งที่ล้าสมัยในทันที

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ดำเนินกลางรุกต่อด้วยการเจรจาข้อตกลง FTAแบบทวิภาคี เพื่อเป็นเกตเวย์มุ่งสู่..ภูมิภาคต่างๆ อันมีขอบเขตครอบคลุมปริมณฑลทั่วโลก บนพื้นฐานวิธีคิดที่นำเอา “ศักยภาพความสำคัญทางภูมิศาสตร์ ของประเทศไทย” เป็นที่ตั้ง

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เขาเปิดเผยวิธีคิด-วิธีการทำงาน ของเขาในฐานะผู้นำประเทศว่า “ในส่วนของงานประจำ เขาได้มอบหมายแก่รองนายกฯรับผิดชอบไปดูแล“ เขาเชื่อว่าการบริหารในฐานะผู้นำประเทศของเขาไม่อาจจะจมปรักอยู่ที่งานประจำ

ความสำคัญของเขาจะต้องย้ายไปอยู่ที่การทุ่มเทให้กับการศึกษาค้นคว้า เพื่อกำหนด “ทฤษฏีทางยุทธศาสตร์” และกำหนด “ยุทธศาสตร์ทางยุทธวิธี” เพื่อนำไปสู่การนำไปประสานการปฏิบัติของคณะรัฐมนตรี ให้สอดคล้องกับความเป็นจริงทางภาวะวิสัย

ภายใต้วิธีคิด-วิธีการทำงาน ของพ.ต.ท.ทักษิณ ดังกล่าว ปริศนาด้านต่างๆที่จะนำประเทศไทยก้าวสู่..การเป็นชาติผู้นำของโลก “ยุทธศาสตร์ทางยุทธวิธี” ถูกขับเคลื่อนออกมาจากมันสมองของเขาอย่างแยบยลลึกซึ้งต่อเนื่อง กระทั่งผู้นำกลุ่มG8 แทบตามไม่ทันวิธีคิดของเขา

ปี พ.ศ.๒๕๔๘ เขาได้รับชัยชนะอย่างท่วมท้นด้วยการชูคำขวัญเป็นนโยบาย “๔ ปีซ่อม ๔ปีสร้าง” และประกาศว่า “ผมจะทำให้คนจนหมดไปจากประเทศไทยภายใน ๖ ปี” คำประกาศของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ถูกเยาะเย้ยถากถางจากฝ่ายตรงกันข้ามทางการเมืองของเขาว่า “ใช่เลย!!..คนจนตายหมดประเทศไง.. ดอน(ดร.) บางคนถึงกับออกมาแสดงความมืดทึบทางปัญญาประกาศ “รู้ทันทักษิณ” ในเชิงดูหมิ่นถากถาง

ขณะที่พ.ต.ท.ทักษิณ เปิดฉากรุก FTAแบบทวิภาคี เป็นเกตเวย์มุ่งสู่..ภูมิภาคต่างๆของโลก เขาเร่งเปิดประตูสู่ประเทศไทยเพื่อรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศสู่เวทีสากล


๔ ปีภายใต้การนำของพ.ต.ท.ทักษิณ เขาสามารถผลักดันให้ “สนามบินสุวรรณภูมิ” เป็นจริงขึ้นมาได้ทันกับปีแห่งการ “เฉลิมฉลองการครองราชย์ครบ ๖๐ ปี “ เพื่อถวายแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในรัชกาลปัจจุบัน และนับเป็นการ สิ้นสุดตำนานแห่งหนองงูเห่า ๔๐ ปี สัญลักษณ์แห่งความหล้าหลังของประเทศไทย

นอกจาก ”สนามบินสุวรรณภูมิ” พ.ต.ท.ทักษิณ เขากวาดสายตาแสกนความเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงของโลกไปทั่วทุกปริมณฑลของการแข่งขัน เขาค้นพบ “ศักยภาพความสำคัญทางภูมิศาสตร์” ของไทย หากวางแผน “ยุทธศาสตร์ทางยุทธวิธี” ที่แยบยลลึกซึ้ง ก็จะสามารถเปลี่ยนเป็นจุด “ยุทธศาสตร์ทางภูมิศาสตร์” ที่สำคัญของโลก นั่นหมายถึงการพลิกโฉมหน้าประเทศไทยสู่การเป็นชาติผู้นำของโลกได้ดั่งพลิกฝ่ามือ

ขณะที่การเติบโตเศรษฐกิจโลกเคลื่อนตัวมายังภูมิภาค เอเชียตะวันออกนำโดยจีน เอเชียใต้มีอินเดีย ตะวันออกกลางมหาเศรษฐีพลังงานน้ำมันโลก เอเชียกลาง และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตลาดมหึมาที่มีกำลังซื้อมหาศาล อันประกอบด้วยประชากรมากกว่าครึ่งโลก เมื่อเปรียบกับตลาดในทวีปอเมริกาใต้และอาฟริกา ที่แทบจะไม่มีความสำคัญในทางยุทธศาสตร์

สงครามทางการค้า การช่วงชิงครอบครองพื้นที่ตลาดในเอเชียระหว่าง ญี่ปุ่น - จีน
ยุทธศาสตร์ของญี่ปุ่นที่วาดฝันครองพื้นที่ตลาดทั่วเอเชีย ด้วยการบุกตลุยเจาะการลงทุนเข้าไปในประเทศจีน หากสำเร็จนั่นหมายถึงเมื่อ ซามูไรกรีดกระบี่ รังสีของกระบี่ก็จะครอบคลุมทั่วทั้งทวีป แรงสั่นสะเทือนของคลื่นยักษ์ “สึนามิ” ก็จะสั่นสะเทือนถึงฝั่งตะวันตก ยุโรป-อเมริกา
หากแต่..ฝันของญี่ปุ่นต้องพังทลายลงอย่างสิ้นเชิง ด้วยเงื่อนทางประวัติศาสตร์ความขัดแย้งระหว่าง จีน-ญี่ปุ่น
ระหว่างปี ๒๕๔๖-๒๕๔๘ กระแสการต่อต้านญี่ปุ่น มีการเผาทำลายทรัพย์สินของนักลงทุนญี่ปุ่น ลุกลามไปทั่วแผ่นดินจีน

ขณะที่เศรษฐกิจจีนกำลังเติบใหญ่อย่างก้าวกระโดด ผู้นำใหม่ของจีน “หูเจิ่นเทา” ประกาศยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศก้าวกระโดดครั้งสำคัญ เพื่อให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงที่เป็นจริงทางภาวะวิสัย ด้วยทฤษฏี “สามด้วยตัวแทน” และประกาศยุทธศาสตร์ทางยุทธวิธี การพัฒนามุ่งสู่..ตะวันตกของประเทศ ยุทธศาสตร์ “เชี่ยงไฮ้ตะวันตก” กำหนดให้ “มหานครฉงชิง” เป็นศูนย์กลางการพัฒนาฝั่งตะวันตกของแผ่นดินใหญ่ ครอบคลุมพื้นที่การตลาดในภูมิภาค เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เอเชียใต้ รุกเข้าไปในเอเชียกลาง ตะวันออกกลาง ตลอด “เส้นทางสายไหม” ผ่านรัสเชียทลุเข้าสู่..ยุโรปทางภาคพื้นดิน

ญี่ปุ่นหลังจากล้มเหลวทางยุทธศาสตร์ในจีน ทำให้ญี่ปุ่นตกเป็นรองยุทธศาสตร์การแข่งขันกับจีนในทันที แม้ว่าความเชื่อมั่น “คุณภาพสินค้า และแบรนด์แนม” ในตลาด สินค้าญี่ปุ่นมีความเหนือชั้นกว่าสินค้าจากจีนก็ตาม แต่จุดแข็งของสินค้าจากจีน มีราคาที่ต่ำมากๆ สินค้าหลายตัวมีระดับราคาต่ำกว่าวัตถุดิบในหลายประเทศเสียอีก จุดแข็งของจีนดังกล่าวได้สร้างความหวั่นไหววิตกกังวลแก่ญี่ปุ่น

หากญี่ปุ่นปล่อยให้สถานการณ์ผ่านไปโดยชะล่าใจ ภายใน ๕ ปีข้างหน้า ตลาดล่างที่บริโภคราคาสินค้าจีนจะขยายวงออกไปอย่างกว้างขวางทั่วเอเชีย ยุโรป อเมริกา ลาติน และอาฟรกา พร้อมๆกับการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างรวดเร็วของจีน คุณภาพสินค้าจะก้าวสู่..ระดับที่ใกล้เคียงเทียบชั้นสินค้าญี่ปุ่น

วันนั้น..สินค้าญี่ปุ่นจะหายไปจากตลาดกลายเป็นตำนาน “Make in Japan” ไปชั่วนิรันดร์...เช่นเดียวกับสินค้าจากตะวันตกที่เคยครองตลาดเอเชีย มาก่อนการเข้าแทนที่โดย“Make in Japan”

…หยุด..หยุด..ก่อน!! นั่นมิใช่วิสัยของชาวญี่ปุ่น ชาติที่มีความตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา พวกเขาจะไม่ยินยอมที่จะปล่อยให้จีนเข้าแทนที่“Make in Japan”โดยง่ายดายอย่างแน่นอน

และนี่!!คือ...ปริศนา...โจษที่ชาวญี่ปุ่นจะต้องเร่งหาคำตอบ ก่อนที่โครงสร้างการผลิตภาคอุตสาหกรรมภายในประเทศ เข้าสู่ภาวะแห่งการ..ง่อยเปลี้ย..ล้มละลาย..

ขณะที่ญี่ปุ่นกำลังถูกจีนต้อนเข้าสู่..มุมอับ

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เขาเร่งรีบ..ช่วงชิงสถานการณ์.. ไขปริศนา ทางออกให้แก่ญี่ปุ่น เปิดวิสัยทัศน์ทางสว่างให้แก่ญี่ปุ่น..ทันที
เขากางแผนที่โลก..อธิบายให้ญี่ปุ่น พบกับความเป็นจริงที่ตั้งของประเทศไทย นี่คือจุด “ยุทธศาสตร์ทางภูมิศาสตร์” ที่สำคัญของโลก

“โคอิซูมิ” ผู้นำญี่ปุ่นถึงกับตื่นตะลึง!!..กับปมปริศนา..ที่รบกวนจิตใจเขามานานหลายปี ที่ได้ถูกคลี่คลายลง โดยชายหน้าเหลี่ยม ผู้มีโหงวเฮ้งแห่งพลังอำนาจ..จากแดนไกล..สยามประเทศ

พ.ต.ท.ทักษิณ เสนอการเอาชนะทางยุทธศาตร์แบบ win win แก่ญี่ปุ่นด้วยรูปแบบข้อตกลงที่ปรากฏขึ้นครั้งแรกในโลก JTEPA (Japan-Thailand Economic Partnership Agreement) เป็นข้อตกลงที่แทบจะแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับ FTA แบบทวิภาคี ที่เป็นข้อตกลงจำกัดอยู่ในกรอบแคบๆในเรื่องพิกัดภาษีศุลกากร ท่ามกลางผลประโยชน์ร่วมระหว่างสองประเทศ ต่างเร่งดำเนินการสู่เป้าข้อตกลงอย่างรวดเร็ว ภายในระยะเวลาเพียงไม่ถึง ๒ ปี
JTEPA คือการเป็นหุ้นส่วนประเทศระหว่างไทย-ญี่ปุ่น ข้อตกลงมีความหมายครอบคลุมกว่า ๗,๐๐๐ รายการ การแลกเปลี่ยนทางด้าน การค้า-การลงทุน วัฒนธรรม การถ่ายทอดเทคโนโลยี และรวมถึงการเคลื่อนไหวของประชากรของทั้งสองประเทศ

พ.ต.ท.ทักษิณ เขาเชื่อว่าหลังการเซ็นสัญญาข้อตกลง JTEPA สิทธิพิเศษทางด้านภาษีศุลกากร จะกระตุ้นให้การการค้าการลงทุนระหว่างสองประเทศจะเติบโตแบบก้าวกระโดด ญี่ปุ่นจะเคลื่อนย้ายฐานการผลิต เทคโนโลยีในระดับ “ไมโครเมตร” สู่ประเทศไทย
ความสำคัญของญี่ปุ่นจะต้องย้ายไปอยู่ที่ การระดมวิศวกร นักวิทยาศาสตร์ญี่ปุ่นรวมศูนย์สู่...การวิจัยและพัฒนาของหน่วยที่เล็กที่สุดในระดับ “นาโนเมตร” เพื่อรองรับการแข่งขันทางด้านนาโนเทคโนโลยีในอนาคตอันใกล้ภายใน ๕-๑๐ ปีข้างหน้า

ขณะที่สังคมไทยกำลังวิตกต่อการเข้ามาลงทุนของชาวสิงคโปร์ ถึงกับกล่าวหาการขายหุ้น Shin ของตระกูลชินวัตร แก่เทมาเสก ว่าพ.ต.ท.ทักษิณขายชาติ

หลายคนอาจเห็นเป็นเช่นนั้นจริงๆ...คงพลาดซะแล้วกะมัง...

หากมองเข้าไปให้ลึกในแววตาของเขา จะพบว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เขาได้ซ่อนหมากกลที่แยบยลลึกซึ้งเกินกว่าวิธีคิดธรรมดาจะเข้าใจ..
เขาเชื่อว่า...หลังจากสัญญา JTEPA ขณะที่กองทัพนักลงทุนของญี่ปุ่นเคลื่อนตัวเข้ามา ภาพของกลุ่มทุนสิงคโปร์ก็จะค่อยๆเลือนหายไป

และภาพอันโดดเด่นของกองทัพทุนจากญี่ปุ่น จะค่อยๆจางลง...

เมื่อชาติมหาอำนาจทางเศรษฐกิจจากยุโรป-อเมริกา เสียเปรียบทั้งเวลาและสถานที่แก่นักลงทุนญี่ปุ่น จีน และอินเดีย ในตลาดเอเซีย จุด “ยุทธศาสตร์ทางภูมิศาสตร์” ที่สำคัญของไทย จะดึงดูดทัพนักลงทุนจากค่ายยุโรป-อเมริกา ไหลเข้ามารวมศูนย์ที่ประเทศไทย

วันนั้น...การลงทุนของต่างชาติในประเทศไทยก็จะเข้าสู่ภาวะสมดุล ไม่มีชาติใดโดดถึงระดับมีอำนาจควบคุมเหนือรัฐบาลไทยได้
ลักษณะโหงวเฮ้ง ”หน้าเหลี่ยม” ของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร บ่งบอกถึงพลังอำนาจในอันที่ฟันฝ่าอุปสรรคทั้งปวงสู่เป้าหมายอันสูงสุดของเขา…….. ” เงิน ๗๓,๐๐๐ ล้านมันไม่เท่าไรหรอก”.... “ผมจะทำให้คนจนหมดไปจากประเทศไทย” และนำชาติไทยก้าวสู่..ความยิ่งใหญ่ใต้หล้าโลก

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-10-2006, 20:10 โดย แสนปีของมีเธอคนเดียว » บันทึกการเข้า
Racochot
น้องใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 19


« ตอบ #1 เมื่อ: 26-10-2006, 20:29 »

แล้วเขาก็ทำให้ 3 จชต.ไม่เหงาเพราะทหารเต็มเมืองเพียงเพราะคำว่า  ..... โอ้  ....นายแน่มาก
บันทึกการเข้า
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: 26-10-2006, 20:41 »

โอ้วววว...ว้าววว...เราขอยกนายหน้าเหลี่ยม ให้ไปทำหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของญี่ปุ่นนะบัดนี้...

รัว...แล้วเชิด...


นี่ถ้าอยู่อีก 1 สมัย เงินบาทไทย จะกลายเป็นเงินสกุลหลักของเอเชียเลยนะจะบอกให้...

ว่าแต่ว่า ญี่ปุ่นทำไมไม่ปล่อยกู้ให้นายหน้าเหลี่ยม มาทำรถใต้ดินต่อล่ะพ่อคุณ...
บันทึกการเข้า

Yodyood
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 528



« ตอบ #3 เมื่อ: 26-10-2006, 20:49 »

Win-Win ของเอ็งนี่ใช่ ญี่ปุ่น Win + ไอ้เหลี่ยม Win อ๊ะป่าว 
บันทึกการเข้า

~ You will never know the truth if you dare not to face it. ~
ชอบแถ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,138



« ตอบ #4 เมื่อ: 26-10-2006, 21:03 »

มัน เป็น อดีต ไป แล้ว คับ พี่
บันทึกการเข้า
Killer
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,576


ช๊อบบ ชอบบ...ปฏิวัติ ปลื้ม ค่ะ


« ตอบ #5 เมื่อ: 26-10-2006, 21:09 »

คงมีคนงง และตามไม่ทันกันอยู่
แต่พยายามรักษาฟอร์มด้วยการอวดฉลาด
เห็นว่าเป็นสิ่งเพ้อฝันและลวงโลก
 
บันทึกการเข้า
THX
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 569



« ตอบ #6 เมื่อ: 26-10-2006, 21:14 »

โอ้วววว...ว้าววว...เราขอยกนายหน้าเหลี่ยม ให้ไปทำหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของญี่ปุ่นนะบัดนี้...

รัว...แล้วเชิด...


นี่ถ้าอยู่อีก 1 สมัย เงินบาทไทย จะกลายเป็นเงินสกุลหลักของเอเชียเลยนะจะบอกให้...

ว่าแต่ว่า ญี่ปุ่นทำไมไม่ปล่อยกู้ให้นายหน้าเหลี่ยม มาทำรถใต้ดินต่อล่ะพ่อคุณ...


ลุงแคนอย่าเอาคนแบบนี้ไปให้เขาเลย เดี๋ยวจะเกิดสงครามเย็นระหว่างไทยกับญี่ปุ่น
บันทึกการเข้า



พวกเรา..เรารู้สึกว่าจะมีสายลับปลอมมาในหมู่ของพวกเราโดยไม่รู้ตัว=__='



( づ ̄ 3 ̄ )づ~~~♡♡♡ ~~
ชอบแถ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,138



« ตอบ #7 เมื่อ: 26-10-2006, 21:21 »

คงมีคนงง และตามไม่ทันกันอยู่
แต่พยายามรักษาฟอร์มด้วยการอวดฉลาด
เห็นว่าเป็นสิ่งเพ้อฝันและลวงโลก
 
ตูก็งงเหมือนกันคับ แต่ไม่ค่อยจะมีฟอร์มให้วาง

คิดเสมอว่าเก่ง แต่คิดไม่ถึงว่าจะเก่งขนาดนี้

บันทึกการเข้า
ดาบฟ้าฟื้น
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 207


« ตอบ #8 เมื่อ: 26-10-2006, 21:39 »

ประเทศจีน เขาผลิตสินค้าการเกษตร มาแข่งกับคุณ คุณก็หมาแล้ว

ต้นทุนเขาต่ำกว่า แต่คุณภาพเท่ากับคุณ มันจะไปเหลืออะไร

ถ้าจีนมันผลิตสินค้า เหมือน ประเทศไทยหมด ไทยไม่ตายห่าเหรอครับ!!!

สินค้าเข้าจากจีนก็ไหลเข้าประเทศไทย คนไทยก็ใช้กัน เพราะมันถูกกว่า

แถมสินค้ามันก็ไปขาย ชนกับสินค้าเรา และก็ถูกกว่า !!!

ทักษิน เขารู้ทัน วางแผนสู้ไว้ก่อน

ก็ดันมาปฎิวัติเขาซะ

เศรฐกิจพอเพียง สู้ไม่ได้หรอก เพราะถ้าคนไทยยังชอบของถูก
made in thailand อันละ 15% made in china อันละ 10% เงี่ย
แถมมีมากกว่า

555ไม่บ้าก็โง่

บันทึกการเข้า
Solidus
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,381



« ตอบ #9 เมื่อ: 26-10-2006, 22:04 »

ประเทศจีน เขาผลิตสินค้าการเกษตร มาแข่งกับคุณ คุณก็หมาแล้ว

ต้นทุนเขาต่ำกว่า แต่คุณภาพเท่ากับคุณ มันจะไปเหลืออะไร

ถ้าจีนมันผลิตสินค้า เหมือน ประเทศไทยหมด ไทยไม่ตายห่าเหรอครับ!!!

สินค้าเข้าจากจีนก็ไหลเข้าประเทศไทย คนไทยก็ใช้กัน เพราะมันถูกกว่า

แถมสินค้ามันก็ไปขาย ชนกับสินค้าเรา และก็ถูกกว่า !!!

ทักษิน เขารู้ทัน วางแผนสู้ไว้ก่อน

ก็ดันมาปฎิวัติเขาซะ

เศรฐกิจพอเพียง สู้ไม่ได้หรอก เพราะถ้าคนไทยยังชอบของถูก
made in thailand อันละ 15% made in china อันละ 10% เงี่ย
แถมมีมากกว่า

555ไม่บ้าก็โง่


รู้ทันแต่ไปทำสัญญา FTA เรียบร้อยโรงเรียนโจร 
บันทึกการเข้า
Solidus
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,381



« ตอบ #10 เมื่อ: 26-10-2006, 22:14 »

หอการค้าชายแดนชี้ เอฟทีเอไทย-จีน ทำเชียงรายทรุด

"หรือ ว่าวัตถุประสงค์ของจีน คือ การเอาสินค้าจีนมาสวมใส่เสื้อม่อฮ่อม ก่อนจะนำไปขายยังที่อื่น สุดท้ายถามว่า…ใครได้ใครเสีย ใครได้ประโยชน์มากกว่ากัน!?…" นายบุญธรรม ทิพย์ประสงค์ รองประธานหอการค้าฝ่ายชายแดน จ.เชียงราย กล่าวแสดงความรู้สึก ในการสัมมนาเรื่อง"มิติใหม่การค้าการลงทุนตามแนวชายแดนภาคเหนือ" ที่ รร.ดุสิตไอส์แลนด์ รีสอร์ท เชียงราย เมื่อวันที่ 15 ต.ค.ที่ผ่านมา

หลังจากมีการเปิดเขตการค้าเสรีไทย-จีน ตั้งแต่เดือน ต.ค.2546 เป็นต้นมา มีการลดอัตราภาษีสินค้าประเภทพืชผักและผลไม้ จำนวน 116 รายการ ทำให้สินค้าไทยได้รับผลกระทบอย่างชัดเจน โดยเฉพาะสินค้าเกษตร คือ หอมแดง หอมหัวใหญ่ และกระเทียม ทั้ง 3 รายการ ได้ถูกนำเข้าจากจีนมาจำหน่ายในไทยเป็นจำนวนมากและราคาถูก จนทำให้การค้าตามแนวชายแดนเชียงรายได้รับผลกระทบอย่างมาก

นายกิจชัย แต้เต็มวงศ์ รองประธานหอการค้า จ.เชียงราย ฝ่ายการค้าชายแดน เปิดเผยว่า หลังจากเปิดการค้าเสรีไทย-จีน ที่ผ่านมา พบว่า การค้าชายแดนด้านเชียงรายไม่ได้กระเตื้องขึ้นเลย แต่กลับได้รับผลกระทบเสียอีก เหตุเพราะระบบขั้นตอนที่รองรับ FTA ผักและผลไม้ของไทยยังคงไม่เอื้ออำนวย โดยต้องเสียเวลาไปตรวจคุณภาพของสินค้าที่จะส่งออกที่ จ.เชียงใหม่ และเมื่อส่งออกไปจีน ยังพบกับขั้นตอนการตรวจสอบอย่างเข้มงวด รวมทั้งเสียภาษีท้องถิ่นในจีนอีกต่อหนึ่งด้วย ซึ่งขั้นตอนต่างๆ ดังกล่าว ทำให้การส่งออกสินค้าจากเชียงรายไปจีนตอนใต้ ระยะ ทางเรือในแม่น้ำโขงเพียงประมาณ 334 กม. ใช้เวลานานถึง 4 วัน

ดังนั้น วิธีการหลบเลี่ยงขั้นตอน โดยการนำสินค้าไทย ไปแปลงเป็นสินค้าพม่า และสปป.ลาว เพื่อส่งเข้าไปในจีน ในนาม 2 ประเทศดังกล่าวนั้น ยังคงมีอยู่ แม้ว่าจะเสียภาษีนำเข้าของจีนแทนการลดภาษี 0% ใน FTA แต่นักธุรกิจก็ยอมเสีย เพราะเมื่อคำนวณต้นทุนจากขั้นตอนดังกล่าว พบว่า ยังถูกกว่าเสียอีก

นอกจากนี้ ยังมีการตั้งข้อสังเกตว่า นักธุรกิจจีนที่เข้ามาลงทุน หลังจากมีการเปิดเขตการค้าเสรีไทย-จีน ได้เข้ามามีบทบาทในภาคเหนือของไทยเป็นอย่างมาก มีการเข้ามาตั้งกิจการรับซื้อสินค้า FTA ในฝั่งไทย และนำส่งไปขายในจีนเอง โดยมีการจัดตั้งบริษัทตัวแทนหรือชิปปิ้งในไทย ซึ่งสามารถพบเห็นได้ตามตลาดใหญ่ๆ ของไทย เหตุผลก็เพื่อการลดต้นทุนในการว่าจ้างคนไทย ทั้งนี้ ได้ใช้วิธีการเข้ามาแต่งงานกับหญิงไทย ลักษณะคล้ายมาเพียงกระเป๋าเงินแค่ใบเดียว แต่มีกิจการการค้าเสรีแบบครบวงจร

จึงมีการวิเคราะห์กันว่า FTA จึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะไม่ใช่ประเทศไทย-จีน เท่านั้น ที่ทำข้อตกลงจีน-อาเซียน อีก 10 ประเทศ โดยมีการทำข้อตกลงกันเมื่อเดือน พ.ย.2545 ว่าจะลดภาษีสินค้าเกษตรและผลไม้ 07-08 ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.เป็นต้นไป โดยจะค่อยๆ ลดลงไปเรื่อยๆ จากภาษี 40% เหลือ 20% และจะเหลือ 0% อย่างสมบูรณ์ในปี 2553

ทั้งนี้ แต่ละประเทศมีเงื่อนไขเรื่องเวลาแตกต่างกัน เพราะบางประเทศยังไม่พร้อมจะใช้ FTA เต็มอัตรา แต่สำหรับประเทศไทยแล้ว หลีกเลี่ยงไม่พ้นที่จะต้องให้เหลืออัตราภาษี 0% ตั้งแต่ 1 ม.ค.2549 เป็นต้นไปก่อนที่ประเทศอื่นๆ โดยจะลดภาษีในสินค้า จำนวน 365 รายการ

นายสมพล เกียรติไพบูลย์ อดีตปลัดกระทรวงพาณิชย์ และหัวหน้าคณะเจรจาการค้าเสรีไทย-จีน กล่าวว่า ก่อนเปิดเขตการค้าเสรี ไทย-จีน รู้ดีว่าควรจะเตรียมรับอย่างไร จีนเขามีการจ้างที่ปรึกษาจากประเทศออสเตรเลีย สหรัฐฯ และญี่ปุ่น ไปเป็นที่ปรึกษา ซึ่ง FTA ที่ทำกันในจีนจะเน้นการส่งออกและนำเข้าที่ท่าเรือคลองเตยและท่าเรือแหลม ฉบังของไทย

"ดังนั้น จึงเชื่อว่า การค้าเสรีไทย-จีน จะไม่ทำให้การค้าที่ชายแดนเชียงรายเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน จึงอยากให้ทุกฝ่ายเตรียมรับ FTA จีน-อาเซียนให้ดี เพราะเชียงรายมีความสำคัญในการเชื่อมโยงระหว่างจีนกับชาติอื่นๆ ด้วย" นายสมพล กล่าว

องอาจ เดชา

    โดย : เว็บข่าวประชาไท.คอม        วันที่ 19/10/2004
บันทึกการเข้า
Solidus
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,381



« ตอบ #11 เมื่อ: 26-10-2006, 22:24 »

วางแผนสู้ยังไงของมันวะเนี่ย

พาณิชย์แจงผลเอฟทีเอไทย-จีน ขาดดุลการค้าอ่วม3.6หมื่นล้าน

โพสต์ทูเดย์ — พาณิชย์รายงาน ครม.พบไทยขาดดุลการค้าจีนพรวด 3.6 หมื่นล้านบาท หลังทำ เอฟทีเอตั้งแต่เดือนตุลาคม 2546 ขณะที่เอฟทีเอไทย-อินเดีย, ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ กู้หน้ารัฐบาล พบเกินดุลการค้ากันทั่วหน้า

นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์รายงานตัวเลขการค้าระหว่างไทยกับจีน ภายหลังการทำข้อตกลงเขตการค้าเสรีทวิภาคี (เอฟทีเอ) ไทย-จีน ปรากฏว่าตั้งแต่ช่วงที่เซ็นสัญญาวันที่ 1 ตุลาคม 2546 จนถึงเดือนพฤษภาคม 2549 ประเทศไทยขาดดุลการค้า 36,233.27 ล้านบาท โดยมีการส่งออก 382,938.55 ล้านบาท และนำเข้า 419,171.82 ล้านบาท

ก่อนหน้านี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มั่นใจมาตลอดว่าการเปิดเอฟทีเอกับจีนจะทำให้ประเทศไทยซึ่งมีประชากรเพียง 65 ล้านคน จะตีตลาดจีนที่มีประชากรกว่า 1,200 ล้านคน โดยจีนสามารถส่งออกสินค้าเกษตรประเภทผักและผลไม้มายังประเทศไทยจำนวนมาก ทำให้เกษตรกรได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง


 โดย : โพสต์ทูเดย์        วันที่ 9/08/2006
บันทึกการเข้า
สี่หามสามแห่
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,460



« ตอบ #12 เมื่อ: 26-10-2006, 23:10 »

พี่ครับ เทคโนโลยีที่บูมๆ ไม่ใช่ไมโครเมตร แล้วมั๊งครับ

มันระดับ นาโน แล้วครับ 10-9

แล้วพี่ มันทะลุ ไมโครไปไม่รู้เท่าไหร่แล้ว ..เฮ้อ

แค่ห้าบรรทัดแรก ก็...เน่าซะแล้ว
บันทึกการเข้า
Solidus
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,381



« ตอบ #13 เมื่อ: 26-10-2006, 23:14 »

พี่ครับ เทคโนโลยีที่บูมๆ ไม่ใช่ไมโครเมตร แล้วมั๊งครับ

มันระดับ นาโน แล้วครับ 10-9

แล้วพี่ มันทะลุ ไมโครไปไม่รู้เท่าไหร่แล้ว ..เฮ้อ

แค่ห้าบรรทัดแรก ก็...เน่าซะแล้ว
ฝันของข้า.."จะพาชาติไทยสู่..ความยิ่งใหญ่ ใต้หล้าโลก", แกะรอยวิสัยทัศน์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
ประวัติศาสตร์อนาคต ยุคนาโนเทคโนโลยี

ระหว่างปี พ.ศ.๒๕๔๘-๒๕๔๙ ขณะที่สังคมโลกกำลังเกิดความเปลี่ยนแปลงทางคุณภาพอย่างปฏิวัติ การเปลี่ยนผ่านอย่างรวดเร็ว

การพัฒนาเทคโลยียุคอุตสาหกรรม สูงสุดของการพัฒนาหน่วยที่เล็กที่สุดในระดับ “ไมโครเมตร” และครอบคลุมตลาดไว้ได้ทั้งหมดอย่างชราภาพ

 
บันทึกการเข้า
sleepless
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 525


Sleepless


« ตอบ #14 เมื่อ: 26-10-2006, 23:28 »

"ผู้เสพความตาย ได้สร้างรอยไหม้บนท้องฟ้าด้วยตรามารของพ่อมดร้าย ซึ่งเป็นการประกาศถึงผู้นำของพวกเขาเป็นครั้งแรกนับแต่การหายตัวไปของเขาเมื่อสิบสามปีก่อน"



บันทึกการเข้า
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #15 เมื่อ: 27-10-2006, 01:08 »

ว้าววว...สุดยอดเจง ๆ...FTA ไทย-จีน

ได้ยินว่า ไอ้ยุ่นมาบีบ รมต.พานิชย์ไทยคนใหม่ ให้รีบเซ็นเรื่อง FTA มิใช่รึ ฮ่า ฮ่า
บันทึกการเข้า

Solidus
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,381



« ตอบ #16 เมื่อ: 27-10-2006, 02:41 »

ทักษิณ เขารู้ทัน วางแผนสู้เพื่อพวกพ้องตัวเองไว้ก่อน

ไก่ไทยผวาFTAจีนนำสู่หายนะ

จับตาถูกดัมพ์ตลาดยับ/ญี่ปุ่น-อียูฮึ่มห้ามเข้าไก่รีแพ็กเก็จ

อุตสาหกรรมไก่ไทยผวาเอฟทีเอกับจีนเดินสู่หายนะซ้ำรอยผัก ผลไม้ เหตุจีนมีกำลังการผลิตใหญ่กว่าไทยมหาศาล จับตาส่งไก่ราคาถูกเข้ามาดัมพ์ตลาดแน่ ทำผู้ประกอบการในประเทศเจ๊งระนาว "เจ๊หวี"เผยแค่ยังไม่ทันเริ่มต้นก็เริ่มส่งผลกระทบ ล่าสุดญี่ปุ่น-อียูสั่งห้ามนำเข้าทันทีหากตรวจพบรายไหนนำเข้าไก่จากจีนมารี แพ็กเก็จส่งออกชี้กระทบความปลอดภัยผู้บริโภค

จากเอฟทีเอไทย-จีนภายใต้กรอบอาเซียน-จีนที่มีผลบังคับใช้มาแล้ว 2.5 ปี(เริ่มลดภาษีกลุ่มสินค้านำร่อง 1 ต.ค.46) แม้ในภาพรวมไทยจะยังเป็นฝ่ายได้เปรียบดุลการค้าจีนในกลุ่มสินค้าที่มีการลด ภาษี แต่ปรากฎเกษตรกรผู้เพาะปลูกพืช ผัก ผลไม้เมืองหนาว รวมถึงเกษตรกรผู้เพาะปลูกหอม กระเทียมของไทยต่างได้รับผลกระทบอย่างหนักจากที่ไม่สามารถแข่งขันกับสินค้า ราคาถูกนำเข้าจากจีนได้ ล่าสุดผลกระทบกำลังจะลามสู่อุตสาหกรรมไก่ที่มีผู้เกี่ยวข้องอีกนับล้านคน

ทั้งนี้ "ฐานเศรษฐกิจ"ได้รับการเปิดเผยจากนางฉวีวรรณ คำพา นายกสมาคมส่งเสริมการเลี้ยงไก่แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ว่า พลันที่ไทยและจีนได้เริ่มลดภาษีสินค้าไก่ปรุงสุกระหว่างกันตามข้อตกลงเอ ฟทีเอ ล่าสุดผู้นำเข้ารายใหญ่จากญี่ปุ่นและสหภาพยุโรป(อียู)ซึ่งเป็นสองตลาดหลัก ของไทย ได้แสดงความกังวลและเริ่มไม่มีความมั่นใจ โดยหลายรายหวั่นเกรงว่าผู้ส่งออกบางรายของไทยอาจมีการนำเข้าไก่ปรุงสุกจาก จีนมารี-แพ็กเก็จ(ปรับปรุงรูปลักษณ์บรรจุภัณฑ์ใหม่)ก่อนส่งออกไปญี่ปุ่น และอียูโดยได้กำไรงามจากการนำเข้าสินค้าราคาถูกจากจีนมาทำการส่งออก

อย่างไรก็ตามจากการที่เวลานี้ยังมีการระบาดของโรคไข้หวัดนก รวมถึงมีการใช้วัคซีนไข้หวัดนกอย่างแพร่ในประเทศจีน ผู้นำเข้าทั้งสองตลาดเกรงว่าจะกระทบต่อความปลอดภัยของผู้บริโภค ในเรื่องนี้นางฉวีวรรณกล่าวว่า ผู้ส่งออกรายใหญ่ที่ทำธุรกิจในลักษณะครบวงจรได้ให้ความมั่นใจว่าไม่ทำแน่ เพราะกระทบต่อเชื่อเสียงและจะเสียลูกค้า แต่ห่วงว่าอาจมีผู้ประกอบการรายย่อยบางรายอาจเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว มากกว่าประโยชน์ส่วนรวมกระทำการในลักษณะดังกล่าวได้ อย่างไรก็ดีในเรื่องนี้ทางญี่ปุ่นและอียูระบุว่าหากมีการตรวจสอบพบว่ามีการ กระทำจริงจะสั่งห้ามการนำเข้าจากผู้ส่งออกรายนั้นทันที ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อภาพรวมของประเทศไปด้วยอย่างแน่นอน

นางฉวีวรรณ กล่าวว่า นอกจากผลกระทบที่เริ่มเกิดขึ้นข้างต้นแล้ว ในอนาคตจากการจัดทำเอฟทีเอกับจีนอุตสาหกรรมไก่ของไทยที่มีการลงทุนรวมกัน หลายแสนล้านบาท มีผู้ที่เกี่ยวข้องนับล้านคนจะได้รับผลกระทบมาก เนื่องจากอุตสาหกรรมไก่ของจีนมีกำลังการผลิตมหาศาล มีธัญพืช และแรงงานราคาถูกมากมายทำให้มีต้นทุนการผลิตที่ต่ำ หากมีการเปิดเสรีระหว่างกันคาดจะมีสินค้าไก่จากจีนทะลักเข้ามาดัมพ์ราคา ตลาดในประเทศ ซึ่งผู้ประกอบการที่ผลิตเพื่อทำตลาดในประเทศเป็นหลักจะได้รับผลกระทบมาก ส่วนผู้ประกอบการที่ผลิตเพื่อส่งออกจะได้รับผลกระทบด้านความเชื่อมั่น เพราะลูกค้าบางรายไม่มีความมั่นใจว่าไทยจะมีการนำเข้าไก่จากจีนซึ่งมีปัญหา ด้านสุขอนามัยมารีแพ็กเก็จส่งออกหรือไม่ ซึ่งจะทำให้ลดการนำเข้าลง

"ผลจากเอฟทีเอทำให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมไก่ในประเทศมีความกังวลค่อนข้าง มาก ทางออกต่อเรื่องนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของภาครัฐทั้งกรมปศุสัตว์ อย.และหน่วยงานอื่นๆ ควรออกกฎระเบียบการนำเข้าสินค้าไก่จากจีนในระดับที่เข้มงวดมาก เพื่อที่จะชะลอการนำเข้าสินค้าจากจีนออกไป อาทิ ต้องให้เราไปตรวจขั้นตอนการผลิตของจีนทุกขั้นตอน ตั้งแต่ฟาร์มปู่ย่าพ่อแม่พันธุ์ โรงฟัก โรงงานอาหารสัตว์ โรงเชือด โรงชำแหละ โรงปรุงสุก ว่าทำได้ตามมาตรฐานสากลทุกมาตรฐานเหมือนที่ไทยต้องถูกตรวจจากทั้งญี่ปุ่น อียู และอื่นๆ ตรวจสอบในลักษณะเดียวกันหรือไม่ ซึ่งช่วงที่เขายังมีปัญหาไข้หวัดนกระบาด และยังมีการใช้วัคซีนอย่างแพร่หลายซึ่งเป็นสิ่งต้องห้ามในตลาดญี่ปุ่น และอียูนี้เราควรดึงเวลาในเรื่องต่างๆ ข้างต้นออกไปให้นานานที่สุด"

อนึ่ง ภายใต้ข้อตกลงเอฟทีเอไทย-จีน ในสินค้าไก่ปรุงสุก ไทยได้เริ่มลดภาษีนำเข้าให้จีนจากเดิม 30% ลดลงเหลือ20% ตั้งแต่ 1 ก.ค.48 และจะลดลงเป็น 0 ในปี 53 ขณะที่จีนได้ลดภาษีไก่ปรุงสุกให้ไทยจาก 17% ลงเหลือ 15% ตั้งแต่ 1 ก.ค.48 ที่ผ่านมา และจะลดลงเป็น 0ในปี 53 เช่นเดียวกัน ขณะที่ไก่สดแช่แข็ง ณ เวลานี้ทั้งสองฝ่ายได้ลดภาษีระหว่างกันลงเหลือ 0 แล้ว ซึ่งนางฉวีวรรณกล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมาก่อนเกิดไข้หวัดนกในรอบแรกในไทยในช่วงปลายปี 46 ไทยมีการส่งออกไก่สดแช่แข็งประเภทปีก ขาไก่ ตีนไก่ น่องไก่ที่ตกไซส์ และมีราคาถูกไปขายให้จีนแถบสิบสองปันนา ของเมืองคุนหมิง ผ่านทางเชียงแสนแต่หลังเกิดไข้หวัดนกทั้งสองฝ่ายได้ห้ามมีการนำเข้า ขณะที่ไทยไม่เคยมีการนำเข้าสินค้าไก่จากจีน

ด้านนายยุคล ลิ้มแหลมทอง อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า ในเร็วๆ นี้ สำนักงานควบคุมคุณภาพและตรวจสอบกักกันโรคของจีน(AQSIQ)จะส่งเจ้าหน้าที่ ด้านเทคนิคมาร่วมหารือกับกรมปศุสัตว์ของไทยเพื่อร่วมกันจัดทำพิธีสารว่า ด้วยเงื่อนไขการนำเข้าและส่งออกเนื้อสัตว์ปีกปรุงสุกไทย-จีนระหว่างกัน รวมถึงการพิจารณาตัวอย่างใบรับรองสุขอนามัยเนื้อสัตว์ปีกปรุงสุกที่จีนจะ ส่งมาไทยและไทยส่งไปจีนด้วย ซึ่งหากได้กฎระเบียบที่ชัดเจนแล้วภาคเอกชนจึงจะเริ่มใช้สิทธิประโยชน์ด้าน ภาษีตามข้อตกลงเอฟทีเอได้ ส่วนใครจะได้หรือเสียมากกว่ากันนั้นไม่สามารถตอบได้เพราะเป็นเรื่องของอนาคต

โดย : ประชาชาติธุรกิจ        วันที่ 6/03/2006
บันทึกการเข้า
room5
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 573



« ตอบ #17 เมื่อ: 27-10-2006, 05:43 »

עเรื่องในบ้านเอาให้เรียบร้อยก่อนที่จะไปเจือกเรื่องของเพื่อนบ้าน
บันทึกการเข้า
No_Tuky
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 296


« ตอบ #18 เมื่อ: 27-10-2006, 06:25 »

เข้ามาตะลึงอ่ะ 
บันทึกการเข้า
O_envi
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 495



« ตอบ #19 เมื่อ: 27-10-2006, 08:13 »

เก่งแล้วมันไปทำ FTA กับจีนทำไม 

สินค้าบ้านเราเป็นสินค้าเกษตรมีสินค้าอะไรที่บ้านเราตีเขาได้บ้างเนี่ย
ตีได้ก็โดนท้องถิ่นกักไว้ ไอ้ที่รอดมาได้ก็ต้องเจอกับของท้องถิ่นที่ถูกกว่า
ตีตลาดเขาไม่ได้แถมยังโดนเขาตีตลาดอีกผมว่าโง่มากกว่านะ

สงสัยไปเจรจาเพื่อผลประโยชน์ตัวเองอย่างเดียวรึเปล่า
บันทึกการเข้า

The change musts come one by one.It has to start with you
มด 5.11
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 277



« ตอบ #20 เมื่อ: 27-10-2006, 08:29 »

มันสมองของคนไทย ไม่เป็นรองชาติใดในโลก
การแข่งขันทางด้านสติปัญญาในระดับโลก ถ้าเริ่มต้นพร้อมๆกัน ไทยมีลุ้นแชมป์ทุกครั้ง
การเปลี่ยนความสารถนั้นให้เป็นความเจริญของชาติ เราแค่ต้องการผู้นำที่มีความสามารถ
ที่จะเอาจุดเด่นข้อนี้ของคนไทย ไปผสานกับนโยบายระดับชาติ ให้เกิดผลเป็นที่ประจักษ์ต่อชาวโลก อย่างที่ทักษิณทำ

เหล่าคนไทยที่มีความสามารถ แม้วันนี้ทักษิณไม่อยู่ พวกเขาก็ยังคงสร้างสมความสามารถนั้นให้แกร่งขึ้นเรื่อยๆ
พวกเขาจะยังไม่ท้อ บัลลังค์แชมป์โลก ยังรอคนไทยอยู่ 
แค่รอให้ผู้นำของชาติได้กลับมาช่วยสานต่อความฝันของคนไทยเหล่านั้นอีกครั้ง
บันทึกการเข้า

อ้างจาก: คนไม่รักชาติ โกหกได้ กับคนไม่รักชาติด้วยกัน
คนไม่รักชาติ มันทำลายชาติ แต่มันแถ ว่ามันทำลายระบอบทักษิณ
คนไม่รักชาติ ทักษิณประจานพวกมัน มันแถ ว่าทักษิณประจานชาติ
คนไม่รักชาติ โกหกได้ เฉพาะกับคนไม่รักชาติด้วยกันเท่านั้น

ใบไม้ทะเล
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,321


In politics stupidity is not a handicap


« ตอบ #21 เมื่อ: 27-10-2006, 09:01 »

ที่นี้สินค้าที่ถูกๆๆ ทำมาจากเมืองจีนทั้งนั้นเลยค่ะ ถ้าเลงทะเบียนว่า made in Japan เมื่อไรก็เตรียมจนเลย แพงมาก

ราคาต่างกันมากค่ะ คนญี่ปุ่นเขาก็ชอบซื้อใช้ แต่เศรษฐกิจเขาก็ไม่เห็นทรุดเลย เพราะอะไรค่ะ
บันทึกการเข้า

立てばしゃくやく、座ればぼたん、歩く姿はゆりの花
หน้า: [1]
    กระโดดไป: