ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
18-04-2024, 08:31
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  ข้าราชการต้องเลิก"ปอดแหก"ต่อการเมือง....โปรดฟังอีกครั้ง 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
ข้าราชการต้องเลิก"ปอดแหก"ต่อการเมือง....โปรดฟังอีกครั้ง  (อ่าน 735 ครั้ง)
นทร์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,441



เว็บไซต์
« เมื่อ: 25-10-2006, 10:00 »

ข้าราชการต้องเลิก"ปอดแหก"ต่อการเมือง...โปรดฟังอีกครั้ง

24 ตุลาคม 2549 18:56 น.

ใครวิพากษ์กระทรวงการคลัง ในยุค 'ประชานิยม' ก็ไม่ชัดเจน และ 'เตะผ่าหมาก' ได้เหมือนคุณชาย 'อุ๋ย' หรือ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล เพราะท่านเคยเดินเข้าออกแวดวงราชการและเอกชนด้านนี้มานมนาน

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ :

     วันนี้ มาเป็นรองนายกฯและรัฐมนตรีคลัง 'หม่อมอุ๋ย' จึงบอกกล่าวให้คนทั้งหลายได้รู้ว่าเวลาข้าราชการถูกการเมืองครอบงำมากๆ นั้น สามารถเสียผู้เสียคนได้ถึงขนาดไหน

สำนักงานเศรษฐกิจและการคลังที่วงในเรียกขานอย่างคล่องแคล่วว่า 'สศค.' ครบรอบการก่อตั้ง 45 ปี เมื่อสัปดาห์ก่อน ทำให้รัฐมนตรีคลังคนใหม่มีโอกาสเปิดใจให้ได้ฟังกันอย่างตรงไปตรงมา...เปิดหูเปิดตาชาวบ้านอย่างพวกผม ว่างั้นเถอะ

คุณชายอุ๋ย บอกว่า ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์ ได้วางระบบให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นเสาหลักด้านการเงิน และให้ สศค.เป็นเสาหลักด้านนโยบายการคลัง

ตลอด 25 ปีแรก สศค.ทำหน้าที่ได้ดี และเป็นที่ยอมรับ แต่ในความเห็นของคุณชายปรีดิยาธร นั้น

"ในระยะหลัง ดูเหมือนว่าภาพความเป็นเสาหลัก สังคมจะไม่รับรู้เท่าไรนัก..."

"ไม่รับรู้เท่าไร" ดูเหมือนจะเป็นความเห็นที่เบาและสุภาพ เพราะหม่อมอุ๋ย พูดต่อว่า

"โดยเฉพาะในช่วง 4 ถึง 5 ปี ที่ผ่านมา สศค. ไม่ได้ทำหน้าที่ในการทัดทานนโยบายรัฐบาลที่อาจจะมีผลเสียต่อภาคการคลังในอนาคตเท่าที่ควร บางเรื่องที่ผมเคยร่วมประชุมอยู่ ผมก็เห็นว่ามีการทัดทานอยู่บ้าง แต่บางเรื่องก็ทำเป็นเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ปล่อยให้ใช้มาตรการการคลัง และมาตรการกึ่งการคลังที่มีผลเสียต่อเศรษฐกิจโดยไม่ยอมทัดทาน ทั้งที่รู้ว่านโยบายประชานิยมเหล่านั้นใช้เงินไม่คุ้มค่า และบางมาตรการมีผลเสียในระยะยาว แต่ไม่มีใครกล้าที่จะหยิบยกเรื่องดังกล่าวออกมาให้สังคมได้รับทราบ ทั้งที่ความจริงมันมีศิลปะอีกมากมายที่จะทัดทานได้ โดยไม่เกิดความขัดแย้ง..."

คุณชายอุ๋ย พูดต่อ เรื่องการใช้เงินงบประมาณของรัฐบาลก่อนก็เป็นประเด็นสำคัญ

"ถ้าไม่สามารถทัดทานได้ ก็ต้องมีการวางกฎเกณฑ์ให้การใช้จ่ายทำอย่างโปร่งใสที่สุดและตรวจสอบได้ หรือไม่เช่นนั้นก็ต้องทำหน้าที่ที่ประเมินสรุปความเสี่ยง และรายงานให้ทราบ ถ้า สศค. ไม่ทำหน้าที่เหล่านี้ทั้งที่เป็นด่านสุดท้าย ประเทศจะอยู่อย่างไร?"

ถ้าข้าราชการบอกว่าพวกเขากลัวอำนาจการเมืองล่ะ? รัฐมนตรีคลังคนใหม่บอกว่า

"ผมเข้าใจ และเห็นใจข้าราชการทุกคน เพราะทุกคนรับราชการเป็นอาชีพ ได้รับเงินเดือนก็ต่ำกว่าที่ควรจะเป็น ถ้าตกงานก็คงลำบาก มีลูกมีเมียที่ต้องรับผิดชอบ ถูกบีบ ถูกครอบ จนสุดท้ายก็ต้องทำ แต่ผมขอยกประโยคของอาจารย์ป๋วยมาเตือนใจ เพราะคำพูดคำนี้เป็นหลักการทำงานของผมเสมอ คือ คนเราถ้าทำงานโดยไม่ยึดติดเก้าอี้ ก็ตัดสินใจได้ถูกต้องเสมอ..."

ผมยกคำพูดของหม่อมอุ๋ยทั้งพวงมาให้อ่านกันในคอลัมน์นี้ ไม่ใช่เพียงเพื่อให้เห็นว่าข้าราชการภายใต้ระบอบทักษิณนั้น ทำงานอยู่ในบรรยากาศแห่งความกลัวและเป็นอันตรายต่อประเทศชาติอย่างไร แต่กำลังจะบอกกับข้าราชการทั้งประเทศว่า วันนี้ 'ฟ้าใส' แล้ว ข้าราชการจะต้องสามารถลุกขึ้นมาทักท้วง ทัดทานและทำหน้าที่เป็นหูเป็นตาของประชาชน (ที่เป็นเจ้านายที่แท้จริงของข้าราชการทั้งหมด) โดยไม่ต้องหวั่นเกรงต่ออำนาจหรืออิทธิพลทางการเมือง

เพราะหนึ่งในแกนสำคัญของรัฐบาลนี้ ได้ออกมาบอกเองว่าข้าราชการต้องไม่ 'ปอดแหก' (คำของผมเอง) เพราะความปอดแหกต่อนักการเมืองนั้น นำมาซึ่งความหายนะแห่งประเทศได้อย่างที่เห็นกัน เพราะเมื่อข้าราชการกลัวนักการเมืองฉ้อฉล และเพราะกลัวตกงาน ก็เป็นได้แต่เพียงขี้ข้า และ 'สุนัขรับใช้' (ภาษาคอมมิวนิสต์ที่ยังทันสมัยในวันนี้) ที่ไม่สนใจว่าประเทศชาติถูกปล้นสะดมไปแล้วอย่างไรบ้าง

วันนี้ เมื่อรองนายกฯ คนนี้ ออกมาเท้าความให้เห็นว่า คนของ สศค. เคย 'ปอดแหก' กับระบอบทักษิณอย่างไร ก็ได้เวลาแล้วที่อย่างน้อยคนรุ่นใหม่ที่มีอุดมการณ์เพื่อบ้านเพื่อเมืองในองค์กรนี้ (และแน่นอน หน่วยราชการทั้งหลายทั้งปวงที่ไม่ได้รับเกียรติถูกเอ่ยถึงด้วย) ที่จะแสดงความกล้าหาญ ความมุ่งมั่นและความรับผิดชอบต่อบ้านเมือง ด้วยการทำหน้าที่ของตัวเองอย่างไม่เกรงกลัวต่ออิทธิพลทางการเมือง หรือการเงิน หรือความพยายามจะครอบงำใดๆ ทั้งสิ้น

ต้องกล้าทั้งเปิดโปงความชั่วร้ายของระบอบทักษิณ และต้องกล้าที่จะวิพากษ์สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นภายใต้รัฐบาลชุดนี้ด้วย...

http://www.bangkokbiznews.com/2006/10/25/u001_147880.php?news_id=147880

เป็นคำแนะนำที่ดี น่าสนใจมาก 
บันทึกการเข้า

"ประชาชน อย่าทิ้งประเทศชาติ"
มด 5.11
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 277



« ตอบ #1 เมื่อ: 25-10-2006, 12:47 »

ข้าราชการต้องเลิก"ปอดแหก"ต่อการเมือง...โปรดฟังอีกครั้ง

.....

"โดยเฉพาะในช่วง 4 ถึง 5 ปี ที่ผ่านมา สศค. ไม่ได้ทำหน้าที่ในการทัดทานนโยบายรัฐบาลที่อาจจะมีผลเสียต่อภาคการคลังในอนาคตเท่าที่ควร บางเรื่องที่ผมเคยร่วมประชุมอยู่ ผมก็เห็นว่ามีการทัดทานอยู่บ้าง แต่บางเรื่องก็ทำเป็นเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ปล่อยให้ใช้มาตรการการคลัง และมาตรการกึ่งการคลังที่มีผลเสียต่อเศรษฐกิจโดยไม่ยอมทัดทาน ทั้งที่รู้ว่านโยบายประชานิยมเหล่านั้นใช้เงินไม่คุ้มค่า และบางมาตรการมีผลเสียในระยะยาว แต่ไม่มีใครกล้าที่จะหยิบยกเรื่องดังกล่าวออกมาให้สังคมได้รับทราบ ทั้งที่ความจริงมันมีศิลปะอีกมากมายที่จะทัดทานได้ โดยไม่เกิดความขัดแย้ง..."

.....


นโยบายของรัฐบาล ย่อมมีข้อบกพร่องอยู่เป็นธรรมดา การทัดทาน จากคนที่มีความรู้ความสามารถ ด้วยบทบาทที่เหมาะสม มีส่วนช่วยให้รัฐบาลได้แก้ไขปรับปรุง หรือแม้แต่ยกเลิกนโยบายที่จะเกิดผลเสียต่อชาติ แทนที่จะปล่อยให้ล่วงเลยจนเกิดผลเสียต่อสังคม

ทักษิณเองก็ต้องระวัง ว่าการที่ผู้มีความรู้และประสปการณ์ มิได้ทัดทานการกระทำใดๆ ที่พวกเขาพบผิดพลาด อาจเกิดจากการตั้งตัวเป็นปฏิปักษ์ต่อกัน แล้วเลือกที่จะปล่อยให้เกิดความเสียหาย เพื่อเอามาเป็นประเด็นโจมตีรัฐบาล การที่ทักษิณคิดง่ายๆว่า เพื่อชาติ ทุกคนย่อมให้ความร่วมมือ อาจนับได้ว่า อ่อนเชิง ในเกมส์การเมืองเกินไป องค์กรต่างๆ ที่มีความรู้ความสามรถ อาจจะเลือกให้ความร่วมมือกับบางพรรค แต่เพิกเฉยกับอีกพรรค ด้วยความพอใจส่วนตัว หรือผลประโยชน์แอบแฝงได้

ที่ร้ายกว่านั้น การแกล้งทัดทานพร่ำเพรื่อ เป็นพฤติกรรมที่ส่อเจตนาไม่บริสุทธิ คือทำให้ผู้ถูกทัดทานเกิดความรำคาญ และกลายเป็นการถ่วงการพัฒนาชาติ มากกว่าหวังดี ครั้นทัดทานจริงจังขึ้นมา ก็กลายเป็นเด็กเลี้ยงแกะ ไม่มีใครอยากฟังแล้ว พอมีปัญหาขึ้นมาทีหลัง ก็หาว่าเขาไม่ฟัง พฤติกรรมแบบนี้ อาจเป็นนิสัยเสียของคน หรือเจตนาให้ร้าย ซึ่งยากที่จะจับได้

ถ้าทัดทาน(ด้วยความหวังดี)แล้วไม่ฟัง เป็นความผิดของรัฐบาล
แต่ถ้าไม่ทัดทาน เพราะไม่กล้า หรือไม่อยาก หรือออกไปในทางก่อกวน ชาติเสียหายขึ้นมา ต้องรับผิดชอบร่วมกัน
บันทึกการเข้า

อ้างจาก: คนไม่รักชาติ โกหกได้ กับคนไม่รักชาติด้วยกัน
คนไม่รักชาติ มันทำลายชาติ แต่มันแถ ว่ามันทำลายระบอบทักษิณ
คนไม่รักชาติ ทักษิณประจานพวกมัน มันแถ ว่าทักษิณประจานชาติ
คนไม่รักชาติ โกหกได้ เฉพาะกับคนไม่รักชาติด้วยกันเท่านั้น

นทร์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,441



เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: 25-10-2006, 13:06 »

ที่ร้ายกว่านั้น การแกล้งทัดทานพร่ำเพรื่อ เป็นพฤติกรรมที่ส่อเจตนาไม่บริสุทธิ คือทำให้ผู้ถูกทัดทานเกิดความรำคาญ และกลายเป็นการถ่วงการพัฒนาชาติ มากกว่าหวังดี ครั้นทัดทานจริงจังขึ้นมา ก็กลายเป็นเด็กเลี้ยงแกะ ไม่มีใครอยากฟังแล้ว พอมีปัญหาขึ้นมาทีหลัง ก็หาว่าเขาไม่ฟัง พฤติกรรมแบบนี้ อาจเป็นนิสัยเสียของคน หรือเจตนาให้ร้าย ซึ่งยากที่จะจับได้

ก็คิดกันแบบนี้แหละครับ ทักษิณ ถึงมีวันนี้ได้   
บันทึกการเข้า

"ประชาชน อย่าทิ้งประเทศชาติ"
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: 25-10-2006, 13:10 »

เค้าถืออำนาจว่า มาจากประชาชนไง....

ถึงยังไงมันก็ขึ้นกับว่า การถ่วงดุลในระบบคงทำได้ไม่มาก

เว้นแต่จะใช้ระบบ อมาตยาธิปไตย เทคโนแครตอย่างเต็มรูปแบบ
บันทึกการเข้า

หน้า: [1]
    กระโดดไป: