ความคิดเห็นที่ 120
ผมเห็นว่าสิ่งที่ควรเร่งทำ คือ
1. ชี้แจงและลบล้างสิ่งที่เป็นสัญลักษณ์ ซึ่งคนที่มีการศึกษาน้อยเข้าใจว่าเป็นคุณความดีของทักษิณให้หมดไป อย่างเช่นที่หมอมงคล ได้เสนอให้เลิกใช้คำว่า 30 บาท เพราะเป็นการใช้เทคนิคการตลาด อันนี้ดีมาก และควรต้องเน้นบ่อยๆว่า เงินที่ทักษิณเอามาทำ คือเงินภาษี และ "ไม่ใช่เงินของทักษิณ (ที่แบ่งปันไปจากสิ่งที่ควรเป็นเงินเดือนของข้าราชการ ที่น้อย เมื่อเปรียบเทียบกับเงินเดือนภาคเอกชน เและ สวัสดิการค่ารักษาพยาบาล ซึ่งเดี๋ยวนี้เบิกไม่ได้เต็มเหมือนสมัยก่อน แต่พวกประกันสังคมกลับเบิกได้เต็ม)
2. เมื่อสถานการณ์การต่อต้านสงบแล้ว ต้องจัดรายการให้มียกย่องพวกพันธมิตรบ้าง อย่าไปมองว่าเขาก่อความวุ่นวาย แต่จงคิดให้ดีว่า ที่เป็นวันนี้ได้ เพราะการเปิดโปงและความกล้าและความจริงใจของแกนนำพันธมิตร (ซึ่งอันตรายมาก ตามความคิดผม เพราะอาจถูกเก็บเมื่อไรก็ได้) และต่อมาที่มีพลังมากขึ้น ในนั้นก็ คือ ประชาชนชาว กทม. ส่วนใหญ่ที่มีการศึกษาดีๆ และพวก no vote ตามต่างจังหวัดบางส่วนนั่นเอง แต่ถูกบิดเบือนไปเรียกชื่อเป็น ม็อบ หรือกลุ่มคนที่สร้างความวุ่นวาย ตามที่พวกลิ่วล้อใช้เรียก
ผมกับพรรคพวกยังคิดเลยว่า ในอนาคต น่าจะสร้างอนุสาวรีย์ หรือหออนุสรณ์ ให้กับท่าน 2 สนธิ และรวมทั้งแกนนำพันธมิตร คณะปฏิรูป และท่านสุรยุทธ์ หากในอนาคตบ้านเมืองเรามีความสงบร่มเย็นและไม่มีนักการเมืองเลวๆ อีกต่อไป
3. ให้สถานีโทรทัศน์จัดผังรายการใหม่ และควรเอา ASTV และ Nation ซึ่งเป็น TV อิสระ เข้ามาในระบบ แบบ 3 5 7 9 11 อย่าให้ 3 5 7 9 11 มีแต่รายการบันเทิง และควรทำ TV ให้เป็นแบบ BBC ของอังกฤษ ที่ TV มีอิสระมาก (อาจทำได้ในอนาคต คือ เขาเก็บค่าใบอนุญาตดูทีวี แล้วเอาเงินตรงนี้มาทำรายการ ดังนั้นรัฐบาลจึงไม่มีอิทธิพล) แต่ของไทยเราตอนนี้ควรต้องเขียนไว้ในกฎหมายว่า ให้มีคณะกรรมการ (ควรจะไม่ต่ำกว่า 100 คน) ซึ่งแต่งตั้งขึ้นโดยพระมหากษัตริย์ ตามข้อเสนอของรัฐสภาและองคมนตรี ประกอบขึ้นจากผู้ทรงคุณวุฒิ ที่เป็นอดีตสื่อมวลชนที่มีประวัติในการเข้าข้างความถูกต้อง (อย่าเอาพวกเป็นกลาง พวกนี้แหละรกโลก) ผสมกับข้าราชการที่เกษียณแล้ว ที่เป็นคนซื่อสัตย์ ไม่มีประวัติเกี่ยวข้องกับการคอรัปชั่น ซึ่งควรเอาแค่ระดับอดีตผู้อำนวยการกอง หรืออดีตรองอธิบดีก็พอ ถ้าเอาระดับสูงกว่านี้ ส่วนใหญ่ได้ตำแหน่งมาจากการวิ่งเต้นนักการเมือง (กลุ่มละ 50 คน)
(1) คัดเลือกผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ (2) กำหนดนโยบายที่เกี่ยวกับรายการประเภทต่างๆ และ (3) จัดสรรเวลาให้กับเอกชนที่จะมาขอทำรายการ ให้มีวาระเพียง 1 ปี และคณะกรรมการมีสิทธิที่จะปลดผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์และวิทยุต่างๆ ที่ทำตัวรับใช้รัฐบาลคอรัปชั่นได้ โดยเมื่อใดปรากฏว่ารัฐบาลที่เริ่มมีข่าวหรือส่งสัญญาณว่าคอรัปชั่น เข้าแทรกแซงความเป็นอิสระ หรือแทรกแซงผู้จัดรายการเป็นปฏิปักษ์กับรัฐบาล คณะกรรมการชุดนี้สามารถปลดผู้อำนวยการสถานีได้ (ซึ่งควรให้มีจำนวนมากๆ จะได้ไม่มีผู้ใดกล้าจ่ายเงิน และเปลี่ยนคณะกรรมการทุกปี)
ขอให้ดูตัวอย่างรายการ Question Time และ Newsnight ของอังกฤษเป็นตัวอย่าง ที่วิจารณ์เหตุการณ์บ้านเมืองทุกอย่างที่เป็นข่าวดีและไม่ดี รวมทั้งข่าวลือ โดยเข้าข้างความถูกต้อง (มิใช่เป็นกลาง) ทั้งที่เป็นการเมืองและมิใช่การเมือง ซึ่งบ้านเราต้องบังคับให้มีรายการแบบนี้ทุกช่อง ทุกสัปดาห์ในเวลาค่ำที่มีผู้ชมมากๆ อันนี้จะช่วยให้คนไม่กล้าทำชั่ว แต่จะทำกันแต่ความดี เพราะเขามีการชมคนที่ทำดีด้วย
4. น่าจะเอาคนเก่งๆ รุ่นใหม่ๆ มีความคิดดีๆ มาเป็นรัฐมนตรีบ้าง และที่พลาดครั้งนี้ คือ การเอาคนที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของทักษิณมาเป็นรัฐมนตรีและอยู่ในสภานิติบัญญัติ
คนที่เป็นผู้กล้าหาญ ออกมาเป็นผู้นำต่อต้านนายทักษิณกลับมีเพียงท่านพลเอกจำลองเพียงคนเดียว (เข้าใจว่าท่านสุรยุทธ์กลัวจะโดนกล่าวหาว่าเป็นพวกพันธมิตร ก็ OK ครับ แต่ถ้าเป็นผม ผมจะไม่แคร์พวกลิ่วล้อทักษิณเลย)
ตามความคิดผมและพรรคพวกเพื่อนฝูง เห็นว่าไม่ค่อยถูกต้อง เพราะเราควรจะต้องลงโทษคนกลุ่มนี้ ที่สนับสนุน หรือเป็นผู้ที่พายเรือให้โจรนั่ง ถ้าผมเป็นนายก ผมจะปลดข้าราชการที่ได้ดิบได้ดีในช่วงที่ทักษิณเป็นใหญ่ให้มากที่สุด ไม่ใช่กลับมาแต่งตั้งให้ใหญ่ขึ้นไปอีก เพราะพวกนี้แหละ ตัวดี ที่ช่วยให้เกิดการทุจริตและคอรัปชั่น เพราะถ้าข้าราชการไม่ชั่วด้วย ความเลวทั้งหลายก็จะถูกเปิดโปงมาตั้งแต่แรก
หวังว่าคงจะมีผู้มีอำนาจในบ้านเมืองคงจะมีโอกาสได้อ่านบ้าง
ดร. ที่ไม่ประสงค์จะออกนาม
http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9490000127346 
