คนอย่างคุณ เขียนบทสวดมนต์ให้พระก็ได้ เขียนกติกาแบ่งทรัพย์ให้แก่โจรที่ปล้นมาก็ได้ ผมทนประชุมร่วมกับพวกคุณไม่ได้อีกแล้ว
นิยามของบุรุษผู้นี้ จากคำพูดของมหาปราชญ์ทางการเมืองไทยของไทย พล.ต.ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช เมื่อ ปี 2527 บทสรุปที่ไม่ต้องอธิบายค่ะ หวังว่าคงจะไม่แถชิงตำแหน่งประธานสภากับเขานะคะ บ้านเมืองจะได้ไม่ฉิบหาย
อ้างอิง
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9490000129368 ถ้า มีชัย ฤชุพันธ์ คิดและเชื่อ เพียงแค่ว่าการเขียนบทความเรื่อง ความรับผิดชอบของนายกรัฐมนตรี ของท่านเป็นประจักษ์พยานที่แสดงว่าท่านไม่ใช่ พรรคพวก ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และเป็นเหตุผลเพียงพอที่ทำให้ ไม่สมควรถูกต่อต้านไม่ให้รับตำแหน่งประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ก็ขอบอกว่าท่านกำลัง คิดผิดมหันต์, หลงประเด็นอย่างหนัก เพราะเหตุผลหลักอันเป็นจุดร่วมที่ทำให้มีคนต่อต้านท่านมากก็คือ ความเป็นเนติบริกรที่มากความสามารถ แต่ไร้จุดยืน ก็อย่างที่ เซี่ยงเส้าหลง ให้นิยามความเป็นตัวท่านจากคำพูดของมหาปราชญ์ทางการเมืองของไทย พล.ต.ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช เมื่อ ปี 2527 นั่นแหละ ...คนอย่างคุณ เขียนบทสวดมนต์ให้พระก็ได้ เขียนกติกาแบ่งทรัพย์ให้แก่โจรที่ปล้นมาก็ได้ ผมทนประชุมร่วมกับพวกคุณไม่ได้อีกแล้ว. สภานิติบัญญัติชุดปัจจุบันไม่สมควรจะมีประธานในลักษณะนี้ ประธานสภานิติบัญญัติ คนที่จะมีการเลือกกันในวันอังคารที่ 24 ตุลาคม 2549 จะต้องมีลักษณะ เป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนแปลง, เป็นสัญลักษณ์ว่าคณะทหารที่ยึดอำนาจจะไม่เล่นกลเพื่อสืบทอดอำนาจ และ ไม่เป็นสัญลักษณ์ของนักธุรกิจที่เข้ามาทำมาหากิน ตำแหน่งนี้ยังมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อ เสถียรภาพของคณะปฏิรูปฯ, ศรัทธาของประชาชนที่มีต่อคณะปฏิรูปฯ เพราะผู้มาดำรงตำแหน่งเป็น คนที่สังคมประชาธิปไตยปฏิเสธ ก็จะก่อให้เกิด ความขัดแย้งในสังคม จะเป็นการเพิ่มศักยภาพในอัตราเร่งให้กับ พลังประชาธิปไตยบริสุทธิ์, พลังระบอบทักษิณแฝงเร้น ขณะที่ พลังประชาธิปไตยที่ต่อต้านระบอบทักษิณอย่างเอาการเอางาน ก็จะเริ่ม วางเฉย และในที่สุดการเมืองไทยที่มีลักษณะ 3 ก๊ก ก็จะแปรสภาพเหลือเพียง 2 ก๊ก บ้านเมืองมีโอกาสที่จะกลับเข้าสู่ ภาวะวิกฤต ได้อีกครั้งไม่ยาก