มีผู้หลัก-ผู้ใหญ่กันเสียทีคอลัมน์ เดินหน้าชน
โดย นงนุช สิงหเดชะ
นับจาก 19 กันยายน จนถึงขณะนี้ ผู้เขียนไม่ได้ใส่เสื้อผ้าสีดำ หรือสิ่งใดที่เป็นสีดำแต่อย่างใด เหตุผลก็เพราะไทยเป็นเมืองร้อน สีดำเป็นสีที่ดูดความร้อน ขืนใส่ไปก็ทำความทรมานแก่ร่างกายเปล่าๆ
ผู้เขียนไม่ใช่คนสุดโต่ง ไม่ชอบมองอะไรแบบเหมาโหลยกเข่ง แบบตายตัวสำเร็จรูป ไม่ได้มองว่าใครจะเป็นเผด็จการหรือประชาธิปไตย เพราะเปลือกนอกที่หุ้มห่อเขาอยู่
ไม่ได้คิดโดยอัตโนมัติว่าทหารเท่านั้นจึงจะเป็นเผด็จการ ไม่ได้มองว่าพลเรือนใส่สูทราคาแพง ผูกเน็คไทเวอร์ซาเช่เท่านั้นจึงจะเป็นคนที่มีจิตใจประชาธิปไตย แต่มุ่งมองพฤติกรรมและการกระทำของบุคคลนั้นเป็นหลัก
ไม่กินโค้กและแมคโดนัลด์ ไม่ใช่เพราะอยากต่อต้านเพียงเพราะว่ามันเป็นสินค้าอเมริกัน แต่ไม่กินเพราะเหตุผลด้านคุณค่าโภชนาการเป็นหลัก แต่ไม่ใช่ว่าจะปิดประตูตายไม่กินเสียเลย อนุญาตให้ตัวเองกินบ้างนานๆ ครั้ง เพื่อเปลี่ยนรสชาติ แต่ปกติก็จะหันกลับไปสู่อาหารหลักแบบไทยๆ ที่ชอบ คือส้มตำ ต้มยำ น้ำพริก
นับจากมีคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ มีหัวหน้าคณะรัฐมนตรีชื่อ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ก็รู้สึกได้อย่างเดียวว่าได้พบกับความเงียบสงบ อย่างที่โรงแรมตามชายหาดเขาโฆษณาว่า Tranquility ที่ขาดหายไปจากชีวิตเกือบ 6 ปี
เสมือนหนึ่งได้นั่งใต้ต้นมะพร้าวตามริมชายหาดอันเงียบสงบ พร้อมกับฟังเพลงแนวคลาสสิค ที่เปิดให้เราได้ใช้จินตนาการส่วนตัว ไม่ต้องมีคนมายัดเยียดร้องเนื้อเพลงน่าเกลียดๆ ยัดหูเกือบ 6 ปีนั้น ผู้เขียนรู้สึกว่าเป็นภาวะที่น่ารำคาญ หนวกหู เสมือนไปนั่งอยู่ในดิสโก้เธคที่ไร้รสนิยม เปิดเพลงโฉ่งฉ่างเสียงดังหนวกหู ได้ยินแต่เสียงจิ๊กโก๋ผรุสวาทแต่คำหยาบ พูดมากและขี้โม้ ขว้างแก้ว ปาขวด บางครั้งก็ยกพวกตีกันมาบัดนี้รู้สึกว่าบ้านเมืองมีผู้หลัก ผู้ใหญ่ กันเสียที ได้คนขับรถที่มีความสุขุม ขับรถนุ่มนวล ขับรถถูกต้องตามกฎความปลอดภัยเสียที
คนขับรถคนเก่า เป็นพวกชอบความเร็ว ใจถึง ไม่เคยฝึกหลักสูตรขับรถในเชิงป้องกันอุบัติเหตุ (Defensive driving) แถมไม่มีความรู้เบื้องต้นในการดูแลรักษารถอีกด้วย เช้าขึ้นมาไม่เคยเปิดดูระดับน้ำในหม้อน้ำ ระดับน้ำมันเบรก น้ำมันเครื่อง กว่าจะรู้ตัวอีกทีรถก็พังเสียหายหนักไปแล้ว
คนขับรถคนเก่าเขาเป็นพวก "ฝีเท้าเหนือฝีมือ" ซึ่งเป็นลักษณะของนักขับรถส่วนใหญ่ในเวลานี้ คือชอบขับเร็วเพื่อโชว์ออฟ โชว์สาว ว่าตัวเองแน่ แต่เมื่อเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินก็ไม่รู้วิธีการที่ถูกต้องในการควบคุมรถ เพราะไม่เคยฝึกหัดมาถ้าเป็นนักขับรถที่ถูกฝึกมาตามหลักสูตร Defensive driving ก่อนเข้าโค้งเขาจะทราบว่าต้องลดความเร็วและใช้เกียร์ให้เหมาะสมก่อนเข้าสู่ตัวโค้ง เมื่อเข้าสู่ตัวโค้งแล้ว เท้าเขาจะละจากเบรกและคลัชต์ เขาจะไม่เหยียบเบรกหรือคลัชต์ เพราะการทำเช่นนั้นจะทำให้รถลอยไม่ยึดเกาะถนน รถจะเสียหลักพังพาบได้ง่าย
นิก ลีสัน นักค้าเงิน-ค้าหุ้นวัย 26 ปี และอดีตผู้จัดการธนาคารแบริ่งส์ สาขาสิงคโปร์แห่งอังกฤษ ทำให้ธนาคารแบริ่งส์อายุ 200 ปีของอังกฤษซึ่งเก่าแก่ที่สุดในโลกต้องล้มครืนมาแล้วเมื่อปี 2538 เหตุเพียงเพราะไว้ใจให้คนหนุ่มซึ่งไม่มีวุฒิภาวะและความรอบคอบ
ขณะนี้กำลังเรียกร้องให้มีการยกเลิกกฎอัยการศึก โดยอ้างเหตุผลเรื่องการลิดรอนเสรีภาพภายในประเทศ อีกเหตุผลหนึ่งก็อ้างถึงภาพลักษณ์ของประเทศในสายตาโลก ซึ่งเชื่อว่าคณะปฏิรูปฯย่อมรู้ดีว่าจังหวะใดจึงจะยกเลิกกฎอัยการศึกนี้
ถึงแม้จะมีแรงกดดันจากภายนอกประเทศ โดยเฉพาะจากสหรัฐอเมริกา แต่เชื่อว่าไม่น่าซีเรียส เพราะอเมริกาแค่เต้นตามเพลงและคาถาประชาธิปไตยเท่านั้น ดูจาก ราล์ฟ บอยซ์ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เข้าพบ พล.อ.สุรยุทธ์ เป็นชาติแรก ก็รู้แล้ว
นอกจากนี้หลายคนในคณะปฏิรูปฯ ทราบดีว่านายบอยซ์คิดอย่างไร และนายบอยซ์ก็ทราบตัวเองดีว่าเขาอยู่ที่ไหนในคืนรัฐประหาร
แน่นอนไทยต้องแคร์สายตาชาวโลก แต่ต้องเป็นการแคร์ในระดับที่เหมาะสม ไม่มากไม่น้อยเกินไป เพราะในความเป็นจริงแล้วแม้จะมีการประกาศกฎอัยการศึกเป็นลายลักษณ์อักษร แต่การบังคับใช้หรือในทางปฏิบัติ ก็ไม่ได้กระทบต่อวิถีชีวิตประจำวันมากมาย
บางทีก็อาจไม่ได้เลวร้ายไปกว่ากฎอัยการศึกเงียบ ภาวะฉุกเฉินเงียบ ที่รัฐบาลทักษิณถึงแม้จะไม่ได้ประกาศใช้แต่ในทางปฏิบัติตลอดเวลา 5-6 ปีนั้น ก็เหมือนกับมีกฎอัยการศึกและลิดรอนเสรีภาพอยู่แล้ว
แต่พวกนักประชาธิปไตยแต่เปลือกอย่างหมอ 1-2 คน ที่อ้างตัวว่าเป็นนักพิทักษ์ประชาธิปไตยและออกมาคัดค้านการรัฐประหารแบบนกแก้วนกขุนทอง
รวมทั้ง "แกะดำ" ในคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนคนหนึ่ง ตลอดระบอบทักษิณแทบไม่ได้คิดจะพิทักษ์สิทธิเสรีภาพประชาชนในช่วงที่ถูกระบอบทักษิณย่ำยีเลย ตรงกันข้าม "แกะดำ" คนนี้กลับมีท่าทีสนับสนุนคาราวานคนจนด้วยซ้ำ
รวมทั้งบางคนที่ขึ้นเวทีงาน 14 ตุลา เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม อย่างนายศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ นั้น ฟังแล้วรู้เลยว่านี่เป็นการสำรากบะหมี่สำเร็จรูปประชาธิปไตยจากตะวันตกขนานแท้
อ้าง 16 ล้านเสียงของ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่ทำไมไม่ไปดูโพลหลังการรัฐประหารด้วยว่าคนทั่วประเทศกว่า 80% เห็นด้วยกับการรัฐประหาร นักธุรกิจผู้ประกอบการส่วนใหญ่ก็เห็นด้วย
บางทีก็ต้องยอมรับว่านี่คือทางเลือกและการตัดสินใจของประชาชนจำนวนไม่น้อยในสถานการณ์เฉพาะครั้งนี้เหมือนกัน
http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01act06181049&day=2006/10/18บังเอิญคิดเห็นและรู้สีกเหมือนกันกับท่านผู้เขียนคอลัมน์นี้
จึงนำมาให้อ่าน แทนใจ
