ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
20-04-2024, 18:51
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  รัฏฐาธิปัตย์ โดย นิธิ เอียวศรีวงศ์ 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
รัฏฐาธิปัตย์ โดย นิธิ เอียวศรีวงศ์  (อ่าน 2707 ครั้ง)
snowflake
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,207



« เมื่อ: 21-10-2006, 05:00 »

รัฏฐาธิปัตย์

นิธิ เอียวศรีวงศ์

เนื่องจากผมไม่เคยเรียนทั้งรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ ผมจึงเขียนเรื่องเกี่ยวกับรัฏฐาธิปัตย์
ได้สบายมาก เพราะไม่มีพันธะของ "ศักดิ์และสิทธิ์" แห่งปริญญาบัตรไว้แบก

เกือบสิบปีมาแล้ว ผมถูกนักกฎหมายมหาชนซึ่งเป็นที่นับถือกันอย่างกว้างขวางรวมทั้ง
ตัวผมเองด้วย ถามว่า กฎหมายหรือคำสั่งของรัฐกับคำสั่งของโจร ต่างกันตรงไหน?

คำอธิบายของท่านคือในทางปรัชญานิติศาสตร์ (บางสำนักกระมัง) แล้ว สองอย่างนี้
ไม่ได้ต่างอะไรกันเลย

ผมก็อึ้งกิมกี่กินมาเกือบสิบปี ตอบไม่ได้ครับ จนกระทั่งรัฐถูกยึดไปทั้งด้วยอาวุธและ
หีบบัตรเลือกตั้งมาหลายครั้งหลายหน ผมก็ตอบไม่ได้สักที เพิ่งมาตอบได้กระจ่างแก่ใจ
ตัวเองเมื่อรัฐเพิ่งถูกยึดไปเมื่อเร็วๆ นี้เอง

คำถามของท่านนักกฎหมายมหาชนที่ว่าข้างต้นนั้น ผมคิดว่ามีสองความหมาย แต่ทั้ง
สองความหมายล้วนทำให้คำสั่งของโจรแตกต่างจากคำสั่งของรัฐทั้งคู่

ผมจะขอเริ่มพูดถึงความหมายที่หนึ่งก่อน

ตอนที่โจรเอามีดหรือปืนจี้เราในที่เปลี่ยว แล้วบอกให้ปลดทรัพย์ทั้งหมดยกให้แก่มันไป
เรา (อย่างน้อยก็ผมล่ะครับ) ควรทำตามมัน รักษาชีวิตไว้ทำอย่างอื่นน่าจะดีกว่า

ดูๆ ไปก็ไม่ต่างจากคำสั่งของรัฐนะครับ

คนเขาอาศัยทำกินอยู่มาบนที่ดินหลายชั่ว อยู่ๆ รัฐก็เอาป่าไม้, ตำรวจ, อัยการ และ
ศาลมาจี้ แล้วบอกว่ามึงขนข้าวของออกไปจากที่กู เพราะกูสั่งแล้วว่าตรงนี้เป็นพื้นที่
ซึ่งกูเท่านั้นจะเป็นผู้ดูแลรักษาตามใจกู จะให้เป็นป่าหรือเป็นไนท์ซาฟารีก็เรื่องของกู

เพื่อรักษาชีวิตหรืออิสรภาพไว้ทำอะไรอื่นที่ดีกว่านั้น เรา (อย่างน้อยก็ผมด้วยคนหนึ่ง
ละครับ) ย่อมเก็บข้าวของแล้วขยับตูดไปอยู่ที่อื่นเหมือนกัน

แต่มันมีความแตกต่างที่สำคัญในคำสั่งสองประเภทนี้ สำคัญเสียจนเราต้องสำเหนียกไว้
ให้ดีด้วย

ประการแรก รัฐไม่สามารถออกคำสั่งในที่เปลี่ยวได้ ตำรวจที่อุ้ม คุณสมชาย นีละไพจิตร
หายไปนั้นไม่ได้ใช้คำสั่งของรัฐนะครับ แต่เป็นคำสั่งของโจร

คนที่รู้เห็นเป็นใจแก่การกระทำนั้น แม้จะคุมอำนาจรัฐไว้มากน้อยแค่ไหนก็ไม่กล้าพูดได้ว่า
ตำรวจเหล่านั้นทำตามคำสั่งของรัฐ

การที่รัฐไม่ออกคำสั่งในที่เปลี่ยวได้ทำให้เกิดความแตกต่างระหว่างคำสั่งของรัฐกับโจร
มากทีเดียว

เช่นเมื่อโจรสั่งให้เราปลดทรัพย์นั้น เราไม่มีเพื่อนนะครับ เพราะโจรสั่งเราคนเดียว คนอื่น
ไม่เกี่ยว ในขณะที่เมื่อรัฐออกคำสั่งให้เราย้ายตูดไปจากที่ดินของบรรพบุรุษนั้น เรามี
เพื่อนแยะ ทั้งคนที่ถูกไล่เหมือนเรา และคนที่กลัวว่ารัฐจะเป็นอันธพาลมากเกินไปจน
เป็นอันตรายต่อเขาไปด้วย

พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ คำสั่งของรัฐเป็นปฏิบัติการทางสังคม ไม่ใช่ทางบุคคลเหมือน
คำสั่งของโจร

เพียงแค่นี้ก็ทำให้อำนาจของรัฐถูกกำกับไปส่วนหนึ่งแล้ว เพราะอำนาจที่แท้จริงของรัฐ
นั้นไม่ยักกะอยู่ที่ปากกระบอกปืน
(ซึ่งยังไงๆ ก็ไม่สามารถยิงคนที่ยืนอยู่หน้ากระบอกปืน
ได้หมด) แต่อยู่ที่การยินยอมพร้อมใจของพลเมืองต่างหาก ไม่ว่าความยินยอมพร้อมใจ
นั้นจะมาจากการถูกล่อหลอก, ติดสินบน, ครอบงำทางความคิด,
หรือวางเหยื่อทาง
โภคทรัพย์และเกียรติยศล่อ, ประเพณี หรือความเชื่อ ฯลฯ ก็ตาม

ฉะนั้น คำสั่งของรัฐ แม้แต่คำสั่งที่ฉ้อฉล ก็ยังต้องได้รับคำยินยอมพร้อมใจของคนอื่นๆ
ในสังคม


ประการที่สอง ด้วยเหตุดังที่กล่าวข้างต้น คำสั่งของรัฐจึงอาจต่อรองได้ ไม่จำเป็นต้อง
ต่อรองในสภาอย่างเดียวนะครับ บนท้องถนนก็ได้, หลบให้พ้นหน้ารัฐเสียก็ได้ (เช่นหนี
เข้าป่าต้นไม้เมืองไทยหรือป่าคอนกรีตแคลิฟอร์เนีย) หรือติดสินบนเจ้าหน้าที่ของรัฐเสีย
ก็ยังได้ (อยู่บ่อยๆ เสียด้วย)

กฎหมายจึงเป็นคำสั่งที่รัฐ (แม้แต่รัฐรัฐประหาร) ต้องแสวงหาความเห็นชอบจากสังคม
ในขณะที่คำสั่งของโจรไม่จำเป็นต้องทำอย่างนั้น

ฉะนั้นใครที่คิดว่า เมื่อรัฐถูกใครยึดไปได้คนนั้นก็คือรัฏฐาธิปัตย์ จะออกคำสั่งอะไรก็ล้วน
เท่ากับคำสั่งของรัฐหมด ผมจึงออกสงสัยว่า จริงเร้อ ไม่ง่ายและตื้นไปหน่อยหรือ

คำกล่าวของนักกฎหมายมหาชนท่านนั้นยังน่าจะมีความหมายที่สองอยู่ด้วย คือคำสั่ง
ของนายโจรในซ่องโจรกับคำสั่งของรัฐก็ไม่ได้แตกต่างอะไรกัน

นายโจรสั่งให้เตรียมตัวไปปล้นบ้านเศรษฐี กับรัฐสั่งให้คนปลูกกระเทียมไปหาพืชอื่น
มาปลูก เพราะเขาได้ทำเอฟทีเอกับจีนไปแล้ว ปลูกกระเทียมไปก็ขายใครไม่ได้ ดูจะ
ไม่ต่างอะไรกันนัก นายโจรย่อมคิดถึงประโยชน์ของหมู่คณะเป็นที่ตั้ง แม้การปล้นบ้าน
เศรษฐี อาจเสี่ยงอันตรายมากหน่อย อาจมีโจรบางคนต้องตาย แต่ก็ทำให้มีรายได้เข้า
ซ่องมากขึ้น อันเป็นความจำเป็นที่จะทำให้ซ่องดำรงอยู่ต่อไปได้

ไม่ต่างอะไรใช่ไหมครับกับการสังเวยคนปลูกกระเทียมให้แก่ผลประโยชน์ของคนอื่น
ในนามของความมั่งคั่งและวัฒนาถาวรของรัฐ

แต่ผมคิดว่ายังมีความแตกต่างที่สำคัญอย่างมากระหว่างรัฐและซ่องโจร (ซึ่งทำให้คำสั่ง
ของรัฐและนายโจรต่างกัน)

ซ่องโจรดำรงอยู่เพื่ออะไรครับ และดำรงอยู่อย่างไรครับ

ผมเดาว่าซ่องโจรย่อมดำรงอยู่เพื่อการปล้นสะดมเลี้ยงชีพ (อันเป็นอาชีพที่สังคมมนุษย์
ในยุคสมัยหนึ่งก่อนจะมีรัฐเคยใช้เป็นส่วนหนึ่งของการทำมาหากินทั้งนั้น-จะปล้นสะดม
ฝูงสัตว์, พืชผล, ที่ดิน หรือทรัพย์อื่นก็ตาม)

และด้วยเหตุดังนั้น ซ่องโจรจึงตั้งอยู่ท่ามกลางศัตรู นับตั้งแต่ศัตรูกับรัฐ ซึ่งย่อมมีหน้าที่
และความจำเป็นจะต้องปราบปรามการแข็งข้อทุกประเภท รวมทั้งโจรซึ่งประกอบอาชีพ
ที่รัฐสั่งห้ามด้วย ยิ่งกว่านั้นซ่องโจรยังต้องอยู่ท่ามกลางศัตรูคือคนที่ตัวปล้นสะดมมาแล้ว
และคนที่กลัวว่าจะถูกปล้นสะดมอีกมากมาย

ด้วยเหตุนั้น วิถีชีวิตของคนในซ่องโจรคือการป้องกันตนเองในท่ามกลางโลกที่ไม่เป็น
มิตร จะว่าต้องเตรียมพร้อมในการต่อสู้ป้องกันตนเองอยู่ตลอดเวลาก็ได้

และด้วยเหตุดังนั้น ศรีปราชญ์กับสุนทรภู่จึงไม่ได้เกิดและโตในซ่องโจร ไม่มีการ
สร้างสรรค์อะไรเกิดขึ้นได้ในซ่องโจร ไม่ว่าจะเป็นศิลปะหรือวิทยาการ ไม่ใช่เพราะ
โจรไม่ฉลาดนะครับ แต่เงื่อนไขในชีวิตของโจรไม่อำนวยให้เกิดการสร้างสรรค์ได้

ระบอบปกครองของซ่องโจรจึงไม่มีโอกาสพัฒนามากไปกว่ากำปั้นที่โตที่สุด หรือพูด
อีกอย่างหนึ่งคืออำนาจดิบ อธิปัตย์ในซ่องโจรตั้งอยู่บนกำปั้น นายโจรย่อมหวาดระแวง
ต่อกำปั้นอื่นๆ ทั้งหมด ต้องหาทางทำให้กำปั้นของคนอื่นโตไม่ได้ตลอดเวลา

หากเห็นกำปั้นของใครทำท่าจะโตเกินไปก็ต้องฆ่าเสีย อย่างที่ขุนแผนโดนนางบัวคลี่
วางแผนสังหาร

ตรงกันข้ามนะครับ รัฐนำเราทุกคนออกมาจากสภาวะสงคราม เกิดช่องทางที่จะทำมาหา
เลี้ยงชีพได้อีกหลายอย่าง และทำให้เราสามารถหล่อเลี้ยงศรีปราชญ์, สุนทรภู่ และ
ไอน์สไตน์ได้

แน่นอนว่าเราต้องนำเอาทรัพยากรไปหล่อเลี้ยงทรราชด้วย แม้กระนั้นทรราชก็ไม่ได้มี
อำนาจอยู่ได้เพราะกำปั้นเพียงอย่างเดียว ต้องอาศัยกลไกของรัฐอีกหลายอย่าง
นับ
ตั้งแต่การศึกษา, ทีวี, ไปจนถึงอุดมการณ์นานาชนิดเป็นเครื่องมือ

และด้วยกลไกเหล่านี้เองที่เป็นเครื่องมือให้ประชาชนใช้ล้มอำนาจของทรราชได้ใน
ภายหลัง
โดยที่รัฐยังอยู่ และโอกาสที่จะลดความสำคัญของกำปั้นในการเถลิงอำนาจ
ในอนาคตก็ยังอยู่

ผมจึงมองไม่เห็นว่ารัฐกับซ่องโจรนั้นเหมือนกัน และผมเชื่อว่าคนอื่นอีกมากก็คงมอง
ไม่เห็นเหมือนกันกับผม รัฐไม่ใช่ซ่องโจรแน่

และเหตุผลสำคัญที่รัฐไม่ใช่ซ่องโจรก็เพราะรัฐตั้งอยู่บนรากฐานที่ต่างจากซ่องโจร
รากฐานของรัฐนั้นคือ (ขอเรียกสั้นๆ ว่า) ศีลธรรมครับ

กล่าวคือ เรามีรัฐด้วยเหตุผลทางศีลธรรมแม้ว่ารัฐอาจทำอะไรที่ไร้ศีลธรรมก็ตาม แต่รัฐ
ต้องอ้างเหตุผลทางศีลธรรมในการดำรงอยู่ ในขณะที่ซ่องโจรไม่จำเป็นต้องอ้างศีลธรรม
และไม่ต้องใช้ศีลธรรมเป็นรากฐาน

ที่ผมใช้คำว่าศีลธรรมนั้น ไม่ต้องการให้มีความหมายลึกซึ้งอะไรมากไปกว่า การคำนึง
ถึงคนอื่นหรือสิ่งอื่นนอกจากผลประโยชน์ของตัวเอง

รัฐไทยโบราณอ้างความเป็นสะพานเชื่อมต่อไปยังชาติภพที่เข้าใกล้พระนิพพาน รัฐ
โบราณของฝรั่งอ้างทำนองเดียวกันคือชาติภพใน "เทวนคร" แม้รัฐสมัยปัจจุบันอ้าง
ผลประโยชน์ในทางโลกย์ แต่ก็เป็นผลประโยชน์ของ "ชาติ" ซึ่งเป็นนามธรรมอันรวม
พลเมืองทั้งหมด ไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่ง รัฐในอนาคตน่าจะมี "ศีลธรรม" ที่หมายถึง
ระบบนิเวศน์ของโลกซึ่งอุดมสมบูรณ์และยั่งยืน

ซ่องโจรและมาเฟียอ้างผลประโยชน์ทางวัตถุร่วมกันของบุคคลที่มารวมกลุ่มกันเท่านั้น
อันเราไม่อาจนับว่าเป็น "ศีลธรรม" ได้

ศีลธรรม (อย่างน้อยก็ในความหมายที่ผมนิยามข้างต้น) จึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในความ
เป็นรัฐ และรัฐทำให้ "ศีลธรรม" มีความสำคัญกว่ากำปั้น ไม่ว่าจะด้วยความจริงใจหรือ
ไม่ก็ตาม

และศีลธรรมในความหมายนี้แหละครับที่ทำให้คนในรัฐรู้สึกอุ่นใจว่า วิถีชีวิตของตนจะ
ดำเนินไปได้อย่างราบรื่น แต่เมื่อใดก็ตามที่รัฐถูกยึดไปด้วยกำปั้น ความอุ่นใจที่ว่านั้น
ย่อมหายไป
เพราะไม่แน่เสียแล้วว่าศีลธรรมซึ่งเป็นรากฐานของรัฐยังอยู่หรือไม่

วิถีทางที่คนจะยึดรัฐได้จึงมีความสำคัญกว่ารัฐตกอยู่ในมือใคร

ถ้ารัฏฐาธิปัตย์ย่อมอยู่ในมือของผู้ที่ยึดเอารัฐไปแล้วด้วยวิถีทางใดๆ ก็ได้ จะมีความ
แตกต่างระหว่างรัฐและซ่องโจรตรงไหนล่ะครับ

เพราะในที่สุดกำปั้นต่างหากที่เป็นรากฐานของรัฐไม่ใช่ศีลธรรมอีกต่อไป

ในทัศนะของผม การพิจารณาอย่างง่ายๆ ว่าใครยึดรัฐได้คนนั้นคือรัฏฐาธิปัตย์จึงมี
อันตรายต่อรัฐในระยะยาวเป็นอย่างยิ่ง

ผมเข้าใจนะครับว่า เมื่อโจรเอาปืนจี้เรา โจรอยากได้สมบัตินอกกายอะไรของเราก็ต้อง
มอบให้เป็นธรรมดา แต่จะหากโจรบังคับให้เราประกาศในที่สาธารณะว่า การปล้นสะดม
เป็นความชอบธรรม ผมคิดว่าไม่จำเป็นต้องให้แล้วล่ะครับ

เพราะอย่างที่พูดในตอนต้น อำนาจของโจรนั้นมีเฉพาะในที่เปลี่ยวครับ ไม่มีในที่
สาธารณะหรอก

ที่มา มติชนสุดสัปดาห์ วันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2549 ปีที่ 26 ฉบับที่ 1366

http://www.matichon.co.th/weekly/weekly.php?srctag=MDQzMzIwMTA0OQ==&srcday=MjAwNi8xMC8yMA==&search=no
บันทึกการเข้า

Even the smallest person can change the course of the future.
snowflake
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,207



« ตอบ #1 เมื่อ: 21-10-2006, 05:06 »

ตีความตามความเข้าใจของตัวเองได้ว่า
อ.นิธิ เห็นว่า เผด็จการรัฐสภา ดีกว่า เผด็จการทหาร เพราะ


แม้แต่คำสั่งที่ฉ้อฉล ก็ยังต้องได้รับคำยินยอมพร้อมใจของคนอื่นๆ ในสังคม
และการออกคำสั่งอาจต่อรองได้ ไม่จำเป็นต้องต่อรองในสภาอย่างเดียว บนท้องถนน
ก็ได้

อำนาจที่แท้จริงของรัฐ ไม่อยู่ที่ปากกระบอกปืน แต่อยู่ที่การยินยอมพร้อมใจของ
พลเมืองต่างหาก ไม่ว่าความยินยอมพร้อมใจนั้นจะมาจากการถูกล่อหลอก, ติดสินบน
 ครอบงำทางความคิด, หรือวางเหยื่อทางโภคทรัพย์และเกียรติยศล่อ, ประเพณี หรือ
ความเชื่อ ฯลฯ ก็ตาม

ทรราชก็ไม่ได้มีอำนาจอยู่ได้เพราะกำปั้นเพียงอย่างเดียว ต้องอาศัยกลไกของรัฐอีก
หลายอย่าง นับตั้งแต่การศึกษา, ทีวี, ไปจนถึงอุดมการณ์นานาชนิดเป็นเครื่องมือ
และด้วยกลไกเหล่านี้เอง ที่เป็นเครื่องมือให้ประชาชนใช้ล้มอำนาจของทรราชได้
ในภายหลัง โดยที่รัฐยังอยู่ และโอกาสที่จะลดความสำคัญของกำปั้นในการเถลิง
อำนาจในอนาคตก็ยังอยู่

การรัฐประหาร (ปล้นสะดม) ไม่เป็นความชอบธรรม
วิถีทางที่คนจะยึดรัฐได้มีความสำคัญกว่ารัฐตกอยู่ในมือใคร

ท่านผู้อ่านอาจตีความได้เป็นอย่างอื่น
สุดแท้แต่สติปัญญา และอคติในใจ ส่วนบุคคล


 
บันทึกการเข้า

Even the smallest person can change the course of the future.
สี่หามสามแห่
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,460



« ตอบ #2 เมื่อ: 21-10-2006, 06:43 »

เขียนด่าแม้ว ทั้งดุ้น ....
บันทึกการเข้า
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: 21-10-2006, 07:40 »

กำปั้นทุบดินไง ทุบตรงใหนก็โดน

เด็ก ๆ เพิ่งเรียนการเมืองการปกครองก็รู้...ไม่ต้องลึกซึ้งขนาด ศาสตราจารย์ มาพูดหรอก
บันทึกการเข้า

Cherub Rock
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,183


น้องๆ ช่วยไปบอกผู้หญิงคนนั้นที ว่าเลิกมองผมได้แล้ว


« ตอบ #4 เมื่อ: 21-10-2006, 10:30 »



กฎหมายหรือคำสั่งของรัฐกับคำสั่งของโจร ต่างกันตรงไหน?

อ.นิธิ บอกว่า มีทั้งส่วนที่เหมือน บางส่วนก็ไม่เหมือน

ตีความแบบกำปั้นทุบดินมั่ง 
บันทึกการเข้า

"นายกรัฐมนตรีกำลังใช้รัฐสภาประกอบพิธีกรรมสถาปนาอำนาจของตนเองโดยเห็นรัฐสภาเป็นเพียงแค่ตรายาง และปล่อยให้มีการทำร้ายประชาชนถือว่าหมดความชอบธรรมแล้ว" รสนา โตสิตระกูล
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #5 เมื่อ: 21-10-2006, 13:20 »

ต้องถามอาจารย์อีกที กองทัพ กับ กองโจร แตกต่างกันยังไง
บันทึกการเข้า

Killer
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,576


ช๊อบบ ชอบบ...ปฏิวัติ ปลื้ม ค่ะ


« ตอบ #6 เมื่อ: 21-10-2006, 13:22 »

การได้มาซึ่งอำนาจรัฐ ที่ใช้กำลังยึดครองเอามา

นอกจากมันไม่สามารถที่จะปกครองได้ อย่างราบรื่นแล้ว

เพราะต้องคอยระวัง ระแวง รอบด้าน

ยังเป็นผลเสียต่อความเป็น รัฐ ในระยะยาวอีกด้วย

และจะยิ่งไปกันใหญ่ ถ้าอำนาจที่ว่านั้นพยายามบังคับให้

สังคมยอมรับในพฤติกรรมนอกรีตแบบนั้นให้เป็นความชอบธรรม...
บันทึกการเข้า
Killer
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,576


ช๊อบบ ชอบบ...ปฏิวัติ ปลื้ม ค่ะ


« ตอบ #7 เมื่อ: 21-10-2006, 13:28 »

นิธิ ควรแสดงจุดยืนให้มันชัดเจนยิ่งกว่านี้ แทนที่จะพยายามเหน็บแนมคนโน้นคนนี้

สื่อสารโดยตรงกับประชาชนคนบริโภค จะดีกว่า

ส่วนระดับนักวิชาการด้วยกัน เชิญไปถกเถียงกันเองในแวดวงพวกเดียวกัน



ไม่อย่างนั้น ผู้คนจะไม่ได้ประโยชน์อะไรจากนิธิ ซักเท่าไหร่
บันทึกการเข้า
********Q********
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,520


I'm Looking At You.


เว็บไซต์
« ตอบ #8 เมื่อ: 21-10-2006, 14:10 »

วรรคนี้พอจะเข้าเค้า

กล่าวคือ เรามีรัฐด้วยเหตุผลทางศีลธรรมแม้ว่ารัฐอาจทำอะไรที่ไร้ศีลธรรมก็ตาม แต่รัฐ
ต้องอ้างเหตุผลทางศีลธรรมในการดำรงอยู่ ในขณะที่ซ่องโจรไม่จำเป็นต้องอ้างศีลธรรม
และไม่ต้องใช้ศีลธรรมเป็นรากฐาน

ที่ผมใช้คำว่าศีลธรรมนั้น ไม่ต้องการให้มีความหมายลึกซึ้งอะไรมากไปกว่า การคำนึง
ถึงคนอื่นหรือสิ่งอื่นนอกจากผลประโยชน์ของตัวเอง

รัฐไทยโบราณอ้างความเป็นสะพานเชื่อมต่อไปยังชาติภพที่เข้าใกล้พระนิพพาน รัฐ
โบราณของฝรั่งอ้างทำนองเดียวกันคือชาติภพใน "เทวนคร" แม้รัฐสมัยปัจจุบันอ้าง
ผลประโยชน์ในทางโลกย์ แต่ก็เป็นผลประโยชน์ของ "ชาติ" ซึ่งเป็นนามธรรมอันรวม
พลเมืองทั้งหมด ไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่ง รัฐในอนาคตน่าจะมี "ศีลธรรม" ที่หมายถึง
ระบบนิเวศน์ของโลกซึ่งอุดมสมบูรณ์และยั่งยืน


ส่วนเรื่องกำปั้น หลายคนเข้าใจผิดครับ รวมทั้งนิธิด้วย อธิบายง่ายๆดังนี้

ทุกคนเกิดมามีกำปั้นแม้แต่คนเกิดมาแขนด้วนทั้สองข้าง และต้องใช้กำปั้นเพื่อการมีชีวิตอยู่อย่างเหมาะสม และมีคุณธรรม นี่คือสัจจธรรมที่โต้แย้งไม่ได้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-10-2006, 14:17 โดย Q » บันทึกการเข้า

meriwa
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,100



เว็บไซต์
« ตอบ #9 เมื่อ: 21-10-2006, 19:15 »

คำสั่งเป็นเครื่องมืออย่างหนึ่งของรัฐ หากรัฐเห็นว่าการออกคำสั่งนั้นเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมมากกว่า ก็สามารถออกได้ โดยไม่จำเป็นที่ประชาชนจะต้องให้ความเห็นชอบหรือพอใจ  อย่างเช่น การเกิดไข้หวัดนก รัฐก็มีคำสั่งให้ทำลายสัตว์ปีกในพื้นที่ที่เกิดทั้งหมด  ไม่ว่าสัตว์ตัวนั้นจะเป็นหรือไม่ก็ตาม    เป็นต้น 
ส่วนประชาชนหากได้รับความเสียหายต่อคำสั่งนั้นๆ  เค้าก็มีศาลปกครองเอาไว้ให้แล้ว  มีเรื่องอะไรก็ไปฟ้องที่ศาลปกครอง ไม่ใช่ว่ามัวแต่ไปเดินประท้วงเย้วๆ ให้รัฐเค้ายกเลิก  เพราะคำสั่งมันออกมาแล้วมีผลบังคับใช้แล้ว หากไม่ปฏิบัติตามก็ถือว่าท่านทำผิดต่อกฏหมาย


ส่วนจะบอกว่ารัฐบาลนี้เป็นโจรหรืออะไรก็แล้วแต่  แต่ถ้าเป็นโจรผมก็คงให้เป็นโจรโรบินฮูดละนะ  และหากมองกันในความเป็นจริงแล้ว การทำรัฐประหารครั้งนี้ก็ได้รับการยอมรับจากประชาชนส่วนใหญ่  ซึ่งก็ดูได้จากโพลต่างๆ  ส่วนที่ว่าเค้าห้ามคนที่ไม่เห็นด้วยเคลื่อนไหว  ผมก็เห็นว่ามันเป็นเรื่องที่ดีแล้วว่าการจะมาทำอะไรกันตอนนี้มันยังไม่เหมาะสม   

บันทึกการเข้า

ผู้ปกครองระดับธรรมดา   ใช้ความสามารถของตน    อย่างเต็มที่
ผู้ปกครองระดับกลาง       ใช้กำลังของคนอื่น             อย่างเต็มที่
ผู้ปกครองระดับสูง           ใช้ปัญญาของคนอื่น           อย่างเต็มที่

                                                                  ...คำคมขงเบ้ง
An.mkII
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,984


Out of kontrol....!!!!!


เว็บไซต์
« ตอบ #10 เมื่อ: 22-10-2006, 18:31 »


ผมว่า...


คราหน้าคราหลัง...

ก็เขียนมาโต้งๆเลยก็ได้ว่า...


โจรในระบบดีกว่าโจรนอกระบบ..เพราะคนแบบผมนั้นเชื่อในระบบ..

ระบบที่ว่า..ต่อให้เขาเลว..เขาก็มาจากการเลือกตั้ง....

 

หรือไม่ก็....

โจรในระบบประชาธิปไตย..มันดีกว่าว่าโจรในชุดลายพรางก็สิ้นเรื่อง...


ไม่ต้องมายกโน่นอ้างนี้...ยกเเม่น้ำทั้งห้าทั้งหกมาเพื่อโน้มน้าวคนโน่นคนนี้เขาหรอก...

 
ก็เพราะคุณพี่เล่นตั้งธงอคติมาแต่ไกล...มิใช้หรือ...แล้วจักมาเเสร้งวกไปวนมาหาอะไรมิทราบ...


ปล.

ผมว่าคนไทยมิใช้ควาย....
 
เพราะมิว่าจักโจรรูปแบบไหน..เพราะถ้ามันเล่นกันเกินไป.... กินกันเกินเเกง...

โจรหน้าไหนๆมันก็อยู่ได้หรอก.....เชื่อผมเถอะ....


มิว่า....โจรในคราบประชาธิปไตย..หรือโจรในชุดหลายพราง...


สุดท้าย....

ผมก็เป็นคนที่เชื่อในระบบครับ....


แต่เราต้องดูว่าระบบนั้นมันยุติธรรมมันครบถ้วนมันถกูต้องมันสมบูรณ์์แบบรึไม่...

มิใช้รู้ทั้งรูุ้็ว่าระบบนั้นมันรวน..มันมีช่ิองโหว่...

พ่อก็ยังตะบี้ตะบันจัดยังเชื่อจักยังจมปลักกะมัน...อยู่ทั้งปีสีกะชาติ...


เพราะมัวแต่คิดว่าเราต้องยึดกะระบบและถ้าไม่มีระบบเราอยู่มิได้....


 
 
บันทึกการเข้า
RiDKuN
Administrator
ขาประจำขั้นที่ 3
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,015



เว็บไซต์
« ตอบ #11 เมื่อ: 22-10-2006, 21:37 »

อาจารย์อาจจะต้องการสื่อว่า ไม่ว่ารัฐประเภทใด ก็ต้องแสวงหาความยินยอมพร้อมใจจากประชาชน
่ใครยึดอำนาจรัฐได้ คนนั้นคือรัฐ แบบนั้นก็ไม่ถูก ต้องเติมในวงเล็บด้วยว่า ตราบใดที่ยังไม่มีการต่อต้าน
รูปแบบการแสวงหาความยินยอมพร้อมใจจากประชาชน อาจจะแตกต่างกันตามยุคสมัยและระบอบการปกครอง
แต่โดยสรุปแล้วไม่ว่าจะเป็นประชาธิปไตยหรือเผด็จการ ถ้ามีศีลธรรม ประชาชนก็จะยินยอมพร้อมใจอยู่ในกฎเกณฑ์ที่ำกำหนด
แต่ในทางกลับกัน ถ้าไร้ศีลธรรม ถึงจะเป็นประชาธิปไตย ประชาชนก็ไม่ยินยอมพร้อมใจ
ประเด็นมันน่าจะอยู่ตรงนั้นมากกว่า
บันทึกการเข้า

คนไม่มี "อุดมคติ" ไม่ใช่ "นักการเมือง"
นทร์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,441



เว็บไซต์
« ตอบ #12 เมื่อ: 22-10-2006, 22:17 »

เกือบสิบปีมาแล้ว ผมถูกนักกฎหมายมหาชนซึ่งเป็นที่นับถือกันอย่างกว้างขวางรวมทั้งตัวผมเองด้วย ถามว่า

กฎหมายหรือคำสั่งของรัฐกับคำสั่งของโจร ต่างกันตรงไหน?

*1* ประเด็นหลักในบทความ ***

ผมก็อึ้งกิมกี่กินมาเกือบสิบปี ตอบไม่ได้ครับ ... เพิ่งมาตอบได้กระจ่างแก่ใจตัวเองเมื่อรัฐเพิ่งถูกยึดไปเมื่อเร็วๆ นี้เอง

...

ประการแรก รัฐไม่สามารถออกคำสั่งในที่เปลี่ยวได้ ตำรวจที่อุ้ม คุณสมชาย นีละไพจิตร หายไปนั้นไม่ได้ใช้คำสั่งของรัฐนะครับ แต่เป็นคำสั่งของโจร

ประการที่สอง กฎหมายจึงเป็นคำสั่งที่รัฐ (แม้แต่รัฐรัฐประหาร) ต้องแสวงหาความเห็นชอบจากสังคม ในขณะที่คำสั่งของโจรไม่จำเป็นต้องทำอย่างนั้น

*2* มีคนเห็นด้วยในการทำรัฐประหารครั้งนี้จำนวนมาก ***

...

 วิถีชีวิตของคนในซ่องโจรคือการป้องกันตนเองในท่ามกลางโลกที่ไม่เป็นมิตร จะว่าต้องเตรียมพร้อมในการต่อสู้ป้องกันตนเองอยู่ตลอดเวลาก็ได้
...

กล่าวคือ เรามีรัฐด้วยเหตุผลทางศีลธรรมแม้ว่ารัฐอาจทำอะไรที่ไร้ศีลธรรมก็ตาม แต่ รัฐต้องอ้างเหตุผลทางศีลธรรมในการดำรงอยู่ ในขณะที่ซ่องโจรไม่จำเป็นต้องอ้างศีลธรรมและไม่ต้องใช้ศีลธรรมเป็นรากฐาน

*3* ทักษิณไม่เคยใช้ ศีลธรรม จริยธรรม เป็นเหตุผลในการดำรงอยู่ ***

...

อ่านบทความ อ.นิธิ แล้วต้องถอดรหัส

ผู้เขียนต้องการชี้ให้เห็นความแตกต่างระหว่าง รัฐ กับโจร

โดยชี้ให้เห็นว่ารัฐบาลที่ผ่านมาทำมาไม่ต่างอะไรกับ โจร

ส่วนการรัฐประหารครั้งล่าสุดกลายเป็น อำนาจรัฐ ที่ต่างจาก อำนาจโจร ของรัฐบาลที่ผ่านมา

แต่วิธีการเล่นประโยคของอ.นิธิ ทำให้กองเชียร์ทักษิณ(ที่อ่านไม่ละเอียด)

หลงทางไปเลย (สามารถเอาไปปลอบใจใจได้) 

เล่นขายได้ทั้ง 2 ทางเลยนะท่านอ.นิธิ คนตีบทความไม่ออกก็รากหญ้าคิดว่าเชียร์ทักษิณ คนที่ตีความออกก็รู้ว่าหมายถึงด่าทักษิณเชียรรัฐประหาร   
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-10-2006, 22:20 โดย นทร์ » บันทึกการเข้า

"ประชาชน อย่าทิ้งประเทศชาติ"
snowflake
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,207



« ตอบ #13 เมื่อ: 22-10-2006, 23:09 »

เล่นขายได้ทั้ง 2 ทางเลยนะท่านอ.นิธิ คนตีบทความไม่ออกก็รากหญ้าคิดว่าเชียร์ทักษิณ คนที่ตีความออกก็รู้ว่าหมายถึงด่าทักษิณเชียรรัฐประหาร   
บันทึกการเข้า

Even the smallest person can change the course of the future.
นทร์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,441



เว็บไซต์
« ตอบ #14 เมื่อ: 22-10-2006, 23:16 »

***  หลักคิดทาง นิติธรรม ศีลธรรม มาใช้เป็นหลักในการอธิบาย ความชอบธรรมในการทำรัฐประหาร

รัฏฐาธิปัตย์ โดย นิธิ เอียวศรีวงศ์
(หลายๆรอบครับจะได้รู้ว่า รัฐต่างจากโจร อย่างไร) หรือจะอ่าน

สิทธิในการทำรัฐประหาร โดย เขียน ธีระวิทย์
 
ประเทศใดก็เป็นประชาธิปไตยไม่ได้ ถ้าขาด "หลักนิติธรรม" โดย อ.อัมมาร์ สยามวาลา

*** ส่วนคน ที่พยายามอธิบายเชียร์ ต่อต้านรัฐประหาร พยายามชี้ความชอบธรรมทางตัวหนังสือในกฏหมายอย่างเดียว 

 
บันทึกการเข้า

"ประชาชน อย่าทิ้งประเทศชาติ"
นทร์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,441



เว็บไซต์
« ตอบ #15 เมื่อ: 22-10-2006, 23:18 »

เล่นขายได้ทั้ง 2 ทางเลยนะท่านอ.นิธิ คนตีบทความไม่ออกก็รากหญ้าคิดว่าเชียร์ทักษิณ คนที่ตีความออกก็รู้ว่าหมายถึงด่าทักษิณเชียรรัฐประหาร   

นักเขียนชั้นเซียนจริงๆ อ.นิธิ
บันทึกการเข้า

"ประชาชน อย่าทิ้งประเทศชาติ"
snowflake
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,207



« ตอบ #16 เมื่อ: 22-10-2006, 23:23 »

รัฏฐาธิปัตย์

นิธิ เอียวศรีวงศ์

วิถีทางที่คนจะยึดรัฐได้จึงมีความสำคัญกว่ารัฐตกอยู่ในมือใคร

ที่มา มติชนสุดสัปดาห์ วันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2549 ปีที่ 26 ฉบับที่ 1366

http://www.matichon.co.th/weekly/weekly.php?srctag=MDQzMzIwMTA0OQ==&srcday=MjAwNi8xMC8yMA==&search=no
บันทึกการเข้า

Even the smallest person can change the course of the future.
นทร์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,441



เว็บไซต์
« ตอบ #17 เมื่อ: 22-10-2006, 23:31 »

รัฏฐาธิปัตย์

นิธิ เอียวศรีวงศ์

วิถีทางที่คนจะยึดรัฐได้จึงมีความสำคัญกว่ารัฐตกอยู่ในมือใคร

ที่มา มติชนสุดสัปดาห์ วันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2549 ปีที่ 26 ฉบับที่ 1366

http://www.matichon.co.th/weekly/weekly.php?srctag=MDQzMzIwMTA0OQ==&srcday=MjAwNi8xMC8yMA==&search=no

วิถีทางที่คนจะยึดรัฐได้

* หมายถึง แนวทางที่จะได้มาซึ่งอำนาจแนวทางการรักษาอำนาจ นั่นคือหากไม่มีความอยู่ใน ธรรม อำนาจนั้นย่อมไม่ชอบธรรม (อ.นิธิใช้คำว่า "โจร")

จึงมีความสำคัญกว่ารัฐตกอยู่ในมือใคร

* หมายถึง ผู้ที่ได้อำนาจรัฐไม่ว่าจะเป็นใคร หากใช้อำนาจไม่อยู่ในหลัก ศีลธรรมอยู่ในธรรม จากคำว่า รัฐก็จะกลายเป็นโจรโดยอัตโนมัติ

*** สงสัยตรงไหนอีก แลกเปลี่ยนความเข้าใจกันได้นะครับ 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-10-2006, 23:33 โดย นทร์ » บันทึกการเข้า

"ประชาชน อย่าทิ้งประเทศชาติ"
cameronDZ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,827


my memory


« ตอบ #18 เมื่อ: 22-10-2006, 23:49 »

'จารย์นิธิ ของป๋ม กลับมาแย้ว!!!!!!

เย้.................

หลังจากมะงุมมะงาหรา เพราะถูกพวกไอ้เณร ลูกศิษย์วัด ตั้งนะโมนะเมี่ยง อะไรนั่น พาเดินเที่ยวป่ากลางค่ำกลาง(เที่ยง)คืน หลงเข้ารกเข้าพงไปไหนก็ไม่รู้
จนคนเคยศรัทธาก็ยังงง ว่าแกเป็นอะไรไป

นี่เป็นบทความ ที่ เท่ และ เริ่ด แบบที่ นิธิ แฟนคลับ เฝ้ารอคอย และอยากอ่าน กันครับ

แต่ผมแปลกใจอยู่อย่างเดียว ว่าคุณสะโนเฟค อ่านยังไง

ถึงได้ ตีความเข้ารกเข้าพง ไปแบบ คนเดียวในเวบบอร์ดนี้ หรืออาจ คนเดียวในโลกใบนี้

  ยอมเลย
บันทึกการเข้า

ข้าพเจ้าอยู่ที่นี่มาหลายปี ยังไม่เคยได้รับคำขอโทษ ขอขมา
จากใครแม้แต่สักคนเดียวเลย
...เช่นกัน คำขอบคุณ ก็ยังไม่เคยมีสักคำ...
แต่ข้าพเจ้าคิดว่า ในใจพวกเขาคงคิดคำเหล่านี้อยู่บ้างหรอก
...แค่คิด ไม่ต้องบอกออกมา ข้าพเจ้าก็พอใจแล้ว...
Cherub Rock
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,183


น้องๆ ช่วยไปบอกผู้หญิงคนนั้นที ว่าเลิกมองผมได้แล้ว


« ตอบ #19 เมื่อ: 23-10-2006, 00:32 »

นิธิ ควรแสดงจุดยืนให้มันชัดเจนยิ่งกว่านี้ แทนที่จะพยายามเหน็บแนมคนโน้นคนนี้

สื่อสารโดยตรงกับประชาชนคนบริโภค จะดีกว่า

ส่วนระดับนักวิชาการด้วยกัน เชิญไปถกเถียงกันเองในแวดวงพวกเดียวกัน



ไม่อย่างนั้น ผู้คนจะไม่ได้ประโยชน์อะไรจากนิธิ ซักเท่าไหร่


อาจจะตีความแตกต่างกันไปแต่คนธรรมดาก็อ่านได้
ไม่มีอะไรเทคนิคอลแบบที่เนติบริกรชอบออกมาพูดให้ชาวบ้านฟัง
ไม่ต้องเรียนรัฐศาสตร์ นิติศาสตร์มาหรอก

แค่ให้เกียรติ์คนเขียนนิดหน่อยก็พอ
บันทึกการเข้า

"นายกรัฐมนตรีกำลังใช้รัฐสภาประกอบพิธีกรรมสถาปนาอำนาจของตนเองโดยเห็นรัฐสภาเป็นเพียงแค่ตรายาง และปล่อยให้มีการทำร้ายประชาชนถือว่าหมดความชอบธรรมแล้ว" รสนา โตสิตระกูล
แอ่นแอ๊น
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,591


"Angela Gheorghiu" My goddess


เว็บไซต์
« ตอบ #20 เมื่อ: 23-10-2006, 13:34 »


ทรราชย์ เกิดได้ในทุกระบอบ

บันทึกการเข้า

       

"เมื่อเจตนาเบี่ยงเบนไปจากความจริง การนำเสนอข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง บางทีก็เป็นเพียงภาษาสุภาพสำหรับการพูดเท็จนั่นเอง" : วิถีแห่งปราชญ์ พิมพ์ครั้งที่ ๗ หน้า ๒๐๖
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #21 เมื่อ: 25-10-2006, 13:27 »

อาจารย์นิธิ ลืมไปว่า คราวนี้เป็น "โจรโพกผ้าเหลือง"

ถือเอา "ธรรมนำหน้า"..ประเภท "ผมมากับพระ"..เลยเท่ระเบิด...

บางทีถ้าเอาทฤษฎีตะวันตก มาใช้กับสังคมไทยทั้งดุ้น มันไปไม่รอดดอก....รีบ ๆ ทำรัฐธรรมนูญที่มี หลากหลาย "สถาบัน" ออกมาถ่วงดุลนักการเมือง

นั่นแหละเหมาะที่สุด...อย่าให้ "การเมือง" มันอยู่แค่ในมือ "นักการเมือง"

เพราะมันหมูเกินไป...คนไทยไม่โง่หรอก...
บันทึกการเข้า

หน้า: [1]
    กระโดดไป: