ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
29-03-2024, 22:19
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  ชอบใจ เซี่ยงเซ้าหลง พูดตรงใจผม 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
ชอบใจ เซี่ยงเซ้าหลง พูดตรงใจผม  (อ่าน 952 ครั้ง)
เบื่อไอ้เหลี่ยม
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 389


« เมื่อ: 29-09-2006, 12:17 »

เบื้องหลังเผา ร.ร. - เตือน หน.คณะปฏิรูปฯ อย่ามัวห่วงภาพ เร่งขจัด"เครือข่ายทักษิณ"
 
โดย เซี่ยงเส้าหลง 28 กันยายน 2549 19:31 น.
 
 
       •• ณ นาทีนี้ก็ได้แต่หวังว่า โผทหาร ฉบับ พล.อ.วินัย ภัททิยะกุล ข้ามอาวุโส 4 นายพลเอกอัตราจอมพลมาเป็น ปลัดกระทรวงกลาโหม จะผ่านการพิจารณาตามขั้นตอนอย่าง รอบคอบ โดยยึดหลัก ความเป็นธรรม, การเมืองนำ ไม่ใช่ พรรคพวกนำ เพราะไม่เพียงแต่ตำแหน่งนี้เท่านั้นยังมีตำแหน่งอื่น ๆ อีกที่ ไม่สมบูรณ์ ควรเข้าใจว่า โผทหารปี 2548 นั้นจัดโดย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แม้จะผ่านการพิจารณาตามขั้นตอนแล้วก็ แก้ไขได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น โผทหารปี 2549 ควรจะ แก้ไขข้อผิดพลาดในอดีต, มองไปข้างหน้า นอกเหนือจาก กองทัพบก แล้วสมควรพิจารณา กองทัพอากาศ และ กองทัพเรือ ไปพร้อม ๆ กัน พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุก ที่เป็น ตาอยู่ ได้ตำแหน่ง ผบ.ทอ. มาอย่างไม่คาดฝันเมื่อปีที่แล้ว ณ บัดนี้สามารถเปล่งศักยภาพเป็น พลังหลักที่หนักแน่นมั่นคง ให้กับ คณะปฏิรูปฯ ได้หรือไม่ “เซี่ยงเส้าหลง” ไม่รู้จริง ๆ รู้แต่เพียงว่าเกิด คำถามในใจ ขึ้นมาว่าเหตุไฉน พล.อ.ท.สุเมธ โพธิ์มณี (ตท. 10) – ผบ.อย.บยอ. (ย่อมาจาก หน่วยบัญชาการอากาศโยธิน กองบัญชาการยุทธทางอากาศ) จึงยังคงอยู่ คุมกำลังหลักภาคพื้นดิน ณ ตำแหน่งเดิม แล้วจะไม่คืนความเป็นธรรมให้กับ พล.อ.อ.ธเรศ ปุณศรี ที่ต้อง เด้ง เพราะ ยอมหัก – ไม่ยอมงอ ไม่ยอมเออออห่อหมกไปกับฝ่ายการเมืองที่ผลักดันให้ซื้อ เครื่องบินขับไล่ SU – 30 MK เลยหรือ

 
 
พล.อ.ปานเทพ ภูวนาถนุรักษ์ - สนธิ ลิ้มทองกุล
 
 
       •• ไม่เหลืออดจริง ๆ คนอย่าง พล.อ.ปานเทพ ภูวนาถนุรักษ์ ไม่ออกมาพูด พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ โปรดอ่านช้า ๆ ชัด ๆ “...ผมไม่ต้องการให้มีเรื่องการออกมาเรียกร้องให้ พล.ต.อ.โกวิทต้องถวายคืนยศ ถวายคือเครื่องราชฯ แต่เวลานี้พล.ต.อ.โกวิทควรพิจารณาตัวเอง เหมือนกับคุณมิ่งขวัญที่เพิ่งพิจารณาตัวเอง.” สุดยอด
       
       •• เรื่อง ตำรวจ วันนี้จะไม่เขียนอะไรมากไปกว่าเดิมเพราะอยากให้ฟัง สนธิ ลิ้มทองกุล ค่ำคืนนี้ใน รายการเมืองไทยรายสัปดาห์ เปิดรับชมได้ทาง ASTV : ทีวีกู้ชาติ ระหว่างเวลา 19.30 – 21.00 น. พลาดไม่ได้
       
       •• ณ นาทีนี้ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน จะคิดแต่เพียง รีบถอยจากอำนาจ, รีบสลายตัว, ไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง และ ระมัดระวังประเด็นสิทธิเสรีภาพในมุมมองของโลกตะวันตก แต่เพียงด้านเดียวโดยไม่คำนึงถึง เป้าหมายหลัก ที่แถลงไว้ใน แถลงการณ์ฉบับที่ 1 “เซี่ยงเส้าหลง” ขอบังอาจสอนหนังสือสังฆราชว่านับแต่วินาทีที่ท่านตัดสินใจเป็น หัวหน้าคณะรัฐประหาร ก็เท่ากับว่าท่านกระโจนเข้าสู่ การเมืองขั้นสูงสุด ไม่ว่าก่อนหน้านี้ท่านจะชอบหรือไม่ชอบการเมืองอย่างไรก็ตามแต่บัดนี้ท่าน มิอาจไม่เล่นการเมือง, มิอาจไม่เชี่ยวชาญการเมือง เพราะถ้าท่านยังคงไม่เล่นและไม่เชี่ยวชาญ ความโหดร้ายของการเมืองก็จะหันมาเล่นงานท่านโดยไม่ปรานี และนอกจากตัวท่านแล้วเป้าหมายหลักที่จะถูกเล่นงานโดยไม่ปรานีอีกก็คือ ภารกิจอันใหญ่หลวงที่ท่านอาสาเข้ามาแบกรับ ซึ่งก็คือ “...ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข.” ถ้าท่านพลาดท่านจะ ไม่พังทลายคนเดียว แต่จะ พาระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขพังทลายลงไปด้วย นั่นหมายถึง ราชบัลลังก์ จะตกอยู่ใน ภยันตรายใหญ่หลวง พูดง่าย ๆ ว่าวันนี้ไม่ว่าการตัดสินใจของท่านหรือระดับสติปัญญาระดับความรู้เท่าทันสถานการณ์จะไม่ได้ ผูกพันตัวท่านคนเดียว แต่จะ ผูกพันอนาคตของประเทศชาติและราชบังลังก์ ขอให้ระลึกถึงเสมอว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระมหากรุณาธิคุณเพียงใดที่ ทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งท่านให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ภารกิจหลัก ต้องสำเร็จ, ต้องลุล่วง ไม่อย่างนั้นก็เท่ากับ ทรยศต่อหน้าที่, ทรยศต่อภารกิจอันศักดิ์สิทธิ์ และ ปฏิบัติตนไม่สมกับที่ทรงไว้วางพระราชหฤทัย ทบทวนดูให้ดีว่านี่ไม่ใช่ การยึดอำนาจทั่ว ๆ ไป และนี่ไม่ใช่ การล้มรัฐบาลประชาธิปไตย แต่นี่คือ การขัดขวางกระบวนการทรราชยุคใหม่ที่มีเป้าหมายสุดท้ายอยู่ที่การล้มล้างระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข อย่าให้กระหยิ่มว่าประชาชนพากันมา มอบดอกไม้ เพราะ ชื่นชมในการยึดอำนาจของทหาร ขอได้โปรดเข้าใจให้ถ่องแท้ว่าประชาชนชุดแรก ๆ ที่พากันมานั้นก็เพราะ ชื่นชมที่ทหารในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโค่นล้มรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร – ก่อนที่ประชาชนจะต้องเสียสละดำเนินการในขั้นสุดท้าย ท่านต้อง ธำรงเจตนารมณ์หลักไว้ให้มั่น ทำทุกวิถีทางเท่าที่จำเป็นอย่าง กล้าหาญ, เสียสละ อย่าสักแต่ รีบคืน, รีบสลาย, รีบถอย, รีบเลือกตั้ง และ ทำตนเหมือนรังเกียจการเมือง เหมือนที่กำลังเป็นอยู่

 
 
พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน - พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์
 
 
       •• กราบงาม ๆ มายัง ประธานองคมนตรี, รัฐบุรุษอาวุโส นาม พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ด้วยว่านี่คือ สถานการณ์พิเศษ ที่ต้อง เตือน, ติง และ สั่งสอนตรงไปตรงมา ต่อน้อง ๆ ที่อาจยัง ขาดประสบการณ์ในการบริหารจัดการอำนาจ จะปล่อยมือวางเฉย ลอยตัว ถือว่า ธุระไม่ใช่ หาได้ไม่ “เซี่ยงเส้าหลง” ขอประทานกราบเรียนว่า พลาดครั้งนี้ – ไม่มีโอกาสแก้ตัว อะไรที่ต้องทำอย่าลังเลที่จะกระทำ
       
       •• อย่าให้ความกังวลในเรื่อง การยอมรับจากโลกตะวันตก มาเป็นพันธนาการ จำกัดมาตรการที่จำเป็น ควรสู้หน้าอย่างกล้าหาญด้วยการชี้ให้เห็นถึง ลักษณะเด่น, ลักษณะพิเศษ ของสิ่งที่นำมาเป็นชื่อของคณะผู้ก่อการ “...ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข.” ซึ่งเป็น ลักษณะเฉพาะของชนชาติไทย จะเขียนรัฐธรรมนูญชั่วคราวและสร้างกระบวนการร่างรัฐธรรมนูญฉบับถาวรให้วิลิศมาหราอย่างไรก็ไม่สามารถทำให้ โลกตะวันตกยอมรับได้ในทันที ตราบจนเมื่อมี การเลือกตั้งทั่วไป นั่นแหละพวกเขาจึงจะ เริ่มยอมรับ แต่ถ้าไปจำกัดมาตรการที่จำเป็นมากไปจนทำอะไรไม่ได้เต็มที่ “เซี่ยงเส้าหลง” ก็มองเห็น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กลับคืนสู่อำนาจอีกครั้งในลักษณะที่จะ มีอำนาจล้นฟ้าล้นดินยิ่งกว่าเก่า เพราะเขาจะอ้างได้ว่า ผ่านกระบวนการตรวจสอบหมดแล้ว – ขนาดอำนาจเผด็จการเบ็ดเสร็จยังเอาผิดไม่ได้เลย คิดดูง่าย ๆ ว่าวันสองวันนี้คณะปฏิรูปจะยอมได้อย่างไรถ้าจะ มีการจ่ายเงินอดีต ส.ส.ไทยรักไทยตามปกติ – หัวละ 50,000 – 100,000 บาท เงินจำนวนรวม ๆ กันแล้ว 200 – 300 ล้านบาท นี้แน่นอนว่าเป็น เงินนอกระบบ ทำไมไม่ตามไป ตรวจสอบ ถ้าไม่ชอบมาพากลก็ อายัด เสียให้สิ้นแล้ว สาว ให้ถึง ต้นตอ อย่าให้ใครมาขวาง
       
       •• ยังอีกนานกว่าจะ เลือกตั้งทั่วไปครั้งใหม่ เงินจำนวนรวมกันแล้วประมาณ 300 ล้านบาท นี้ถ้า ได้จ่าย ก็จะไปตกอยู่กับกระบวนการ เคลื่อนไหวระดมพล จะต้องรอให้เห็น ม็อบต่อต้าน เสียก่อนหรือถึงจะ ดำเนินการ เมื่อถึงวันนั้น ไม่ทันการ แน่นอน
       
       •• ไม่ต้องสงสัยเลยว่าปฏิบัติการ เผา 5 โรงเรียนในจังหวัดกำแพงเพชร เมื่อ 2 คืนก่อนก็คือรูปแบบหนึ่งแห่งกระบวนการตอบโต้ของ เครือข่ายระบอบทักษิณ ที่ถือว่า เย้ยกันซึ่งหน้า เพราะอยู่ในเขตรับผิดชอบของ ทภ. 3 และแม้จะไม่ใช่ว่าจะรู้ที่มาที่ไปกันง่าย ๆ แต่ตามประสาของสังคมไทยในระบบอุปถัมภ์ก็เป็นธรรมดาอยู่เองที่ทุกเครือข่ายสายข่าวจะต้องพุ่งเป้าไปที่ 2 จุด เครือข่ายนักการเมืองในท้องถิ่น และ กองกำลังป่าไม้ จุดแรกหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่สปอตไลต์จะพุ่งไปจับที่ เรืองวิทย์ ลิกค์ อดีต ส.ส.เขต 1 แต่บ้านอยู่ เขต 2 อำเภอลานกระบือ ลูกพี่ใหญ่ของ แม้น รอดเขียว กำนันคนดังแห่ง ตำบลบ้านนา อำเภอวชิระบารมี จังหวัดพิจิตร ที่อยู่ห่างจาก 1 ใน 5 จุดเป้าหมายเพียง 10 กิโลเมตร จุดที่สองนั้นก็ให้บังเอิญว่าผู้รับผิดชอบงานด้านป่าไม้คนหนึ่งในจังหวัดชื่อ มโนพัฒน์ หัวเมืองแก้ว เป็นเพื่อนร่วมรุ่นของ เอี้ยง – ดำรง พิเดช อธิบดีมือขวาของ ยงยุทธ ติยะไพรัช เส้นทางในชีวิตราชการของพี่ทั่นคนนี้ในรอบปี 2548 – 2549 เรียกได้ว่า ขึ้นลิฟท์ เพราะภายใน 1 ปีขยับจาก ซี 7 --> ซี 8 --> ซี 9 ได้อย่างน่าทึ่ง “เซี่ยงเส้าหลง” ยังจำได้ว่าในกระบวนการ เกณฑ์ไพร่พล มาราวี รายการเมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร เมื่อครั้งจัดที่ สวนลุมพินี รวม 3 ครั้งเมื่อ วันที่ 16, 23 ธันวาคม 2548 และ วันที่ 13 มกราคม 2549 นั้น จังหวัดกำแพงเพชร เป็นจุดสำคัญที่เป็น แหล่งเกณฑ์ไพร่พล จังหวัดอื่น ๆ ก็ได้แก่ เชียงราย, เชียงใหม่, ลำปาง, ตาก ซึ่ง ณ บัดนี้ล้วนมี การเคลื่อนไหวเชิงต่อต้านคณะปฏิรูปฯ ถ้าไม่ถึงขั้น เดินสายปลุกระดม ก็ระดับ แจกใบปลิว หรือต่ำสุดก็คือ ปล่อยข่าวลือ ก็เป็นเรื่องที่จะต้อง บริหารจัดการ กันไป
 
 
บันทึกการเข้า
Megalo
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 127



เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 29-09-2006, 12:58 »

หากทักษิณกลับมา ผมว่าน่ากลัวกว่าถนอมที่ตอนบวชเป็นเณรเข้ามาในไทยอีกนะครับ
เนื่องจากทักษิณ รากหญ้าส่วนใหญ่ยังชอบ เครือข่ายต่างๆก็ยังมี พรรคก็ยังมี ( หากไม่ยุบ )
ที่สำคัญคือ เงิน  เงินที่จะเป็นปัจจัยในการขับเคลื่อนขบวนการต่างๆ

หากยังไม่จัดการเด็ดขาด จริงจังตอนนี้  กงล้อประวัติศาสตร์ที่เคยเห็นมาแล้วในอดีต
จะหมุนกลับมาทับรอยอีกครั้ง

ผมเบื่อครับ  อยากเห็นประเทศไทยนับจากนี้ดำเนินไปข้างหน้าโดยไร้เงาระบอบทักษิณแอบแฝง
ประชาธิปไตยเบ่งบาน ประชาชนมีสิทธิที่พึงมี  เศรษฐกิจดี มีกินมีใช้ไม่ขัดสน

ไม่อยากเห็นภาพเก่าๆ นักการเมืองเก่าๆที่ยังวนเวียนเกาะยึดอยู่กับอำนาจ อาศัยพวกเยอะ
เข้าทำอะไรตามอำเภอใจ และอ้างถึงประชาธิปไตยจอมปลอม
บันทึกการเข้า

Truth is appearance , but appearance isn't always truth
samrung
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 226



« ตอบ #2 เมื่อ: 29-09-2006, 14:22 »

ถ้าพี่เหลี่ยมมานะ ผมว่าตัวใครตัวมันดีกว่า
บันทึกการเข้า
นทร์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,441



เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: 29-09-2006, 16:26 »

จากกัลยาณมิตร ถึงนายกฯทักษิณ ชินวัตร
เซี่ยงเส้าหลง 29 พฤษภาคม 2548 21:42 น
...

วิวัฒนาการของกระบวนการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งนี้ สัมผัสของคนข่าวอย่าง “เซี่ยงเส้าหลง” ที่พบเห็นการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองมารทุกครั้งในรอบกว่า 30 ปีมานี้ อยากจะขอกราบเรียน ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร มา ณ บรรทัดนี้ด้วยความเป็นห่วง ในฐานะกัลยาณมิตรที่ยังคงเป็นกัลยาณมิตรอยู่เสมอมาว่า ณ นาทีนี้....

“เครื่องติดแล้ว”

ลำพังคำพูดของนายกรัฐมนตรี ไม่ว่าจะหนักแน่นเพียงใด ไม่อาจดับเครื่องที่ติดแล้วนี้ได้

หากจะให้เปรียบเทียบวิถีชีวิตทางการเมือง กับวิถีชีวิตของผู้คนทั่วไป ผู้เฒ่าผู้แก่มักจะสั่งสอนลูกหลาน โดยเฉพาะที่เป็นผู้หญิงไว้ว่า....

“ลูกเอ๊ยหลานเอ๊ย อย่าให้ผู้ชายที่ไหนมาจับมือหนูง่าย ๆ นะ อย่าคิดว่าแค่จับมือเท่านั้น ไม่มีอะไร เพราะในความจริงแล้วถ้าเริ่มต้นจับมือได้ ทุกอย่างจะตามมาเอง....”

ในกระบวนการรักษาอำนาจทางการเมืองนั้น ปัจจัยแรกที่จะต้องรักษาให้มั่นคงที่สุดคือ...

อย่าให้ประชาชนเสื่อมศรัทธา

เพราะถ้าประชาชนเริ่มต้นเสื่อมศรัทธาเสียแล้ว เหตุการณ์อื่นปัจจัยอื่นจะตามมาในเวลาที่เร็วอย่างคาดไม่ถึงทีเดียว !

***

เซี่ยงเส้าหลง เขียนไว้ปีก่อน เขาวิเคราะห์ได้ตรงกับสถานการณ์ ก่อนจะเลิกใช้ชื่อนี้ไป
บันทึกการเข้า

"ประชาชน อย่าทิ้งประเทศชาติ"
หน้า: [1]
    กระโดดไป: