สถานการณ์ลิ่วล้อไทยรักไทย ล้อมกรอบพันธมิตรฯ ที่อุดรธานี ยังตึงเครียด สุริยะใส ยันไม่ออกจากห้องประชุมจนกว่าม็อบสลายตัว แฉ หมอวิชัย หัวโจกยั่วยุชาวบ้านกรูเข้าทำร้ายพันธมิตรฯ เข้าข่ายซ่องโจร
ความคืบหน้ากลุ่มคนรักอุดรเข้าล้อบกรอบและประทุษร้ายแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ห้องประชุมชั้น 2 อาคารเฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ขณะกำลังจัดเสวนาทางวิชาการให้ความรู้เรื่องการปฏิรูปการเมือง-วิกฤตทักษิณ กรณีเว้นวรรค ตั้งแต่เวลา 09.00 น.เป็นต้นมา ล่าสุด เวลาประมาณ 14.00 น. นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานเครือข่ายพันธมิตรฯ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับ ASTV ว่า ขณะนี้สถานการณ์ยังตึงเครียด ตนและผู้เข้าร่วมเสวนาจำนวนหนึ่งรวมทั้งนายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ ยังคงถูกปิดล้อมอยู่ภายในห้องประชุม โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้กำกับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานีมาอยู่ด้วยเพื่อดูแลความปลอดภัย ขณะที่กลุ่มคนที่มาปิดล้อมยังไม่มีการสลายตัว และมีท่าทีว่าจะเสริมกำลังคนเข้ามาเพิ่ม
นายสุริยะใส กล่าวต่อว่า คนที่นำชาวบ้านมาปิดล้อมงานเสวนาครั้งนี้ ไม่ใช่นายขวัญชัย ไพรพนา นักจัดรายการวิทยุท้องถิ่นอุดรฯ เพียงคนเดียว แต่ยังมี ส.ส.พรรคไทยรักไทย อีก 2 คน คือ นพ.วิชัย ชัยจิตวณิชกุล และนายธีระชัย แสนแก้ว ที่เป็นคนนำชาวบ้านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ นพ.วิชัย ขึ้นเวทีปราศรัยปลุกระดมยั่วยุให้เกิดการตะลุมบอนประทุษร้ายกันในตอนเช้า หลังจากนั้นฝูงชนก็กรูกันเข้ามาล้อมห้องประชุมด้วยอารมณ์โกรธ
นายสุริยะใส กล่าวต่อว่า ระหว่างการกรูเข้ามาล้อมห้องประชุมนั้น มีการขว้างปาขวด ก้อนหิน ทำให้หลายคนได้รับบาดเจ็บ ตนโดนก้อนหินปา 2 ก้อน ขณะที่มีผู้บาดเจ็บบางคนถูกส่งตัวไปโรงพยาบาล ทั้งนี้ ตนเชื่อว่าชาวอุดรฯ จะแยกแยะได้ว่าอะไรควร อะไรไม่ควร กลุ่มคนที่ก่อเหตุถูกจัดตั้งโดยหัวคะแนนไทยรักไทย เพราะฉะนั้นจะไม่ถือโทษโกรธเคือง และที่จริงผู้เข้าร่วมเสวนาก็เป็นชาวอุดรฯ อยู่ในห้อง 400-500 คน
นายสุริยะใส กล่าวต่อว่าจะยังอยู่ในห้องประชุมต่อไป พร้อมกับผู้เข้าร่วมเสวนาอีกจำนวนหนึ่งที่ยังออกไปไม่ได้ และได้แจ้งกับผู้ว่าราชการจังหวัดว่าตนจะลงจากห้องประชุมก็ต่อเมื่อให้ผู้เข้าเสวนาทั้งหมดออกมาได้โดยปลอดภัยก่อน และให้แกนนำม็อบที่อยู่ข้างล่างพาชาวบ้านสลายตัวไปก่อน
ทั้งนี้ นายสุริยะใส กล่าวว่า ทางพันธมิตรฯได้ยุติการจัดเสวนาลงแล้วเพื่อไม่ให้เกิดการเผชิญหน้า แต่จากการประเมินสถานการณ์ ถ้าตนและผู้เข้าร่วมเสวนาที่เหลืออยู่ลงไปจากห้องประชุมจะมีการขว้างปาแน่ เพราะมีการเตรียมก้อนหิน หนังสติ๊กเอาไว้ และคนที่ลงไปก่อนก็ถูกตี ถูกชกไปหลายคน
ขณะที่แกนนำม็อบยังมีการปราศรัยยั่วยุให้มีการประทุษร้ายกลุ่มพันธมิตรฯ ซึ่งถือเป็นการกระทำที่เข้าข่ายซ่องโจร มีพฤติกรรมที่จะบุกรุกเข้ามาในห้องประชุมตลอดเวลา และมีบางส่วนกินเหล้าด้วย อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าคนกลุ่มนี้เป็นเพียงคนส่วนน้อยที่ทำลายภาพลักษณ์คนอุดรฯ
นายสุริยะใส กล่าวอีกว่า สำหรับการรักษาการของเจ้าหน้าที่ขณะนี้มีการเสริมกำลังตำรวจเข้ามารักษาการประมาณ 400-500 นาย แต่ยังไม่เชื่อมั่นความปลอดภัย เชื่อว่าถ้าเราลงไปก็เอาไม่อยู่เพราะแกนนำยังไม่พาม็อบสลายตัว โดยเฉพาะ นพ.วิชัยซึ่งขึ้นเวทีปราศรัยตั้งแต่เมื่อเช้าทำให้สถานการณ์เปลี่ยนทันที มีการยั่วยุจนมีคนกรูเขามาที่ห้องเสวนา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายจารึก ปริญญาพล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ได้เข้าไปเจรจาชาวบ้านที่ชุมนุมอยู่ด้านนอกห้องประชุม แต่ยังไม่มีการสลายตัว โดยกลุ่มชาวบ้านยื่นเงื่อนไขว่า ให้นายสุริยะใส และนายไชยวัฒน์ เดินทางออกไปก่อน จึงจะสลายตัว
ด้านนายไชยวัฒน์ กล่าวว่า ผู้ว่าฯอุดรฯ ได้เจรจากับ น.พ.วิชัย ตั้งแต่เช้า และนพ.วิชัย ได้บอกผ่านผู้ว่าฯมาว่า ให้ตนและนายสุริยะใส เดินทางกลับกรุงเทพฯก่อน โดยผู้ว่าฯจะพาเดินผ่านแถวของกลุ่มผู้ชุมนุมฯ ไปจนถึงประตูรถ ซึ่งตนไม่มั่นใจในความปลอดภัย เพราะถ้าใครขว้างปาอะไรมาก็จับมือใครดมไม่ได้ และผู้ว่าฯเองก็อาจได้รับอันตรายด้วย แม้แต่ขณะที่ผู้ว่าฯ กำลังเจรจาอยู่ก็ยังมีคนเตะประตูโครมๆ อ้างว่ารอนานไม่ได้ จนผู้ว่าฯต้องเงียบไป ตนจึงยืนยันว่า จะไม่ออกไปเด็ดขาด หากไม่สลายการชุมนุม
นายไชยวัฒน์ กล่าวต่อว่า กลุ่มที่มาปิดล้อมขณะนี้มีประมาณ 1 พันกว่าคน หลังจากมีการปิดล้อมอยู่นานกว่า 5 ชั่วโมง และมีแนวโน้มว่า จะนำกำลังคนมาเสริมอีกในช่วงเย็นประมาณ 1 พันคน
เวลาประมาณ 15.55 น. หลังการปิดล้อมผ่านไปเกือบ 6 ชั่วโมง นายไชยวัฒน์ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า น.พ.วิชัย ชัยจิตวณิชกุล และ นายธีระชัย แสนแก้ว ยังคงนำชาวบ้านชุมนุมปิดล้อมกลุ่มพันธมิตรอยู่ โดยทั้งสอง ได้ขึ้นเวทีกล่าวปราศรัยโจมตีพันธมิตรฯ ตลอดเวลา ขณะที่ตนและนายสุริยะใสและผู้เข้าร่วมเสวนาจำนวนหนึ่งยังถูกล้อมอยู่บนชั้น 2 ของอาคาร ถือเป็นการถูกกักขังหน่วงเหนี่ยว และก่อนหน้านี้ นายวิชัย ยังได้พาชาวบ้านมาทุบประตูห้อง ขณะที่ ผู้ว่าราชการจังหวัด และ ผู้การจังหวัดยังอยู่ในห้องประชุมด้วย
นายไชยวัฒน์ กล่าวว่า การกระทำของ น.พ.วิชัย เข้าข่ายซ่องโจร เพราะเป็นการปลุกระดมประชาชนให้ไปทำร้ายร่างกายผู้อื่น ดังนั้นเราจะขออยู่จนกว่าผู้เข้าร่วมกิจกรรมของเรา จะกลับบ้านโดยปลอดภัยทุกคน แต่ถ้าคนเล่านั้นถูกทำร้าย ก็แสดงว่าบ้านเมืองไม่มีขื่อแปแล้ว แสดงให้เห็นตัวอย่างความเลวร้ายของระบอบทักษิณ
นายไชยวัฒน์ กล่าวอีกว่า ก่อนชาวบ้านจะเข้าปิดล้อมห้องประชุมนั้น น.พ.วิชัย ได้ปราศรัยบอกให้ชาวบ้าน ให้บทเรียนตนกับนายสุริยะใส ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะให้บทเรียนอะไร ตนก็เคลื่อนไหวโดยสันติมาตลอด การมาทำกิจกรรมครั้งนี้ก็เป็นกิจกรรมวิชาการที่จะให้ข้อมูลข่าวสารประชาชน น.พ.วิชัยเป็นถึงส.ส.น่าจะรู้ดี
นายไชยวัฒน์ กล่าวต่อว่า กลุ่มชาวบ้านที่มาปิดล้อมจะสลายการชุมนุมหรือไม่ ขณะนี้ขึ้นอยู่กับน.พ.วิชัยเพียงคนเดียว ซึ่งน.พ.วิชัย ได้อ้างเหตุผลว่า ที่ตรึงฝูงชนอยู่ก็เพื่อไว้รอส่งตนกับนายสุริยะใสขึ้นรถ ก็สงสัยอยู่ว่า ตนมีความสำคัญอะไรที่จะมายืนเข้าแถวรอส่ง
http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9490000053606