********Q********
|
 |
« ตอบ #50 เมื่อ: 23-10-2006, 21:44 » |
|
ก็ตัวคนตั้งกระทู้นะแหละ ตอบเองซะก็หมดเรื่อง
นี่ เรื่องอะไร จะมายื่นเฝือกให้เพื่อนยังไง ๆ ก็ไม่ตอบ (โว้ยยยยยยยยยยย)  ของอย่างนี้ แบ่งๆกันตอบดีแล้วครับ แหม ทีปกติเห็น แย่งซีนกันจัง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Can ไทเมือง
|
 |
« ตอบ #51 เมื่อ: 23-10-2006, 21:45 » |
|
ก็แค่จะบอกว่า...อย่าให้ผู้หญิงมีอำนาจก็เท่านั้น
จะโดน สาว ๆ ถล่มป๊ะเนี่ย..
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
แอ่นแอ๊น
|
 |
« ตอบ #52 เมื่อ: 23-10-2006, 21:46 » |
|
งั้นต้องถามอีกอย่างนึงคือ บทบาทของดอกเตอร์ไรซ์นี่เธอไม่สร้างสรรค์หรือไม่ หรือว่าอย่างอาโรโย่ นี่ไม่สร้างสรรค์ด้วยหรือไม่ แต่แอนดูแล้ว สองคนนี้ ออกจะคล้ายๆ กัน น่ากัวๆ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"เมื่อเจตนาเบี่ยงเบนไปจากความจริง การนำเสนอข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง บางทีก็เป็นเพียงภาษาสุภาพสำหรับการพูดเท็จนั่นเอง" : วิถีแห่งปราชญ์ พิมพ์ครั้งที่ ๗ หน้า ๒๐๖
|
|
|
|
cameronDZ
|
 |
« ตอบ #54 เมื่อ: 23-10-2006, 21:56 » |
|
งั้นต้องถามอีกอย่างนึงคือ บทบาทของดอกเตอร์ไรซ์นี่เธอไม่สร้างสรรค์หรือไม่ หรือว่าอย่างอาโรโย่ นี่ไม่สร้างสรรค์ด้วยหรือไม่ แต่แอนดูแล้ว สองคนนี้ ออกจะคล้ายๆ กัน น่ากัวๆ  ถ้าจะเอา 2 เคสนี้ อาจจะเป็นการมองแบบ อคติทางเพศ ไปก็ได้ครับ ผมว่า เป็นความบังเอิญ มากกว่า ที่ "มนุษย์" สองคนนี้ ดันมามีบทบาททางการเมืองแบบ ไม่สร้างสรรค์ สักเท่าไหร่ และดัน เกิดมาเป็นผู้หญิง บางคน เลย(อาจ)จะมองว่า เนี่ยไง นิสัยผู้หญิง.......ซึ่งผมว่า มองอย่างนี้ ไม่แฟร์นัก อ้าว...หลงเข้ามาตอบจนได้ ไม่น่าเลยตู ปฏิเสธอยู่แหม็บ ๆ นี่อาจเป็นเพราะ อำนาจทางเพศ ก็ได้จขกท. ตะโกนปาว ๆ ให้มาตอบ ไม่สนใจ พอเห็นกระทู้ ญ เขียนเท่านั้น กระโจนเข้ามาตอบเลย อิ อิ อิ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ข้าพเจ้าอยู่ที่นี่มาหลายปี ยังไม่เคยได้รับคำขอโทษ ขอขมา จากใครแม้แต่สักคนเดียวเลย ...เช่นกัน คำขอบคุณ ก็ยังไม่เคยมีสักคำ... แต่ข้าพเจ้าคิดว่า ในใจพวกเขาคงคิดคำเหล่านี้อยู่บ้างหรอก ...แค่คิด ไม่ต้องบอกออกมา ข้าพเจ้าก็พอใจแล้ว...
|
|
|
แอ่นแอ๊น
|
 |
« ตอบ #55 เมื่อ: 23-10-2006, 21:57 » |
|
ก็แค่จะบอกว่า...อย่าให้ผู้หญิงมีอำนาจก็เท่านั้น
จะโดน สาว ๆ ถล่มป๊ะเนี่ย..
โดนถล่มหรือเปล่าไม่รู้ รู้แต่ว่า อำนาจมันไม่เข้าใครออกใคร ไม่ว่าเพศไหนอ่ะนะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"เมื่อเจตนาเบี่ยงเบนไปจากความจริง การนำเสนอข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง บางทีก็เป็นเพียงภาษาสุภาพสำหรับการพูดเท็จนั่นเอง" : วิถีแห่งปราชญ์ พิมพ์ครั้งที่ ๗ หน้า ๒๐๖
|
|
|
|
Can ไทเมือง
|
 |
« ตอบ #57 เมื่อ: 23-10-2006, 21:59 » |
|
ทำไมไม่บอกว่า ปัญหาของผู้ชายคือ กลัวเมีย
ปัญหาของผู้หญิงคือ มีความเป็นเพศแม่ แม่ที่จะบอกคนทั้งโลกว่า ลูกของฉัน ฉันรักและให้อภัยเสมอ
ไม่ว่าลูกของตนเอง ( อาจหมายถึงสามีด้วย ) จะเลวขนาดใหน ก็พร้อมให้อภัยและปกป้อง
แต่ลืมไปว่า สังคมเค้าไม่ให้อภัยไง...
ยิ่งถ้าเป็นเรื่องที่ต้องตรวจสอบ กล่าวโทษ ตัดสินใจ เช่น สภาผัวเมีย นี่ยุ่งเลยละครับ
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-10-2006, 22:05 โดย CanCan »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
cameronDZ
|
 |
« ตอบ #58 เมื่อ: 23-10-2006, 22:02 » |
|
ทำไมไม่บอกว่า ปัญหาของผู้ชายคือ กลัวเมีย
ปัญหาข้อนี้ผมไม่มีครับ ลุงแคน
แต่ปัญหาของผมคือ เมียไม่กลัวผม ครับ*อืออ ชักจะเข้ารกเข้าพงไปเรือยแล้ว*
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ข้าพเจ้าอยู่ที่นี่มาหลายปี ยังไม่เคยได้รับคำขอโทษ ขอขมา จากใครแม้แต่สักคนเดียวเลย ...เช่นกัน คำขอบคุณ ก็ยังไม่เคยมีสักคำ... แต่ข้าพเจ้าคิดว่า ในใจพวกเขาคงคิดคำเหล่านี้อยู่บ้างหรอก ...แค่คิด ไม่ต้องบอกออกมา ข้าพเจ้าก็พอใจแล้ว...
|
|
|
แอ่นแอ๊น
|
 |
« ตอบ #59 เมื่อ: 23-10-2006, 22:04 » |
|
* งั้น .. เอ้ .. มาถามกลับบ้างว่า
ผู้ชายคิดว่า ... อะไรคือปัญหาของผู้ชายกับการเมืองบ้างค่ะ ????  ปัญหาของผู้ชายส่วนใหญ่คือ ชอบยอมให้ผู้หญิง(โดยเฉพาะภรรยา)เก็บตังส์ครับ  ทำไมไม่บอกว่า ปัญหาของผู้ชายคือ กลัวเมีย
ทำไมไม่บอกว่า ปัญหาของผู้ชายคือ กลัวเมีย
ปัญหาข้อนี้ผมไม่มีครับ ลุงแคน
แต่ปัญหาของผมคือ เมียไม่กลัวผม ครับ*อืออ ชักจะเข้ารกเข้าพงไปเรือยแล้ว* มาพร้อมกันเลย  หนายว่า เกรงใจเฉยๆ ไง 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"เมื่อเจตนาเบี่ยงเบนไปจากความจริง การนำเสนอข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง บางทีก็เป็นเพียงภาษาสุภาพสำหรับการพูดเท็จนั่นเอง" : วิถีแห่งปราชญ์ พิมพ์ครั้งที่ ๗ หน้า ๒๐๖
|
|
|
Cherub Rock
|
 |
« ตอบ #60 เมื่อ: 23-10-2006, 22:07 » |
|
ปัญหาของผู้ชายคือ กลัวเมีย
วรรคทองมาจนได้ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"นายกรัฐมนตรีกำลังใช้รัฐสภาประกอบพิธีกรรมสถาปนาอำนาจของตนเองโดยเห็นรัฐสภาเป็นเพียงแค่ตรายาง และปล่อยให้มีการทำร้ายประชาชนถือว่าหมดความชอบธรรมแล้ว" รสนา โตสิตระกูล
|
|
|
|
|
|
|
Can ไทเมือง
|
 |
« ตอบ #65 เมื่อ: 23-10-2006, 22:22 » |
|
เออลืมไป เรื่องสรีระ ก็สำคัญนะ เพราะผู้หญิงมีเรื่อง ฮอร์โมน มาเกี่ยวข้องในบางเวลา
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
p
|
 |
« ตอบ #67 เมื่อ: 23-10-2006, 22:32 » |
|
... แม่ที่จะบอกคนทั้งโลกว่า ลูกของฉัน ฉันรักและให้อภัยเสมอ ไม่ว่าลูกของตนเอง ( อาจหมายถึงสามีด้วย ) จะเลวขนาดใหน ก็พร้อมให้อภัยและปกป้อง ...
เห็นคุณ see-you ทำท่าจะเครียดแล้ว ขออนุญาตเล่านิทานหน่อยได้ไหมครับ เริ่มเลยนะครับ ภรรยา: ลูกๆเอ้ย ทานข้าวได้แล้ว ลูกคนที่ 1: ครับ แม่ ! ลูกคนที่ 2: ครับ แม่ ! (ขณะนั้นเหลือสามีคนเดียวที่อยู่หน้าจอทีวี ส่วนลูกๆรีบวิ่งไปที่โต๊ะอาหารหมดแล้ว) ภรรยา: ลูกเอ้ย ทานข้าวได้แล้ว ภรรยา: ลูกเอ้ย ทานข้าวได้แล้ว สามี: เรียกใครวะ ลูกเอ้ย ลูกเอ้ย เรียกใครวะ ภรรยา: ไม่รู้หละ ใครดูดนมกู ลูกกูทั้งนั้นแหละ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ถ้ามัวคิดแต่จะโกงและเอาเปรียบคนอื่น จะสอนลูกหลานให้เป็นคนดีได้อย่างไร
|
|
|
ไทมุง
|
 |
« ตอบ #68 เมื่อ: 23-10-2006, 22:33 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
ไทมุง
|
 |
« ตอบ #70 เมื่อ: 23-10-2006, 22:48 » |
|
ลุงแคนบอกว่าผู้หญิงรู้สึกถึงความเป็นแม่ทั้งกะลูกตัวเอง และลูกแม่สามี..ก็ถูกนะ
แต่บางครั้ง ผู้หญิงคนนั้น ก็ไม่ได้รักลูกคนอื่นๆ อีกมากมาย 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
ooo
|
 |
« ตอบ #72 เมื่อ: 23-10-2006, 22:54 » |
|
ผู้หญิงกับการเมืองไม่น่ามีปัญหานะ แต่ถ้าหากจะตีความไปเรื่อง "ผู้หญิง" กับ "อำนาจ" อาจจะเข้าเค้ากว่า ผู้หญิง..... อำนาจ..... เงินตรา..... เป็น3สิ่งที่ผู้ชาย...พึงระวัง 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
Can ไทเมือง
|
 |
« ตอบ #74 เมื่อ: 23-10-2006, 22:58 » |
|
อ้อ...นึกว่า ศาลา นารี วิถี คงคา
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ไทมุง
|
 |
« ตอบ #75 เมื่อ: 23-10-2006, 23:06 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
********Q********
|
 |
« ตอบ #76 เมื่อ: 23-10-2006, 23:08 » |
|
อ้อ...นึกว่า ศาลา นารี วิถี คงคา
นึกได้อีกอัน สุรา นารี พาชี กีฬาบัตร หนะครับ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
********Q********
|
 |
« ตอบ #77 เมื่อ: 23-10-2006, 23:11 » |
|
ฐานันดรที่สี่ ด้วยรึเปล่าครับ ห้ามลำเอียง ห้ามลำเอียง มีปัญหาก็ลำเฉียงก็แล้วกัน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
********Q********
|
 |
« ตอบ #78 เมื่อ: 23-10-2006, 23:13 » |
|
* อ่ะ ..... แทงกิ้วหลาย ๆ ค่ะ คุณ P ที่นิทานมาเล่าให้ฟัง
เอ้ ................... มะได้เครียดจ้า
ก็แค่ถามเจ๋ย ๆ .... เพราะสงสัย
เนี่ย ! เพื่อนมันเรียก เอ้ ว่าเจ้าหนูจำไมแล้ว ... เพราะเห็นถามจริงถามจัง
โอเค ... กลับเข้าสู้หัวข้อ กระทู้ กันเหอะ ... พี่น้องคร๊าบบบ  เอ เขาว่ากันว่า และข้าพเจ้าก็เชื่อแล้วว่าเพศหญิงมักจะช่างสงสัยค่ะ(ครับ)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ไทมุง
|
 |
« ตอบ #79 เมื่อ: 23-10-2006, 23:16 » |
|
ฐานันดรที่สี่ ด้วยรึเปล่าครับ ห้ามลำเอียง ห้ามลำเอียง มีปัญหาก็ลำเฉียงก็แล้วกัน จะให้เฉียงข้างไหน..Ooooops 
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-10-2006, 23:42 โดย ไทมุง »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
แอ่นแอ๊น
|
 |
« ตอบ #80 เมื่อ: 23-10-2006, 23:22 » |
|
^ ^ ^ โค้ดเจ๋ยๆ ไม่มีความเห็นอีกแย้ว แปลว่าไรอ่ะ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"เมื่อเจตนาเบี่ยงเบนไปจากความจริง การนำเสนอข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง บางทีก็เป็นเพียงภาษาสุภาพสำหรับการพูดเท็จนั่นเอง" : วิถีแห่งปราชญ์ พิมพ์ครั้งที่ ๗ หน้า ๒๐๖
|
|
|
ไทมุง
|
 |
« ตอบ #81 เมื่อ: 23-10-2006, 23:43 » |
|
^ ^ ^ โค้ดเจ๋ยๆ ไม่มีความเห็นอีกแย้ว แปลว่าไรอ่ะ  ข้อความซ่อนอยู่ เนื่องจากล่อแหลม..ดึงกลับมาให้คุณแอนอ่านแล้ว ตามนั้น
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นายเกตุ
|
 |
« ตอบ #82 เมื่อ: 24-10-2006, 12:30 » |
|
คุณคิดว่า อะไรคือปัญหาของผู้หญิงกับการเมืองครับ? ก็ผู้ชายไงค่ะ ว๊าย..............
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Can ไทเมือง
|
 |
« ตอบ #83 เมื่อ: 24-10-2006, 12:49 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
********Q********
|
 |
« ตอบ #85 เมื่อ: 24-10-2006, 18:20 » |
|
ที่ผมมั่นใจคือนิสัยกับพฤติกรรมของหญิงและชายมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ การมองปัญหาเดียวกันจึงต่างกัน ทำให้ปัญหาที่สะท้อนกลับมาสู่ตนเองก็ย่อมจะต่างกันอย่างมีนัยสำคัญด้วยเช่นกันเป็นส่วนใหญ่ 
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-10-2006, 18:24 โดย Q »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ใบไม้ทะเล
|
 |
« ตอบ #86 เมื่อ: 24-10-2006, 18:31 » |
|
ที่ผมมั่นใจคือนิสัยกับพฤติกรรมของหญิงและชายมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ การมองปัญหาเดียวกันจึงต่างกัน ทำให้ปัญหาที่สะท้อนกลับมาสู่ตนเองก็ย่อมจะต่างกันอย่างมีนัยสำคัญด้วยเช่นกันเป็นส่วนใหญ่  โหยยคุณ พฤติกรรมหญิงและชายมันต้องต่างกันอยู่แล้วค่ะ ถ้าเหมือนกัน โอ....นึกภาพไม่ออกเลย ผู้ชายจะมองปัญญาแบบรวบรัด มุ่งไปที่ประเด็น เท่านั้น ส่วนผู้หญิงจะมองปัญหา อย่างละเอียดอ่อน รอบคอบ และค่อยเปลี่ยนแปลง สังคมทุกวันนี้ จึงมีสองด้านและสมดุลอยุ่แล้ว ไม่มีฝ่ายไหนเสียเปรียบ หรือเก่งกว่าฉลาดกว่า ทุกเพศมีจุดด้อยจุดเด่น สุดแต่ว่าจะเอามาโชว์ด้านไหน เหมือนเพศชายที่คิดว่าตัวเองเป็นนักบริหารที่เก่งที่สุด แต่เอาเข้าใจ แค่บริการบ้านตัวเอง เมียยังคุมเลย สุดท้ายใครยิ่งใหญ่อยุ่ข้างหลัง ก็เห็นๆๆกันอยู่นี้ค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
立てばしゃくやく、座ればぼたん、歩く姿はゆりの花
|
|
|
********Q********
|
 |
« ตอบ #87 เมื่อ: 24-10-2006, 18:42 » |
|
ที่ผมมั่นใจคือนิสัยกับพฤติกรรมของหญิงและชายมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ การมองปัญหาเดียวกันจึงต่างกัน ทำให้ปัญหาที่สะท้อนกลับมาสู่ตนเองก็ย่อมจะต่างกันอย่างมีนัยสำคัญด้วยเช่นกันเป็นส่วนใหญ่  โหยยคุณ พฤติกรรมหญิงและชายมันต้องต่างกันอยู่แล้วค่ะ ถ้าเหมือนกัน โอ....นึกภาพไม่ออกเลย ผู้ชายจะมองปัญญาแบบรวบรัด มุ่งไปที่ประเด็น เท่านั้น ส่วนผู้หญิงจะมองปัญหา อย่างละเอียดอ่อน รอบคอบ และค่อยเปลี่ยนแปลง สังคมทุกวันนี้ จึงมีสองด้านและสมดุลอยุ่แล้ว ไม่มีฝ่ายไหนเสียเปรียบ หรือเก่งกว่าฉลาดกว่า ทุกเพศมีจุดด้อยจุดเด่น สุดแต่ว่าจะเอามาโชว์ด้านไหน เหมือนเพศชายที่คิดว่าตัวเองเป็นนักบริหารที่เก่งที่สุด แต่เอาเข้าใจ แค่บริการบ้านตัวเอง เมียยังคุมเลย สุดท้ายใครยิ่งใหญ่อยุ่ข้างหลัง ก็เห็นๆๆกันอยู่นี้ค่ะ ยังไม่เห็นครับเรื่องความยิ่งใหญ่ เห็นแต่กรณีที่ยกตัวอย่างไปหลายๆราย วันนี้ ยกอีกตัวอย่างก็ได้ครับ เช่น กรณีของภรรยาของอดีตนายกฯท่านหนึ่งฝันว่า เหาะข้ามภูเขาอะไรนี่แหละ ไม่กี่วันสามียังไม่ได้ทำงานก็เสียตำแหน่งครับ 
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-10-2006, 18:46 โดย Q »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
********Q********
|
 |
« ตอบ #88 เมื่อ: 24-10-2006, 19:27 » |
|
กระทู้นี้คงจะไม่รวบรัดหรอกครับ มุ่งประเด็นที่จะให้เกิดการศึกษาบทบาทและพฤติกรรมของผู้หญิงกับการเมืองในรูปแบบต่างๆ ว่าส่งผลกระทบอย่างไรต่อสังคม ต่อคนใกล้ตัว และชีวิตตนเองครับ ส่วนเรื่องความหลากหลายทางชีวภาพปกติตามธรรมชาติเป็นเรื่องที่ต้องรักษาไว้ให้คงอยู่ต่อไป เพราะเป็นกลไกที่สำคัญในการสืบเผ่าพันธุ์มนุษยชาติและสิ่งมีชีวิตอื่นๆตลอดมาและคงจะตลอดไปด้วยครับ 
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-10-2006, 22:04 โดย Q »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
********Q********
|
 |
« ตอบ #89 เมื่อ: 25-10-2006, 00:20 » |
|
สถานภาพสตรีไทย : อดีต - ปัจจุบัน http://www.data.cusri.chula.ac.th/Woman/doc2.docปี พ.ศ.2542 เสนอร่างพระราชบัญญัติการใช้นามสกุล เพื่อให้สิทธิหญิงที่ สมรส จะเลือกใช้นามสกุลเดิมของหญิงหรือคู่สมรส ปี พ.ศ.2541 คณะรัฐมนตรีมีมติ เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2541ให้ทุกกระทรวง ได้พิจารณาถึงนโยบายเร่งด่วนที่จะแก้ไขปัญหาวิกฤตของชาติ ตลอดจนการปรับแผนการดำเนินงานของกระทรวง โดยขอให้ คำนึงถึงผลกระทบทั้งทางเศรษฐกิจและสังคมที่มีต่อสตรีเป็น กรณีพิเศษ ปี พ.ศ.2540 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการ ให้ยกฐานะสำนักงาน คณะกรรมการส่งเสริมและประสานงานสตรีแห่งชาติ เป็น ส่วนราชการระดับกรม เพื่อให้รองรับการประสานนโยบาย และการส่งเสริมงานพัฒนาสตรีกับองค์กรต่าง ๆ ในระดับชาติ และระดับโลกได้ - ประกาศใช้พระราชบัญญัติมาตรการในการป้องกันและปราบปราม การค้าหญิงและเด็ก พ.ศ. 2540 และพระราชบัญญัติแก้ไข เพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 14) พ.ศ. 2540 ปี พ.ศ.2539 แต่งตั้งนายอำเภอหญิงคนแรก (คุณประสม ดำริชอบ) - แต่งตั้งนายพลหญิงเป็นครั้งแรก จำนวน 10 คน - มติคณะรัฐมนตรีเห็นชอบ นโยบายและแผนปฏิบัติการป้องกัน และแก้ไขปัญหาธุรกิจบริการทางเพศ - พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ. 2539 ได้รับการประกาศใช้โดยเพิ่มโทษผู้เกี่ยวข้องในการนำเด็ก เข้าสู่กระบวนการค้าธุรกิจทางเพศ และผู้ใช้บริการ - ข้าราชการและลูกจ้างหญิงภาครัฐ มีสิทธิในการลาคลอดได้ 90 วัน โดยไม่ต้องรวมอยู่กับวันลากิจ ปี พ.ศ.2538 สิทธิที่เท่าเทียมกันสำหรับสตรีได้รับการบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ โอกาสเท่าเทียมกันสำหรับสตรีในด้านการศึกษาทุกด้าน ด้านการเมืองและกิจกรรมสาธารณะ - แต่งตั้งพนักงานสอบสวนหญิงเป็นครั้งแรก สำหรับสถานี ตำรวจที่มีคดีสถิติเกี่ยวกับความรุนแรงต่อสตรีและเด็กสูง ปี พ.ศ.2537 แต่งตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดหญิงคนแรก (คุณจรัสศรี ทีปิรัช) รองผู้ว่าราชการจังหวัดหญิงคนแรก และปลัดอำเภอหญิง ปี พ.ศ.2536 คุณหญิงสุพัตรา มาศดิตถ์ ได้รับเชิญให้เป็นประธานการ จัดการประชุมระดับโลกว่าด้วยเรื่องสตรี (ภาคองค์กรเอกชน) ซึ่งเป็นสตรีชาวเอเซียคนแรกที่ได้ดำรงตำแหน่งนี้ - มติของคณะรัฐมนตรีให้ยกเลิกข้อห้ามการแต่งตั้งสตรีเป็นปลัด อำเภอ (หนทางไปสู่อำนาจทางการปกครอง) ปี พ.ศ.2535 มติคณะรัฐมนตรีให้ปี 2535 เป็น "ปีสตรีไทย" เพื่อเฉลิม พระเกียรติและรำลึกในวโรกาสที่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงเจริญพระชนม์พรรษาครบ 5 รอบ - แผนพัฒนาสตรีระยะยาวได้รับการทบทวน - ข้อสงวนในอนุสัญญาฯ ว่าด้วยเรื่องการถือสัญชาติของบุตรที่ เกิดจากหญิงไทยได้ถูกยกเลิก ทำให้หญิงไทยที่มีสามีเป็น ชนต่างชาติมีสิทธิที่จะให้บุตรถือสัญชาติตามผู้เป็นมารดาได้ เช่นเดียวกับที่ชายไทยที่มีภรรยาเป็นชนต่างชาติมีสิทธิให้บุตร ถือสัญชาติตามบิดา - ขยายระยะเวลาในการลาคลอดของข้าราชการหญิงจาก 45 วัน เป็น 60 วัน ในภาคเอกชนคนงานหญิง ได้รับอนุญาตให้ ลาคลอดได้ 90 วัน - รัฐบาลภายใต้การบริหารของนายกรัฐมนตรีชวน หลีกภัย ได้ แถลงนโยบายในส่วนที่เกี่ยวกับสตรี โดยมีเป้าหมายสำคัญใน เรื่องการป้องกันและปราบปรามการมีโสเภณี การยกเลิก การมีโสเภณีเด็กและการเปิดโอกาสให้สตรีสามารถประกอบ อาชีพได้เท่าเทียมกับชาย - ท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช ได้รับเชิญให้เป็น ผู้ประสานงาน การเตรียมการประชุมระดับโลกว่าด้วยเรื่องสตรี (ภาคองค์กร เอกชน) ของภูมิภาคเอเซียและแปซิฟิค ซึ่งได้จัดขึ้นพร้อมกับ การประชุมสตรีโลก ครั้งที่ 4 ในปี 2538 ปี พ.ศ.2534 คณะรัฐมนตรีได้สั่งการให้ส่วนราชการทุกแห่ง ทบทวนข้อจำกัด ความเสมอภาคในการดำรงตำแหน่งราชการของสตรี เพื่อเปิด โอกาสให้สตรีสามารถดำรงตำแหน่งได้ทุกตำแหน่ง ยกเว้น ตำแหน่งที่เกี่ยวกับความมั่นคงของประเทศ นโยบายดังกล่าว ถือเป็นการยกเลิกการปิดกั้นความก้าวหน้าในการรับราชการ ของสตรี ปี พ.ศ.2533 ข้อสงวนในอนุสัญญาว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรีฯ (ตามมาตรา 11 เรื่องสิทธิและโอกาสที่จะได้รับการจ้างงานและ ตามมาตรา 15 (3) เรื่องข้อจำกัดความสามารถทางกฎหมาย ของสตรี) ได้ถูกยกเลิก ปี พ.ศ.2532 คณะกรรมการส่งเสริมและประสานงานสตรีแห่งชาติ ได้รับการ สถาปนาเป็นองค์กรถาวร เพื่อปฏิบัติหน้าที่เผยแพร่โครงการ ส่งเสริมและพัฒนาความ ก้าวหน้าของสตรี ปี พ.ศ.2531 แต่งตั้งรัฐมนตรีหญิงคนแรกจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (คุณหญิงสุพัตรา มาศดิตถ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายก รัฐมนตรี) ปี พ.ศ.2528 อนุสัญญาว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรีในทุกรูปแบบ ได้รับการให้สัตตยาบัน ปี พ.ศ.2525 แต่งตั้งกำนันหญิงคนแรก (คุณมลิเชียร เพ็งวงษ์) และ ผู้ใหญ่บ้านหญิงคนแรก (คุณสมทรง สุรพันธ์) ปี พ.ศ.2522 แผนพัฒนาสตรีในระยะยาวฉบับแรก ( 2525 - 2544 ) ได้ถูกร่าง ขึ้นโดย คณะอนุกรรมการพัฒนากิจกรรมและบทบาทสตรี สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคม แห่งชาติ ปี พ.ศ.2519 รัฐมนตรีหญิงสองคนแรก ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกได้รับการ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งในคณะรัฐบาล (คุณหญิงเลอศักดิ์ สมบัติศิริ กระทรวงคมนาคม และคุณวิมลศิริ ชำนาญเวช ทบวงมหาวิทยาลัย) ปี พ.ศ.2517 รัฐธรรมนูญฉบับปี 2517 นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ของ สถานภาพทางกฎหมายของสตรี มาตรา 28 ของรัฐธรรมนูญฉบับนี้ บัญญัติไว้ว่า ชายและหญิงมีสิทธิเท่าเทียมกัน การจำกัดสิทธิและเสรีภาพอันเป็นการฝ่าฝืนเจตนารมณ์ตามบท บัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญจะกระทำมิได้ และตามมาตรา 23 ระบให้รัฐบาลมีเวลา 2 ปี ในการทบทวนกฎหมายและระเบียบข้อบังคับที่เป็นการเลือกปฏิบัติต่อสตรี อย่างไรก็ตาม มาตราดังกล่าว ได้ถูกยกเลิกไปเมื่อทหารเข้ายึดอำนาจ การปกครองในปี 2519 ปี พ.ศ.2512 นายกเทศมนตรีหญิงคนแรกได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง (คุณจินตนา นพคุณ เทศบาลเมืองโพธาราม จ.ราชบุรี) ปี พ.ศ.2510 แต่งตั้งวิศวอุตสาหกรรมหญิงคนแรก (คุณนิตยา มหาผล) ปี พ.ศ.2508 แต่งตั้งผู้พิพากษาหญิงคนแรก (คุณชลอจิต จิตตะรุทธะ) ปี พ.ศ.2499 ท่านผู้หญิงละเอียด พิบูลสงคราม ได้รับเลือกให้เป็นประธานของสหพันธ์สมาคมสห ประชาชาติแห่งโลก ที่กรุงเจนีวา ปี พ.ศ.2497 อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิทางการเมืองของสตรี ได้รับการให้ สัตตยาบัน ปี พ.ศ.2492 สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหญิงคนแรก ได้รับการเลือกตั้ง (คุณอรพินท์ ไชยกาล จังหวัดอุบลราชธานี) ปี พ.ศ.2475 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยฉบับแรกหลังจากการล้มล้างระบอบมบูรณาญาสิทธิราชย์ บัญญัติให้หญิงและชายมีสิทธิ เท่าเทียมกันในการใช้สิทธิออกเสียงเลือกตั้ง ที่มา : สมุดข้อมูลสถิติหญิงและชาย สำนักงานสถิติแห่งชาติ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
********Q********
|
 |
« ตอบ #90 เมื่อ: 25-10-2006, 00:28 » |
|
ร้อยละของนิสิตนักศึกษาในสาขาต่าง ๆ http://www.data.cusri.chula.ac.th/Woman/Stat/011.htm
รวบรวมโดย : งานฐานข้อมูล สถาบันวิจัยสังคม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่มา : 1. สถานภาพปัจจุบันของสตรีไทยโดยคณะอนุกรรมการพัฒนากิจกรรมและบทบาทของสตรี, NESDB, 2521 2. Aspect of Thai Women Today, 1980 3. ตารางที่ E-4, รายงานสถานภาพสตรีไทยฯคณะกรรมการประสานงานและส่งเสริมสตรีแห่งชาติ, (กสส.) 2537 4. รายงานผลการศึกษาประจำปีของสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ ทบวงมหาวิทยาลัย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
********Q********
|
 |
« ตอบ #92 เมื่อ: 25-10-2006, 00:47 » |
|
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางไปจังหวัดเชียงใหม่ถึงกรณีที่พรรคไทยรักไทยจะมีนโยบายห้าม ส.ส.มีภรรยานอกกฎหมาย ว่า เรื่องนี้นายสมชาย สุนทรวัฒน์ หนึ่งในคณะผู้บริหารเสนอแนวคิดขึ้นมา ทั้งนี้เห็นว่าเป็นจิตสำนึกของคนทุกคนอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามยังไม่ได้คุยในรายละเอียด คาดว่าในวันที่ 25 - 26 ธ.ค. 2546 พรรคไทยรักไทยจะประชุมสัมมนาพรรค คงจะได้หารือกันอีกครั้ง ส่วนเรื่องดังกล่าวบางคนอาจจะรู้สึกว่าเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถ้าเป็นบุคคลทางการเมืองควรที่จะเป็นผู้ที่ทำตัวให้เหมาะสม ถูกต้องตามจริยธรรม และศีลธรรม.
ลิ่วล้อเหลี่ยมอ่านหน่อยก็ดี ตรงสีแดงๆ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
********Q********
|
 |
« ตอบ #93 เมื่อ: 25-10-2006, 00:58 » |
|
พูดตรงเรื่องเมียน้อย เมียใหญ่ อะไรนี่ ผมว่าไม่ใช้ปัญหา เท่ากับการพูดจาแล้วไม่รักษาคำพูด ไม่ให้ความสำคัญกับคำพูดตัวเอง จนลิ่วล้อก็หลงทาง
แล้วสาวๆที่ไหนจะไม่ไข้วเขวจริงมะครับ เพราะก็ตามท่านผู้นำของเขาอยู่แล้ว นับประสาอะไรกับลิ่วล้อและสาวกลัทธิอุบาทว์ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
********Q********
|
 |
« ตอบ #94 เมื่อ: 27-10-2006, 14:06 » |
|
สองวันนี้ หญิงอ้อ ออกมาทำตัวเป็นข่าว น่าจะสงบตามสามีไป
อย่าเชื่อลิ่วล้อนะครับ จะเสียหายหนักว่าเดิมอีกได้ครับ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
|
********Q********
|
 |
« ตอบ #97 เมื่อ: 05-11-2006, 18:15 » |
|
สวนดุสิตโพล http://dusitpoll.dusit.ac.th/2548/2548_105.htmlที่สุดแห่งปี 2548 "สวนดุสิตโพล" มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นกรณี ที่สุดแห่งปี 2548 โดยสอบถามประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ จำนวน 7,516 คน ระหว่างวันที่ 15 30 ธันวาคม 2548 สรุปผลได้ดังนี้ 1. เหตุการณ์ที่ประชาชนมี ความสุข มากที่สุด คือ อันดับที่ 1 งานเฉลิมพระชนม์พรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 54.99% อันดับที่ 2 วันประสูติพระองค์เจ้าทีปังกร 38.22% อันดับที่ 3 งานวัน 12 สิงหามหาราชินี 6.79% 2. เหตุการณ์ที่ประชาชน เศร้า มากที่สุด คือ อันดับที่ 1 เหตุการณ์สึนามิถล่มอันดามัน 54.69% อันดับที่ 2 ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ 32.69% อันดับที่ 3 ราคาน้ำมันที่สูงขึ้น/ภาวะเศรษฐกิจไทยตกต่ำ 12.61% 3. นักร้องเพลงไทยสากลชาย ที่ประชาชนชอบมากที่สุด คือ อันดับที่ 1 ธงไชย แมคอินไตย 60.74% อันดับที่ 2 ตูน บอดี้แสลม 20.27% อันดับที่ 3 ปั๊ป โปเตโต้ 18.99% 4. นักร้องเพลงลูกทุ่งชาย ที่ประชาชนชอบมากที่สุด คือ อันดับที่ 1 ก๊อต จักรพรรณ์ 43.77% อันดับที่ 2 ไมค์ ภิรมย์พร 42.71% อันดับที่ 3 เดวิด อินธี 13.52% 5. นักร้องเพลงไทยสากลหญิง ที่ประชาชนชอบมากที่สุด คือ
อันดับที่ 1 ปาน ธนพร 45.67%
อันดับที่ 2 อมิตา ทาทา ยัง 27.94%
อันดับที่ 3 ดา (เอ็นโดรฟิน) 26.40%
6. นักร้องเพลงลูกทุ่งหญิง ที่ประชาชนชอบมากที่สุด คือ
อันดับที่ 1 ต่าย อรทัย 60.25%
อันดับที่ 2 ฝน ธนสุนทร 21.85%
อันดับที่ 3 ศิริลักษณ์ ผ่องโชค 17.90%7. ดาราชาย ที่ประชาชนชื่นชอบมากที่สุด คือ อันดับที่ 1 ศรราม เทพพิทักษ์ 41.39% อันดับที่ 2 เจษฎาภรณ์ ผลดี 34.81% อันดับที่ 3 เคน ธีรเดช วงศ์พัวพัน 23.80% 8. ดาราหญิง ที่ประชาชนชื่นชอบมากที่สุด คือ
อันดับที่ 1 อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ 43.76%
อันดับที่ 2 อ้อม พิยดา อัครเศรณี 42.25%
อันดับที่ 3 แอน ทองประสม 13.99%9. นักกีฬาชาย ที่ประชาชนชื่นชอบมากที่สุด คือ อันดับที่ 1 ลีซอ ธีรเทพ วิโนทัย (นักฟุตบอล) 46.67% อันดับที่ 2 สืบศักดิ์ ผันสืบ (นักตระกร้อ) 29.20% อันดับที่ 3 ภราดร ศรีชาพันธ์ (นักเทนนิส) 24.13% 10. นักกีฬาหญิง ที่ประชาชนชื่นชอบมากที่สุด คือ
อันดับที่ 1 เยาวภา บุรพลชัย (นักเทควันโด) 46.73%
อันดับที่ 2 ปวีณา ทองสุก (นักยกน้ำหนัก) 35.13%
อันดับที่ 3 ปลื้มจิต ถิ่นขาว (นักวอลเล่ย์บอล) 18.14%11. นักการเมืองชาย ที่ประชาชนชื่นชอบมากที่สุด คือ อันดับที่ 1 พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร 48.94% อันดับที่ 2 อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ 31.52% อันดับที่ 3 อภิรักษ์ โกษะโยธิน 19.54% 12. นักการเมืองหญิง ที่ประชาชนชื่นชอบมากที่สุด คือ
อันดับที่ 1 สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ 43.94%
อันดับที่ 2 ปวีณา หงสกุล 37.40%
อันดับที่ 3 จณิสตา ลิ่วเฉลิมวงศ์ 18.66%13. นักการศึกษา ที่ประชาชนชื่นชอบมากที่สุด คือ อันดับที่ 1 อ.จตุพล ชมพูนิช 44.77% อันดับที่ 2 อ.สุนีย์ สินธุเดชะ 32.79% อันดับที่ 3 ดร.เสรี วงษ์มณฑา 22.44% 14. ความหวังในปีหน้า (2549) ที่ประชาชนอยากให้ประเทศไทยเป็น คือ อันดับที่ 1 ประเทศมีแต่ความสุข/ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้แก้ไขได้หรือยุติลง 48.91% อันดับที่ 2 คนไทยมีมาตรฐานชีวิตที่ดีขึ้น/ไม่มีหนี้สิน 27.53% อันดับที่ 3 พัฒนาในทุกๆด้าน มีความเจริญก้าวหน้าทั้งการเมือง การศึกษา เทคโนโลยี 23.56% สวนดุสิตโพล
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-11-2006, 18:20 โดย Q »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
aiwen^mei
|
 |
« ตอบ #98 เมื่อ: 05-11-2006, 20:53 » |
|
สวนดุสิตโพล http://dusitpoll.dusit.ac.th/2548/2548_105.htmlที่สุดแห่งปี 2548 "สวนดุสิตโพล" มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นกรณี ที่สุดแห่งปี 2548 โดยสอบถามประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ จำนวน 7,516 คน ระหว่างวันที่ 15 30 ธันวาคม 2548 สรุปผลได้ดังนี้ .... 11. นักการเมืองชาย ที่ประชาชนชื่นชอบมากที่สุด คือ อันดับที่ 1 พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร 48.94% .... ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ...จากที่สุดของนักการเมืองชาย ปี 2548 ที่ได้รับความชื่นชอบจากประชาชน >>> กลับเป็นที่สุดของอนิจจัง อีกไม่นานคงได้เปรียบเทียบกับปี 2549
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
aiwen^mei
|
 |
« ตอบ #99 เมื่อ: 05-11-2006, 21:18 » |
|
หากการทำงานของรัฐบาลเหลี่ยม ล้มเหลว หญิงพจ ก็สมควรถูกตำหนิมากครับ เพราะมีบทบาทมาก หรืออาจะเล่นผิดบทก็ได้ครับ
ลองมาดูตัวอย่างต่อไปนะครับ หญิงระเบียบ นี่ก็พยายามไปสร้างประเด็นที่ไม่ได้เกิดผลดี เช่น เรื่องที่จะห้ามผู้หญิงขึ้นไปที่สถานที่ทางศาสนาในตำแหน่งที่มีจารีตประเพณีห้ามอยู่
จะเห็นว่ามีโอกาสทำงานมากเหมือนกัน แต่ทว่าผลงานไม่น่าประทับใจครับ
นอกจากหญิงฉุยฉายแล้วคงต้องดูนักการเมืองหญิงอีกหลายๆรายครับ ว่าอะไรบ้างคือผลงานที่จากเกิดจากอิทธิพลของคุณเธอเหล่านั้น
นี่ยังมีคุณเธอช้างน้อยสีชมพูอีกนะครับ เป็นตัวอย่างเก่าๆที่ยังพอจำกันได้
ที่สำคัญคือผมสนใจประเด็นที่พวกเธอนำมาเสนอหรือพยายามจะทำครับ  ถ้าใช้คำตอบข้างบนอธิบาย ต้องเปลี่ยนหัวกระทู้ค่ะ เปลี่ยนว่าอะไรดีครับ? ตอนนี้ผมไม่สนใจผู้ชายครับ เพราะผมคิดว่าสภาพที่ผู้หญิงจะมีบทบาทมากขึ้นกำลังเป็นทิศทางที่พิสูจน์ตัวมันเองอยู่แล้ว เพิ่มขึ้นไปจากปัญหาทางการเมืองเดิม แบบที่ผู้ชายมีบทบาทมากในยุคก่อนๆ จะใช้ดลกาภิวัฒน์เป็นเส้นแบ่งก็น่าจะพอได้  ต้องขอโทษด้วยค่ะสำหรับความล่าช้าของคำตอบ ตัวอย่างของหญิงพจหรือท่านหญิงที่อุ้มช้างน้อย เป็นตัวอย่างของหลังบ้านที่มีพฤติกรรมที่ฉุดดึงภาพลักษณ์ของทั่นผู้นำให้ตกต่ำลง นอกจากเจ้าตัวจะได้รับการดูถูกดูแคลนหรือตำหนิอย่างรุนแรง หัวข้อกระทู้ก็อาจจะเป็น >>> ผลกระทบของหลังบ้านที่มีต่อภาพลักษณ์ของทั่นผู้นำ (หรือ จริงหรือที่ทั่นผู้นำต้องพอพอมอ...ขำ ๆ ค่ะ) ส่วนคุณระเบียบรัตน์ ก็อาจจะทำอะไรที่ดูเข้าตาหรือไม่เข้าตา คงไม่ต่างจากนักการเมืองชายทั่ว ๆ ไป สำหรับหญิงฉุยฉายถ้าหมายถึงคุณหญิงสุพัตรา ท่านนี้มีภูมิหลังที่ดี และตัวท่านเองก็เป็นคนมีความสามารถ จึงทำให้เป็นนักการเมืองหญิงที่ได้รับการยอมรับและมีภาพลักษณ์ที่ดี ตามที่ดิฉันเข้าใจนะคะ ...ไม่แน่ใจค่ะว่า ผู้หญิงบ้านเราเริ่มเข้ามามีบทบาททางด้านการเมืองนับเนื่องตั้งแต่เมื่อไหร่กันแน่ หมายถึงยุคหลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ.2475 เมื่อผู้หญิงมีโอกาสในการเรียนรู้หลังจากเริ่มมีบทบาทมากขึ้น และเมื่อมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เชื่อได้ว่า ในอนาคตอีกไม่นาน เมืองไทยจะมีนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|