27 กันยายน 2549 13:02 น.
อธิบดีกรมชลประทาน เผยฝนตกหนักเหนือนครสวรรค์ คาดปริมาณน้ำเจ้าพระยาสูงกว่าคาดอีก 200 ลบ.ม.ต่อวินาที ส่งหนังสือแจ้งเตือนเตรียมรับมือ ห่วงกทม.ฝั่งตะวันออกจะท่วมหนัก
กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : นายสามารถ โชคคณาพิทักษ์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ขณะนี้น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,580 ลบ.ม.ต่อวินาที เนื่องจากมีฝนตกปริมาณมากเหนือจังหวัดนครสวรรค์ขึ้นไป ทำให้ปริมาณน้ำที่นครสวรรค์
ซึ่งคาดว่าจะสูงสุด 2,600 ลบ.ม.ต่อวินาที ต้องปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็นสูงสุด 2,800 ลบ.ม.ต่อวินาที และจะส่งผลให้ปริมาณน้ำไหลผ่านท้ายเขื่อนเจ้าพระยา เพิ่มขึ้นจากเดิมเป็น 2,300 ลบ.ม.ต่อวินาที ต่อจากนั้น จะใช้วิธีลดการระบายน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ให้เหลือน้ำไหลผ่านอำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ไม่เกิน 2,500 ลบ.ม.ต่อวินาที
ซึ่งถือว่าเป็นปริมาณที่คันกั้นน้ำและระบบป้องกันแม่น้ำเจ้าพระยาเอ่อล้นเข้าท่วมกรุงเทพมหานคร สามารถรองรับได้ ทั้งนี้ ทางสำนักชลประทานที่ 12 จะแจ้งไปยังจังหวัดลุ่มน้ำเจ้าพระยา ว่าจะมีการปล่อยปริมาณน้ำไหลผ่านเพิ่มขึ้นจากเดิมอีก 200 ลบ.ม.ต่อวินาที เพื่อให้เตรียมการรองรับได้ล่วงหน้า
สำหรับระดับน้ำที่เพิ่มขึ้นตามแม่น้ำลำคลองใน กทม. คิดว่าหากมีปริมาณน้ำไหลผ่านลงมาไม่เกิน 2,500 ลบ.ม.ต่อวินาที ก็ไม่ถึงกับล้นคันกั้นน้ำ แต่ที่เป็นห่วงคือ พื้นที่ฝั่งตะวันออกของกรุงเทพมหานคร จะต้องเร่งระบายน้ำลงสู่แม่น้ำบางปะกง และทะเลอ่าวไทย บริเวณจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งปัจจุบันต้องทำการเร่งระบายน้ำถึงวันละ 15 ล้าน ลบ.ม. นายสามารถ ระบุนายสามารถ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ฝนเริ่มเลื่อนลงมาตกแถบตอนกลางของประเทศ รวมถึงภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน ซึ่งจะส่งผลดีต่อภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ในปีนี้มีปริมาณฝนต่ำกว่าเกณฑ์เฉลี่ย และมีน้ำในอ่างเก็บน้ำเพียงร้อยละ 60 ซึ่งการที่จะมีพายุฝนเข้ามาก็จะช่วยเติมน้ำในอ่างเก็บน้ำ รวมทั้งจะมีความชื้นมากขึ้นเอื้อต่อการปฏิบัติการฝนหลวงเพิ่มเติมด้วย
ส่วนอ่างเก็บน้ำทางภาคเหนือนั้น ขณะนี้มีปริมาณน้ำถึงร้อยละ 90 เนื่องจากมีฝนตกมากกว่าเกณฑ์เฉลี่ย อย่างไรก็ตาม พื้นที่จังหวัดภาคใต้ตอนบน เช่น สุราษฎร์ธานี พังงา ระนอง กับภาคตะวันออก เช่น ระยอง จันทบุรี ตราด ต้องระวังภัยจากดินโคลนถล่มในระยะนี้
สำหรับพายุลูกใหม่ที่จะเข้ามา ขณะนี้อยู่ที่ฟิลิปปินส์ คาดว่าจะมาถึงฝั่งเวียดนาม วันที่ 1 ตุลาคม จากนั้น จะเข้าสู่ประเทศไทย ก็ได้ติดตามสถานการณ์และเตรียมรับมือมากขึ้น โดยกรมชลประทานได้เตรียมเครื่องสูบน้ำ เครื่องผลักดันน้ำ รถบรรทุก โดยเคลื่อนย้ายจากภาคเหนือมาสู่ภาคกลางบ้างแล้ว นายสามารถ กล่าว
http://www.bangkokbiznews.com/2006/09/27/w001_141115.php?news_id=141115***********************
ไม่ต้องห่วงครับ ท่วมเรียบร้อยแล้วหนักกว่ารอบตะกี๊อีกครับ กทม.ฝั่งตะวันออก ท่านผู้ว่าอภิรักษ์ครับ ช่วยมาไขลานหน่อยน่ะครับ อย่าทันให้น้ำเน่าเสียแล้วค่อยมา