ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
14-01-2025, 23:01
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  จวก 30 บาทเงินไม่พอ อัด สธ เลิกทำเป็นเถ้าแก่ 0 สมาชิก และ 4 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1] 2
จวก 30 บาทเงินไม่พอ อัด สธ เลิกทำเป็นเถ้าแก่  (อ่าน 4764 ครั้ง)
taworn09220
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 302


« เมื่อ: 29-09-2006, 08:45 »

จวก 30 บาทเงินไม่พอ อัด สธ เลิกทำเป็นเถ้าแก่
 
ศ.อัมมาร สยามวาลา นักวิจัยเกียรติคุณจากสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทยหรือทีดีอาร์ไอ กล่าวในงานเสวนาเรื่องก้าวต่อไปการปฏิรูปหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ว่า ก้าวต่อไปของโครงการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติต้องเพิ่มเติมใน 2 องค์ประกอบ คือ   1   การเพิ่มงบประมาณให้เพียงพอกับความเป็นจริง ขณะเดียวกันทางกระทรวงสาธารณสุข  (สธ)  ก็ต้องทำหน้าที่ในการให้ข้อมูลตามเป็นจริง โดยใช้ข้อมูลทางสถิติ และแยกงบจากโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรคออกมาจากงบประมาณกลาง

“ปัญหาใหญ่ในเวลานี้ไม่ได้อยู่ที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) แต่อยู่ที่ สธ  นพ.สงวน นิตยารัมภ์พงษ์ เลขาธิการ สปสช. ด่าผมว่าเป็นแผ่นเสียงตกร่อง เพราะผมพูดเสมอว่าโครงการนี้เงินไม่พอ ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี สัญญาว่าจะให้งบประมาณ แต่ก็นำไปรวมงบไว้ที่งบกลาง ต่อคิวรอกันไป เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณมองว่า แม้จะเพิ่มงบให้ความนิยมในพรรคการเมืองก็ไม่เพิ่มขึ้น  สู้เอางบไปจัดสรรโครงการใหม่ๆ  เช่น  บ้านเอื้ออาทร ฯลฯ ที่เพิ่มคะแนนเสียงให้ดีกว่า ในที่สุด เงินก็ไม่พอ แต่ตอนนี้ สปสช.ก็ยอมโดนหลอกปีแล้วปีเล่า พอต้นปี นพ.สงวนก็บอกว่าได้รับงบจากรัฐบาลแล้ว  แต่ตอนปลายปีก็บอกว่าได้รับงบประมาณจากรัฐ ไม่ครบ” ศ.อัมมารกล่าวและว่า ข้อเสนอที่ 2 คือบทบาทของ สธ ต้องปรับจากการพยายามทำตัวเป็นเถ้าแก่โรงพยาบาล แล้วต้องผ่องถ่ายอำนาจการบริหารออกจาก สธ โดยอาจจะโอนไปเป็นองค์อิสระ  หรือท้องถิ่น.


 
 
บันทึกการเข้า
-3-
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,186


« ตอบ #1 เมื่อ: 29-09-2006, 08:50 »

make image

ยุบๆ ไปซะเหอะ แล้วจัดทำใหม่ เน้นช่วยคนจนพอ เราๆ ท่านๆ ประกันสังคมมี ราชการเบิกได้ 
บันทึกการเข้า



ประชาธิปไตยตัดสินความต้องการได้ แต่ตัดสินความถูกต้องไม่ได้!!
TAKSIN THE BEST PM.
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 258


« ตอบ #2 เมื่อ: 29-09-2006, 08:56 »

--3--

ถ้าจะรวยมาก.............

ลองที่บ้าน สมองตีบ หัวใจอุดตัน

อย่ามา 30บ. แล้วกัน ลองกลับ

ไปอ่านปรัชญาการนำ 30 บ.มาใช้

ซะก่อน แค่การทำให้คนในชาติ

มีสุขภาพ ดี  มีแรงใจในการทำงาน

ไม่กลัวหมอเหมือน สมัยก่อน

เห็น ว่าไม่ดี เงินไม่พอ

บอกมาสักโรงพยาบาล 1 สิ

ว่าชื่ออะไร จะได้บอกชาวบ้านว่า

อย่าไปรักษา ....
บันทึกการเข้า
-3-
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,186


« ตอบ #3 เมื่อ: 29-09-2006, 08:59 »

อ่านจบประโยครึยังหว่า 
บันทึกการเข้า



ประชาธิปไตยตัดสินความต้องการได้ แต่ตัดสินความถูกต้องไม่ได้!!
ชอบแถ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,138



« ตอบ #4 เมื่อ: 29-09-2006, 09:09 »

make image

ยุบๆ ไปซะเหอะ แล้วจัดทำใหม่ เน้นช่วยคนจนพอ เราๆ ท่านๆ ประกันสังคมมี ราชการเบิกได้ 
พวกอาชีพอิสระอย่างแท็กซี่ยังต้องการอยู่ ถ้าไปประกอบอาชีพอิสระแล้วไม่มีหลักประกันสุขภาพ
คนก็คิดจะเป็นลูกจ้างมากขึ้น ให้ประกันสังคมไปครอบคลุมอาชีพอิสระได้ก็จะลดโหลดสามสิบบาท
เมื่อมันเข้าที่แล้วก็ไม่น่าจะเปลืองงบมากนะครับ แต่ตอนนี้เจ้านโยบายโดนสอยไปแล้ว เลยไม่รู้อนาคต
บันทึกการเข้า
-3-
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,186


« ตอบ #5 เมื่อ: 29-09-2006, 09:52 »

จริงๆ ก็ควรต้องเป็นแบบนั้นไม่ใช่หรอครับ โครงการนี้ 
บันทึกการเข้า



ประชาธิปไตยตัดสินความต้องการได้ แต่ตัดสินความถูกต้องไม่ได้!!
ชอบแถ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,138



« ตอบ #6 เมื่อ: 29-09-2006, 10:26 »

จริงๆ ก็ควรต้องเป็นแบบนั้นไม่ใช่หรอครับ โครงการนี้ 
นั่นคือในรัฐบาลก่อนคับ ตอนนี้วังเวง
บันทึกการเข้า
taworn09220
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 302


« ตอบ #7 เมื่อ: 29-09-2006, 10:28 »

วังแวงตรงไหนฟะ
บันทึกการเข้า
ooo
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 670


« ตอบ #8 เมื่อ: 29-09-2006, 10:48 »

  แทบจะทุกรพ.ละครับที่เงินไม่พอ โดยเฉพาะรพ.ชุมชนที่ตั้งอยู่ตามอำเภอต่างๆ  หลายๆรพ.ต่างช่วยเหลือตัวเองโดยการหารายได้ทางอื่นเข้ามาอุดหนุน เช่นการขายสมุนไพรของ รพ.ที่โฆษณาใน ASTV งัย ส่วนรพ.ที่หารายได้ได้น้อย หรือไม่มีรายได้จากทางอื่นล้วนมีหนี้สินมากมาย

  และอย่าคิดนะว่าคุณภาพของยาจะแตกต่างกันระหว่างผู้ถือบัตร30บาทกับบัตรประกันสังคม หรือข้าราชการเท่านั้น หากแต่ยังมีอีกข้อเท็จจริงนึงว่า ไม่ว่าคุณจะใช้สิทธิอะไรคุณก็จะได้รับยาเกรด 2เมือนกันหมด หากอยากได้ยาเกรด 1 ต้องไปรพ.เอกชนครับ ทั้งนี้เนื่องจากงบประมาณที่ได้รับไม่เพียงพอ ทางรพ.ไม่สามารถสั่งซื้อยาที่มีราคาสูงมาไว้เก็บสำรองไว้เพื่อใช้ได้ ยกตัวอย่างที่เห็นได้ชัดของ รพ.แห่งหนึ่งที่สมัยก่อนเคยใช้ยาฉีดฆ่าเชื้อที่เป็นของแท้ที่ผลิตมาจากต่างประเทศ แต่ปัจจุบันต้องหันมาใช้ยาที่ผลิตภายในประเทศซึ่งมีราคาและคุณภาพด้อยกว่าแทน
บันทึกการเข้า
TAKSIN THE BEST PM.
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 258


« ตอบ #9 เมื่อ: 29-09-2006, 11:07 »

ยกตัวอย่างสิครับ

ยาสลบ :  เกรด  A : ?  เกรด  B  : ?

ยาแก้ไอเด็ก :  เกรด A : ?   เกรด B: ?
บันทึกการเข้า
-3-
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,186


« ตอบ #10 เมื่อ: 29-09-2006, 11:11 »

หรือจะเอาพารา+ยาแก้ไข้ดี 
บันทึกการเข้า



ประชาธิปไตยตัดสินความต้องการได้ แต่ตัดสินความถูกต้องไม่ได้!!
TAKSIN THE BEST PM.
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 258


« ตอบ #11 เมื่อ: 29-09-2006, 11:39 »

ถุงยางก็ได้

ถ้าขอจาก 30 บ.

 
บันทึกการเข้า
-3-
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,186


« ตอบ #12 เมื่อ: 29-09-2006, 14:27 »

ก็ในหัวมันมีแต่เรื่องแบบนี้ละน้า พวก PT แบบหลับหูหลับตา 

ถุงยางก็ได้

ถ้าขอจาก 30 บ.

 

บันทึกการเข้า



ประชาธิปไตยตัดสินความต้องการได้ แต่ตัดสินความถูกต้องไม่ได้!!
TAKSIN THE BEST PM.
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 258


« ตอบ #13 เมื่อ: 29-09-2006, 14:33 »

ตอบไม่ได้ ก็บอกมาเถอะ

เกรด a /เกรด b
 
เรื่องยา น่ะ จำขี้ปากมาทั้งนั้น

เอายาแก้ไอก็ได้

บันทึกการเข้า
RiDKuN
Administrator
ขาประจำขั้นที่ 3
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,015



เว็บไซต์
« ตอบ #14 เมื่อ: 29-09-2006, 14:43 »

ก็เงินมันไม่พอ ความจริงมีมากก็น่าจะจ่ายมาก มีน้อยก็จ่ายน้อยจึงจะถูกต้อง
แม้ว่าการรักษาพยาบาลจะเป็นสวัสดิการพื้นฐานของประชาชน
แต่ว่าต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่ามันก่อให้เกิดรายจ่ายที่สูงมาก
ดังนั้นต้องแบ่งเบาภาระกัน กำหนดเป็นระดับขั้นของรายได้ก็ยังดี
ว่ามีเท่านี้จ่ายเท่าไหร่ อย่างน้อยก็ทำให้มีรายได้มากขึ้น
การที่รากหญ้าสุขสบายบนความพินาศของระบบสาธารณสุขคงไม่ใช่เรื่องที่ยอมรับได้
ทุกวันนี้โรงพยาบาลหลายแห่งขาดทุนจากโครงการนี้ โบราณท่านก็ว่าไว้ว่าอย่าทำนาบนหลังคน
อย่าเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนแต่เพียงฝ่ายเดียวโดยไม่คิดถึงผู้อื่น
บันทึกการเข้า

คนไม่มี "อุดมคติ" ไม่ใช่ "นักการเมือง"
ชอบแถ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,138



« ตอบ #15 เมื่อ: 29-09-2006, 15:07 »

ก็เงินมันไม่พอ ความจริงมีมากก็น่าจะจ่ายมาก มีน้อยก็จ่ายน้อยจึงจะถูกต้อง
แม้ว่าการรักษาพยาบาลจะเป็นสวัสดิการพื้นฐานของประชาชน
แต่ว่าต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่ามันก่อให้เกิดรายจ่ายที่สูงมาก
ดังนั้นต้องแบ่งเบาภาระกัน กำหนดเป็นระดับขั้นของรายได้ก็ยังดี
ว่ามีเท่านี้จ่ายเท่าไหร่ อย่างน้อยก็ทำให้มีรายได้มากขึ้น
การที่รากหญ้าสุขสบายบนความพินาศของระบบสาธารณสุขคงไม่ใช่เรื่องที่ยอมรับได้
ทุกวันนี้โรงพยาบาลหลายแห่งขาดทุนจากโครงการนี้ โบราณท่านก็ว่าไว้ว่าอย่าทำนาบนหลังคน
อย่าเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนแต่เพียงฝ่ายเดียวโดยไม่คิดถึงผู้อื่น
ไม่ลองคิดมุมกลับดูมั่งว่าระบบเศรษฐกิจทุนนิยม ใช้ความนิยมในการตีราคาทรัพย์สิน
แล้วยังเอาไปเปิดตลาดล่วงหน้าได้อีก ข้าวมันถูกตีราคาให้ต่ำกว่าที่ผู้ผลิตควรจะได้รับ
ตั้งแต่ดึกดำบรรพ์แล้วทั้งที่เป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ ถ้ามีใจเป็นธรรมหน่อยน่าจะคิดออกว่า
คนกลุ่มน้อยในเมืองเอาเปรียบเกษตรกรมาตลอดอยู่แล้ว พวกเกษตรกรไม่โง่หรอก
เค้าก็มีภูมิความรู้ในอาชีพเขา แต่พอดีคนมันเลือกเกิดไม่ได้ต้องโดนด่าเป็นควายเป็น
รากหญ้าอยู่เรื่อย พวกคุณที่มีความเป็นอยู่สบายกว่าเขาจะเสียสละให้ระบบสาธารณสุข
เพื่อคนเหล่านี้บ้างไม่ได้เหรอ ถ้าผู้ประกอบอาชีพอิสระเข้าระบบประกันสังคมแล้ว ก็จะ
เหลือกลุ่มที่เป็นรากหญ้าจริงๆ ซึ่งคงจะไม่กินภาษีพวกคุณมากนักหรอก โบราณท่านก็
ว่าไว้ว่าอย่าทำนาบนหลังคน อย่าเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนแต่เพียงฝ่ายเดียวโดยไม่คิด
ถึงผู้อื่น
บันทึกการเข้า
Solidus
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,381



« ตอบ #16 เมื่อ: 29-09-2006, 15:14 »

ถ้าเกิดอาการปวดเนื่องจากข้ออักเสบจะใช้ยาอะไรดีหว่า ระหว่าง Phenylbutazone หรือ Acetaminophen ดี
บันทึกการเข้า
ooo
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 670


« ตอบ #17 เมื่อ: 29-09-2006, 15:17 »

ตอบไม่ได้ ก็บอกมาเถอะ

เกรด a /เกรด b
 
เรื่องยา น่ะ จำขี้ปากมาทั้งนั้น

เอายาแก้ไอก็ได้



 เอาความรู้เรื่องยาฆ่าเชื้อไปก่อนนะครับ

 ข้อมูลจากรพ.แห่งหนึ่ง...มีว่าเดิมหมอเคยจ่ายยา Augmentin 625 mg ซึ่งเม็ดละประมาณ 50 บาท แต่ในปัจจุบันยาชนิดนี้ รพ.จะสั่งมาใช้น้อยมากเอาไว้ใช้เมื่อจำเป็นจริงๆ โดยรพ.แห่งนี้จะใช้ยา Pen V 400000 mg ซึ่งราคา เม็ดละ 50 สต.แทน

 ข้อมูลจากรพ.อีกแห่งหนึ่ง...มีว่าเดิมคออักเสบติดเชื้อ หมอจ่ายยาCefazolin ให้ แต่ปัจจุบัน เหลือแค่ Ampicillin

 นี่คือตัวอย่างครับ...หากยังไม่พอเดี๋ยวค่ำๆจะเอามาฝากอีกครับ...
บันทึกการเข้า
TAKSIN THE BEST PM.
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 258


« ตอบ #18 เมื่อ: 29-09-2006, 15:53 »

What is Augmentin?
 •  Augmentin is an antibiotic in a group of drugs called penicillins. Augmentin fights bacteria in the body.
 •  Augmentin is used to treat many different infections caused by bacteria, such as sinusitis,
pneumonia, ear infections, bronchitis, urinary tract infections, and infections of the skin.
 •  Augmentin may also be used for purposes other than those listed in this medication guide.

What is cefazolin?
 •  Cefazolin is an antibiotic in a class of drugs called cephalosporins. Cefazolin fights bacteria in the body.
 •  Cefazolin is used to treat many different types of bacterial infections including respiratory, skin,
genital, urinary, bone, joint, and other infections.
 •  Cefazolin may also be used for purposes other than those listed in this medication guide.
---------------------------------------------------------------------------
ถ้าแค่เสี้ยนตำขา  หรือ ฝีที่ขาหนีบ

จะกิน  penicillins แบบ 50 สต. หรือ 50 บ.  ดีล่ะ

ถ้ามัวแต่ ดูแค่ราคา แล้วว่า เกรด a หรือ b

ท่านคงไม่ต่างจาก พวกเด็ก ที่ไปแห่ซื้อ ครีมหน้าขาวมาโปะหน้า

ศึกษาหน่อย อ่านคุณสมบัติ หน่อย


---------------------------------------------------------------------------

What is ampicillin?
 •  Ampicillin is an antibiotic in the class of drugs called penicillins. Ampicillin fights bacteria in your body.
 •  Ampicillin is used to treat many different types of infections, such as tonsillitis, pneumonia, bronchitis,
urinary tract infections, gonorrhea, and infections of the intestines such as salmonella (food poisoning).
 •  Ampicillin may also be used for purposes other than those listed in this medication guide

บันทึกการเข้า
TAKSIN THE BEST PM.
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 258


« ตอบ #19 เมื่อ: 29-09-2006, 16:00 »

Phenylbutazone is a nonsteroidal anti-inflammatory drug (NSAID) for use as a pain reliever for horses and dogs

 
บันทึกการเข้า
Solidus
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,381



« ตอบ #20 เมื่อ: 29-09-2006, 16:14 »

ยาของคนไม่รู้ รู้แต่ยาของสัตว์ ส่วนเรื่องทำไมโรงพยาบาลถึงขาดทุน ก็เล่นจ่ายเหมาเป็นรายหัว โรงพยาบาลที่มีคนที่ขึ้นทะเบียนเยอะก็ได้เงินเยอะ ส่วนโรงพยาบาลที่มีคนน้อยก็ได้เงินน้อย เกิดมีคนป่วยเป้นโรคไตที่ต้องฟอกไตก็เล่นเงินเหมาหัวไปทั้งอำเภอแล้ว ทางโรงพยาบาลจึงต้องลดสต็อกยา เลยแค่ยาที่อยู่รอดสำหรับ 30 บาท ฉะนั้นไม่ว่า รวยจน ประกันสังคม ข้าราชการ ก็ยาตัวเดียวกัน ท่าเหลี่ยมทำให้คนเสมอภาคกันแล้ว
บันทึกการเข้า
TAKSIN THE BEST PM.
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 258


« ตอบ #21 เมื่อ: 29-09-2006, 16:17 »

ตกลงใครเค้าเอายาสัตว์

จ่ายให้ท่าน

solidus กินเนี๊ยหวังดีแท้ๆ


55555555555

บันทึกการเข้า
Solidus
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,381



« ตอบ #22 เมื่อ: 29-09-2006, 16:25 »

ตกลงใครเค้าเอายาสัตว์

จ่ายให้ท่าน

solidus กินเนี๊ยหวังดีแท้ๆ


55555555555


ยาสัตว์นะเขาเอามาจากยาคนนะครับ(หรือยาคนมาจากยาสัตว์หว่า เห้นทดลองกับสัตว์ก่อนทุกที) Phenylbutazone ก็ใช้ผสมในยาคนแต่เนื่องจากมีผลข้างเคียงมากเลยได้ยกเลิกไปเมื่อปี 48 ยาตัวนี้พวกนักกีฬาก็แอบใช้กัน เพราะมันนิยมใช้ในม้าแข่ง  ไม่น่าพลาดง่ายๆนะ คุณTAKSIN THE BEST PM.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-09-2006, 16:31 โดย solidus » บันทึกการเข้า
RiDKuN
Administrator
ขาประจำขั้นที่ 3
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,015



เว็บไซต์
« ตอบ #23 เมื่อ: 29-09-2006, 16:31 »

แสดงว่าคุณไม่ได้อ่านเลย สักแต่จะด่าอย่างเดียว ผมบอกแล้วว่าเงินไม่พอ มันต้องมีการปรับปรุง
ปัญหาของนโยบายนี้คือรูปแบบการดำเนินการ หลักการไม่ใช่ปัญหา

ผมบอกแล้วว่าการรักษาพยาบาลคือสวัสดิการที่รัฐควรจัดหาให้ เป็นนโยบายพื้นฐานในรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว
แต่การดำเนินการการจัดการหลายๆ อย่างมันทำให้เกิดปัญหา ปัญหานี้เกิดมานานแต่ก็ไม่มีการจัดการ
พอหมอออกมาบอกว่าขาดงบ ก็โดนพวกคุณด่าแบบนี้ ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปนโยบายชิ้นนี้ก็พัง
ส่วนแพะก็คือหมอที่ออกมาต่อต้าน ตามเกมของพวกเชียร์ทักษิณเป๊ะๆ เกมการเมืองน่ะเพลาๆ บ้าง

ปัญหาอย่างแรกคือการมักง่ายตีราคาเป็นหัวอย่างที่คุณ soldius กล่าว ทำให้เกิดอาการประหยัด
เพราะว่าต้องเก็บงบไว้รักษาผู้ป่วยในกรณีที่มีค่าใช้จ่ายสูงๆ ซึ่งผมถามหน่อยว่าถ้าคุณเห็นใจรากหญ้าจริงๆ
ทำไมจึงสนับสนุนนโยบายในการจัดการที่ทำให้โรงพยาบาลต้องรักษาแบบประหยัดไปจนถึงขั้นอนาถา
แน่ใจหรือว่าหวังดีต่อรากหญ้าจริง?

อีกอย่างหนึ่งคือการเก็บ 30 บาทเท่ากันหมดนั้นไม่เหมาะสม ควรจะให้เฉพาะคนที่รายได้น้อยจริงๆ
ที่วิจารณ์ตรงนี้ก็ไม่ได้ตัดสิทธิ์รากหญ้าตรงไหนเลย

สรุปแล้วคุณอ่านยังไง จึงบอกว่าผมไม่อยากให้มีโครงการ 30 บาท?
บันทึกการเข้า

คนไม่มี "อุดมคติ" ไม่ใช่ "นักการเมือง"
AnnoMundi
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 51



« ตอบ #24 เมื่อ: 29-09-2006, 16:41 »

สงสัยสาวกทักษิณเวลาป่วยจะ search Google เอาว่าจะกินยาอะไร 
สักแต่ว่า search เอาข้อมูลนั้นมาโพสท์ ข้อมุลอื่นๆของยาล่ะครับ
บันทึกการเข้า
Solidus
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,381



« ตอบ #25 เมื่อ: 29-09-2006, 16:44 »

สงเคราะห์ข้อมูลให้ซะหน่อย

http://www.drugs.com/cons/Phenylbutazone.html

    * For phenylbutazone For oral  dosage forms (capsules, tablets, and buffered tablets):
          o For severe arthritis:
                + Adults and teenagers 15 years of age and older-At first, 100 milligrams (mg) three or four times a day. Some people may need a higher dose of 200 mg three times a day. After your condition improves your doctor may direct you to take a lower dose for a while before stopping treatment completely. This medicine should not be taken for longer than a few weeks.
                + Children up to 15 years of age-Use is not recommended.
          o For gout:
                + Adults-400 mg for the first dose, then 100 mg every four hours for one week or less.
                + Children up to 15 years of age-Use is not recommended.
บันทึกการเข้า
ไม่อยากสมานฉันท์กับคนชั่ว
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 592


เตือนให้นึกถึง Icarus ผู้ไม่ประมาณตน


« ตอบ #26 เมื่อ: 29-09-2006, 17:27 »

อืมมม  ริดคุงพูดถูก

ปัญหาคือ การบริหารเงินสำหรับโครงการ 30 บาท เน้นๆ ชัดๆ โอเค้

ความจริงคือ 30บาท มันไม่พอสำหรับทุกโรคอยู่แล้ว

ความจริงใจของทักษิณ เราดูได้จากว่า เขาจะไปหาเงินจากไหนมา support ค่าใช้จ่ายโรคแพงๆที่เกินจากนั้น

พวกกองเชียร์ อย่าแถออกไปเรื่องอื่นดี๊  บอกว่าไม่เห็นใจคนจนบ้าง บอกว่าถ่วงความเจริญของโครงการนี้บ้าง พอเหอะ 
บันทึกการเข้า
maniac
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 70


« ตอบ #27 เมื่อ: 29-09-2006, 18:43 »

ยามีหลายเกรดจริงครับ ยารักษา หรือบรรเทาแต่ไข้หวัด ก็ มีหลายตัว
คุณจะเอาตัวแพงๆ ไหมละ บอกหมอ ร.พ.เอกชนได้

อย่าง โอเซลทามิเวีย ไม่ใช่ยารักษาหวัดนก โดยตรง แต่มันคือยา ใช้กับไข้หวัดใหญ่ และ มีราคาค่อนข้างแพง

ให้ยาตัวอื่นก็ได้ มีตัวแทน อีกสองสามตัว แต่ราคาไม่เท่ากัน
แต่อยาก ได้ยาดีๆแพงๆ ผลข้างเคียงน้อย ก็จ่ายเพิ่ม สิครับ

จริงๆเรื่องยานี่ มัน มี เรื่องเยอะ ลองไปหาอ่าน ที่เขาต่อสู้กับบริษัทยา ของกลุ่มคนไข้โรคเอดส์ดูครับ

บันทึกการเข้า
ชอบแถ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,138



« ตอบ #28 เมื่อ: 29-09-2006, 21:25 »

อืมมม  ริดคุงพูดถูก
ปัญหาคือ การบริหารเงินสำหรับโครงการ 30 บาท เน้นๆ ชัดๆ โอเค้
ความจริงคือ 30บาท มันไม่พอสำหรับทุกโรคอยู่แล้ว
ความจริงใจของทักษิณ เราดูได้จากว่า เขาจะไปหาเงินจากไหนมา support ค่าใช้จ่ายโรคแพงๆที่เกินจากนั้น

พวกกองเชียร์ อย่าแถออกไปเรื่องอื่นดี๊  บอกว่าไม่เห็นใจคนจนบ้าง บอกว่าถ่วงความเจริญของโครงการนี้บ้าง พอเหอะ 
หวังว่าคงไม่เกี่ยวกับผมนะครับ แต่ก็ไม่เห็นมีคนอื่น คือว่า ผมก็ออกความเห็นชัดแจ้งไปตั้งสองรอบแล้วว่า
รอให้ประกันสังคมมาครอบคลุม กลุ่มอาชีพอิสระ สามสิบบาทก็จะกินภาษีท่านน้อยลง เห็นบ่นว่าคนป่วยจ่าย
น้อยไป โรงพยาบาลขาดทุนเพราะเหมาตามหัว แล้วจะเอาเงินมาจากไหน ก็ต้องภาษีของพวกที่มีปัญญาจ่าย
ภาษีสิครับ พ่อพระเอก จะเอามาจากทางอื่นใดได้เล่า คนจนถ้ารวยขึ้นก็ต้องจ่ายภาษีเพิ่มเอามาอุดหนุนโครง
การนี้อยู่ดี ถ้าให้คนป่วยต้องจ่ายเพิ่มแล้วมันจะเรียกประกันสุขภาพเหรอ ส่วนเรื่องคุณภาพของการบริการและ
เรื่องแบ่งเกรดยานั้น ประกันสังคมก็เคยเกิดกรณีนี้มาแล้วปัจจุบันก็ดูดีขึ้น ผมยังไปใช้บริการออกจะบ่อย หมอ
เด็กๆ พูดง่ายอยากได้ยาอะไรก็บอกอาการไป ยาแก้แพ้ถ้ามันถูกไปก็ให้บอกว่าเคยกินแล้วไม่หายหรือไม่ก็กิน
แล้วง่วง เค้าก็เอาตัวแพงมาให้ แต่อย่าไปหวังขนาดตัวแพงของนอกนะครับ ขนาดไม่ใช้สิทธิประกันสังคมหมอ
ยังไม่ให้เลย นอกจากจะบอกหมอว่ามีจ่ายเท่าไหร่เท่ากันแล้วหมอต้องคุยกันรู้เรื่องด้วยนะไม่งั้นโดนหมอด่า
คุณคิดดูว่าประกันสังคมมันเกิดมากี่ปีแล้ว ตอนแรกก็ถูกด่าเช็ด โรงพยาบาลก็ไม่อยากจะรับ มันเหมารายหัว
เหมือนกัน ตอนนี้แย่งกันรับน่าดู แถมแยกคลีนิคออกมาต่างหากกันทั้งนั้น ไปใช้บริการก็ค่อนข้างสะดวก แต่
ก็ต้องเข้าใจระบบนะ ไม่ใช่สุ่มสี่สุ่มห้าไปขอหมอเฉพาะทาง เขาก็ต้องวิเคราะห์ตามลำดับหมอเด็กก่อนอยู่ดี
ถ้าเป็นเฉพาะทางจริงๆ เขาก็จัดหมอแก่ให้
บันทึกการเข้า
decison_making
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 254


แม่ไม่ว่าเหรอแม้ว ทำตัวอย่างงี้


« ตอบ #29 เมื่อ: 29-09-2006, 21:38 »

 
What is Augmentin?
 •  Augmentin is an antibiotic in a group of drugs called penicillins. Augmentin fights bacteria in the body.
 •  Augmentin is used to treat many different infections caused by bacteria, such as sinusitis,
pneumonia, ear infections, bronchitis, urinary tract infections, and infections of the skin.
 •  Augmentin may also be used for purposes other than those listed in this medication guide.

What is cefazolin?
 •  Cefazolin is an antibiotic in a class of drugs called cephalosporins. Cefazolin fights bacteria in the body.
 •  Cefazolin is used to treat many different types of bacterial infections including respiratory, skin,
genital, urinary, bone, joint, and other infections.
 •  Cefazolin may also be used for purposes other than those listed in this medication guide.
---------------------------------------------------------------------------
ถ้าแค่เสี้ยนตำขา  หรือ ฝีที่ขาหนีบ

จะกิน  penicillins แบบ 50 สต. หรือ 50 บ.  ดีล่ะ

ถ้ามัวแต่ ดูแค่ราคา แล้วว่า เกรด a หรือ b

ท่านคงไม่ต่างจาก พวกเด็ก ที่ไปแห่ซื้อ ครีมหน้าขาวมาโปะหน้า

ศึกษาหน่อย อ่านคุณสมบัติ หน่อย


---------------------------------------------------------------------------

What is ampicillin?
 •  Ampicillin is an antibiotic in the class of drugs called penicillins. Ampicillin fights bacteria in your body.
 •  Ampicillin is used to treat many different types of infections, such as tonsillitis, pneumonia, bronchitis,
urinary tract infections, gonorrhea, and infections of the intestines such as salmonella (food poisoning).
 •  Ampicillin may also be used for purposes other than those listed in this medication guide




555+  เอามาได้แค่นี้อ่ะ ถามหน่อย indication ที่ต้องให้ ยา  Augmentin กับ cefazolin น่ะ ใช้ต่างกันรึเปล่า
เค้าดูแค่ว่าเป็นฝีแค่นั้นเหรอ เค้าไม่ดู  susceptibility เหรอ

 นี่ศึกษาข้อมูลมาดีแล้วเหรอ    ตลกว่ะ

  ถ้าเป็น คนที่รู้ข้อมูลจริงๆ ไม่มาโพส บ้องตื้น แบบนี้หรอก
 ไปเอนท์ใหม่ป่ะ อย่าลอกข้อสอบล่ะ อายเค้า 
บันทึกการเข้า
lucky@winter
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 90



« ตอบ #30 เมื่อ: 29-09-2006, 21:44 »

What is Augmentin?
 •  Augmentin is an antibiotic in a group of drugs called penicillins. Augmentin fights bacteria in the body.
 •  Augmentin is used to treat many different infections caused by bacteria, such as sinusitis,
pneumonia, ear infections, bronchitis, urinary tract infections, and infections of the skin.
 •  Augmentin may also be used for purposes other than those listed in this medication guide.

What is cefazolin?
 •  Cefazolin is an antibiotic in a class of drugs called cephalosporins. Cefazolin fights bacteria in the body.
 •  Cefazolin is used to treat many different types of bacterial infections including respiratory, skin,
genital, urinary, bone, joint, and other infections.
 •  Cefazolin may also be used for purposes other than those listed in this medication guide.
---------------------------------------------------------------------------
ถ้าแค่เสี้ยนตำขา  หรือ ฝีที่ขาหนีบ

จะกิน  penicillins แบบ 50 สต. หรือ 50 บ.  ดีล่ะ

ถ้ามัวแต่ ดูแค่ราคา แล้วว่า เกรด a หรือ b

ท่านคงไม่ต่างจาก พวกเด็ก ที่ไปแห่ซื้อ ครีมหน้าขาวมาโปะหน้า

ศึกษาหน่อย อ่านคุณสมบัติ หน่อย


---------------------------------------------------------------------------

What is ampicillin?
 •  Ampicillin is an antibiotic in the class of drugs called penicillins. Ampicillin fights bacteria in your body.
 •  Ampicillin is used to treat many different types of infections, such as tonsillitis, pneumonia, bronchitis,
urinary tract infections, gonorrhea, and infections of the intestines such as salmonella (food poisoning).
 •  Ampicillin may also be used for purposes other than those listed in this medication guide


  รู้ไม่จริง ยังมาทำกร่าง เป็นฝีที่ขาหนีบเมื่อไหร่ จะให้กิน penicillin ซะให้เข็ด 
บันทึกการเข้า
Solidus
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,381



« ตอบ #31 เมื่อ: 29-09-2006, 21:46 »

การแบ่งเกรดยา เรื่องราคายามันไม่ค่อยเกี่ยวกับคุณภาพในการรักษาเท่าไหร่หรอก มันขึ้นอยู่ว่าตัวยานั้นจำเพาะต่ออาการของโรคแค่ไหน มีผลข้างเคียงจากยามากน้อยแค่ไหน ยิ่งมีความจำเพาะต่อโรคและมีผลข้างเคียงน้อยเท่าใดตัวยาก็ยิ่งแพง และอีกอย่างคนมักคิดว่ายาที่แพงเป็นยาดี เห็นคุณค่ามากกว่ายาถูกๆ ลองขายตามราคาจริง เผลอๆออกจากโรงพยาบาลลงถังขยะแล้ว ก็เลยตั้งราคาจากทุน 0.5 บาท ขาย 10 บาท ยาขมไปเคลือบน้ำตาลหน่อย 20 บาท
บันทึกการเข้า
nuxvomica
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 101


« ตอบ #32 เมื่อ: 29-09-2006, 21:52 »

Phenylbutazone is a nonsteroidal anti-inflammatory drug (NSAID) for use as a pain reliever for horses and dogs

 

ยาที่คุณอ้างมาไม่ได้ใช้ในสัตว์แล้ว  ในสัตว์จะใช้ NSAIDs  ตัวอื่น  เช่น  carprofen เพราะยาที่คุณบอกมากัดกระเพาะมากให้ในสัตว์ได้ไม่เกิน 3  วัน  ผมว่าคุณไปหาข้อมูลมาใหม่ดีกว่า   

บันทึกการเข้า
nuxvomica
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 101


« ตอบ #33 เมื่อ: 29-09-2006, 21:58 »

What is Augmentin?
 •  Augmentin is an antibiotic in a group of drugs called penicillins. Augmentin fights bacteria in the body.
 •  Augmentin is used to treat many different infections caused by bacteria, such as sinusitis,
pneumonia, ear infections, bronchitis, urinary tract infections, and infections of the skin.
 •  Augmentin may also be used for purposes other than those listed in this medication guide.

What is cefazolin?
 •  Cefazolin is an antibiotic in a class of drugs called cephalosporins. Cefazolin fights bacteria in the body.
 •  Cefazolin is used to treat many different types of bacterial infections including respiratory, skin,
genital, urinary, bone, joint, and other infections.
 •  Cefazolin may also be used for purposes other than those listed in this medication guide.
---------------------------------------------------------------------------
ถ้าแค่เสี้ยนตำขา  หรือ ฝีที่ขาหนีบ

จะกิน  penicillins แบบ 50 สต. หรือ 50 บ.  ดีล่ะ

ถ้ามัวแต่ ดูแค่ราคา แล้วว่า เกรด a หรือ b

ท่านคงไม่ต่างจาก พวกเด็ก ที่ไปแห่ซื้อ ครีมหน้าขาวมาโปะหน้า

ศึกษาหน่อย อ่านคุณสมบัติ หน่อย


---------------------------------------------------------------------------

What is ampicillin?
 •  Ampicillin is an antibiotic in the class of drugs called penicillins. Ampicillin fights bacteria in your body.
 •  Ampicillin is used to treat many different types of infections, such as tonsillitis, pneumonia, bronchitis,
urinary tract infections, gonorrhea, and infections of the intestines such as salmonella (food poisoning).
 •  Ampicillin may also be used for purposes other than those listed in this medication guide



คนเป็นหมอคงไม่ได้ดูหรอกว่าจะใช้ยาตัวไหน  แต่ดูว่าการติดเชื้อรุนแรงแค่ไหนเชื้อตอบสนองกับยาตัวไหน  ถึงจะเป็นแค่เสี้ยนตำแต่ถ้าคนนั้นเป็นเบาหวานแผลก็อาจลุกลามเป็นรุนแรงได้เพราะฉะนั้นต้องดูหลายอย่างประกอบกัน เป็นหน้าที่ของหมอไม่ใช่หน้าที่คนที่ไม่ใช่หมอจะตัดสินกันเอง  บังเอิญผมไม่ใช่หมอแต่รู้เรื่องยาดีพอสมควร

บันทึกการเข้า
Solidus
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,381



« ตอบ #34 เมื่อ: 29-09-2006, 22:06 »

Phenylbutazone is a nonsteroidal anti-inflammatory drug (NSAID) for use as a pain reliever for horses and dogs

 

ยาที่คุณอ้างมาไม่ได้ใช้ในสัตว์แล้ว  ในสัตว์จะใช้ NSAIDs  ตัวอื่น  เช่น  carprofen เพราะยาที่คุณบอกมากัดกระเพาะมากให้ในสัตว์ได้ไม่เกิน 3  วัน  ผมว่าคุณไปหาข้อมูลมาใหม่ดีกว่า   


แบบฉีดก็มีนะท่าน อย่างม้าก็ฉีดเข้าเส้นเลือดดำ 3-6 มก./กก. ทุก 12 ชั่วโมง แต่ไม่เกิน 8 มก./กก./วัน ส่วน carprofen มีผลต่อเยื่อบุทางเดินอาหารน้อยก็จริง แต่ก็ใช้เยอะมากไม่ได้ ผลข้างเคียงเยอะเหมือนกัน และเหมาะกับเจ้าตูบมาก 
บันทึกการเข้า
Solidus
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,381



« ตอบ #35 เมื่อ: 29-09-2006, 22:40 »

ampicillin กับ cephalosporins ถ้าเจอแกรมลบแบบไม่ใช้ออกซิเจน จะให้ตัวไหนดี แล้วผลข้างเคียงจากยาตัวไหนต่ำกว่า
บันทึกการเข้า
ooo
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 670


« ตอบ #36 เมื่อ: 29-09-2006, 23:06 »


---------------------------------------------------------------------------
ถ้าแค่เสี้ยนตำขา  หรือ ฝีที่ขาหนีบ

จะกิน  penicillins แบบ 50 สต. หรือ 50 บ.  ดีล่ะ

ถ้ามัวแต่ ดูแค่ราคา แล้วว่า เกรด a หรือ b

ท่านคงไม่ต่างจาก พวกเด็ก ที่ไปแห่ซื้อ ครีมหน้าขาวมาโปะหน้า

ศึกษาหน่อย อ่านคุณสมบัติ หน่อย


---------------------------------------------------------------------------




  หากคุณเป็นฝีที่ขาหนีบ ผมว่าคุณน่าจะศึกษาข้อมูลให้ละเอียดอีกครั้งนะครับว่าจะใช้ Pen V ดีหรือไม่ แต่สำหรับผมได้ปรึกษาหมอ มาแล้ว คงไม่ใช้ Pen V แน่นอน

  ผมสอบถามผู้ให้ข้อมูลผมมาแล้ว เกี่ยวกับ Augmentin และ Pen V  ยาทั้งสองตัวจะมีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อเหมือนกัน แต่ Aug จะคุมเชื้อได้มากกว่า หากคุณป่วยคออักเสบแล้วไปรพ.ของรัฐบางแห่ง คุณอาจได้รับเพียง Pen V ซึ่งโอกาสที่เชื้อจะดื้อยามีสูง 70-80% ถ้าไม่ดื้อจะต้องใช้เวลา 7-8วัน จึงจะหาย ถ้าไปตามคลีนิก หรือ รพ.เอกชน ถ้าคุณมีกำลังจ่าย คุณจะได้ Augmentin ซึ่งจะทำให้คุณหายป่วยได้ภายใน 2-3วัน

  สำหรับยาถูก ยาแพง ได้สอบถามมาเหมือนกันได้ความว่า ส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับคุณสมบัติของยาครับ โดยยาที่มีราคาแพงมักจะเป็นยาที่คิดค้นคว้าทีหลังซึ่งมีคุณสมบัติดีกว่ายาตัวเก่าที่เคยใช้กันมา เป็นเรื่องที่แพงเพราะค่ามันสมอง
ไม่ได้แพงเพราะส่วนผสมของยามีราคาแพงหรอกครับ

  เอาละผมไม่ได้มาตอบกระทู้ว่าควรจะใช้ยาอะไรดีกว่ากัน เพียงแต่ผมมีพวกพ้องที่อยู่ในวงการแพทย์หลายคน และแยกย้ายกันอยู่ตามรพ. หลายแห่ง ล้วนพูดถึงปัญหาของ 30 บาทให้ฟังอยู่บ่อยๆ ผมจึงต้องเพียงแค่แสดงให้พวกท่านทั้งหลายรู้ว่า 30 บาท ยังเป็นปัญหาสำคัญที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขอยู่
บันทึกการเข้า
Solidus
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,381



« ตอบ #37 เมื่อ: 29-09-2006, 23:16 »


---------------------------------------------------------------------------
ถ้าแค่เสี้ยนตำขา  หรือ ฝีที่ขาหนีบ

จะกิน  penicillins แบบ 50 สต. หรือ 50 บ.  ดีล่ะ

ถ้ามัวแต่ ดูแค่ราคา แล้วว่า เกรด a หรือ b

ท่านคงไม่ต่างจาก พวกเด็ก ที่ไปแห่ซื้อ ครีมหน้าขาวมาโปะหน้า

ศึกษาหน่อย อ่านคุณสมบัติ หน่อย


---------------------------------------------------------------------------




  หากคุณเป็นฝีที่ขาหนีบ ผมว่าคุณน่าจะศึกษาข้อมูลให้ละเอียดอีกครั้งนะครับว่าจะใช้ Pen V ดีหรือไม่ แต่สำหรับผมได้ปรึกษาหมอ มาแล้ว คงไม่ใช้ Pen V แน่นอน

  ผมสอบถามผู้ให้ข้อมูลผมมาแล้ว เกี่ยวกับ Augmentin และ Pen V  ยาทั้งสองตัวจะมีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อเหมือนกัน แต่ Aug จะคุมเชื้อได้มากกว่า หากคุณป่วยคออักเสบแล้วไปรพ.ของรัฐบางแห่ง คุณอาจได้รับเพียง Pen V ซึ่งโอกาสที่เชื้อจะดื้อยามีสูง 70-80% ถ้าไม่ดื้อจะต้องใช้เวลา 7-8วัน จึงจะหาย ถ้าไปตามคลีนิก หรือ รพ.เอกชน ถ้าคุณมีกำลังจ่าย คุณจะได้ Augmentin ซึ่งจะทำให้คุณหายป่วยได้ภายใน 2-3วัน

  สำหรับยาถูก ยาแพง ได้สอบถามมาเหมือนกันได้ความว่า ส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับคุณสมบัติของยาครับ โดยยาที่มีราคาแพงมักจะเป็นยาที่คิดค้นคว้าทีหลังซึ่งมีคุณสมบัติดีกว่ายาตัวเก่าที่เคยใช้กันมา เป็นเรื่องที่แพงเพราะค่ามันสมอง
ไม่ได้แพงเพราะส่วนผสมของยามีราคาแพงหรอกครับ

  เอาละผมไม่ได้มาตอบกระทู้ว่าควรจะใช้ยาอะไรดีกว่ากัน เพียงแต่ผมมีพวกพ้องที่อยู่ในวงการแพทย์หลายคน และแยกย้ายกันอยู่ตามรพ. หลายแห่ง ล้วนพูดถึงปัญหาของ 30 บาทให้ฟังอยู่บ่อยๆ ผมจึงต้องเพียงแค่แสดงให้พวกท่านทั้งหลายรู้ว่า 30 บาท ยังเป็นปัญหาสำคัญที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขอยู่
Pen V ถ้าเจอพวก beta-lactamase bacteria ก็แทบไม่มีผลเลย แต ่Augmentin ได้แก้ปัญหาตรงนี้เนื่องจากจะมีโปแตสเซี่ยมคลาวูลาเนตและซัลแบคแตมเป็นส่วนประกอบอยู่ด้วย
บันทึกการเข้า
ooo
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 670


« ตอบ #38 เมื่อ: 30-09-2006, 00:06 »



บังเอิญผมไม่ใช่หมอแต่รู้เรื่องยาดีพอสมควร


[/quote]

แม้คุณไม่ใช่หมอ หากคุณคือเภสัชหรือเจ้าหน้าที่ประจำห้องยาใน รพ.ของรัฐ ผมว่าคุณต้องรู้เรื่องยาที่ใช้ในรพ.ก่อนและหลังโครงการ30บาทเป็นอย่างดี ผมใคร่ขอให้คุณนำเสนอข้อมูลที่คุณได้พบมา ให้คนที่ไม่รู้จริง ได้รู้จริงซะที...
บันทึกการเข้า
Solidus
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,381



« ตอบ #39 เมื่อ: 30-09-2006, 00:47 »

ยังสงสัยร่าง พ.ร.บ. ยา ที่ให้สัตวแพทย์เขียนใบสั่งยาให้เจ้าของสัตว์ไปซื้อยาจากเภสัชกรเอง คิดได้ไงเนี่ย
บันทึกการเข้า
Solidus
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,381



« ตอบ #40 เมื่อ: 30-09-2006, 00:57 »


อ้างถึง
บังเอิญผมไม่ใช่หมอแต่รู้เรื่องยาดีพอสมควร



แม้คุณไม่ใช่หมอ หากคุณคือเภสัชหรือเจ้าหน้าที่ประจำห้องยาใน รพ.ของรัฐ ผมว่าคุณต้องรู้เรื่องยาที่ใช้ในรพ.ก่อนและหลังโครงการ30บาทเป็นอย่างดี ผมใคร่ขอให้คุณนำเสนอข้อมูลที่คุณได้พบมา ให้คนที่ไม่รู้จริง ได้รู้จริงซะที...
ผมก็อยากรู้เหมือนกัน รู้อะไรดีๆก็แฉมาเลยครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-09-2006, 19:39 โดย solidus » บันทึกการเข้า
Solidus
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,381



« ตอบ #41 เมื่อ: 30-09-2006, 19:41 »

ว่าแต่TAKSIN THE BEST PM.หายไปเลยวุ้ย
บันทึกการเข้า
ฟ้าเข้ม
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 462


« ตอบ #42 เมื่อ: 30-09-2006, 21:22 »

ว่าแต่TAKSIN THE BEST PM.หายไปเลยวุ้ย


เค๊าเถียงไม่ได้ก็ใบ้รับประทานน่ะสิครับ อิอิ อืมมมม คุณ solidus นี่ท่าทางจะรู้เรื่องยาเกี่ยวกับสัตว์เยอะแฮะ สีฟ้าหม่นเหมือนกันรึเปล่าเนี่ย 
บันทึกการเข้า
Solidus
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,381



« ตอบ #43 เมื่อ: 04-10-2006, 14:04 »

เอามาฝาก 

Credit : Fireball

ผมทำงานในระบบ 30 บาท ถึงไม่ใช่หมอ แต่ก็รับผิดชอบงานหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ผมขอบอกเลยว่าใครหลาย ๆ คนเข้าใจโครงการ 30 บาทผิด

1. สิทธิการรักษาไม่ได้เปลี่ยนไป สิทธิบัตรของประชาชนก็ไม่ได้เปลี่ยนไปซักเท่าไหร่ คนที่ใช้ฟรีก็มีมาตั้งนานแล้วไม่ใช่พึ่งมีในรัฐบาลนี้ เดิมเรียกว่าบัตร \"สปร\" ยุคทักกี้เปลี่ยนชื่อเป็น \"บัตรทองไม่เสียค่าธรรมเนียม\" คนที่ใช้บัตร 500 เดิม เปลี่ยนเป็น \"บัตรทอง 30 บาท\" ถามว่าต่างกันไหม ต่างกันแค่ บัตร 500 คนที่ซื้อออกตังครั้งเดียว แต่ใช้ได้ทั้งปี แต่ของทักกี้ไปครั้งไหนก็ 30 บาท แล้วทำไมต้องเก็บเงิน ทำไมไม่ให้ฟรีไปเลย ?? ข้อนี้หลายคนคงสงสัย มันเป็นเพียงแค่วิธีการป้องกันไม่ให้เกิดภาวะพึ่งพิงทางสุขภาพมากจนเกินไป ซึ่งหลักที่สำคัญที่สุดของหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า คือสร้างสุขภาพนำซ่อมสุขภาพ จึงต้องมีการเก็บค่าธรรมเนียมขึ้น ไม่งั้นเอะอะก็หาหมอจะทำให้เวิร์คโหลดหมอมากจนเกินไป

สรุปคือ ส่วนพวกสิทธิอื่น ๆ ผู้มีรายได้น้อย, พระภิกษุ, นักเรียน ม.ต้น, เด็ก 0-12 ,ผู้พิการ หรือว่า ข้าราชการ ฯลฯ ไม่เปลี่ยนไปจากเดิมเลย มีเปลี่ยนแค่ บัตร500 เป็น 30 บาทเท่านั้น ซึ่งไม่ต่างกันเพราะเป็นการป้องกันภาวะการพึ่งพิงทางสุขภาพ

2. สิ่งที่ต่างกันมากที่สุดคือ ระบบการเบิกจ่ายเงินงบประมาณของสถานบริการ (สังเกตว่าผมจะไม่ใช้คำว่าโรงพยาบาลเพราะไม่ได้มีแต่ ร.พ.ได้รับผลกระทบ) ที่เป็นระบบการจัดสรรตามค่าหัวของประชากรในพื้นที่ ซึ่งถมเท่าไหร่ก็ไม่พอ จาก 1300 -1500 -1700 ตอนนี้ก็ทำท่าว่าจะไม่พอเพราะอะไร ??? เพราะค่าหัวไม่ได้จ่ายมาให้สถานพยาบาลในครั้งเดียว แต่ไปตกอยู่ลิ่วล้อทักกี้ที่มันตั้งขึ้นมาว่า สปสช.(สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ) ยกตัวอย่างสำนักงานที่สถานบริการผมต้องอยู่ภายใต้อาณัติมัน ที่ภาคเหนือ

ในขณะที่ สปสช.เช่าอาคารสำนักงานอยู่ในอาคารที่แพงสุดในภาคเหนือ ,มีเงินซื้อรถตู้ใหม่เอี่ยมเพื่อขับรถมาเพื่อจับผิด รพ.อื่น ๆ แล้วหาเรื่องตัดเงิน แต่รพ.ที่ผมอยู่กำลังประสบปัญหาเพราะหนี้สินจำนวนมากที่ต้องตามจ่ายเนื่อง จากระบบ 30 บาท

เพราะฉะนั้น ทำไมพวกเจ้าหน้าที่อย่างพวกผม ถึงอยากให้ล้มระบบ 30 บาท ไม่ใช่เพื่อผลประโยชน์ตัวเอง แต่ข้อเท็จจริงมันไม่สามารถดำเนินการได้ ต้องเปลี่ยนระบบเบิกจ่ายใหม่ ซึ่งพูดตรง ๆ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข เป็นเหยี่อของนโยบายแบบการตลาดของไทยรักไทย เพราะมันให้เงินนิดเดียวแล้วมาขู่ให้รักษาให้ดีที่สุด ไม่งั้นจะเอาออกให้หมด (ใครจะไปทำได้ฟร่ะ)

แล้วอยากจะบอกย้ำว่า ไม่ต้องห่วง ถึง 30 บาทจะไม่อยู่ คุณก็ยังได้รับการบริการตามสิทธิอยู่ดี (คนจนก็ได้ฟรี คนพอมีตังก็สมทบมาช่วยมั่งนิด ๆ หน่อย ๆ) เพราะเนื้อหาที่แท้จริงของการรักษาไม่ว่ารัฐบาลสมัยไหนก็ไม่ต่างกันเลย ที่ต่างกันก็คือระบบเบิกจ่ายเท่านั้น เพราะฉะนั้นสิ่งที่พวกเจ้าหน้าที่อย่างพวกผมต้องการก็คือ การเปลี่ยนที่เบื้องหลัง ส่วนเบื้องหน้าในส่วนการให้การรักษา ไม่มีเจ้าหน้าที่คนไหนอยากเปลี่ยนหรอกครับ อยากรักษาฟรีทั้งหมดด้วยซ้ำ

บันทึกการเข้า
Nepal
น้องใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 16


ประชาธิปไตยมีภาษาเดียว พูดคุยได้ทั่วโลก


« ตอบ #44 เมื่อ: 04-10-2006, 15:16 »


 ไม่มีเงิน จะฝืนไปทำไม  คัดกรองคนไข้ กันหน่อยเป็นไง

 คนไข้อนาถา ก็มี โครงการอุปภ้มป์ก็มี

 เอาเงินมาหมุ่นเวียนบ้างซิ

 ขืนอย่างนี้ โรงพยาบาล ก็ไม่ต้องพัฒนา เพราะมัวแต่เตี้ยอุ้มพวกรากหญ้า เนี้ยละ
บันทึกการเข้า
teevip
น้องใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7


« ตอบ #45 เมื่อ: 05-10-2006, 16:01 »

มีเงินจ่ายค่าเน็ท
เล่นคอม

มันจะเข้าใจหัวอกคนจนได้ยังไง
เข้าใจคำว่า หาเช้ากินค่ำหรือไม่
ได้ค่าแรงวันละ 200
เมีย 1 ลูก สอง

อย่างน้อย 30 บาท ก็เป็นนโยบายที่ดี
ที่รัฐต้องหางบสนับสนุน

อย่าใจแคบ
เพียงเพราะเป็น นโยบาย ของทักษิณ
ถึงกับทำให้คนส่วนใหญ่ของประเทศ
ต้องเดือดร้อน
บันทึกการเข้า
ชอบแถ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,138



« ตอบ #46 เมื่อ: 05-10-2006, 16:05 »

ใจเย็น เค้าไม่กล้าเลิกหรอก เพราะนโยบายมันดีไง
บันทึกการเข้า
foot2u
สมาชิกสามัญขั้นที่ 1
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 41


« ตอบ #47 เมื่อ: 05-10-2006, 16:11 »

หรือจะเอาพารา+ยาแก้ไข้ดี 
โครงการดีๆงี้
เลิกเถอะ พรรคแมลงสาปจะCopyเอาไปใช้ได้สบายใจหน่อย

พารา+ยาแก้ไข้ คนใต้ฟังแล้วหนาวนะ
ไข้กินเป็นแถว เพราะยางพารา ราคามันหล่นเอาหล่นเอา
ทักษิณไม่อยู่แล้ว ? โทษใครดีหว่า
บันทึกการเข้า

ทักษิณไม่อยู่? โทษใครดีหว่า
-3-
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,186


« ตอบ #48 เมื่อ: 05-10-2006, 17:00 »

ก็โทษตลาดโลกสิครับ ไม่เห็นยาก 
บันทึกการเข้า



ประชาธิปไตยตัดสินความต้องการได้ แต่ตัดสินความถูกต้องไม่ได้!!
Solidus
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,381



« ตอบ #49 เมื่อ: 05-10-2006, 20:07 »

ผมว่าพวกที่ไข้กินคิอพวกที่แห่ปลูกตามมากกว่า ต้นยางยังไม่ทันให้น้ำยางเลยราคาตกซะแล้ว
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2
    กระโดดไป: