ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
25-04-2024, 06:10
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  ส. ศิวรักษ์ ตาสว่างแล้ว ฤา..... 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
ส. ศิวรักษ์ ตาสว่างแล้ว ฤา.....  (อ่าน 2253 ครั้ง)
Killer
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,576


ช๊อบบ ชอบบ...ปฏิวัติ ปลื้ม ค่ะ


« เมื่อ: 14-10-2006, 11:36 »

ส.ศิวรักษ์’ ชี้นายกฯ ใหม่ถอดใจตั้งแต่ยังไม่เริ่มงาน เพราะอ้างมีเวลาหนึ่งปีจะทำอะไรได้

จาก : ไทยทาวน์ยูเอสเอนิวส์

อ.สุลักษณ์ ศิวรักษ์ ได้กล่าวถึงเหตุการณ์ปฏิรูปการเมืองของไทยโดยคณะทหารว่า
ขณะนี้ยังอยู่ในช่วงที่คนกำลังเห่อ แต่หากไม่มีผลงานใดๆ ในระยะอันไกลก็จะถูกประชาชนด่า

เหมือนเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นกับคณะรัฐประหารในอดีต อีกทั้งระบุว่า
แม้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีสมควรที่จะออกจากตำแหน่ง
เพราะไม่มีความโปร่งใส แต่ก็ควรจะมีวิธีอื่นที่ดีกว่าการทำปฏิวัติยึดอำนาจ

“เอาล่ะ ยึดอำนาจแล้ว ก็น่าจะใช้สติปัญญาในการยึดอำนาจมากกว่านี้
เช่น งดใช้รัฐธรรมนูญบางมาตรา ปรับปรุงรัฐธรรมนูญ
นี่ให้ร่างใหม่กันหมดแล้ว ยุบหมดเลย สภายุบหมด นี่แสดงว่าใช้อำนาจบาตรใหญ่นี่ครับ

ระยะแรกก็เชียร์กันครับ ใส่เสื้อเหลืองเอาดอกไม้ไปให้ ก็ดีครับ
เล่นละครกัน แต่ผมอยากจะเตือนนะครับ อีกพักเดียวคนก็จะเอือม คนก็จะเบื่อ
ผมเตือนด้วยความหวังดี ถ้าไม่พอใจ ผมกลับไปวันที่ 26-27 ก็ไปจับผมได้ ไม่หนี ให้จับครับ”


นักวิชาการที่ได้ชื่อว่าเป็นคนตรง กล้าวิพากษ์วิจารณ์อย่างตรงไปตรงมากล่าวอย่างอารมณ์ดี
ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลใหม่ที่มีการจัดตั้งขึ้นมา จะทำให้เกิดผลดีอะไรกับประเทศบ้าง
นักวิชาการเจ้าของฉายาปราชญ์สยามกล่าวว่า เป็นเรื่องยาก เพราะนายกรัฐมนตรีบอกว่ามีเวลาทำงานแค่หนึ่งปี
เหมือนถอดใจตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มทำงาน

“ท่านนายกฯ ท่านบอกมาปีเดียวจะทำไรได้ ถ้าพูดอย่างนี้คุณก็ทำอะไรไม่ได้
เมื่อรัฐบาลอังกฤษจะให้เอกราชอินเดียนั้น ได้ส่งลอร์ดหลุยส์ไป
ให้เวลาหนึ่งปี ให้ทำให้สำเร็จ ให้อำนาจเต็มที่ ก็ทำได้สำเร็จ
นี่อะไร อำนาจก็มีเต็มที่ ยังหยอยๆ อย่างนี้หรือจะทำได้สำเร็จ
คณะรัฐมนตรีที่ตั้งอยู่นี่ ส่วนใหญ่กึ่งดิบกึ่งดีทั้งนั้น ทำอะไรได้


นักวิชาการชื่อดังกล่าวอีกว่า คณะรัฐมนตรีในรัฐบาลใหม่
ส่วนใหญ่เป็นคนในกระแสหลัก ซึ่งไม่ค่อยฟังเสียงนอกกระแส

“บ้านเมืองเราตอนนี้มันเปลี่ยนไปมาก ที่มันเปลี่ยนแปลงได้เพราะประชาชนเป็นแสนๆ
ทั่วทุกจังหวัดออกมาไล่ทักษิณ แต่คนเหล่านี้กลับไม่ได้รับการเหลียวแลเลย
มีแต่เอาพวกขุนนางเก่าๆ พวกปลัดกระทรวงเก่าบ้างมาเป็นรัฐมนตรี
พวกนี้ไม่เคยฟังใคร จะไปทำอะไรได้ คุณสุรยุทธ์เป็นคนน่ารักครับ
แต่ผมว่าควรไปบวชมากกว่าจะมาเป็นนายกฯ”

บันทึกการเข้า
taworn09220
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 302


« ตอบ #1 เมื่อ: 14-10-2006, 11:50 »

พี่คิลครับ อาจารย์แค่แสดงความเห็นที่ต่างไป แต่ไม่ได้ เห็นด้วยกับ เหลี่ยมนี่ครับ
ลองอ่านดีๆนะครับ
แม้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีสมควรที่จะออกจากตำแหน่ง
เพราะไม่มีความโปร่งใส แต่ก็ควรจะมีวิธีอื่นที่ดีกว่าการทำปฏิวัติยึดอำนาจ

“เอาล่ะ ยึดอำนาจแล้ว ก็น่าจะใช้สติปัญญาในการยึดอำนาจมากกว่านี้
เช่น งดใช้รัฐธรรมนูญบางมาตรา ปรับปรุงรัฐธรรมนูญ
นี่ให้ร่างใหม่กันหมดแล้ว ยุบหมดเลย สภายุบหมด นี่แสดงว่าใช้อำนาจบาตรใหญ่นี่ครับ

ระยะแรกก็เชียร์กันครับ ใส่เสื้อเหลืองเอาดอกไม้ไปให้ ก็ดีครับ
เล่นละครกัน แต่ผมอยากจะเตือนนะครับ อีกพักเดียวคนก็จะเอือม คนก็จะเบื่อ
ผมเตือนด้วยความหวังดี ถ้าไม่พอใจ ผมกลับไปวันที่ 26-27 ก็ไปจับผมได้ ไม่หนี ให้จับครับ
บันทึกการเข้า
ศก
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 244



« ตอบ #2 เมื่อ: 14-10-2006, 11:52 »

ว่าแต่คุณ Killer เลิกด่าส.ศิวรักษ์ กลับมาชื่นชมแล้วหรือครับ
บันทึกการเข้า
Killer
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,576


ช๊อบบ ชอบบ...ปฏิวัติ ปลื้ม ค่ะ


« ตอบ #3 เมื่อ: 14-10-2006, 11:53 »

พี่คิลครับ อาจารย์แค่แสดงความเห็นที่ต่างไป แต่ไม่ได้ เห็นด้วยกับ เหลี่ยมนี่ครับ
ลองอ่านดีๆนะครับ
แม้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีสมควรที่จะออกจากตำแหน่ง
เพราะไม่มีความโปร่งใส แต่ก็ควรจะมีวิธีอื่นที่ดีกว่าการทำปฏิวัติยึดอำนาจ

ก็ใช่ไงล่ะครับ...ปัญญาชนทั้งหลายเค้ารับได้กับการชุมนุมประท้วงต่อต้านขับไล่ ดร.ทักษิณ

แต่เขารับไม่ได้และไม่เห็นด้วยกับการใช้กำลังเข้าทำการรัฐประหาร

เพราะมันส่อให้เห็นเจตนา ว่าที่ผ่านๆมา มันมีอะไรแอบแฝงมาแต่ต้น....
บันทึกการเข้า
taworn09220
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 302


« ตอบ #4 เมื่อ: 14-10-2006, 11:55 »

พี่คิลครับ อาจารย์แค่แสดงความเห็นที่ต่างไป แต่ไม่ได้ เห็นด้วยกับ เหลี่ยมนี่ครับ
ลองอ่านดีๆนะครับ
แม้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีสมควรที่จะออกจากตำแหน่ง
เพราะไม่มีความโปร่งใส แต่ก็ควรจะมีวิธีอื่นที่ดีกว่าการทำปฏิวัติยึดอำนาจ

ก็ใช่ไงล่ะครับ...ปัญญาชนทั้งหลายเค้ารับได้กับการชุมนุมประท้วงต่อต้านขับไล่ ดร.ทักษิณ

แต่เขารับไม่ได้และไม่เห็นด้วยกับการใช้กำลังเข้าทำการรัฐประหาร

เพราะมันส่อให้เห็นเจตนา ว่าที่ผ่านๆมา มันมีอะไรแอบแฝงมาแต่ต้น....

แอบแฝง อะไร อย่าคิดว่าทุกคนต้องทำอะไร เหมือนเหลี่ยมจิ แอบแฝงทุกเรื่อง เห่อๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
บันทึกการเข้า
Killer
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,576


ช๊อบบ ชอบบ...ปฏิวัติ ปลื้ม ค่ะ


« ตอบ #5 เมื่อ: 14-10-2006, 11:55 »

ว่าแต่คุณ Killer เลิกด่าส.ศิวรักษ์ กลับมาชื่นชมแล้วหรือครับ

ส. ศิวรักษ์ ดีอย่างคือเป็นผู้นำทางอุดมการณ์ที่ไม่กะล่อน

เป็นนักวิชาการที่ด่าได้ ไม่มีมิจฉาทิฐิ เหมือนนักวิชาการรุ่นใหม่ๆบางคน

ที่รักษาฟอร์มเสียยิ่งกว่า จุดยืนทางสติปัญญา
บันทึกการเข้า
taworn09220
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 302


« ตอบ #6 เมื่อ: 14-10-2006, 11:57 »

ว่าแต่คุณ Killer เลิกด่าส.ศิวรักษ์ กลับมาชื่นชมแล้วหรือครับ

ส. ศิวรักษ์ ดีอย่างคือเป็นผู้นำทางอุดมการณ์ที่ไม่กะล่อน

เป็นนักวิชาการที่ด่าได้ ไม่มีมิจฉาทิฐิ เหมือนนักวิชาการรุ่นใหม่ๆบางคน

ที่รักษาฟอร์มเสียยิ่งกว่า จุดยืนทางสติปัญญา

ทักษิณมันยอมให้ด่าวป่าวฟะ
บันทึกการเข้า
Killer
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,576


ช๊อบบ ชอบบ...ปฏิวัติ ปลื้ม ค่ะ


« ตอบ #7 เมื่อ: 14-10-2006, 11:59 »

ตายแล้ว....นี่ถ้าท่านทั้งหลายยังไม่สามารถเรียบเรียงปะติดปะต่อ

วิเคราะห์เหตุการณ์ที่ผ่านมาทั้งหมดได้อย่าง เป็นเนื้อเดียวกัน

ท่านก็ยังคงเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในวังวนแห่งสถานการณ์อยู่อย่างนี้

คงต้องใช้เวลาอีกยาวนานกว่าจะเข้าใจ...
บันทึกการเข้า
มดโฟร์
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 122



« ตอบ #8 เมื่อ: 14-10-2006, 12:14 »

กลัวเหมือนกันว่าคปคจะถูกครอบงำ เด่วก็กลายเป็นหนีเสือปะจรเข้  แต่แกก็พูดดีนะสมเเล้วที่เป็นคน  พอจะคุยกันรู้เรื่อง

ไม่ใช่ขยะอินเตอร์เน้ท ...
บันทึกการเข้า

หลอกคนอื่นนะหลอกง่าย แต่หลอกตัวเองอะไม่มีทาง
Cherub Rock
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,183


น้องๆ ช่วยไปบอกผู้หญิงคนนั้นที ว่าเลิกมองผมได้แล้ว


« ตอบ #9 เมื่อ: 14-10-2006, 12:21 »

ถ้าเป็นสมัยเหลี่ยมมันก็จะออกมาปาก***ด่ากราดว่า ส. เป็นพวก NATO
 
บันทึกการเข้า

"นายกรัฐมนตรีกำลังใช้รัฐสภาประกอบพิธีกรรมสถาปนาอำนาจของตนเองโดยเห็นรัฐสภาเป็นเพียงแค่ตรายาง และปล่อยให้มีการทำร้ายประชาชนถือว่าหมดความชอบธรรมแล้ว" รสนา โตสิตระกูล
tron
สมาชิกสามัญขั้นที่ 1
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 38


« ตอบ #10 เมื่อ: 14-10-2006, 12:29 »

ตอนนี้เริ่มออกมากันแล้ว กลัวว่าหลังน้ำลด ชาวบ้านติดโรคละบาด ตายอีกหลายร้อยหลายพัน
แรงงานก็กลับเข้ามาเมืองหลวง แต่ไม่มีงานให้ทำ...แล้วก็เดินประท้วง อย่าให้เกิดขึ้นเลย
บันทึกการเข้า
สี่หามสามแห่
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,460



« ตอบ #11 เมื่อ: 14-10-2006, 13:16 »

ส. เคยด่า ทักษิณ นะ

จำได้ว่า พวกลิ่วล้อใน ราชดำเนิน รวมถึง เลอะ เนี่ย ยังใส่ซะ สาดเสียเทเสียอยู่เลย ...

เห็นยังมีขุดเรื่องคดีหมิ่นฯ มาพูดอยู่เลย

จำไม่ได้เหรอ เลอะ
บันทึกการเข้า
meriwa
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,100



เว็บไซต์
« ตอบ #12 เมื่อ: 14-10-2006, 13:54 »

ก็พูดกันไปเรื่อย พวกนักคิดก็แบบนี้ เวลามากคิดเป็นตุเป็นตะ  แต่ไม่ค่อยได้ลงมือทำ พูดปุ๊บจะเอาให้ได้ปั๊บ 

ดีแต่พูดแต่ทำอะไรไม่ได้  ถ้ายิ่งพูดแล้วมันจะทำให้เหตุการแย่ลง ก็อย่าพูดเสียดีกว่า 

เค้าบอก 1 ปี มันทำอะไรไม่ได้มาก ไม่ใช่ว่าจะทำอะไรไม่ได้เลย   เค้าเทียบกับความคาดหวังของประชาชนต่างหาก ที่มันมีมากจนไม่อาจทำให้เสร็จทั้งหมดได้ใน 1 ปี   

แล้วไม่รู้ว่า อ. แกอยากให้ ประชาชนเป็นแสนๆ คน ที่ออกมาไล่ทักษิณ เป็นอะไรละครับ  ที่ว่าไม่ได้รับการเหลียวแล  จะให้ นายกฯ เค้าทำอะไร  จะให้ตั้งเป็นรัฐมนตรีหรือไง  หรือจะให้เข้ามาร่างรัฐธรรมนูญ  หรือให้ทำพิธีเชิดชูเกียรติประดับเหรียญกล้าหาญ  ท่าทางจะวุ่นพิลึกนะ     ผมก็อยู่ในแสนคนที่ว่าไม่ต้องการอะไรหรอกครับแค่ต้องการ คนที่ไว้ใจได้มาปกครองบ้านเมืองอย่างยุติธรรม  พวกผมจะได้เอาเวลาไปทำมาหากินกันสักที
บันทึกการเข้า

ผู้ปกครองระดับธรรมดา   ใช้ความสามารถของตน    อย่างเต็มที่
ผู้ปกครองระดับกลาง       ใช้กำลังของคนอื่น             อย่างเต็มที่
ผู้ปกครองระดับสูง           ใช้ปัญญาของคนอื่น           อย่างเต็มที่

                                                                  ...คำคมขงเบ้ง
engg
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 388


« ตอบ #13 เมื่อ: 14-10-2006, 14:16 »

แก้ปัญหา ตามทางประชาธิปไตย ดีที่สุด
บันทึกการเข้า
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #14 เมื่อ: 14-10-2006, 14:42 »

คนเก่งจะไม่ขี้คุย ผมมองว่า นายกสุรยุทธ์ พูดถ่อมตัวไว้ยังงั้นเองครับ

เมื่อมาถึงขั้นนี้ แม้ไม่เห็นด้วย ก็ต้องให้กำลังใจกันไป อาจารย์ ส. จะมีจุดยืนยังไงก็ยืนไป

ยืนบนหลักการก็ถูกแล้ว...แต่พูดแล้วทำอะไรได้ ทำให้อะไรมันดีขึ้นหรือก็เปล่า

ผมมองแค่ว่า ในเมื่อจะปฏิรูป ก็ให้ฝ่ายคนกลางแบบนี้แหละมาทำ

ทหารบริหารประเทศ 1 ปี ผมมองว่าฝ่ายต่อต้านทักษิณ สบาใจกว่าให้สส.หลังเลือกตั้ง 15 ตุลา มาปฏิรูปการเมืองครับ

เอาไว้ตอนเค้าทำรัฐธรรมนูญกัน ก็เข้าไปช่วยเสริมซีครับ จะป้องกันปฏิวัติยังไง...
บันทึกการเข้า

วิหค อัสนี
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 946



« ตอบ #15 เมื่อ: 14-10-2006, 14:56 »

ผมเห็นว่าที่ ส. เขาบอก รัฐบาลก็น่าจะรับฟังไว้เหมือนกันนะครับ

บันทึกการเข้า

_______ดังนี้แล
__เปลวไฟจักลุกโชน
___หามีวันดับลงได้
_ตราบที่ในมือพวกสูเจ้า
ยังแต่น้ำมันเตาให้ราดรดไป
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #16 เมื่อ: 14-10-2006, 15:06 »

ส.ศิวรักษ์’ ชี้นายกฯ ใหม่ถอดใจตั้งแต่ยังไม่เริ่มงาน เพราะอ้างมีเวลาหนึ่งปีจะทำอะไรได้


ผมว่าอาจารย์ ส. ตีความผิดครับ
บันทึกการเข้า

นทร์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,441



เว็บไซต์
« ตอบ #17 เมื่อ: 14-10-2006, 15:29 »

ส.ศิวรักษ์ พูดก็น่ารับฟังนี่ควรรับฟังด้วย ไม่เห็นมีอะไรแปลก

แกก็พูดของแกแบบนี้ จุดยืนแกก็ชัดเจนแบบนี้มาตั้งนานแล้ว (โดนกองเชียร์ทักษิณด่ามานักต่อนักแล้วด้วย)



** Killer แนะนำ บทความนี้ น่าสนใจมั๊กๆ (สงสัยโดนสนธิหลอกอีกแล้วนักข่าวต่างประเทศเนี่ย) 


The democratic way to prosecute Thaksin
http://www.atimes.com/atimes/Southeast_Asia/HJ13Ae01.html
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-10-2006, 15:32 โดย นทร์ » บันทึกการเข้า

"ประชาชน อย่าทิ้งประเทศชาติ"
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #18 เมื่อ: 14-10-2006, 15:49 »

ยังไม่ดูเนื้อหาของการเข้าทำงาน

เค้าตั้งเวลาถอนตัวเมื่อ

1. รัฐธรรมนูญสำเร็จภายใน 1 ปี

2. ทำลายรื้อคนของระบอบทักษิณออกไป

3. สร้างความรู้สึกที่ดีสร้างความสมานฉันท์ ให้ความเป็นธรรมในการแต่งตั้งโยกย้าย

สิ่งเหล่านี้ ไม่สามารถแก้ได้ ตราบใดที่ระบบเลือกตั้ง มันยังใช้เงินเป็นใหญ่


คงหวังมากไปกว่านี้ไม่ได้ แต่นี่คือการวางรากฐานใหม่ให้กับสังคมไทย

ที่สำคัญ การร่างรัฐธรรมนูญ ไม่น่าจะยุ่งยาก เพราะมี "ตุ๊กตา" จากรัฐธรรมนูญฉบับเก่า ๆ อยู่แล้ว


จะว่าไปความสกปรกของ "ระบอบทักษิณ" มันเลอะเทอะจนใช้เวลา 1 ปี ล้างออกให้หมดคงเป็นไปได้ยาก

หากจะบอกว่า จะใช้เวลาเพียง 1 ปี ล้างระบอบทักษิณให้สิ้นซาก นั่นก็จะกลายเป็น "ขี้โม้โอ้อวด" ไปซะอีก โดนด่าอีกตามเคย
บันทึกการเข้า

Killer
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,576


ช๊อบบ ชอบบ...ปฏิวัติ ปลื้ม ค่ะ


« ตอบ #19 เมื่อ: 14-10-2006, 16:58 »

คนบางประเภทโดนหลอกแล้วหลอกอีก .. ไม่เคยเข็ดไม่หลาบจำ

ไม่เคยมีอำนาจเผด็จการที่ไหน ที่ไม่ทำเพื่ออำนาจและผลประโยชน์ของตนเอง

จำเอาไว้เลย มันเป็นสัจธรรม
บันทึกการเข้า
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #20 เมื่อ: 14-10-2006, 17:34 »

อ.สุลักษณ์ ศิวรักษ์ กล่าวด้วยว่า สิ่งที่คนไทยจะทำได้ในสภาพเช่นนี้ คือ จะต้องยอมรับความจริง เพราะตนไม่เห็นว่าจะมีใครใน ครม.ชุดนี้ กล้าหาญพอจะแหวกออกจาก ‘สภาพน้ำนิ่ง-น้ำเน่า’ ออกมาได้ และฝากสื่อมวลชนด้วยว่า ให้พยายามติชมรัฐบาลใหม่ในเชิงสร้างสรรค์

“พยายามชี้แนะ อย่าไปโจมตีในทางทำลายล้าง เขาจะเสียกำลังใจ เมื่อเสียแล้วเขามีคณะปฏิรูปอยู่หลังเขา เขารังแกได้ทันทีเลย ผมว่าเราอย่าเป็นศัตรูกันดีกว่า เตือนกันด้วยความหวังดีนะครับ อาจจะต้องใช้ถ้อยคำที่เพราะกว่าที่ผมใช้หน่อยหนึ่ง เขาจะได้ฟัง อย่างผมเขาไม่ฟังอยู่แล้ว ไอ้ตาแก่นี่พูดมาก”

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวถามถึงนางชะบา จตุรบุล ซึ่งเป็นศิษย์ของ อ.สุลักษณ์ ศิวรักษ์ แต่ออกมาเคลื่อนไหวสนับสนุนรัฐบาลพรรคไทยรักไทยอย่างเต็มตัว และอ.สุลักษณ์เคยเขียนจดหมายติติงศิษย์จนเป็นข่าวฮือฮาในชุมชนไทยมาแล้วนั้น อ.สุลักษณ์กล่าวว่า ตนไม่ขอพูดอะไรมาก เพราะแต่ละคนก็มีสิทธิ์ที่จะทำในสิ่งที่ตนเชื่อ

“ผมไม่ว่าใคร เขาก็เลี้ยงข้าวผมเมื่อคืน คนเรามันเห็นไม่เหมือนกันได้นี่ครับ จะถือพุทธ ถือคริสต์ เป็นคอมมิวนิสต์ ก็ได้ ได้ข้อมูลมาเท่าไหนก็ทำไปเท่านั้น แต่ผมเชื่อว่าเขาเป็นคนบริสุทธิ์ ถามว่าคุยอะไรกันเหรอ ก็คุยกันส่วนตัว” นักวิชาการชื่อดังกล่าว.

บันทึกการเข้า

Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #21 เมื่อ: 14-10-2006, 18:01 »

เหอ เหอ ยายชะบานี่ ลูกศิษย์ อาจารย ส. ตั้งแต่เมื่อไหร่ครับอาจารย์ ฮ่า ฮ่า

ไหงมีลูกศิษย์ ไร้วิสัยทัศน์เป็นลิ่วล้อหน้าเหลี่ยมไปได้...แบบนี้ก็ศิษย์คิดล้างครูสิจาน...
บันทึกการเข้า

Killer
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,576


ช๊อบบ ชอบบ...ปฏิวัติ ปลื้ม ค่ะ


« ตอบ #22 เมื่อ: 14-10-2006, 18:05 »

ส.ศิวรักษ์ ได้แสดงความกล้าหาญออกมาแล้ว ในการใหสัมภาษณ์สื่อฯตปท.

หลังวันรัฐประหาร ที่ผ่านมา นักวิชาการหน้ามึน ตาใส ที่ยังคงดัดจริตอยุ่

ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง และแสดงความกล้าหาญให้ได้เท่าครึ่งหนึงของเขาผุ้นี้

ถ้าคิดจะวัดรอยเท้ากันละก็นะ....


โดยเฉพาะไอ้ตัวที่ชอบใส่เสื้อกั๊กนั่นน่ะ
บันทึกการเข้า
ไทมุง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,543



« ตอบ #23 เมื่อ: 14-10-2006, 18:08 »


เห็นลูกศิษย์ อ.สอ เสนอชิงโนเบลนิ

แต่คงยาก
บันทึกการเข้า
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #24 เมื่อ: 14-10-2006, 18:26 »

หลักเมตตาธรรมแบบอาจารย์ ไล่คนหน้าด้านไม่ได้หรอกครับ ต้องถูกถีบลง เหมือนที่ทหารเค้าทำ นั่นชอบแล้วอาจารย์

เมื่อถีบลงไปแล้ว อาจารย์ก็มานำเสนอแนวทางที่อาจารย์คิดว่ามันจะสร้างประชาธิปไตยซีครับ

มัวแต่กระแนะกระแหน มันไม่สร้างสรรค์หรอกครับ...หรือจะมาเดินขบวนให้เค้าจับ แสดงตัวเป็นฮีโร่แบบ "ฉลาด วรฉัตร" ดีมั๊ยครับ

หมอนั่นหายไปใหนครับ...ผูกคอตายไปหรือยัง...ผมจะช่วยบริจาคโลงให้
บันทึกการเข้า

Killer
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,576


ช๊อบบ ชอบบ...ปฏิวัติ ปลื้ม ค่ะ


« ตอบ #25 เมื่อ: 14-10-2006, 18:34 »

ผมว่าวุฒิภาวะทางการเมืองคงไม่เท่าเทียมกัน....

อาจเป็นด้วยความเข้าใจในประชาธิปไตยอย่างลักหลั่นกันอยู่มาก

แต่ในคนรุ่นใหม่ๆหลายต่อหลายคน ที่แต่ก่อนเคยขับไล่ดร.ทักษิณ

ตอนนี้กลับหันมาให้ความเห็นใจ และแสดงความไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหารมากขึ้นเรื่อยๆ

หวังว่า คุณ Can คงตามสถานการณ์ได้ทัน เพราะอยู่ในกะลาแวดวงของพวกเลียทหารอยู่

อาจจะไม่ทราบก็ได้ 
บันทึกการเข้า
ยามเฝ้าแผ่นดิน
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 386


รักพ่อ อย่าพายเรือให้โจรนั่ง


เว็บไซต์
« ตอบ #26 เมื่อ: 14-10-2006, 18:37 »

ส.ศิวรักษ์เค้าตาสว่างตั้งแต่ตัดสินใจถีบส่งระบอบทักษิณแล้ว แล้วคิลเลอร์ล่ะ เมื่อไหร่จะตาสว่างซะที
บันทึกการเข้า


จงอย่าเกรงกลัวทรราช เพราะทรราชกลัวเกรงพลังประชาชน
beamking85@hotmail.com
Killer
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,576


ช๊อบบ ชอบบ...ปฏิวัติ ปลื้ม ค่ะ


« ตอบ #27 เมื่อ: 14-10-2006, 18:50 »

สงสัยจะไม่ใช่แฟนคลับ ส. ศิวรักษ์ เหมือนอย่างผม...นะ....

แกแก่เกินไปแล้วที่จะปากเก่งเหมือนแต่ก่อนนี้

แค่ที่แกพูดให้สื่อฟังหลังวันรัฐประหารนั่นก็ ดังไปทั่วโลกแล้วล่ะ

เอ้ออ...คนที่มัวแต่ตามข่าวจากสื่อเล่มละ 8 บาท 10 บาทคงไม่รู้หรอกมั้ง..นะ
บันทึกการเข้า
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #28 เมื่อ: 14-10-2006, 18:55 »

ก็บอกแล้ว กำลังติดตราสินค้าเอาไว้ ไม่มีอะไรหรอก สุดท้ายก็มายอมสยบอยู่ใต้อำนาจเผด็จการเหมือนเดิมนั่นแหละ

อาจารย์ ส. แกพูดเหมือนกับว่า รัฐบาลทักษิณยอมรับฟังเสียงประชาธิปไตยนอกกระแส...ไม่อยากเชื่อครับ

มันก็เผด็จการพอ ๆ กันนั่นแหละ ลองเถียงสิว่า รัฐบาลทักษิณ ยอมรับฟังเสียงนักวิชาการหรือเอ็นจีโอ หรือแม้แต่เสียงของอาจารย์ ส. เอง
บันทึกการเข้า

snowflake
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,207



« ตอบ #29 เมื่อ: 14-10-2006, 19:28 »

ผมว่าวุฒิภาวะทางการเมืองคงไม่เท่าเทียมกัน....

อาจเป็นด้วยความเข้าใจในประชาธิปไตยอย่างลักหลั่นกันอยู่มาก

แต่ในคนรุ่นใหม่ๆหลายต่อหลายคน ที่แต่ก่อนเคยขับไล่ดร.ทักษิณ

ตอนนี้กลับหันมาให้ความเห็นใจ และแสดงความไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหารมากขึ้นเรื่อยๆ


มาบอกว่า คนที่ต่อต้านรัฐประหาร บางคน แล้วกัน เดี๋ยวจะว่าเหมารวม
ก็ไม่ได้เห็นใจหรือพิศวาสอะไรคุณทักษิณเพิ่มขึ้นมา อย่างที่อ้าง
เพราะถ้ากลับมาใหม่ได้เมื่อไหร่ก็ยังคงไล่อยู่เหมือนเดิม
เผด็จการรูปแบบไหนก็ไม่เอาทั้งนั้น ... ทราบแล้วเปลี่ยน

ป.ล. ผลงาน "วิจัย" อีกชิ้นหรือเนี่ย?

 
บันทึกการเข้า

Even the smallest person can change the course of the future.
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #30 เมื่อ: 14-10-2006, 19:58 »

พรุ่งนี้วันหยุดอีกวันอ่านเล่น ๆ ละกัน
........................................
"ธีรยุทธ-ส.ศิวรักษ์" วิพากษ์"สังคมความรู้" อะไรชักใยอยู่เบื้องหลัง?

รายงาน

"ธีรยุทธ บุญมี" ย้อนยุคสมัยสังคมความรู้ จากอดีตสู่ปัจจุบัน จากคนบางกลุ่มสู่คนส่วนใหญ่
แต่เหตุไฉนยังมีการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ อะไรชักใยอยู่เบื้องหลังความรู้ "ปัญญาเหตุผล" หรือ
"ระบบตลาด" ขณะที่ "ส.ศิวรักษ์" สอนความรู้ผู้บริหารต้องไม่มีอคติ 4
และต้องมีปัญจธรรม 3 ประการ...

หมายเหตุ - เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน ที่โรงแรมมิราเคิลแกรนด์
มีการประชุมวิชาการมูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ(มสช.) ครั้งที่ 2 โดยมีนายธีรยุทธ บุญมี
อาจารย์คณะสังคมวิทยามานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่อง
"สังคมประชาธิปไตยกับการใช้ความรู้" และนายสุลักษณ์ ศิวรักษ์ นักคิดนักเขียนชื่อดัง
กล่าวในหัวข้อ "ตกผลึกความคิด :
ตัวแปรในช่วงเปลี่ยนจากสังคมความเห็นผ่านความรู้สู่ปัญญา"

O "ธีรยุทธ บุญมี"

การเปลี่ยนแปลงโลกจากยุคเกษตรกรรม ยุคอุตสาหกรรม มาเป็นโลกยุคดิจิตอล ที่มีการกำหนดตัวเลข 2 หลัก คือ 0
กับ 1 เพื่อเป็นตัวแทนของทุกสรรพสิ่ง เป็นเทคโนโลยีที่น่ากลัวเพราะสามารถทำให้เกิดโลกเสมือนจริงได้
อำนาจของเทคโนโลยีทำให้ทุกสิ่งถูกแทนค่าด้วยตัวเลข 0 กับ 1 เหมือนกันไปหมด
ทำให้การจัดระเบียบคุณค่าของสิ่งต่างๆ ลดน้อยถอยลง เหลือเพียงมีกับไม่มี
เป็นผู้เชี่ยวชาญกับไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ ดีกับไม่ดี ทำให้คุณค่าอีกมากที่มีอยู่ในสิ่งต่างๆ ถูกละเลยไป

ในยุคโพสต์ โมเดิร์น นักคิด นักปรัชญาด้านมนุษย์ศาสตร์ บอกว่า
การพัฒนาของมนุษย์มาจากการพัฒนาด้านภาษาที่เป็นความสามารถพิเศษที่มนุษย์มีมากกว่าสัตว์อื่นๆ
โดยมองว่าการที่มนุษย์จะทำอะไร เกิดจากความคิดของมนุษย์เองมากกว่าปัจจัยจากภายนอก
ดังนั้นจึงให้ความสำคัญกับการสื่อสาร ภาษา ข้อมูลข่าวสารมากกว่าปัจจัยภายนอก
เมื่อบวกกับการพัฒนาทางเทคโนโลยียิ่งทำให้คนสนใจความรู้
และการสื่อสารมากขึ้นกลายเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ ที่เปลี่ยนจากสังคมแห่งการทำมาหากิน
มาเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ และข้อมูลข่าวสาร

การพัฒนาที่ผ่านมาขาดมิติทางสังคมและจิตวิญญาณ เพราะเราเน้นด้านอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจมากเกินไป
ทั้งนี้เมื่อมาเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ เราก็ต้องระมัดระวังการใช้ข้อมูลข่าวสารว่าทำให้ลดทอนสภาพจิตใจ
จิตวิญญาณ วัฒนธรรมไปหรือไม่ การทำให้สรรพสิ่งถูกแทนค่าด้วยเลข 0 กับ 1 จะทำให้มิติอื่นๆ ถูกลดทอนไป
กลายเป็นเพียงสินค้าที่ตัดทิ้งความสำคัญของมิติอื่นๆ เช่น ความสัมพันธ์ของคนในสังคม ครอบครัว
เพื่อนหรือไม่

ยุคสมัยของความรู้แบ่งออกเป็น 6 ยุค คือ ยุคแรกการค้นพบอักษร เมื่อ 4,500 ปีก่อนคริสตกาล
คนที่เป็นผู้เชี่ยวชาญในความรู้ คือผู้ควบคุมตัวอักษร ส่วนใหญ่จะเป็นพระ นักบวช หรือเจ้านายชั้นสูง
ยุคที่ 2 เป็นยุคที่ค้นพบการพิมพ์ เมื่อราว 1,400 ปี ก่อนคริสตกาล
เมื่อมีการพิมพ์ความรู้จะถูกกระจายออกไปสู่ชนชั้นสูง และชนชั้นกลางมากขึ้น ต่อมาเป็นยุคสื่อสารมวลชน
เมื่อกลางยุค 1980 ที่ประชาชนทั่วไปเริ่มมีหนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ วิทยุ
เพื่อสื่อที่แพร่กระจายไปถึงประชาชนมากขึ้น และเป็นสังคมแห่งประชาธิปไตยของความรู้
และนำไปสู่การปกครองแบบประชาธิปไตย

ยุคต่อมาคือยุคสื่อสันทนาการ เกิดปรากฏการณ์ที่ความรู้ลงไปสู่ประชาชนมากขึ้น
โดยความรู้ที่ลงไปไม่ใช่แค่การเมืองอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องของความบันเทิงด้วย
และมาสู่ยุคปัจจุบันที่ในบ้านนั้นเต็มไปด้วยอุปกรณ์สื่อสาร ทำให้เกิดมนุษย์แบบแปลกๆ
คือมนุษย์ที่ไม่มีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น แต่เป็นคนที่อยู่กับตัวเอง อยู่กับการสื่อสาร
แต่กลับเชื่อมโยงไปสู่คนทั่วโลก นักวิชาการจากทั่วโลกกำลังศึกษาว่าจะเรียกมนุษย์แบบนี้ว่าอะไร
และมุนษย์เหล่านี้เป็นอย่างไร

การปฏิวัติความรู้ครั้งแรกเกิดจากการเอาความรู้เรื่องช่างมาประสานกับความรู้เชิงเทคนิค
โดยคนที่ได้ประโยชน์คือนายทุน และเมื่อมีการปฏิวัติความรู้ในครั้งที่ 2
ซึ่งเป็นการนำการจัดการมาใช้ประสานกับความรู้ ซึ่งผู้ที่ได้ประโยชน์คือกรรมกร
ส่วนการปฏิวัติความรู้ในครั้งที่ 3 คือการประยุกต์ใช้ความรู้กับความรู้ ทำให้เกิดการจัดการความรู้ขึ้นมา
ซึ่งจะเกิดประโยชน์กับคนทั้งหมดเพราะความรู้จะหลุดออกจากกลุ่มผู้เชี่ยวชาญพิเศษ อาจารย์มหาวิทยาลัย
ซึ่งเป็นผู้มีความรู้ในยุคอุตสาหกรรมและผูกขาดอยู่ในกลุ่มของตนเอง
แต่เมื่อมีการนำความรู้มาจัดการองค์ความรู้ทุกคนจะได้ประโยชน์ และนักวิชาการต่อไปจะเป็นเพียง Operator
คอยสับสวิตช์ความรู้ให้กับนักศึกษาเท่านั้น

สำหรับการปฏิวัติแบบนี้ผมขอเรียกว่าเป็นการปฏิวัติแบบถดถอย เราพบว่าในศตวรรษที่ 21
ทั่วโลกมีการปฏิวัติแบบถดถอยออกจากที่เดิม เช่น ศิลปะ ในช่วงยุคโมเดิร์น
ศิลปินได้ระบุไว้ว่าจะไม่เป็นสื่อ หรือตัวแทนของความงาม ความจริง ตามที่ศิลปะยุคก่อนเคยเป็นมา
คือศิลปะประกาศถดถอยตัวเองจากความเป็นจริง วัฒนธรรมก็ถดถอยออกจากการเป็นของดี ของชั้นสูง
มาเป็นไลฟ์สไตล์ของคนทั่วไป ในด้านสังคม จากเดิมที่ถูกกำหนดความเป็นไปด้วยคนชั้นสูง (Elite)
เป็นสังคมที่ถูกกำหนดด้วยคนทั่วไป

การถดถอยทางเศรษฐกิจทำให้มูลค่าของสิ่งต่างๆ ไม่ได้ถูกกำหนดโดยองค์ประกอบจากภายในของสิ่งต่างๆ เช่น
วัตถุดิบ ค่าเครื่องจักร ค่าเช่า ดอกเบี้ย จากเดิมที่ราคาสินค้ากำหนดด้วยราคาวัตถุดิบบวกกำไร
มาเป็นมูลค่าของสิ่งต่างๆ ถูกกำหนดโดยตลาด เป็นผู้ตัดสินให้เกิดมูลค่า ซึ่งมูลค่าเพิ่มเกิดจากการออกแบบ
เทคโนโลยี การสร้างแบรนด์

อย่างไรก็ตามสังคมแห่งการเรียนรู้ ข้อมูลข่าวสาร มีข้อเสียคือ
การผูกติดอยู่กับอุดมการณ์เสรีนิยมใหม่และระบบตลาดค่อนข้างมาก ดังนั้นการเป็นความรู้เพื่ออะไร เพื่อใคร
จึงถูกมองน้อยลงไป เพราะตลาดจะเป็นผู้กำหนดทุกสิ่ง นั่นก็คือความรู้ได้ถดถอยออกมาจากความเป็นจริง
ผู้เชี่ยวชาญถูกทำให้กลายเป็นเหมือนสินค้าที่หมุนเวียนโดยเสรี และถูกกำหนดโดยตลาด

ความรู้ในยุคสุดท้ายมีข้อดีคือ กระจายออกไปสู่มนุษย์มากขึ้น เป็นประชาธิปไตยของความรู้
และนำมาสู่ประชาธิปไตยของชาวบ้านที่ความรู้เข้าถึงได้ง่าย เราสามารถเข้าถึงหรือหยิบฉวยมาใช้ได้ง่าย
คนมีโอกาสเอาความรู้ไปสร้างมูลค่าเพิ่ม สร้างประโยชน์ให้กับตนเองมากขึ้น และมีโอกาสสร้างสรรค์มากขึ้น
การมีส่วนร่วมของคนจะละลายความต่างของสังคมออกไป มีการนำภูมิปัญญาชาวบ้าน ปราชญ์ชาวบ้านมาใช้มากขึ้น
เพราะความรู้ได้ละลายเส้นแบ่งเดิมออกไปและเป็นประโยชน์กับสังคมโดยรวม
และทำให้เกิดสังคมประชาธิปไตยมากที่สุดเท่าที่เคยเป็นมา แต่ต้องระวังไม่ให้เกิดความเอียงของความรู้

ส่วนข้อเสียคือ มันทำให้เราตั้งคำถามกับสิ่งที่ชักใยอยู่เบื้องหลังความรู้ หรือ
"ปัญญาเหตุผล" ซึ่งหากมีอยู่จริง ทำไมมีการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ สงครามอิรัก
หรือแม้แต่ความรุนแรงที่ภาคใต้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า "ปัญญาเหตุผล" เดิมใช้ได้หรือไม่
การเอาผลที่จะเกิดขึ้นมาเป็นหลักในการแก้ไขปัญหา
หรือการไปถึงเป้าหมายโดยไม่ได้คิดถึงวิธีการนั้นจึงมีปัญหาตามมามากมาย เราจึงต้องมีโครงสร้าง
มีเนื้อในของความรู้ ซึ่งเป็นเรื่องที่จำเป็นมาก อย่าเอาเป้าหมายมาเป็นหลัก

การเติบโตของความรู้ผ่านมาจากยุคโบราณที่ความรู้อยู่กับพระ หรือชนชั้นผู้นำ
มาสู่ยุคอุตสาหกรรมที่เชื่อว่าความรู้ต้องผ่านการค้นคว้า ศึกษาทดลอง โดยเป็นการเติบโตแบบค่อยๆ
เพิ่มพูนมาตลอด เพิ่งมีองค์ความรู้เข้ามาลบล้างความเชื่อเดิมเมื่อไม่นานมานี้ โดยมีนักคิดชื่อ
"โทมัส คูนห์" เป็นหลัก ต่อมาก็เป็น "จอร์จ โซรอส"
ที่เชื่อว่าความรู้ไม่มีหลักฐานที่แน่นอน การเติบโตของความรู้ไม่ได้เกิดจากการพอกพูนของความรู้
แต่เกิดจากการวิพากษ์ วิจารณ์ และล้มล้างความเชื่อเดิม

การเติบโตของศาสตร์ คือการเติบโตจากแม่บทความคิดเดิม
แต่เมื่อไปถึงจุดหนึ่งจะเกิดการก้าวกระโดดทางความคิด เพราะฉะนั้นการเข้าใจถึงแม่บท (Paradigm)
จึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อดูว่ามีอะไรอยู่เบื้องหลังความรู้ และควรจะเดินต่อไปหรือไม่

จากคุณ : Can - [ 12 พ.ย. 47 21:38:47 A:203.172.74.96 X: TicketID:014491 ]
ความคิดเห็นที่ 1

O "สุลักษณ์ ศิวรักษ์"

เพิ่งกลับมาจากสหรัฐ และเห็นว่าขณะนี้ประชาชนสหรัฐเริ่มเห็นถึงความเลวร้ายของผู้นำเข้าแล้ว
และพยายามภาวนาเพื่อให้ผู้นำมีคุณธรรมมากขึ้น เพราะประธานาธิบดีสหรัฐถือว่าเป็นตัวเลวร้ายที่สุดในโลก
ทั้งการบุกทำสงครามอิรัก การหากินด้วยการค้าอาวุธ
การที่มีบริษัทเพียงไม่กี่แห่งได้ประโยชน์จากการทำสงคราม แต่ที่น่าแปลกใจคือ นายจอร์จ บุช
กลับมาใหม่อีกครั้ง ซึ่งเป็นเพราะมีการมอมเมาประชาชนให้เชื่อในตนเอง
และเชื่อว่าผู้นำของไทยจะใช้วิธีนี้เช่นกัน เพื่อให้ได้กลับมาบริหารประเทศใหม่อีกครั้งในสมัยหน้า

ขณะนี้ปัจจัยทางคุณธรรมของผู้นำไทยอ่อนแอ ทำให้ขาดความชอบธรรมที่จะบริหารประเทศต่อแล้ว
อย่างไรก็ตามก็พร้อมที่จะให้โอกาสในการบริหารงาน หาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความจริงใจในการบริหารงาน
แทนที่จะมัวพูดโกหก ผ่านสถานีวิทยุทุกวันเสาร์ หากจะพูดก็น่าจะชวนผมไปวิวาทะด้วย หรืออาจจะเชิญ
อาจารย์ประเวศ(วะสี) อาจารย์ธีรยุทธ(บุญมี) ไปร่วมทำรายการด้วยก็ได้

หากรัฐบาลยังไม่เปลี่ยนวิธีการบริหารประเทศจากความเห็นไปสู่ความรู้นั้น
ประชาชนคงต้องจุดเทียนเพื่อให้รัฐบาลตื่นขึ้นมาบริหารแนวใหม่ โดยให้ ศ.น.พ.ประเวศ วะสี เป็นผู้จุดก่อน
เนื่องจากเป็นผู้โอบอุ้มอสรพิษเข้ามาบริหารประเทศ ดังนั้น
พ.ต.ท.ทักษิณจะต้องเปลี่ยนมาใช้วิธีนิ่มนวลกว่านี้ ไม่เช่นนั้นจะไล่ออกจากการบริหารประเทศด้วยสันติวิธี
ซึ่งหากไล่ด้วยสันติวิธีไม่ได้ผล ก็จะทำต่อไปด้วยความเข้มแข็ง


เพื่อให้สังคมเป็นสังคมแห่งความรู้ นอกจากการไม่มีอคติ 4 คือ ฉันทาคติ โทสคติ โลภคติ และโมหคติแล้ว
ผู้บริหารประเทศจะต้องมีปัญจธรรม 3 ประการ คือ ละตัณหา ความทะยานอยาก เช่น การอยากรวยไม่รู้จบ
เอาบ้านเมืองมาใช้เพื่อสนองความอยากรวยของตนเอง ละมานะความถือว่าตนเองเป็นคนที่ดีที่สุด เก่งที่สุด
ต้องฟังคนอื่นๆ และละทิฐิ ความเห็นผิด ไม่เช่นนั้นจะทำให้เกิดความสว่างไม่ได้ และหากเราเห็นใครถูก
ไม่มีปัญจธรรม ครอบงำก็ให้สงสาร อย่าไปเกลียดเขา ให้รักเขาเหมือนรักหมาที่บ้าน

หน้า 2<
ที่มา :http://www.matichon.co.th/matichon/matichon.php?s_tag=01p0102121147&show=1&sectionid=0101&amp;day=2004/11/12

จากคุณ : Can - [ 12 พ.ย. 47 21:40:23 A:203.172.74.96 X: TicketID:014491 ]

ความคิดเห็นที่ 2

ช่วยอรรถาอธิบายเป็นภาษาคนให้ฟังหน่อยสิครับ

จากคุณ : Killer
- [ 12 พ.ย. 47 21:49:56 A:203.118.84.2 X: TicketID:066056 ]






ความคิดเห็นที่ 3

ไอ้ทักษิน ตัวซวย


จากคุณ : คนไม่มีแฟน - [ 12 พ.ย. 47 22:10:55 A:202.5.88.137 X: TicketID:077080 ]


ความคิดเห็นที่ 5

เขาพูดภาษาคนอยู่แล้วครับ คุณ Killer อิ อิ
อย่าบอกนะว่าคุณคือพระเอก..."คนไม่ใช่คน"...

ภาษาอาจดูฟังยาก แต่ต้องค่อยๆเคี้ยว ค่อยๆย่อยนะครับ

พอถึงกระเพาะที่ 2 ก็จะร้อง ฮ่อ..มันเป็นเช่นนี้เอง


จากคุณ : Can - [ 12 พ.ย. 47 22:16:59 A:203.172.74.96 X: TicketID:014491 ]






ความคิดเห็นที่ 6

อืม........... อุ้มอสรพิษมาบริหารประเทศ

จากคุณ : เบื๊อก - [ 12 พ.ย. 47 23:08:13 A:210.246.66.85 X: TicketID:075448 ]






ความคิดเห็นที่ 7

ไอ้ประเภทเอาเรื่องราวในอดีตมาปะติดปะต่อ แล้วพล่าม
ออกมาแบบนี้นะ...ใส่ศัพท์แสงเล่นคำให้มันดูเท่อีกหน่อย
แค่นี้ก็หากินได้แล้วหรือ..?.?
ผมต้องการอนาคต..ต้องการรู้ทิศทางอนาคตที่เป็นรูปธรรม
บอกมาเลยว่าจะยังไง... 1 2 3 4 ...
ไม่ต้องมาสรุปอดีีตให้ฟัง...

ส่วนนายส.ศิวรักษ์ ไม่ต้องพูดถึง ผมรู้กำพืดทางความคิด
เขาเป็นอย่างดี...เพราะอ่านหนังสือเขามาบานเบอะ...
อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่แล้ว..

จากคุณ : Killer -
[ 12 พ.ย. 47 23:42:28 A:203.118.84.2 X: TicketID:066056 ]






ความคิดเห็นที่ 8

อ๋อ..อ่านแล้ว แสดงว่าย่อยแล้วสิ อิ อิ

อาหารหยาบต้องเคี้ยวนานๆหน่อยนะ

จากคุณ : Can - [ 13 พ.ย. 47 00:00:49 A:202.5.88.152 X: TicketID:014491 ]





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-10-2006, 04:47 โดย CanCan » บันทึกการเข้า

ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #31 เมื่อ: 14-10-2006, 22:01 »

ส.ศิวรักษ์’ ชี้นายกฯ ใหม่ถอดใจตั้งแต่ยังไม่เริ่มงาน เพราะอ้างมีเวลาหนึ่งปีจะทำอะไรได้

จาก : ไทยทาวน์ยูเอสเอนิวส์

อ.สุลักษณ์ ศิวรักษ์ ได้กล่าวถึงเหตุการณ์ปฏิรูปการเมืองของไทยโดยคณะทหารว่า
ขณะนี้ยังอยู่ในช่วงที่คนกำลังเห่อ แต่หากไม่มีผลงานใดๆ ในระยะอันไกลก็จะถูกประชาชนด่า

เหมือนเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นกับคณะรัฐประหารในอดีต อีกทั้งระบุว่า
แม้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีสมควรที่จะออกจากตำแหน่ง
เพราะไม่มีความโปร่งใส แต่ก็ควรจะมีวิธีอื่นที่ดีกว่าการทำปฏิวัติยึดอำนาจ

“เอาล่ะ ยึดอำนาจแล้ว ก็น่าจะใช้สติปัญญาในการยึดอำนาจมากกว่านี้
เช่น งดใช้รัฐธรรมนูญบางมาตรา ปรับปรุงรัฐธรรมนูญ
นี่ให้ร่างใหม่กันหมดแล้ว ยุบหมดเลย สภายุบหมด นี่แสดงว่าใช้อำนาจบาตรใหญ่นี่ครับ

ระยะแรกก็เชียร์กันครับ ใส่เสื้อเหลืองเอาดอกไม้ไปให้ ก็ดีครับ
เล่นละครกัน แต่ผมอยากจะเตือนนะครับ อีกพักเดียวคนก็จะเอือม คนก็จะเบื่อ
ผมเตือนด้วยความหวังดี ถ้าไม่พอใจ ผมกลับไปวันที่ 26-27 ก็ไปจับผมได้ ไม่หนี ให้จับครับ”


นักวิชาการที่ได้ชื่อว่าเป็นคนตรง กล้าวิพากษ์วิจารณ์อย่างตรงไปตรงมากล่าวอย่างอารมณ์ดี
ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลใหม่ที่มีการจัดตั้งขึ้นมา จะทำให้เกิดผลดีอะไรกับประเทศบ้าง
นักวิชาการเจ้าของฉายาปราชญ์สยามกล่าวว่า เป็นเรื่องยาก เพราะนายกรัฐมนตรีบอกว่ามีเวลาทำงานแค่หนึ่งปี
เหมือนถอดใจตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มทำงาน

“ท่านนายกฯ ท่านบอกมาปีเดียวจะทำไรได้ ถ้าพูดอย่างนี้คุณก็ทำอะไรไม่ได้
เมื่อรัฐบาลอังกฤษจะให้เอกราชอินเดียนั้น ได้ส่งลอร์ดหลุยส์ไป
ให้เวลาหนึ่งปี ให้ทำให้สำเร็จ ให้อำนาจเต็มที่ ก็ทำได้สำเร็จ
นี่อะไร อำนาจก็มีเต็มที่ ยังหยอยๆ อย่างนี้หรือจะทำได้สำเร็จ
คณะรัฐมนตรีที่ตั้งอยู่นี่ ส่วนใหญ่กึ่งดิบกึ่งดีทั้งนั้น ทำอะไรได้
”

นักวิชาการชื่อดังกล่าวอีกว่า คณะรัฐมนตรีในรัฐบาลใหม่
ส่วนใหญ่เป็นคนในกระแสหลัก ซึ่งไม่ค่อยฟังเสียงนอกกระแส

“บ้านเมืองเราตอนนี้มันเปลี่ยนไปมาก ที่มันเปลี่ยนแปลงได้เพราะประชาชนเป็นแสนๆ
ทั่วทุกจังหวัดออกมาไล่ทักษิณ แต่คนเหล่านี้กลับไม่ได้รับการเหลียวแลเลย
มีแต่เอาพวกขุนนางเก่าๆ พวกปลัดกระทรวงเก่าบ้างมาเป็นรัฐมนตรี
พวกนี้ไม่เคยฟังใคร จะไปทำอะไรได้ คุณสุรยุทธ์เป็นคนน่ารักครับ
แต่ผมว่าควรไปบวชมากกว่าจะมาเป็นนายกฯ”




ข้อความข้างบนนี้ มีคำไหน บันทัดไหน วรรคไหนที่เป็นของคุณ Killer บ้างหรือไม่ Question

ผมจะได้พิจารณาถูกต้อง อย่าปนเปหรือผสมโรง....

ปล. ครูสอนเรียงความ เรียบเรียงความ ย่อความ และการตั้งหัวข้อเรื่อง หัวข้อกระทู้ ต้องมาสอนคุณ Killer
      เพราะความรู้ที่เคยได้รับมา"เข้าหม้อ"หมดแล้ว.... Exclamation

      คุณ Killer อาจจะยังมีความรู้อยู่ แต่"มิจฉาทิฐิ" ก็ได้.............ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-10-2006, 22:06 โดย ปุถุชน » บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
Killer
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,576


ช๊อบบ ชอบบ...ปฏิวัติ ปลื้ม ค่ะ


« ตอบ #32 เมื่อ: 14-10-2006, 22:16 »

ก่อนหน้านี้ ในยุคสมัยแห่งประชาธิปไตยเบ่งบาน ส.ศิวรักษ์

เข้าร่วมผสมโรงขับไล่ ดร.ทักษิณ อย่างเมามันในอารมณ์

มาวันนี้ได้เห็นผลกรรมที่ตัวเองได้ร่วมก่อขึ้นมาแล้วใช่หรือไม่



ดีนะ ที่ คปคูปมันไม่เอาเรื่องที่ไปให้สัมภาษณ์ BBC เอาไว้เรื่องรัฐประหารที่พาดพิงสถาบันฯ

ไม่อย่างงั้นเป็นได้ซ้ำรอย สมัย รสช. อีกเป็นแน่แท้

ส. ตาสว่างแล้วก็เพราะว่า เพิ่งการจ่างแจ้งแก่ใจในวันที่ 19 กันยา นี่เอง

ว่าแท้ที่จริงแล้วอะไรเป็นอะไร มีอะไรในกอไผ่

ถ้าย้อนเวลากลับไป ส.ศิวรักษ์ และนักวิชาการสายกลางอีกหลายๆคน

คงจะไม่เข้าร่วมผสมโรงกับมหกรรมทำลายล้างประชาธิปไตยครั้งนี้อย่างแน่นอน
บันทึกการเข้า
นู๋เจ๋ง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,877



« ตอบ #33 เมื่อ: 14-10-2006, 22:18 »

 afro
บันทึกการเข้า

~จะแน่วแน่...แก้ไข...ในสิ่งผิด~
HILTON (ปาล์มาลี)
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,310



« ตอบ #34 เมื่อ: 14-10-2006, 22:29 »

จำภาพคนแก่ๆถือไม้เท้า  ขึ้นเวทีพันธุ์มิตร  ด่าไอ้เหลี่ยมเสียไม่มีดีเลย..ด่าชัดๆไม่ต้องแปล อยากฟังไหมครับ..
บันทึกการเข้า
snowflake
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,207



« ตอบ #35 เมื่อ: 14-10-2006, 22:31 »

เชิญคุณ ปุถุชน ตรวจสอบได้ที่นี่ค่ะ

http://www.prachatai.com/05web/th/home/page2.php?mod=mod_ptcms&ContentID=5399&SystemModuleKey=HilightNews&System_Session_Language=Thai

ครึ่งหลังของบทความเป็น ดังนี้


------------------------------------

อ.สุลักษณ์ ศิวรักษ์ ได้กล่าวถึงนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของไทยต่อไปว่า เป็นชาวพุทธ
ที่น่ารัก และซื่อสัตย์ “เมื่อท่านเป็นแม่ทัพ คุมกองทัพให้ลดการโกงกินไปมาก ตัวท่าน
เองเป็นผู้บริสุทธิ์ เกษียณแล้วก็ไปบวช แต่คนที่ถือพุทธแบบนี้ ไปเข้าใจว่าการถือพุทธ
ให้ตัวเองเป็นคนดี ซื่อ ไม่โกงกิน เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ถ้าเข้าใจศาสนาพุทธแล้ว
ตัวศีลนั้น ไม่ใช่เป็นคนดีอย่างเดียว ศีลแปลว่าปกติ แต่ละคนต้องปกติ สังคมต้องปกติ
ช่องว่างระหว่างคนรวยคนจนต้องลดลง อภิสิทธิต่างๆ จะต้องหมดไป คนชั้นปกครอง
ทุกระบบ ตั้งแต่สูงสุดลงมาถึงต่ำสุดจะต้องโปร่งใสตรวจสอบได้ คนข้างบนจะต้องเคารพ
คนข้างล่าง ไม่ใช่ดูถูก ถ้าเนื้อหาสาระไม่กลับมา ไม่มีทางเป็นประชาธิปไตย.... ท่าน
นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน เรียนด้วยความเคารพนะครับ ท่านไม่เข้าใจประเด็นนี้ ขึ้นมา
จนกระทั่งถึงพลเอก ก็เลยนึกว่าพลเอกต้องใหญ่กว่าพลทหาร จ้าวต้องสูงกว่าไพร่ ผมว่า
ความคิดนี้หมดสมัยไปแล้ว”

นักวิชาการชื่อดังกล่าวด้วยว่า หากมีการประยุกต์เอาเนื้อหาสาระของพุทธศาสนาเข้าไป
มาใช้ในระบอบการเมือง ก็จะทำให้ระบอบประชาธิปไตยเกิดขึ้นได้อย่างสมบูรณ์

“แก่นของพุทธ ใช้ได้กับทุกศาสนาและใช้ได้กับทางการเมือง สังคม เพราะเนื้อหาศาสนา
พุทธ ฝึกให้ทุกคนเปลี่ยนความโลภเป็นทาน ความงกเป็นการให้ เปลี่ยนความรุนแรงโทสะ
เป็นเมตตากรุณา เปลี่ยนความหลงชาติ หลงตัว อะไรก็ตามให้เป็นความเข้าใจ เป็นปัญญา
เนื้อหาสาระของศาสนาอื่นก็เช่นเดียวกัน แต่ใช้ภาษาต่างกัน เอาธรรมะมาประยุกต์ใช้ พุทธ
แปลว่าตื่น ตื่นจากโลภโกรธหลง ถ้าใช้เป็นพื้นฐานแล้ว มันจะช่วยทุกคนตื่น ทุกคนมีความ
ภูมิใจ มีความเคารพซึ่งกันและกัน”

ในประเด็นการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่นั้น ส.ศิวรักษ์ กล่าวว่าจะร่างใหม่ให้สวยหรูอย่างไร
ก็ตาม หากไม่พัฒนาคน ก็จะไม่มีประโยชน์

“รัฐธรรมนูญฉบับที่แล้วก็ดีพอสมควร แต่ว่าคนใช้จุดอ่อนของรัฐธรรมนูญนี่ อย่างทักษิณ
นี่ชัดเจน เพราะเขาเชื่อว่าเขาสามารถใช้เงินและอำนาจซื้อได้ และที่น่าเสียใจกว่านั้นก็
คือคนของเราซื้อได้แทบทุกแห่ง ทุกสถาบัน สำนักงานอัยการก็ถูกซื้อ ศาลรัฐธรรมนูญ
ก็ถูกซื้อ วุฒิสภา ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีการเลือกตั้งก็ถูกซื้อ การแก้ก็ต้องกำหนดว่าทำไงถึง
จะทำให้คนของเราเลิกถูกซื้อได้ นี่ผมไม่ได้พูดในทางนามธรรม ในทางอุดมคติ เป็นไป
ได้นะครับ แต่รัฐบาลชุดนี้ทำไม่ได้ เพราะรัฐบาลชุดนี้เต็มไปด้วยคนในระบบ มองอยู่แค่
ในระบบ ไม่รู้ว่าระบบของตัวเองคือตัวสร้างความสับสนไขว้เขวให้กับบ้านเมืองตลอดเวลา
ถ้าจะร่างรัฐธรรมนูญ ต้องมองไปนอกระบบ คนนอกระบบก็ตื่นขึ้นมามากแล้วครับ คนจน
ที่เคยถูกเหยียดหยามว่าโง่เขลาเบาปัญญา เขาตั้งสมัชชาคนจน มีสมาชิกหลายล้าน
คนเหล่านี้เขาสามารถยืนหยัดท้าทายคนข้างบนครับ”

อ.สุลักษณ์ ศิวรักษ์ กล่าวด้วยว่า สิ่งที่คนไทยจะทำได้ในสภาพเช่นนี้ คือ จะต้องยอมรับ
ความจริง เพราะตนไม่เห็นว่าจะมีใครใน ครม.ชุดนี้ กล้าหาญพอจะแหวกออกจาก ‘สภาพ
น้ำนิ่ง-น้ำเน่า’ ออกมาได้ และฝากสื่อมวลชนด้วยว่า ให้พยายามติชมรัฐบาลใหม่ในเชิง
สร้างสรรค์

“พยายามชี้แนะ อย่าไปโจมตีในทางทำลายล้าง เขาจะเสียกำลังใจ เมื่อเสียแล้วเขามี
คณะปฏิรูปอยู่หลังเขา เขารังแกได้ทันทีเลย ผมว่าเราอย่าเป็นศัตรูกันดีกว่า เตือนกันด้วย
ความหวังดีนะครับ อาจจะต้องใช้ถ้อยคำที่เพราะกว่าที่ผมใช้หน่อยหนึ่ง เขาจะได้ฟัง
อย่างผมเขาไม่ฟังอยู่แล้ว ไอ้ตาแก่นี่พูดมาก”

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวถามถึงนางชะบา จตุรบุล ซึ่งเป็นศิษย์ของ อ.สุลักษณ์ ศิวรักษ์ แต่ออกมา
เคลื่อนไหวสนับสนุนรัฐบาลพรรคไทยรักไทยอย่างเต็มตัว และอ.สุลักษณ์เคยเขียนจดหมาย
ติติงศิษย์จนเป็นข่าวฮือฮาในชุมชนไทยมาแล้วนั้น อ.สุลักษณ์กล่าวว่า ตนไม่ขอพูดอะไร
มาก เพราะแต่ละคนก็มีสิทธิ์ที่จะทำในสิ่งที่ตนเชื่อ

“ผมไม่ว่าใคร เขาก็เลี้ยงข้าวผมเมื่อคืน คนเรามันเห็นไม่เหมือนกันได้นี่ครับ จะถือพุทธ ถือ
คริสต์ เป็นคอมมิวนิสต์ ก็ได้ ได้ข้อมูลมาเท่าไหนก็ทำไปเท่านั้น แต่ผมเชื่อว่าเขาเป็นคน
บริสุทธิ์ ถามว่าคุยอะไรกันเหรอ ก็คุยกันส่วนตัว” นักวิชาการชื่อดังกล่าว.
…………………………………………………..

ที่มา : ไทยทาวน์ยูเอสเอนิวส์
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-10-2006, 22:40 โดย snowflake » บันทึกการเข้า

Even the smallest person can change the course of the future.
คนเจียงใหม่
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 297


« ตอบ #36 เมื่อ: 14-10-2006, 22:34 »

ส.ศิวลักษณ์ ได้แต่ พูด ชี้แนะคนอื่นมาตลอด
ขอให้แก่เป็นผู้บริหารประเทศเลยได้ไหม?
เอาชักตำแหน่งเถอะ อะไรก็ได้
บันทึกการเข้า
Killer
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,576


ช๊อบบ ชอบบ...ปฏิวัติ ปลื้ม ค่ะ


« ตอบ #37 เมื่อ: 14-10-2006, 22:37 »

ก็นี่ไงครับ ผมถึงได้สงสัยไง นักข่าวก็ไม่ยอมถามแก ว่าถ้าย้อนเวลากลับไป

แต่จะตกเป็นเครื่องมือ เป็นฝุ่น เป็นเบี้ยให้เค้าใช้สร้างราคาในการทำลายล้าง

ประชาธิปไตยไทยหรือไม่ นี่เป็นเพราะ ส.ศิวรักษ์ เบาปัญญา เบาใจ ไม่คิดว่า

ในท้ายที่สุดแล้ว จะจบลงด้วยการรัฐประหาร จบสิ้นกระบวนการโค่นล้มทางการเมือง
บันทึกการเข้า
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #38 เมื่อ: 14-10-2006, 22:38 »

เชิญคุณ ปุถุชน ตรวจสอบได้ที่นี่ค่ะ

http://www.prachatai.com/05web/th/home/page2.php?mod=mod_ptcms&ContentID=5399&SystemModuleKey=HilightNews&System_Session_Language=Thai

ครึ่งหลังของบทความเป็น ดังนี้


------------------------------------

อ.สุลักษณ์ ศิวรักษ์ ได้กล่าวถึงนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของไทยต่อไปว่า เป็นชาวพุทธที่น่ารัก และซื่อสัตย์ “เมื่อท่านเป็นแม่ทัพ คุมกองทัพให้ลดการโกงกินไปมาก ตัวท่านเองเป็นผู้บริสุทธิ์ เกษียณแล้วก็ไปบวช แต่คนที่ถือพุทธแบบนี้ ไปเข้าใจว่าการถือพุทธให้ตัวเองเป็นคนดี ซื่อ ไม่โกงกิน เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ถ้าเข้าใจศาสนาพุทธแล้ว ตัวศีลนั้น ไม่ใช่เป็นคนดีอย่างเดียว ศีลแปลว่าปกติ แต่ละคนต้องปกติ สังคมต้องปกติ ช่องว่างระหว่างคนรวยคนจนต้องลดลง อภิสิทธิต่างๆ จะต้องหมดไป คนชั้นปกครองทุกระบบ ตั้งแต่สูงสุดลงมาถึงต่ำสุดจะต้องโปร่งใสตรวจสอบได้ คนข้างบนจะต้องเคารพคนข้างล่าง ไม่ใช่ดูถูก ถ้าเนื้อหาสาระไม่กลับมา ไม่มีทางเป็นประชาธิปไตย.... ท่านนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน เรียนด้วยความเคารพนะครับ ท่านไม่เข้าใจประเด็นนี้ ขึ้นมาจนกระทั่งถึงพลเอก ก็เลยนึกว่าพลเอกต้องใหญ่กว่าพลทหาร จ้าวต้องสูงกว่าไพร่ ผมว่าความคิดนี้หมดสมัยไปแล้ว”

นักวิชาการชื่อดังกล่าวด้วยว่า หากมีการประยุกต์เอาเนื้อหาสาระของพุทธศาสนาเข้าไปมาใช้ในระบอบการเมือง ก็จะทำให้ระบอบประชาธิปไตยเกิดขึ้นได้อย่างสมบูรณ์

“แก่นของพุทธ ใช้ได้กับทุกศาสนาและใช้ได้กับทางการเมือง สังคม เพราะเนื้อหาศาสนาพุทธ ฝึกให้ทุกคนเปลี่ยนความโลภเป็นทาน ความงกเป็นการให้ เปลี่ยนความรุนแรงโทสะเป็นเมตตากรุณา เปลี่ยนความหลงชาติ หลงตัว อะไรก็ตามให้เป็นความเข้าใจ เป็นปัญญา เนื้อหาสาระของศาสนาอื่นก็เช่นเดียวกัน แต่ใช้ภาษาต่างกัน เอาธรรมะมาประยุกต์ใช้ พุทธแปลว่าตื่น ตื่นจากโลภโกรธหลง ถ้าใช้เป็นพื้นฐานแล้ว มันจะช่วยทุกคนตื่น ทุกคนมีความภูมิใจ มีความเคารพซึ่งกันและกัน”

ในประเด็นการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่นั้น ส.ศิวรักษ์ กล่าวว่าจะร่างใหม่ให้สวยหรูอย่างไรก็ตาม หากไม่พัฒนาคน ก็จะไม่มีประโยชน์

“รัฐธรรมนูญฉบับที่แล้วก็ดีพอสมควร แต่ว่าคนใช้จุดอ่อนของรัฐธรรมนูญนี่ อย่างทักษิณนี่ชัดเจน เพราะเขาเชื่อว่าเขาสามารถใช้เงินและอำนาจซื้อได้ และที่น่าเสียใจกว่านั้นก็คือคนของเราซื้อได้แทบทุกแห่ง ทุกสถาบัน สำนักงานอัยการก็ถูกซื้อ ศาลรัฐธรรมนูญก็ถูกซื้อ วุฒิสภา ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีการเลือกตั้งก็ถูกซื้อ การแก้ก็ต้องกำหนดว่าทำไงถึงจะทำให้คนของเราเลิกถูกซื้อได้ นี่ผมไม่ได้พูดในทางนามธรรม ในทางอุดมคติ เป็นไปได้นะครับ แต่รัฐบาลชุดนี้ทำไม่ได้ เพราะรัฐบาลชุดนี้เต็มไปด้วยคนในระบบ มองอยู่แค่ในระบบ ไม่รู้ว่าระบบของตัวเองคือตัวสร้างความสับสนไขว้เขวให้กับบ้านเมืองตลอดเวลา ถ้าจะร่างรัฐธรรมนูญ ต้องมองไปนอกระบบ คนนอกระบบก็ตื่นขึ้นมามากแล้วครับ คนจนที่เคยถูกเหยียดหยามว่าโง่เขลาเบาปัญญา เขาตั้งสมัชชาคนจน มีสมาชิกหลายล้าน คนเหล่านี้เขาสามารถยืนหยัดท้าทายคนข้างบนครับ”

อ.สุลักษณ์ ศิวรักษ์ กล่าวด้วยว่า สิ่งที่คนไทยจะทำได้ในสภาพเช่นนี้ คือ จะต้องยอมรับความจริง เพราะตนไม่เห็นว่าจะมีใครใน ครม.ชุดนี้ กล้าหาญพอจะแหวกออกจาก ‘สภาพน้ำนิ่ง-น้ำเน่า’ ออกมาได้ และฝากสื่อมวลชนด้วยว่า ให้พยายามติชมรัฐบาลใหม่ในเชิงสร้างสรรค์

“พยายามชี้แนะ อย่าไปโจมตีในทางทำลายล้าง เขาจะเสียกำลังใจ เมื่อเสียแล้วเขามีคณะปฏิรูปอยู่หลังเขา เขารังแกได้ทันทีเลย ผมว่าเราอย่าเป็นศัตรูกันดีกว่า เตือนกันด้วยความหวังดีนะครับ อาจจะต้องใช้ถ้อยคำที่เพราะกว่าที่ผมใช้หน่อยหนึ่ง เขาจะได้ฟัง อย่างผมเขาไม่ฟังอยู่แล้ว ไอ้ตาแก่นี่พูดมาก”

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวถามถึงนางชะบา จตุรบุล ซึ่งเป็นศิษย์ของ อ.สุลักษณ์ ศิวรักษ์ แต่ออกมาเคลื่อนไหวสนับสนุนรัฐบาลพรรคไทยรักไทยอย่างเต็มตัว และอ.สุลักษณ์เคยเขียนจดหมายติติงศิษย์จนเป็นข่าวฮือฮาในชุมชนไทยมาแล้วนั้น อ.สุลักษณ์กล่าวว่า ตนไม่ขอพูดอะไรมาก เพราะแต่ละคนก็มีสิทธิ์ที่จะทำในสิ่งที่ตนเชื่อ

“ผมไม่ว่าใคร เขาก็เลี้ยงข้าวผมเมื่อคืน คนเรามันเห็นไม่เหมือนกันได้นี่ครับ จะถือพุทธ ถือคริสต์ เป็นคอมมิวนิสต์ ก็ได้ ได้ข้อมูลมาเท่าไหนก็ทำไปเท่านั้น แต่ผมเชื่อว่าเขาเป็นคนบริสุทธิ์ ถามว่าคุยอะไรกันเหรอ ก็คุยกันส่วนตัว” นักวิชาการชื่อดังกล่าว.
…………………………………………………..

ที่มา : ไทยทาวน์ยูเอสเอนิวส์



ส. ศิวรักษ์ ตาสว่างแล้ว ฤา.....
แล้วไงครับ............... Question
เนื้อหาสมกับหัวกระทู้หรือไม่....... Question

บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
Killer
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,576


ช๊อบบ ชอบบ...ปฏิวัติ ปลื้ม ค่ะ


« ตอบ #39 เมื่อ: 14-10-2006, 22:43 »

เค้าตาสว่างแล้วไงครับ...ว่าไม่น่าเข้าไปมีส่วนร่วมในการชุมนุมประท้วงที่ผ่านมาเลย

เพราะมีคนเอาการปรากฏตัวของแกบนเวทีพันธมิตรไปขยายแนวร่วม สร้างภาพความชอบธรรม

ให้กับการชุมนุม แต่ที่ไหนได้ กลับกลายเป็นส่วนหนึ่งของเหตุผลในการทำรัฐประหารไปเสียนี่


เค้าตาสว่างแล้ว และออกตัวว่า แก้ไขอะไรไม่ได้เสียแล้ว เพราะรัฐประหารก็ได้เกิดขึ้นมาแล้ว

ก็ได้แต่เลยตามเลย...ตรงนี้ผมคิดว่า ส. ยังไม่ชัดเจนพอ...

เหมือนกับกรณี สตรีถูกข่มขืน จะให้ผ่านแล้วผ่านเลยไปหรืออย่างไรมิทราบ.?
บันทึกการเข้า
Cherub Rock
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,183


น้องๆ ช่วยไปบอกผู้หญิงคนนั้นที ว่าเลิกมองผมได้แล้ว


« ตอบ #40 เมื่อ: 14-10-2006, 23:16 »

อ่านของจริงในประชาไทแล้ว

คิลเลอร์แหกตากันนี่หว่า ทีหลังเอามาก็ขอเต็มๆ มีลิงค์ด้วย

ไม่งั้นกาหน้าผากไว้ได้เลย แหกตา
 
บันทึกการเข้า

"นายกรัฐมนตรีกำลังใช้รัฐสภาประกอบพิธีกรรมสถาปนาอำนาจของตนเองโดยเห็นรัฐสภาเป็นเพียงแค่ตรายาง และปล่อยให้มีการทำร้ายประชาชนถือว่าหมดความชอบธรรมแล้ว" รสนา โตสิตระกูล
qazwsx
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,359


นักธุรกิจและตำรวจ ต้องออกไปจากการเมือง


« ตอบ #41 เมื่อ: 14-10-2006, 23:27 »

มั่วฉิบหาย
หยิบเอาบริบทมาเป็นประเด็น
บันทึกการเข้า

HILTON (ปาล์มาลี)
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,310



« ตอบ #42 เมื่อ: 14-10-2006, 23:56 »

เชิญคุณ ปุถุชน ตรวจสอบได้ที่นี่ค่ะ

http://www.prachatai.com/05web/th/home/page2.php?mod=mod_ptcms&ContentID=5399&SystemModuleKey=HilightNews&System_Session_Language=Thai

ครึ่งหลังของบทความเป็น ดังนี้


------------------------------------

อ.สุลักษณ์ ศิวรักษ์ ได้กล่าวถึงนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของไทยต่อไปว่า เป็นชาวพุทธ
ที่น่ารัก และซื่อสัตย์ “เมื่อท่านเป็นแม่ทัพ คุมกองทัพให้ลดการโกงกินไปมาก ตัวท่าน
เองเป็นผู้บริสุทธิ์ เกษียณแล้วก็ไปบวช แต่คนที่ถือพุทธแบบนี้ ไปเข้าใจว่าการถือพุทธ
ให้ตัวเองเป็นคนดี ซื่อ ไม่โกงกิน เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ถ้าเข้าใจศาสนาพุทธแล้ว
ตัวศีลนั้น ไม่ใช่เป็นคนดีอย่างเดียว ศีลแปลว่าปกติ แต่ละคนต้องปกติ สังคมต้องปกติ
ช่องว่างระหว่างคนรวยคนจนต้องลดลง อภิสิทธิต่างๆ จะต้องหมดไป คนชั้นปกครอง
ทุกระบบ ตั้งแต่สูงสุดลงมาถึงต่ำสุดจะต้องโปร่งใสตรวจสอบได้ คนข้างบนจะต้องเคารพ
คนข้างล่าง ไม่ใช่ดูถูก ถ้าเนื้อหาสาระไม่กลับมา ไม่มีทางเป็นประชาธิปไตย.... ท่าน
นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน เรียนด้วยความเคารพนะครับ ท่านไม่เข้าใจประเด็นนี้ ขึ้นมา
จนกระทั่งถึงพลเอก ก็เลยนึกว่าพลเอกต้องใหญ่กว่าพลทหาร จ้าวต้องสูงกว่าไพร่ ผมว่า
ความคิดนี้หมดสมัยไปแล้ว”

นักวิชาการชื่อดังกล่าวด้วยว่า หากมีการประยุกต์เอาเนื้อหาสาระของพุทธศาสนาเข้าไป
มาใช้ในระบอบการเมือง ก็จะทำให้ระบอบประชาธิปไตยเกิดขึ้นได้อย่างสมบูรณ์

“แก่นของพุทธ ใช้ได้กับทุกศาสนาและใช้ได้กับทางการเมือง สังคม เพราะเนื้อหาศาสนา
พุทธ ฝึกให้ทุกคนเปลี่ยนความโลภเป็นทาน ความงกเป็นการให้ เปลี่ยนความรุนแรงโทสะ
เป็นเมตตากรุณา เปลี่ยนความหลงชาติ หลงตัว อะไรก็ตามให้เป็นความเข้าใจ เป็นปัญญา
เนื้อหาสาระของศาสนาอื่นก็เช่นเดียวกัน แต่ใช้ภาษาต่างกัน เอาธรรมะมาประยุกต์ใช้ พุทธ
แปลว่าตื่น ตื่นจากโลภโกรธหลง ถ้าใช้เป็นพื้นฐานแล้ว มันจะช่วยทุกคนตื่น ทุกคนมีความ
ภูมิใจ มีความเคารพซึ่งกันและกัน”

ในประเด็นการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่นั้น ส.ศิวรักษ์ กล่าวว่าจะร่างใหม่ให้สวยหรูอย่างไร
ก็ตาม หากไม่พัฒนาคน ก็จะไม่มีประโยชน์

“รัฐธรรมนูญฉบับที่แล้วก็ดีพอสมควร แต่ว่าคนใช้จุดอ่อนของรัฐธรรมนูญนี่ อย่างทักษิณ
นี่ชัดเจน เพราะเขาเชื่อว่าเขาสามารถใช้เงินและอำนาจซื้อได้ และที่น่าเสียใจกว่านั้นก็
คือคนของเราซื้อได้แทบทุกแห่ง ทุกสถาบัน สำนักงานอัยการก็ถูกซื้อ ศาลรัฐธรรมนูญ
ก็ถูกซื้อ วุฒิสภา ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีการเลือกตั้งก็ถูกซื้อ การแก้ก็ต้องกำหนดว่าทำไงถึง
จะทำให้คนของเราเลิกถูกซื้อได้ นี่ผมไม่ได้พูดในทางนามธรรม ในทางอุดมคติ เป็นไป
ได้นะครับ แต่รัฐบาลชุดนี้ทำไม่ได้ เพราะรัฐบาลชุดนี้เต็มไปด้วยคนในระบบ มองอยู่แค่
ในระบบ ไม่รู้ว่าระบบของตัวเองคือตัวสร้างความสับสนไขว้เขวให้กับบ้านเมืองตลอดเวลา
ถ้าจะร่างรัฐธรรมนูญ ต้องมองไปนอกระบบ คนนอกระบบก็ตื่นขึ้นมามากแล้วครับ คนจน
ที่เคยถูกเหยียดหยามว่าโง่เขลาเบาปัญญา เขาตั้งสมัชชาคนจน มีสมาชิกหลายล้าน
คนเหล่านี้เขาสามารถยืนหยัดท้าทายคนข้างบนครับ”

อ.สุลักษณ์ ศิวรักษ์ กล่าวด้วยว่า สิ่งที่คนไทยจะทำได้ในสภาพเช่นนี้ คือ จะต้องยอมรับ
ความจริง เพราะตนไม่เห็นว่าจะมีใครใน ครม.ชุดนี้ กล้าหาญพอจะแหวกออกจาก ‘สภาพ
น้ำนิ่ง-น้ำเน่า’ ออกมาได้ และฝากสื่อมวลชนด้วยว่า ให้พยายามติชมรัฐบาลใหม่ในเชิง
สร้างสรรค์

“พยายามชี้แนะ อย่าไปโจมตีในทางทำลายล้าง เขาจะเสียกำลังใจ เมื่อเสียแล้วเขามี
คณะปฏิรูปอยู่หลังเขา เขารังแกได้ทันทีเลย ผมว่าเราอย่าเป็นศัตรูกันดีกว่า เตือนกันด้วย
ความหวังดีนะครับ อาจจะต้องใช้ถ้อยคำที่เพราะกว่าที่ผมใช้หน่อยหนึ่ง เขาจะได้ฟัง
อย่างผมเขาไม่ฟังอยู่แล้ว ไอ้ตาแก่นี่พูดมาก”

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวถามถึงนางชะบา จตุรบุล ซึ่งเป็นศิษย์ของ อ.สุลักษณ์ ศิวรักษ์ แต่ออกมา
เคลื่อนไหวสนับสนุนรัฐบาลพรรคไทยรักไทยอย่างเต็มตัว และอ.สุลักษณ์เคยเขียนจดหมาย
ติติงศิษย์จนเป็นข่าวฮือฮาในชุมชนไทยมาแล้วนั้น อ.สุลักษณ์กล่าวว่า ตนไม่ขอพูดอะไร
มาก เพราะแต่ละคนก็มีสิทธิ์ที่จะทำในสิ่งที่ตนเชื่อ

“ผมไม่ว่าใคร เขาก็เลี้ยงข้าวผมเมื่อคืน คนเรามันเห็นไม่เหมือนกันได้นี่ครับ จะถือพุทธ ถือ
คริสต์ เป็นคอมมิวนิสต์ ก็ได้ ได้ข้อมูลมาเท่าไหนก็ทำไปเท่านั้น แต่ผมเชื่อว่าเขาเป็นคน
บริสุทธิ์ ถามว่าคุยอะไรกันเหรอ ก็คุยกันส่วนตัว” นักวิชาการชื่อดังกล่าว.
…………………………………………………..

ที่มา : ไทยทาวน์ยูเอสเอนิวส์

ฮ่าๆๆๆๆ  กูก็ตาสว่างแล้วโวย
บันทึกการเข้า
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #43 เมื่อ: 15-10-2006, 04:54 »

ท่าทางจะจับแพะชนแกะกันไปใหญ่ ปัญญาชนทั้งหลาย เห็นด้วยกับการต่อสู้แบบสันติ อหิงสา

อยากให้ประชาธิปไตย มันจบลงที่ ผู้บริหารลาออก โดยการชุมนุมต่อต้านโดยสงบ สันติ อหิงสา ให้ความรู้กับประชาชนไปเรื่อย ๆ

หลายๆ คนไม่เห็นด้วยกับการปฏิวัติรัฐประหาร...แต่หลาย ๆ คนแม้ไม่เห็นด้วย...แต่...เข้าใจ

คำว่า ไม่เห็นด้วย...แต่เข้าใจมีความหมาย

แต่ อาจารย์ ส. ไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหารและจะไม่ยอมเข้าใจ แค่แค่นั้น เหมือน อ.นิธิ เหมือนพวกพันธมิตอีกหลาย ๆกลุ่ม

เหมือนรสนา อีกเยอะแยะ นี่ยังไม่รู้จักแยกแยะ พันธมิตรอีกหรือ

พันธมิตร คือที่รวมของความหลากหลาย แต่เห็นตรงกันคือ หน้าเหลี่ยมต้องออกไป...
บันทึกการเข้า

Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #44 เมื่อ: 15-10-2006, 05:00 »

แถมนิด...คนที่เข้าใจในความจำเป็นของการรัฐประหาร เพราะเชื่อว่า

คืนวันที่ 20 จะเกิดความรุนแรง หรือในคืนใดคืนหนึ่งหลังจากนั้น หากอำนาจการประกาศ พรก.ฉุกเฉิน อยู่ในมือ หน้าเหลี่ยม


ส่วนกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหาร ไม่เชื่อว่าจะเกิดความรุนแรง หรือหากเกิดความรุนแรง ก็คิดว่าเหตุการณ์จะสงบลงได้ด้วยตัวของมันเอง

พูดอีกนัยหนึ่ง คนผู้ต่อต้านรัฐประหารกลุ่มนี้จะได้ออกมาด่ารัฐบาลหน้าเหลี่ยมต่อ หากเกิดล้มตาบลง โดยพวกปัญญาชนพวกนี้จะหัวหดในกระดอง

รอให้มีคนตายแล้วก็จะออกมาเหยียบย่ำซากศพของผู้เสียสละ อ้างความชอบธรรมในการขับไล่รัฐบาลเช่นเคย

ผมถึงอยากถามว่า พวกที่ด่า ๆ คนดัง ๆ พวกนี้ไปอยู่ที่ใหน เวลาเค้าสู้กันในกลางถนน
บันทึกการเข้า

HILTON (ปาล์มาลี)
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,310



« ตอบ #45 เมื่อ: 15-10-2006, 08:42 »

ว่าแต่คุณ Killer เลิกด่าส.ศิวรักษ์ กลับมาชื่นชมแล้วหรือครับ

ส. ศิวรักษ์ ดีอย่างคือเป็นผู้นำทางอุดมการณ์ที่ไม่กะล่อน

เป็นนักวิชาการที่ด่าได้ ไม่มีมิจฉาทิฐิ เหมือนนักวิชาการรุ่นใหม่ๆบางคน

ที่รักษาฟอร์มเสียยิ่งกว่า จุดยืนทางสติปัญญา

ไม่เหมือนผม


เติมนิด

บันทึกการเข้า
superager
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 152


Olivier@ขบวนการโจ๋เรนเจอร์


« ตอบ #46 เมื่อ: 15-10-2006, 10:06 »

 
บันทึกการเข้า
THX
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 569



« ตอบ #47 เมื่อ: 15-10-2006, 10:11 »

ว่าแต่คุณ Killer เลิกด่าส.ศิวรักษ์ กลับมาชื่นชมแล้วหรือครับ

killer ไม่เคยดูหรอกว่าด่าใครไว้มั่ง แต่ถ้าใครเลียเจ้านาย killer แหกตูดดมทันที ถ้าใครเคยเล่นราชดำเนินสมัยที่หมักลงเลือกตั้งผู้ว่ากทม. killer ก็ตั้งกระทู้ด่าหมัก จนหมักชนะการเลือกตั้ง แต่ถ้าไปถามkiller ว่าตอนนี้ความเห้นเหมือนหมักมั้ย killer ตอบได้ทันทีว่าเห็นเหมือนกับหมัก เพราะหมักเชียร์ทักษิณ
บันทึกการเข้า



พวกเรา..เรารู้สึกว่าจะมีสายลับปลอมมาในหมู่ของพวกเราโดยไม่รู้ตัว=__='



( づ ̄ 3 ̄ )づ~~~♡♡♡ ~~
หน้า: [1]
    กระโดดไป: