คัดจากคอลัมน์ จุดไฟในนาคร
โดย ชัชรินทร์ ไชยวัฒน์
หนังสือพิมพ์วิเคราะห์ข่าวการเมืองรายสัปดาห์ "ข่าวพิเศษ"
ปีที่๑๖ ฉบับที่ ๘๐๘(๙๙)"วิถีทางแห่งธรรม" ที่พระมหากษัตริย์ไทยพระองค์นี้ ได้ยึดเป็นพระราชปณิธานนับแต่วันเถลิง
พระราชสมบัติ ก็ได้พิสูจน์แล้วว่า สถาบันพระมหากษัตริย์ไทย และองค์พระมหากษัตริย์ไทย
มีความแตกต่างจากอดีตกษัตริย์องค์อื่นๆเช่นใดบ้าง ภายใต้ภาวะแห่งความสับสนและ
การเปลี่ยนแปลงในทางการเมืองเศรษฐกิจและสังคม อาจจะก่อให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน
ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และ ถ้าหากถูกมองจากสายตาที่ห่างไกลจาก"ธรรมะ" แล้วไซร้
สถาบันพระมหากษัตริย์อาจจะถูกแอบอ้างนำไปใช้เป็นเครื่องมือ
ทางอำนาจให้กับคนในแวดวงการเมือง-เศรษฐกิจ หรือแม้กระทั่งองค์กรทางสังคม......
การแอบอ้างพระมหากษัตริย์โดยปราศจากความเข้าใจใน"ธรรมะ"แห่งองค์พระมหากษัตริย์
ย่อมก่อให้เกิดความรุ่มร้อน ไม่เพียงแต่ในหมู่ผู้กระทำการเหล่านี้ แต่แม้กระทั่งต่ออาณาประชาราษฎร์
บางเหตุการณ์บางกรณีด้วยเช่นกัน และไม่ปรากฏเลยว่าผู้แอบอ้างโดยไม่ได้เข้าใจ
"วิถีทางแห่งพระมหากษัตริย์"นั้น จะประสบความสุขสงบ ความร่มเย็นได้ตลอดกาล......
.....เป็นสิ่งที่ยากมาก ที่พระมหากษัตริย์จะทรง"ปฏิเสธ" หรือ คัดค้าน"การแอบอ้างใดๆ"
โดยเฉพาะการแอบอ้างที่แยบยลขึ้น และซ่อนเงื่อนปมมากยิ่งขึ้น
แม้กระทั่งบางครั้ง"ความรักชาติอย่างผิดๆ" ก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของการแอบอ้าง
โดยปราศจากความเข้าใจถึง "ธรรมะ"........
....การฆ่าฟันศัตรูภายในชาติด้วยคำกล่าวว่า "เพื่อรักษาสถาบันพระมหากษัตริย์"
การสร้างความมั่นคงให้กับสถาบันพระมหากษัตริย์ที่เริ่มต้นด้วยความ"เกลียดชัง"
ด้วยความ"หวาดระแวง" และ "ด้วยความริษยาอาฆาต"นั้น..หาใช่การเดินตามรอยพระยุคลบาทไม่
และด้วยเหตุที่บางครั้ง บางบุคคล..ก่อกำเนิดความรักพระมหากษัตริย์บน"ความเกลียดชัง"
บุคคลอื่นๆ...สถาบันพระมหากษัตริย์มิอาจที่จะปฏิเสธ"ทัศนะแห่งความแตกต่าง"ของบรรดาพสกนิกรใดๆได้เลย
http://www.moomkafae.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=163568&Ntype=2