ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
27-04-2024, 14:23
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  คุยกับลุงแท็กซี่และเพื่อนลุง 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
คุยกับลุงแท็กซี่และเพื่อนลุง  (อ่าน 1656 ครั้ง)
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« เมื่อ: 03-11-2006, 21:11 »

ลุงแท็กซี่...

ขอเรียกลุงแบบนี้นะ ตอนนี้ไม่ทราบว่าลุงอยู่ที่ใหน แต่สังขารของลุงกำลังได้รับการ "บำเพ็ญกุศล" ตามแบบของพวกเรา

( จะว่าไป มันก็ไม่ใช่ "สังขารของลุง"...ว่ามั๊ย เพราะลุงก็เอาไปด้วยไม่ได้...)

ผมรู้ชื่อลุงจากข่าว ไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัว จึงไม่ขอเรียกขานนามของลุงอย่างเป็นทางการ อาจเรียกการคุยกันครั้งนี้ว่า

การพูดคุยกับจิตวิญญาณก็ได้นะลุง.....

การตายของลุงแท็กซี่ ผมถือเป็น "ปรากฎการณ์" อย่างหนึ่งในสังคมไทย

เป็น "ปฏิกริยาของสังคม" ในอีกรูปแบบหนึ่ง ต่อเหตุการณ์หนึ่งซึ่งมิใช่ครั้งแรกในแวดวงการเมืองไทย

อายุผมก็อายุใกล้เคียง ห่างจากลุงแท็กซี่ไม่มากเท่าไหร่หรอก ผ่านร้อน ผ่านหนาวมาพอ ๆ กัน

ต่อสู้กับเผด็จการมาทั้งในเครื่องแบบ นอกเครื่องแบบ เผด็จการทหาร เผด็จการพลเรือน

ตลอด 30-40 ปี ที่ผ่านมา ก็คงมีไม่น้อยที่ต้องลงไปลุยในถนน นอนบนสนามหญ้าหรือถนนปูนแข็ง ๆ นั่งบนพื้นถนนร้อน ๆ

 และไม่คิดว่าจะต้องออกมาอีกในปี 2548...จนถึงปี 2549

หากจะว่าไป "เผด็จการ" มันมาในทุกรูปแบบ แม้แต่เรื่องการแสดงความคิดเห็น ในบ้านเรา ในโรงเรียน ในที่ทำงาน ฯลฯ

เราเคารพในการตัดสินใจของลุงแท็กซี่ แต่บางทีผมก็ไม่เคารพในวิถีคนกล้าแบบนั้น ( ในเรื่องของความคุ้มค่า )

ยิ่งใครก็ตามที่คิดจะเอา "วิถีคนกล้า" ที่ลุงแท็กซี่ไปทำเป็นเครื่องต่อรองในบางเรื่อง....ยิ่งน่าเวทนาและน่าตำหนิ

อาจบางที ผมก็มองย้อนไป...ใครทำให้เกิดรัฐประหาร...มันก็ว่ากันได้เรื่อย ๆ ไม่มีจบ

บางทีถามว่า ฝนเอย...ทำไมจึงตก...แล้วมันก็วนมาที่เพราะกบมันร้อง...

ถามว่าฝนเอยทำไมร้องไห้และหลั่งน้ำตา

อาจบางทีก็ไม่รู้หรอกว่า...ร้องไห้เพราะอะไร...เพราะมันมีเหตุปัจจัยมากมายที่ทำให้ให้เกิดผลแบบนั้น

หากถามว่า "คุ้มมั๊ย" ผมก็ตอบไม่ถูกเหมือนกันว่า "คุ้มกับอะไร"

ชีวิตนี้สั้นนัก อาจเหมือนลมกระโชกมาวูบหนึ่ง บางครั้งก็รู้สึกว่ายาวนาน บางครั้งก็อาจเหมือนชั่วลมหายใจออก ยังไม่ทันหายใจเข้า

แต่ "ชีวิต" ที่เกิดมา แม้เพียง "เสี้ยวลมหายใจ" หากใครคิดจะเอาไปทิ้ง ก็โปรดคิดด้วยตนเอง ให้รอบคอบ รอบด้าน

หากคิดว่า ความตายนั้น ทำขึ้นเพียงเพื่อพิสูจน์จิตใจที่แน่วแน่.....ผมว่ามันง่ายเกินไปที่จะกระทำแบบนั้น

แต่หากคิดว่าการตายนั้น จะมีผลทางการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้ได้สิ่งที่ปรารถนาแก่สังคมก็จงตายไปเถิด

หากเป็นการ "ตายสิบ เกิดแสน" ก็สมควรตาย

แต่หากตายคนเดียว...แล้วเดินทางไปสู่ปรโลกอย่างโดดเดี่ยว...ลุงแท็กซี่คงต้องไปนั่งรอพวกผมที่ศาลารอเพื่อน

แต่เห็นท่าจะต้องรอนานหน่อยนะลุง...เพราะผมยังเดินทางไปไม่ถึง...

รออยู่ที่นั่นแหละ แล้วเราคงได้จับเข่าคุยกัน...ว่างานนี้มัน "คุ้ม" กันหรือไม่...

เราคุยกันได้เสมอ..ลุงแท็กซี่...และอยากให้พวกเราทุกคน คุยกับลุงให้มาก ๆ อย่าให้ลุงแท็กซี่เงียบเหงาและรอนาน...

แม้อยู่ต่างภพ ต่างชาติ ก็มิอาจมีสิ่งขวางกั้นในเรื่องการสนทนาผ่านโลกแห่งจินตนาการ...

ว่าง ๆ ผมจะคุยกับลุง...ในบางครั้ง บางเวลานะลุง

ผมคิดว่าเรามีเรื่องที่ควร "เสียใจ" อยู่เรื่องหนึ่ง อันเนื่องมาจาก"ความตายของลุง"  คือเรื่องความไม่เอาใหนของ "การข่าว" ของทางราชการ

ตั้งแต่วันที่ลุงไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล การเยียวยาด้านจิตใจ หรือ "จิตบำบัด" น่าจะเกิดตั้งแต่ตอนนั้น

จิตแพทย์หายไปใหน ควรหรือไม่ก่อนปล่อยตัวกลับบ้านต้องผ่านขบวนการ "จิตบำบัด"

เพราะกระบวนการคิดเรื่อง "พลีชีพ - ฆ่าตัวตาย" มันเกิดแล้ว เกิดในจิตใจของลุงแท็กซี่แล้ว...ทำไมสังคมหรือหมอผู้รักษาหลงลืมประเด็นนี้ไป

หากผมจะ "ตำหนิ" ในเรื่องนี้ ผมอยากตำหนิผู้ให้การรักษาพยาบาล และฝ่ายที่ทำการปฏิวัติ ในคืน 19 กันยา 2549

ตั้งแต่ลุงแท็กซี่ ขับรถพลีชีพชนรถถังวันนั้น จนถึงวันที่ลุงคิดแขวนคอตาย.แสวงหาที่ฆ่าตัวตาย.....งานการข่าวทำไมไม่ประกบลุงให้ใกล้ชิด

ลุงเป็นใคร มาจากใหน ทำทำไม ลุงคิดยังไงบ้าง....ลุงเคลื่อนไหวอย่างไร มีการติดต่อใคร...ทำไมต้องไปที่สะพายลอยหน้าไทยรัฐ

มีใครไปด้วยบ้าง วันนั้นลุงเจอใคร พูดกับใคร

มันมีเหตุอันควรตำหนิรัฐบาลก็ตรงนี้...มันมีเหตุอันควรตำหนิแพทย์ ผู้ทำการรักษาด้วย ที่รักษาแต่แผลทางกาย แต่ไม่รักษาแผลทางใจ.

เมื่อเป็นเช่นนี้ ผมก็ไม่สงสัยในศักยภาพของ "การข่าว" ของฝ่ายรัฐบาล ว่า...ทำไม พวกไม่หวังดี มันถึงวางระเบิดได้ 30-40 จุด ในเวลาเดียวกัน

แต่พูดไปก็มันเหมือนซ้ำเติมความด้อยประสิทธิภาพของสังคมทั้งมวลนั่นแหละ

แต่เพื่อไม่ให้ "ลุงแท็กซี่" ถูกมองอย่างไร้ค่าจนเกินไป ( ในสายตาของบางคน )

แต่อย่างน้อยผมคิดว่า การตายของลุงแท็กซี่นั้นขอให้เป็น "การตาย...เพื่อให้เกิดสติแก่สังคม"

เพราะเกิดและดับ มันเป็นสัจจธรรมของชีวิต เกิด ๆ ดับ ๆ ดับสิ่งหนึ่งก็อาจเกิดอีกสิ่งหนึ่ง

ดับไปหนึ่งชีวิต เพื่ออุทิศให้เกิดสติแก่สังคม ก็จะดูคุ้มค่าอยู่ไม่น้อย

แต่ดับไปครั้งนี้ คิดกันบ้างมั๊ยว่า จะไปเกิดในที่ใหนของโลกใบนี้ที่ "ไม่มีความขัดแย้ง"

บางทีตัวผมเองไม่มีใครทะเลาะด้วย บางทีนั่งทะเลาะกับตัวเองยังมีเลย ประสาอะไรกับสังคมแห่งความหลากหลายที่เราอยู่

ไม่ว่าใครก็ตามที่กำลังเคลื่อนไหว...คิดอะไรให้รอบคอบ รอบด้าน ดูผลดีผลเสีย ดูเหตุ ดูผล ดูตน ดูประมาณ ดูกาล ดูสถานที่.....ดูไปทุกอย่าง

แล้วค่อยตัดสินใจจะทำหรือไม่ทำอะไร...เมื่อรอบคอบรอบด้านแล้ว ตัดสินใจลงไป...ไม่ว่ากัน..

เพราะคนเราจะให้คิดเหมือนกันหมดคงไม่ได้...ว่ามั๊ย..ลุงแท็กซี่..

ว่าง ๆ ผมจะคุยเรื่องนี้...ถ้าเราเจอกันคงได้คุยกันอีก...แม้อยู่คนละโลก แต่ แตกต่างก็ไม่แตกแยกใช่มั๊ยลุง...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-11-2006, 21:37 โดย CanCan » บันทึกการเข้า

Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 03-11-2006, 21:55 »

ลุงดูนี่สิ พอลุงไปแล้วหมอก็ออกมาพูด แต่แปลกมั๊ยลุง ตอนลุงนอนรักษาซี่โครงหัก จิตแพทย์มาเยียวยามั๊ยลุง
...............................................................................................................................
18:54 น.  นพ.ม.ล.สมชาย จักรพันธุ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวถึงการฆ่าตัวตายของ นายนวมทอง ไพรวัลย์ โชเฟอร์แท็กซี่ที่เคยขับรถพุ่งชนรถถังว่า ตามหลักจิตวิทยาแล้วคนที่ฆ่าตัวตายจะไม่ใช่จากสาเหตุเดียว ต้องมีเหตุหลายอย่างปนกัน เช่น เจ็บป่วยส่วนตัวทั้งทางร่างกายหรือจิตใจ ปัญหาครอบครัว การงาน ฐานะทางสังคม ตลอดจนความเห็นที่ขัดแย้งอย่างมาก อย่างกรณีนี้ความเห็นขัดแย้งเรื่องการเมืองที่มีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ก็คงมีส่วนที่ไม่ชอบใจอย่างมาก ทั้งนี้ยังมีคนจำนวนมากที่ไม่เห็นด้วยเช่นกัน แต่ทำไมนายนวมทองถึงใช้วิธีฆ่าตัวตาย ต่างกับคนอื่นที่แต่งชุดดำ ติดป้ายต่อต้าน กรณีนี้อาจบอกได้ว่านายนวมทองอาจมีปัญหาสุขภาพจิต ซึ่งต้องย้อนไปดูว่าที่ผ่านมานายนวมมองใช้วิธีใดแก้ปัญหา จึงจะบอกได้ชัดเจน แต่ความเห็นขัดแย้งที่รุนแรงมากอาจเป็นส่วนหนึ่งที่คิดกระทำอย่างนี้
อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวอีกว่า ถ้านายนวมทอง ได้คุยกับเพื่อฝูงหรือครอบครัวสักนิด มีการปรับทุกข์ บอกให้อดทนรออีกระยะ มีรัฐบาลแล้วอาจมีอะไรดีขึ้น ก็อาจไม่มีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ทุกอย่างไม่ได้สิ้นสุดอยู่ขณะนี้ ทุกอย่างไม่ได้คงที่อยู่ตลอดไป ต้องเปลี่ยนแปลง ฉะนั้นเราต้องสงวนชีวิตไว้ ทนอยู่ไปให้เห็นความเปลี่ยนแปลงในวันข้างหน้า

http://203.154.97.19/citizen_report/breaking/read.php?lang=T&newsid=222565
บันทึกการเข้า

ริวเซย์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4,637


Worrior in The Blue Armor


เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: 03-11-2006, 22:02 »

แท็กซี่บ้าอุดมการณ์จริงๆ ตั้งหน้าตั้งตาทำมาหากินจะดีกว่ามาทำแบบนี้
บันทึกการเข้า

ถ้ามีแฟนแบบนี้เอาไหมครับ^^


นิรนาม
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 554



« ตอบ #3 เมื่อ: 03-11-2006, 22:10 »

สังคมไทยเรามันเป็นอย่างนี้แหล่ะลุงแคน

ไม่เคยมีการคิดแก้ไขที่ต้นเหตุ มักจะมาแก้ไขเอาที่ปลายเหตุมันเสียทุกครั้งไป

ผมเชื่ออย่างที่ลุงแคนเชื่อ ถ้าการข่าวของทางราชการดีพอ เข้มแข็งพอ ใส่ใจในเนื้องานสักนิด ขณะที่คุณหมอ คุณพยาบาลสนใจดูแลผู้ป่วยเพิ่มขึ้นกว่าที่แล้ว ๆ มา

"ลุงแท๊กซี่"ก็คงจะไม่มาจบชีวิตตัวเองแบบนี้

แต่นี่พอเกิดเรื่องแล้วถึงมีคนออกมาพูดท่านั้นท่านี้ ซึ่งไม่ได้ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น รังแต่จะสร้างความกินแหนงแคลงใจให้กับสังคมไม่มีที่สิ้นสุด

ขอให้ "ลุงแท๊กซี่" จงสู่สุขติในโลกแห่งวิญญาณที่ลุงเลือกเทอญ
บันทึกการเข้า

"คืนที่ดำทะมึนมืดสนิท ยังรอแสงอาทิตย์ส่องสว่าง มีที่ไหนถูกปิดทุกทิศทาง เพียงม่านควันหมอกบางมันพรางตา"ถ้อยวลีของ..ประเสริฐ  จันดำ
ถ้อยวลี - จาก; "บันทึกจากกองร้อย ทหารปลดแอก" โดย..เสกสรรค์ ประเสริฐกุล
      นักรบจรยุทธอย่างพวกเราไม่รู้ว่าบ้านของตัวเองอยู่ที่ไหน รู้แต่ว่าเรามีปิตุภูมิเป็นของพวกเรา ทุกหนทุกแห่งที่เราล้มตัวลงนอนที่นั่นก็คือบ้าน
“บ้านของเราก็คือประเทศชาติ พ่อแม่ของเราก็คือประชาชน และเราจะไปทุกหนทุกแห่งเพื่อจัดการกับเจ้าคนที่มันเหยียบย่ำบ้านกับพ่อแม่ของเรา”
สมชายสายชม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,048


« ตอบ #4 เมื่อ: 03-11-2006, 22:58 »

ถ้าพวกวีรชนสมัยก่อนโน้น รักประชาธิปไตย แบบลุงละก็

ป่านนี้ก็จะไม่รวยเป็นเสี่ยพันล้าน ขายอุดมการณ์ด้วยการโดนทักษิณดูดเข้าร่วมพรรค

แบบ นายจาตุรนต์ ฉายแสง .. นายพินิจ จารุสมบัติ .. นายประพัตร ปัญญาชาติรักษ์ ฯลฯ
บันทึกการเข้า
Wadoiji
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 801


รักษ์ประชาธิปัตย์


เว็บไซต์
« ตอบ #5 เมื่อ: 04-11-2006, 00:32 »

ไม่สนใจ
บันทึกการเข้า

ไทมุง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,543



« ตอบ #6 เมื่อ: 04-11-2006, 00:35 »


ลุงแคนเขียนได้ถูกใจมากๆ วันหลังเราคงจะคุยกับลุงนวมทองอีกเป็นระยะ ตราบใดที่สังคมยังมองข้ามชีวิตของคนๆ หนึ่ง ขณะที่เจ้าตัวยังมีชีวิตอยู่

การตัดสินใจปลิดชีวิตตัวเองของคุณลุงจะได้ไม่สูญเปล่า หรือจะได้ไม่มีใครแสวงประโยชน์
บันทึกการเข้า
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #7 เมื่อ: 04-11-2006, 02:03 »

ถ้ากลุ่มที่อยากใช้การเสียชีวิตของลุงแท็กซี่ ไปเป็นประโยชน์ทางการเมืองไม่ได้

อีกไม่กี่วัน ผู้คนเหล่านั้นก็ลืมชื่อลุงแท็กซี่...ผมเชื่อยังงั้นจริง ๆ

แต่คนที่จะระลึกถึง "ลุงแท็กซี่" อาจเป็นพวกเรา ๆ นี่แหละ ที่อาจครุ่นคำนึงถึงการตัดสินใจแบบลุงแท็กซี่ขึ้นมาบ้าง

วีระบุรุษที่แท้จริง บางทีก็ไม่ค่อยมีชื่อมีเสียงอะไรหรอกครับ

มีใครจดจำชื่อวีระบุรุษประชาธิปไตยในเหตุการณ์ 14 ตุลา 6 ตุลา หรือ พฤษภาทมิฬ ได้บ้าง

ในใจผมมีอยู่คนเดียว เด็กคนที่ถูกยิงในเหตุการณ์ 14 ตุลา 16 แล้วผมอุ้มไปส่งหมอนั่นและ...

ผมคิดว่าเด็กคนนั้น ถึงตายไปก็คุ้มค่า เพราะเราได้มาซึ่งประชาธิปไตยแม้ในช่วงสั้น ๆ แต่มันก็เป็นเชื้อไฟให้กับสังคมในเวลาต่อมา

แม้แต่ชื่อของเด็กคนนั้นผมยังไม่รู้เลย...แต่เขาคือ "วีรบุรุษ" ในใจผมจริง ๆ

ผ่านมา 33 ปี ก็ยังติดตรึงอยู่ในใจตลอดมามา...และตลอดไป
บันทึกการเข้า

อังศนา
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,860


Can't fight the moonlight!


เว็บไซต์
« ตอบ #8 เมื่อ: 04-11-2006, 07:57 »

อ่านจบ.. ก็คิดประมาณเดียวกับคุณไทมุงเลยค่ะ


ลุงแคนเขียนได้ถูกใจมากๆ วันหลังเราคงจะคุยกับลุงนวมทองอีกเป็นระยะ ตราบใดที่สังคมยังมองข้ามชีวิตของคนๆ หนึ่ง ขณะที่เจ้าตัวยังมีชีวิตอยู่

การตัดสินใจปลิดชีวิตตัวเองของคุณลุงจะได้ไม่สูญเปล่า หรือจะได้ไม่มีใครแสวงประโยชน์


บันทึกการเข้า

แม้ผืนฟ้า มืดดับ เดือนลับละลาย 
ดาวยังพราย ศรัทธา เย้ยฟ้าดิน (จิตร ภูมิศักดิ์)
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #9 เมื่อ: 04-11-2006, 11:00 »

การเมือง ประชาธิปไตย การต่อสู้ การตาย และการถูกทำให้ตาย

หลากหลายเหตุการณ์ในเมืองไทย ผ่านยุค ผ่านสมัย ผ่านเหตุการณ์ ผ่านสถานที่ ที่แตกต่างกันไป

ก่อนที่ลุงแท็กซี่จะตัดสินใจ "จบชีวิต" ด้วยตนเองด้วยการผูกคอตายนั้น ผมเชื่อว่าลุงแท็กซี่เป็นคนหนึ่งที่ติดตามเหตุการณ์บ้านเมืองชนิด "เข้าเลือด" เช่นเดียวกับพวกเราหลาย ๆ คน

เช่นเดียวกับผู้คนอีกนับร้อย นับพัน หมื่น แสน ล้านคนในประเทศนี้

เช่นเดียวกับลุงคนหนึ่งที่ นอนอยู่ในม้อบขับไล่ทักษิณสะพานมัฆวาน แล้วอยู่ดี ๆ ก็มีรถตู้คันหนึ่ง วิ่งทับร่างจนถึงแก่ชีวิต

จนถึงวันนี้ ผมก็ลืมแล้วว่า "ลุงคนนั้น" มีชื่อเสียงเรียงนามว่าอะไร

เช่นเดียวกับลุงอีกคนหนึ่ง ที่ติดตามม้อบพันธมิตรมาจากสนามหลวง สู่สะพานมัฆวานและมาสิ้นชีวิตในวันที่แดดร้อนจัด หน้ากระทรวงศึกษา

จนถึงวันนี้ผมก็ลืมแล้วว่า "ลุงคนนั้น" มีชื่อเสียงเรียงนามว่าอะไร

รู้แต่ว่าลุงเป็นคน "ไร้บ้าน" อาศัยนอนตามสนามหลวง และอาจเป็นอีกคนหนึ่ง ที่ถูก ผู้ว่าฯ กทม. สมัยหนึ่ง ย้ายออกไปอยู่ที่ใหนซักแห่งตอนมีประชุมระดับโลกในเมืองไทย

ชีวิตที่ถูกเคลื่อนย้าย เหมือนสัตว์อีกชนิดหนึ่ง ที่ถูกเก็บใส่รถบรรทุก ไปไว้เชิงเขาใหญ่ หรือทุ่งสีกัน

ชีวิตของคนเร่ร่อน ที่นอนตามฟุตบาต หน้าสำนักงานหนังสือพิมพ์สยามรัฐ หรือหน้าสำนักงานทนายความของมรว.เสนีย์ ปราโมช

ถ้าไปตอนนี้ ก็จะเห็น "คนไร้บ้าน" ยังคงนอนท้าทายสายตาของผู้คน ที่สัญจรผ่านไปมา...

หากลุงแท็กซี่ไม่มีเวลาอ่านหนังสือพิมพ์ หรือ ติดตามม้อบพันธมิตร แต่ผมก็เชื่อว่าลุงฟังวิทยุ แท็กซี่ตาหวานอยู่บ้างเป็นแน่

หากสังเกตให้ดี "วีรชน" หรือ "คนเสียชีวิต" ในเหตุการณ์ทางการเมือง ต่างเป็น "คนเล็กคนน้อย" คนที่เป็น "No body" มิใช่ "Some body"

โดยเฉพาะพวก "คนดัง" ทั้งหลาย มักจะออกหน้าตอนแรก ๆ แต่หากเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น คนพวกนั้นมักจะ "หายเข้ากลีบเมฆ" ปล่อยให้พวกเราคนเล็กคนน้อยนี่แหละ ต่อสู้หรือเดินไปข้างหน้าโดยไม่รู้ว่า "ความตาย" นั้นรออยู่เสมอมา

ดีไม่ดีในเหตุการณ์บ้านเมืองที่ผ่าน ๆ มา เราอาจเคยร่วมนั่งประท้วง ใน 14 ตุลา 6 ตุลา พฤษภาทมิฬ แต่ผมไม่แน่ใจว่าลุงแท็กซี่จะอยู่ในม้อบพันธมิตร

เนื่องเพราะในห้วงเวลานั้น เราเชื่อกันว่า "เรามีประชาธิปไตย" มีประชาธิปไตยที่มีการเลือกตั้งและมี "รัฐธรรมนูญ"

ลุงอาจเชื่อในสัจวาจาของอดีตนายกทักษิณที่บอกว่า "ผมจะรักษาประชาธิปไตยด้วยชีวิต"

แต่ก็ไม่เป็นไรลุง คนเราต่างมี "ความเชื่อ" แตกต่างกันได้ ตัดสินใจแตกต่างกันได้เสมอ

หลังเหตุการณ์ในความรุนแรงถึงชีวิตถึงเลือดเนื้อ อย่างมากเหล่า "คนดัง" เหล่านั้นก็จะเสนอหน้ากันออกมากล่าวหากันและกัน

ว่า "เหตุการณ์นั้น ใครพาคนไปตาย"

อาศัยหยาดเหงื่อ หยดเลือดและร่างกายของ "คนตาย" นำไปสู่ความชอบธรรมในการกล่าววาจา "หาเสียง" สู่อำนาจ

ผมเสียดายที่ไม่มีบันทึกการเข้าไปเยี่ยมลุงที่โรงพยาบาลหลังเหตุการณ์ "แท็กซี่พลีชีพ"... หมอเหวง หมอสันต์ และ ครูประทีป พูดอะไรกับลุงบ้าง ที่โรงพยาบาลในวันนั้น...

เสียดายจริง ๆ ครับ ความเป็น "หมอ" ที่ติดชื่อนำหน้า ได้หาทาง "บำบัดทางจิต" หรือ ทำ "จิตบำบัด" ให้กับลุงแท็กซี่ บ้างหรือเปล่า...

หมอแบบนี้ ผมชักเห็นมากขึ้น ๆ ทุกวัน ไม่ว่าจะชื่อมิ้งค์ ชื่อเลี๊ยบ หรือแม้กระทั่ง "หมอหน่อย" ( ได้ฉายา"หมอ" โดยที่เรียนบัญชี )

บางที การทำตาแดง ๆ น้ำตาเอ่อคลอเบ้าหน้าทำเนียบต่อหน้านักข่าว วันที่ลุงแก่ ๆ ถูกรุมยำบาทา หน้าเซ็นทรัลเวิลด์ อาจเสมือน "น้ำตาจรเข้"

ที่ดูไร้ค่า เพราะว่า "ตำรวจ" ผู้บงการให้ "กุ๊ย" รุมยำบาทาคนแก่ ( แม้แต่ชื่อผมยังลืมไปเลย ) กระชากลากคอคนแก่ไปโรงพัก ไม่ถูกสอบสวนหรือดำเนินการอะไร

ที่ร้ายไปกว่านั้น กลับได้เลื่อนขึ้นพันดาว ทำให้ ลุงแก่ ๆ ที่ถูกยำบาทาและประชาชนที่รักความเป็นธรรมสะอื้นไห้ในหัวใจ

เหยียบร่างกายพอทนได้ แต่เหยียบที่ "หัวใจ" กันแบบนี้เห็นทีต้องจองเวรกันไปอีกหลายชาติ

ลุงแท็กซี่...ไปดีเถิดนะลุง ยังมีชีวิต "คนเล็กคนน้อย" ของสังคม ที่พร้อมจะพลีชีพเพื่อให้พวกนักการเมืองหน้าหนา เหยียบซากศพเพื่อขึ้นสู่อำนาจอีกเยอะ

ผมเชื่อว่า ลุงแท็กซี่ ไม่ใช่คนแรกและคนสุดท้าย...ที่ต้อง "พลีชีพ" เพื่อให้ "นักการเมือง" ขึ้นสู่อำนาจ


ผมเชื่อว่า ลุงแท็กซี่ ไม่ใช่คนแรกและคนสุดท้าย...ที่ต้อง "พลีชีพ" เพื่อให้ "นักการเมือง" ขึ้นสู่อำนาจ


ไม่ว่า "นักการเมือง" ที่แฝงตัวมากับ"ประชาธิปไตย" หรือ สมาพันธ์ประชาธิปไตย" หรือ สหพันธ์เหวนรกที่ใหนก็ช่างเถอะ

ผมแค่อยากตะโกนถามดัง ๆ ว่า ขณะที่ "ม้อบพันธมิตร" ขับไล่เผด็จการหน้าเหลี่ยม "ผู้ทำลายประชาธิปไตย" มาเกือบ ๆ 1 ปี

สมาพันธ์ประชาธิปไตย ไปอยู่ที่ตรงใหนของสังคม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-11-2006, 11:41 โดย CanCan » บันทึกการเข้า

see - u
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,370


.......... I'm not Supergirl


« ตอบ #10 เมื่อ: 04-11-2006, 12:46 »

*  " วิถีคนกล้า " .....

     ในมุมมองแต่ละคนต่างกันค่ะ ...

     อย่าง  เอ้ ...  ไม่ได้มองว่าที่คุณลุงแกตัดสินใจแบบนั้น.. เป็นเรื่องของ " คนกล้า "

     จริงๆ แล้วไม่ได้อยาก .. วิจารณ์ .. การจากไปของลุงแกมากนัก

     เพราะคิดว่า ... คนเขาไม่มีโอกาสมาพูดในสิ่งที่เขาคิดแล้ว ..

     ไม่รู้สิ   ......................... ว่าจะพูดว่าเป็นความผิดพลาดของใครดี

     ของลุง .......... ที่จากไปด้วยเหตุผลที่คิดว่า .. ไม่เห็นด้วย กะ คมช. หรืออะไรก็ตาม

     เพราะ ... ไม่ได้ไปรู้พื้นฐาน .. ทางใจ .. ที่เคยผ่านมาของลุงว่าเป็นอย่างไรมาก่อน

     ถึงได้ตัดสินใจทำอะไรลงไปแบบนั้น .. !!

     หรือจะเป็นความผิดของหมอ ...... ที่มองข้ามเรื่องการเยียวยาทางด้าน จิตใจ ..  ???

     หรือ... เป็นความผิดของ  คมช.  อย่างที่หลายๆ คนอยากให้ป็น  ???

     หรือ ... จะโทษไอ้พวกคิดเอาศพลุง .. ไปหวังผลในทางการเมือง  ???

     คนอื่นคิดยังไง  เอ้....  ไม่รู้นะ

     แต่รู้สึกแค่ว่า ................ สังคมมันป่วยกันขนาดนี้แล้วหรือ ???
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-11-2006, 12:49 โดย see_you » บันทึกการเข้า

    " I  will  unforgive  you  to  do  the  bad  thing  like  this. "   

                           

                        The  fox  changes  his  skin  but  not  his  habits.   *

                 Superman ( It's Not Easy )   >>  http://www.ijigg.com/songs/V2B7G4GPD
    
    
   "  กฏหมายต้องเดินหน้าเอาผิดต่อคนไม่ดี  ........  ไม่ใช่ปล่อยให้คนไม่ดีมากล่าวเอาโทษกฏหมาย  "

                                     
                                          
แอ่นแอ๊น
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,591


"Angela Gheorghiu" My goddess


เว็บไซต์
« ตอบ #11 เมื่อ: 06-11-2006, 12:47 »

เท่าที่ทราบมีจิตแพทย์ไปคุยแล้วนะคะ เห็นว่าแกก็เลิกความคิดฆ่าตัวตายไปแล้ว แต่ไหงเฮี้ยนขึ้นมาอีกทีไม่รู้เหมือนกัน
 

สมาพันธ์ประชาธิปไตย ไปอยู่ที่ตรงใหนของสังคม

ส่วนตรงนี้หน่ะเหรอ แอนตอบได้ค่ะว่า ไม่เคยเห็นค่ะ ไม่เคยโผล่หัวออกมา
บันทึกการเข้า

       

"เมื่อเจตนาเบี่ยงเบนไปจากความจริง การนำเสนอข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง บางทีก็เป็นเพียงภาษาสุภาพสำหรับการพูดเท็จนั่นเอง" : วิถีแห่งปราชญ์ พิมพ์ครั้งที่ ๗ หน้า ๒๐๖
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #12 เมื่อ: 06-11-2006, 13:22 »

บางทีการตั้งโปรแกรมในสมอง ให้เชื่อว่า "ไม่เคยมีผู้นำคนใหน ที่เห็นหัวคนยากคนจน"

การไปทำลายผู้นำทางความคิดของเค้า ก็อาจเป็นสาเหตุหนึ่งของความเครียดและพร้อมปกป้อง

ดังนั้น การมีอิทธิพลทางความคิด โดยผสมผสานการทำงานกับการสื่อสารมวลชน

เป็นงานที่สร้างสรรค์และทำลายได้ในเวลาเดียวกัน

การสร้างความเข้าใจกัยสังคมในช่วงเวลานี้ เป็นเรื่องที่ คมช. ควรเร่งรัด แสดงผลงานให้ชัดเจน

ที่สำคัญ ต้องใช้สื่อที่มีให้เป็นประโยชน์ในแนวทางสร้างสรรค์สามัคคี ท่าทีแบบนี้ ต้องมี "มืออาชีพ" มาช่วยทำงาน

อาศัย "มือราชการ" อย่างเดียว คงไปไม่ถึงดวงดาว

ช่อง 9 อสมท. ได้ ผอ. ชั่วคราวแบบ "อาจารย์ป๋อง" ลอง ๆ เริ่มลุยได้แล้ว

คืนก่อนเชิญ "คนนอกสภา" มาวิจารณ์นโยบายรัฐบาล ก็ทำได้ดีแล้ว อยากให้ทำแบบนี้ บ่อย ๆ

และน่าจะมีรายการประจำไปเลยครับ...คมช. พบประชาชน มีอะไรใส่ลงไปในนั้น 30 นาที 1 ชั่วโมง ขอให้ชัดเจนไปเลย
บันทึกการเข้า

Tam-mic-ra
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 603


« ตอบ #13 เมื่อ: 07-11-2006, 02:27 »

สรุปว่าที่คุณๆ มีเสรีภาพในปัจจุบันนี้
ไม่ว่าจะ กิน- ถ่าย- ด่าใส่ร้าย- ชาวบ้าน- นอน -เล่นเนต

เสรีภาพที่พวกคุณใช้กันอยู่
ไม่ใช่เพราะวีรชนในอดีตที่ต้องเสียชีวิตเพื่อเรียกร้องรัฐธรรมนูญ-ระบอบประชาธิปไตยดอกหรือ

คิดสิ้น จริงๆ

บันทึกการเข้า
Cherub Rock
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,183


น้องๆ ช่วยไปบอกผู้หญิงคนนั้นที ว่าเลิกมองผมได้แล้ว


« ตอบ #14 เมื่อ: 07-11-2006, 03:42 »

"ลุงนวมทอง"ฆ่าตัวตายทำไม

โดย ธีรเวทย์ ประมวญรัฐการ

........

ด้วยความเคารพต่อคุณหมอทางจิตเวชหรือทางโรคประสาท ผู้เขียนเชื่อว่าปุถุชนบางคนมีสติสัมปชัญญะครบถ้วน อาจเพิ่มสมาธิมั่นด้วยซ้ำขณะลงมือฆ่าตัวตาย

ความรักชีวิตเป็นสัญชาตญาณของสิ่งมีชีวิตก็จริง แต่ความเป็นมนุษย์ย่อมพอใจมากกว่าถ้าชีวิตไม่ได้อยู่แค่รอดไปวันๆ

บาง คนยิ่งเป็นปลื้มถ้าได้สนองความดีคุณค่าบางอย่างที่ปรารถนา เทิดทูน และอาจต้องพบว่าการสละชีพเป็นทางเดียวที่จะไม่ให้สูญเสียสิ่งที่เทิดทูนนั้น อาทิ เกียรติยศ คุณความดี ศรัทธา กลายเป็นแรงจูงใจให้ฆ่าตัวตายที่เข้าข่ายเพื่อรักษาอุดมการณ์ (altruistic suicide)

กรณีพระสงฆ์ญวนที่ทำพิธีอนันตริยกรรมเผาตัวเองกลางกรุง ไซ่ง่อนอย่างสงบ ประท้วงกองทัพสหรัฐ ที่ละเมิดรัฐาธิปัตย์ของเวียดนามเมื่อ 40 กว่าปีก่อน มีส่วนสำคัญที่ทำให้คนเวียดนามมีพลังของจิตวิญญาณที่ศักดิ์สิทธิ์ สามารถเอาชนะสงครามที่เสียเปรียบกว่าร้อยพันเท่าในเชิงเทคโนโลยีของอาวุธ ยุทโธปกรณ์

หรือเมื่อ 30 กว่าปีก่อนก็มี "กรณีมิชิม่า" ที่คว้านท้องกลางกรุงโตเกียวเพื่อเรียกร้องลัทธิบูชิโดให้กลับมาเป็นพลัง ให้ญี่ปุ่นมีกองทัพที่เกรียงไกรเหมือนอดีตที่สูญเสียไปกับการพ่ายแพ้ใน สงครามโลกครั้งที่สอง เหล่านี้เป็นกรณีตัวอย่างของสาเหตุการฆ่าตัวตายเพื่ออุดมการณ์ กรณีของลุงนวมจะตัดออกนอกข่ายนี้ แล้วลงความเห็นว่าแกบ้า อาจเร็วเกินไปหน่อย

........

ลุง นวมทองเป็นคนเมืองนนท์ และโดยอาชีพก็คงขับแท็กซี่เข้ากรุงรับส่งผู้โดยสารเป็นปกติ ได้ใกล้ชิดกับเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในเมืองที่เป็นศูนย์อำนาจ มีความเป็นไปได้ว่าเมื่อลุงนวมตัดสินใจฆ่าตัวตาย ก็อยากให้คนได้รู้ได้เห็น จึงเลือกลานพระบรมรูปเป็นเวทีดับเครื่องชน และต่อมาก็ยึดสะพานลอยข้ามฝั่งซุปเปอร์ไฮเวย์ผูกคอตาย แต่จะลงความเห็นเด็ดขาดว่าการฆ่าตัวตายของลุงนวมเข้าอยู่ในประเภทประชดโลก (egoistic suicide) คงไม่ได้ทีเดียว เพราะบางกรณีการฆ่าตัวตายเพื่ออุดมการณ์ (altruistic suicide) ก็มีการประกาศจัดพิธี มีคนแห่มาดูเป็นมหกรรม

มีครั้งหนึ่งที่ ญี่ปุ่น ทางการจัดให้ซามูไรมาคว้านท้องจะจะพร้อมกันถึง 47 ราย ทุกคนที่มาเป็นสักขีพยาน ต่างสงบนิ่งดูคมดาบซามูไรสั้นที่เจ้าของชักออกมากดจมลึกเข้าไปที่ท้องตัว เองแล้วงัดคว้านเป็นวงกลมคนแล้วคนเล่า ตั้งแต่เที่ยงจนพลบ เมื่อครบคนสุดท้ายผ้าขาวผืนใหญ่หลายทบที่คลี่ปูรองรับเลือดสดๆ ก็เปลี่ยนเป็นสีแดงเกือบสนิททั้งผืน แต่ก็ทำให้สัญลักษณ์ความบริสุทธิ์ (ขาว) ของลูกพระอาทิตย์ (แดง) ขลังขึ้นอักโข

ลุงนวมรู้เรื่องเมือง ไทยพอสมควร ไม่ใช่ตาสีตาสา อายุ 60 ปี ก็น่าจะผ่านการปฏิวัติและกบฏนับสิบครั้ง อ่านจดหมายลาตายของแกแล้วก็พบว่าเหตุการณ์ 14 ตุลา สร้างความมั่นใจให้ลุงนวมว่าเมืองไทยจะมีการพัฒนาการของประชาธิปไตยต่อ เนื่อง

ลุงนวมมาเสียใจมากกับเหตุการณ์ทั้ง 6 ตุลา และ รสช. พอ คปค. มาเข้าคิวต่อ กลายเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้ลุงนวมทรุดทันที

ลุง นวมบอกเป็นนัยว่าการตายของแกจะทำให้บ้านเมืองได้ทบทวนและแก้ไขในความผิดพลาด ต้องยกย่องในศรัทธาที่มีต่อประชาธิปไตยของลุงนวม ลุงนวมเชื่อว่าสังคมไทยมีคนคิดดี มีคุณธรรม รักชาติ เป็นความดีความงามในบ้านเมืองที่ต้องปกป้อง ถือว่าลุงนวมมีอุดมการณ์

คน คิดดีไม่จำเป็นต้องบ้า เพียงแต่ถ้าข้อมูลไม่เพียงพอก็อาจตัดสินใจผิดพลาดได้ จึงเป็นเรื่องน่าเห็นใจจากทุกฝ่าย ไม่ว่าที่ต่อต้านหรือสนับสนุน คมช.


http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01act04071149&day=2006/11/07
คัดมาบางตอน
บันทึกการเข้า

"นายกรัฐมนตรีกำลังใช้รัฐสภาประกอบพิธีกรรมสถาปนาอำนาจของตนเองโดยเห็นรัฐสภาเป็นเพียงแค่ตรายาง และปล่อยให้มีการทำร้ายประชาชนถือว่าหมดความชอบธรรมแล้ว" รสนา โตสิตระกูล
นู๋เจ๋ง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,877



« ตอบ #15 เมื่อ: 07-11-2006, 08:36 »

ความรักชาติ รับผิดชอบต่อสังคม ไปทั่วถึง
นักการเมืองเดิมๆที่คิดว่าเป็นอาชีพสร้างรายได้ดี หาเงินเร็ว
สส สว ที่เคยเห็นสภาเป็นที่ทำมาหากิน


ต้องคิดให้หนักว่า คนทุกระดับเค้าเห็น เค้ารู้ว่าทำอะไรกัน!!
บันทึกการเข้า

~จะแน่วแน่...แก้ไข...ในสิ่งผิด~
หน้า: [1]
    กระโดดไป: