ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
27-04-2024, 19:11
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  ถ้าจะให้มี สส. ที่ไม่สังกัดพรรคการเมือง จะดีหรือไม่ครับ 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
ถ้าจะให้มี สส. ที่ไม่สังกัดพรรคการเมือง จะดีหรือไม่ครับ  (อ่าน 2303 ครั้ง)
kj 2nd
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 74


« เมื่อ: 23-09-2006, 14:30 »

สส. อิสระนั้นมีสิทธิและหน้าที่เหมือน สส. ที่สังกัดพรรคการเมือง

เงื่อนไขคือ
1. สส. อิสระ จะไม่สามารถสังกัดพรรคการเมืองใดๆ หรือร่วมกิจกรรมทางการเมืองของพรรคใดๆได้ จนกว่าจะมีการพ้นสภาพ (เช่นลาออกจาก สส. ยุบสภา ครบ 4 ปี)
2. สส. ที่สังกัดพรรคการเมือง ไม่สามารถแปลงสภาพเป็น สส. อิสระได้ (ลาออกจากพรรค = สิ้นสภาพ สส.)
3. กฏ 90 วัน ยังมีต่อไป
4. สส. อิสระ  จะมาจากเลือกตั้งแบบเขตเท่านั้น  (ไม่มีปาร์ตี้ลิสต์)
5. คนที่จะสมัคร สส. โดยไม่สังกัดพรรค  ต้องไม่เคยเป็นสมาชิกพรรคใดๆ หรือเข้าร่วมกิจกรรมทางการเมืองของพรรคใดๆ เป็นเวลา 2 ปี นับจากวันรับสมัคร
6. ห้าม สส. อิสระ ดำรงตำแหน่งในรัฐบาล (รมต. รมว. โฆษก เลขา ผู้ช่วย คนขับรถ คนรับใช้ คนสวน เป็นต้น) หรือดำรงตำแหน่งใดๆในพรรคการเมืองก็ห้ามเช่นกัน
7. ห้ามพรรคการเมืองใดๆ ใช้คำว่า อิสระในชื่อพรรค (เกี่ยวป่าวหว่า)


ที่ผมอยากให้มีแบบนี้เพราะเพิ่มโอกาสให้คนธรรมดาเข้าสู่การเมืองได้มากขึ้น   และสส. ไม่ถูกครอบงำจากพรรคการเมือง  ให้ตัดสินใจตามความต้องการของคนในพื้นที่


แต่มันก็มีข้อเสีย  เช่นการซื้อตัว สส. อิสระ  แบบในกรณี สว.  ไม่รู้ว่าเงืิ่อนไขที่กล่าวมาพอหรือเปล่า  แล้วคนจะสนใจ สส. อิสระมากแค่ไหนกัน


ผมอยากรู้ว่าแบบนี้  จะทำให้การเมืองเราก้าวหน้า หรือถอยหลังครับ
บันทึกการเข้า

@ # $ %
พรรณชมพู
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,073


« ตอบ #1 เมื่อ: 23-09-2006, 14:41 »

ขอลองแก้ไขนะคะ ถ้าจะให้มี

1. สส.อิสระ ต้องไม่เคยสังกัดพรรคการเมืองใดๆ ในระยะเวลา 10 ปี  (2ปีน้อยไปค่ะ)
2. ผู้สมัคร เป็นตัวแทนประชาชนทุกประเภท ต้องไม่เคยลาออกจากตำแหน่งทางการเมืองที่เลือกตั้งเข้ามา อยู่ไม่ครบวาระห้ามลงสมัครเป็นตัวแทนของประชาชน ไม่ว่าประเภทใด เป็นระยะ 10 ปี
3. สส.อิสระ ไม่มีสิทธิ์โหวตเลือกนายก โหวตไม่ไว้วางใจ หรือโหวตอื่นใดในกิจการบริหาร  ทำได้แต่กิจการทางนิติบัญญัติเท่านั้น
4. เมื่อเคยลงสมัครเป็น สส.อิสระแล้ว จะได้รับเลือกหรือไม่ก็ตาม ห้ามเข้าสังกัดพรรคการเมืองอีก ในระยะเวลา 10 ปี หลังจากวันหมดวาระ หรือวันเลือกตั้ง แล้วแต่กรณี
5. ห้าม สส.อิสระ ดำรงตำแหน่งทางการเมืองใดๆ ในระหว่างอายุการเป็นผู้แทน และหลังจากพ้นตำแหน่งแล้ว 5 ปี

บันทึกการเข้า
buntoshi
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,348



« ตอบ #2 เมื่อ: 23-09-2006, 14:46 »

ทุกอย่างมีข้อดีข้อเสีย ต่างกันทั้งนั้นแหล่ะครับ มันอยู่ที่ ส.ส. ถ้าเป็นคนดีจริง จะมีพรรค หรือ ไม่มีพรรค มันก็ดีครับ

อีกทั้ง ถ้าประชาชน ยังเห็นคนรวยเป็นคนดี เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว เห็นเงินเป็นใหญ่ พวกที่อิสระจริงๆ คงรอดยากครับ

ผมว่า เราควร จะแก้ใขการศึกษาของประชาชนก่อน และ แก้ใขแนวคิดกับคนทั้งประเทศ จะยั่งยืนกว่า

เอาศาสนาเข้ามาช่วยบ้างยิ่งดีครับ และไม่ต้องไปลอกแบบประเทศอื่นหรอก ผมคิดว่างั้นนะ
บันทึกการเข้า


เราต้องสร้างคนดีมากกว่าคนเก่ง เพราะคนเก่งจะเห็นคนอื่นเก่งกว่าไม่ได้ จะพยายามเก่งกว่าคนอื่น แต่คนดีจะมีความสุขที่ได้ทำให้คนอื่นเก่ง รวมทั้งคนดีทุกคน ล้วนเก่งทั้งนั้น....  ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา
---------------------------
ooo
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 670


« ตอบ #3 เมื่อ: 23-09-2006, 14:55 »

 ไม่ค่อยเห็นด้วยครับ ผมว่าสส.ควรต้องสังกัดพรรคการเมือง ไม่งั้นพรรคการเมืองจะอ่อนแอย่อมส่งผลต่อเสถียรภาพของรัฐบาล
  ผมเห็นว่าควรส่งเสริมให้พรรคการเมืองเข้มแข็ง มีความเป็นสถาบันทางการเมืองสูง และพรรคการเมืองควรมีข้อกำหนดให้ชัดเจนในการกำหนดตัวบุคคลลงสมัครสส.เพื่อเปิดโอกาสให้ใครก็เป็นสส.ได้ ไม่ใช่การตัดสินใจกำหนดตัวผู้สมัครมาจากความพึงพอใจของผู้บริหารเช่นปัจจุบัน
บันทึกการเข้า
Solidus
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,381



« ตอบ #4 เมื่อ: 23-09-2006, 15:18 »

ขนาดสังกัดพรรคยังเห็นกรณีงูเห่า
บันทึกการเข้า
AnnoMundi
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 51



« ตอบ #5 เมื่อ: 23-09-2006, 18:32 »

จะเอาเงินจากไหนมาหาเสียงล่ะครับ  แถมเดินสายหาเสียงคนเดียวเหนื่อยแย่เลย 
บันทึกการเข้า
O_envi
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 495



« ตอบ #6 เมื่อ: 24-09-2006, 12:57 »

ถ้ามีก็ดีนะครับเพราะว่าคนที่กล้าลงสู้กับพรรคการเมืองเนี่ยผมว่า
ต้องเป็นคนที่ดีแน่ๆ
บันทึกการเข้า

The change musts come one by one.It has to start with you
คนเจียงใหม่
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 297


« ตอบ #7 เมื่อ: 24-09-2006, 13:35 »

ถ้ามีได้ก็ดีสิครับ แต่ความเป็นจริงมันเป็นไปไม่ได้ เพราะ สส.
ต้องลงพื้นที่หาเสียง ในแต่ละเขต มีอย่างน้ออย 3 -4 อำเภอ มีประชากรในพื้นที่
เป็น  100,000 คน ถ้าสส.ไม่มีทุน ไม่มีพรรคการเมืองสนับสนุน คงยากที่จะได้เป็น สส.
Cool
บันทึกการเข้า
มีคณา
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 463



« ตอบ #8 เมื่อ: 24-09-2006, 15:01 »

ที่ไม่ดีคือจะมีส.สขายตัวเพียบ รัฐบาลล้มง่ายๆ แบบสมัยก่อนโน้น เห็นว่าเข้าไปจ่ายกันในห้องน้ำ เดี๋ยวนี้คงมีวิธีเนียนกว่านั้น
บันทึกการเข้า
HOEI
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 187


« ตอบ #9 เมื่อ: 24-09-2006, 15:05 »

จริงๆรัฐธรรมนูญฉบับก่อนมันดีมากๆๆๆนะครับ แต่ปัญหาคือ สส และนักการเมืองไทยมากกว่า 80% มันชั่ว ไร้อุดมการณ์ ทำตัวต่ำทรามเหมือนโสเภณี ถ้า สส มีคุณภาพ ทำเพื่อประเทศชาติจริงๆ รัฐธรรมนูญล้าหลังกว่านี้ก็ไปได้ด้วยดีครับ
บันทึกการเข้า
THX
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 569



« ตอบ #10 เมื่อ: 24-09-2006, 23:22 »

ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ห้ามสมัครเกิน 2 วาระ คืออยู่ได้ ไม่เกิน 8 ปี และหลังจาก 8 ปี ห้ามเกี่ยวข้องกับพรรคการเมือง เช่น ห้ามหาเสียงให้กับพรรคการเมืองต่าง ๆ ห้ามเป็นสมาชิกพรรคการเมือง หรือลงสมัคร สส . สว. หรือองค์กรอิสระต่าง ๆ กันการสร้างอิทธิพล
บันทึกการเข้า



พวกเรา..เรารู้สึกว่าจะมีสายลับปลอมมาในหมู่ของพวกเราโดยไม่รู้ตัว=__='



( づ ̄ 3 ̄ )づ~~~♡♡♡ ~~
Killer
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,576


ช๊อบบ ชอบบ...ปฏิวัติ ปลื้ม ค่ะ


« ตอบ #11 เมื่อ: 24-09-2006, 23:26 »

1. ถ้าปล่อยอิสระ ละก็บรรลัยสิ มันได้ซื้อตัวกันวุ่นวาย โก่งค่าตัวกันวุ่นวาย

ลงชื่อญัตติ ยกมือโหวต เป็นเงินทั้งนั้น

2. กำหนดอายุส.ส. นายกฯ รมต. นั่นก็บรรลัยเหมือนกัน มันรีบแดกรีบไปเลยล่ะนั่น
 

บันทึกการเข้า
Scorpio6
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,210


Man on Mission *เสี่ยวฯ>สันติภาพ*


« ตอบ #12 เมื่อ: 24-09-2006, 23:29 »

ได้อย่าง.... เสียอย่างครับ Rolling Eyes

ลางเนื้อ........ชอบลางยา

ส่วนตัว.....เสนอว่าไม่ควรกำหนดให้ ส.ส. ต้องสังกัดพรรค ครับ
บันทึกการเข้า



คิดจะล้มระบอบทักษิณ ต้องอ่านใจเนวินและเพื่อน
บล็อกเสี่ยวไทบ้าน*แวะเยี่ยมRepublican Collage ของคุณสุธา ชันแสง*
http://www.oknation.net/blog/thaibaan/2008/03/26/entry-1
"ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนและในฐานะอย่างไร จงตรองหาว่า จะมีทางใช้ชีวิต
ให้เป็นประโยชน์ในทางใดบ้าง เมื่อตั้งใจคิดถึงมันแล้วก็จะพบเสมอ
ไม่ว่าอยู่ที่ใด เมื่อพบทางแล้วจงลงมือทำสิ่งที่เป็นประโยชน์"
ริวเซย์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4,637


Worrior in The Blue Armor


เว็บไซต์
« ตอบ #13 เมื่อ: 24-09-2006, 23:57 »

ไม่เห็นด้วยครับ แบบนี้นโยบายก็ไม่ชัดเจนสิครับ แถมอาจซื้อตัวง่าย
บันทึกการเข้า

ถ้ามีแฟนแบบนี้เอาไหมครับ^^


kj 2nd
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 74


« ตอบ #14 เมื่อ: 25-09-2006, 04:08 »

หลายๆคนเป็นห่วงว่าจะมีการซื้อตัว สส.  ผมก็ห่วงเช่นกัน  แต่ผมก็พยายามเพิ่มเงือนไขให้มันรัดกุม

ถ้าหากเพิ่มเงือนไขอีกว่า 8. ห้ามเป็นสมาชิกพรรค หรือเข้าร่วมกิจกรรมทางการเมืองของพรรคใดๆไปอีก 4 ปี หลังจากพ้นสภาพ สส.  มันน่าจะรัดกุมยิ่งขึ้น

ในปัจจุบันเรารู้ว่ามติพรรค สำคัญเหนือสิ่งอื่นใด   (ฝ่ายค้าน ค้านแหลก ฝ่ายรัฐบาล ก็สนับสนุนอย่างเดียว) แล้วมันจะพูดให้ยาวทำไม ก็เสียงมันขาดอยู่แล้ว  แบบนี้มันต่างกับซื้อตัว สส. ตรงไหน

แล้วก็แนวคิดนี้ กลุ่มคนที่สามารถเข้าเป็น สส. แบบไม่สังกัดพรรคได้  จะต้องมีชื่อเสียงพอสมควร   (เพราะพรรคการเมืองนับวันจะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ)  มีเงินด้วยก็ดี
คนที่เลือก สส. ประเภทนี้  คงไม่ต้องการ สส.เป็นนักโทษแบบที่เป็นอยู่ (เหมือนลูกพรรคไม่มีสมองครับ ทำตาม เหลี่ยม มาร์ค เติ้ง)

สส. ประเภทนี้ ไม่สามารถดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้   แถมที่มาก็ห้ามเกี่ยวข้องกับพรรคการเมืองมาช่วงเวลาหนึ่งทั้งก่อนและหลังเป็นสมาชิก  น่าจะช่วยยกระดับคุณภาพได้อีก

ถ้าหากนักวิชาการ NGO นักเคลือนไหว เข้าสู่ช่องทางการเมืองในแบบนี้ได้  ต่อสู้ได้อิสระกว่าพวกนักการเมืองที่มีมุ้งเป็นไหนๆ

เรื่องผลประโยชน์มันคงห้ามกันไม่ได้   แต่ปัจจุบันมันก็ผลประโยชน์อยู่แล้วไม่ใช่หรือ สนับสนุนเป็นพรรคเลยนะ อยากรู้จังว่ามี สส. คนไหนกล้าเสนอกฎหมายภาษีมรดกบ้าง



ทางเลือกที่ผมเสนอก็แค่เปิดช่องทางอีกทางหนึ่ง เท่านั้น  พวกสส. ที่อยู่พรรคเดิมแล้วอึดอัดจะได้ไม่ต้องหาข้ออ้างปลดล็อก 90 วัน   จะได้รู้กันไปเลยว่าจะมี สส. ใจถึงซักกี่คนที่ยอมลาออกเพราะอึดอัด แล้วสมัครแบบไม่สังกัดพรรคในคราวหน้า  โดยที่รู้ว่าผลประโยชน์ของตนเองจะลดลง


แนวทางนี้พรรคการเมืองก็จะเข้มแข็งเช่นเดิม การซื้อตัวมันก็ซื้อตั้งแต่เข้าพรรคอยู่แล้ว (คงไม่มี สส. แบบอิสระถึง 10 คนหรอก)  แต่ประชาชนจะได้มีทางเลือกมากขึ้น


ส่วนนโยบายนั้น  คนที่เลือกไปก็รู้อยูู่แล้วว่าจะไม่ได้เป็นรัฐบาล  ถ้าเขาได้เป็น สส. จริง  คงหวังให้เข้ามาทำหน้าที่อย่างอื่นมากกว่า


ขอย้ำนะครับ   ถ้าหลายคนที่เป็นห่วงว่าจะมีการซื้อตัว   มันมีการกว้านซื้อสส. มาตั้งแต่ก่อนเลือกตั้งอยู่แล้ว
และถ้า สส. อิสระคนนั้นถูกซื้อไปจริง  เลือกตั้งคราวหน้าก็คงไม่มีใครเลือก (ผลงานไม่เข้าตา)  แถมไม่สามารถเลือกตั้งในนามพรรคการเมืองได้อีก   มันไม่คุ้มหรอก  สู้ สส. แบบสังกัดพรรคไม่ได้เลย

บันทึกการเข้า

@ # $ %
tron
สมาชิกสามัญขั้นที่ 1
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 38


« ตอบ #15 เมื่อ: 25-09-2006, 04:18 »

สว. เห็นๆ ยังโดนด่าเลย
หาวิธีอื่นๆโดนจำกัดเวลา แต่ให้โอกาส จะดีกว่า
บันทึกการเข้า
taworn09220
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 302


« ตอบ #16 เมื่อ: 25-09-2006, 06:57 »

อิสระหรือ เออ นิยามคำว่าอิสระหน่อยสิครับ    อิสระมีขอบเขตตรงไหน เลือกข้างได้ไหม อิสระจากพรรคในนามหรือว่า เป็นนอมีนีของพรรคใหญ่ จะเป็นการเปิดทางให้ พรรคใหญ่ส่งตนลงเลือกตั้งเพิ่มอีก1-2 หรือหลายๆคนหรือป่าว ประมาณว่าเป็นตัวเลือกหรือทางเลือก หรือเพื่อตัดคะแนนฝ่ายตรงข้าม หรือทดแทนกลุ่มนายทุน ขอให้เกิดจริงๆ แต่ต้องคิดนานๆกว่านี้
บันทึกการเข้า
ชอบแถ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,138



« ตอบ #17 เมื่อ: 25-09-2006, 07:14 »

ไหนไหนจะถอยหลังกันแล้ว ก็ให้มันลงคลองไปเลย
บันทึกการเข้า
นายเกตุ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,289



« ตอบ #18 เมื่อ: 25-09-2006, 07:24 »

จริงๆรัฐธรรมนูญฉบับก่อนมันดีมากๆๆๆนะครับ แต่ปัญหาคือ สส และนักการเมืองไทยมากกว่า 80% มันชั่ว ไร้อุดมการณ์ ทำตัวต่ำทรามเหมือนโสเภณี ถ้า สส มีคุณภาพ ทำเพื่อประเทศชาติจริงๆ รัฐธรรมนูญล้าหลังกว่านี้ก็ไปได้ด้วยดีครับ

ถูกต้องนะคร๊าบบบบบบบบบบบ
บันทึกการเข้า
ChuNg
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 54



เว็บไซต์
« ตอบ #19 เมื่อ: 25-09-2006, 07:42 »

คงทำได้ยากถ้านักการเมืองยังคิดหาผลประโยชน์จากตำแหน่งอยู่
คนที่เป็นนักการเมืองโดดเดี่ยว ก็จะโดนกลืนจากพรรคอื่นๆอยู่ดี คล้ายกับผู้สมัคร สว. บางคนที่เป็นสมุนรัฐบาลทักษินนั่นแหล่ะ

ตัวอย่างที่ล้มเหลวของการดูดนักการเมืองเลวๆมารวมกันที่พรรค ก็คือ ไทยรักไทย ที่ใกล้ล่มสลายนั่นแหล่ะ ตอนนี้ไอ้พวกเหลือบพวกปลิง มันก็เตรียมตัวสละฐานกันแล้ว
ป่านนี้คงวิ่งเต้นกันจ้าละหวั่น เพราะกลัวโดนสาวไส้มาถึง บางคนก็ออกมาประกาศว่าไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับนายเก่าทันที โกยเถอะโยม หนีให้พ้นนะ

 
บันทึกการเข้า
bolsheviks
น้องใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6


« ตอบ #20 เมื่อ: 25-09-2006, 09:26 »

เห็นด้วยนะครับ ถึงแม้มันอาจจะมีช่องโหว่ให้พวกนักการเมืองเลวๆ ไว้ใช้ทำประโยชน์ได้ แต่อย่างน้อยก็เป็นการเปิดโอกาสให้ คนดี มีความสามารถ ที่ทำใจเข้าสังกัดพรรคการเมืองไม่ได้ มีโอกาสได้เข้าไปมีปากมีเสียงในสภาได้ แล้วเราอาจได้ความคิดเห็นที่แปลกๆใหม่ๆจาก ส.ส.อิสระก็เป็นได้ครับ
บันทึกการเข้า
-3-
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,186


« ตอบ #21 เมื่อ: 25-09-2006, 11:27 »

สุดท้ายจะเป็น สส ได้ ก็ต้องมีทุนอีกอยู่ดี 
บันทึกการเข้า



ประชาธิปไตยตัดสินความต้องการได้ แต่ตัดสินความถูกต้องไม่ได้!!
ไม่อยากสมานฉันท์กับคนชั่ว
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 592


เตือนให้นึกถึง Icarus ผู้ไม่ประมาณตน


« ตอบ #22 เมื่อ: 25-09-2006, 11:51 »


2. กำหนดอายุส.ส. นายกฯ รมต. นั่นก็บรรลัยเหมือนกัน มันรีบแดกรีบไปเลยล่ะนั่น
 




ก็ยังดีกว่ายิ่งแดก คนก็ยิ่งเลือกกูเข้ามา ชั่วช้าได้ชั่วกาลนาน   
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-09-2006, 11:53 โดย พระเอกละครหลังข่าว » บันทึกการเข้า
taworn09220
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 302


« ตอบ #23 เมื่อ: 25-09-2006, 12:25 »

ขอทีเถ่อ ช่วยศึกษาให้รอบครอบด้วยนะ ไปอ่านตำราก่อนว่าทำไมพรรคการเมืองถึงจำเป็น
บันทึกการเข้า
eAT
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,066



« ตอบ #24 เมื่อ: 25-09-2006, 13:04 »

ต้องตั้งประเด็นก่อนว่า เราต้องการ สส อิสระ เพื่ออะไร
ก่อนที่จะหามาตราการ ทำให้เป็นสิงที่เราต้องการนะ
บันทึกการเข้า
kj 2nd
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 74


« ตอบ #25 เมื่อ: 25-09-2006, 17:44 »

สุดยอดครับ  หลายๆข้อความมีประโยชน์  และช่วยท้วงติงในช่องโหว่ของวิธีนี้มา  ส่วนท่านที่เห็นด้วยผมก็รู้สึกดีใจครับที่ท่านพอเข้าใจในสิ่งที่ผมคิดไว้

ผมไม่ได้คิดเผื่อถึง นอมินี มาก่อน   และกลยุทธ์ของพรรคคงสามารถใช้ประโยชน์จากจุดนี้ได้จริงๆ  และอาจทำให้การเลือกตั้งปั่นป่วน  กลายเป็นว่า พรรคใหญ่ ส่งคนสมัครเขตละ 1 คน + สำรองอีก 10 คน
---> แต่มันอาจจะตัดคะแนนกันเองได้ในเขตที่ก้ำกึ่ง  แต่เขตที่ชัวร์ๆ อย่าง สุพรรณ ตรัง ก็อาจมีได้

แล้วก็จุดอ่อนแบบวุฒิสภา ที่ซื้อตัวกันภายหลังก็แก้ไม่ได้จริงๆนั่นแหละ  ถ้าคนมันจะเลว  ใครก็ช่วยไม่ได้


ถ้าใช้แบบเก่าอีก  นักการเมืองคงบ่นกันอุบเหมือนอยู่ในคุก   ถ้าปลดล็อกก็ถอยหลังลงคลอง ย้ายพรรค ขู่ รัฐบาลก็ไม่มั่นคงอีก   เราจะเ็ห็นปาหี่โชว์จากนักกการเมืองอีกนั่นแหละ


ผมยอมรับว่าไม่มีความรู้ทางรัฐศาสตร์เลย ฮ่าๆ ก็อาศัยติดตามข่าวการเมืองนี่แหละครับ  เห็นปัญหาที่เกิด  เลยลองนึกดูทางแก้ดู
ตัวผมเองก็ไม่ค่อยเชื่อใจพรรคการเมืองเท่าไหร่ เพราะไม่ว่าใครเป็นรัฐบาล เรื่องทุจริตก็มีเยอะจนเป็นปกติ

ที่ผ่านมา็แนวทางการพัฒนาการเมืองไทยก็ดีขึ้นเรื่อยๆ แต่มาสะดุดในยุคล่าสุดนี่แหละ  แล้วผมก็เห็นข้อบกพร่องตัวเบ้อเร่อว่านักการเมืองตกเป็นเครื่องมือของพรรค
---> ถ้าพรรคดี สามารถคุม นักการเมืองเลวๆได้ ระบบเดิมก็ดีอยู่ครับ  รัฐบาลมั่นคงด้วย
---> ถ้าพรรคไม่ดี  นัการเมือง ดี เลวแค่ไหน ก็ทำอะไรไม่ได้
ก็เลยลองเสนอแนวคิดนี้ดู



ผมขออนุญาติสรุปทั้งหมดนะครับ
1. พรรค ยังคงมีบทบาทสำคัญในการเมืองต่อไป (ทั้งเงินทุน และนโยบาย ตลอดจนเถียรภาพ)
2. สส. แบบไม่สังกัดพรรคนั้น จะถูกตัดขาดจากอำนาจทางการบริหาร และพรรคการเมืองทั้งหมด ทั้งก่อนเป็นและหลังเป็น สส.  เรียกว่าคนที่จะมาเป็นต้องพร้อมจริงๆ
3. สส. แบบไม่สังกัดพรรค ทำหน้าที่เหมือน สส. ทั่วไป (สามารถยกมือสนับสนุน คัดค้าน และเสนอแนะ กฏหมายได้)
4. สส. แบบไม่สังกัดพรรค ถ้าพบว่ามีเอี่ยวกับพรรคการเมือง ไล่ออก

ข้อดี
1. เพิ่มคนดี คนเก่งเข้าสู่การเมืองได้มากขึ้น โดยไม่ต้องง้อพรรคการเมือง
2. พรรคการเมืองต้องพัฒนาคุณภาพคนให้ดีขึ้น ไม่งั้นคนจะไหลออก
3. บรรดา สส. ตัวดีจะได้หมดข้ออ้างปลดล็อกแล้วเริงร่า
4. ยังคิดไม่ออก

ข้อเสีย
1. ซื้อตัว สส. หลังจากการเลือกตั้ง
2. การเลือกตั้งอาจวุ่นวาย ตัวป่วนเพียบ
3. คนทีสมัครจะต้องมีทุนหนุนหลังพอสมควร และตัว สส. อาจไม่เป็นอิสระจริง (ยังเป็นทาสนายทุนอยู่ดี)
4. ข้อเสียอื่นๆอาจมีตามมาเรื่อยๆ



ขอบคุณทุกท่านที่แสดงความเห็นครับ
บันทึกการเข้า

@ # $ %
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #26 เมื่อ: 25-09-2006, 23:53 »

คิดว่า สส. ประเภทไม่สังกัดพรรคการเมือง ก็จะเกิดปัญหาเหมือนกับการมี สว. จากการเลือกตั้ง
เพราะ สว. ก็ถูกกำหนดใน รธน. ว่าห้ามสังกัดพรรคการเมืองเหมือนกันครับ

และถ้าจะห้ามไม่ให้เกี่ยวข้องกับนักการเมืองก็จะทำไม่ได้อย่างสมบูรณ์อยู่ดี เพราะยังมีความสัมพันธ์
แบบเคยทำธุรกิจร่วมกันกับนักการเมือง หรือเคยเป็นเพื่อนร่วมรุ่นอะไรต่างๆ หรือแค่เป็นญาติห่างๆ กัน
ก็ไม่รู้จะกำหนดอย่างไรให้ครอบคลุมเป็นธรรม

ความเห็นผมน่าจะให้คง สส. ที่ต้องสังกัดพรรคการเมืองไว้เหมือนเดิม แต่เราควรมีข้อกำหนดเพิ่มเติม
เพื่อปกป้องความเป็นอิสระของ สส. ในการลงมติในสภาผู้แทนบางกรณีเช่น การลงมติไม่ไว้วางใจ
รัฐมนตรี หรือ นายกรัฐมนตรี เพราะเป็นเรื่องการตรวจสอบการทำงานของฝ่ายบริหาร  แต่ในกรณี
เช่นการลงมติผ่านร่างกฎหมายน่าจะยังมีความจำเป็นต้องโหวตตามมติพรรคอยู่ เพราะจะมีผลกระทบ
ต่อการบริหารราชการแผ่นดินครับ

ในความเห็นของผมน่าจะยกเลิก สส. แบบบัญชีรายชื่อมากกว่า เพราะไม่ได้ตอบสนองเจตนารมณ์
ของรัฐธรรมนูญในการให้มี สส. แบบบัญชีรายชื่อ ที่ต้องการให้เป็นแหล่งรวมคนดีมีความสามารถ
ที่ไม่สามารถฝ่าพันระบบการเลือกตั้งแบบเดิมๆ ให้มีโอกาสเข้ามาทำประโยชน์ให้ประเทศ แต่ความจริง
กลายเป็นที่รวมของอดีต สส.เขต ที่มีอิทธิพลบารมีในพรรค โดยมีการส่งคนใกล้ชิด เช่น ลูกเมียพี่น้อง
ไปลง สส. เขต ในท้องที่ของตัวเองแทน ซึ่งทำให้มีคนกลุ่มเดียวนามสกุลเดียวไปอยู่ในสภามากขึ้น
กลายเป็นเพิ่มอิทธิพลให้กับ สส.ในระบบเดิมๆ หนักขึ้นไปอีก

อีกอย่างที่น่าจะคิดกันก็คือทำอย่างไรจะส่งเสริมให้มี สส. หน้าใหม่ๆ เข้ามาในสภาแต่ละรุ่น ให้มากๆ
เช่นอาจกำหนดให้ สส. ต้องเว้นวรรคทางการเมืองเหมือน สว. จากการเลือกตั้งที่ไม่ให้ดำรงตำแหน่ง
2 สมัยติดต่อกัน ต้องเว้น 1 สมัย เป็นต้นครับ
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
หน้า: [1]
    กระโดดไป: