พรรณชมพู
|
|
« เมื่อ: 20-10-2006, 10:25 » |
|
จากการโจมตีผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ ซึ่งบัดนี้ก็เป็นที่ทราบกันดีแล้วว่า กลุ่มทรราชย์และลิ่วล้อประสงค์ที่จะหมายถึงผู้ใด และผลลัภท์จากการโจมตีนั้น ก็ส่งผลให้หัวหน้าทรราชย์ไม่มีแผ่นดินจะอยู่ และลิ่วล้อก็แตกทัพจนแทบจะหาที่ยืนในสังคมไม่ได้นั้น
บัดนี้ การต่อสู้ทางความคิด ได้เปลี่ยนเข็มมุ่งมาสู่การโจมตีเศรษฐกิจพอเพียงแล้ว ดังจะมองเห็นได้จากจำนวนการแสดงความเห็นในการเสียดสีระบบเศรษฐกิจพอเพียงในรูปแบบต่างๆ การพยายามบิดเบือนสาระสำคัญของระบบเศรษฐกิจพอเพียงที่ปวงชนชาวไทยได้รับพระราชทานมา ความพยายามในการสร้างเหตุการณ์จำลองเพื่อจะบิดเบือนความจริง และป้ายสีว่าระบบเศรษฐกิจพอเพียงไม่สามารถนำมาใช้ได้ เพื่อนำเสนอระบบทุนนิยมสุดขั้วอันเป็นแนวทางในการโกงกินประเทศชาติต่อไป
จึงสมควรที่พี่น้องชาวไทยจะจับตามองกลุ่มนักวิชาการ ลิ่วล้อ และสมุนทรราชย์ที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในสังคม โปรดจับตามองแนวทางโจมตีเศรษฐกิจพอเพียง ที่กำลังดำเนินการอย่างเป็นระบบ โปรดสังเกตุการปล่อยข่าวว่าจะยกเลิกโครงการต่างๆที่ค้างคามาจากรัฐบาลก่อน เพื่อมุ่งหวังให้ประชาชนตื่นตระหนก และการปล่อยข่าวลวงถึงการดำเนินการในระบบเศรษฐกิจพอเพียง ว่าจะทำให้ประชาชนยากจน ปลดหนี้ไม่ได้ และลำบากยากแค้น
ระวังนะคะ พวกมันได้รับคำสั่งให้มาในมุขใหม่แล้ว เป็นการต่อสู้ในระยะสุดท้าย ก่อนจะสิ้นใจค่ะ แต่อย่างไรก็เป็นการสู้ที่จะสร้างบาดแผลทางสังคมได้อีกมากค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Can ไทเมือง
|
|
« ตอบ #1 เมื่อ: 20-10-2006, 10:30 » |
|
เศรษฐกิจพอเพียง เหมือนเรียกคนเข้าวัด เพราะ คุณธรรม จะมาก่อน
มันจะลำบากถูกต่อต้านก็ตรงนี้...เพราะคนไทยพุทธแต่ปากเยอะมาก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
eAT
|
|
« ตอบ #2 เมื่อ: 20-10-2006, 10:36 » |
|
นอกจากจะเกิดผลดังที่ จขกท แจ้งมา ผมว่าเขาต้องการจะตีกระทบ สถาบันด้วย เหมือนคราวผู้มีบารมีนอกรัฐะรรมนูญ ที่เขาไม่กล้าเอ่ยมาตรงๆ มาคราวนี้เขาก็ด่าอ้อมๆ ทั้งๆที่รู้ว่าเป็นวคิดของพระองค์ท่าน
เพราะเขาไม่กล้าว่าตรงๆ เขากำลังบ่อนทำลาย สถาบันอยู่ เพราะจะได้เปิดทางให้ เขากลับเข้ามาเป็นใหญ่
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
The Last Emperor
|
|
« ตอบ #3 เมื่อ: 20-10-2006, 10:45 » |
|
ฮ่าๆๆๆๆ...คนไม่มีจะกินอยู่แล้ว เค้าไม่สนหรอกครับว่าจะเป็นเศรษฐกิจแนวไหน ของจริงมันสัมผัสได้...ไม่ใช่มาโคดนาล้างสมองไปวันๆ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ชอบแถ
|
|
« ตอบ #4 เมื่อ: 20-10-2006, 10:48 » |
|
กระทู้นี้ปัญญาอ่อนเป็นยอด ไอ้ที่เค้าพูดถึงเศรษฐกิจพอเพียง ไม่ได้เกี่ยวกับสถาบันเล้ย
พยายามจะโยงเข้าไปให้ได้ รัฐบาลใหม่ต่างหากที่พยายามจะสร้างภาพเศรษฐกิจพอเพียง
ที่บิดเบือนให้ดูเป็นเศรษฐกิจพอแล้ว ถ้าพอเพียงจริงต้องเน้นให้ประชาชนอยู่ได้ด้วยตัวเอง
เบื้องต้นก็ต้องด้วยการสนับสนุนจากภาครัฐก่อน พอเข้มแข็งแล้วถึงจะยืนได้ด้วยตัวเอง ไม่
เข้าใจเศรษฐกิจพอเพียงว่าไปอย่าง ไอ้พวกเข้าใจแล้วเอามาบิดเบือนหาเสียงหาความชอบ
ธรรมให้ตัวเองโจมตีนโยบายรัฐบาลที่แล้วนี่แย่กว่า
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Cherub Rock
|
|
« ตอบ #5 เมื่อ: 20-10-2006, 10:53 » |
|
กระทู้นี้ปัญญาอ่อนเป็นยอด ไอ้ที่เค้าพูดถึงเศรษฐกิจพอเพียง ไม่ได้เกี่ยวกับสถาบันเล้ย
พยายามจะโยงเข้าไปให้ได้ รัฐบาลใหม่ต่างหากที่พยายามจะสร้างภาพเศรษฐกิจพอเพียง
ที่บิดเบือนให้ดูเป็นเศรษฐกิจพอแล้ว ถ้าพอเพียงจริงต้องเน้นให้ประชาชนอยู่ได้ด้วยตัวเอง
เบื้องต้นก็ต้องด้วยการสนับสนุนจากภาครัฐก่อน พอเข้มแข็งแล้วถึงจะยืนได้ด้วยตัวเอง ไม่
เข้าใจเศรษฐกิจพอเพียงว่าไปอย่าง ไอ้พวกเข้าใจแล้วเอามาบิดเบือนหาเสียงหาความชอบ
ธรรมให้ตัวเองโจมตีนโยบายรัฐบาลที่แล้วนี่แย่กว่า
จะบอกว่ารัฐบาลทักษิณยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง ว่างั้น..???
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"นายกรัฐมนตรีกำลังใช้รัฐสภาประกอบพิธีกรรมสถาปนาอำนาจของตนเองโดยเห็นรัฐสภาเป็นเพียงแค่ตรายาง และปล่อยให้มีการทำร้ายประชาชนถือว่าหมดความชอบธรรมแล้ว" รสนา โตสิตระกูล
|
|
|
buntoshi
|
|
« ตอบ #6 เมื่อ: 20-10-2006, 10:55 » |
|
กระทู้นี้ปัญญาอ่อนเป็นยอด ไอ้ที่เค้าพูดถึงเศรษฐกิจพอเพียง ไม่ได้เกี่ยวกับสถาบันเล้ย
พยายามจะโยงเข้าไปให้ได้ รัฐบาลใหม่ต่างหากที่พยายามจะสร้างภาพเศรษฐกิจพอเพียง
ที่บิดเบือนให้ดูเป็นเศรษฐกิจพอแล้ว ถ้าพอเพียงจริงต้องเน้นให้ประชาชนอยู่ได้ด้วยตัวเอง
เบื้องต้นก็ต้องด้วยการสนับสนุนจากภาครัฐก่อน พอเข้มแข็งแล้วถึงจะยืนได้ด้วยตัวเอง ไม่
เข้าใจเศรษฐกิจพอเพียงว่าไปอย่าง ไอ้พวกเข้าใจแล้วเอามาบิดเบือนหาเสียงหาความชอบ
ธรรมให้ตัวเองโจมตีนโยบายรัฐบาลที่แล้วนี่แย่กว่า
แล้วทำไม คุณชอบแถ กว่าหา รัฐบาลชุดนี้อย่างนั้นหล่ะครับ เค้าทำอะไรให้นักหนา เค้าก็ทำไปตาม ที่สมควรทำ เศรษฐกิจ หม่อมอุ๋ยก็ดูแลอยู่ แล้วยังจะเดือดร้อนอะไรครับ
ใครไม่อยากให้ประชาชนยืนด้วยตัวเองได้บ้างครับ ทำไมเค้าจะไม่อยากให้ประชาชนยืนด้วยตัวเองครับ จะมาบิดเบือนกล่าวหาเค้าทำไม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
เราต้องสร้างคนดีมากกว่าคนเก่ง เพราะคนเก่งจะเห็นคนอื่นเก่งกว่าไม่ได้ จะพยายามเก่งกว่าคนอื่น แต่คนดีจะมีความสุขที่ได้ทำให้คนอื่นเก่ง รวมทั้งคนดีทุกคน ล้วนเก่งทั้งนั้น.... ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา ---------------------------
|
|
|
type
|
|
« ตอบ #7 เมื่อ: 20-10-2006, 10:57 » |
|
พอเพียง ไม่ใช่ เท่าเดิมหรือลด ค่าใช้จ่าย ลง นี่ครับตามผมเข้าใจ พอเพียงคือการ ใช้จ่ายไม่เกินตัวแล้วก็อดออม แต่ถ้าไม่มีให้อดออม นี่ แย่หน่อย ถ้าคิดว่า ได้อย่างที่หวังแล้ว พอเพียงก็เป็นอยุ่อย่างเดิมต่อไป ไม่ต้องคิดที่จะหามาเก็บออม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ชอบแถ
|
|
« ตอบ #8 เมื่อ: 20-10-2006, 10:58 » |
|
กระทู้นี้ปัญญาอ่อนเป็นยอด ไอ้ที่เค้าพูดถึงเศรษฐกิจพอเพียง ไม่ได้เกี่ยวกับสถาบันเล้ย
พยายามจะโยงเข้าไปให้ได้ รัฐบาลใหม่ต่างหากที่พยายามจะสร้างภาพเศรษฐกิจพอเพียง
ที่บิดเบือนให้ดูเป็นเศรษฐกิจพอแล้ว ถ้าพอเพียงจริงต้องเน้นให้ประชาชนอยู่ได้ด้วยตัวเอง
เบื้องต้นก็ต้องด้วยการสนับสนุนจากภาครัฐก่อน พอเข้มแข็งแล้วถึงจะยืนได้ด้วยตัวเอง ไม่
เข้าใจเศรษฐกิจพอเพียงว่าไปอย่าง ไอ้พวกเข้าใจแล้วเอามาบิดเบือนหาเสียงหาความชอบ
ธรรมให้ตัวเองโจมตีนโยบายรัฐบาลที่แล้วนี่แย่กว่า
จะบอกว่ารัฐบาลทักษิณยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง ว่างั้น..??? ถูกต้องแล้วครับ ถ้าติดตามดูรายละเอียดจะรู้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ชอบแถ
|
|
« ตอบ #9 เมื่อ: 20-10-2006, 11:08 » |
|
กระทู้นี้ปัญญาอ่อนเป็นยอด ไอ้ที่เค้าพูดถึงเศรษฐกิจพอเพียง ไม่ได้เกี่ยวกับสถาบันเล้ย
พยายามจะโยงเข้าไปให้ได้ รัฐบาลใหม่ต่างหากที่พยายามจะสร้างภาพเศรษฐกิจพอเพียง
ที่บิดเบือนให้ดูเป็นเศรษฐกิจพอแล้ว ถ้าพอเพียงจริงต้องเน้นให้ประชาชนอยู่ได้ด้วยตัวเอง
เบื้องต้นก็ต้องด้วยการสนับสนุนจากภาครัฐก่อน พอเข้มแข็งแล้วถึงจะยืนได้ด้วยตัวเอง ไม่
เข้าใจเศรษฐกิจพอเพียงว่าไปอย่าง ไอ้พวกเข้าใจแล้วเอามาบิดเบือนหาเสียงหาความชอบ
ธรรมให้ตัวเองโจมตีนโยบายรัฐบาลที่แล้วนี่แย่กว่า
แล้วทำไม คุณชอบแถ กว่าหา รัฐบาลชุดนี้อย่างนั้นหล่ะครับ เค้าทำอะไรให้นักหนา เค้าก็ทำไปตาม ที่สมควรทำ เศรษฐกิจ หม่อมอุ๋ยก็ดูแลอยู่ แล้วยังจะเดือดร้อนอะไรครับ
ใครไม่อยากให้ประชาชนยืนด้วยตัวเองได้บ้างครับ ทำไมเค้าจะไม่อยากให้ประชาชนยืนด้วยตัวเองครับ จะมาบิดเบือนกล่าวหาเค้าทำไมเอาทีละเรื่องนะขี้เกียจพิมพ์ยาว เรื่องรถไฟฟ้า อันนี้ก็เป็นสิ่งจำเป็น เพราะคนในเมืองต้องเดินทางไปทำงาน ถ้าไปทำงานสายก็จะถูกประเมินผลงานต่ำ ถ้าใช้ระบบขนส่งมวลชนปัจจุบันก็รู้รู้อยู่ คนส่วนมากเลยดิ้นรน ต้องมีรถส่วนตัว เป็นการก่อหนี้ ซึ่งการชำระหนี้ในอนาคตเป็นการคาดการณ์ของผู้ก่อหนี้เอง กรณีนี้ทฤษฎี เศรษฐกิจพอเพียงคงช่วยไม่ได้ ในการวิเคราะห์การสร้างหนี้และความคุ้มค่าในอนาคตจากสินทรัพย์ที่เกิดขึ้น เอาเป็นว่าไม่ควรมีหนี้และไม่ควรมีรถส่วนตัวถ้าไม่จำเป็น แต่ถ้ารัฐบาลสร้างภาพว่า รถไฟฟ้ามันมากเกินไป แล้วต้องตัดเหลือแต่สายที่จำเป็นถึงจะพอเพียงตามนโยบาย ในขณะที่ผู้รอคอยมองว่ารถไฟฟ้าคือยังไม่พอ เป็นสิบสายก็ยังไม่พอเพียง แล้วคิดว่ารัฐบาลรู้หรือไม่รู้ครับหรือพยายามโหนกระแสสร้างภาพโดยการบิดเบือน เรื่องอื่นยังมีอีกเยอะ แต่ไม่ค่อยอยากจะให้ความเห็นของในกระทู้ปัญญาอ่อนพันธุ์สนธิแบบกระทู้นี้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
HILTON (ปาล์มาลี)
|
|
« ตอบ #10 เมื่อ: 20-10-2006, 11:20 » |
|
ผมว่าเหตุเพราะ มันคิดว่ามันมีเหลือดีอยู่อย่างเดียวคือเรื่องเก่งเศรษฐกิจ ที่คิดว่าหลอกผลโง่ๆได้ดีนัก ตกใจเหมือนกันเรื่องคนมาวิพากษ์เรื่องเศรษฐกิจพอเพียง สำหรับผมไม่ต้องคิดหรืออะไรซับซ้อน มันก็เพียงว่า ทำมาหากินแบบ รู้จักประหยัด เท่านั้น ดังนั้น ทำมาหากินมาได้ก็ให้มีเก็บ ทำมาเหลือก็เอาไปขาย ได้กำไรมาก็ใช้อย่างประหยัดและระมัดระวัง ด้วยเหตุนี้ เศรษฐกิจพอเพียงไม่ได้หมายถึงเป็นคนจนหรืออยู่อย่างชนบท แต่เป็นแนวคิดเพื่อการอยู่อย่างสมควรแก่ฐานะ รวยก็อยู่แค่เท่าที่รวย จนก็ก็อยู่อย่างมีความสุขแบบจนๆ ไม่ใช่รสนิยมสูงรายได้ต่ำอย่างที่ทักษิณโนมิคนำเสนอ ถ้าหากแนวคิดไปทางนี้ไม่ดี หรือคนที่ไม่เห็นด้วย ( ซึ่งมันตรงข้ามกับทักษิณโนมิค ) พวกโง่ก็ปล่อยให้มันโง่ต่อไป
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
buntoshi
|
|
« ตอบ #11 เมื่อ: 20-10-2006, 11:27 » |
|
กระทู้นี้ปัญญาอ่อนเป็นยอด ไอ้ที่เค้าพูดถึงเศรษฐกิจพอเพียง ไม่ได้เกี่ยวกับสถาบันเล้ย
พยายามจะโยงเข้าไปให้ได้ รัฐบาลใหม่ต่างหากที่พยายามจะสร้างภาพเศรษฐกิจพอเพียง
ที่บิดเบือนให้ดูเป็นเศรษฐกิจพอแล้ว ถ้าพอเพียงจริงต้องเน้นให้ประชาชนอยู่ได้ด้วยตัวเอง
เบื้องต้นก็ต้องด้วยการสนับสนุนจากภาครัฐก่อน พอเข้มแข็งแล้วถึงจะยืนได้ด้วยตัวเอง ไม่
เข้าใจเศรษฐกิจพอเพียงว่าไปอย่าง ไอ้พวกเข้าใจแล้วเอามาบิดเบือนหาเสียงหาความชอบ
ธรรมให้ตัวเองโจมตีนโยบายรัฐบาลที่แล้วนี่แย่กว่า
แล้วทำไม คุณชอบแถ กว่าหา รัฐบาลชุดนี้อย่างนั้นหล่ะครับ เค้าทำอะไรให้นักหนา เค้าก็ทำไปตาม ที่สมควรทำ เศรษฐกิจ หม่อมอุ๋ยก็ดูแลอยู่ แล้วยังจะเดือดร้อนอะไรครับ
ใครไม่อยากให้ประชาชนยืนด้วยตัวเองได้บ้างครับ ทำไมเค้าจะไม่อยากให้ประชาชนยืนด้วยตัวเองครับ จะมาบิดเบือนกล่าวหาเค้าทำไมเอาทีละเรื่องนะขี้เกียจพิมพ์ยาว เรื่องรถไฟฟ้า อันนี้ก็เป็นสิ่งจำเป็น เพราะคนในเมืองต้องเดินทางไปทำงาน ถ้าไปทำงานสายก็จะถูกประเมินผลงานต่ำ ถ้าใช้ระบบขนส่งมวลชนปัจจุบันก็รู้รู้อยู่ คนส่วนมากเลยดิ้นรน ต้องมีรถส่วนตัว เป็นการก่อหนี้ ซึ่งการชำระหนี้ในอนาคตเป็นการคาดการณ์ของผู้ก่อหนี้เอง กรณีนี้ทฤษฎี เศรษฐกิจพอเพียงคงช่วยไม่ได้ ในการวิเคราะห์การสร้างหนี้และความคุ้มค่าในอนาคตจากสินทรัพย์ที่เกิดขึ้น เอาเป็นว่าไม่ควรมีหนี้และไม่ควรมีรถส่วนตัวถ้าไม่จำเป็น แต่ถ้ารัฐบาลสร้างภาพว่า รถไฟฟ้ามันมากเกินไป แล้วต้องตัดเหลือแต่สายที่จำเป็นถึงจะพอเพียงตามนโยบาย ในขณะที่ผู้รอคอยมองว่ารถไฟฟ้าคือยังไม่พอ เป็นสิบสายก็ยังไม่พอเพียง แล้วคิดว่ารัฐบาลรู้หรือไม่รู้ครับหรือพยายามโหนกระแสสร้างภาพโดยการบิดเบือน เรื่องอื่นยังมีอีกเยอะ แต่ไม่ค่อยอยากจะให้ความเห็นของในกระทู้ปัญญาอ่อนพันธุ์สนธิแบบกระทู้นี้ แล้วใครสร้างภาพครับ เมกะโปรเจค เค้าก็มีเหมือนเดิม แต่ต้องกลับมาทบทวนเพื่อให้ประโยชน์สูงสุด ยังไม่ได้ทำอะไรก็เกิดการกล่าวหา กันแล้ว และถ้าเค้าไม่ได้ล้มเลิกที่จะเพิ่ม ระบบ ขนส่งมวลชน คุณชอบแถก็บิดเบือนหน่ะสิครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
เราต้องสร้างคนดีมากกว่าคนเก่ง เพราะคนเก่งจะเห็นคนอื่นเก่งกว่าไม่ได้ จะพยายามเก่งกว่าคนอื่น แต่คนดีจะมีความสุขที่ได้ทำให้คนอื่นเก่ง รวมทั้งคนดีทุกคน ล้วนเก่งทั้งนั้น.... ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา ---------------------------
|
|
|
อมพระมาพูด
|
|
« ตอบ #12 เมื่อ: 20-10-2006, 11:31 » |
|
หุหุ เศรษฐกิจพอเพียง คนไม่เข้าใจก้อยังไม่เข้าใจวันยังค่ำตีความแถกไป แถกมาน่ารำคาญ จริงๆมันสามารถทำได้ทั้งในภาคเอกชน ภาครัฐ ภาคประชาชน ถ้าในส่วนประชาชนทั่วไป คุณมีแค่ไหน คุณใช้แค่นั้น ส่วนเงินอนาคตถ้าเป็นสินทรัพย์ และมีกำลังส่งได้ไม่ห้าม ไม่ใช่จะต้องประหยัดกันทุกเม็ด คุณมี ร้อยล้านคุณก้อใช้ในส่วนที่คุณมี บางคนมีแค่หมื่นก้อใช้หมื่น แต่ไม่ใช่คนมีแค่หมื่นเสือกหน้าใหญ่จะกิน อยู่ ใช้อย่างคนมีเป็นล้าน !! นั่นแร่ะเอวัง แน่นอน ส่วนภาคเอกชน คุณดูตัวอย่าง ปูนซิเมนต์ สมัยก่อนตอนรุ่งมั่กๆ เงินเยอะเทคโอเวอร์กิจการมาทำเพียบ แล้วเป็นไง ขาดทุนในกิจการที่ตัวเองไม่ชำนาญกลายเป็นว่า Core business ต้องเลี้ยงกิจการที่ขาดทุนและไม่ชำนาญ เค้าประยุกต์ทฤษฎีนี้มาใช้ ตัดกิจการที่ไม่ทำกำไรออกหันมามุ่งเน้นกิจการที่ตัวเองชำนาญและ make Profits แทน เป็นการเติบโตอย่างมั่นคงหยั่งรากแก้วไว้ ต่อให้พายุมาก้อมีผลไม่มาก เพราะฉะนั้นการลงทุนทุกย่างก้าวมีการศึกษาการจัดการความเสี่ยงทุกครั้ง นี่คือภาคเอกชนที่สามารถอ้างอิงได้ ส่วนภาครัฐบาล รอดูชุดปัจจุบันอยู่เพราะไม่เห็นว่ารัฐบาลที่แล้วมีผลงานอะไรที่เป็นตัวอย่างอ้างอิงได้ มีการกระจายเงินลงพื้นที่จริงแต่ไม่ยั่งยืนหรือต่อยอดให้ประชาชนสามารถยืนได้ด้วยตัวเองได้ต่อเนื่อง ยังคงต้องการน้ำเลี้ยงจากรัฐทุกคราวไปที่มีปัญหา อ้อ... แถมไอ้เครื่องบินประจำตำแหน่งอดีตนายกจำเป็นขนาดไหน ที่ต้องใช้เงินภาษีประชาชนไปซื้อมาบริการ เงินจำนวนนี้สามารถนำมาบูรณาการเรื่องต่างๆที่เกี่ยวข้องกับปากท้องประชาชน หรือบรรเทาทุกข์ร้อนอันเนื่องจากภัยธรรมชาติ แล้วไทยแลนด์ อีลีท การ์ด ล่ะ เป็นตัวอย่างการลงทุนของรัฐบาลที่ไม่ศึกษาความเสี่ยง และความเป็นไปได้เลย ขาดทุนบักโกรก เพราะเพียงแค่สนองทักสินคนเดียวเท่านั้นแร่ะ ไม่เห็นออกมาโพทนาเรื่องความล้มเหลวของตัวเองนี่นา กล้ายืดอกรับผิดหน่อยทักสิน !! จริงๆ ยังมีอีกหลายโครงการที่จัดตั้งโดยผลาญงบประมาณชาติโดยไม่ศึกษาถึงความเสี่ยงเลย ไม่ว่าจะเป็นไทยแลนด์ ลองสเตย์ ฯลฯ อีกมากมาย ลองติดตามดูละกัน มันจะโผล่ขึ้นมาประจานความฟอนเฟะของระบบทักสิน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
พึงทำความเพียรในวันนี้ ใครเล่าจะรู้วันตายในวันพรุ่ง
|
|
|
type
|
|
« ตอบ #13 เมื่อ: 20-10-2006, 11:33 » |
|
พอเพียง ไม่ใช่เพียงพอ ถ้าคิดแต่จะพอกับสิ่งที่มีอยู่
แต่ไม่คิดถึงอนาคต ไม่คิดที่จะหามาเก็บมาออม
อนาคตเราจะอยุ่อย่างไร ยุคสมัยมันเปลี่ยน
มีโอกาส เราก็ต้องคว้าโอกาสสร้าง ตนให้เข้มแข็ง
สักแต่ว่า คิดว่า พอเพียงคือใช้จ่ายเท่าที่หามาได้
ไม่คิดที่จะสร้างความเข้มแข็งให้ตนเอง ให้มีออม
ควบคู่ไปกับ การใช้ชีวิตอย่างพอเพียง ไม่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ....................................................... อยากจะรู้ความหมายของคำว่าพอเพียง ตามที่แต่ละท่านคิดจังเลยครับ
ดูหลายคนแล้ว พอเพียงนี่อะไรก็ได้ที่ไม่ได้เป็นเพราะทักษิณ พอเพียงหมด
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ชอบแถ
|
|
« ตอบ #14 เมื่อ: 20-10-2006, 11:37 » |
|
เอาทีละเรื่องนะขี้เกียจพิมพ์ยาว เรื่องรถไฟฟ้า อันนี้ก็เป็นสิ่งจำเป็น เพราะคนในเมืองต้องเดินทางไปทำงาน ถ้าไปทำงานสายก็จะถูกประเมินผลงานต่ำ ถ้าใช้ระบบขนส่งมวลชนปัจจุบันก็รู้รู้อยู่ คนส่วนมากเลยดิ้นรน ต้องมีรถส่วนตัว เป็นการก่อหนี้ ซึ่งการชำระหนี้ในอนาคตเป็นการคาดการณ์ของผู้ก่อหนี้เอง กรณีนี้ทฤษฎี เศรษฐกิจพอเพียงคงช่วยไม่ได้ ในการวิเคราะห์การสร้างหนี้และความคุ้มค่าในอนาคตจากสินทรัพย์ที่เกิดขึ้น เอาเป็นว่าไม่ควรมีหนี้และไม่ควรมีรถส่วนตัวถ้าไม่จำเป็น แต่ถ้ารัฐบาลสร้างภาพว่า รถไฟฟ้ามันมากเกินไป แล้วต้องตัดเหลือแต่สายที่จำเป็นถึงจะพอเพียงตามนโยบาย ในขณะที่ผู้รอคอยมองว่ารถไฟฟ้าคือยังไม่พอ เป็นสิบสายก็ยังไม่พอเพียง แล้วคิดว่ารัฐบาลรู้หรือไม่รู้ครับหรือพยายามโหนกระแสสร้างภาพโดยการบิดเบือน เรื่องอื่นยังมีอีกเยอะ แต่ไม่ค่อยอยากจะให้ความเห็นของในกระทู้ปัญญาอ่อนพันธุ์สนธิแบบกระทู้นี้
แล้วใครสร้างภาพครับ เมกะโปรเจค เค้าก็มีเหมือนเดิม แต่ต้องกลับมาทบทวนเพื่อให้ประโยชน์สูงสุด ยังไม่ได้ทำอะไรก็เกิดการกล่าวหา กันแล้ว และถ้าเค้าไม่ได้ล้มเลิกที่จะเพิ่ม ระบบ ขนส่งมวลชน คุณชอบแถก็บิดเบือนหน่ะสิครับต้องเข้าใจคำว่า มี คำว่า พอเพียง, เกินพอ, ยังไม่พอ, พอแล้ว ก่อนนะครับ เมกะโปรเจค ต้อง มี รัฐบาลที่แล้ว ยังไม่พอ จะทำให้ พอเพียง รัฐบาลนี้สร้างภาพว่า มันเกินพอ จะลดให้เป็นสร้างเพิ่มแค่นี้ พอแล้ว แต่ใช้คำว่า พอเพียง มันดูดีกว่า ชัดเจนมั้ยครับ จะเอาเรื่องพลังงาน MTBE กับเอธานอลอีกมั้ย มีข่าววันนี้พอดี
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ชอบแถ
|
|
« ตอบ #15 เมื่อ: 20-10-2006, 11:40 » |
|
ส่วนภาคเอกชน คุณดูตัวอย่าง ปูนซิเมนต์ สมัยก่อนตอนรุ่งมั่กๆ เงินเยอะเทคโอเวอร์กิจการมาทำเพียบ แล้วเป็นไง ขาดทุนในกิจการที่ตัวเองไม่ชำนาญกลายเป็นว่า Core business ต้องเลี้ยงกิจการที่ขาดทุนและไม่ชำนาญ เค้าประยุกต์ทฤษฎีนี้มาใช้ ตัดกิจการที่ไม่ทำกำไรออกหันมามุ่งเน้นกิจการที่ตัวเองชำนาญและ make Profits แทน เป็นการเติบโตอย่างมั่นคงหยั่งรากแก้วไว้ ต่อให้พายุมาก้อมีผลไม่มาก เพราะฉะนั้นการลงทุนทุกย่างก้าวมีการศึกษาการจัดการความเสี่ยงทุกครั้ง นี่คือภาคเอกชนที่สามารถอ้างอิงได้ ไม่รู้จริง อย่ามายกตัวอย่างดีกว่า ไปดูซะก่อนว่าเค้าฟื้นจริงๆ มาจากอะไร โบราณเค้าไม่ขายของเก่ากินหรอกถ้าไม่อดอยากจริงๆ บอกให้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
buntoshi
|
|
« ตอบ #16 เมื่อ: 20-10-2006, 11:41 » |
|
พอเพียง ไม่ใช่เพียงพอ ถ้าคิดแต่จะพอกับสิ่งที่มีอยู่
แต่ไม่คิดถึงอนาคต ไม่คิดที่จะหามาเก็บมาออม
อนาคตเราจะอยุ่อย่างไร ยุคสมัยมันเปลี่ยน
มีโอกาส เราก็ต้องคว้าโอกาสสร้าง ตนให้เข้มแข็ง
สักแต่ว่า คิดว่า พอเพียงคือใช้จ่ายเท่าที่หามาได้
ไม่คิดที่จะสร้างความเข้มแข็งให้ตนเอง ให้มีออม
ควบคู่ไปกับ การใช้ชีวิตอย่างพอเพียง ไม่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ....................................................... อยากจะรู้ความหมายของคำว่าพอเพียง ตามที่แต่ละท่านคิดจังเลยครับ
ดูหลายคนแล้ว พอเพียงนี่อะไรก็ได้ที่ไม่ได้เป็นเพราะทักษิณ พอเพียงหมด
ก็ลองฟังจากหลายๆ ความคิดดูสิครับ ว่าเค้ามีความคิดเกี่ยวกับ เศรษฐกิจพอเพียงยังไง ถ้าเข้าใจกันคนละอย่างแล้วเอาแบบที่ตัวเองคิด มาเถียงคนอื่น มันก็ถกกันไม่รู้เรื่องครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
เราต้องสร้างคนดีมากกว่าคนเก่ง เพราะคนเก่งจะเห็นคนอื่นเก่งกว่าไม่ได้ จะพยายามเก่งกว่าคนอื่น แต่คนดีจะมีความสุขที่ได้ทำให้คนอื่นเก่ง รวมทั้งคนดีทุกคน ล้วนเก่งทั้งนั้น.... ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา ---------------------------
|
|
|
อมพระมาพูด
|
|
« ตอบ #17 เมื่อ: 20-10-2006, 11:43 » |
|
ส่วนภาคเอกชน คุณดูตัวอย่าง ปูนซิเมนต์ สมัยก่อนตอนรุ่งมั่กๆ เงินเยอะเทคโอเวอร์กิจการมาทำเพียบ แล้วเป็นไง ขาดทุนในกิจการที่ตัวเองไม่ชำนาญกลายเป็นว่า Core business ต้องเลี้ยงกิจการที่ขาดทุนและไม่ชำนาญ เค้าประยุกต์ทฤษฎีนี้มาใช้ ตัดกิจการที่ไม่ทำกำไรออกหันมามุ่งเน้นกิจการที่ตัวเองชำนาญและ make Profits แทน เป็นการเติบโตอย่างมั่นคงหยั่งรากแก้วไว้ ต่อให้พายุมาก้อมีผลไม่มาก เพราะฉะนั้นการลงทุนทุกย่างก้าวมีการศึกษาการจัดการความเสี่ยงทุกครั้ง นี่คือภาคเอกชนที่สามารถอ้างอิงได้ ไม่รู้จริง อย่ามายกตัวอย่างดีกว่า ไปดูซะก่อนว่าเค้าฟื้นจริงๆ มาจากอะไร โบราณเค้าไม่ขายของเก่ากินหรอกถ้าไม่อดอยากจริงๆ บอกให้ คุณว่าผมไม่รู้จริง สิ่งที่คุณรู้มาคืออะไร ? นี่คือสิงที่ CEO ปูนฯบอกมา คุณก้อแชร์ข้อมูลสิ ไม่เห็นยาก แต่ห้ามแถกนะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
พึงทำความเพียรในวันนี้ ใครเล่าจะรู้วันตายในวันพรุ่ง
|
|
|
ชอบแถ
|
|
« ตอบ #18 เมื่อ: 20-10-2006, 11:49 » |
|
ส่วนภาคเอกชน คุณดูตัวอย่าง ปูนซิเมนต์ สมัยก่อนตอนรุ่งมั่กๆ เงินเยอะเทคโอเวอร์กิจการมาทำเพียบ แล้วเป็นไง ขาดทุนในกิจการที่ตัวเองไม่ชำนาญกลายเป็นว่า Core business ต้องเลี้ยงกิจการที่ขาดทุนและไม่ชำนาญ เค้าประยุกต์ทฤษฎีนี้มาใช้ ตัดกิจการที่ไม่ทำกำไรออกหันมามุ่งเน้นกิจการที่ตัวเองชำนาญและ make Profits แทน เป็นการเติบโตอย่างมั่นคงหยั่งรากแก้วไว้ ต่อให้พายุมาก้อมีผลไม่มาก เพราะฉะนั้นการลงทุนทุกย่างก้าวมีการศึกษาการจัดการความเสี่ยงทุกครั้ง นี่คือภาคเอกชนที่สามารถอ้างอิงได้ ไม่รู้จริง อย่ามายกตัวอย่างดีกว่า ไปดูซะก่อนว่าเค้าฟื้นจริงๆ มาจากอะไร โบราณเค้าไม่ขายของเก่ากินหรอกถ้าไม่อดอยากจริงๆ บอกให้ คุณว่าผมไม่รู้จริง สิ่งที่คุณรู้มาคืออะไร ? นี่คือสิงที่ CEO ปูนฯบอกมา คุณก้อแชร์ข้อมูลสิ ไม่เห็นยาก แต่ห้ามแถกนะ เอาง่ายๆ ซิเมนต์ไทย ทำธุรกิจอสังหาหรือเปล่า ซิเมนต์ไทยพร๊อพเพอร์ตี้มาตอนไหน กจก ตอนนั้นเป็นใคร ที่ข้างวังไปไหน ที่ริมแม่น้ำไปไหน ทำไม งบดุล บัญชีกำไรขาดทุน ไม่มีรายการพิเศษ ถ้ามีการขายสินทรัพย์ ตอบได้ป่าว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
irq5
|
|
« ตอบ #19 เมื่อ: 20-10-2006, 11:51 » |
|
เอาแบบเกิดวิกฤติแล้ว ตนเองเดือดร้อนน้อยที่สุด หรือเมื่อเดือดร้อนแล้ว คนเค้าเต็มใจอยากช่วย เพราะไม่ได้เป็นหนี้ 10 ล้าน มีรถเบนซ์
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
.:MMMMMMMMMMMMMMMMMMMMMddMMMs.. .:MMMMMMMMMMMMMMMMMMMMMssMMMMs.. .:Mddddddddddddddddddddddddddo+ddddNs.. .:M................................................hs.. .:M.............//:................//:.............hs.. .:M...........:MMs.............NMd............hs.. .:M................................................hs.. .:M................................................hs.. .:M.............yNNNNNNNNNN................hs.. .:M.................................................hs.. .:dyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyho..
....W..W::W:...AAA...NN...N...TTTTT..EEEEE...DDD.......... .....Ww.wW...AAAA..N..N..N......T.....EEE......D....D....... .....-W...W...A......A N....NN......T.....EEEEE...DDD.......... . . . . . . . . . . . . thaksin shinawatra
|
|
|
นทร์
|
|
« ตอบ #20 เมื่อ: 20-10-2006, 11:53 » |
|
มีความพยายามทุกวิถีทางทุกแง่ทุกมุม ในการดิสเครดิต ครับ
วิธีการเดิมๆ... แต่คราวนี้... ไม่ไหวจริงๆ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"ประชาชน อย่าทิ้งประเทศชาติ"
|
|
|
MacBookPro
|
|
« ตอบ #21 เมื่อ: 20-10-2006, 12:00 » |
|
แค่คำว่าเศรษฐกิจพอเพียง ชอบแถ อะไรจ๊ะ มันยังไม่เข้าใจ นับประสาอะไรกับพวกนี้ พวกเรียนมาน้อย โง่เหมือน.....
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ไอ้เหลี่ยม - ทักษิณ ชินวัตร ชาตะ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2492 มรณะ 19 กันยายน พ.ศ. 2549
|
|
|
p
|
|
« ตอบ #22 เมื่อ: 20-10-2006, 12:03 » |
|
เข็มมุ่งทรราชย์ จากโจมตีผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ สู่การโจมตี เศรษฐกิจพอเพียง ปล่อยพวกเขาเถอะครับ ให้พวกเขาระบายบ้าง จะได้แบ่งเบาภาระกรมสุขภาพจิต ผลกระทบจากการโจมตีของพวกเขาคงไม่มีอะไรเกิดขึ้นแน่ เหมือนกับไอ้ตูบเห่าเครื่องบินที่อยู่บนท้องฟ้าไงครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ถ้ามัวคิดแต่จะโกงและเอาเปรียบคนอื่น จะสอนลูกหลานให้เป็นคนดีได้อย่างไร
|
|
|
so what?
|
|
« ตอบ #23 เมื่อ: 20-10-2006, 12:04 » |
|
พวกชั่วพวกนี้มันบิดเบือนเก่งครับ ตราบใดที่ยังมีน้ำเลี้ยงจากไอ้เหลี่ยมมาเป็นพลังขับเคลื่อน เชื้อชั่วเหล่านี้ก็จะคงอยู่แล้วแพร่พันธุ์ไปได้เรื่อยๆ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ชอบแถ
|
|
« ตอบ #24 เมื่อ: 20-10-2006, 12:07 » |
|
แค่คำว่าเศรษฐกิจพอเพียง ชอบแถ อะไรจ๊ะ มันยังไม่เข้าใจ นับประสาอะไรกับพวกนี้ พวกเรียนมาน้อย โง่เหมือน.....
ไม่มีข้อมูล ไม่รู้เรื่อง ไม่เข้าใจ ไม่กล้าตั้งกระทู้มาล่อเป้าหรอกนะ ฮิ ฮิ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
MacBookPro
|
|
« ตอบ #25 เมื่อ: 20-10-2006, 12:11 » |
|
ชอบแถบอกรัฐบาลไอ้หน้าเหลี่ยมเนี๊ยนะ ทำเศรษฐกิตแบบพอเพียง
ตั้งแต่มันเข้ามาบริหารประเทศ ไม่เคยได้ยินมันพูดเรื่องนี้ มีแต่ตรูจะเอา GDP 5 6 7%
พอถึงวันที่ 5 ปากก็บอกว่าจะรับสนองพระราชดำรัส แต่มันก็ไม่เคยทำตาม
เอ๊ะอ๊ะไรก็ให้กู้ๆ แหว่ะ ถุย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ไอ้เหลี่ยม - ทักษิณ ชินวัตร ชาตะ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2492 มรณะ 19 กันยายน พ.ศ. 2549
|
|
|
RiDKuN
|
|
« ตอบ #26 เมื่อ: 20-10-2006, 12:13 » |
|
แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงเป็นอย่างไร ลองมองดูจากตัวอย่างการจัดการที่ดินของเกษตรกร ที่พระองค์ท่านได้เคยพระราชทานไว้ แบ่งพื้นที่ใช้สอยออกเป็นส่วนๆ ให้มีที่กักเก็บน้ำ เพื่อจะได้ไม่เดือดร้อนเรื่องน้ำ ให้มีพื้นที่เลี้ยงสัตว์และปลูกพืชมากกว่า 1 ชนิด เพื่อลดความเสี่ยงจากปัญหาราคาพืชผล ให้มีพื้นที่ส่วนหนึ่งไว้เลี้ยงสัตว์ เรียกได้ว่าถ้าแบ่งพื้นที่ตามนี้ ถึงเศรษฐกิจจะวิบัติอย่างไรก็ไม่อดตาย
จุดมุ่งหมายหลักของเศรษฐกิจพอเพียง คือมุ่งเสริมสร้างรากฐาน ให้สำคัญกับความมั่นคง มากกว่าความก้าวหน้า GDP จะ + ไปกี่ % ไม่ใช่เรื่องสำคัญ สำคัญว่าเรามีความแข่งแกร่งแค่ไหน พึ่งตัวเองมากเพียงใด ถ้าเกิดวิกฤตเราจะสามารถรับมือได้ไหม จะมีชีวิตรอดอย่างไรมากกว่า
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
คนไม่มี "อุดมคติ" ไม่ใช่ "นักการเมือง"
|
|
|
อมพระมาพูด
|
|
« ตอบ #27 เมื่อ: 20-10-2006, 12:29 » |
|
ส่วนภาคเอกชน คุณดูตัวอย่าง ปูนซิเมนต์ สมัยก่อนตอนรุ่งมั่กๆ เงินเยอะเทคโอเวอร์กิจการมาทำเพียบ แล้วเป็นไง ขาดทุนในกิจการที่ตัวเองไม่ชำนาญกลายเป็นว่า Core business ต้องเลี้ยงกิจการที่ขาดทุนและไม่ชำนาญ เค้าประยุกต์ทฤษฎีนี้มาใช้ ตัดกิจการที่ไม่ทำกำไรออกหันมามุ่งเน้นกิจการที่ตัวเองชำนาญและ make Profits แทน เป็นการเติบโตอย่างมั่นคงหยั่งรากแก้วไว้ ต่อให้พายุมาก้อมีผลไม่มาก เพราะฉะนั้นการลงทุนทุกย่างก้าวมีการศึกษาการจัดการความเสี่ยงทุกครั้ง นี่คือภาคเอกชนที่สามารถอ้างอิงได้ ไม่รู้จริง อย่ามายกตัวอย่างดีกว่า ไปดูซะก่อนว่าเค้าฟื้นจริงๆ มาจากอะไร โบราณเค้าไม่ขายของเก่ากินหรอกถ้าไม่อดอยากจริงๆ บอกให้ คุณว่าผมไม่รู้จริง สิ่งที่คุณรู้มาคืออะไร ? นี่คือสิงที่ CEO ปูนฯบอกมา คุณก้อแชร์ข้อมูลสิ ไม่เห็นยาก แต่ห้ามแถกนะ เอาง่ายๆ ซิเมนต์ไทย ทำธุรกิจอสังหาหรือเปล่า ซิเมนต์ไทยพร๊อพเพอร์ตี้มาตอนไหน กจก ตอนนั้นเป็นใคร ที่ข้างวังไปไหน ที่ริมแม่น้ำไปไหน ทำไม งบดุล บัญชีกำไรขาดทุน ไม่มีรายการพิเศษ ถ้ามีการขายสินทรัพย์ ตอบได้ป่าว คงต้องถามคุณชอบแถแล้วล่ะว่า ซิเมนต์ไทยพร๊อพเพอร์ตี้ มีตัวตนจริงหรือ คุณมั่วรึปล่าว ? ถ้าไม่มีข้อมูลที่อ้างอิงที่เชื่อถือได้ถือว่า "มั่วอย่างไม่มีที่ติ" อย่ามาอ้างว่าเค้าว่ากันว่า เค้าบอกมา ดูข้อมูลละกัน 2541 จากวิกฤติทางการเงิน ตั้งแต่ปี 2540 ส่งผลต่อเนื่อง ให้เกิดวิกฤติเศรษฐกิจ แก่หลายประเทศ ในภูมิภาค เอเชีย รวมทั้งประเทศไทยที่ต้องเผชิญ กับความไม่เชื่อมั่น ในการลงทุน รวมถึง ค่าเงินบาท ที่ไร้เสถียรภาพ ทำให้ภาคเอกชน ต้องปรับระบบ การบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เครือซิเมนต์ไทย ได้รับผลกระทบ อย่างมากเช่นกัน ความต้องการสินค้า ของเครือฯ ในประเทศลดลง ขณะที่หนี้ต่างประเทศ เพิ่มสูงขึ้น ต้นปี 2542 เครือฯ ปรับโครงสร้างใหม่ เพื่อความคล่องตัว และ เพิ่มประสิทธิภาพ การบริหารงาน ให้สอด คล้องกับ สภาพธุรกิจการแข่งขัน ในปัจจุบัน และอนาคต โดยเลือกบริษัท ที่ปรึกษาด้านธุรกิจ และการเงินชั้นนำของโลก ได้แก่ แมคคินซี แอนด์ คอมพานี อิงค์ เชส แมนฮัตตัน แบงก์ ดอยช์ แบงก์ และโกลด์แมน แซคส์ ร่วมศึกษา กับฝ่ายจัดการของเครือฯ ในการปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ โดยบริษัทปูนซิเมนต์ไทย มีสถานะ เป็นบริษัทแม่ (Parent Company) ให้การสนับสนุน แก่บริษัทหลัก (Holding Companies) 9 บริษัท พร้อมทั้ง กำหนดทิศทาง การดำเนินธุรกิจ ของ แต่ละกลุ่มบริษัท เพื่อให้มีความสามารถ ในการแข่งขันที่สูงขึ้น สำหรับธุรกิจหลัก (Core Business) เป็นธุรกิจ ที่มีความ เป็นผู้นำตลาด และมีขนาดใหญ่เพียงพอที่ จะรองรับ และเสริมสร้างฐานธุรกิจ ได้ทั้งในปัจจุบัน และอนาคต มีความชำนาญ ด้านการบริหาร และได้เปรียบในการแข่งขัน ทั้งด้านต้นทุน และเทคโนโลยีการผลิต โดยไม่จำเป็น ต้องพึ่งพา จากพันธมิตร ต่างชาติ ซึ่งเครือฯ ได้มุ่งเน้น 3 ธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจซิเมนต์ ปิโตรเคมี และกระดาษ ส่วนธุรกิจในเครือให้เข้าไปดูชื่อที่ http://www.siamcement.com/newsite/th/business_group/list.asp?business_group_id=6 ไม่เห็นมีชื่อซิเมนต์ไทยพร๊อพเพอร์ตี้ มาจากไหนล่ะทั่น ?? ตรงนี้ก้อต้องเอาข้อมูลมายันกันแล้วล่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
พึงทำความเพียรในวันนี้ ใครเล่าจะรู้วันตายในวันพรุ่ง
|
|
|
Can ไทเมือง
|
|
« ตอบ #28 เมื่อ: 20-10-2006, 12:35 » |
|
ไปดูหนี้ครัวเรือนสิ จะแก้ไขกันยังไง
มันไม่ใช่แค่ ไม่พอกิน แต่มันเป็นหนี้หนักเข้าไปอีกสิ
สรุปคือ "รากหญ้าเน่า" นั่นแหละ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
MacBookPro
|
|
« ตอบ #29 เมื่อ: 20-10-2006, 12:40 » |
|
พอลุงแคนพูดถึงหนี้ครัวเรือน
งั้นจะขอถามพ่อคนดี พ่อคนเพอร์เฟ็ค พ่อชอบแถหน่อยสิ
มีวิธีการแก้ไขปัญหาหนี้ต่อหัวต่อครัวเรือนยังไง ที่สูงขึ้นอย่างมาก หลังจากการบริหารงานของไอ้เหลี่ยม 5 ปีกว่าๆ ที่ผ่านมา
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ไอ้เหลี่ยม - ทักษิณ ชินวัตร ชาตะ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2492 มรณะ 19 กันยายน พ.ศ. 2549
|
|
|
The Last Emperor
|
|
« ตอบ #30 เมื่อ: 20-10-2006, 13:31 » |
|
พอลุงแคนพูดถึงหนี้ครัวเรือน
งั้นจะขอถามพ่อคนดี พ่อคนเพอร์เฟ็ค พ่อชอบแถหน่อยสิ
มีวิธีการแก้ไขปัญหาหนี้ต่อหัวต่อครัวเรือนยังไง ที่สูงขึ้นอย่างมาก หลังจากการบริหารงานของไอ้เหลี่ยม 5 ปีกว่าๆ ที่ผ่านมา
การที่หนี้ภาคครัวเรือนของปชช.สูงขึ้นในช่วงรัฐบาลทักษิณเป็นสัญญาณที่ดีที่บอกว่าปชช.มีความมั่นใจในประเทศ ในรัฐบาล และในงานที่ทำ เพราะหาไม่แล้วปชช.คงไม่บ้าไปก่อนหนี้ผูกพันในการซื้อบ้าน คอนโด มือถือ ตู้เย็น รถกระบะ ฯลฯ ซึ่งเท่ากับว่าปชช.มีทรัพย์สินมากขึ้น
พวกรู้งูๆปลาๆมักมองว่าการเป็นหนี้ของปชช.เป็นสิ่งเลวร้าย แต่ไม่รู้เรื่องเลยว่าการเป็นหนี้นั้นทำให้กระแสและพลังของเงินทุกบาทถูกใช้ไปอย่างถูกทาง (increasing domestic spendings น๊ะรู้จักมั้ยน้องงูน้องปลาจ๋า )
เดี๋ยวถ้าไม่ชัด...จารย์จ๋าจะเปิดวิชา Ethicals Studies เอ๊ย.... Principles of Economics ให้น้องงูน้องปลาแบบออน-ไลน์เลยดีป่ะ!?!
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ชอบแถ
|
|
« ตอบ #31 เมื่อ: 20-10-2006, 14:42 » |
|
เอาง่ายๆ ซิเมนต์ไทย ทำธุรกิจอสังหาหรือเปล่า ซิเมนต์ไทยพร๊อพเพอร์ตี้มาตอนไหน กจก ตอนนั้นเป็นใคร ที่ข้างวังไปไหน ที่ริมแม่น้ำไปไหน ทำไม งบดุล บัญชีกำไรขาดทุน ไม่มีรายการพิเศษ ถ้ามีการขายสินทรัพย์ ตอบได้ป่าว
คงต้องถามคุณชอบแถแล้วล่ะว่า ซิเมนต์ไทยพร๊อพเพอร์ตี้ มีตัวตนจริงหรือ คุณมั่วรึปล่าว ? ถ้าไม่มีข้อมูลที่อ้างอิงที่เชื่อถือได้ถือว่า "มั่วอย่างไม่มีที่ติ" อย่ามาอ้างว่าเค้าว่ากันว่า เค้าบอกมา ดูข้อมูลละกัน ... เอาอะไรมาให้ดูยืดยาว ขี้เกียจอ่านว่ะ แหมถ้าเข้าไม่ลึกใส่ไม่สุด จะเป็นชอบแถไปได้ยังไงล่ะจ๊ะ ไปอมพระซะยังดีกว่า เปิดให้ดูนิดนิด เอ้า ด้าน 'อวิรุทธ์ วงศ์พุทธพิทักษ์' จากผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) เป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซิเมนต์ไทย พร็อพเพอรตี้ (2001) จำกัด (มหาชน) แทน 'ชลาลักษณ์ บุนนาค' ที่มารั้งตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซิเมนต์ไทยโฮลดิ้ง จำกัด ซึ่งเป็นธุรกิจที่เงียบที่สุด link ก็มีนะจ๊ะ เอาพระออกเถอะแล้วเอาอย่างอื่นใส่ปากแทนดีกว่านะ http://board.dserver.org/t/thaibuild/00004580.html
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
type
|
|
« ตอบ #32 เมื่อ: 20-10-2006, 15:06 » |
|
หนี้ภาคครัวเรือนเพิ่มขึ้นก็เพราะ เศรษฐกิจมันดีไงครับ ทำมาหากินคล่อง ค้าขายได้ คนเลยกล้าที่จะกู้เงินไปลงทุน
ส่วนที่เขากู้ไปซื้อรถซื้อมือถือ ก็เพราะเขาสามารถยกระดับฐานะของเขาได้ในระดับหนึ่งแล้ว ไม่ใช่แค่คนในเมืองเท่านั้นหรอกครับที่จำเป็นจะต้องใช้มือถือใช้รถ คนบ้านนอกก็เป็นปัจจัยนึงของเขาเหมือนกัน
เมื่อก่อนแถวบ้านผม ขี่มอไซขายของเดี๋ยวนี้เขา ออกรถกระบะ หาส่ง ทางไกลเพิ่มขึ้นแล้วครับ จะไปมองมุมเดียวว่า เขาซื้อรถมาเป็นสินค้าฟุ่มเฟือยก็ไม่ถูกหรอกครับ คนที่เขากู้เงินมาทำให้มันออกดอกออกผลมีมากมาย มือถือเขาก็จำเป็นต้องใช้ จะไม่ให้เขาใช้ได้เลยเหรอครับ ค่าโทรศัพท์มือถือเดี๋ยวนี้มันถูกกว่า เบอร์บ้านอีก
ส่วนเจ้าหนี้ที่ไหน อนุมัติเงินกู้เยอะๆ จนคนกู้ไม่มีความสามารถจ่ายได้ ก็ปล่อยให้มันเจ๊งไปเถอะครับ ผู้บริหารแบบนั้น
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
MacBookPro
|
|
« ตอบ #33 เมื่อ: 20-10-2006, 15:08 » |
|
การที่หนี้ภาคครัวเรือนของปชช.สูงขึ้นในช่วงรัฐบาลทักษิณเป็นสัญญาณที่ดีที่บอกว่าปชช.มีความมั่นใจในประเทศ ในรัฐบาล และในงานที่ทำ เพราะหาไม่แล้วปชช.คงไม่บ้าไปก่อนหนี้ผูกพันในการซื้อบ้าน คอนโด มือถือ ตู้เย็น รถกระบะ ฯลฯ ซึ่งเท่ากับว่าปชช.มีทรัพย์สินมากขึ้น
พวกรู้งูๆปลาๆมักมองว่าการเป็นหนี้ของปชช.เป็นสิ่งเลวร้าย แต่ไม่รู้เรื่องเลยว่าการเป็นหนี้นั้นทำให้กระแสและพลังของเงินทุกบาทถูกใช้ไปอย่างถูกทาง (increasing domestic spendings น๊ะรู้จักมั้ยน้องงูน้องปลาจ๋า )
เดี๋ยวถ้าไม่ชัด...จารย์จ๋าจะเปิดวิชา Ethicals Studies เอ๊ย.... Principles of Economics ให้น้องงูน้องปลาแบบออน-ไลน์เลยดีป่ะ!?! งั้นความคิดของจ๊ะคือการมีหนี้สาธารณะสูงขึ้นเป็นเรื่องที่ดี ประชาชนกู้เงินซื้อบ้าน ผ่อนรถ ผ่อนเครื่องใช้ไฟฟ้า ผ่อนมือถือ เหรอ!!!!
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ไอ้เหลี่ยม - ทักษิณ ชินวัตร ชาตะ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2492 มรณะ 19 กันยายน พ.ศ. 2549
|
|
|
ชอบแถ
|
|
« ตอบ #34 เมื่อ: 20-10-2006, 15:13 » |
|
หนี้ภาคครัวเรือนเพิ่มขึ้นก็เพราะ เศรษฐกิจมันดีไงครับ ทำมาหากินคล่อง ค้าขายได้ คนเลยกล้าที่จะกู้เงินไปลงทุน
ส่วนที่เขากู้ไปซื้อรถซื้อมือถือ ก็เพราะเขาสามารถยกระดับฐานะของเขาได้ในระดับหนึ่งแล้ว ไม่ใช่แค่คนในเมืองเท่านั้นหรอกครับที่จำเป็นจะต้องใช้มือถือใช้รถ คนบ้านนอกก็เป็นปัจจัยนึงของเขาเหมือนกัน
เมื่อก่อนแถวบ้านผม ขี่มอไซขายของเดี๋ยวนี้เขา ออกรถกระบะ หาส่ง ทางไกลเพิ่มขึ้นแล้วครับ จะไปมองมุมเดียวว่า เขาซื้อรถมาเป็นสินค้าฟุ่มเฟือยก็ไม่ถูกหรอกครับ คนที่เขากู้เงินมาทำให้มันออกดอกออกผลมีมากมาย มือถือเขาก็จำเป็นต้องใช้ จะไม่ให้เขาใช้ได้เลยเหรอครับ ค่าโทรศัพท์มือถือเดี๋ยวนี้มันถูกกว่า เบอร์บ้านอีก
ส่วนเจ้าหนี้ที่ไหน อนุมัติเงินกู้เยอะๆ จนคนกู้ไม่มีความสามารถจ่ายได้ ก็ปล่อยให้มันเจ๊งไปเถอะครับ ผู้บริหารแบบนั้น
ถูกต้อง นะ คร้าบ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Killer
|
|
« ตอบ #35 เมื่อ: 20-10-2006, 15:24 » |
|
เบื่อพวกโคตรโง่ แล้วอวดจะฉลาด ศก.พอเพียง นี่ มีมาตั้งแต่สมัยไหน กี่ปีมาแล้ว
ถ้าฉลาดนักละก็ช่วยบอกหน่อยว่ามีรากฐานความคิดมาจากอะไร..????
ถ้าตอบไม่ได้ก็เลิกกระแดะหยิบเอามาหากินเพื่อโจมตีคนอื่นได้แล้ว
ยุคนายชวน อานันท์ หรือใครหน้าไหน ทำไมมันไม่หยิบเอามาใช้กันล่ะ
ทำไมเพิ่งจะมาฮิตเอาวันนี้....หือออออออ
ถ้าจะคิดเหมาว่า ใครไม่เห็นด้วยกับแนวคิดนี้ กลายเป็นพวกไม่จงรักภักดีละก็
มันเป็นวิธีการใส่ร้ายป้ายสีเน่าๆเก่าๆเหลาเหย่
ไม่ต่างอะไรกับ สมัย ถนอม ส.ธนรัตน์ ป.พิบูลย์ฯ
เทคนิคและวิธีการชั้นต่ำแบบนี้มันเล่นกันไม่ยาก และทันกันหมดแล้ว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
The Last Emperor
|
|
« ตอบ #36 เมื่อ: 20-10-2006, 15:46 » |
|
การที่หนี้ภาคครัวเรือนของปชช.สูงขึ้นในช่วงรัฐบาลทักษิณเป็นสัญญาณที่ดีที่บอกว่าปชช.มีความมั่นใจในประเทศ ในรัฐบาล และในงานที่ทำ เพราะหาไม่แล้วปชช.คงไม่บ้าไปก่อนหนี้ผูกพันในการซื้อบ้าน คอนโด มือถือ ตู้เย็น รถกระบะ ฯลฯ ซึ่งเท่ากับว่าปชช.มีทรัพย์สินมากขึ้น
พวกรู้งูๆปลาๆมักมองว่าการเป็นหนี้ของปชช.เป็นสิ่งเลวร้าย แต่ไม่รู้เรื่องเลยว่าการเป็นหนี้นั้นทำให้กระแสและพลังของเงินทุกบาทถูกใช้ไปอย่างถูกทาง (increasing domestic spendings น๊ะรู้จักมั้ยน้องงูน้องปลาจ๋า )
เดี๋ยวถ้าไม่ชัด...จารย์จ๋าจะเปิดวิชา Ethicals Studies เอ๊ย.... Principles of Economics ให้น้องงูน้องปลาแบบออน-ไลน์เลยดีป่ะ!?! งั้นความคิดของจ๊ะคือการมีหนี้สาธารณะสูงขึ้นเป็นเรื่องที่ดี ประชาชนกู้เงินซื้อบ้าน ผ่อนรถ ผ่อนเครื่องใช้ไฟฟ้า ผ่อนมือถือ เหรอ!!!! แม่นแล้วครับ เพราะตราบใดที่ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคอยู่ในอัตราสูง แสดงว่าเศรษฐกิจของประเทศนั้นๆดี อย่าไปรังเกียจการมีหนี้ครับ ปรกติคนมีToyotaขับมา5-6ปี ถ้าเค้าจะมีหนี้เพิ่มขึ้นโดยนำไปแลก Benz นั่นก็แสดงให้เห็นว่าเค้าเชื่อมั่นในสภาวะเศรษฐกิจว่ามีปัญญาจะผ่อน
อย่าไปมองว่าเป็นการสนับสนุนให้มีการใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือยเลยครับ เพราะถ้าจะเข้มงวดกันจริงๆก็ต้องให้ขึ้นภาษีสินค้าฟุ่มเฟือยให้หมดซิครับ เหล้า บุหรี่ น้ำหอม เครื่องสำอางที่นำเข้าจากตปท. ฯลฯ
กลัวแต่ว่าจะเก่งแต่ปากน๊ะซิครับ...รัฐบาลพอเพียงอะไรเนี่ย!!
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
555555555555
|
|
« ตอบ #37 เมื่อ: 20-10-2006, 15:56 » |
|
พอลุงแคนพูดถึงหนี้ครัวเรือน
งั้นจะขอถามพ่อคนดี พ่อคนเพอร์เฟ็ค พ่อชอบแถหน่อยสิ
มีวิธีการแก้ไขปัญหาหนี้ต่อหัวต่อครัวเรือนยังไง ที่สูงขึ้นอย่างมาก หลังจากการบริหารงานของไอ้เหลี่ยม 5 ปีกว่าๆ ที่ผ่านมา
การที่หนี้ภาคครัวเรือนของปชช.สูงขึ้นในช่วงรัฐบาลทักษิณเป็นสัญญาณที่ดีที่บอกว่าปชช.มีความมั่นใจในประเทศ ในรัฐบาล และในงานที่ทำ เพราะหาไม่แล้วปชช.คงไม่บ้าไปก่อนหนี้ผูกพันในการซื้อบ้าน คอนโด มือถือ ตู้เย็น รถกระบะ ฯลฯ ซึ่งเท่ากับว่าปชช.มีทรัพย์สินมากขึ้น
พวกรู้งูๆปลาๆมักมองว่าการเป็นหนี้ของปชช.เป็นสิ่งเลวร้าย แต่ไม่รู้เรื่องเลยว่าการเป็นหนี้นั้นทำให้กระแสและพลังของเงินทุกบาทถูกใช้ไปอย่างถูกทาง (increasing domestic spendings น๊ะรู้จักมั้ยน้องงูน้องปลาจ๋า )
เดี๋ยวถ้าไม่ชัด...จารย์จ๋าจะเปิดวิชา Ethicals Studies เอ๊ย.... Principles of Economics ให้น้องงูน้องปลาแบบออน-ไลน์เลยดีป่ะ!?! ไหนลองอธิบาย วิชา เศรษฐศาสตร์พื้นฐานมาให้ฟังหน่อยสิจ๊ะ อยากฟังจาก จารย์จ๊ะมากเลย มาอธิบายตรงส่วนนี้ให้ละเอียดหน่อยเร็วๆนะจ๊ะการที่หนี้ภาคครัวเรือนของปชช.สูงขึ้นในช่วงรัฐบาลทักษิณเป็นสัญญาณที่ดีที่บอกว่าปชช.มีความมั่นใจในประเทศ ในรัฐบาล และในงานที่ทำ เพราะหาไม่แล้วปชช.คงไม่บ้าไปก่อนหนี้ผูกพันในการซื้อบ้าน คอนโด มือถือ ตู้เย็น รถกระบะ ฯลฯ ซึ่งเท่ากับว่าปชช.มีทรัพย์สินมากขึ้น ไหน จารย์จ๊ะลองกล่าวถึงปัจจัยภายในภายนอกที่เกี่ยวพันกับ การก่อให้เกิดการใช้หนี้ภาคครัวเรือนที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภคให้ฟังหน่อยสิจ๊ะ แล้ว ส่งกระทบต่อปริมาณความต้องการของผู้บริโภคเพิ่มขึ้นอย่างไร และ จะเป็นผลให้เกิดการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจอย่างไรต่อไป และ หากเกิดการเปลี่ยนแปลงของรับบาลแล้วจะส่งผลให้การบริโภคลดลงหรือไม่อย่างไร ไหน ลองอธิบายด้านมหภาคมาให้ฟังหน่อยสิจ๊ะ ไม่ต้องเอาจุลภาคมาหรอกจ๊ะ เอาเท่าที่จ๊ะเข้าใจนะจ๊ะ อยากฟังมากๆเลย เป็น จารยืเหรอจ๊ะ เอ้าลองอธิบายมาหน่อยสิว่า ที่เรียนมาน่ะได้อะไรมาบ้าง กับเศรษฐศาสตร์เบื้องต้นเนี่ย เบื่อพวกโคตรโง่ แล้วอวดจะฉลาด ศก.พอเพียง นี่ มีมาตั้งแต่สมัยไหน กี่ปีมาแล้ว
ถ้าฉลาดนักละก็ช่วยบอกหน่อยว่ามีรากฐานความคิดมาจากอะไร..????
ถ้าตอบไม่ได้ก็เลิกกระแดะหยิบเอามาหากินเพื่อโจมตีคนอื่นได้แล้ว
ยุคนายชวน อานันท์ หรือใครหน้าไหน ทำไมมันไม่หยิบเอามาใช้กันล่ะ
ทำไมเพิ่งจะมาฮิตเอาวันนี้....หือออออออ
ถ้าจะคิดเหมาว่า ใครไม่เห็นด้วยกับแนวคิดนี้ กลายเป็นพวกไม่จงรักภักดีละก็
มันเป็นวิธีการใส่ร้ายป้ายสีเน่าๆเก่าๆเหลาเหย่
ไม่ต่างอะไรกับ สมัย ถนอม ส.ธนรัตน์ ป.พิบูลย์ฯ
เทคนิคและวิธีการชั้นต่ำแบบนี้มันเล่นกันไม่ยาก และทันกันหมดแล้ว
มันก็ฮิตกันมาหลายปีแล้วนะจ๊ะ แต่ไม่มีรัฐบาลชุดไหนเอามาใช้อย่างจริงจัง แม้แต่รัฐบาลไอ้แม้ว ก็สักแต่แหกปากว่าจะใช้ แต่ไม่เคยใช้ เพราะกลัวว่าตนเองจะผลาญเงินของประเทศชาติได้ไม่เพียงพอไงล่ะจ๊ะ พื้นฐานความคิดก็คือ ใช้เงินยังไงให้เพียงพอกับความต้องการใช้โดยคำนึงถึงความจำเป็นที่ต้องใช้อย่างแท้จริงและสามารถนำเงินนั้นๆมาใช้ให้เกิดประประโยชน์สูงสุดไงจ๊ะ ตามหลักเศรษฐศาสตร์เลยไม๊จ๊ะ จารย์จ๊ะ เขารู้ดี เพราะเขาเชี่ยว วิชา เศรษฐศาสตร์เบื้องต้น ก๊ากกกกกก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
The Last Emperor
|
|
« ตอบ #38 เมื่อ: 20-10-2006, 16:02 » |
|
พอลุงแคนพูดถึงหนี้ครัวเรือน
งั้นจะขอถามพ่อคนดี พ่อคนเพอร์เฟ็ค พ่อชอบแถหน่อยสิ
มีวิธีการแก้ไขปัญหาหนี้ต่อหัวต่อครัวเรือนยังไง ที่สูงขึ้นอย่างมาก หลังจากการบริหารงานของไอ้เหลี่ยม 5 ปีกว่าๆ ที่ผ่านมา
การที่หนี้ภาคครัวเรือนของปชช.สูงขึ้นในช่วงรัฐบาลทักษิณเป็นสัญญาณที่ดีที่บอกว่าปชช.มีความมั่นใจในประเทศ ในรัฐบาล และในงานที่ทำ เพราะหาไม่แล้วปชช.คงไม่บ้าไปก่อนหนี้ผูกพันในการซื้อบ้าน คอนโด มือถือ ตู้เย็น รถกระบะ ฯลฯ ซึ่งเท่ากับว่าปชช.มีทรัพย์สินมากขึ้น
พวกรู้งูๆปลาๆมักมองว่าการเป็นหนี้ของปชช.เป็นสิ่งเลวร้าย แต่ไม่รู้เรื่องเลยว่าการเป็นหนี้นั้นทำให้กระแสและพลังของเงินทุกบาทถูกใช้ไปอย่างถูกทาง (increasing domestic spendings น๊ะรู้จักมั้ยน้องงูน้องปลาจ๋า )
เดี๋ยวถ้าไม่ชัด...จารย์จ๋าจะเปิดวิชา Ethicals Studies เอ๊ย.... Principles of Economics ให้น้องงูน้องปลาแบบออน-ไลน์เลยดีป่ะ!?! ไหนลองอธิบาย วิชา เศรษฐศาสตร์พื้นฐานมาให้ฟังหน่อยสิจ๊ะ อยากฟังจาก จารย์จ๊ะมากเลย มาอธิบายตรงส่วนนี้ให้ละเอียดหน่อยเร็วๆนะจ๊ะการที่หนี้ภาคครัวเรือนของปชช.สูงขึ้นในช่วงรัฐบาลทักษิณเป็นสัญญาณที่ดีที่บอกว่าปชช.มีความมั่นใจในประเทศ ในรัฐบาล และในงานที่ทำ เพราะหาไม่แล้วปชช.คงไม่บ้าไปก่อนหนี้ผูกพันในการซื้อบ้าน คอนโด มือถือ ตู้เย็น รถกระบะ ฯลฯ ซึ่งเท่ากับว่าปชช.มีทรัพย์สินมากขึ้น ไหน จารย์จ๊ะลองกล่าวถึงปัจจัยภายในภายนอกที่เกี่ยวพันกับ การก่อให้เกิดการใช้หนี้ภาคครัวเรือนที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภคให้ฟังหน่อยสิจ๊ะ แล้ว ส่งกระทบต่อปริมาณความต้องการของผู้บริโภคเพิ่มขึ้นอย่างไร และ จะเป็นผลให้เกิดการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจอย่างไรต่อไป และ หากเกิดการเปลี่ยนแปลงของรับบาลแล้วจะส่งผลให้การบริโภคลดลงหรือไม่อย่างไร ไหน ลองอธิบายด้านมหภาคมาให้ฟังหน่อยสิจ๊ะ ไม่ต้องเอาจุลภาคมาหรอกจ๊ะ เอาเท่าที่จ๊ะเข้าใจนะจ๊ะ อยากฟังมากๆเลย เป็น จารยืเหรอจ๊ะ เอ้าลองอธิบายมาหน่อยสิว่า ที่เรียนมาน่ะได้อะไรมาบ้าง กับเศรษฐศาสตร์เบื้องต้นเนี่ย เบื่อพวกโคตรโง่ แล้วอวดจะฉลาด ศก.พอเพียง นี่ มีมาตั้งแต่สมัยไหน กี่ปีมาแล้ว
ถ้าฉลาดนักละก็ช่วยบอกหน่อยว่ามีรากฐานความคิดมาจากอะไร..????
ถ้าตอบไม่ได้ก็เลิกกระแดะหยิบเอามาหากินเพื่อโจมตีคนอื่นได้แล้ว
ยุคนายชวน อานันท์ หรือใครหน้าไหน ทำไมมันไม่หยิบเอามาใช้กันล่ะ
ทำไมเพิ่งจะมาฮิตเอาวันนี้....หือออออออ
ถ้าจะคิดเหมาว่า ใครไม่เห็นด้วยกับแนวคิดนี้ กลายเป็นพวกไม่จงรักภักดีละก็
มันเป็นวิธีการใส่ร้ายป้ายสีเน่าๆเก่าๆเหลาเหย่
ไม่ต่างอะไรกับ สมัย ถนอม ส.ธนรัตน์ ป.พิบูลย์ฯ
เทคนิคและวิธีการชั้นต่ำแบบนี้มันเล่นกันไม่ยาก และทันกันหมดแล้ว
มันก็ฮิตกันมาหลายปีแล้วนะจ๊ะ แต่ไม่มีรัฐบาลชุดไหนเอามาใช้อย่างจริงจัง แม้แต่รัฐบาลไอ้แม้ว ก็สักแต่แหกปากว่าจะใช้ แต่ไม่เคยใช้ เพราะกลัวว่าตนเองจะผลาญเงินของประเทศชาติได้ไม่เพียงพอไงล่ะจ๊ะ พื้นฐานความคิดก็คือ ใช้เงินยังไงให้เพียงพอกับความต้องการใช้โดยคำนึงถึงความจำเป็นที่ต้องใช้อย่างแท้จริงและสามารถนำเงินนั้นๆมาใช้ให้เกิดประประโยชน์สูงสุดไงจ๊ะ ตามหลักเศรษฐศาสตร์เลยไม๊จ๊ะ จารย์จ๊ะ เขารู้ดี เพราะเขาเชี่ยว วิชา เศรษฐศาสตร์เบื้องต้น ก๊ากกกกกก ได้ซิครับ...ด้วยจรรยาบรรณแห่งความเป็นผู้รู้แล้ว อาจารย์จ๊ะยินดีให้ความรู้เล็กๆน้อยๆแด่ผู้ที่ไม่รู้
หากแต่ผู้ไม่รู้ก็ต้องแสดงความเคารพในตัวผู้รู้ก่อน จึงจะเรียกได้ว่าการประสิทธิ์ประสาทวิชาเศรษฐกิจพื้นๆนั้นสมประโยชน์ต่อผู้ใฝ่ดีอย่างเช่นคุณโคด5(senior)เป็นต้น
อ่ะ...กราบอาจารย์จ๊ะแทบเท้างามๆก่อนลูก!!
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
login not found
|
|
« ตอบ #39 เมื่อ: 20-10-2006, 16:35 » |
|
ผมว่าเหล่าสมุนไม่ใช่ไม่รู้หรอกครับว่าเศรษฐกิจพอเพียงคืออะไร เถียงกันมาตั้งหลายรอบแล้ว แต่มันยอมรับไม่ได้มากกว่า ถ้าขืนยอมรับก็เท่ากับทั้งหมดที่นายทำมา มัน"ผิด"ทั้งหมด มาถึงขั้นนี้ก็ได้แต่แถกันสีข้างทะลุไปถึงซี่โครง รู้ว่ายิ่งโพสยี่งแสดงความ"โง่"ของตัวเองก็ต้องทำกันต่อไป
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
555555555555
|
|
« ตอบ #40 เมื่อ: 20-10-2006, 16:41 » |
|
การที่หนี้ภาคครัวเรือนของปชช.สูงขึ้นในช่วงรัฐบาลทักษิณเป็นสัญญาณที่ดีที่บอกว่าปชช.มีความมั่นใจในประเทศ ในรัฐบาล และในงานที่ทำ เพราะหาไม่แล้วปชช.คงไม่บ้าไปก่อนหนี้ผูกพันในการซื้อบ้าน คอนโด มือถือ ตู้เย็น รถกระบะ ฯลฯ ซึ่งเท่ากับว่าปชช.มีทรัพย์สินมากขึ้น
พวกรู้งูๆปลาๆมักมองว่าการเป็นหนี้ของปชช.เป็นสิ่งเลวร้าย แต่ไม่รู้เรื่องเลยว่าการเป็นหนี้นั้นทำให้กระแสและพลังของเงินทุกบาทถูกใช้ไปอย่างถูกทาง (increasing domestic spendings น๊ะรู้จักมั้ยน้องงูน้องปลาจ๋า )
เดี๋ยวถ้าไม่ชัด...จารย์จ๋าจะเปิดวิชา Ethicals Studies เอ๊ย.... Principles of Economics ให้น้องงูน้องปลาแบบออน-ไลน์เลยดีป่ะ!?! งั้นความคิดของจ๊ะคือการมีหนี้สาธารณะสูงขึ้นเป็นเรื่องที่ดี ประชาชนกู้เงินซื้อบ้าน ผ่อนรถ ผ่อนเครื่องใช้ไฟฟ้า ผ่อนมือถือ เหรอ!!!! แม่นแล้วครับ เพราะตราบใดที่ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคอยู่ในอัตราสูง แสดงว่าเศรษฐกิจของประเทศนั้นๆดี อย่าไปรังเกียจการมีหนี้ครับ ปรกติคนมีToyotaขับมา5-6ปี ถ้าเค้าจะมีหนี้เพิ่มขึ้นโดยนำไปแลก Benz นั่นก็แสดงให้เห็นว่าเค้าเชื่อมั่นในสภาวะเศรษฐกิจว่ามีปัญญาจะผ่อน
อย่าไปมองว่าเป็นการสนับสนุนให้มีการใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือยเลยครับ เพราะถ้าจะเข้มงวดกันจริงๆก็ต้องให้ขึ้นภาษีสินค้าฟุ่มเฟือยให้หมดซิครับ เหล้า บุหรี่ น้ำหอม เครื่องสำอางที่นำเข้าจากตปท. ฯลฯ
กลัวแต่ว่าจะเก่งแต่ปากน๊ะซิครับ...รัฐบาลพอเพียงอะไรเนี่ย!!555555555555555 เชื่อ แล้ว ว่าเรียนมาแค่ เศรษฐศาสตร์เบื้องต้นจริงๆ แต่ได้ D รึเปล่าจ๊ะ เพราะตราบใดที่ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคอยู่ในอัตราสูง แสดงว่าเศรษฐกิจของประเทศนั้นๆดีใช่เพียงแค่นั้นหรือ มีปัจจัยอื่นๆอีกหรือไม่ ปรกติคนมีToyotaขับมา5-6ปี ถ้าเค้าจะมีหนี้เพิ่มขึ้นโดยนำไปแลก Benz นั่นก็แสดงให้เห็นว่าเค้าเชื่อมั่นในสภาวะเศรษฐกิจว่ามีปัญญาจะผ่อน อะไรเป็นเหตุจูงใจให้เขาต้องการมีภาระผูกพันเพิ่มขึ้น เพราะเพียงแค่เขาเชื่อมั่นในเศรษฐกิจอย่างเดียวเช่นนั้นหรือปัจจัยภายใน หรือ ปัจจัยภายนอกเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ อย่าไปมองว่าเป็นการสนับสนุนให้มีการใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือยเลยครับ เพราะถ้าจะเข้มงวดกันจริงๆก็ต้องให้ขึ้นภาษีสินค้าฟุ่มเฟือยให้หมดซิครับ เหล้า บุหรี่ น้ำหอม เครื่องสำอางที่นำเข้าจากตปท. ฯลฯ อะไรจ๊ะจะบอกว่าควบคุมการใช้จ่ายฟุ่มเฟือยแค่เพิ่มภาษีสินค้าฟุ่มเฟือยไม่ได้หรอกนะจ๊ะ ยิ่งหากปริมาณการใช้เงินของปชชเพิ่มขึ้นอันเกิดจากภาวะเงินเฟ้อ ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใดก็ตาม อุปสงค์รวมในประเทศจะสูงขึ้น ดังนั้น การแก้ไขปัญหาเงินเฟ้อ จะต้องทำโดยการพยายามลดอุปสงค์รวมคือ ลดการใช้จ่ายเพื่อซื้อสินค้าและบริการให้น้อยลงซึ่งรัฐมีวิธีการหรือเครื่องมือที่จะนำมาใช้ได้ คือนโยบายการเงิน (Monetary Policy) เช่นการกำหนดนโยบายเรื่องอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ โดยขอความร่วมมือไปยังธนาคารพาณิชย์ หรือจะกำหนดอัตรา เงินสำรองตามกฏหมายให้มากขึ้นทำให้ธนาคารพาณิชย์สำรองเงินมากขึ้นเงินที่จะสามารถปล่อยกู้มีจำนวนน้อยลง ซึ่งจะทำให้ การกู้เงินของภาคธุรกิจที่จะนำมาขยายกิจการทำได้ยากขึ้น และขายพันธบัตรรัฐบาลมากและซื้อพันธบัตรรัฐบาลคืนน้อย เพื่อลดปริมาณการใช้เงิน อย่างการจัดเก็บภาษีก็จะเป็น นโยบายการคลังจะใช้มาตรการทางด้านภาษี ในการเก็บภาษีมากขึ้นจะทำให้การจับจ่ายใช้สอยลดน้อยลงแลรัฐบาลจะต้อง ลดค่าใช้ลง เช่น งดสร้างสิ่งสาธารณูปโภค งดสร้างงานที่จะก่อให้เกิดการจ้างงาน รวมทั้งจัดทำงบประมาณแบบเกินดุลคือเก็บภาษี ให้มากแต่รัฐจ่ายเงินน้อยลง ซึ่งเรียกว่านโยบายการคลังแบบหดตัว การที่ ปชช ใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือยจนอยากจะเป็นหนี้กันมากๆนี้ ก็ต้องระวังนะจ๊ะ นอกจากการขาดดุลการค้าแล้ว ยังอาจก่อให้เกิดปัญหาเงินเฟ้อด้วยนะจ๊ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
555555555555
|
|
« ตอบ #41 เมื่อ: 20-10-2006, 16:50 » |
|
เมื่อไรจะตอบมาสักทีละครับ จารย์ จ๊ะ ผมรอฟัง ภาค ทฤษฎี จาก จารย์จ๊ะ อยู่เนี่ย ในนี้ใครเคยเรียนเสดสาดกันมา ช่วยมาฟัง จารย์จ๊ะหน่อยนะคับ ผมเรียนมาน้อยคับ แค่จบเสดสาดมาแบบงูๆปลาๆน่ะคับ โง่คับ ต้องตั้งใจฟังจานจ๊ะหน่อยอ่ะคับ เอ้า จารย์จ๊ะมาอธิบายเร็วๆสิคับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ชอบแถ
|
|
« ตอบ #42 เมื่อ: 20-10-2006, 16:57 » |
|
ผมว่าเหล่าสมุนไม่ใช่ไม่รู้หรอกครับว่าเศรษฐกิจพอเพียงคืออะไร เถียงกันมาตั้งหลายรอบแล้ว แต่มันยอมรับไม่ได้มากกว่า ถ้าขืนยอมรับก็เท่ากับทั้งหมดที่นายทำมา มัน"ผิด"ทั้งหมด มาถึงขั้นนี้ก็ได้แต่แถกันสีข้างทะลุไปถึงซี่โครง รู้ว่ายิ่งโพสยี่งแสดงความ"โง่"ของตัวเองก็ต้องทำกันต่อไป
ไม่ผิด เพราะสมัยทักษิณที่แท้ คือ เศรษฐกิจพอเพียง สมัยชวน 1 คือ เกินพอเพียง ฟองสบู่ สมัยปัจจุบันจะน้อยกว่าพอเพียง คือ ยังไม่พอ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
MacBookPro
|
|
« ตอบ #43 เมื่อ: 20-10-2006, 17:00 » |
|
เข้ามาดักรอโปรเฟสเซ่อจ๊ะตอบ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ไอ้เหลี่ยม - ทักษิณ ชินวัตร ชาตะ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2492 มรณะ 19 กันยายน พ.ศ. 2549
|
|
|
The Last Emperor
|
|
« ตอบ #44 เมื่อ: 20-10-2006, 17:14 » |
|
เมื่อไรจะตอบมาสักทีละครับ จารย์ จ๊ะ ผมรอฟัง ภาค ทฤษฎี จาก จารย์จ๊ะ อยู่เนี่ย ในนี้ใครเคยเรียนเสดสาดกันมา ช่วยมาฟัง จารย์จ๊ะหน่อยนะคับ ผมเรียนมาน้อยคับ แค่จบเสดสาดมาแบบงูๆปลาๆน่ะคับ โง่คับ ต้องตั้งใจฟังจานจ๊ะหน่อยอ่ะคับ เอ้า จารย์จ๊ะมาอธิบายเร็วๆสิคับ อย่าว่างั้นอย่างนี้เลยน๊ะครับ....ถ้าคุณโคด5ไม่กราบเท้าจารย์จ๊ะงามๆก่อน จารย์จ๊ะขอสงวนสิทธิ์ที่จะประสิทธิ์ประสาทวิชาเศรษฐศาสตร์พื้นๆให้
ไม่มีของฟรีในโลกงั้บ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Coolly_Jade
|
|
« ตอบ #45 เมื่อ: 20-10-2006, 17:17 » |
|
แอบเห็นคนปล่อยไก่ ว่าที่หนี้ครัวเรือนสูง เพราะดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสูงขึ้น ไหนๆก็ชอบคุยว่าชอบข้อมุลตัวเลข ช่วยยกมาให้ดูหน่อยสิครับ ผมคุ้นๆว่าที่ผ่านมาข้อมุลที่ออกมามันสวนทางกับที่บอกมานะครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ทักษิณาธิปไตย เสรีทางความคิด เผด็จการต่อการแสดงออก ใครเห็นด้วยเป็นคนดี ใครคัดค้านเป็นกุ๊ย
|
|
|
555555555555
|
|
« ตอบ #46 เมื่อ: 20-10-2006, 17:33 » |
|
เมื่อไรจะตอบมาสักทีละครับ จารย์ จ๊ะ ผมรอฟัง ภาค ทฤษฎี จาก จารย์จ๊ะ อยู่เนี่ย ในนี้ใครเคยเรียนเสดสาดกันมา ช่วยมาฟัง จารย์จ๊ะหน่อยนะคับ ผมเรียนมาน้อยคับ แค่จบเสดสาดมาแบบงูๆปลาๆน่ะคับ โง่คับ ต้องตั้งใจฟังจานจ๊ะหน่อยอ่ะคับ เอ้า จารย์จ๊ะมาอธิบายเร็วๆสิคับ อย่าว่างั้นอย่างนี้เลยน๊ะครับ....ถ้าคุณโคด5ไม่กราบเท้าจารย์จ๊ะงามๆก่อน จารย์จ๊ะขอสงวนสิทธิ์ที่จะประสิทธิ์ประสาทวิชาเศรษฐศาสตร์พื้นๆให้
ไม่มีของฟรีในโลกงั้บ ตกลงว่า ไม่มีความรู้จริงๆ ดีแต่โม้ รึเปล่าจ๊ะเนี่ย จารย์ จ๊ะ ไมต้องเบี่ยงไป เบี่ยงมาด้วยละจ๊ะ อยากสนทนา กับ คนเสดสาด ด้วยกันมานานแย้ว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
555555555555
|
|
« ตอบ #47 เมื่อ: 20-10-2006, 17:36 » |
|
เห็นอะไรจ๊ะ ออนไลน์ อยู่ทำไมไม่เข้ามาตอบล่ะจ๊ะ กำลัง คิดภาคทฤษฎีตอบผมอยู่เหรอ โอ้...รอคอยด้วยใจจดจ่อ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Can ไทเมือง
|
|
« ตอบ #48 เมื่อ: 20-10-2006, 17:46 » |
|
ค่อย ๆ ขยายนะ ประชานิยม บริโภคนิยม กองทุนหมู่บ้าน หนี้ภาคครัวเรือนเกิดอะไรขึ้นกับสังคมชนบท
1. จิตสำนึก เรื่องความเป็นสังคมหายไป ความเป็นปัจเจกเข้ามาแทนที่ ต่างคนต่างอยู่ วิถีชาวบ้านเปลี่ยนจากหาแรง เป็นจ้างแรง มีความรู้สึกเป็นคนในเมือง
รสนิยมสูงรายได้ต่ำ การกู้ยืิมนั้นมิได้นำไปใช้ในการผลิตหรือแม้นำไปใช้แต่ไม่เกิดผลเนื่องเพราะ "ทุน" ที่เข้าไป รวดเร็ว รุนแรง ไม่มีการเตรียมการเป็นขั้นเป็นตอน
2. บริโภคนิยม โดยประชานิยม สนับสนุนให้คนเป็นหนี้ ซื้อมือถือ มอเตอร์ไซค์ ซึ่งมีผลต่อรายจ่ายรายวัน ( เช่นบัตรเติมเงิน - ค่าน้ำมันรถ ) ทั้ง ๆ ที่ปกติชาวบ้านเกษตรกรส่วนใหญ่มีรายรับรายปี เท่ากับเพิ่มภาระให้ประชาชนโดยไม่จำเป็นต่อชีวิตความเป็นอยู่ที่แท้จริง
3. เมื่อพ่อแม่ เติมให้ไม่ไหว เด็ก ๆ วัยรุ่นก็หันไปให้เสี่ยเติมเงินให้
4. เมื่อมีหนี้สิน ความเห็นแก่ตัว การเอารัดเอาเปรียบในสังคมชนบทก็ปรับเปลี่ยนไป โครงสร้างตรงนี้เปลี่ยนแน่นอน อาจก้าวเข้าไปในส่วนของ "คอรัปชั่น" ในชุมชนได้ง่าย ( เช่น โครงการ SML )
5. เมื่อจำเป็นต่้องพึ่งพาการกู้ยืมจากรัฐบาลหรือพรรคการเมืองพรรคใดพรรคหนึ่ง ทำให้มีแค่ ขาวกับดำ มีแต่เอากับไม่เอา ถึงที่สุดก็จำต้องเลือกคนที่หยิบยื่นผลประโยชน์ให้ โดยลืมมิติของการตรวจสอบภาคประชาชน
พรรคใหน นักการเมืองคนใหน เอาเงินมาให้หมุนใช้หนี้ก็เลือกคนนั้น เพราะมองยังไงก็ไม่สามารถใช้หนี้ครัวเรือน ที่ว่ากันว่ามีมากถึง 7 เท่าของรายรับ
ถึงเวลานี้ "หนี้ครัวเรือน" ยังเป็นปัญหาที่ต้องแก้ไข...เพราะรอยังไง 5 ปี 6 ปี คนไทยก็ยังไม่หายจน
แค่นั้นยังไม่พอ...นอกจากไม่หายจน กลับเป็นหนี้เป็นสินยากจนหนักขึ้นอีก...
ที่สำคัญ รัฐบาลต่อ ๆ ไปจะแก้ปัญหาหนี้สินที่เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าตัว ใน 5-6 ปีนี้ได้อย่างไร
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ชอบแถ
|
|
« ตอบ #49 เมื่อ: 20-10-2006, 17:52 » |
|
[color=blue]ค่อย ๆ ขยายนะ ประชานิยม บริโภคนิยม กองทุนหมู่บ้าน หนี้ภาคครัวเรือนเกิดอะไรขึ้นกับสังคมชนบท
1. จิตสำนึก เรื่องความเป็นสังคมหายไป ความเป็นปัจเจกเข้ามาแทนที่ ต่างคนต่างอยู่ วิถีชาวบ้านเปลี่ยนจากหาแรง เป็นจ้างแรง มีความรู้สึกเป็นคนในเมือง
รสนิยมสูงรายได้ต่ำ การกู้ยืิมนั้นมิได้นำไปใช้ในการผลิตหรือแม้นำไปใช้แต่ไม่เกิดผลเนื่องเพราะ "ทุน" ที่เข้าไป รวดเร็ว รุนแรง ไม่มีการเตรียมการเป็นขั้นเป็นตอน
2. บริโภคนิยม โดยประชานิยม สนับสนุนให้คนเป็นหนี้ ซื้อมือถือ มอเตอร์ไซค์ ซึ่งมีผลต่อรายจ่ายรายวัน ( เช่นบัตรเติมเงิน - ค่าน้ำมันรถ ) ทั้ง ๆ ที่ปกติชาวบ้านเกษตรกรส่วนใหญ่มีรายรับรายปี เท่ากับเพิ่มภาระให้ประชาชนโดยไม่จำเป็นต่อชีวิตความเป็นอยู่ที่แท้จริง
3. เมื่อพ่อแม่ เติมให้ไม่ไหว เด็ก ๆ วัยรุ่นก็หันไปให้เสี่ยเติมเงินให้
4. เมื่อมีหนี้สิน ความเห็นแก่ตัว การเอารัดเอาเปรียบในสังคมชนบทก็ปรับเปลี่ยนไป โครงสร้างตรงนี้เปลี่ยนแน่นอน อาจก้าวเข้าไปในส่วนของ "คอรัปชั่น" ในชุมชนได้ง่าย ( เช่น โครงการ SML )
5. เมื่อจำเป็นต่้องพึ่งพาการกู้ยืมจากรัฐบาลหรือพรรคการเมืองพรรคใดพรรคหนึ่ง ทำให้มีแค่ ขาวกับดำ มีแต่เอากับไม่เอา ถึงที่สุดก็จำต้องเลือกคนที่หยิบยื่นผลประโยชน์ให้ โดยลืมมิติของการตรวจสอบภาคประชาชน
พรรคใหน นักการเมืองคนใหน เอาเงินมาให้หมุนใช้หนี้ก็เลือกคนนั้น เพราะมองยังไงก็ไม่สามารถใช้หนี้ครัวเรือน ที่ว่ากันว่ามีมากถึง 7 เท่าของรายรับ
ถึงเวลานี้ "หนี้ครัวเรือน" ยังเป็นปัญหาที่ต้องแก้ไข...เพราะรอยังไง 5 ปี 6 ปี คนไทยก็ยังไม่หายจน
แค่นั้นยังไม่พอ...นอกจากไม่หายจน กลับเป็นหนี้เป็นสินยากจนหนักขึ้นอีก...
ที่สำคัญ รัฐบาลต่อ ๆ ไปจะแก้ปัญหาหนี้สินที่เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าตัว ใน 5-6 ปีนี้ได้อย่างไร[/color]
มีผลสำรวจอ้างอิงหรือเปล่า หรือเป็นความคิดเห็น หรือนั่งเทียน ตอนนี้ไม่เชื่อ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|