ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
29-03-2024, 14:34
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  เปิดใจ"ไพศาล พืชมงคล" บุรุษผู้อยู่เบื้องหลังร่างประกาศ คปค. 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
เปิดใจ"ไพศาล พืชมงคล" บุรุษผู้อยู่เบื้องหลังร่างประกาศ คปค.  (อ่าน 719 ครั้ง)
นทร์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,441



เว็บไซต์
« เมื่อ: 06-10-2006, 22:20 »

เปิดใจ"ไพศาล พืชมงคล" บุรุษผู้อยู่เบื้องหลังร่างประกาศ คปค.

 หมายเหตุ: "นายไพศาล พืชมงคล" เปิดใจผ่านรายการคลุกวงในข่าว ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเอเอสทีวี ถึงนาทีประวัติศาสตร์ที่ถูกเรียกตัวไปช่วยงาน "คณะปฏิรูปการปกครองในระ บอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข"(คปค.) จนกลายเป็นผู้อยู่เบื้องหลังร่างประ กาศของ คปค.

ผมไม่เคยคิดว่าจะมีโอกาสได้ร่วมทำงานกับ "พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน" ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) ในฐานะหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข(คปค.) และไม่เคยคิดว่าจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในครั้งนี้ เมื่อตอนเข้าไปคืนวันแรก(19 กันยายน 2549) ก็ถูกนำตัวเข้าไปห้องทำงานของ ผบ.ทบ. ซึ่งได้พบกับ "นายมีชัย ฤชุพันธุ์" และเลขานุการของท่าน อีกทั้งยังพบคณะนายทหารนั่งอยู่อีก 6-7 นาย ซึ่งนายมีชัย เมื่อเห็นหน้าผมก็ดีใจ พร้อมกับออกปากให้มาช่วยกันทำงาน ซึ่งเข้าใจว่าท่านตอนนั้นไม่สบายใจ อีกทั้งยังตรวจสอบสถานการณ์ข้างนอกอย่างต่อเนื่อง เพราะมีการประกาศสภาวะฉุกเฉิน ขณะเดียวกันคณะปฏิรูปฯ มีประกาศเพียงแผ่นเดียว ประกอบกับสื่อต่างชาติก็ประโคมข่าวไปทั่วโลกจนเป็นที่น่าตกใจ

ขณะที่ผมเดินทางไปถึง คณะปฏิรูปฯกำลังเข้าเฝ้าฯอยู่ ซึ่งเวลานั้นผมเริ่มกังวลใจ จึงตรวจ สอบข่าวว่าเป็นอย่างไรบ้าง อีกทั้งเมื่อทราบว่ามีนายทหารผูกผ้าพันคอสีฟ้า ผมจึงมั่นใจว่าเรียบร้อยแน่ นอน เพราะทหารหน่วยนี้มีความสำคัญมาก เป็นทหารที่เคลื่อนที่เร็ว มีความเก่งกล้าสามารถ มีศักย ภาพสูง ที่เรารู้จักกันในนาม "ทหารเสือราชินี" ซึ่งวันนั้นผมได้ข่าวมาตั้งแต่ 4 โมงเย็น โดยตอนนั้นนั่งดื่มกาแฟที่บ้าน "นายเสนาะ เทียนทอง" ซึ่งท่านก็บอกว่า....."เดี๋ยววันนี้มีเรื่อง 4 ทุ่ม คอยฟังข่าว"


ผมไม่ทราบว่าท่านรู้ได้อย่างไร แต่คิดว่าท่านมีพรรคพวกที่เป็นทหารอยู่ จ.สระแก้ว จำนวนมาก นอกจากนี้ยังรู้ว่ามีกำลังอยู่ตรงไหนบ้าง ซึ่งเป็นเพียงการรู้เฉพาะจุดเท่านั้น

ในขณะนั้นนายมีชัย ไม่ได้เดินทางออกจากกองบัญชาการกองทัพบก(บก.ทบ.) แต่ยอมรับว่าก่อนหน้านั้นทุกคนกระวนกระวาย เนื่องจากใกล้เที่ยงคืนแล้วยังไม่มีประกาศสักฉบับเดียว ซึ่งมันผิดธรรมเนียมการยึดอำนาจ ปกติมันต้องมีประกาศออกมาเป็นระยะๆ แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าคณะปฏิรูปฯไม่ได้เตรียมการอะไรไว้ก่อน คงมีความจำเป็นที่ต้องทำ ส่วนกรณีที่นายเสนาะ รู้มาก่อนล่วง หน้าว่าจะเกิดเหตุการณ์ขึ้น เป็นเพียงการรู้ตอนเคลื่อนทหาร

"เวลานั้นแม้เครื่องพิมพ์ดีดยังไม่มีเลย โน้ตบุ๊กของใครก็ไม่รู้ตั้งอยู่ 1 ตัว พิมพ์ติดบ้างไม่ติดบ้าง คนพิมพ์ก็ไม่มี ตอนผมขับรถมาระหว่างทางยังถามว่ามีคนพิมพ์ดีดหรือไม่ ซึ่งก็ได้รับคำตอบว่าถ้าจะพิมพ์คงพิมพ์ได้ แต่ไม่คล่อง ให้ผมหาคนพิมพ์มาด้วย ผมก็เลยแจ้งไปที่พรรคพวกให้เตรียมตัวหาตำรับตำรากฎหมาย คู่มือประกาศคำสั่งไว้ จากนั้นก็ให้รีบนำมาให้ผมที่ บก.ทบ.ทันที"

เมื่อเราเริ่มตั้งหลักกันได้ก็หันหน้ามาร่วมมือกันทำงาน โดยเริ่มจากการร่างประกาศขึ้นมา ซึ่งขณะนั้นท่านก็ดำเนินการไปบ้างแล้วบางส่วน ผมมีข้อสังเกตอยู่อย่างหนึ่ง คือ การดำเนินการในครั้งนี้ถือว่า "เยี่ยม" เพราะว่าขณะเรารู้ว่าฉุกเฉิน แต่ก็ไม่มีความระส่ำระส่าย หรือความสับสนให้เห็นเลย มีแต่ความเป็นระเบียบเรียบร้อย เป็นการจัดการที่เยี่ยมยอด อีกทั้งมารู้ภายหลังว่าเขามีห้องบัญชาการ เพื่อปฏิบัติการทางการทหารอีกห้องหนึ่งด้วย

ผมต้องชื่นชมที่คณะปฏิรูปฯ ขึ้นข้อความทางสถานี โทรทัศน์ในครั้งแรก ถือเป็นมิติใหม่ที่ทำให้เรื่องที่มันควรจะซีเรียส กลับกลายทำให้คนรู้สึกสบายใจขึ้น และคราวนี้ก็เป็นการยึดอำนาจแบบสมานฉันท์จริง

"ประกาศที่ผมเขียนเป็นฉบับแรก คือ ประกาศให้รัฐธรรมนูญ ศาลรัฐธรรมนูญ คณะรัฐมน ตรี(ครม.) สิ้นสุดลง ซึ่งตอนแรกจะไม่เอาศาลรัฐธรรมนูญมารวม แต่เกิดถ้าศาลยังอยู่แล้วจู่ๆเกิดมีมือดีไปขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยก็จะเป็นปัญหาตามมา อย่างไรก็ตามประกาศฉบับนี้ถือเป็นการประ กาศที่มีนัยสำคัญ เพราะเป็นการประกาศอย่างเป็นทางการว่าการยึดอำนาจการปกครองนั้นได้สำเร็จและสิ้นสุดแล้ว รัฐธรรมนูญ ครม. สภาผู้แทนราษฎร ศาลรัฐธรรมนูญก็สิ้นสุดลงโดยประกาศฉบับนี้"

ถ้าลองสังเกตให้ดีประกาศฉบับนี้สั้นมาก จนผู้สังเกตการณ์รอจนเหนื่อย ที่สำคัญมีแรงกดดันเข้ามามาก ผู้หลักผู้ใหญ่โทรศัพท์มาสอบถามกันเป็นจำนวนมาก แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดี ซึ่งคืนนั้นมันต้องมีการตกลงกันอยู่อีกหลายเรื่อง ทั้งการทำกำหนดการในวันรุ่งขึ้น ผมจึงทำโปรแกรมขึ้นโดยให้ พล.อ.สนธิ เห็นชอบ ซึ่งท่านก็สั่งทันที ถือเป็น "ความเฉียบขาดที่ไม่ธรรมดา" ท่านไม่มีความเครียด ถ้าเทียบกับ "พล.อ.วินัย ภัทริยะกุล" เลขาฯ คปค. แล้วต่างกันมาก เนื่องจากท่านเครียดมาก

สำหรับการทำงานในวันที่ 2 ของการยึดอำนาจนั้น การทำงานทั้งหมดได้ตกลงกันตั้งแต่คืนแรกของการยึดอำนาจแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการร่างคำพูดต่อเอกอัครราชทูต และหัวหน้าส่วนราชการ โดย พล.อ.สนธิ ก็เห็นชอบ โดยให้ฝ่ายเสนาธิการไปเรียบเรียงคำพูด ย่อหน้าให้เรียบร้อย อย่างไรก็ตามคืนนั้น พล.อ.สนธิ ได้สั่งการที่มีนัยสำคัญมากในเวทีต่างประเทศ เนื่องจากเวลานั้นสื่อต่างชาติเริ่มเสนอข่าวไปในทางลบกับคณะปฏิรูปฯ ซึ่งก็มีผู้ใหญ่โทร.มา ผมก็โอนสายให้กับผู้ใหญ่คุยกัน ซึ่งเนื้อหาก็คือจะต้อง "ล็อก" ประเทศใดประเทศหนึ่งในคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติ เพื่อให้รับรองคณะปฏิรูปฯ โดยเร็วที่สุด

ทั้งนี้วันที่ 20 กันยายน "พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรี ต้องขึ้นพูดในเวทีสห ประชาชาติ ผมรู้เมื่อพบกับ "น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ" ท่านมาทำงานตั้งแต่คืนแรก แต่ผมมาเจอท่านก็ย่างเข้าสู่วันที่ 2 ตอนบ่ายๆ ซึ่งท่านบอกว่าเราทำงานสำเร็จ คือ ได้ล็อกไม่ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ไปพูดที่เวทีสหประชาชาติได้สำเร็จ เป็นผลพวงจากความสัมพันธ์อันดีที่มีต่อข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศ ท่านจึงติดต่อไปที่ทูตไทยประจำสหประชาชาติ ให้ถอนฐานะผู้แทนประเทศไทย เพราะ พ.ต.ท.ทัก ษิณ ฐานะนั้นได้สิ้นสุดลงไปแล้ว



คืนวันแรกผมได้ติดต่อไปที่จีน เพื่ออธิบายให้จีนได้เข้าใจสถานการณ์ของประเทศในขณะ นั้นว่าเป็นอย่างไร ซึ่งเมื่อแจ้งไปแล้วทางจีนถามกลับมาคำแรก คือ พระเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้คณะปฏิรูปฯได้เข้าเฝ้าฯหรือยัง ผมก็ตอบไปว่าได้เข้าเฝ้าฯเรียบร้อยแล้ว แต่มันมีกระแสต้าน มีใครต่อใครโทรศัพท์ไปที่จีนบอกว่าจะมีการยึดอำนาจกลับคืน ผมบอกว่าไม่ต้องห่วงเลยทำให้จีนรอรับรองสถาน ภาพของประเทศไทยถึง 2 วัน


"ร่างแถลงการณ์ชี้แจงถึงเหตุผลการยึดอำนาจถูกร่างขึ้นมาก่อนหน้าแล้ว ผมเป็นเพียงแต่งเติมบางส่วนเท่านั้น ไม่ใช่สำนวนการร่างประกาศของผม ซึ่งผมรู้สึกว่าในสถานการณ์และบรรยากาศอย่างนั้นถือว่าดีที่สุดแล้ว จะเรียกหาตำรากฎหมายมาดูในขณะนั้นก็ไม่มีสักเล่มเดียว ทั้งนี้คืนวันแรกมีการหารือเรื่องสำคัญ คือ เรื่องกฎหมายเลือกตั้งเพื่อเป็นการส่งสัญญาณต่อชาวโลกว่า คณะปฏิรูปฯไม่ต้องการยึดอำนาจไว้นาน โดยต้องฟื้นกฎหมายเลือกตั้งขึ้นมา ซึ่งผมได้หารือกับนายมีชัย จนได้ข้อยุติในคืนนั้น ทำให้นานาประเทศเริ่มเข้าใจไปในทางที่ดีขึ้น ดังนั้นพวกที่ยังไม่เข้าใจการกระทำของคณะปฏิรูปฯในครั้งนี้จะต้องทำความเข้าใจให้ดี"


http://www.naewna.com/news.asp?ID=29289

เบื้องหลัง ระทึกจริงๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-10-2006, 23:03 โดย นทร์ » บันทึกการเข้า

"ประชาชน อย่าทิ้งประเทศชาติ"
Megalo
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 127



เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 06-10-2006, 22:30 »

ใครไม่ได้ดู ASTV สองคืนก่อนก็อ่านไว้นะครับ เพราะได้รู้อะไรหลายๆอย่างในคืนนั้น ทั้งระทึก น่าติดตาม
ผมดูจาก ASTV แล้วเพลิดเพลินมาก อยากให้มีหลายๆวันด้วยซ้ำ
บันทึกการเข้า

Truth is appearance , but appearance isn't always truth
หน้า: [1]
    กระโดดไป: