แต่วัฒนธรรมประชาธิไตยของฝรั่ง มันงี่เง่าที่บอกมาว่า คนโง่หนึ่งคนก็มีเสียงเท่ากับคนฉลาดหนึ่งคน อ้างกันว่าทุกคนต้องมีสิทธิ์เท่าเทียมกัน แต่ห้ามเด็กออกไปเลือกตั้ง อ้างว่ายังเด็กไป ห้ามคนในคุกเลือกตั้ง สรุปความได้ว่า และแล้วคนเราก็มีสิทธิ์ไม่เท่ากันอยู่ดี
จริงๆความคิดนี้ผมเห็นด้วยครึ่งนึง และ ไม่เห็นด้วยครึ่งนึง เอาเฉพาะส่วนที่เห็นด้วยแล้วกันนะัครับ จริงๆแล้ว เรามีสิทธิไม่เคยที่จะเท่ากันอยู่แล้วครับ เพียงแต่ว่า เราต้องหาอะไรมาสร้างบรรทัดฐานเท่านั้นเอง แต่การสร้างบรรทัดฐาน บนความไม่รู้ของคนเนี่ย มันก็ได้ได้แต่สิ่งเลวๆกลับมาเหมือนเมื่อ 6 ปีที่แล้วไงครับ แต่ทีนี้ เราจะทำอย่างไร ให้ทุกๆคน เห็นสิทธิของตัวเองได้ล่ะครับ เพราะในเมื่อทุกวันนี้เวลาพูดถึงเรื่องการเมือง ประชาชนส่วนหนึ่งบอกว่า
โอ๊ย เบื่อ มันจะอะไรกันนักกันหนาวะเนี่ย แล้วก็
ปิดหูปิดตา ไม่รับอะไรเลยซะงั้น เสร็จแล้วเวลาไปใช้สิทธิ ก็ดูหน้าแล้วกา ก็เท่านั้นเอง (กรณีนี้พวกดาราจะได้เปรียบ)
หากเคยอ่านเรื่องพระมหาชนก คงจะจำความตอนที่ชาวเมืองโค่นต้นมะม่วงเพื่อเอาผลลมากินได้ดี นั่นแหละค่ะวิธีคอดของคนโง่ คนพวกนี้แหละค่ะที่กลับชาติมาเกิดแล้วขายเสียง เลือกผู้แทนที่สัญญาว่าจะให้ รับเงินไก่ร้อยบาทเพื่อขายเสียงของตน และยอมเลือกคนชั่วเข้ามาในสภา
การเลือกตั้งครั้งต่อไปและต่อไป ก็จะเป็นเช่นนี้อีก รัฐบาลจากนักการเมืองชั่ว ที่ซื้อเสียงจากรากหญ้า ก็จะมายั้วเยี้ยเต็มสภา และแย่งกันสวาปามประเทศชาติ จนกว่าจะทนกันไม่ไหว และต้องเรียกร้องให้พลังนอกระบบประชาธิปไตย ออกมาโค่นล้มรัฐบาลกันอีก
ตรงนี้สำคัญนะครับ เพราะถ้าเราไม่เร่งให้การศึกษาแก่ประชากร สักวัน คนของเราเอง ก็จะขายประเทศของตัวเองนั่นแหล่ะครับ