จวกทักษิณ ไร้ประชาธิปไตย 11 สภาคองเกรสจี้บุชช่วยพูดฟื้นฟูเสรีภาพในประเทศไทย

[สมชายสายชม]

จวกทักษิณ-ไร้ประชาธิปไตย
11 สภาคองเกรสจี้บุชช่วยพูด
ฟื้นฟูเสรีภาพหลังไทยเหินห่าง
แนะให้เลิกหนุนเผด็จการพม่า

15 September 2005 09:12
 
รุมจวก-ตอกหน้า “ทักษิณ” 11 สมาชิกสภาคองเกรสของสหรัฐ ยื่นหนังสือถึง “บุช” แนะให้ผู้นำไทยฟื้นฟูเสรีภาพในประเทศ พร้อมให้เลิกหนุนระบอบเผด็จการทหารในพม่า อัดยับภายใต้การนำของ “ทักษิณ” ไทยหันเหออกจากประชาธิปไตยและหลักขันติธรรม จี้ให้ยอมรับการตรวจสอบถ่วงดุลในประเทศ ด้านมาเลย์ยอมเปิดทางให้เจ้าหน้าที่ไทยร่วมตรวจสอบ 131 คนไทยที่ลี้ภัย

สำนักข่าวเบอร์นามาของทางการมาเลเซีย รายงานอ้างคำพูด ดาโต๊ะ เสรี นาจิบ ตุน ราซัค รองนายกรัฐมนตรีซึ่งควบตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหมด้วยว่า การสัมภาษณ์จะทำร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่ทหารมาเลเซียและไทย เพื่อพิสูจน์ให้ชัดเจนว่ามีกี่คนในกลุ่มนี้ที่ไทยถือว่าเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศ
พลเอกธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์บีบีซีว่าฝ่ายทหารได้ข้อมูลจากทางตำรวจว่า ในจำนวน 131 คนนี้ มีคนหนึ่งมีทางการได้ออกหมายจับ "ที่เราไล่ชื่อดู ตำรวจยืนยันว่ามีคนหนึ่งที่มีหมาย พอเราไปดูจริง ๆ ก็อาจเป็นคนละคนก็ได้ ซึ่งเราก็ต้องตั้งสมมุติฐานไว้หลาย ๆ อย่าง"พลเอกธรรมรักษ์กล่าวและว่าการที่มาเลเซียทำแบบนี้ เป็นการดีต่อทางการไทยที่จะสามารถเข้าไปดูได้ว่าใครเป็นใคร

นายมอร์ตัน อะบราโมวิทส์ นักวิชาการของ The Century Foundation สำนักงานกรุงวอชิงตัน และอดีตทูตสหรัฐประจำประเทศไทย กล่าวกับ “บีบีซี” ถึงกรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีลุกขึ้นกล่าวตำหนิการทำงานของหน่วยงานในองค์การสหประชาชาติว่า ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรกับการที่มีคนลุกขึ้นมาวิพากษ์ตำหนิสหประชาชาติ หรือองค์การต่าง ๆ ถ้าหากว่าคำวิจารณ์นั้นชอบธรรม แต่สิ่งที่แปลกใจคือพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ใช้เวทีระหว่างประเทศแบบนี้เป็นสถานที่ทำการวิพากษ์ตำหนิดังกล่าว

“ถ้าพ.ต.ท.ทักษิณวิจารณ์คนอื่นอย่างชอบธรรมได้ ก็ต้องยอมรับฟังคำตำหนิที่ชอบธรรมจากคนอื่นด้วย”นายอะบราโมวิทส์กล่าวและว่า ตนเองคิดว่าการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนที่แย่ลงในสมัยของพ.ต.ท.ทักษิณ เป็นเรื่องที่ยกขึ้นมาวิพากษ์ตำหนิได้โดยชอบธรรม และการที่ไทยสนับสนุนรัฐบาลทหารพม่าก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ควรประณาม

รายงานข่าวแจ้งว่า กลุ่มสมาชิกสภาคองเกรส 11 คนได้เข้าชื่อกันยื่นหนังสือถึงประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ลงวันที่ 12 กันยายน เรียกร้องให้ผู้นำสหรัฐผลักดันให้นายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร ฟื้นฟูเสรีภาพในประเทศไทย และเลิกสนับสนุนระบอบทหารที่กดขี่ในพม่า พร้อมกับเสนอแนะให้นายบุชหยิบยกเรื่องเหล่านี้ขึ้นกล่าวในที่สาธารณะและพูดกับผู้นำของไทยเป็นการส่วนตัว เพื่อไม่ให้นายกรัฐมนตรีของไทยอ้างเอาการพบหารือกับผู้นำทำเนียบขาวเป็นการรับรองต่อนโยบาย

สมาชิกรัฐสภาอเมริกันกลุ่มนี้ระบุว่า ภายใต้นายกรัฐมนตรีทักษิณ ประเทศไทยได้หันเหออกจากประชาธิปไตยและหลักขันติธรรม รัฐบาลไทยพยายามจำกัดเสรีภาพ มีการออกพระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินซึ่งให้อำนาจในการตรวจสอบข่าว บังคับโยกย้ายประชาชน และสั่งการให้พลเมืองปฏิบัติตามความต้องการของรัฐบาล นอกจากนี้ รัฐบาลทักษิณยังได้สนับสนุนการคบหากับพม่าโดยไม่วิพากษ์วิจารณ์ และจำกัดการเคลื่อนไหวของบรรดานักรณรงค์ประชาธิปไตยชาวพม่าในประเทศไทย

"พวกเราหวังว่าท่านจะเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีทักษิณเปลี่ยนแปลงวิถีทาง ด้วยการยอมรับการตรวจสอบและถ่วงดุลภายในประเทศ ยุติการปราบปรามบรรดาผู้วิจารณ์รัฐบาล และเรียกร้องโดยเปิดเผยให้พม่าเปลี่ยนแปลงไปสู่ประชาธิปไตย"ข้อความตอนหนึ่งระบุ
 
เนื้อความตอนท้ายจดหมายบอกว่า สมาชิกสภาคองเกรสยินดีที่เห็นไทยกับสหรัฐมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันมาหลายปี แต่ความสัมพันธ์ใกล้ชิดนั้น ควรขึ้นกับหลักการที่ว่าไทยมีความเต็มใจแค่ไหนในการส่งเสริมกฎหมายและเสรีภาพ

ใต้ยังไม่นิ่ง-ดับชาวบ้านจะไปกรีดยาง

เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ (15 ก.ย.) พ.ต.ท.มุสตอปา มะนิ สารวัตรเวร สภ.ต.จะกว๊ะ อ.รามัน จ.ยะลา ได้รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกยิงเสียชีวิตบริเวณถนนในหมู่บ้าน ม.3 ต.เกะรอ อ.รามัน จึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบจากการสอบสวนทราบว่าผู้เสียชีวิตคือนายสมสุภาพเอกอายุ41ปีอยู่บ้านเลขที่90/3หมู่3ต.เกะรออ.รามันจ.ยะลาถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่บริเวณแผ่นหลัง4นัดเสียชีวิตในที่เกิดเหตุเบื้องต้นทราบว่าระหว่างที่นายสมสุภาพขับขี่รถจักรยานยนต์เพื่อไปกรีดยางในสวนยางห่างจากบ้านพักไม่มากนักได้มีคนร้าย2คนขับขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบก่อนที่คนนั่งซ้อนท้ายจะใช้อาวุธปืนพกสั้นไม่ทราบขนาดยิงเข้าใส่จนเสียชีวิต นอกจากนี้บริเวณใกล้จุดเกิดเหตุก็ได้มีวัตถุต้องสงสัยวางอยู่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ประสาน ไปยังชุดเก็บกู้เพื่อตรวจสอบต่อไป

ขณะเดียวกันที่สภ.อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ร.ต.อ.เจนวิทย์ อุ่นเสียม ร้อยเวร สภ.อ.ระแงะ ได้รับแจ้งจากแพทย์ประจำโรงพยาบาลระแงะ ว่า มีคนถูกยิงได้รับบาดเจ็บ 2 ราย มารักษาตัวที่โรงพยาบาล เมื่อไปตรวจสอบพบ นายเจ๊ะอารง เจ๊ะแน อายุ 44 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบชนิดที่ขาซ้ายและแขนซ้าย รวม 2 นัด อาการสาหัส และ ด.ช.อาลีฟ เจ๊ะแน อายุ 1 ขวบเศษ ลูกชาย ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบชนิดที่ขาซ้าย 1 นัด อาการสาหัส ทั้ง 2 คน ถูกส่งตัวไปรักษายังโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ อ.เมืองนราธิวาส

จากการสอบสวนนางซีตีบีเดาะ มาเจ๊ะ อายุ 36 ปี ภรรยานายเจ๊ะอารง ทราบว่าก่อนเกิดเหตุ ทั้ง 3 คนพ่อแม่ลูก ได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านพัก เพื่อไปกรีดยางพารา เมื่อมาถึงถนนสายบ้านลูกเขา-บ้านป่าไผ่ บริเวณหมู่ 5 ต.ตันหยงลิมอ อ.ระแงะ มีคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวน แอบซุ่มอยู่ในป่าสวนยางข้างทาง ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดยิงใส่ 3-4 นัด จนได้รับบาดเจ็บ ชาวบ้านที่ผ่านมาได้ช่วยนำส่งโรงพยาบาล เบื้องต้นทราบว่าผู้บาดเจ็บไม่เคยมีเรื่องกับใคร เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า เป็นการสร้างสถานการณ์ใต้รายวัน





ข่าวจากทีมงาน ThaiInsider.Com
 

[นทร์]

น่าพิพม์ไปให้ นักวิชาการที่ต่อต้าน คปค ได้ดูกัน 

[ชอบแถ]

เค้าเห็นที่มาเค้าก็ไม่อ่านแล้ว