ภรรยา สมชาย ยื่นหนังสือต่อคณะปฏิรูปฯ ตรวจสอบการทำงาน ดีเอสไอ หลังสามีหายตัวไป 2 ปี 6 เดือนแต่ไม่มีความคืบหน้า เชื่อไม่มีความจริงใจขยายผลสอบสวนและปกปิดข้อเท็จจริง รวมทั้งเรียกร้องให้รื้อคดีอุ้มฆ่าพี่น้องชาวมุสลิมในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้
วันนี้ (26 ก.ย.) นางอังคณา นีละไพจิตร ภรรยานายสมชาย นีละไพจิตร อดีตประธานชมรมนักกฎหมายมุสลิม พร้อมคณะ เข้ายื่นหนังสือต่อคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยนางอังคณา กล่าวว่า การเข้าพบคณะปฏิรูปฯ เพื่อขอความเป็นธรรมกรณีการหายตัวไปของนายสมชายที่ยังไม่มีความคืบหน้า และต้องการให้ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าคณะปฏิรูปฯ ตรวจสอบการทำงานของกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ประเด็นเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะเรื่องการสอบสวนการหายไปของนายสมชาย
โดยมี พล.ต.วีรัณ ฉันทศาสตร์โกศล เลขานุการกองทัพบก เป็นผู้รับหนังสือแทนคณะปฏิรูปฯ โดยหนังสือดังกล่าวระบุว่า เป็นเวลา 2 ปี 6 เดือนแล้วที่นายสมชายถูกทำให้หายตัวไป และการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ในคดีนี้เป็นไปอย่างล่าช้า ปกปิดข้อเท็จจริง จงใจไม่ขยายผลการสืบสวนสอบสวน และไม่ได้รับความร่วมมือจากบุคคลที่รู้เห็นหรือเกี่ยวข้องที่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ
กรมสอบสวนคดีพิเศษไม่มีความตั้งใจจริงในการทำความจริงให้ปรากฏ จึงขอเรียกร้องให้คณะปฏิรูปฯ ใส่ใจต่อปัญหาความไม่เป็นธรรมและการละเมิดสิทธิมนุษยชนในการบังคับให้นายสมชายต้องหายตัวไป รวมถึงกรณีที่มีผู้สูญหายอีกมากมายใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ในระยะเวลา 4-5 ปีที่ผ่านมาอย่างจริงจัง รวมทั้งตรวจสอบการทำงานของกรมสอบสวนคดีพิเศษด้วยความโปร่งใสเป็นธรรม เพื่อให้คนไทยทุกคนไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ผู้มีอิทธิพลหรือประชาชนธรรมดาต้องอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกันโดยไม่มีการเลือกปฏิบัติ หนังสือดังกล่าว ระบุ
นางอังคณา กล่าวอีกว่า คดีนี้ล่าช้ามาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตรักษาการนายกรัฐมนตรี เคยกล่าวไว้เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาว่าน่าจะสรุปการตายได้ภายใน 2 เดือน แต่ก็ล่าช้ามา 7-8 เดือนแล้วยังไม่คืบหน้า จึงอยากให้คณะปฏิรูปฯ ตรวจสอบการทำงานของกรมสอบสวนคดีพิเศษ รวมทั้งกรณีที่ประชาชนมีปัญหากับเจ้าหน้าที่รัฐและถูกปกปิดพยานหลักฐาน แต่ดูเหมือนกรมสอบสวนคดีพิเศษไม่เต็มใจทำคดีนี้มาตั้งแต่ต้น
เมื่อคณะปฏิรูปฯ ให้คำมั่นกับประชาชนว่าองค์กรอิสระถูกแทรกแซง สังคมไม่ได้รับความเป็นธรรมให้มาแจ้งได้ จึงได้นำเรื่องนี้มาเสนอ ส่วนคณะปฏิรูปฯ จะสามารถดำเนินการได้อย่างไรคงอยู่ในอำนาจหน้าที่ การมาครั้งนี้ไม่ได้มีข้อมูลเพิ่มเติมอะไรมามอบให้คณะปฏิรูปฯ เพราะทุกอย่างได้มอบให้กรมสอบสวนคดีพิเศษหมดแล้ว และเชื่อว่าความล่าช้าที่เกิดขึ้น เพราะคนที่กระทำความผิดเป็นตำรวจและคนที่สอบสวนเป็นตำรวจ นางอังคณา กล่าว
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9490000120623กฏแห่งกรรม