จับหนุ่มใหญ่ลวงสาวเล่นเน็ต ข่มขืน-เพื่อนรุมโทรม-ชิงทรัพย์
รวบหนุ่มใหญ่ลวงสาวผ่านเน็ตไปข่มขืน-ชิงทรัพย์ แฉติดต่อผ่านเน็ตนัดเหยื่อกินข้าว ลวงขึ้นรถใช้คัตเตอร์บังคับบอกรหัสเอทีเอ็มกดเงินร่วม 2 หมื่น แถมให้เพื่อนข่มขืนซ้ำ ก่อนพาไปปล่อยทิ้งย่านชานเมือง ตร.เร่งตามล่าเพื่อนร่วมแก๊ง
เหตุการณ์ล่อลวงหญิงสาวผ่านทางอินเทอร์เน็ตไปข่มขืนยังคงมีให้เห็นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 19 ตุลาคม พล.ต.ต.วิทยา โกสิยะสถิต ผบก.น.4 ได้แถลงผลการจับกุม นายตะวัน หรือโทน จันทร์อนุ อายุ 38 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ข้อหาร่วมกันกระทำชำเราหญิงซึ่งมิใช่ภรรยาของตน โดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยหญิงอยู่ในภาวะไม่สามารถขัดขืนได้ โดยร่วมกันกระทำผิดด้วยกัน อันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิง, ร่วมกันพาผู้อื่นไปเพื่ออนาจาร โดยใช้อุบายหลอกลวง ขู่เข็ญ ใช้กำลังประทุษร้าย ใช้อำนาจครอบงำผิดครองธรรม หรือใช้วิธีการข่มขืนใจด้วยประการอื่นใด, ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใดๆ ให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพร่างกาย และร่วมกันชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ
ด้าน พล.ต.ต.วิทยา กล่าวว่า เมื่อประมาณต้นเดือนกันยายน ที่ผ่านมา นายตะวัน ได้ติดต่อทางอินเทอร์เน็ตกับ น.ส.ณี (นามสมมติ) นักศึกษาระดับ ปวช.วิทยาลัยมีชื่อแห่งหนึ่ง และเมื่อวันที่ 24 กันยายน เวลาประมาณ 11.00 น. นายตะวัน ได้โทรศัพท์นัดหมาย น.ส.ณี ไปรับประทานอาหารที่ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ สาขาบางกะปิ แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กทม. โดยนายตะวัน ได้ขับรถเก๋งยี่ห้อวอลโว่ สีดำ ทะเบียน สฉ 5207 กรุงเทพมหานคร ไปรับ น.ส.ณี ที่เกียรติธาดาเฮ้าส์ ซอยลาดพร้าว 71 แขวงและเขตลาดพร้าว กทม.
ผบก.น.4 กล่าวต่อว่า เมื่อรับผู้เสียหายขึ้นรถแล้ว ระหว่างทางนายตะวัน ได้ขับรถไปรับเพื่อนร่วมแก๊งอีกคนคือ นายศักดิ์ชัย หรือเอก พงศาปาน ซึ่งได้นัดหมายกันมาก่อน โดยให้เพื่อนไปนั่งขับรถแทน ส่วนนายตะวัน ได้บังคับให้ผู้เสียหายลงไปนั่งคู่กันที่เบาะหลัง พร้อมทั้งใช้มือตบหน้าผู้เสียหาย 2-3 ครั้ง ก่อนจะชักคัตเตอร์ขู่บังคับเอาทรัพย์สินภายในตัวของผู้เสียหายไป พร้อมทั้งบังคับให้บอกรหัสบัตรเอทีเอ็มของธนาคารไทยพาณิชย์ เมื่อได้รหัสบัตรแล้วจึงขับรถไปกดเงินที่ธนาคารทหารไทย สาขาสุขาภิบาล 2 ถนนเสรีไทย แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กทม.เป็นเงิน 2,400 บาท
"หลังจากกดเงินเสร็จแล้วได้ขับรถพาผู้เสียหายไปตามถนนสุวินทวงศ์ จนมาเติมน้ำมันที่ปั๊มน้ำมันบางจาก พอเติมเสร็จก็ขับรถเข้าไปจอดบริเวณด้านหลังปั๊ม จากนั้นนายศักดิ์ชัย ได้ลงมือข่มขืนผู้เสียหายอีกด้วย หลังข่มขืนแล้วผู้ต้องหาได้บังคับให้ผู้เสียหายโทรศัพท์ไปหลอกญาติให้โอนเงินมาให้อีกเกือบ 2 หมื่นบาท" พล.ต.ต.วิทยา กล่าว
พล.ต.ต.วิทยา กล่าวอีกว่า ผู้ต้องหาได้ขับรถไปรอกดเงินที่ญาติผู้เสียหายโอนมาให้ที่ จ.ฉะเชิงเทรา โดยไปกดเงินจากตู้เอทีเอ็มภายในปั๊มน้ำมันเจ็ท ซึ่งเป็นตู้เอทีเอ็มของธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาฉะเชิงเทรา จำนวน 2 ครั้ง โดยครั้งแรกกดเงินจำนวน 1 หมื่นบาท และครั้งที่ 2 เป็นเงิน 8,000 บาท จากนั้นได้นำเงินและทรัพย์สินอื่นๆ ของผู้เสียหายมาแบ่งกันในรถ โดยนายตะวัน ได้นำโทรศัพท์มือถือยี่ห้อโนเกียของผู้เสียหายไปขายที่ร้านโทรศัพท์ในซอยแบริ่ง ถนนศรีนครินทร์ ราคา 8,000 บาท
ส่วนนายศักดิ์ชัย ได้เงินสดไปจำนวนหนึ่ง พร้อมสร้อยคอทองคำ 1 เส้น แหวนทองคำ 1 วง แหวนเพชร 1 วง แหวนทองคำขาว 1 วง นาฬิกาข้อมือ 1 เรือน และโทรศัพท์ยี่ห้อโมโตโรล่าอีก 1 เครื่อง จากนั้นได้ขับรถพาผู้เสียหายไปทิ้งไว้ภายในซอยวัดกิ่งแก้ว จ.สมุทรปราการ ก่อนจะขับรถหลบหนีไป
อย่างไรก็ตาม ผู้เสียหายสามารถจดจำรูปพรรณของนายศักดิ์ชัย ได้เป็นอย่างดี จึงได้นำไปสเก็ตช์ภาพคนร้าย พร้อมทั้งได้เร่งให้ฝ่ายสืบสวนออกติดตามเบาะแสเพื่อนำตัวผู้ต้องหารายนี้มาดำเนินคดีต่อไป
http://www.komchadluek.net/2006/10/19/a001_57852.php?news_id=57852"อย่าไว้ใจทางอย่าวางใจคน"