พ.ต.ท.ทักษิณ กลับได้ แต่.........?
ท่านพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ได้เปิดเผยถึงข่าวเกี่ยวกับการที่ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ขณะนี้พำนักอยู่ ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ และมีข่าวว่าจะเดินทางกลับประเทศไทย ว่า
".........ก็ได้พูดแล้วในวันที่แถลงข่าวให้คณะทูตานุทูตฟังว่า เป็นสิทธิของคุณทักษิณ ซึ่งจะกลับมา แต่โอกาสที่คุณทักษิณจะกลับมานั้น ก็ควรจะหารือกัน ผมเองก็เรียนได้ตรง ๆ ว่าคุณทักษิณได้โทรศัพท์มาคุยด้วย ฉะนั้นในเรื่องการเจรจาอย่างที่ผมได้บอกไปแล้ว ว่าเป็นเรื่องที่เปิด เป็นเรื่องที่สามารถหารือกันได้ ว่าความเหมาะสมอยู่ที่ใหน......"
อีกประโยคหนึ่งของท่านพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ ที่น่าสนใจมาก "ก็หารือกัน ผมได้เรียนท่านไปว่า ท่านมีสิทธิที่จะกลับมา เราไม่ได้หวงห้าม เพราะท่านเป็นคนไทย อันนี้เป็นสิทธิโดยกำเนิดของท่านเอง แต่หวังเวลาที่จะกลับมานั้นก็หารือกันก่อน"
เป็นคำให้สัมภาษณ์ที่ชัดเจนประกอบด้วยเหตุผลที่สมบูรณ์ทุกถ้อยกระทงความ โดยเฉพาะความที่ว่า
"..........เพราะท่านเป็นคนไทย อันนี้เป็นสิทธิโดยกำเนิดของท่านเอง........."
เมื่อเป็นสิทธิโดยกำเนิดของคนไทยที่ไปอยู่ต่างประเทศไม่ว่าการที่ไปอยู่นั้นจะมาจากสาเหตุใด สมัครใจไป ไม่สมัครใจไป ไปลี้ภัย แต่เมื่อต้องการจะกลับ ก็เป็นสิทธิโดยกำเนิดในฐานะคนไทย ที่จะกลับประเทศไทยได้
ที่เป็นปัญหาก็คือไม่ประสงค์จะกลับ และประเทศไทยต้องการตัวที่จะดำเนินคดีอาญา ก็จะต้องเป็นไปตามอนุสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนซึ่งเป็นเรื่องที่แต่ละรัฐจะต้องมีความตกลงกัน ถ้าหากไม่มีข้อตกลงกันก็เป็นสิทธิของรัฐที่จะตัดสินว่า จะส่งผู้ร้ายให้ตามที่มีคำขอหรือไม่
การส่งผู้ภัยข้ามแดนมาจากหลักที่ว่า รัฐมีอำนาจเหนือบุคคลสัญชาติของตนไม่ว่าจะอยู่ที่ใด แต่ทั้งนี้จะต้องปรากฏว่า เมื่อบุคคลผู้กระทำความผิดได้เดินทางเข้ามาอยู่ในประเทศนั้นเสียก่อน จึงจะดำเนินคดีที่จะลงโทษอาญาได้ การที่จะส่งตำรวจไปไล่จับในดินแดนของรัฐอื่นนั้นทำไม่ได้ เพราะแต่ละรัฐย่อมมีอำนาจอธิปไตยอยู่เหนือดินแดนของตน วิธีแก้ไขก็ต้องปฏิบัติตามอนุสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน ดังที่กล่าวมาแล้ว
อนึ่ง ในเรื่องการส่งผู้ร้ายข้ามแดน ก็ยังมีข้อยกเว้น ในบางความผิดที่รัฐผู้ถูกขอจะไม่ส่งกลับให้ ในกรณีที่เป็นความผิดทางการเมือง เรื่องการส่งผู้ร้ายข้ามแดนนี้ไม่เกี่ยวกับเรื่อง ของ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร
แต่เมื่อ พ.ต.ท. ทักษิณ ได้ใช้สิทธิโดยกำเนิดที่เป็นคนไทยกลับมาถึงประเทศไทยแล้ว จะตกเป็นผู้ร้ายตามประกาศ ฉบับที่ 1 ของคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือไม่
จะต้องพิจารณาจากคำแถลงการณ์ในการยึดอำนาจ เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 เวลา 23.50 น. ที่มีความสำคัญว่า
"........ด้วยเป็นที่แน่ชัดว่า การบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
ทำให้ประชาชนแตกแยก
ส่อในทางทุจริตประพฤติมิชอบ
หน่วยงานอิสระถูกครอบงำ
และมีพฤติกรรมหมิ่นเหม่พระบรมเดชานุภาพ
จึงมีความจำเป็นต้องยึดอำนาจการปกครองตั้งแต่บัดนี้.........."
เหตุผลในการยึดอำนาจนี้ยังตรงกับคำปรารภในรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย(ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2549 อีกด้วย
เมื่อรัฐบาลของพ.ต.ท.ทักษิณ มีความผิดฉกรรจ์ถึงขนาดนี้จะไม่ตกเป็นผู้ร้ายที่จะต้องถูกดำเนินคดีในนาทีแรกที่เข้ามาอยู่ในประเทศไทยได้อย่างไร ? ถ้า พ.ต.ท. ทักษิณ ไม่ตกเป็นผู้ร้าย ตามเหตุผลในการยึดอำนาจ
ฉันใดกลับกันก็ฉันนั้น
ปรีชา สุวรรณทัต
http://www.naewna.com/news.asp?ID=31212