ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
19-04-2024, 08:06
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  ดร.เขียน ธีรวิทย์ ฟังธง..."ทหารมีสิทธิ์ปฏิวัติ"...ฮ่า ฮ่า 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: 1 2 [3]
ดร.เขียน ธีรวิทย์ ฟังธง..."ทหารมีสิทธิ์ปฏิวัติ"...ฮ่า ฮ่า  (อ่าน 11169 ครั้ง)
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #100 เมื่อ: 18-10-2006, 23:58 »

ไม่ออกลายเหมือน ก็แปลว่าออกลายไม่เหมือนกัน 1. แต่ก็ต้องออกลายบ้างเพราะลงทุนเยอะ

2. มีประสบการณ์แล้ว ฉลาดหน่อยคงไม่เดินไปทางเดิม คราวนี้ก็ไม่มีมหาจำลองมาปลุกระดม

คุมสถานการณ์ง่ายกว่า ทักษิณก็ดูปอดๆ แต่เทียบไอคิวกันแล้วก๊วนบิ๊กสุฉลาดกว่าก๊วนนี้

มาก ยังไม่รอด ถ้าบริหารจัดการเรื่องปากท้องไม่ได้มีม็อบของแท้แล้วตอนนั้นดันมีคนบ้าๆ

ซักคนมาปลุกระดมเพิ่มก็คงไม่รอดเหมือนกัน แต่ตอนนี้ไม่มีอะไรหรอก ทักษิณรักสงบ


1. แต่ก็ต้องออกลายบ้างเพราะลงทุนเยอะ
    คุณชอบแถอธิบายได้หรือไม่ว่าพวกเขาลงทุนเยอะ ลงทุนเป็นอะไรบ้าง Question

2.มีประสบการณ์แล้ว ฉลาดหน่อยคงไม่เดินไปทางเดิม
    ถ้าเขาไม่เดินทางสายเดิม ไม่ดีหรือ ถ้าเขาไม่เดินทางสายรัฐประหารเดิมและทักษิณ
   ประชาชน(ยกเว้นคนรักทักษิณ)น่าจะพอใจกว่า
Exclamation

บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
NiTeLiGhT
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 147


« ตอบ #101 เมื่อ: 19-10-2006, 00:20 »

ความชอบธรรม ไม่เกี่ยวกับการทำรัฐประหาร

การทำรัฐประหาร ไม่จำเป็นต้องอาศัย คำว่า ชอบธรรม หรือไม่

แต่การทำรัฐประหาร ครั้งนี้  ถือว่าเป็นการตัดสินใจ ที่ถูกต้อง และถูกเวลา

เพราะการตัดสินใจที่ถูกต้องครั้งนี้ ของผู้นำ คปค ช่วยรักษาชีวิตและเลือดเนื้อ

ประชาชนเอาไว้ และบรรเทาเหตุร้าย เหตุการณ์รุนแรง จากไอ้ชาติชั่ว ที่มันย่ำยีแผ่นดินไทย

มันคือ ความถูกต้องในการตัดสินใจของผู้มีอำนาจ(กำลังทหาร) ที่จะทำเพื่อชาติบ้านเมือง...
บันทึกการเข้า
snowflake
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,207



« ตอบ #102 เมื่อ: 19-10-2006, 00:28 »


นักรัฐศาสตร์ที่ไม่ได้สนับสนุนการทำรัฐประหาร แต่ไม่ได้ต่อต้านการทำรัฐประหารคราวนี้ เพราะประชาชนเลือกที่อยู่กับทางเลือกใหม่ คณะปฏิรูปการปกครองฯ และรัฐบาลใหม่ที่จะนำไปสู่การปกครองแบบระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขในหนึ่งปีข้างหน้า แทนการจมปลักกับระบอบทักษิณ เผด็จการจากการเลือกตั้งหรือเผด็จการเสียงข้างมาก ที่ใช้นิติกรบริการและอลัชชีกฏหมายสร้างกฎเกณฑ์ กฏหมายตามใจชอบของทักษิณ...


"ปลัก" ไหนก็ไม่น่าจมทั้งนั้นค่ะ

ที่ผ่านๆ มามีแต่นักการเมืองเท่านั้นที่โกง?
ข้าราชการบริสุทธิ์ใสสะอาด ไม่มีผิดใดๆ?
ไม่ต้องมีการตรวจสอบอะไรก็ได้?
จงเชื่อต่อไปด้วยรักและศรัทธา?

ผู้มีปัญญาย่อมเห็นว่าที่กำลังเกิดขึ้นและเป็นไป
เข้าข่าย “ทีใครทีมัน พวกใครพวกมัน” บ้างหรือเปล่า?
ควรช่วยกันเฝ้าจับตามอง ไม่ใช่แก้ตัวให้
หนึ่งปีโกงไม่ได้มากเท่าไหร่ ยอมๆ เขาไป
เป็นค่าเหนื่อยค่าเสี่ยงตายค่ากำจัดทักษิณไป?
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-10-2006, 05:20 โดย snowflake » บันทึกการเข้า

Even the smallest person can change the course of the future.
eAT
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,066



« ตอบ #103 เมื่อ: 19-10-2006, 09:54 »

ใครๆ ก็โกงได้ ทรท ก็โกงได้ คปค ก็โกงได้ รบ. สุรยุทธ ก็โกงได้
รวมที้ง "นักวิชาการ" ก็โกงได้เหมือนกัน

เพียงแต่ ทรท มันเห็นแล้วว่าโกงชัดๆ แต่ รบ. ชุดนี้ยังไม่เห็น ต้อง
จับตามองต่อไป เพียงแต่เรื่องด่วน คือการจับ ทรท เข้าคุกก่อน
บันทึกการเข้า
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #104 เมื่อ: 19-10-2006, 11:06 »

ตกลงคุณ CanCan ชอบทหารมาก
จนเห็นดีเห็นงามอยากให้มาทำรัฐประหาร “เป็นประจำ” จริงๆ น่ะเหรอ
อุตส่าห์คิดแก้ตัวแทนให้มาตลอดว่าเป็น Thaksinophobia
ถึงหลงใหลได้ปลื้มกับรัฐประหาร “ครั้งนี้”
แต่ยิ่งอ่านๆ ไป โดยเฉพาะกระทู้นี้ ชักไม่แน่ใจ
ว่าจะไม่ใช่อารมณ์ชั่ววูบ แต่เป็นความคิดถาวร

 

ผมคิดว่ามันขึ้นกับสภาพการในแต่ละห้วงเวลา

14 ตุลา 16 เราต่อต้านเผด็จการทหาร เพราะเค้าทำการปฏิวัติตัวเอง ล้มล้างรัฐธรรมนูญที่ร่างกันมา 11 ปี

6 ตุลา เราต่อต้าน การกลับมาของ "เณรถนอม" แต่ถูกเบี่ยงประเด็นเป็นการกระทำของ"คอมมูนิสต์" จนเกิดเหตุการณ์"วันล้อมปราบ"

พฤษภา 35 เราต่อต้านการ "สืบทอดอำนาจ" ของเหล่าทหาร ( แม้วันที่ที่เค้าทำการปฏิวัติ จะมีดอกไม้ไปเสียบปากกระบอกปืน )

19 กันยาย 2549 เป็นอีกเหตุการณ์หนึ่ง ซึ่งไม่มีใครคิดว่าจะเกิดเหตุขึ้นมาได้

ถึงยังไงก็ต้องปล่อยให้เหตุการณ์ดำเนินต่อไป ใช่ว่าปลื้มกับเหตุการณ์ แต่พอเดาได้ว่าเมื่อประชาชนต่อต้านหน้าเหลี่ยมไปเรื่อย ๆวันหนึ่งก็ต้องมีเหตุต้องเปลี่ยนมือผู้ถืออำนาจ ด้วยความรุนแรงไม่วันใดก็วันหนึ่ง

ผมชอบนะที่ใครซักคนหนึ่งบอกว่า "นี่เป็นการปฏิวัติของประชาชนโดยอาศัยมือของทหาร"

แค่นั้นเองครับ...
บันทึกการเข้า

Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #105 เมื่อ: 19-10-2006, 11:32 »

ไม่ยอมให้ตรวจสอบก็ต้องสงสัยและเรียกร้องให้มีการทำ
ไม่ชอบ double standard หรือศรัทธาหน้ามืด
คนมาก เรื่องมาก หากไม่มีระบบตรวจสอบ
ก็ยากจะเชื่อว่าไม่มีการทุจริต ไม่ว่าผู้ใหญ่รับรู้หรือไม่

สตง. - คตส. - ปปช. 3 หน่วยงานนี้ สามารถตรวจสอบได้อยู่แล้ว ( ได้รับการเปิดไฟเขียวจาก คปค. )

ที่สำคัญ ประเด็นที่อีหลักอีเหลื่อ คือเรื่อง "ผลประโยชน์ทับซ้อน" ของรัฐบาลหน้าเหลี่ยมซึ่ง"รัฐธรรมนูญและกฎหมายเดิม" เอาผิดไม่ได้

ดังนั้น รัฐบาลคนแก่ กำลังจะเสนอ"กฎหมายต่อต้าน ผลประโยชน์ทับซ้อน" โดย รมต.ประจำสำนักนายก...

รอฟังนะครับ...ความจริงใจต่อบ้านเมืองหรือสังคมโดยรวม มันพิสูจน์กันไม่ยากครับ
บันทึกการเข้า

NiTeLiGhT
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 147


« ตอบ #106 เมื่อ: 19-10-2006, 11:45 »

ไม่ออกลายเหมือน ก็แปลว่าออกลายไม่เหมือนกัน แต่ก็ต้องออกลายบ้างเพราะลงทุนเยอะ

มีประสบการณ์แล้ว ฉลาดหน่อยคงไม่เดินไปทางเดิม คราวนี้ก็ไม่มีมหาจำลองมาปลุกระดม

คุมสถานการณ์ง่ายกว่า ทักษิณก็ดูปอดๆ แต่เทียบไอคิวกันแล้วก๊วนบิ๊กสุฉลาดกว่าก๊วนนี้

มาก ยังไม่รอด ถ้าบริหารจัดการเรื่องปากท้องไม่ได้มีม็อบของแท้แล้วตอนนั้นดันมีคนบ้าๆ

ซักคนมาปลุกระดมเพิ่มก็คงไม่รอดเหมือนกัน [size=12pt]แต่ตอนนี้ไม่มีอะไรหรอก ทักษิณรักสงบ[/size]

[size=14 :slime_smile:pt]ขืนไม่สงบ กระดี้กระด๊า เดียวก็โดนพานท้ายปืนตบหัวคว่ำเอาหรอก

แน่จริงลองกลับไทย ดูสิ คราวนี้ นี้คาร์ไม่ต้องบ๊อง ไม่ต๊อง ไม่บวม แน่ๆ อาจจะโดนของจริง
[/size]
บันทึกการเข้า
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #107 เมื่อ: 19-10-2006, 18:59 »

เกรงว่าจะมองอาจารย์เขียนผิด ๆ ขอนำบทความของอ.เขียน เมื่อปี 48 มาประกบ สังเกตเรื่อง กฎหมายลายลักษณ์อักษรนะครับ
ยิ่งเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ค่อนข้างชัดเจน...แก้บางมาตรา...
................................
ดร.เขียน ธีระวิทย์ "ไทยมีนักตีความรธน.มากเกินไป"

วันอาทิตย์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2548
   
"หากตราบใดที่สังคมไทยเป็นสังคมที่กระแสสร้างได้ ควบคุมได้ โดยอำนาจการเงิน อำนาจการเมือง และบรรยากาศอย่างนี้ก็คงจะไม่เอื้ออำนวยที่จะมาแต่งตั้งส.ส.ร.แก้รัฐธรรมนูญ เพราะผู้มีอำนาจเงินก็จะมาคุมได้อีก"

" หากใช้สามัญสำนึกของมนุษย์ว่าอะไรคือเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ และให้ความสำคัญกับปัญหาคนเพื่อผลประโยชน์ของประเทศ ก็หมดเรื่อง ทีนี้พอมาแกะตัวอักษรพูดกันมันเลยกลายเป็นปัญหา เพราะมีพวกหัวหมอออกมาตีความเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองและพรรคพวกมันมีมากเกินไป "

มวลชนจะกลับมาหากทุจริตมากขึ้น

ชนวนสำคัญที่เป็นเหตุให้นายเสนาะ เทียนทอง ประธานที่ปรึกษาพรรคไทยรักไทยจำต้องสวมหัวใจสิงห์ออกมาท้าชน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หัวหน้าพรรคไทยรักไทย แบบชนิดที่เรียกว่าเกือบจะ"ตัดบัวไม่เหลือใย"กันแล้ว หลังควันหลงการประชุมร่วม 2 สภาพิจารณาเรื่องเร่งด่วนเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญฉบับราชอาณาจักรไทย

โดยประเด็นหนึ่งที่ทำให้สิงห์เฒ่าแห่งค่ายวังน้ำเย็นลุกขึ้นอภิปราย ก็คือขอให้มีการ"ปลดล็อก"ข้อห้ามส.ส.ต้องย้ายพรรคก่อนการเลือกตั้งภายใน 90 วัน แต่ดูเหมือนข้อเรียกร้องดังกล่าวแม้จะมีหลายฝ่ายที่เห็นด้วย หากเอาเข้าจริงแล้วดูเหมือนว่าจะแก้ไขอะไรไม่ได้มากนัก กระนั้นความขัดแย้งที่เกิดขึ้นทำให้เกิดคำถามว่าผลกระทบจากความเข้มแข็งทางอำนาจของพรรคการเมืองที่เกิดจากหลักรัฐธรรมนูญนั้นเป็นสิ่ง
พึงประสงค์หรือไม่ และเมื่อมีปัญหาแล้วทางออกควรเป็นอย่างไร

ศ.ดร.เขียน ธีระวิทย์ อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ และอดีตผู้อำนวยการสถาบันเอเชียศึกษาแห่งจุฬาลงกรณ์ ในฐานอดีตสภาร่างรัฐธรรมนูญ(ส.ส.ร.) กล่าวว่า ข้อเถียงตอนร่างรัฐธรรมนูญที่จะให้ ส.ส.สังกัดพรรคหรือไม่ ในขณะนั้นแบ่งเป็น 2 ฝ่าย ในฐานะส.ส.ร.เสียงข้างน้อยก็ไม่เห็นด้วยกับการที่บังคับให้ส.ส.ต้องสังกัดพรรค เพราะเห็นว่าหากส.ส.สังกัดพรรคและคุมโดยหัวหน้าพรรคจะทำให้ส.ส.ไม่เป็นตัวของตัวเอง

"ปัญหาคุณเสนาะ ก็เป็นเช่นนั้น และถือเป็นปัญหาพิเศษที่ส.ส.ร.เองก็ไม่มีใครนึกถึงมาก่อน โดยเฉพาะการเกิดขึ้นของพรรคไทยรักไทยที่หัวหน้าพรรคไม่ใช่ได้เฉพาะอำนาจจากระบบอย่างเดียว แต่ว่าได้อำนาจจากอำนาจเงินที่อุปถัมภ์ไปทั้งหมด เราเคยได้ยินว่า มีการแจกเงินเดือนส.ส. เท่านั้นเท่านี้ กลายเป็นหนี้บุญคุณกัน แต่คุณเสนาะคงจะไม่ได้อยู่แบบนี้ แต่ส.ส.ลูกพรรคของคนอื่นๆ และพรรคพวกของแก ซึ่งตอนนี้คงจะเหลือไม่กี่คนหากจะแยกออกไป"ดร.เขียน ตั้งข้อสังเกต

และย้ำว่า การที่ส.ส.สังกัดพรรคแล้วแสดงความคิดเห็นอะไรไม่ได้ เนื่องจากถูกควบคุมโดยพรรค ส.ส.ก็ไม่ต่างอะไรจากฝูงแกะ และจะเห็นได้ชัดในช่วงประชุมสภา

"..มีคนกี่คนไปนั่งฟังคนอื่น มีคนกี่คน ที่คิดจะลงมติโดยฟังเหตุผล ว่าคนอื่นเขามีเหตุผลและหลักการอย่างไร แต่พอถึงเวลาลงคะแนน เขามีสัญญาณไปเรียกต้อนแกะทั้งหลายเข้ามาเพื่อลงคะแนน บางทีส.ส.ก็ไม่รู้ว่าเรื่องอะไร ถามว่าจะเอายังไงจะโหวตรับหรือไม่รับ ก็ต้องถามคนเลี้ยงแกะ นั่นมันไม่ใช่สังคมมนุษย์ แต่เป็นสังคมฝูงแกะแสดงให้เห็นว่า พอสังส.ส.สังกัดพรรคแล้ว เหตุผลใช้ไม่ได้ต้องเป็นไปตามการบังคับบัญชาของหัวหน้าพรรค"อดีตส.ส.ร.กล่าว

เขายังบอกถึงข้อเสียของส.ส.สังคมฝูงแกะว่า การโหวตตามที่หัวหน้าพรรคต้องการ จะทำให้ส.ส.ไม่ทราบว่ามีการโหวตในประเด็นอะไร เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของชาติ ผลประโยชน์ส่วนตัว หรือผลประโยชน์ของพรรค ซึ่งอาจจะไม่ใช่ผลประโยชน์ของประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศเป็นหลัก เหตุตรงนี้เพื่อป้องกันการซื้อตัวส.ส. ซึ่งก็เป็นเหตุผลที่ว่ากันมา

"ตอนนี้ผมว่าหากให้ส.ส.มาโหวตกันอีก เขาก็ยังมีความเห็นเหมือนพวกส.ส.ร. คือ ส.ส.ต้องสังกัดพรรค ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้น ถ้าคุณเสนาะไม่มีปัญหากับคุณทักษิณ และยังมีอิทธิพลในพรรค เขาก็ยังเห็นด้วย ซึ่งตรงนี้เป็นอันตรายต่อระบบทุกระบบ และน่าเป็นห่วง เพราะเรามีนักกฎหมายที่แกะตัวอักษร ตีความตามตัวอักษรโดยไม่ใช้สามัญสำนึกมากเกินไป" ศ.ดร.เขียน กล่าว

สำหรับการแก้รัฐธรรมนูญเพิ่มเติมนั้น อดีตส.ส.ร.เห็นว่า ยอมรับว่าตอนร่างรัฐธรรมนูญขณะนั้นยอมรับว่ามีข้อบกพร่อง แต่ไม่ใช่สาระสำคัญ เพราะปัญหาต่างๆเกิดจากการตีความของนักกฎหมายมากกว่าที่ตีความหมายแบบแกะตัวอักษร

"ที่จริงหากใช้สามัญสำนึกของมนุษย์ว่าอะไรคือเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ และให้ความสำคัญ แก้ปัญหาคนเพื่อผลประโยชน์ของประเทศ มีกี่พรรคก็เอาเท่านั้น มันก็หมดเรื่อง ทีนี้พอมาแกะตัวอักษรพูดกันมันเลยกลายเป็นปัญหา เหมือนหลายๆ เรื่องที่เป็นอยู่ เพราะว่าสถาบันการศึกษาที่ฝึกอบรมพวกหัวหมอออกมาให้ตีความตามตัวอักษรและพูดกันเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองและพรรคพวกมันมีมากเกินไป "อดีตสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ กล่าว

เมื่อถามว่าถึงเวลาจะต้องมีส.ส.ร.ชุด 2 เพื่อร่างรัฐธรรมนูญใหม่หรือยัง ศ.ดร.เขียน กล่าวว่า หากระบบยังเป็นอย่างนี้คงไม่ต้องพูด อย่างไรเสียรัฐบาลชุดนี้คงจะต้องอยู่ต่อไป และน่าจะมีวิธีการที่จะจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้นได้ หากตราบใดที่สังคมไทยเป็นสังคมที่กระแสสร้างได้ ควบคุมได้ โดยอำนาจการเงิน อำนาจการเมือง และบรรยากาศอย่างนี้ก็คงจะไม่เอื้ออำนวยที่จะมาแต่งตั้งส.ส.ร. เพราะผู้มีอำนาจเงินก็จะมาคุมได้อีก

"จริง"แล้วลายลักษณ์อักษรมันมีความสำคัญน้อยกว่าความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของคนใช้ รัฐธรรมนูญ คือ กติกาในการบริหารบ้านเมือง อาจจะดี แต่ถ้าผู้บังคับใช้ไม่ดี ก็ไปไม่ถึงไหนประชาธิปไตยก็มี ส่วนรัฐบาลที่มีอำนาจมากๆ และคุมสื่อได้มากๆ มันก็เป็นภัยเหมือนกัน เหมือนรัฐบาลเราที่กำลังเป็นอยู่ก็น่าขยาดว่าจะนำเข้ารกเข้าป่าไปหรือไม่ "

ศ.ดร.เขียน กล่าวว่า ขณะนี้ไม่เห็นด้วยว่าควรจะมีการร่างรัฐธรรมนูญขึ้นใหม่ เพราะของเดิมดีอยู่แล้ว และถ้ามีข้อบกพร่องจุดไหนก็ให้แก้ไขเป็นประเด็นๆ ไปน่าจะดีกว่า

หากมองในแง่ดี ตรงนี้ถ้ารัฐบาลเข้มแข็ง และผู้นำใช้อำนาจโดยไม่เห็นแก่ตัวและพรรคพวก และไม่คุมสื่อมวลชน ก็จะทำให้มีรัฐบาลที่มีประสิทธิภาพ และสังคมไทยก็มีความจำเป็นที่จะต้องมีรัฐบาลที่มีประสิทธิภาพ

แต่ประเด็นก็คือ หากจะเอาประสิทธิภาพ ก็จะทำให้ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากฝ่ายข้างน้อยถูกรุกรานหรือจำกัดสิทธิไป ในกรณีอย่างนี้หากได้รัฐบาลที่มีความซื่อสัตย์ บ้านเมืองก็จะไปได้และรวดเร็ว

เผอิญปัจจัยเหล่านี้มันไม่ได้เกิดขึ้นกับบ้านเมืองของเราปัจจุบัน ก็เลยได้รัฐบาลที่มีอำนาจมาก ซึ่งเกิดจากอำนาจเงิน เมื่อเจอปัจจัยใหม่ การแก้ไขโดยใช้รัฐธรรมนูญคงเป็นไปไม่ได้

ส่วนปัญหาการเข้าไปแทรกแซงองค์กรอิสระของพรรคการเมืองนั้น ดร.เขียน กล่าวว่า ไม่ควรให้ความสำคัญ เพราะอย่างไรทั้งหมดก็ถูกคุม
โดยรัฐบาลอยู่แล้ว แต่เราควรให้ความสำคัญกับสื่อ โดยเฉพาะหนังสือพิมพ์ ซึ่งยังพึ่งพาได้บ้างในการทำหน้าที่ตรวจสอบได้อยู่ในหลายๆ เรื่องขณะเดียวกันนักวิชาการก็จะต้องทำงานของตัวเองด้วย

"จริงๆ ไม่ได้หมายความว่า สิ่งที่เป็นลายลักษณ์อักษรจะไม่สำคัญเลยทีเดียว มันก็เป็นพลังกระตุ้นเหมือนกัน แต่ไม่อยากให้ลืมพลังของสื่อกับมวลชน ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นเมื่อครั้ง 14 ตุลาก็ดี ก็เกิดจากพลังมวลชนทั้งสิ้น

และหากจะเกิดการเปลี่ยนอีกครั้ง มันก็คงจะเกิดจากพลังของมวลชน และตราบใดที่รัฐบาล นักการเมือง ยังคงใช้นโยบายมาแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัวและสร้างเงื่อนไขให้ประชาชนรู้สึกทนไม่ไหว พลังนี้ก็คงจะกลับมาอีกครั้งหนึ่ง "อดีตส.ส.ร.ทิ้งท้าย


หมายเหตุ อ. เขียน เขียนบทความนี้ ก่อนที่จะมีรายการสัญจรของนายสนธิ...
บันทึกการเข้า

Neoconservative
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 407


We protect the Kingdom


« ตอบ #108 เมื่อ: 20-10-2006, 09:35 »

หาก แก้ไขเป็นประเด็นๆ ไป ก็ดี ครับ จะได้ไม่เสียเวลา

 
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 [3]
    กระโดดไป: