ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
25-04-2024, 08:55
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สโมสรริมน้ำ  |  สวนหย่อม ไม่ยากและแพงอย่างที่คิด 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
สวนหย่อม ไม่ยากและแพงอย่างที่คิด  (อ่าน 36052 ครั้ง)
นายชด(หนุ่ม)
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 88



« เมื่อ: 24-04-2006, 07:22 »

หลายคนชอบที่จะใช้เวลาว่างอยู่กับ ต้นไม้ ดอกไม้ และการเที่ยวชมธรรมชาติ  เพราะ มันทำให้ใจคนเราเบิกบานจริงๆ

บางท่านเบี้ยน้อย หอยน้อย แม้จะอยู่ห้องเล็กๆในอพารท์เม้นท์ หรือมีบ้านเล็กๆแต่ที่ดินจำกัดเสียเหลือเกิน อยากจะมีสวนหย่อมของตนเองไว้ชื่นชมเพื่อคลายเครียด  แก้เหงา ก็เกรงว่า มันจะแพง หรือ ไม่ก็ไม่ทราบว่าจะเริ่มต้นตรงไหน

ต้องเรียนให้ทราบก่อนว่า การทำสวนหย่อมนั้น หากจะทำให้เหมือนกับภาพในนิตยสารที่เขาเอามาโชว์ๆกัน  ก็ต้องราคาแพงแน่นอน เพราะเขาจะเลือกเอาแต่ของดี ราคาแพงมาทำเพื่อให้ดูดีและเพื่อนำเสนอการขาย
แต่ความจริงแล้ว   คุณๆทุกคน  หากมีใจรัก  ทำเองได้ครับ ไม่ยากอย่างที่คิด และไม่จำเป็นต้องไปหาของราคาแพงมาทำ  .........

                                    ขอเพียงมีใจรัก และรู้จักดัดแปลง สร้างสรรค์ เพียงเท่านี้ คุณก็สามารถสร้างสวนหย่อมให้แก่ที่พักหรือบ้านของตนเองมาชื่นชม ได้แล้วครับ

ก่อนอื่น สำหรับท่านที่อยู่ในห้องพักในลักษณะอาคารชุด หรือ อพาร์ทเม้นท์นั้น  ต้องเรียนให้ทราบว่า การจัดแต่งและเลือกหาต้นไม่ที่จะมาแต่ง มันต่างกับ การแต่งสวนของผู้ที่มีบ้านไม่ว่าหลังจะเล็กหรือใหญ่ มีพื้นที่มากหรือน้อย  ครับ

เนื่องจาก สภาพของห้องพักในลักษณะของอาคารชุด  อพาร์ทเม้นท์ แฟลต หรืออะไรที่แล้วแต่จะเรียกกันนั้น  ส่วนใหญ่จะถูกจำกัด ด้วย พื้นที่ใช้สอย และทิศทางของแสงแดด กับอากาศถ่ายเท รวมทั้ง ลมตามฤดูกาล ฝนตามฤดูกาล ....

ข้อที่กังวลกันคือ  พื้นที่ที่จะใช้ในการปลูกต้นไม้ วางกระถางหรือ ทำสวนหย่อม ยากที่จะหลีกเลี่ยงเชื้อราที่พื้น และตะไคร่  อันเป็นสิ่งที่ทำให้ลดความสวยงามและบรรยากาศดีๆของคุณไป

บริเวณที่เหมาะทำสวนหย่อมต้นไม้เล็กๆที่เหมาะที่สุดก็คือ ส่วนที่เป็นเฉลียงหรือระเบียงของห้องชุด
บริเวณดังกล่าวสิ่งแรกที่คุณต้องคำนึงคือ การถ่ายเทของอากาศ เป็นอย่างไร? ควรจะมีการถ่ายเทอากาศที่ดี
อันดับต่อมา แดด สามารถส่องเข้าถึงหรือไม่ ในช่วงเวลาใด เช้า  สาย บ่าย เย็น อันนี้ต้องหาเวลาว่างในวันหยุด ทำการจดบันทึกครับ  ยอมเป็นนักวิจัยสักวันเถอะ เพื่อสวนหย่อมแสนสวยของคุณ

ช่วงระหว่างพิจารณาแดด ก็ควรดูทิศทางลม ว่า อับลม หรือ ลมสามารถเข้ามาในช่วงเวลาใด?
ความจริงแล้ว คุณต้องทราบว่า ห้องคุณ เฉลียงอยู่ทางทิศใด  และก็ศึกษาสักนิดว่า ลมมาทางใดตามฤดูกาล  ฝนมาทางใด ซึ่งไม่ยากครับ ถามชาวบ้านแถวนั้นก็รู้แล้ว  หากไม่ว่างไปกางตำรา

ทีนี้ก็ลองพิจารณาพื้นที่ที่จะทำสวนว่า คุณอยากให้กว้างยาว และสูงในระดับใด  ที่คุณเห็นว่ามันจะดูงดงามและเหมาะสมกับคุณ   เอาตามใจคุณครับ อย่าไปตามใจคนอื่น เพราะสวนหย่อมเป็นสวนที่คุณไว้หย่อนใจ




(ยังมีต่อนะครับ )
บันทึกการเข้า

ฤทธี  สีหจักร ลักษณ์ซ่อนเงื่อน
เถื่อนกำบัง  พังภูผา ม้ากินสวน
พวนเรือโยง  โพงน้ำบ่อ ล่อช้างป่า
ฟ้างำดิน  อินทร์พิมาน ผลาญศัตรู
ชูพิษแสลง  แข็งให้อ่อน ยอนภูเขา
เย้าให้ผอม  จอมปราสาท ราชปัญญา
ฟ้าสนั่นเสียง  เรียงหลักยืน ปืนพระราม
นายท้ายเรือ
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 760



« ตอบ #1 เมื่อ: 24-04-2006, 08:56 »

 Very Happy
จะมาอ่านต่อ นะครับ ชอบมากๆ ผมฝันถึงอยากสร้างสวนป่า เลยแหละ
แต่อยู่บ้านใน กทม. เป็นทาวน์เฮาส์ มีที่ดินเหลือ  1 ตร.วา แฮะๆๆๆ
มีอ่างปลาเล็กๆ กับต้นไม้ไม่กี่ต้น ก็เต็มแล้ว ฮือๆๆ   
 Shocked  อิจฉานะครับ คนที่มีบ้านและที่ดินพอที่จะจัดสวนย่อมได้
เก็บรูปไว้เยอะ ชอบอ่านหนังสือประเภทบ้านและสวนอยู่เสมอ เมื่อ
เข้าห้าง แบบว่า ให้ลูกๆ ไปนั่งอ่านหนังสือ ที่ B2S รัตนาธิเบศน์ นนทบุรี
..
กระทู้นี้คงจะเป็นที่รวบรวมสวนหย่อมๆๆ เล็กๆ ไว้ให้ผมอิจฉานะครับ
อิอิอิ..
บันทึกการเข้า

ทุกคนเกิดมาก็ต้องตาย แต่จะเหลืออะไรไว้ให้แผ่นดิน
นายชด(หนุ่ม)
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 88



« ตอบ #2 เมื่อ: 24-04-2006, 09:05 »

หลังจากที่เรา วัดพื้นที่ เรียบร้อยแล้ว ทีนี้ ก็จะเป็นความสนุกสนานแล้วครับ

จากพื้นที่ที่เราวัดมา ก็ลองย่อมาตราส่วนลงให้มันเหมาะสมที่จะเขียนลงในกระดาษ เพื่อที่เราจะได้ทดลองร่างแบบในฝันของเราว่าจะเป็นแบบไหนดี  ไม่ยากครับ  อย่าเพิ่งทำหน้าตกใจ  มันก็แค่ทำให้ใกล้เคียงกะความจริงที่เราอยากทำเท่านั้น เช่น เราวัดกว้าง มาได้ 1 เมตร  เอ เราก็ให้ 1 เมตร เป็น สัก 20 เซ้นติเมตรดีไหมครับ  หรือจะตามที่คุณคิดว่าไม่ใหญ่เล็กไป  แล้วก็ลงมือวาดเล่นกันเลย

อยากได้แบบไหน มีหินกรวดแต่ง  หรือเล่นระดับ หรือมีไม้ใบ ไม้ดอก อย่างไร วาดลงไปแต่ใจนึก เมื่อทำแล้วก็อาจลงสีเพื่อให้ดูใกล้ความจริงเข้าไป  จะได้ลองมองว่าชอบไหม........จากนั้น ก็วัดที่เราวาดนั่นแหละ มาแปลงกลับเป็นสัดส่วนจริง.........แล้วเริ่มปฏิบัติการ จ่ายตลาดกันเลย

อ้อ ผมเกือบลืมไป  ที่คุณวาดน่ะ ควรวาดพื้นฐานของสวนที่จะทำด้วย ให้มันปีวัสดุ หรือภาชนะ ที่ไม่ทำให้น้ำ หรือความชื้น มันไหลลงไปสู่พื้นด้านล่าง เพราะมันจะเป็นตัวการทำให้เกิดเชื้อราจากความชื้น  ตะไคร่ และความสกปรกไม่ชวนมอง

วัสดุดังกล่าว มีขายทั่วไปครับ จะใช้ถาดพีวีซี ที่ขนาดใหญ่ๆ ที่เขาเอามาใช้รองรับของในรถกะบะก็ไม่เลว สนนราคาก็ไม่แพงครับ  หากเลือกซื้อตามตลาดนัดใหญ่ๆที่เอาของพวกนี้มาขายกัน
หรือ จะทำเองก็ได้ครับ   ก็ผ้าพลาสติก หรือผ้าใบกันน้ำที่เขาแบ่งขายกันเป็นเมตรๆนั่นแหละครับ  ซื้อมาให้เกินพื้นที่ที่เราวัดได้สัก 50 ซม. ในส่วนกว้างและยาว  หากไม่พอก็ซื้อมันสองผืนเลย เพราะอาจจำกัดที่หน้ากว้างของม้วนที่เขาขายๆกัน แล้วก็ซื้อกาวยางเหลืองๆที่เขาใช้ปะรองเท้านั่นแหละมาดม เอ๊ย มาใช้ครับ ราคาไม่กี่ตังค์ ยี่ห้อไหนก็ได้

จากนั้นเราก็ทำความสะอาดพื้นจริงให้สะอาด โรยแป้งทาตัวเรานี่แหละครับ  หากเสียดายก็ซื้อแป้งโรยตัวราคาถูกๆยี่ห้อใดก็ได้ มาโรยให้ทั่วพื้นที่ที่จะปู

แป้งนี้แหละ จะกัน มด แมลง เข้าไปอาศัยครับ!!  ลองเอาเศษขนมหวานวางไว้แล้วเอาแป้งโรยรอบๆสิครับ รับรองมดไม่กล้าไปกิน.

เมื่อโรยแป้งทั่วแล้ว ก็ปูผ้าพลาสติกหรือผ้าใบอย่างบางที่กันน้ำได้ ที่เราซื้อมาลงไป  ตัดผ้ายางส่วนที่เราปูเกินไว้ ตรงมุมตั้งฉากออกมาทั้งสี่ด้าน   คล้ายๆกับเวลาเราจะห่อหนังสือ หรืออะไรที่เป็นสี่เหลี่ยม ก็ต้องตัดออกไป เพื่อที่เวลาพับ จะไม่มีส่วนเกิน  จากนั้นก็ทากาวยางลงไปที่พื้นที่ที่เรากันไว้เป็นส่วนนอกของผ้ายาง(ประมาณ 50 ซม.) ทาให้ทั่วบริเวณดังกล่าว  ทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที  เพราะกาวยางพวกนี้ จะเหนียวและติดกันดี ก็ต้องปล่อยทิ้งไว้สักพัก   หากเป็นคนช่างสังเกตูจะเห็นว่า เวลาเราไปซ่อมพื้นรองเท้าที่ร้าน  เขาก็ทำแบบนี้ คือทากาวทิ้งไว้สักพัก จึงเอามาปะ

เมื่อครบเวลาแล้วก็ค่อยๆม้วนชายของผ้ายางเข้าไปจนถึงแนวพื้นที่จริง  เราก็จะได้ถาดพลาสติกที่ทำจากผ้ายาง มีขอบเป็นส่วนที่เราม้วนกลมๆเข้าไปนั่นแหละครับมันจะเป็นเสมือนขอบของภาชนะรองรับน้ำและความชื้นเวลาที่เรารดน้ำ และไม่ซึมลงพื้นจริงๆของเฉลียงนั่นเอง

แต่ยังครับ ยังไม่เสร็จ  จำเศษที่เราตัดออกก่อนม้วนได้ไหม  นั่นแหละ เอามาปะอีกทีตามมุมของพื้นที่ที่เราม้วนเข้าไป เพื่อยึดกรอบเข้าหากัน และกันน้ำซึมออกมาทางเหลี่ยมทั้ง สี่ ของพื้นที่ที่ทำ โดยกาวยางนั่นแหละครับ  ทาทิ้งไว้สักห้านาทีแล้วก็ปะ  ทีนี้เป็นอันเสร็จ
..............เวลาว่างวันหยุดของคุณหรือ ยามว่างในวันปกติที่ไม่รู้จะทำอะไร ก็จะมีอะไรที่ทำแล้วสนุก ด้วยตนเองแล้วโดยไม่ต้องเสียเงินมากมาย แต่ทำให้เราได้คิดทำอะไรด้วยตนเอง เพลินๆ
บันทึกการเข้า

ฤทธี  สีหจักร ลักษณ์ซ่อนเงื่อน
เถื่อนกำบัง  พังภูผา ม้ากินสวน
พวนเรือโยง  โพงน้ำบ่อ ล่อช้างป่า
ฟ้างำดิน  อินทร์พิมาน ผลาญศัตรู
ชูพิษแสลง  แข็งให้อ่อน ยอนภูเขา
เย้าให้ผอม  จอมปราสาท ราชปัญญา
ฟ้าสนั่นเสียง  เรียงหลักยืน ปืนพระราม
นายชด(หนุ่ม)
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 88



« ตอบ #3 เมื่อ: 24-04-2006, 09:16 »

ขอบพระคุณครับ คุณนายท้ายเรือที่กรุณาให้ความสนใจกระทู้นี้ 
คุณมีที่ดินว่าง 1 ตารางวา เหลือเฟือครับ  หากจะจัดสวนหย่อมสวยๆ ผมว่า อาจออกแบบให้มีน้ำตกเล็กๆให้เด็กๆดูก็ยังได้เลยครับ  เด๋วผมเขียนต่อเกี่ยวกับการทำตรงนี้ให้รวมไปเลยด้วยครับ  อาจเป็นแนวทางให้คุณนายท้ายเรือไปทำเองกับลูกๆและสมาชิกในครอบครัว ยามว่าง ซึ่งเป็นกิจกรรมที่น่าสนุก เพราะไม่มีอะไรยาก  เด็กๆ  แม่บ้านก็สามารถลงแรง  ออกความคิด คนละไม้ละมือทำกันได้ในครอบครัว และเมื่อเสร็จแล้ว มันก็จะเป็นอะไรที่น่าภาคภูมิใจยิ่งของครอบครัวครับ
.................กิจกรรมร่วมกัน ยามว่างของครอบครัว จะเสริมสร้างให้ครอบครัวอบอุ่นและเข้มแข็ง ลดช่องว่างระหว่างวัย เพราะในขณะที่มีกิจกรรมอดิเรกเช่นนั้นร่วมกัน อาจถือโอกาสพูดคุยเรื่องต่างๆแบบไม่เคร่งเครียด  ทำให้เด็กๆที่จะโตขึ้นมา ก็จะสามารถและกล้าพูดคุยกับผู้ปกครองในบางเรื่องได้

ยิ่งหากผมมีโอกาสได้ช่วยเหลือให้คำแนะนำแก่คุณนายท้ายเรือเรื่องการทำสวนหย่อมด้วยตนเองแล้ว ก็ยิ่งเป็นเกียรติมากเลยครับ   
บันทึกการเข้า

ฤทธี  สีหจักร ลักษณ์ซ่อนเงื่อน
เถื่อนกำบัง  พังภูผา ม้ากินสวน
พวนเรือโยง  โพงน้ำบ่อ ล่อช้างป่า
ฟ้างำดิน  อินทร์พิมาน ผลาญศัตรู
ชูพิษแสลง  แข็งให้อ่อน ยอนภูเขา
เย้าให้ผอม  จอมปราสาท ราชปัญญา
ฟ้าสนั่นเสียง  เรียงหลักยืน ปืนพระราม
นายชด(หนุ่ม)
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 88



« ตอบ #4 เมื่อ: 24-04-2006, 09:49 »

ทีนี้ ก็จะเป็นเรื่อง การไปจ่ายตลาดตามที่คุณกำหนดว่าจะต้องมีอะไรบ้าง  ผมก็คงแนะนำได้แต่เพียงว่า ของดี ไม่จำต้องอยู่ในห้าง  ของราคาแพง ก็ไม่ใช่ของดีเสมอไป ครับ

ดังนั้นการที่เราจะไปซื้อต้นไม้ อุปกรณ์หรือวัสดุในการตกแต่งสวน ไม่จำเป็นว่าจะไปห้าง  ยกเว้น คุณจะสะดวกในทางนั้นมากกว่าไปเดินตะลอนหาซื้อ

แต่ อรรถรส ในการแต่งสวนเองมันน่าจะอยู่ที่เราได้ไปตะลอนๆนี่แหละครับ เพราะบางคราว หรือ อาจจะหลายๆคราว มันคือการไปท่องเที่ยว ทริปสั้นๆที่คุณได้ทั้งความเพลิดเพลิน และได้ซื้อหาของดีราคาถูกมาทำกิจกรรมในบ้าน.......เรียกว่า สองเด้ง เลย

ข้อแนะนำนี้เป็นพื้นๆของมือใหม่หัดจัดสวนนะครับ เพื่อความสนุกและเพลิดเพลินของท่านเอง

ต้นไม้.

ที่ที่เป็นสามัญและไม่ต้องตะลอนไปไกล สำหรับคนกรุงเทพฯ ก็น่าจะเป็นที่จตุจักรครับ เพราะมีหลากหลาย สนนราคาก็ไม่แพง จะยืนต่อ นั่งต่อ ต่อแล้วเดินหายไป แล้วกลับมาต่อใหม่  ทำได้ ไม่มีใครตำหนิ 
การเลือกต้นไม้ที่ดี ไม่ว่าจะเป็นไม้ใบ ไม้ดอก หรือไม้ยืนต้น ขนาดกลาง หรือใหญ่  จะคล้ายๆกัน ต่างกันก็ตรงประเภท ชนิด และ พื้นดินของคุณที่บ้าน

ตรงนี้คงขอพูดไม้ใบ ไม้ดอก ที่จะเอาไปแต่งสวนหย่อม ก่อนครับ
ไม้ใบที่คุณจะเลือกซื้อ ขอให้พิจารณาใบ ว่าสมบูรณ์มากน้อยเพียงไร ทั้งต้น อย่าพิจารณาเพียงใบที่กำลังงามอย่างเดียว  ที่สำคัญ ควรมองว่ามันมีพวกเอเลี่ยนแฝงกายอยู่ด้วยหรือไม่ พวกไข่แมลง หรือเพลี้ย หรือเชื้อรา บนใบ  ควรพลิกดูใต้ใบให้หมดด้วยครับ   คนขายไม่ว่าหรอกครับ  ก็เราจะซื้อทั้งที ก็ต้องเลือกเอาที่มันดีต่อเรา และเราก็จ่ายเงิน  ไม่ใช่มาขอฟรีๆเมื่อไหร่กัน.

สภาพดินในกระถางที่เขาใส่ ตรงนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นดินขุยไผ่และใช้มะพร้าวสับมากหน่อย เพราะมันสะดวก เซฟต้นทุน ที่สำคัญ มันเหมาะแก่ในช่วงการเพาะพันธ์ เพื่อขาย  แต่อาจไม่เหมาะต่อการปลูกระยะยาวในบางกรณี
ทีให้ดูดินก็เพราะว่า ดินมันจะบอกเราหลายๆอย่างเกี่ยวกับพวกเอเลี่ยนเช่นกัน หนอนแมลงบางชนิด มีไข่อยู่ผวดินและใต้ดินเล็กน้อย  ก็ลองเขี่ยๆดูครับ  แต่หากเจอใส้เดือนแดงๆตัวเล็กๆ   นั่นโชคดี เพราะหมายถึงดินนั้น สมบูรณ์ และหากเอาเจ้าไส้เดือนไปเลี้ยงที่บ้านเรา เขา(เอ๊ะ หรือเธอหว่า เพราะมีสองเพศ)ก็จะช่วยพรวนดินให้เราอีกด้วย  ไส้เดือน ไม่มีอันตรายต่อต้นไม้ครับ

ลำต้น สมบูรณ์ไหม ดูเปลือกลำต้นครับ หากร่อน หากเป็นขุย  ลำต้นนั้นไม่ค่อยจะสมบูรณ์ และอาจชำกิ่งแก่ๆมาหลอกขาย

ลำต้นที่ดีก็ควรอวบ แข็งแรงได้ส่วนกับขนาดของต้น ไม่มีร่องรอยการริดกิ่งก้านมากนัก เพราะมันช้ำและจะโตช้า
ดูที่โคนต้นครับ  อย่าให้ออกสีดำ หรือดูแล้วมันรุ่ยๆ  เพราะนั่นอาจหมายถึงลโคนมันกำลังถูกปองร้ายจากเชื้อราในดิน ซึ่งไม่ส่งผลดีต่อการเจริญเติบโต

ก้มมองก้นกระถางเลยครับ  หากรากแทงทะลุออกมาดูสีสดๆ  ก็โอเค  หากทะลุออกมาแล้วออกสีคล้ำ ดูแก่ๆ ก็หมายความว่า ไม้นี้ขายไม่ออก มานาน  จะมีโอกาสแกรนหรือเปล่า?

หากดูแล้วรากยังไม่แทงออกจากรูก้นกระถาง ก็ลงอยกลำต้นดึงๆเบาๆ  หากคล้อยตามมือเราออกมา เล็กน้อย  แปลว่า ไม่ใช่ไม้อนุบาลที่เอามาขาย  แต่เป็นไม้เก่า ที่เอามาปนขาย  โอกาสเสี่ยงเรื่องการโตช้าและแกรน มีสูงทีเดียว เพราะเขาเพิ่งเอามาใส่กระถาง

จะดูว่าไม้นั้นอนุบาลเพื่อขายหรือไม่ก็มองขอบในของกระถางครับ  หากอนุบาสลนานๆแล้วขายไม่ออก จะมีคราบตะไคร่  แต่หากอนุบาลในเวลาที่เหมาะสมก็จะดูดี  ดินไม่ค่อยติดขอบเป็นรอยนัก  แต่หากหลอกขุดมาแล้วเอามาถ่ายลงใหม่ๆ  อันนี้ก็ลองโยกดู  ผมไม่แนะนำให้ซื้อ เพราะรากเขาอาจช้ำ หลังจากขุดมาแล้วเอามาลงกระถางขาย


(มีต่อ ครับ)


บันทึกการเข้า

ฤทธี  สีหจักร ลักษณ์ซ่อนเงื่อน
เถื่อนกำบัง  พังภูผา ม้ากินสวน
พวนเรือโยง  โพงน้ำบ่อ ล่อช้างป่า
ฟ้างำดิน  อินทร์พิมาน ผลาญศัตรู
ชูพิษแสลง  แข็งให้อ่อน ยอนภูเขา
เย้าให้ผอม  จอมปราสาท ราชปัญญา
ฟ้าสนั่นเสียง  เรียงหลักยืน ปืนพระราม
ดอกเข็มขาว
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 534



« ตอบ #5 เมื่อ: 24-04-2006, 10:11 »

คอยอยู่นะคะ ชอบมากๆเลย
  Laughing Laughing Laughing
บันทึกการเข้า

เสลา
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 514



« ตอบ #6 เมื่อ: 24-04-2006, 10:17 »

ติดตามอ่านอยู่ค่ะคุณ shane
ป้าเสลาก็มีเรื่องจัดสวนจะปรึกษาเหมือนกัน

คือหน้าบ้านป้าเป็นทางเท้าหน้าร้าน ซึ่งหันหน้ารับแสงอาทิตย์

ตอนนี้น้องก็มาจัดสวนหย่อมเล็กๆไว้เพื่อลดความร้อน
เพื่อว่าอย่างน้อยมองออกมาเห็นความเขียวของใบไม้
ก็ค่อยรู้สึกเย็นตาและเย็นใจขึ้น

ฝาก โจทย์นี้ เข้าคิวให้คุณshane กรุณาแนะนำให้ไอเดียด้วย
เพราะที่ทำไว้อยุ่นี้ ก็จัดปลูกแบบตามใจฉัน ไม่ได้มีหลักเกณฑ์อันใด
ป้าเสลาชอบต้นไม้ แต่ขี้เกียจดูแล  อาศัยจมูก(มือ)คนอื่นทั้งนั้นจ้า Cool

ขอบคุณคุณ shaneมากค่ะ


บันทึกการเข้า

duen_narak
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 406


I am what i am... You'll see....


เว็บไซต์
« ตอบ #7 เมื่อ: 25-04-2006, 17:26 »

อ๋า  Shocked   รูปต้นไม้อันล่าสุด   เก๋จังเลยค่ะ

อิอิ 

แล้วจะแวะมา  กอบโกยความรู้อีกนะคะ





บันทึกการเข้า

แวะไปเยี่ยมกันบ้างเน้อออออ  -- > http://duen-narak.bloggang.com
โหลดนานหน่อยนะคะ   บล็อคคนน่ารัก  ต้องรอค่ะ  ( ซะงั้น  555+ )
เก็ดถวา
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 2,753



« ตอบ #8 เมื่อ: 27-04-2006, 22:34 »

 Shocked  Shocked  Shocked

โอ่ยยยยย คุณป้า ต้นไม้คุณป้าเสลา น่ากลัวที่สุด อื๋ยยยยย

 Shocked  Shocked  Shocked
บันทึกการเข้า

Avada Kedavra!!!!!!!
500
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 391



« ตอบ #9 เมื่อ: 27-04-2006, 22:42 »

Shocked  Shocked  Shocked

โอ่ยยยยย คุณป้า ต้นไม้คุณป้าเสลา น่ากลัวที่สุด อื๋ยยยยย

 Shocked  Shocked  Shocked


อิ..อิ....เอามาปลอบใจ

บันทึกการเข้า

สาวบางกอก
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 81



« ตอบ #10 เมื่อ: 27-04-2006, 23:01 »

ดอกนี้ใช่ดอกพุดหรือเปล่าคะ คุณป้าเสลา หรือหนูจำผิด
ชอบดอกพุดมากๆ ทั้งสวย ทั้งหอมชื่นใจ ไม่ได้ชมและดมกลิ่นดอกพุดมานานเป็นปีแล้ว

ที่บ้านปีนี้มะม่วงอกร่องออกดกมากเลยค่ะ อร่อยสุดๆ ประหยัดไม่ต้องไปซื้อ แปลกดีบางปีก็ไม่ออกลูก พอจะออกก็ดกจนกินไม่ทัน
วันนี้มีรถขายมะม่วงเขียวเสวยผ่านแถวบ้าน 3โล 20 บาทเองค่ะ ชาวสวนแย่แล้ว กำไรเหลือบางไหมเนี้ย
บันทึกการเข้า
เสลา
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 514



« ตอบ #11 เมื่อ: 27-04-2006, 23:13 »


ดอกนี้ทางเหนือ เรียกว่าดอก เก็ดตะหวา ค่ะ คุณสาวบางกอก
มีกลิ่นหอมอ่อนๆ

คุณ 500 ช่างสรรหามากปลอบใจคุณ gedtawa

ป้าเสลาไม่แน่ใจว่าภาคกลางเรียกดอกอะไรอาจจะใช่ดอกพุด
แล้วจะค้นหามาบอกอีกทีนะคะ

ปีนี้ชาวสวนน่าเห็นใจมาก
ผลไม้ราคาถูกจนดีใจไม่ลง

ทั้งมะขาม มะม่วง ลำใย ส้ม...
บันทึกการเข้า

เก็ดถวา
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 2,753



« ตอบ #12 เมื่อ: 27-04-2006, 23:45 »

 Razz  ขอบพระคุณ คุณ 500 อย่างสูงค่ะ
สำหรับดอกเก็ดถวา ที่ทำมาปลอบใจเก็ดถวา
เก็ดถวาต้องขอขอบพระคุณคุณ 500 ม๊ากมากค่ะ

คุณป้าเสลาและคุณสาวบางกอก คะ
ดอกเก็ดถวา ที่บางกอกเรียก "ดอกพุดซ้อน" ค่ะ
แต่พี่จรัล บอกในเพลงว่า ดอกเหล่านั้นที่บางกอกก็มีนะคะ แต่มันไม่สวย 555
บันทึกการเข้า

Avada Kedavra!!!!!!!
ดอกเข็มขาว
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 534



« ตอบ #13 เมื่อ: 28-04-2006, 07:09 »

ดอกพุดซ้อนของคุณ500 สวยมาคะ ของSaveรูปเก็บนะคะ

ได้ความรู้อีกอย่างว่าดอกพุดซ้อน อีกชื่อหนึ่งเรียกว่าดอกเก็ดถวา
ชื่อเพราะจัง ขอบคุณคุณเก็ตถวาที่บอกคะ


ดอกพุดซ้อนหอมด้วยและปลูกง่ายคะ
ตอนนี้มะม่วงที่กรุงเทพเขียวเสวย กก.ละ20
แต่ที่บ้านคุณสาวบางกอกถูกยิ่งกว่าอีกคะ น่าเห็นใจชาวสวนอย่างที่พี่เสลาบอก

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-04-2006, 07:59 โดย ดอกเข็มขาว » บันทึกการเข้า

เสลา
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 514



« ตอบ #14 เมื่อ: 28-04-2006, 08:10 »


ระหว่างที่รอคุณ shane มาคุยเรื่อง สวนหย่อมต่อ...

เราน่าจะมาคุยกันเรื่องดอกไม้ไทยๆที่ คนรุ่นหลังเริ่มจะลืมเลือน
ช่วยกันแนะนำชื่อ รายละเอียดและ  นำรูปมาให้ชม น่าจะดีนะคะ

คุณเก็ดถวาและคุณ 500 คงจะรู้จักไม้ดอกทางเมืองเหนือดี
ลองนำมาเล่าสู่กันฟังเถอะค่ะ

คุณดอกเข็มขาว คุณสาวบางกอกและท่านอื่นๆขอเชิญนะคะ



ดอกเอื้องผึ้ง

เป็นกล้วยไม้สกุลหวายทางภาคเหนือจะนิยมปลูกตามคาคบต้นไม้
ดอกจะบานพร้อมๆกันหลายกอ  ออกดอกในช่วงฤดูร้อน ราวเดือนมีนาคม ถึง พฤษภาคม
สาวเหนือจะนิยมนำช่อดอกมาติดมวยผมยามแต่งกายในชุดล้านนาแบบดั้งเดิม



ฟ้อนเล็บ

บันทึกการเข้า

ลูกไทย หลานไทย
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,196


วันนี้วันดี วันที่เป็นไท


« ตอบ #15 เมื่อ: 28-04-2006, 09:21 »

ชอบกระทู้แบบนี้มากครับ

 Mr. Green
บันทึกการเข้า

Ŋēmŏ mē ĩmρưŋē ĺдċęşšįҐ
นายชด(หนุ่ม)
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 88



« ตอบ #16 เมื่อ: 28-04-2006, 09:28 »

ดินปลูกและ ปุ๋ย

(ขออภัยครับ ที่มาต่อนานไปเล็กน้อย )

ผมคงจะต้องเอาใจท่านที่ปลูกไม้กระถางในสวนหย่อมน้อยๆของคุณในห้องตามอพาร์ทเม้นต์ หรือคอนโดกันก่อน ส่วนเรื่องสวนหย่อมในบ้านที่มีพื้นที่ outdoor ground ขอนุญตยกไปไว้ตอนท้ายๆครับ

เนื่องจากเราปลูกไม้กระถางในพื้นที่ที่จำกัด อันเราแต่งให้เป็นสวนหย่อม ดังนั้น การเลือกดิน การผสมดิน และปุ๋ย สำคัญมาก กว่าการปลูกลงดินปกตินอกกระถางครับ

ประการแรก ดินที่เราใช้ในการปลูก ควรเป็นดินที่ร่วนพอควรและอมน้ำไม่มากนัก เพราะการปลูกในกระถาง หากดินอมน้ำมากจะทำให้ภาวะรากเน่ามาเยือน
ก็คงซื้อดินทั่วไปที่มีขายตามท้องตลาดครับ เอาแบบธรรมดาถุงละไม่กี่บาท  อย่างดีก็ 22 บาทต่อถุง(ประมาณ 25 กิโลกรัม) คุณสุภาพสตรีบางท่านก็แบกหลังแอ่นแล้ว  แต่ก็คงหาคนอาสาแบกส่งถึงห้องได้ไม่ยากนัก


ดินที่เราซื้อมานี้ ยังไม่สามารถเอามาใช้ได้เลยครับ ผมแนะนำให้ซื้อ กาบมะพร้าวสับ ที่ขายกันถงละไม่กี่บาท เท่าที่เห็นมีราคาถุงละ 5 บาท บางร้านขาย ห้าถุง 20 บาทเอง  

มะพร้าวสับนี่แหละครับ ที่เราจะมาผสมในดิน ในอัตราส่วน มะพร้าวสับ 1 ส่วนต่อ ดิน สองส่วน หรือ สามส่วน  ทั้งนี้แล้วแต่ชนิดของไม้   หากไม้นั้นต้องการดินที่โปร่ง ร่วน ก็ผสมมากหน่อย

ภาชนะที่เราจะใช้ก็ใช้ กาละมังเก่าๆก็ได้ครับ เทส่วนผสมที่ผมบอกไปผสมกัน  จากนั้น ฉีดน้ำลงเล็กน้อยลงไปให้หมาดๆ หรือพอแฉะ ที่ทำเช่นนั้น จะเป็นการง่ายในการนำดินลงกระถางและทำให้กลืนตัวกันระหว่างดินและกาบมะพร้าวสับ


ยังก่อนครับ  ยังไม่เสร็จ
ปุ๋ยครับ ปุ๋ยที่เราจะใช้ นั้น ต้องมี สองแบบ
แบบแรกเป็นปุ๋ยแบบเม็ดครับ  มีทั้งปุ๋ยเคมีและปุ๋ยอินทรีย์ ซึ่งหาซื้อได้ตามร้านทั่วไปที่ขายต้นไม้

แบบที่สองคือ ปุ๋ยแบบต้องผสมน้ำ หรือ ปุ๋ยที่อยู่ในสภาพของเหลว  ซึ่งตามร้านทั่วไปก็มี   ปุ๋ยแบบผสมน้ำนั้น เท่าที่ทราบอาจมียี่ห้อ poka ซึ่งนิยมใช้และดีพอควรทีเดียว เป็นปุ๋ยเคมีที่ใช้ผสมน้ำรดต้นไม้ เร่งดอก ผล ใบ เรียกว่ามีหลายสูตรแล้วแต่เราจะเลือกเลยทีเดียว  ส่วนปุ๋ยที่เป็นน้ำนั้น ปัจจุบันหาซื้อได้ยากหน่อย แต่พวกนี้จะดีมากคือ กันแมลงได้ด้วยในตัว

มีอีกอย่างก็คือ น้ำหมักชีวภาพ  ซึ่งถือว่าเป็นปุ๋ยก็ได้ เป็นสารกันแมลงบางชนิดก็ได้ครับ  พวกนี้ดีตรงที่มีจุลินทรีย์บางชนิดที่ช่วยในการย่อยสลายเศษอะไรต่อมิอะไรต่างๆในดินให้กลายเป็นแร่ธาตุได้อีกด้วย ราคาก็ไม่สูง  ขวดละไม่น่าจะเกิน 120 บาทเท่านั้น  อัตรส่วนผสมต่อน้ำ ก็ไม่มาก  ดังนั้นกว่าจะใช้หมดขวดก็นานทีเดียว คุ้มเงินครับ


นั่นแหละครับ  ปุ๋ยดังกล่าว จะเอามาผสมในดินไปเลย เพื่อให้กระจายไปทั่วดินที่เราจะนำลงกระถางครั้งแรก(รวมกับดินของเก่าที่ติดมาในกระถางที่ซื้อมาจากร้าน)

การที่เราผสมปุ๋ย ไว้ในดินดังกล่าว  ผลพลอยได้ก็เพื่อให้รากของต้นไม้นั้น ได้ พยายามชอนไช ไปเพื่อเกาะตัวให้แข็งแรง  เพราะรากของต้นไม้จะพยายามแทงไปหาแหล่งน้ำและอาหารตามธรรมชาติครับ  ที่สำคัญคือ เป็นการทำให้ดินในทุกๆจุดสะสมอาหารที่สำคัญไง้แก่ต้นไม้นั่นเอง  แต่เราต้องผสมในปริมาณพอควร อย่ามากไป  น้อยไปทำได้ครับไม่มีผล

ปุ๋ยมากไป บางคราวอาจเป็นการทำลายต้นไม้  เพราะจะทำให้ต้นไม้ได้แร่ธาตุ สารอาหารมากไป อาจเกิดอาการใบไหม้ ใบห่อ ก็ได้  จึงควรใส่ในปริมาณที่พอเหมาะ   หากเป็นปุ๋ยเม็ด  เขามีคำแนะนำให้แล้วว่าเป็นอย่างไรที่ข้างซอง  หากไม่มี ผมแนะนำให้ผสมเพียงครึ่ง ช้อนโต๊ะ ก็พอ

ปุ๋ยน้ำหรือปุ๋ยที่ต้องผสมน้ำนั้น ก็ขอให้เพียงแต่แก้วน้ำดื่ม สำหรับ กระถางขนาดกลางๆ ครับ

เมื่อผสมเสร็จแล้ว  คลุกเคล้าให้เข้ากัน  ก็เป็นอันเสร็จ  เราก็ตักดินนั้นเก็บลงถุงไว้เช่นเดิม  รอการปลูกต้นไม้ต่อไป
บันทึกการเข้า

ฤทธี  สีหจักร ลักษณ์ซ่อนเงื่อน
เถื่อนกำบัง  พังภูผา ม้ากินสวน
พวนเรือโยง  โพงน้ำบ่อ ล่อช้างป่า
ฟ้างำดิน  อินทร์พิมาน ผลาญศัตรู
ชูพิษแสลง  แข็งให้อ่อน ยอนภูเขา
เย้าให้ผอม  จอมปราสาท ราชปัญญา
ฟ้าสนั่นเสียง  เรียงหลักยืน ปืนพระราม
เสลา
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 514



« ตอบ #17 เมื่อ: 28-04-2006, 09:36 »

Yeah!!! Shane comeback Very Happy

บันทึกการเข้า

นายท้ายเรือ
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 760



« ตอบ #18 เมื่อ: 28-04-2006, 09:46 »

 Very Happy
กะว่าจะมาต่อว่า คุณ Shane ซะหน่อย ที่ปล่อยให้คนอื่นรอนาน
คุณ Shane เห็นเปล่าละ ป้าเสลา เขาบรรเลงทั้งกระทู้และความเห็นต่างๆ มากมาย
รอคุณShane กลับมาช่วยสร้างสีสรร ..( หึๆๆ น้อยใจนิดๆ ที่หายหน้าไปนะ )

บันทึกการเข้า

ทุกคนเกิดมาก็ต้องตาย แต่จะเหลืออะไรไว้ให้แผ่นดิน
นายชด(หนุ่ม)
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 88



« ตอบ #19 เมื่อ: 28-04-2006, 09:53 »

กระถาง

กระถางเป็นอะไรที่สำคัญทีเดียวนะครับ คือว่า มันทำให้ต้นไม้ดูสวยงามขึ้น มีค่าราคามากขึ้น และที่สำคัญ มันสามารถทำให้ต้นไม้นั้นตายหรือรอดก็ได้ครับ

กระถางบางชนิดที่วางขาย มีการตกแต่ง วาดลวดลายสวยงามมาก  แต่พอนำไปใช้  บางกระถาง ฆ่าต้นไม้แสนรักของคุณมาหลายรายแล้ว  นั่นเป็นเพราะ ผิวกระถางนั้น ถูกสีคลุมปิดจนช่องระบายอากาศและซึมระเหยของน้ำอุดตันไป ทำให้เกิดปัญหาหลายๆอย่างตามมาครับ

การที่เราปลูกในกระถางมันต่างจากดินทั่วไปก็ตรงนี้ ดินทั่วไปตามพื้น  จะมีการถ่ายเทอากาศและระเหยตัวของน้ำตามธรรมชาติเป็นปกติ  ยิ่งหากบ้านเราเมืองร้อน  แดดมาก  เวลากลางวัน ดินจะร้อนมาก  พอตกเย็นจนค่ำ  ดินก็จะคลายความร้อน  แต่กระถางล่ะครับ  พื้นที่หน้าตัด ไม่มาก การระบายความร้อนและอากาศออกทางผิวกระถางจึงสำคัญ  


บางท่านแปลกใจว่า  อ้าวก็ร้านเขาก็ใช้กระถางพลาสติกสีดำนี่นา  ทำไมใช้ได้
ก็ขอเรียนบอกว่า การอนุบาลของเรา กับ คนขายมันต่างกันครับ  เขามีวิธีการอนุบาล และสถานที่ที่ทำไว้เฉพาะ  แต่เราไม่ได้ซื้อมาอนุบาล เราซื้อมาปลูก  มันต่างกันในภาพรวมอยู่แล้ว

ความจริงคุณจะใช้กระถางแบบเขาก็ได้ครับ  แต่ การดูแลรักษา อาจต้องทำมากขึ้นอีกเล็กน้อย และที่สำคัญ กระถางพลาสติกนั้น หากปลูกไปสักระยะ กระถางนั้นอาจกรอบแตก เพราะพลาสิกที่เขาใช้ทำกระถาง คงไม่ลงทุนให้มีสารป้องกัน ยูวี ผสมอยู่ด้วยเหมือนอื่นๆ  เราจะเห็นได้จากภาชนะพลาสติก  หากไว้กลางแดด อย่างต่อเนื่องและนานๆ  มันจะเก่า และกรอบแตก.......นั่นเป็นปกติของข้อด้อยพลาสติกเกรดต่ำที่เอามาทำกระถางครับ


เอาเป็นว่า ผมขอแนะนำให้เลือกซื้อกระถางดินเผา ที่ไม่ฉาบเงา หรือสี ที่กระถาง  และหากมีการฉาบ ก็ขอให้เลือกกระถางที่เขามีเจาะรูเล็กๆ ตามข้างกระถางไว้ (มีครับ  มีขายกัน)  
มีกระถางก็ควรมีจานรอง มันจะช่วยให้เรามองเห็นว่า เราให้น้ำต้นไม้ไปมากไปหรือเปล่า โดยดูจากน้ำที่ล้นมาที่จานรอง และอีกประการคือ มันบอกเราได้ว่า ดินในกระถางแน่นไปหรือกำลังดี จากระยะเวลาที่เรารดน้ำลงไป กว่าที่น้ำจะไหลงออกมาเอ่อที่จานรอง  

การถ่ายต้นไม้จากเดิมลงกระถางนั้น  ก็ควรให้ความระมัดระวังการทำให้รากบอกช้ำ หรือทำให้ลำต้นเสียหาย  

วิธีการก็ควรต้องนุ่มนวลกะเขาเล็กน้อยนะครับ   การนำต้นไม้ออกจากกระถางเดิม บางทีก็ยุ่งยาก เนื่องจาก มันอัดแน่นไปแล้ว เราดึงออกมาง่ายๆไม่ได้  ก็คงต้องใช้วิธีการดันรูระบายที่ก้นกระถางเบาๆ จนมีการขยับตัว แล้วค่อยๆโยกซ้ายที ขวาที ทีละนิด  เอาต้นไม้พร้อมดินออกมา

เมื่อเอาออกมาแล้วขอแนะนำให้เอาไปแช่ในน้ำ ที่เราใส่ไง้ในถังก่อน  ในขณะที่เราเตรียมการเอาดินลงพื้นกระถางใหม่ เพื่อไม่ให้เกิดอาการรากแห้งเมื่อเจออากาศล้วนๆ


จากนั้นเมื่อลงดินลงพื้นกระถางใหม่ได้พอควรแล้วจึงนำต้นไม้ลงกระถางใหม่ โดยคุณต้องเอามือประคองเขาไว้แบบนั้น และค่อยๆใส่ดินลงไปเรื่อยๆโดยรอบอย่างใจเย็น ใส่ลงไป ก็อีดดินไปเบาๆ  อย่าแรง  จะแน่นไป  แต่หากไม่อัดเลยก็จะโปร่งไป  

การใส่ดินลงกระถาง และต้นไม้ เมื่อใส่แล้ว ควรอยู่ที่บริเวณโคนต้นดังเดิม อย่าไปปลูกให้ดินสูงขึ้นมากว่าเดิม เพราะอาจทำให้ลำต้นเน่าได้ในบางครั้ง ที่ไม้ยังไม่แข็งแรง

ดินที่ใส่กระถางควรห่างจากปากกระถางสัก หนึ่ง เซ้นติเมตร อย่าไปใส่เสมอปากกระถาง เพราะเมื่อท่านรดน้ำแล้ว ดินจะกระเด็นออกมาและเปื้อน
บันทึกการเข้า

ฤทธี  สีหจักร ลักษณ์ซ่อนเงื่อน
เถื่อนกำบัง  พังภูผา ม้ากินสวน
พวนเรือโยง  โพงน้ำบ่อ ล่อช้างป่า
ฟ้างำดิน  อินทร์พิมาน ผลาญศัตรู
ชูพิษแสลง  แข็งให้อ่อน ยอนภูเขา
เย้าให้ผอม  จอมปราสาท ราชปัญญา
ฟ้าสนั่นเสียง  เรียงหลักยืน ปืนพระราม
นายชด(หนุ่ม)
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 88



« ตอบ #20 เมื่อ: 28-04-2006, 10:17 »

ต้องขอโทษคุณป้าเสลาและคุณนายท้ายเรือด้วยครับ ที่หายไปไม่มาต่อ เพราะติดงานน่ะครับ
บันทึกการเข้า

ฤทธี  สีหจักร ลักษณ์ซ่อนเงื่อน
เถื่อนกำบัง  พังภูผา ม้ากินสวน
พวนเรือโยง  โพงน้ำบ่อ ล่อช้างป่า
ฟ้างำดิน  อินทร์พิมาน ผลาญศัตรู
ชูพิษแสลง  แข็งให้อ่อน ยอนภูเขา
เย้าให้ผอม  จอมปราสาท ราชปัญญา
ฟ้าสนั่นเสียง  เรียงหลักยืน ปืนพระราม
500
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 391



« ตอบ #21 เมื่อ: 28-04-2006, 10:43 »

เอาดอกไม้มาแต่งสวน


ดอกคำปู้จู้




ดอกตะล่อม


บันทึกการเข้า

เก็ดถวา
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 2,753



« ตอบ #22 เมื่อ: 28-04-2006, 10:52 »

เก็ดถวาชอบกระทู้นี้จังเลยค่ะ

เก็ดถวามีคำถามนึงนะคะ เป็นแนวไสยศาสตร์ 555

หลายคนบอกว่า คนปลูกต้นไม้ จะต้องมือเย็น (ซึ่งไม่เกี่ยวกับอารมณ์เย็นนะคะ)

เก็ดถวาปลูกต้นไม้ที่ไร ออกมางอกงามดีค่ะ

แต่เพื่อนของเก็ดถวา สมมุติว่าชื่อ ล. นะคะ...

ล.เป็นคนที่ปลูกต้นไม้ทีไร ตายเกือบทุกทีค่ะ แม้ไม่ตาย ก็แกรนๆ นะคะ

ทั้งๆ ที่ ล. เป็นคนใจเย็นมากๆ และทนุถนอมมากๆ

มีคนบอกเก็ดถวาว่า เพราะเก็ดถวามือเย็น ล. มือร้อน

เรื่องมือเย็น มือร้อน นี้เป็นความจริงไหมคะ และเราจะดูอย่างไรว่าใครมือเย็น มือร้อนคะ

เก็ดถวาขอขอบพระคุณล่วงหน้าสำหรับคำตอบค่ะ

บันทึกการเข้า

Avada Kedavra!!!!!!!
ดอกเข็มขาว
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 534



« ตอบ #23 เมื่อ: 28-04-2006, 11:45 »

 ดีใจจังได้อ่านต่อแล้ว รอมาหลายวัน ขอบคุณคะคุณshane  Smile

ดอกดาวเรือง เรียกว่า ดอกคำปู้จู้
บานไม่รู้โรย เรียกว่า  ดอกตะล่อม
หามาต่อนะคะ คุณ500

คุณเก็ดถวา ได้ยินมาเขาว่าแบบเนี่ยละคะ
จะจริงหรือไม่จริงไม่ทราบเหมือนกัน
บางคนบอกว่าต้องพูดคุยกับต้นไม้เวลารดน้ำ
หรือเปิดเพลงให้ฟัง จะออกดอกงามเลยคะ
แต่คิดว่าเป็นที่ความเอาใจใส่และความรักต้นไม้ของคุณปลูกมากกว่า
ที่ทำให้ต้นไม้งาม
 Razz
บันทึกการเข้า

นายชด(หนุ่ม)
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 88



« ตอบ #24 เมื่อ: 28-04-2006, 12:16 »

เก็ดถวาชอบกระทู้นี้จังเลยค่ะ

เก็ดถวามีคำถามนึงนะคะ เป็นแนวไสยศาสตร์ 555

หลายคนบอกว่า คนปลูกต้นไม้ จะต้องมือเย็น (ซึ่งไม่เกี่ยวกับอารมณ์เย็นนะคะ)

เก็ดถวาปลูกต้นไม้ที่ไร ออกมางอกงามดีค่ะ

แต่เพื่อนของเก็ดถวา สมมุติว่าชื่อ ล. นะคะ...

ล.เป็นคนที่ปลูกต้นไม้ทีไร ตายเกือบทุกทีค่ะ แม้ไม่ตาย ก็แกรนๆ นะคะ

ทั้งๆ ที่ ล. เป็นคนใจเย็นมากๆ และทนุถนอมมากๆ

มีคนบอกเก็ดถวาว่า เพราะเก็ดถวามือเย็น ล. มือร้อน

เรื่องมือเย็น มือร้อน นี้เป็นความจริงไหมคะ และเราจะดูอย่างไรว่าใครมือเย็น มือร้อนคะ

เก็ดถวาขอขอบพระคุณล่วงหน้าสำหรับคำตอบค่ะ



เรื่องความเชื่อของคนโบราณนั้น ผมมองว่าเชื่อไว้ก็ดีครับ
ส่วนใหญ่จะเป็น "กุศโลบาย" ของผู้หลักผู้ใหญ่ ที่จะทำให้เราทำในสิ่งที่ดีและปลอดภัย มากกว่า

อย่างเช่น การใส่ใบไม้ หรือดอกมะลิ ไว้ในขันน้ำดื่ม

ก็เพื่อว่าให้เราไม่รีบดื่ม ยามกระหาย  อาจสำลักได้ เพราะท่ออาหารและหลอดลมก็ใช้ท่อเดียวกัน แต่มีลิ้นปิดเปิดตามธรรมชาติเท่านั้น

กรณีของ มือเย็น หรือ มือร้อนที่คุณเก็ด กล่าวนั้น

โดยความเห็นส่วนตัวและที่ได้ยินมาส่วนหนึ่ง

ผมมองว่า  เป็นการเปรียบเทียบมากกว่า เพราะอุณหภูมิของคนเรามันก็ใกล้ๆกันนะครับ จะเย็น ร้อนกว่ากันก็ไม่น่าจะเท่าไร?

คือที่บอกว่า มือเย็น ก็คือ ให้ทำโดยนุ่มนวล เพราะต้นไม้ก็ช้ำ ก็เสียหายเป็น
เราต้องเข้าใจว่า เขาก็เป็นสิ่งมีชีวิต เหมือนเราครับ

เขาเจ็บ เป็นในแบบของเขา

เขามีชีวิตจิตใจ ในรูปแบบของพืช เราไม่อาจเอาคำว่าชีวิตจิตใจในรูปแบบของสัตว์ไปเป็นเกณฑ์ได้

มือร้อนก็คงหมายถึง ทำๆไปไม่ค่อยระวัง ไม่ถนอมสักเท่าไร มากกว่า
หรืออาจไม่ทราบวิธีการถนอมเช่น  รากของต้นไม้ บางทีไปวางบนพื้นปูนร้อนๆ ตอนเปลี่ยนกระถางไงครับ


แต่เรื่องชีวิต จิตใจในรูปแบบของพืชนี่ ทางวิชาการเขาก็มีการทำวิจัยนะครับ

เรื่องเปิดดนตรีคลาสสิกให้ต้นไม้ฟัง จะทำให้ต้นไม้งอกงามดี  หากมีดอกผล ก็จะให้งามดี

บางคนบอกว่าให้พูดคุยกับต้นไม้(ไม่เหมือนคนบ้าหรอกครับ)  แล้วเขาก็จะโตงดงาม

ผมมองว่า  ต้นไม้ เขาก็มีชีวิต และมีจิตใจ(ในรูปแบบของเขาที่เป็นพืช) เหมือนเรา
แต่ขาดปากพูด  ขาดองคาพยพเหมือนเรา
องคาพยพของเขา ก็จะเป็นไปในแบบการดำเนินชีวิตของเขา เขาก็น่าจะมีติตใจความรู้สึกในรูปแบบของเขาเหมือนกัน

ดังนั้นไม่ว่าเราจะทำอะไร ก็คงต้องทะนุถนอมเขา เหมือนกับที่เราก็อยากให้คนอื่นๆ มาทำดีๆกะเรา


มันเป็นกุศโลบายที่เราต่อยอด ที่จะคิดออกไปให้เกิดความสร้างสรรค์ทางอารมณ์และจิตใจได้เลยนะครับ

คนโบราณนี่ เก่งจริงๆ
บันทึกการเข้า

ฤทธี  สีหจักร ลักษณ์ซ่อนเงื่อน
เถื่อนกำบัง  พังภูผา ม้ากินสวน
พวนเรือโยง  โพงน้ำบ่อ ล่อช้างป่า
ฟ้างำดิน  อินทร์พิมาน ผลาญศัตรู
ชูพิษแสลง  แข็งให้อ่อน ยอนภูเขา
เย้าให้ผอม  จอมปราสาท ราชปัญญา
ฟ้าสนั่นเสียง  เรียงหลักยืน ปืนพระราม
นายชด(หนุ่ม)
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 88



« ตอบ #25 เมื่อ: 28-04-2006, 15:26 »

ขออนุญาตย้อนกลับไปที่ การออกแบบสวนหย่อมของคุณๆกันเองครับ
ขอให้ทำตามใจรัก  ไม่ต้องไปทำตามใจใคร  ชอบแบบไหน รักแบบไหน ทำไปแบบนั้น

แต่ที่ผมจะแนะนำ คือ วิธีออกแบบให้ดูสวยงาม ซึ่งอาจจะนำไปใช้ได้บ้างกับไอเดียของคุณๆ ไม่มากก็น้อยครับ

สวนหย่อมที่พื้นที่น้อยๆนั้น  ควรจะต้องเล่นระดับ เพื่อให้เกิดประโยชน์และความสวยงามแก่พื้นที่
การเล่นระดับนั้นทำไม่ยาก อาจทำเป็นทรงใดก็ได้ ตามใจ สูงต่ำ  แต่การเล่นระดับจะทำให้เกิดความสวยงามในกลุ่มต้นไม้นั้นๆเองอย่างคาดไม่ถึงทีเดียว

เมื่อเล่นระดับก็จะต้องมีฐาน  ก็ขอให้ใช้พวกอิฐมวลเบามาแต่งครับ เพื่อจะได้ไม่หนักไปนัก กับพื้นของเฉลียง หรือจะใช้วัสดุอื่นๆก็ได้ ตามแต่จะสะดวก  แต่ขอให้คำนึงถึงน้ำหนักและ การดูแลรักษาเรื่องเชื้อราและตะไคร่ด้วยเป็นสำคัญ


ประการต่อมา ก็คือ หากบางท่านสนใจเล่น เอื้อง  ก็ทำได้
โดยนำกิ่งไม้ขนาดย่อม มาทำ
เอากระถางพลาสติกนี่แหละครับ เทปูนลงไป  ปูนสำเร็จเดี๋ยวนี้มีขายครับ ถุงสีส้มๆ  ขนาดเท่าถุงข้าวสาร ราคาสักสามสิบบาท  ผสมน้ำแล้วก็ใช้ได้เลย

เอากิ่งไม้นั่นแหละ  (ยาวประมาณ เมตรยี่สิบ หรือ เมตรห้าสิบ  ) ขอซื้อจากร้านเขา หรือไปเดินๆหาเอาตามที่เขาตัดกิ่งไม้ทิ้งก็ได้.....เอาไปปักไว้กลางกระถางเลย  รอให้แห้ง ก็เสร็จ  กิ่งไม้ก็มีฐานยึดแล้ว   ทีนี้ก็ซื้อเอื้องที่เขาขายมาผูกไว้เลย  เลี้ยงง่ายจะตายครับ   ออกดอกทีก็สวย แถมไม่ต้องดูแลมากเหมือนกล้วยไม้


อ่างเลี้ยงปลา ครับ  เป็นหนึ่งในฟีเจอร์ที่อยากแนะนำ
อย่าไปใช้อ่างกระจก  ไม่สวยครับ  เอาหม้อดินเผานั่นแหละเลี้ยง  พวกปลาสอด  ปลาหางนกยูง  ก็ดูเก๋ไปอีกแบบครับ


ทีนี้คุณก็สามารถชื่นชมเป็นชั่วโมง กะสวนที่คุณรักได้แล้ว
บันทึกการเข้า

ฤทธี  สีหจักร ลักษณ์ซ่อนเงื่อน
เถื่อนกำบัง  พังภูผา ม้ากินสวน
พวนเรือโยง  โพงน้ำบ่อ ล่อช้างป่า
ฟ้างำดิน  อินทร์พิมาน ผลาญศัตรู
ชูพิษแสลง  แข็งให้อ่อน ยอนภูเขา
เย้าให้ผอม  จอมปราสาท ราชปัญญา
ฟ้าสนั่นเสียง  เรียงหลักยืน ปืนพระราม
โขงหลง
สมาชิกสามัญขั้นที่ 1
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 48


« ตอบ #26 เมื่อ: 02-05-2006, 20:25 »

 Very Happy
บันทึกการเข้า
(ลุง)ถึก สไลเดอร์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,026



« ตอบ #27 เมื่อ: 02-05-2006, 21:14 »

แวะมาเยี่ยมเยียนครับ
จะมาดูสวนหย่อมสักหน่อย
ไม่เห็นสักกะหย่อม
บันทึกการเข้า

(ลุง)ถึก สไลเดอร์
เสลา
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 514



« ตอบ #28 เมื่อ: 02-05-2006, 22:09 »


มาแล้ว  หลายๆหย่อม ให้ชมภาพรอคุณ Shane







บันทึกการเข้า

เก็ดถวา
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 2,753



« ตอบ #29 เมื่อ: 02-05-2006, 23:59 »




มาแปะภาพ รอพี่เชนมาเขียนต่อค่ะ









บันทึกการเข้า

Avada Kedavra!!!!!!!
(ลุง)ถึก สไลเดอร์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,026



« ตอบ #30 เมื่อ: 03-05-2006, 02:30 »

อ้าว...แล้วคอมเมนท์ของผมมันหายไปไหนนะเนี๊ยะ
บันทึกการเข้า

(ลุง)ถึก สไลเดอร์
Soft Heart True love!
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 55


อยู่อย่างต่ำ-กระทำอย่างสูง


« ตอบ #31 เมื่อ: 03-05-2006, 02:41 »

กระทู้ให้ความรู้ดีครับ

กำลังอยากจะจัดสวนอยู่พอดี

มีพื้นที่แต่ไม่มีงบ แนะนำวิธีจัดสวนแบบประหยัดด้วยนะครับ

 Very Happy
บันทึกการเข้า

พุทธบุตรทุกคนไม่มีกังวลในการรักษาชื่อเสียง มีกังวลแต่การทำความบริสุทธิ์เท่านั้น: พุทธทาสภิกขุ
นายชด(หนุ่ม)
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 88



« ตอบ #32 เมื่อ: 03-05-2006, 10:12 »

*-*คุณถึกสไลเดอร์

ผมต้องขออภัยมากๆครับ ที่ไม่สามารถจัดหารูปมาลงได้  ทั้งที่ผมมีมากมาย  แต่ ขอเรียนตามตรงว่า รูปส่วนใหญ่ เก็บจัดเตรียมไว้เพื่อใช้ในการเปิดตัวเว็บใหม่ที่กำลังมองหาช่องทางเปิดอยู่ และนิตยสารเกี่ยวกับการตกแต่งบ้าน สวนและสิ่งประดิษฐ์  ส่วนรูปภาพจากที่อื่นๆ  ที่พอหาได้ก็เกรงใจท่านเจ้าของความคิด ที่นำมาเผยแพร่ เพราะหลายๆภาพไม่ได้บอกว่าสถาปนิก หรือผู้ออกแบบเป็นใคร จึงไม่สามารถนำมาโพสต์ได้ด้วยมารยาททางวิชาชีพ ครับ    หากไม่มีอะไรผิดไปจากแผนเดิม  เมื่อผมสามารถเปิดเว็บได้แล้ว  ผมจะนำลิงก์มาแปะและเรียนเชิญคุณถึกและเพื่อนๆที่นี่ทุกท่านไปเยี่ยมชม ส่วนนิตยสาร ขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการดำเนินการในส่วน คอนเท้นท์และทีมงานประกอบการทำ ครับ


*-*คุณ Soft Heart True love

ขอบคุณมากครับ  ผมจะพยายามเข้ามาเติมให้มากที่สุดในส่วนที่อาจช่วยเพื่อนๆทำได้  โดยคอนเซปต์ของผมต้องการให้ทำการจัดสวนเองแบบประหยัดอยู่แล้วครับ 


*-*คุณป้าเสลาและคุณเก็ด 

ต้องขอบพระคุณมากๆทั้งสองท่านที่นำรูปมาช่วยปะครับ
บันทึกการเข้า

ฤทธี  สีหจักร ลักษณ์ซ่อนเงื่อน
เถื่อนกำบัง  พังภูผา ม้ากินสวน
พวนเรือโยง  โพงน้ำบ่อ ล่อช้างป่า
ฟ้างำดิน  อินทร์พิมาน ผลาญศัตรู
ชูพิษแสลง  แข็งให้อ่อน ยอนภูเขา
เย้าให้ผอม  จอมปราสาท ราชปัญญา
ฟ้าสนั่นเสียง  เรียงหลักยืน ปืนพระราม
หน้า: [1]
    กระโดดไป: