ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
20-04-2024, 01:46
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  จากวันประกาศสันติภาพ 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
จากวันประกาศสันติภาพ  (อ่าน 691 ครั้ง)
taworn09220
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 302


« เมื่อ: 23-10-2006, 08:25 »

จากวันประกาศสันติภาพ
มาสู่วันเป็นทาสในยุคทักษิณ

เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2488 นับถึงวันนี้ได้ 61 ปีแล้ว นายปรีดี พนมยงค์ ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ในพระปรมาภิไธยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล ได้ประกาศ "สันติภาพ" ว่า การประกาศสงครามกับอังกฤษและสหรัฐอเมริกาของรัฐบาลจอมพล ป.พิบูลสงคราม ตกเป็นโมฆะ อันเป็นการยืนยันว่าประเทศไทยและชนชาวไทย ได้มีอิสรภาพ มีความเป็นไทแก่ตัวเอง
ประกาศสันติภาพฉบับนี้เป็นเอกสารที่สำคัญ เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ จึงขอนำความที่สมบูรณ์มาลงไว้ ดังนี้

"ประกาศสันติภาพ
ในพระปรมาภิไธยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล
ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์
(ตามประกาศประธานสภาผู้แทนราษฎร ลงวันที่ 1 สิงหาคม 2487)
ปรีดี พนมยงค์

โดยที่ประเทศไทยได้เคยถือนโยบายอันแน่วแน่ที่จะรักษาความเป็นกลางอย่างเคร่งครัดและจะต่อสู้การรุกรานของต่างประเทศทุกวิถีทาง ดังปรากฏเห็นได้ชัดจากการที่ได้มีกฎหมายกำหนดหน้าที่คนไทยในเวลารบ เมื่อพุทธศักราช 2484 อยู่แล้วนั้น ความจำนงอันแน่วแน่ดังกล่าวนี้ได้แสดงให้เห็นประจักษ์แล้ว ในเมื่อญี่ปุ่นได้ยาตราทัพเข้าในดินแดนประเทศไทย ในวันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2484 โดยได้มีการต่อสู้การรุกรานทุกแห่ง และทหาร ตำรวจ ประชาชน พลเมืองได้เสียชีวิตไปในการนี้เป็นอันมาก
เหตุการณ์อันปรากฏเป็นสักขีพยานนี้ได้แสดงให้เห็นอย่างแจ่มแจ้งว่า การประกาศสงครามเมื่อวันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2485 ต่อบริเตนใหญ่และสหรัฐอเมริกา ตลอดทั้งการกระทำทั้งหลายซึ่งเป็นปรปักษ์ต่อสหประชาชาตินั้น เป็นการกระทำอันผิดจากเจตจำนงของประชาชนชาวไทย และผ่าฝืนขืนขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญและกฏหมายบ้านเมือง ประชาชนชาวไทยทั้งภายในและภายนอกประเทศ ซึ่งอยู่ในฐานะที่จะช่วยเหลือสนับสนุนสหประชาชาติผู้รักที่จะให้มีสันติภาพในโลกนี้ ได้กระทำการทุกวิถีทางที่จะช่วยเหลือสหประชาชาติ ดังที่สหประชาชาติส่วนมากย่อมทราบอยู่แล้ว ทั้งนี้เป็นการแสดงเจตจำนงของประชาชนชาวไทยอีกครั้งหนึ่ง ที่ไม่เห็นด้วยต่อการประกาศสงคราม และการกระทำอันเป็นปฏิปักษ์ต่อสหประชาชาติดังกล่าวมาแล้ว
บัดนี้ ประเทศญี่ปุ่นได้ยอมปฏิบัติตามคำประกาศของสหรัฐอเมริกา บริเตนใหญ่ จีน และสหภาพโซเวียตซึ่งได้กระทำ ณ นครปอตสดัมแล้ว สันติภาพจึงกลับคืนมาสู่ประเทศไทย อันเป็นความประสงค์ของประชาชนชาวไทย
ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ในพระปรมาภิไธยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงขอประกาศโดยเปิดเผยแทนประชาชนชาวไทยว่า การประกาศสงครามต่อสหรัฐอเมริกาและบริเตนใหญ่ เป็นโมฆะ ไม่ผูกพันประชาชนชาวไทย ในส่วนที่เกี่ยวกับสหประชาชาติ ประเทศไทยได้ตัดสินใจที่จะให้กลับคืนมาซึ่งสัมพันธไมตรีอันดีอันเคยมีมากับสหประชาชาติเมื่อก่อนวันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2484 และพร้อมที่จะร่วมมือเต็มที่ทุกทางกับสหประชาชาติในการสถาปนาเสถียรภาพในโลกนี้
บรรดาดินแดนซึ่งญี่ปุ่นได้มอบให้ไทยครอบครอง คือรัฐกลันตัน ตรังกานู ไทยบุรี ปะริด เชียงตุง และเมืองพานนั้น ประเทศไทยไม่มีความปรารถนาที่จะได้ดินแดนเหล่านี้ และพร้อมที่จะจัดการเพื่อส่งมอบในเมื่อบริเตนใหญ่พร้อมที่จะรับมอบไป
ส่วนบรรดาบทกฎหมายอื่นๆ ใด อันมีผลเป็นปฏิปักษ์ต่อสหรัฐอเมริกา บริเตนใหญ่และเครือจักรวรรดิก็จะได้พิจารณายกเลิกไปในภายหน้า บรรดาความเสียหายอย่างใด ๆ จากกฎหมายเหล่านั้น ก็จะได้รับชดใช้โดยชอบธรรม
ในที่สุดนี้ ขอให้ประชาชนชาวไทยทั้งหลาย ตลอดจนชนต่างด้าวซึ่งอยู่ในราชาอาณาจักรไทย จงตั้งอยู่ในความสงบ และไม่กระทำการใดๆ อันจะเป็นการก่อกวนความสงบเรียบร้อย พึงยึดมั่นในอุดมคติ ซึ่งได้วางไว้ในข้อตกลงของสหประชาชาติ ณ นครซานฟรานซิสโก
ประกาศ ณ วันที่ 16 สิงหาคม 2488 เป็นปีที่ 12 ในรัชกาลปัจจุบัน ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ

ทวี บุณยเกตุ รัฐมนตรี

ผู้ที่ได้ศึกษาประวัติศาสตร์อันยาวนานของชาติสยาม จะต้องประจักษ์ว่า ชนชาวสยามในอดีต ได้ผจญจากความทุกข์ของสงคราม และความสงบสุขจากสันติภาพหรือจากมหาสงครามสู่สันติภาพสลับกันไปมาหลายยุคหลายสมัยอย่างไม่ขาดสาย แต่ชาติสยามก็ได้ผ่านพ้นภัยพิบัติทั้งหลายในอดีตมาได้ สามารถดำรงอิสสราธิปไตยของชาติและประชาชนเอาไว้ได้โดยบริบูรณ์และสืบเนื่องมาถึงปัจจุบัน
แต่มาบัดนี้ประวัติศาสตร์ยุคใหม่ หรือที่เรียกว่า "ยุคโลกาภิวัตน์" จะต้องบันทึกไว้อีกว่าเป็นยุคของผู้นำในคณะรัฐบาลที่มีความเห็นแก่ตัว และความโลภที่ได้กระทำการทุจริตคอร์รับชั่นในโครงการที่มีการใช้เงินแผ่นดินจำนวนเงินมหาศาสซ่อนไว้ในรูปแบบที่เรียกว่า "วาทกรรมทางนโยบาย" ได้สร้างความร่ำรวยให้กับผู้นำและพรรคพวกตลอดจนญาติพี่น้อง ทั้งได้มีการนำทรัพย์สินของแผ่นดิน ให้คนต่างชาติเข้ามายึดครองกิจการต่างๆ ของไทย รวมทั้งครอบงำควบคุมเศรษฐกิจไทยอย่างไม่เคยมีมาก่อน นายกรัฐมนตรีในฐานะเป็นเพียงผู้รักษาการชั่วคราวได้ไปแสดงเจตนาเข้าผูกพันที่ก่อให้เกิดพันธกรณีระหว่างประเทศโดยลำพังฝ่ายเดียวในลักษณะ "ลับ" ที่รู้คนเดียว
การกระทำทุกอย่างลุแก่อำนาจทำลายศักดิ์ศรีของความเป็นชาติและประชาชน นำ "เงิน" มาครอบงำสังคมให้เป็นทาส แทนคุณค่าและจริยธรรมทางศาสนา
ผู้นำคนนี้ครั้งหนึ่งได้บังอาจพูดว่า "ผมอยากเป็นเหมือน อาจารย์ ปรีดี พนมยงค์ ?

ปรีชา สุวรรณทัต
บันทึกการเข้า
p
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,264


« ตอบ #1 เมื่อ: 23-10-2006, 11:00 »

จากวันประกาศสันติภาพ
มาสู่วันเป็นทาสในยุคทักษิณ

หลายคนคงเห็นด้วยกับข้อความที่ได้อ้างถึง
แต่อีกจำนวนไม่น้อยคงยอมรับไม่ได้


 
บันทึกการเข้า

ถ้ามัวคิดแต่จะโกงและเอาเปรียบคนอื่น จะสอนลูกหลานให้เป็นคนดีได้อย่างไร
หน้า: [1]
    กระโดดไป: