เทมาเส็กรับถือหุ้นใหญ่ทางอ้อม"ซีดาร์"
ระบุชัดในแบบเทนเดอร์ฯหุ้นชินคอร์ป ตำรวจวอนพาณิชย์ส่ง"ดีเอสไอ"สอบ
เปิดหลักฐานแบบรายงานเทนเดอร์ฯ "เทมาเส็ก"ยอมรับ ถือหุ้นใหญ่ทางอ้อมทั้ง "ซีดาร์-แอสเพน" สน.ทุ่งมหาเมฆโอด ไม่มีศักยภาพทำคดีนอมินี วอนพาณิชย์ส่งดีเอสไอสอบแทน
จากกรณีที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ได้ทำการตรวจสอบการถือหุ้น (นอมินี) ของบริษัท กุหลาบแก้ว จำกัด ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท ซีดาร์ โฮลดิ้งส์ จำกัด และซีดาร์ได้เข้าไปซื้อหุ้นบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ร่วมกับบริษัท แอสเพน โฮลดิ้งส จำกัด ซึ่งได้ข้อสรุปว่า มีข้อมูลที่น่าเชื่อถือว่า บริษัท กุหลาบแก้ว เป็นนอมินี ซึ่งมีความผิดตามมาตรา 36 แห่ง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 นั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ยังมีหลักฐานเอกสารอีกชิ้นหนึ่ง ที่แสดงให้เห็นว่า ซีดาร์และแอสเพน เป็นนอมินีของบริษัท เทมาเส็ก โฮลดิ้งส์ จากสิงคโปร์ โดยเว็บไซต์ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้เผยแพร่แบบรายงาน 256-2 ที่บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด รายงานผลการเสนอซื้อหลักทรัพย์ของบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ลงวันที่ 14 มีนาคม 2549 ของบริษัท ซีดาร์ โฮลดิ้งส์ จำกัด และบริษัท แอสเพน โฮลดิ้งส์ จำกัด โดยเอกสารดังกล่าวได้ระบุไว้ในหมายเหตุท้ายคำรายงานการทำคำเสนอซื้อหุ้น (เทนเดอร์ ออฟเฟอร์) ว่า
"กลุ่มเทมาเส็ก เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ทางอ้อมของซีดาร์และแอสแพน โดยการถือหุ้นผ่านบริษัทย่อย คือบริษัท ไซเพรส โฮลดิ้งส์ จำกัด และแอน เดอร์ตั้น อินเวสเม้นท์ ทีทีอี แอลทีดี ตามลำดับ"
ทั้งนี้ ในรายงานคำเสนอซื้อ ได้ระบุว่า ก่อนที่จะทำคำเสนอซื้อหุ้นนั้น เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2549 ซีดาร์ ถือหุ้นชินคอร์ป 33.36% ของหุ้นที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมด คิดเป็น 1,008,548,449 หุ้น และแอสแพน ถือ 15.85% หรือคิดเป็น 479.191,671 หุ้น รวมแล้วทั้ง 2 บริษัทถือหุ้นชินคอร์ป 49.21% หรือคิดเป็น 1,487,740,120 หุ้น และหลังจากทำคำเสนอซื้อแล้ว ซีดาร์ ได้รับซื้อหุ้นไว้ 562,962,085 หุ้น หรือ 18.62% ส่วน แอสเพน ได้รับซื้อไว้ 855,163,154 หุ้น คิดเป็น 28.29% รวมแล้วทั้งซีดาร์ และ แอสเพน มีหุ้นชินคอร์ป 96.12% หรือ 2,905,865,359 หุ้น
นอกจากนี้ ในแบบรายงาน ยังแจ้งว่า ซีดาร์ และแอสเพน ได้ทำคำเสนอซื้อใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้น หรือ SHIN-W1 ซึ่งมีผู้แสดง เจตนาขายและซีดาร์และแอสแพนได้รับซื้อไว้รวม 159,121,700 หุ้น คิดเป็น 5.26% อีกด้วย
พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ ผกก.สน.ทุ่ง มหาเมฆ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 28 กันยายนที่ผ่านมา ได้มีหนังสือจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ มาให้ตรวจสอบการถือหุ้นแทน (นอมินี) ของหลายสิบบริษัท โดยไม่ได้เจาะจงว่าเป็นบริษัทกุหลาบแก้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนของการตรวจสอบ โดยมอบให้ พ.ต.ท.ทรงยศ ถวัลย์กิจดำรงค์ รอง ผกก.สส. ตั้งคณะทำงานเพื่อประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบเอกสาร หากผลการตรวจสอบพบว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้องก็จะดำเนินการ
รายงานข่าวเปิดเผยว่า การขอข้อมูลเพื่อใช้ในตรวจสอบเอกสารที่ได้มานั้นทาง สน.ทุ่งมหาเมฆไม่มีศักยภาพเพียงพอที่จะทำได้ กระทรวงพาณิชย์น่าจะส่งเอกสารให้กับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี หรือกองบัญชาการตำรวจนครบาล ตั้งคณะพนักงานสอบสวนมาเพื่อให้ได้ผลเพราะเป็นเรื่องระดับประเทศ
หน้า 17
วันที่ 04 ตุลาคม พ.ศ. 2549 ปีที่ 29 ฉบับที่ 10434
http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01eco01041049&day=2006/10/04น้ำลดตอผุด